ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รบ.ปินส์จ่อทุ่ม “19,000 ล้าน” เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ ซื้อทั้ง “เรือฟริเกต-เครื่องบิน-เรดาร์” ป้องอธิปไตยในทะเลจีนใต้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2558 15:25 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – รัฐบาลฟิลิปปินส์เสนอร่างงบประมาณกลาโหมสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 25,000 ล้านเปโซ หรือราว 19,000 ล้านบาทสำหรับปี 2016 เพื่อนำไปจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์หลายรายการทั้งเรือรบขนาดกลางเคลื่อนที่เร็ว เครื่องบินลาดตระเวน และเรดาร์ที่จะช่วยเสริมศักยภาพด้านการคุ้มกันอธิปไตยในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ เจ้าหน้าที่มะนิลาแถลงวันนี้(20 ก.ค.)

    ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัยเป็นส่วนหนึ่งของร่างงบประมาณมูลค่า 3 ล้านล้านเปโซ (2.27 ล้านล้านบาท) ที่ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน เตรียมเสนอต่อสภาคองเกรสสำหรับปีงบประมาณ 2016 ซึ่งจะเป็นปีที่สุดท้ายที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำแดนตากาล็อก

    ฟลอเรนซิโอ อาบัด เลขาธิการสำนักงานงบประมาณและการจัดการแห่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า ร่างงบประมาณที่รัฐบาลเสนอมีมูลค่าสูงขึ้นอีก 15.1% จากปีนี้ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 2.606 ล้านล้านเปโซ โดยงบประมาณ 80% จะถูกนำไปใช้อุดหนุนโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ และอีกส่วนมาจากการคาดการณ์งบประมาณล่วงหน้า (forward estimates)

    “ในปี 2016 เราได้ของบ 25,000 ล้านเปโซเพื่อปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยยิ่งขึ้น” อาบัด ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ พร้อมยอมรับว่านี่เป็นงบพัฒนากองทัพก้อนใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ในรอบ 20 ปี

    ร่างงบประมาณฉบับนี้จะถูกเสนอต่อสภาคองเกรสฟิลิปปินส์ในสัปดาห์หน้า หลังจากประธานาธิบดี เบนิโญ แถลงนโยบายประจำปีครั้งสุดท้ายของเขาในวันที่ 27 ก.ค.

    นายพลประจำกองทัพฟิลิปปินส์ผู้หนึ่งเผยกับรอยเตอร์ว่า เงินงบประมาณส่วนใหญ่จะถูกนำไปจัดซื้อเรือรบขนาดกลางเคลื่อนที่เร็ว (ฟริเกต) 2 ลำ, เครื่องบินลาดตระเวนระยะไกลชนิด 2 เครื่องยนต์ 2 ลำ และระบบเรดาร์สอดแนมอีก 3 ตัว ส่วนที่เหลือจะนำไปผ่อนชำระค่าฝูงบินโจมตีขนาดเล็ก FA50 จำนวน 12 ลำจากเกาหลีใต้ ซึ่งจะส่งมอบ 2 ลำแรกให้แก่กองทัพฟิลิปปินส์ในเดือนธันวาคมนี้


    ú.
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดสยอง!! สะพานเส้นฟรีเวย์ I-10 แคลิฟอร์เนียใต้ถล่มหลังฝนตกหนัก บาดเจ็บ 2 ตัดขาดระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอริโซนา ปิดซ่อมไม่มีกำหนด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2558 15:28 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/เอเอฟพี –สะพาน The Tex Wash bridge บนถนนระหว่างรัฐ I-10 บริเวณแคลิฟอร์เนียใต้เชื่อมระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอริโซนาเกิดถล่มลงมาเมื่อวานนี้(19) หลังจากฝนตกหนัก และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน และทำให้มีรถติดอยู่ไม่สามารถขยับไปไหนได้เป็นจำนวนมาก การเดินทางหลักระหว่างทั้งสองรัฐในเส้นทางนี้ต้องถูกตัดขาดลงอย่างสิ้นเชิง และยังไม่มีกำหนดการเปิดใช้ใหม่ส่วนที่ตัดขาดของถนนฟรีเวย์ I-10 เส้นนี้

    Nnbclosangele สื่อสหรัฐฯรายงานว่า “ถนนฟรีเวย์ I-10 ปิดอย่างแน่นอนและไม่มีกำหนดด้วย” เทอร์รี คาซินกา (Terri Kasinga) โฆษกประจำแผนกคมนาคมรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ Caltrans แถลง

    สะพาน The Tex Wash bridge ที่อยู่ใน Desert Center ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปทางตะวันออกสูงจากพื้นราว 15 ฟุต พังและถล่มลงมาพร้อมกับบางส่วนได้ถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำท่วมไหลกรากเบื้องล่าง ตำรวจทางหลวงรัฐแคลิฟอร์เนียแถลง

    มีคนขับรถปิคอัพคันหนึ่งได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ หลังจากรถคันนี้ได้ชนเข้ากับส่วนของสะพานที่พัง ซึ่งหลังจากนั้นได้มีการนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล ตำรวจดับเพลิงริเวอร์ไซด์เคาน์ตีแถลง และเสริมว่า ในส่วนของผู้ที่นั่งมาด้วยในรถปิคอัพคันนี้สามารถหนีรอดออกมาเองได้ และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

    “นักขับคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณนั้นได้นำเชือกจากรถบรรทุกของตนเพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับรถไม่ให้ถูกกระแสน้ำพัดพาไป” รายงานจากแถลงการณ์ของตำรวจดับเพลิงริเวอร์ไซด์เคาน์ตีแถลง

    นอกจากนี้เจ้าหน้าที่คมนาคมแคลิฟอร์เนียยังแถลงเพิ่มเติมว่า ในส่วนมุ่งหน้าตะวันตกของถนนฟรีเวย์ I-10 มีความยากลำบากในการสัญจรในช่วงน้ำท่วมในขณะที่ฝั่งมุ่งหน้าทางตะวันออกเกิดถล่ม

    โฆษก Caltrans แถลงเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่การทางรัฐแคลิฟอร์เนียไม่สามารถเข้าถึงบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งสองด้านได้ในขณะนี้จนกว่าจะถึงช่วงเช้าวันจันทร์(20) และไม่มีทีท่าว่าจะสามารถจะเปิดใช้เส้นทางหลักเชื่อมระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแอริโซนาได้ในเร็ววันนี้

    เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า คาซินกีวิเคราะห์ถึงสาเหตุการถล่มครั้งนี้ว่า “น่าจะเกิดจากฝนตกหนัก เป็นเพราะฝน เรามีฝนตกอย่างหนักที่นี่”

    และเอเอฟพียังรายงานในส่วนของผู้บาดเจ็บจากการรายงานของดับเพลิงริเวอร์ไซด์เคาน์ตีว่า ผู้บาดเจ็บคนแรกสามารถเดินออกไปจากที่เกิดเหตุได้ ในขณะที่คนที่สองต้องได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยจากรถที่นั่งอยู่หลังจากซากหักพังได้ตกใส่ลงมาบนรถคันประสบเหตุ ซึ่งมีอยู่ในสภาพกึ่งจมน้ำ

    ทั้งนี้ในช่วงวันอาทิตย์(19)เกิดพายุฟ้าคะนองที่ริเวอร์ไซด์เคาน์ตี ด้วยระดับความแรงของลมราว 60 ไมล์ต่อชม. หอบพายุฝนตกขาด 1 นิ้วเข้ามาในพื้นที่ และทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมไปถึงโคลนถล่มบนถนนเส้นต่างๆ

    และมีการคาดการณ์ว่าสภาพฟ้าฝนจะยังคงต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเช้าวันนี้(20)

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เราะยุลเยาม์ : ที่มาของปฏิกิริยาของเนทันยาฮูคือคำพูดของผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
    Category: News & Event Published on Monday, 20 July 2015 15:21 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    "คณะผู้แทนทางเศรษฐกิจของตะวันตกเตรียมพร้อมที่จะมายังกรุงเตหะรานและลงนามสัญญาที่สำคัญต่างๆ ทางการค้าและเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันทางด้านอเมริกาโดยการทบทวนนโยบายต่างๆ ของตนเองที่มีต่อโลกอาหรับก็จะทำให้อิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลางขยายตัวเพิ่มมากขึ้น"

    ญอมนิวส์รายงานว่า : อับดุลบารี อัฏวาน ได้เขียนในบทบรรณาธิการของตนวันนี้ในหนังสือพิมพ์ "เราะยุลเยาม์" ว่า : "[อายะตุลลอฮ์] ซัยยิดอะลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านได้กล่าวย้ำในคำพูดของตนเนื่องในโอกาสวันอีดิลฟิฏรี่ว่า : "นโยบายของเตหะรานในการต่อต้านอเมริกาจอมอหังการนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง"

    หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้เขียนต่อไปว่า : "ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยังได้ตอกย้ำว่าจะยังคงให้การสนับสนุนต่อไปแก่บรรดาประเทศพันธมิตรของตนและแก่ประชาชนผู้ถูกกดขี่ในภูมิภาค อย่างเช่น อิรัก ซีเรียและปาเลสไตน์" หนังสือพิมพ์ได้เขียนว่า : "เนทันยาฮูเองในการแสดงปฏิกิริยาต่อคำพูดของผู้นำสูงสุดของอิหร่านก็ได้กล่าวว่า คำพูดที่ข่มขู่ของอายะตุลลอฮ์คอเมเนอีนี้ชี้ให้เห็นว่า อิหร่านจะไม่ได้พยายามแม้แต่จะซ่อนเร้นข้อได้เปรียบต่างๆ ของตนเองที่ได้รับจากตะวันตกและยังเปิดเผยอย่างชัดเจนในการสนับสนุนต่อพันธมิตรของตน"

    หนังสือพิมพ์นี้ได้กล่าวต่ออีกว่า : "คำพูดนี้ของเนทันยาฮูไม่ได้เป็นอะไรอื่นมากไปกว่าการพูดเพ้อเจ้อที่เกิดจากวิตกจริต ทั้งนี้เนื่องจากว่าเขาได้สูญสิ้นความหวังของตนในการที่จะทำการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านและการทำลายโครงการนิวเคลียร์ของประเทศนี้โดยอเมริกาไปจนหมดสิ้นแล้ว" หนังสือพิมพ์นี้ได้กล่าวว่า : "ใครก็ตามที่คิดว่าอิหร่านหลังจากบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แล้วจะวางมือจากการสนับสนุนพันธมิตรของตนนั้น เขาไม่รู้จักประเทศนี้อย่างถูกต้อง และไม่มีความเข้าใจในการเมืองเลย อิหร่านแม้แต่ในช่วงเวลาที่ถูกกดดันและถูกข่มขู่โดยอเมริกาว่าจะโจมตีทางทหารนั้นก็อยู่เคียงข้างพันธมิตรของตน และตอนนี้ก็จะเป็นแบบเดียวกัน"

    หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวต่ออีกว่า : "คณะผู้แทนทางเศรษฐกิจของตะวันตกเตรียมพร้อมที่จะมายังกรุงเตหะรานและลงนามสัญญาที่สำคัญต่างๆ ทางการค้าและเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันทางด้านอเมริกาโดยการทบทวนนโยบายต่างๆ ของตนเองที่มีต่อโลกอาหรับก็จะทำให้อิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลางขยายตัวเพิ่มมากขึ้น" หนังสือพิมพ์ได้เขียนในตอนท้ายว่า : "ถึงแม้ว่ากลุ่มประเทศอาหรับจะหันมาสู่การแข่งขันชิงชัยในด้านนิวเคลียร์เพื่อเผชิญหน้ากับอิหร่านและได้ดำเนินการต่างๆ ทางการทหารและการเมืองอันเป็นเฉพาะ แต่ประเด็นนี้อาจเป็นไปได้ว่าจะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ที่จะกลายเป็นภัยต่อตัวเอง"

    ที่มา : jamnews

    เราะยุลเยาม์ : ที่มาของปฏิกิริยาของเนทันยาฮูคือคำพูดของผู้นำสูงสุดของอิหร่าน
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อดีตหัวหน้ามอสสาด : ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะเปิดหน้าต่างบานใหม่สำหรับอิสราเอล! Category: News & Event Published on Monday, 20 July 2015 16:37 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    "ผมเชื่อว่าขณะนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับอิสราเอลที่จะมุ่งแสวงหาระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง"
    ญอมนิวส์รายงานว่า : หนังสือพิมพ์ "เยรูซาเล็มโพสต์" (Jpost) ของอิสราเอลตีพิมพ์รายงานเรื่อง "ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะเปิดหน้าต่างสำหรับอิสราเอลในการเข้าร่วมกับการจัดระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง" โดยสะท้อนคำพูดต่างๆ ของอดีตหัวหน้ามอสสาดเกี่ยวกับเรื่องนี้

    รายงานนี้ระบุว่า : "Shabtai Shavit" อดีตหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล "มอสสาด" ได้กล่าวในวันอาทิตย์ว่า "การบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและบรรดามหาอำนาจตะวันตกนั้นได้เปิดโอกาสแก่เยรูซาเล็ม (อิสราเอล) สำหรับการเข้าร่วม "การจัดระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง"

    หนังสือพิมพ์ไซออนิสต์ฉบับนี้เขียนว่า : "Shabtai Shavit" ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้ามอสสาดจากปี 1989 ถึงปี 1996 ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของอเมริกาแห่งหนึ่งโดยกล่าวว่า “ขณะนี้อิสราเอลมีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันกับกลุ่มประเทศอาหรับที่รู้สึกโกรธแค้นต่อความพยายามของตะวันตกที่จะเป็นมิตรกับศัตรูร่วมของพวกเขา หมายถึงอิหร่าน"

    ในรายงานนี้ "Shavit" ได้กล่าวต่ออีกว่า : "ผมเชื่อว่าขณะนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับอิสราเอลที่จะมุ่งแสวงหาระเบียบใหม่ในตะวันออกกลาง เรามีโอกาสที่พิเศษยิ่งที่จะจัดตั้งแนวร่วมที่ประกอบด้วยกลุ่มประเทศอาหรับที่เป็นสายกลาง ภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียและอิสราเอล เพื่อที่จะทำลายศักยภาพนิวเคลียร์ของอิหร่านในอนาคต และเช่นเดียวกันนี้เราจะสร้างระเบียบใหม่ขึ้นในตะวันออกกลาง"

    เยรูซาเล็มโพสต์ยังเขียนอีกว่า : อดีตหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ (ของอิสราเอล) ได้กล่าวว่า “ประเทศซุนนี อย่างเช่น อียิปต์ จอร์แดนและบรรดาประเทศอาหรับในอ่าว (เปอร์เซีย) นั้นไม่ชอบอิหร่านเช่นเดียวกับอิสราเอล และจะยอมรับการเป็นสมาชิกของอิสราเอลในค่ายของตน"

    [​IMG]

    ที่มา : jamnews

    อดีตหัวหน้ามอสสาด : ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะเปิดหน้าต่างบานใหม่สำหรับอิสราเอล!
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พัฒนา “โลหะฉลาด” ทำเครื่องจักรกลความร้อนผลิตไฟฟ้า โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มกราคม 2557 08:48 น.

    [​IMG]
    @เครื่องจักรกลความร้อน โดยใช้หลักการยืดหดของขดลวดสปริง

    [​IMG]

    [​IMG]

    มจธ.- จากแนวโน้มการใช้กระแสไฟฟ้าของไทยที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี จนหวั่นเกิดภาวะขาดแคลนไฟฟ้า และโรงไฟฟ้าในปัจจุบันก็พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่อย่างจำกัดและใช้ได้ต่อไปไม่เกิน 25 ปี จึงมีการพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือก ซึ่งทีมวิจัย มจธ.ได้ร่วมในกระแสดังกล่าว โดยพัฒนาโลหะฉลาดเพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าจกความร้อนเหลือทิ้งในโรงงาน

    ผศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ ผู้ช่วยอธิการบดีอาวุโสฝ่ายกิจการนานาชาติ และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล หัวหน้าทีมวิจัยสมาร์ทแล็บ (SMART LAB) และอาจารย์หลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เผยว่า ทีมวิจัยมีแนวคิดนำพลังงานความร้อนที่เหลือใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมและบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติ ซึ่งถูกปล่อยทิ้งเข้าสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งหากนำพลังงานที่เหลือใช้ดังกล่าวมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ คาดว่าจะทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น

    งานวิจัยได้ประยุกต์ใช้โดยการนำเอาเทคโนโลยีด้านโลหะฉลาด (Smart Material) หรือโลหะผสมจำรูป (Shape Memory Alloy) มาเป็นต้นกำลังในเครื่องจักรกลความร้อน โดยใช้หลักการยืดหดของขดลวดสปริง ร่วมกับกระบวนการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม ทำให้เครื่องจักรหมุนและเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดพลังงานกลไปปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ก่อให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้น โดยผลลัพธ์ที่ได้สามารถต่อยอดเป็นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อใช้ในโรงงานหรือใช้ตามบ้านเรือน ตลอดจนสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถสนับสนุนการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศไทยต่อไปในอนาคตได้

    “ไอเดียของงานวิจัยนี้คือ การนำดีไซน์ของเครื่องกลมาประกอบกับวัสดุฉลาดเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโดยไม่ต้องใช้มอเตอร์หรือใช้เชื้อเพลิงใดๆ มาเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อนนอกจากน้ำร้อน ซึ่งเป็นน้ำร้อนที่ไม่ต้องลงทุน เป็นการนำเอาน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อนหรือน้ำร้อนที่ถูกปล่อยทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมาใช้ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีสิ่งประดิษฐ์ใดที่สามารถนำน้ำร้อนดังกล่าวเอาไปใช้ประโยชน์ได้” ผศ.ดร.อนรรฆ กล่าว

    สำหรับจุดเด่นของการออกแบบงานชิ้นนี้ คือ โดยทั่วไปหากน้ำไม่เดือดหรือร้อนไม่ถึง 100 องศาเซลเซียส จะไม่สามารถนำไปผลิตไอน้ำเพื่อปั่นกระแสไฟฟ้าได้ แต่งานของทีมวิจัยสามารถใช้น้ำร้อนอุณหภูมิต่ำๆ มาขับเคลื่อนในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยแค่นำเครื่องกลวางในน้ำร้อน ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ โดยไม่มีของเสียจากการผลิตไฟฟ้า เพราะเป็นการเปลี่ยนจากน้ำร้อนให้เป็นพลังงาน ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาด (Clean energy) และผลงานวิจัยนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากทรูอินโนเวชั่นเมื่อปี 2556ที่ผ่านมา

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบแผ่นดินเชียงใหม่ไวต่อแรงสะเทือน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2557 18:53 น.

    [​IMG]

    @ภาพการลงพท้นที่เก็บข้อมูลความเร็วคลื่นเฉือนที่ความลึก 30 เมตร ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    นักวิชาการเผยคุณสมบัติของแผ่นดิน จ.เชียงใหม่ ไวต่อแรงสะเทือนจากแผ่นดินไหวขนาดปานกลางขึ้นไปที่มีจุดศูนย์กลางกำเนิดอยู่ใกล้ๆ และลักษณะทางธรณีวิทยาของตัวเมืองอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางวิศวกรรม

    จากการศึกษาการกระจายของ “ความเร็วคลื่นเฉือน” ระดับตื้นของดินที่พื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดย ดร.ฐานบ ธิติมากร ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) พบว่า พื้นที่ดังกล่าวปกคลุมด้วยดินที่มีค่าความเร็วคลื่นต่ำหรือดินชนิด D เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมได้หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ในระยะไม่ไกลนัก

    ทั้งนี้ ดร.ฐานบ อธิบายว่า ปกติคุณสมบัติการขยายคลื่นแผ่นดินไหวของดินสามารถทำการคาดคะเนได้จาก “ค่าความเร็วของคลื่นเฉือนของดิน” โดยดินที่มีความเร็วคลื่นเฉือนต่ำจะมีค่ากำลังขยายสูงกว่าดินที่ค่าความเร็วคลื่นเฉือนสูง ซึ่งจากการศึกษาแผนที่จะเห็นได้ว่าตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งอยู่บนดินชนิด D ที่เกิดจากกระบวนการสะสมตัวของตะกอนแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ และจะมีความอ่อนตัวมากกว่าดินชนิด C ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตะกอนเชิงเขาที่เกิดจากการผุพังและสะสมตัวอยู่กับที่ และกระจายตัวอยู่บริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพื้นที่

    ทั้งนี้ ดินชนิด D มีค่าความเร็วคลื่นเฉือนค่อนข้างต่ำ โดยทั่วไปแล้วดินที่มีค่าความเร็วคลื่นเฉือนต่ำมักจะตอบสนองต่อแรงแผ่นดินไหวได้ดีกว่าดินที่มีค่าความเร็วคลื่นเฉือนสูง โดยเฉพาะพฤติกรรมการขยายแรงแผ่นดินไหว และอาจรวมถึงการเกิดการไหลของดิน เป็นต้น

    “จากบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวในอดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าได้มีการเกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางเกิดขึ้นหลายครั้งในภาคเหนือของประเทศไทย และจากข้อมูลการศึกษารอยเลื่อนมีพลังในภาคเหนือของประเทศไทยโดย รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ จากจุฬาฯ แสดงให้เห็นว่า รอยเลื่อนมีพลังเหล่านี้มีความสามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางถึงใหญ่ได้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่นั้นตั้งอยู่ไม่ห่างจากรอยเลื่อนเหล่านี้มากนัก ทำให้มีโอกาสมากที่จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวดังกล่าว” ข้อมูลจาก ดร.ฐานบ ระบุ

    นอกจากนี้ จากสภาพทางธรณีวิทยาของตัวเมืองเชียงใหม่ หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางถึงใหญ่ ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างทางวิศวกรรมต่างๆ เช่น อาคาร สะพาน ถนน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ เป็นต้น เนื่องจากเชียงใหม่ตั้งอยู่บนชั้นดินตะกอนที่ไม่แข็งตัว โดยดินดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สามารถจะขยายแรงแผ่นดินไหวให้มีความแรงมากขึ้น

    ความเร็วของคลื่นเฉือนนี้สามารถทำการวัดได้หลายวิธี ทั้งในภาคสนามและห้องปฏิบัติการซึ่งมักจะใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการพัฒนาวิธีการวัดค่าความเร็วคลื่นเฉือนที่มีราคาถูก และสามารถทำได้รวดเร็ว ซึ่งเรียกว่า “การสำรวจคลื่นพื้นผิวแบบหลายช่องรับสัญญาณ” ทาง ดร.ฐานบ จึงมุ่งทำการศึกษาถึงลักษณะทางธรณีวิทยาและการกระจายตัวของความเร็วคลื่นเฉือน ของดินบริเวณตัวเมืองเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ทราบถึงการกระจายตัวของดินที่สามารถจะมีคุณสมบัติการขยายแรงแผ่นดินไหวได้ เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาและป้องกันภัยจากแผ่นดินไหวต่อไป

    [​IMG]
    @รอยเลื่อนและแผ่นเปลือกต่างๆ ของไทย

    [​IMG]

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอเธนส์จ่ายหนี้อีซีบี-ไอเอ็มเอฟ แมร์เคิลย้ำไม่สนับสนุน"แฮร์คัต” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์20 กรกฎาคม 2558 21:19 น.

    [​IMG]

    @– ชาวกรีซจำนวนมากยืนเข้าคิวรอทำธุรกรรมการเงินที่สาขาของธนาคารพีราอุสบนเกาะครีต เมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) สถาบันการเงินในกรีซเปิดทำการเป็นวันแรก หลังจากที่ถูกสั่งปิดไป 3 สัปดาห์เพื่อป้องกันคนแห่ถอนเงินตามมาตรการควบคุมเงินทุนของรัฐบาลเอเธนส์ (ภาพ – รอยเตอร์)

    เอเจนซีส์ – กรีซเริ่มจ่ายหนี้คืนอีซีบีและไอเอ็มเอฟ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เตรียมเปิดให้บริการอีกครั้งหลังปิดทำการนาน 3 สัปดาห์ กระตุ้นความหวังสถานการณ์เริ่มคืบคลานสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี ซีปราสยังมีภารกิจสำคัญรออยู่คือ การผลักดันให้สภาผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปชุดที่สองในวันพุธ (22 ก.ค.) ขณะที่ แมร์เคิล ยืนยันไม่มีการลดหนี้ให้เอเธนส์ แต่อาจประนีประนอมด้วยการขยายเวลาการใช้คืนแทน

    รัฐบาลกรีซเริ่มกระบวนการชำระหนี้ทั้งหมด 6,250 ล้านยูโร (6,780 ล้านดอลลาร์) ให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันจันทร์(20 ) โดยการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย 4,200 ล้านยูโรที่ถึงกำหนดชำระ นอกจากนี้ยังจ่ายหนี้ 2,050 ล้านยูโรที่ติดค้างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตั้งแต่วันที่ 30 เดือนที่แล้ว และจ่ายคืนธนาคารกลางกรีซ 500 ล้านยูโร

    เงินเหล่านี้ได้มาจากเงินกู้ระยะสั้นของกลไกรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอ็ม) ที่ได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17) จำนวน 7,160 ล้านยูโร เพียงพอที่จะให้กรีซอยู่รอดได้ตลอดเดือนนี้

    ธนาคารพาณิชย์ของกรีซยังเริ่มเปิดทำการเป็นวันแรกในวันจันทร์(20)นับจากปิดให้บริการเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ซึ่งคาดว่าได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านยูโร จากปัญหาการขาดแคลนเงินสดและความติดขัดในการส่งออกสินค้า

    อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมเงินทุน ซึ่งรวมถึงการห้ามโอนเงินออกนอกประเทศและการเปิดบัญชีใหม่ ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป และตลาดหุ้นยังคงปิดทำการเช่นเดียวกัน

    ลูกา แคตเซลี ประธานสมาคมการธนาคารกรีซเผยว่า ประชาชนสามารถเบิกถอนเงินสูงสุดครั้งละ 300 ยูโรจนถึงวันศุกร์ (24) ซึ่งจะเริ่มจำกัดการถอนไม่เกินสัปดาห์ละ 420 ยูโร

    แคตเซลียังเรียกร้องให้ประชาชนที่แห่ถอนเงินก่อนหน้านี้นำเงินกลับไปฝากกับธนาคารตามเดิม เพื่อสนับสนุนระบบธนาคาร โดยระบุว่า นับจากเดือนธันวาคมปีที่แล้วมีการถอนเงินออกจากแบงก์ทั้งสิ้นราว 40,000 ล้านยูโร

    ขณะเดียวกัน นับจากวันจันทร์ (20) ชาวกรีกจะต้องจ่ายภาษีสินค้าและบริการต่างๆ ตั้งแต่น้ำตาลไปจนถึงการทำศพแพงขึ้นจาก 13% เป็น 23% ตามเงื่อนไขการเปิดเจรจาขอเงินกู้ก้อนใหม่ 86,000 ล้านยูโรในระยะเวลา 3 ปี

    อย่างไรก็ดี ภาษีเวชภัณฑ์ หนังสือ และหนังสือพิมพ์จะลดจาก 6.5% เหลือ 6%

    นอกจากรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซจะยอมขึ้นภาษี ยกเครื่องระบบบำนาญ และแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่เคยคัดค้านมาตลอดนับจากเข้าบริหารประเทศเมื่อต้นปีแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่คณะผู้แทนของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ได้แก่ อียู อีซีบี และไอเอ็มเอฟ จะเดินทางสู่เอเธนส์เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ

    มาตรการรัดเข็มขัดที่เอเธนส์จำใจยอมรับทำให้ภายในพรรคไซรีซาของนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส แตกแยกครั้งใหญ่ระหว่างที่สภาลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับแรกเมื่อวันพุธที่แล้ว(15) ซึ่งสมาชิกพรรคกว่า 30 คนลงคะแนนคัดค้าน ส่งผลให้ ซีปราส ต้องปรับคณะรัฐมนตรีด้วยการปลดสมาชิกพรรคที่ขบถออกเมื่อวันศุกร์(17)

    กระนั้น ซีปราสยังต้องฝ่าฟันบททดสอบครั้งใหม่ในวันพุธนี้(22) ที่รัฐสภาจะต้องผ่านกฎหมายปฏิรูปฉบับที่สอง

    หนังสือพิมพ์แอฟกีที่สนับสนุนรัฐบาลคาดว่า การลงมติในวันพุธ (22) อาจเป็นบททดสอบที่ส่งผลให้ซีปราสต้องลาออกจากตำแหน่งหากแพ้การโหวต สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลบางคนที่มองว่า การเลือกตั้งก่อนกำหนดอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมีแนวโน้มจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้

    ขณะเดียวกัน เมื่อวันอาทิตย์ (19) นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ย้ำจุดยืนในการไม่ลดหนี้ให้กรีซ แต่สำทับว่า เบอร์ลินเปิดกว้างในการเจรจาเพื่อขยายเวลาการชำระหนี้ให้เอเธนส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ได้เวลาพวกเจ้าหนี้รวมกินโต๊ะกรีซ เหล่าเซเลบฯ ดาราฮอลลิวูด มหาเศรษฐี ต่างพากันแย่งซื้อเกาะกรีซ

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 19 ก.ค.58 ที่ผ่านมา Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Your Piece of Greece: Warren Buffett Reportedly Buys Greek Island" แปลว่า "ส่วนแบ่งของคุณในกรีซ: รายงานข่าวบอกว่ามหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟฟเฟตต์ซื้อเกาะของกรีซ"
    Sputnik news สรุปให้โดยย่อว่า Warren Buffett หนึ่งในมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ได้ซื้อเกาะ Agios Thomas ของกรีซมูลค่า 15 ล้านยูโร (ประมาณ 563,454,000 บาท) ตามรายงานข่าวในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Proto Thema ของกรีซ และได้กลายเป็นอีกหนึ่งคนในบรรดาเหล่าเซเลบทั้งหลายที่มีเกาะส่วนตัวในกรีซ
    รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่าบอกว่า ข้อตกลงในการซื้อเกาะในครั้งนี้กระทำร่วมกันกับมหาเศรษฐีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชาวอิตาเลี่ยนชื่อ Alessandro Proto โดยทั้งสองคน (Warren Buffett และ Alessandro Proto) ตกลงกันที่จะซื้อขายเกาะ Agios Thomas ในราคา 15 ล้านยูโรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีทั้งสองคนได้เปิดเผยแถลงการณ์ร่วมกันโดยกล่าวว่าพวกเขาต้องการที่จะลงทุนในเกาะ Agios Thomas และยังอ้างถึงเกาะ St. Thomas (ปัจจุบันเว็บไซต์ Private Islands Inc. ที่เป็นนายหน้าค้าเกาะของกรีซในครั้งนี้กำหนดราคาที่ EUR 15,000,000 มีเนื้อที่ราว 300 เอเคอร์ (acres) ราคาเท่ากันกับเกาะ Agios Thomas) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Egina ในอ่าว Saronic อีกด้วย มหาเศรษฐีเหล่านี้อ้างว่าต้องการที่จะสร้างทรัพย์สินขึ้นมาเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาภูมิภาคนี้ให้ขยายออกไป (ตอนอยากจะได้สมบัติของเขาก็บอกว่าเพื่อพัฒนา แต่เขาไม่ได้บอกเอาไว้นะว่าพัฒนาเพื่อใคร? พัฒนาเพื่อประชาชนชาวกรีซหรือเพื่อพวกเขาเอง?)
    หากมีการยืนยัน นี่ก็จะเป็นอีกเกาะหนึ่งที่กรีซที่เซเลบต่างชาติคนนี้ (foreign celebrity) จะเข้าไปครอบครอง ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Johnny Depp ดาราฮอลลิวูตได้ซื้อเกาะที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยของกรีซชื่อ Stroggilo ไปเรียบร้อยแล้วด้วยจำนวนเงิน 4.2 ล้านยูโร (ประมาณ 157,767,120 บาท) ซึ่งมีพื้นที่เพียง 54 เอเคอร์
    การซื้อเกาะเล็กๆนี้ได้รับความช่วยเหลือ (เป็นนายหน้าวิ่งงาน) จากบริษัท Proto Organization Ltd ซึ่งตั้งอยู่ที่อังกฤษ เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงินบริหารงานโดย Alessandro Proto รายงานข่าวจากเว็บไซต์ Elite Daily ยังบอกด้วยว่า Alessandro Proto กำลังจีบให้ E.L. James เจ้าของนวนิยาย "Fifty Shades of Grey" ที่โด่งดังให้เข้าไปซื้อเกาะกรีซด้วย
    Steven Taylor โฆษกของ Proto Organization กล่าวว่าบรรดาเหล่าเซเลบต่างก็พากันแสดงความสนใจที่จะซื้อเกาะต่างๆของกรีซ รายงานข่าวยังบอกอีกว่าเมื่อเร็วๆนี้ Angelina Jolie และ Brad Pitt ได้ซื้อเกาะเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ Gaia Sogia ไปเรียบร้อยแล้ว
    ปัจจุบันนี้ที่เว็บไซต์ privateislandsonline ประกาศขายเกาะกรีซประมาณ 15 แห่ง ส่วนเว็บไซต์ thejournal.ie ก็ลงข่าว 11 เกาะของกรีซที่ขายราคาถูกที่สุดในตอนนี้ เริ่มตั้งแต่ 50 ล้านยูโรลงมาถึงประมาณ 3 ล้านยูโรต่อเกาะ ปัจจุบันนี้กรีซมีเกาะอยู่ในอาณาเขตของตนประมาณ 1,200 - 6,000 แห่ง ไม่มีจำนวนที่แน่ชัดว่ารัฐบาลกรีซเป็นเจ้าของอยู่กี่แห่ง ข้อมูลเบื้องต้นจาก wiki บอกว่ามีเกาะที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 166-227 แห่ง
    เป็นไงครับ แผนกินรวบกรีซของพวกเจ้าหนี้ทรอยก้า? นี่ต้องบอกว่าพวกเจ้าหนี้บีบให้กรีซขายแผ่นดินใช้หนี้กันเลยก็ว่าได้ ปล่อยกู้ออกไปเยอะๆ ให้พวกนักการเมืองเสพติดเงินกู้ให้มากๆ พอหนี้ทั่วหัวเดือดร้อนทั้งประเทศก็จำเป็นต้องแก้กฎหมายเพื่อขายที่ดิน เกาะ และอื่นๆ ให้กับพวกเจ้าหนี้ที่ฉากหน้ากระทำในนามของบรรดาเหล่ามหาเศรษฐีและเซเลบทั้งหลาย เพื่อลดแรงกดกันจากนานาชาติว่ารัฐบาลต่างประเทศเข้าไปฮุบเกาะของกรีซ ด้วยการทำให้เป็นเกาะเอกชนซะก่อน แม้จะมีการแก้กฎหมายหรือขายจากของรัฐให้เป็นเอกชนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นั่นแหละหนึ่งในยุทธการส่วนแบ่งกรีซของพวกเจ้าหนี้ทั้งหลาย ของฟรีไม่มีในโลก การให้เงินช่วยเหลือก้อนใหม่แก่กรีซก็เป็นการลงทุนทำธุรกิจอีกแบบหนึ่ง และเพื่อความอยู่รอดของอียูด้วย
    The Eyes
    20/07/2558
    -----------
    Your Piece of Greece: Warren Buffett Reportedly Buys Greek Island / Sputnik International
    http://www.thejournal.ie/greek-islands-sale-right-now-mone…/
    Islands for Sale in Greece, Europe
    https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_islands_of_Greece
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ตูมๆๆๆ... รัสเซียเปิดปฏิบัติการซ้อมรบกลางคืนด้วยรถถัง T-72B3 ยุคโซเวียตปรับปรุงใหม่ในภูมิภาค Orenburg

    [​IMG]

    -------------
    วันที่ 18 ก.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า กองทัพรัสเซียจัดปฏิบัติการซ้อมรบด้วยรถถัง T-72 ที่สร้างขึ้นในยุคสหภาพโซเวียตและนำมาปรับปรุงในทันสมัยขึ้นเป็นรุ่น T-73B3 ล่าสุด โดยการซ้อมรบครั้งนี้เป็นการซ้อมรบในช่วงกลางคืนด้วยรถถังประมาณ 230 หน่วย และ 900 ปฏิบัติการในภูมิภาค Orenburg Region ของรัสเซียซึ่งอยู่ติดกับชายแดนของคาซัคสถาน (Kazakhstan) ตามแถลงการณ์จากโฆษกมณฑลทหารภาคกลางของรัสเซีย (Russian Central Military District) โดยเริ่มปฏิบัติการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (ว้า… เพจนี้บอกช้าไปนิดนึง พี่น้องชาวไทยที่อยู่ใกล้ๆสถานที่ดังกล่าวก็ให้หลบออกห่างจากสนามฝึกซ้อมของเขาด้วยนะ จะได้ไม่โดนลูกหลง ส่วนแฟนคลับปูตินที่อยู่เมืองไทยหรือในต่างประเทศก็ไม่ต้องบินตามไปดูนะครับ ฮ่าๆๆ... ส่วนอเมริกาถ้าไม่อยากเจอดีก็อย่าได้ยื่นจมูกเข้าไปแถวนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน)
    ที่คาซัคสถานก็มีฐานทัพของรัสเซียประจำการอยู่เช่นกัน มีสถานีเรด้าร์ Dnepr radar ที่ Balkhash-9 ใกล้ทะเลสาบ Lake Balkhash ฐาน Sary Shagan ซึ่งรัสเซียใช้เป็นสถานที่ทดสอบขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธพิสัยไกลไม่นำวิถี และสถานีภาคพื้นดินปล่อยยานอวกาศ Baikonur Cosmodrome ของรัสเซีย ส่วนที่คีร์กิสถาน (Kyrgyzstan) ก็มีฐานทัพอากาศ Kant Air Base ซึ่งใช้เป็นศูนย์การสื่อสารระยะไกลของกองทัพเรือรัสเซีย และใช้เป็นฐานสำหรับทดสอบตอปิโดต่อต้านเรือดำน้ำด้วย อยู่ที่เมือง Karakol ทะเลสาบ Issyk Kul ข้อมูลเบื้องต้นไม่ได้ระบุจำนวนกำลังพลของกองทัพรัสเซียที่ประจำการอยู่ในทั้งสองประเทศนี้ ไม่รู้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของจักรวรรดิเฮเกที่คีร์กิสถานเมื่อเร็วๆนี้หรือไม่ กลิ่นตุๆเริ่มจะโชยมาจากฝั่งจักรวรรดิเฮเกในคีร์กิสบ้างแล้ว (เดี๋ยวค่อยเล่าในโพสต์ต่อไปนะครับ... ฮ่าๆๆ)
    The Eyes
    20/07/2558
    -----------
    Over 900 Russian Tank Operators Take Part in Night Drills / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/…/List_of_Russian_military_bases_a…
    https://en.wikipedia.org/wiki/T-72
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯเตรียมขาย patriot ระบบป้องกันขีปนาวุธให้หุ้นส่วนในตะวันออกกลางหลังบรรลุข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์กับอิหร่าน

    [​IMG]

    -------------
    นั่นไง... มันต้องมีช่องทางให้สหรัฐฯหากินจากจุดนี้จนได้บ้างหละน่า ตามรายงานข่าวบอกว่ารัฐบาลของนายโอบาม่าปิดปากชาติพันธมิตรอาหรับที่ออกมาคัดค้านข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านด้วยการขยายระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกลบลลลิสติกมิสไซล์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง รายงานข่าวท้องถิ่นในวันจันทร์นี้อ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ

    [​IMG]

    รายงานข่าวบอกว่า ในขณะที่ (สหรัฐฯ) กำลังพัฒนาศักยภาพระบบป้องกัน ballistic missile ในภูมิภาคตะวันออกกลางให้กับกลุ่มพันธมิตรของตน ซึ่งรวมทั้งซาอุดิอาระเบียด้วย หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ของสหรัฐฯอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลโอบาม่าที่กล่าวว่า สหรัฐฯต้องการที่จะเร่งการถ่ายโอนอาวุธให้กับหุ้นส่วนต่างๆของตัวเองในตะวันออกกลาง วิธีนี้จะทำให้สหรัฐฯป้องกันไม่ให้ซาอุดิอาระเบียคู่แข่งของอิหร่านในตะวันออกกลางหันไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แข่งขันกับกรุงเตหะรานซะเอง (พูดยังไง? ก็ไหนบอกว่าอิหร่านตกลงที่จะระงับโปรแกรมอาวุธนิวเคลียร์ไปแล้วนิ แล้วซาอุดิฯจะไปแข่งขันกับอิหร่านได้อย่างไร? แบบนี้เขาไม่เรียกว่าแข่งขันนะ กำลังจะหาข้ออ้างให้อิสราเอลอยู่หละสิ ก็เลยทำทีเป็นยกซาอุดิฯขึ้นบังหน้า เนียนเชียวนะอเมริกา)

    [​IMG]

    ตามรายงานข่าวบอกว่านายโอบาม่าได้ประกาศแผนในการเสริมระบบป้องกัน ballistic missile ให้กับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council - GCC ประกอบด้วย บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์) นอกเหนือจากการส่งเสริมการขายอาวุธ (ทั่วไป) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
    GCC และอิสราเอลออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับบทบัญญัติข้อตกลงในสนธิสัญญา JCPOA ที่มหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ P5+1 ลงนามร่วมกันกับอิหร่าน ซึ่งมีการยกเลิกแซงชั่นอาวุธและการห้ามเทคโนโลยีเกี่ยวกับ ballistic missile ที่ออกโดยยูเอ็นภายใน 5 ปีและ 8 ปีตามลำดับ ว่าจะทำให้อิหร่านเป็นอิสระในการแสวงหาศักยภาพเหล่านี้ (เดิมทีรัฐบาลโอบาม่าบอกว่า 10 ปี หลังมีการต่อรองกันมาก็ลดลงมาเป็น 8 ปี นั่นหมายความว่าอีก 8 ปีข้างหน้าดีโมแครทก็จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง หากไม่มีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้นซะก่อน)

    [​IMG]

    หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal แย้งว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลโอบาม่าที่ทำข้อตกลงกับอิหร่าน จะเป็นการเผชิญหน้ากับการตอบโต้ในภูมิภาคมากกว่าการสั่งห้ามอาวุธและเทคโนโลยีในการพัฒนาขีปนาวุธซะอีก
    คำถามก็มีอยู่ว่า แล้วสหรัฐฯจะขยาย (expediting ballistic missile defense) อย่างไง? จะขายระบบป้องกันขีปนาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศให้กลุ่มประเทศอาหรับ หรือว่าจะเข้าไปติดตั้งเองซึ่งเป็นการแผ่อำนาจของจักรวรรดิเฮเกเข้าไปในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นแบบเนียนๆ? แต่อย่างหลังนี้สหรัฐฯจะไม่ได้อะไรเลยนะ สิ้นเปลืองงบประมาณส่งกองทัพของตนเองเข้าไปดูแลประจำการด้วย เผลอๆก็จะมีเหตุการอิรัคโมเดลโดยผู้ก่อการร้ายไอซิสปล้นอาวุธไปอีกหละ
    แต่เอ... พึ่งจะมีข่าวออกมาเมื่อเร็วๆนี้เองนะว่าระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศอันเลื่องชื่อลือชาของสหรัฐฯที่มีชื่อว่า "แพททริออต" (patriot missile) ที่ขายให้เยอรมันและประจำการอยู่ที่ชายแดนตุรกีใกล้กับซีเรียพึ่งจะโดนเจาะไปหยกๆ โดยกองร้อยที่จะประจำการกับระบบยิงขีปนาวุธแพททริออตบอกว่าได้รับคำสั่งปลอมให้ยิงขีวปนาวุธ เดชบุญที่ไม่หลงยิงจริงๆ ต่อมารีบออกมาอ้างว่าเป็นฝีมือแฮ็กเกอร์นิรนามเฉยเลย แล้วอย่างนี้ GCC ยังจะมั่นใจได้อยู่อีกหรือ? ก็จะขายซะอย่าง ขนาดเยอรมันยังถูกบีบคือให้รับซื้อไปแล้วด้วย
    การขายขีปนาวุธแบบนี้ได้ตังค์เยอะกว่าการขายอาวุธปืนหรือระเบิดทั่วไปมากทีเดียวเลยนะ ยิ่งเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะซบเซาอย่างนี้ด้วย ดังนั้นการเปลี่ยนอาชีพมาขายข้าวหลามเล็กนี่แหละถือว่าทำกำไรดีที่สุดให้กับสหรัฐฯแล้ว และตกลงว่าสหรัฐฯจะแย่งขาย patriot ของตนเองตัดหน้า S-300 ของรัสเซียให้กับซาอุดิฯและพวกว่างั้นเถอะ แต่ทางรัสเซียยังไม่ได้รับปากนะว่าจะขาย S-300 ให้กับซาอุดิฯหรือไม่ แต่อิหร่านนี่แน่อยู่แล้ว คนที่ต้องการจะซื้อของรัสเซียนั้นคือซาอุดิฯพันธมิตรของสหรัฐฯนะ ไม่ใช่รัสเซียต้องการขายให้ซาอุดิฯ
    The Eyes
    20/07/2558
    -----------
    US Seeks to Help Arab Partners to Expedite Missile Defense / Sputnik International
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    คีร์กีซสถานจวนเจียนจะยกเลิกความร่วมมือกับสหรัฐฯ

    [​IMG]

    -------------
    เมื่อวันที่ 17 ก.ค.58 ที่ผ่านเห็นมีข่าวหนึ่งเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของคีร์กิซสถานกับสหรัฐฯ เห็นว่าน่าสนใจอยู่พอสมควรเพราะอาจจะเกี่ยวกับการที่คีร์กิซสถานหันมาร่วมมือกับจีนในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) และกลุ่ม EEU ที่นำโดยจีนและรัสเซียด้วยก็ได้ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง โดยสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึี่งว่า "Kyrgyzstan on the Brink of Denouncing Cooperation Agreement With US" (แปลตามชื่อเรื่องของโพสต์นี้ข้างต้นนั่นแหละครับ) (มันเรื่องอะไรกัน?)

    [​IMG]

    สื่อฯรัสเซียเกริ่นนำโดยย่อว่า คีร์กิซสถานไม่พอใจเป็นอย่างมากที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯตัดสินใจมอบรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนให้กับแกนนำผู้ประท้วงท้องถิ่น (ของคีร์กิสถาน) ซึ่งต้องคดีจัดม็อบกลุ่มชาติพันธุ์ให้ปะทะกันจนมีการเสียชีวิตขึ้นเมื่อห้าปีที่ผ่านมา โดยทางการคีร์กีซได้ออกมาประกาศเจตนาที่ต้องการจะยกเลิกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างคีร์กิซ-สหรัฐฯในปี 1993 (อ้อ… อย่างนี้นี่เอง จอมแส่อีกแล้วสินะ)
    Azimjon Askarov แกนนำม็อบจัดตั้งภาคพลเมืองชนกลุ่มน้อยชาวอุซเบคในประเทศคีร์กิซสถานถูกพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 2011 ในข้อหาจัดการชุมนุมให้มีการปะทะกันถึงขั้นเสียชีวิตระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวคีร์กิซและชาวอุซเบคในปี 2010 ในภูมิภาค Osh และ Jalal-Abad ทางตอนใต้ของคีร์กิซสถาน (นี่เป็นการปฏิวัติสีหรืออัพไรซิ่งครั้งที่สองของคีร์กิซสถาน ครั้งนี้เรียกว่า Kyrgyz Revolution of 2010 หรือ Kyrgyz Uprising ผลที่ตามมาก็คือเผา! และยิงกัน สงครามกลางเมืองย่อมๆระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และฝ่ายปราบปรามจากเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนปฏวัติสี (Color Revolution) ครั้งที่ 1 ในคีร์กิซสถานนั้นเกิดขึ้นในปี 2005 เรียกว่า Tulip Revolution ทั้่งสองครั้งเพื่อโค่นล้มอำนาจรัฐบาลเช่นกัน โดยฝั่งโปรอเมริกาบอกว่าเพื่อขับไล่รัฐบาลคอรัปชั่นที่เป็นโปรรัสเซีย ก็คล้ายๆกับที่เกิดขึ้นในยูเครนเมื่อเร็วๆนี้นั่นแหละ ถ้าเล่าแล้วจะยาวมาเลยอ่ะ เหนื่อยด้วย... ฮ่าๆๆ แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ เหตุการณ์ก็คล้ายๆกับบ้านเราในอดีตที่มีการเผาบ้านเผาเมือง และจวนเจียนจะเกิดม็อบชนม็อบเข่นฆ่ากันเองขนาดใหญ่มาแล้ว เป็นบทเรียนที่คนไทยควรจะเรียนรู้เพื่อให้รู้เท่าทันผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเกมเหล่านี้ เอาไว้โอกาสหน้าจะเล่าฟังนะครับ ถ้าไม่ลืมซะก่อน)
    กลับมาที่ข่าวกันต่อนะ รายงานข่าวบอกว่าเหตุการณ์คีร์กิซอัพไรซิ่งการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในครั้งนี้ (2010) ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 400 ราย และมีประชาชนอีกนับหมื่นต้องย้ายที่อยู่อาศัยอันเนื่องจากความไม่สงบ ซึ่งทางการของคีร์กิซสถานรวมทั้งปธน. Almazbek Atambayev (ปฏิบัติหน้าที่ฯ 1 ธ.ค. 2011 - ปัจจุบัน) ที่ได้เสนอคำแนะนำ แต่ก็ได้รับการกระตุ้นโดยกองกำลังที่สนับสนุนอดีตปธน. Kurmanbek Bakiyev โปรสหรัฐฯที่ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งซึ่งเข้าสู่อำนาจในปี 2005 หลังเหตุการณ์ที่เรียกว่า "ปฏิวัติดอกทิวลิป" (Tulip Revolution) (พอจะมองออกแล้วใช่ไหมว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายในคีร์กิซสถานในปี 2005)
    เว็บไซต์ของครม.คีร์กิซสถานได้เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า "ในความเชื่อมโยงกับการตัดสินใจของสหรัฐฯเพื่อยกย่องนาย Askarov, กรุงบิสเกค (Bishkek เมืองหลวงของคีร์กิซสถาน) มีเจตนาที่จะประกาศยกเลิกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของสาธารณรัฐคีร์กิซสถานกับประเทศสหรัฐฯอเมริกาแต่เพียงฝ่ายเดียว เกี่ยวกับความร่วมมือในอำนวนความสะดวกการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2536 (1993) ณ กรุงวอชิงตัน" (ชัดม๊ะ! จักรวรรดิเฮเก้ฯ? ใครๆก็ไม่อยากคบกับสหรัฐฯแล้วอ่ะ ทำตัวเองแท้ๆ ให้รางวัลด้านสิทธิมนุษยชนกับแกนนำที่นำม็อบมาชนกันนี่นะ? คิดได้ยังไง?)
    รายงานข่าวบอกว่า ข้อตกลงในปี 1993 ทำให้สหรัฐฯสามารถใช้สิทธิ์ในการนำ (บางอย่าง) ที่สหรัฐฯเรียกว่า "US aid / USAID" เข้าหรือออกจากประเทศคีร์กิซสถานโดยไม่ต้องเสียภาษีและภาษีศุลกากรใดๆ (กรรม! ไปทำข้อตกลงโง่ๆแบบนั้นก็จักรวรรดิเฮเก้ได้อย่างไร?) ยิ่งกว่านั้น บุคคลากรสหรัฐฯที่อาศัยอยู่ในดินแดนของคีร์กิซสถานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรแกรม USAID ต่างๆ จะได้รับสถานะทางใกล้เคียงกับทูต (ก็แสดงว่าทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนที่อยู่เหนือผู้อื่นซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศคีร์กิซสถาน ไม่ต้องเคารพกฎหมายของคีร์กิซสถาน เอากฎของตัวเองเป็นใหญ่ แล้วจะออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิ์และประชาธิปไตยและความเสมอภาคทำแป๊ะอะไรนี่ นี่แหละส.ด.แท้ๆของอเมริกา)
    อ้อ… มีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าใจ (อีกหละ... แถมอยู่เรื่อย จะเล่าข่าวนี้จบไหมนี่?) เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2558 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียอ้างสำนักข่าวท้องถิ่นของคีร์กิซสถานว่า สหรัฐฯส่งวัตถุลึกลับซึ่งมีน้ำหนักรวมกันได้ 150 ต้น อ้างวาเป็นพัสดุทางการทูต (diplomatic mail) ส่งไปที่สถานทูตสหรัฐฯในคีร์กิซสถาน สองเที่ยวบินโดยใช้เครื่องบินของยูเครน Alexander Yakimenko ฝ่ายความมั่นคงของยูเครนซึ่่งอ้างโดยเครือข่ายสำนักข่าว Vesti.ru ของรัสเซียว่าคาร์โก้ดังกล่าวมีกล่องบรรจุธนบัตรจำนวน 60 ล้านดอลล่าร์ซึ่งใช้ในเหตุการณ์ Maidan Square ที่กรุงเคียฟประเทศยูเครนในการจลาจลต่อต้านรัฐบาลในช่วงปลายปี 2013 ด้วย (ว้าววว!)
    แถลงการณ์จากคณะรัฐมนตรีของคีร์กิซสถานกล่าวว่า "นาย Askarov ได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรมในบทบาทของเขาในการยุยงให้เกิดความเกลียดชังทางชาติพันธุ์" (inciting ethnic hatred) (กฎหมายนี้น่าสนใจแฮะ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีอย่างนี้บ้าง มีหรือยัง? เพราะเห็นบางคนชอบใช้โซเชียลมีเดียและสื่อฯเทียมยุยงในลักษณะนี้อยู่บ่อยๆ เตือนแล้วเตือนอีกก็ไม่ฟัง ประเทศไทยน่าจะมีบ้างนะ) มีการจัดตั้งมวลชนทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย และสมรู้ร่วมคิด (complicity) ในการฆาตกรรมที่โหดร้ายต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในเหตุการณ์โศกนาฎกรรมเมื่อเดือนมิถุนายน 2010"
    แถลงการณ์เน้นย้ำว่า "การพิจารณาตัดสินของศาลอยู่บนบรรทัดฐานของหลักฐานที่ไม่อาจจะหักล้างได้ (the court's decision was made on the basis of irrefutable evidence) ความผิดของนาย Askarov ได้รับการพิสูจน์ในการพิจารณาคดีความทั้งหมด ในบริบทนี้ การมอบรางวัลให้กับบุคคลที่ถูกตัดสินในการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงเช่นนั้น ถือว่าสาเหตุของความประหลาดใจอย่างที่สุดและมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก (cause for extreme surprise and deep concern)" (แต่สหรัฐฯก็จะทำซะอย่าง ใครจะทำไม? เพราะเขาเป็นเจ้าโลก อำนาจทุกอย่างอยู่เขา จะยุติธรรมหรือไม่ ถูกหรือผิดอยู่ที่คำพูดของสหรัฐฯที่นั้น หลักฐานไม่ต้องพูดถึง เฮ้อ… อนาจใจกับรัฐบาลจักรวรรดิเฮเก้จริงๆ)
    รายงาานข่าวบอกว่า รมว.ต่างประเทศและรัฐสภา (ของคีร์กิซสถาน) ได้กล่าวก่อนหน้านี้่ว่า "การตัดสินใจของกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯในครั้งนี้ได้ทำลายความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสาธารณรัฐคีร์กิซสถานและสหรัฐฯเป็นอย่างมาก การกระทำต่างๆของสหรัฐฯไม่อาจะเป็นที่ยอมรับได้ และเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับตัวอักษรและสปิริตของข้อตกลงระดับทวิภาคีในความร่วมมือและการสนับสนุน" (จักรวรรดิเฮเกได้ยินหรือเปล่า? รัฐบาลคีร์กิซบอกว่าจักรวรรดิเฮเกเป็นพวกตอ*หล!)
    ตามรายงานข่าวบอกว่า ก.ต่างประเทศของสหรัฐฯได้ออกมาประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯจะเสนอรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนให้กับ Sherzod ซึ่งเป็นลูกชายของ Askarov ในนามของพ่อของเขา (กรรม! เป็นไงการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนในต่างแดนของสหรัฐฯ คนไทยรักชาติรับได้ไหม? เดี๋ยวจะว่าไม่มีหลักฐานงั้นดูภาพประกอบด้วยก็แล้วกัน ว่าสมัยนั้นเขาปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้ประชาชนทะเลาะเข่นฆ่ากันอย่างไร และรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของรัฐอย่างไรบ้าง ดูอาวุธในมือของพวกนั้นซะก่อน การสนับสนุนกลุ่มคนแบบนั้นคืองานหลักและงานถนัดของจักรวรรดิเฮเก ดังนั้นฝั่งรัสเซียจึงบอกเลยว่าปฏิวัติสีคือภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ!)
    คำถามก็มีอยู่ว่า ทำไมสหรัฐฯถึงออกมาประกาศอย่างนั้น? ก็คีร์กิซสถานเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมของจีนและเป็นกำลังจะเข้าเป็นสามาชิกของเขตเศรษฐกิจยูเรเซียและสมาชิกของ SCO ด้วยนะสิ และที่สำคัญสหรัฐฯก็มีฐานทัพอากาศของตนอยู่ที่คีร์กิซสถานด้วย (Transit Center at Manas) อยู่ติดกับชายแทนของคาซัคสถานเลยและอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของคีร์กิซสถานด้วย รัสเซียก็มีฐานทัพของตนอยู่ในคีร์กิซสถานเช่นกัน จะถูกกันได้อย่างไร? เมื่อรัฐบาลชุดนี้เองมาทางรัสเซียอีกครั้ง เพราะว่าเคยเป็นส่วนหนึี่งของสหภาพโซเวียตมาก่อน ดังนั้นเพื่อตัดกำลังของรัสเซียและจีน จักรวรรดิเฮเกจำเป็นต้องหาทางบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลคีร์กิซสถานที่ตนไม่สามารถควบคุมได้ และอาจจะพยายามทำให้มีปฏิวัติสีรอบที่ 3 เกิดขึ้นในคีร์กิซสถานขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก็ได้ แต่เชื่อว่างานนี้รัสเซียคงจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนั้นซ้ำรอยประวัติศาสตร์อีกแน่
    The Eyes
    21/07/2558
    -----------
    US Seeks to Help Arab Partners to Expedite Missile Defense / Sputnik International
    US Sends Mysterious 150 Tons of 'Diplomatic Mail' to Embassy in Kyrgyzstan / Sputnik International
    You’ve Got Mail / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/wiki/Tulip_Revolution
    https://en.wikipedia.org/wiki/Kyrgyzstan
    https://en.wikipedia.org/wiki/President_of_Kyrgyzstan
    https://en.wikipedia.org/wiki/Kyrgyz_Revolution_of_2010
    https://en.wikipedia.org/wiki/Transit_Center_at_Manas
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ภาคผนวก 4
    สงครามการเงินสหรัฐ vsจีนเต็มรูปแบบ
    ฟังนายจิ๋ม Jim Rickardsพูดเกี่ยวกับบทบาทของจีนและเงินหยวนแล้วหงุดหงิดมาก แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้ว ผมเป็นแฟนของเขา เพราะว่าเขาเป็นคนวงใน เราต้องรู้ว่าใครเป็นคนวงในแล้วตามเขาจะได้กลิ่นว่าพวกอิลิทกำลังคิดหรือกำลังจะทำอะไร
    ขอสรุปประเด็นหงุดหงิดดังนี้
    1. นายจิ่มมองว่าสหรัฐยังคงเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอยู่ การเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลกใดๆที่จะเกิดขึ้น สหรัฐต้องนั่งอยุ่หัวโต๊ะ ทุบโต๊ะ ประเทศอื่นๆคอยทำตาม ถ้าเป็นอย่างที่นายจิ๋มว่า จีนจะไม่สามารถผลักดันให้Asia Infrastructure Investment Bankเกิดขึ้นมาได้ ทั้งๆที่สหรัฐค้านหัวชนฝา AIIBจะปล่อยกู้เป็นเงินหยวน คงจำได้หลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ญี่ปุ่นพยายามตั้งAsia Monetary Fundเพราะว่า เอเซียไม่มีผู้ให้กู้รายสุดท้าย lender of last resort เวลาประเทศไทยเจ้งไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ไม่มีสถาบันการเงินใดให้ไทยกู้ ต้องเข้าโปรแกรมไอเอ็มเอฟอย่างเดียว ญี่ปุ่นจึงต้องการสร้างสถาบันการเงินที่จะทำหน้าที่คล้ายๆกับไอเอ็มเอฟ แต่โดนสหรัฐสอยร่วง ญี่ปุ่นเป็นเด็กดี นิ่งเงียบไป
    2. นายจิ๋มมองว่าจีนไม่มีแผนการจริงๆที่จะหนุนค่าหยวนด้วยทอง เพราะว่าใช้เงินกระดาษดีกว่า เพราะว่าสามารถพิมพ์ได้ไม่อั้นเหมือนโลกตะวันตกกำลังทำอยุ่ ทองคำสำรองของจีนมีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับปริมาณเงิน$6ล้านล้านกว่าที่จีนได้พิมพ์ออกมาใช้อยู่แล้วในระบบ ข้อนี้น่าจะจริง แต่อาจไม่จริงทั่้งหมด เพราะว่าจีนน่าจะใช้ทองคำ รวมทั้งพันธบัตรสหรัฐหนุนค่าเงินหยวนเวลาเปิดเสรีการเงิน หรือลอยค่าหยวนมากขึ้น จำนวนทองคำสำรองและพันะบัตรสหรัฐที่จีนถืออาจจะน้อยกว่าปริมาณเงินที่พิมพ์ แต่อย่างน้อยก็โชว์ให้โลกรู้ว่า ไม่ได้พิมพ์หยวนออกมาเปล่าๆ โดยไม่มีหลักทรัพยือะไรหนุน การใช้ทองและพันธบัตรสหรัฐมาหนุนหยวน เท่ากับเอาหยวนมาขี่ดอลล่าร์นั่นเอง
    3. นายจิ๋มมองว่าจีนต้องเล่นตามกฎ คือต้องกำหนดราคาหยวน หรือผูกหยวนกับดอลล่าร์ในระดับปัจจุบัน ไอเอ็มเอฟบอกว่าหยวนไม่ได้มีค่าตำกว่าปัจจัยพื้นฐานอีกต่อไป เพราะว่าถ้าไม่เล่นตามกฎของเจ้าของสโมสรคนรวย คือพวก G-7 จะไม่ได้ตอบรับให้หยวนเข้าเป็นสมาชิกของไอเอ็มเอฟ ประเด็นคือถ้าจีนเล่นตามกฎของจี7 จีนก็จะเป็นญี่ปุ่นรายต่อไป ที่ต้องดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเป็นอาณานิคมของตะวันตก ทั้งจีนและรัสเซียจับมือกันแน่นแล้วว่า จะเล่นตามกฎของตัวเอง ไม่เอากฎของจี7 ด้วยเหตุนี้สหรัฐจึงดำเนินนโยบายปิดล้อมรัสเซียและจีน ในโลกนี้เริ่มมีหลายประเทศที่ไม่ต้องการอยู่ใต้เงาของจี7อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน ซีเรียที่แสดงจุดยืนอย่างเปิดเผย ส่วนประเทศที่ไม่แสดงจุดยืนอย่างเปิดเผยก็คืออินเดีย และสมาชิกอื่นๆของกลุ่มBRICSและประเทศเกิดใหม่หลายประเทศ ที่ทนการผูกขาดของจี7นำโดยสหรัฐอีกต่อไปไม่ไหว
    4. จีนต้องการให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก แต่จีนรู้ว่าสิ่งนี้ต้องใช้เวลา แต่ใช่ว่าจะปฏิเสธโครงสร้างเก่าโดยสิ้นเชิง การสมัครให้หยวนเข้าตระกร้าเงินไอเอ็มเอฟเคียงคุ่กับดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโรเยน และการพัฒนาสถาบันการเงินนอกกรอบของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ไม่ว่าจะเป็นNew Development Bank ของBRICS หรือAIIB ที่จะปล่อยกู้เป็นเงินหยวน อธิบายได้ว่าเป็นท่าทีเหยียบเรือสองแคมของจีน ขาข้างหนึ่งอยู่ในถ้ำเสือคือตระกร้าเงินของไอเอ็มเอฟ ขาอีกข้างสร้างสถาบันการเงินใหม่มารองรับหยวน ตีกินทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะว่าจีนมั่นใจในเศรษฐกิจพื้นฐานของตัวเอง ที่มีการผลิตที่เข้มแข็ง และความสามารถในการพัฒนาเทคโนดลยี่เป็นของตัวเอง ถึงจุดนี้จีนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี่ฝรั่งอีกต่อไป การแฮ๊คตลาดหุ้นนิวยอร์ค สายการบินยูไนเต็ตและสื่อWall Street Journalก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของจีนที่จะทำสงครามไซเบอร์กับสหรัฐได้อย่างสมน้ำสมเนื้อแล้ว ส่วนเศรษฐกิจของฝรั่งพึ่งพาหนี้และการบริโภค ไม่ได้เน้นการผลิตอีกต่อไป กลวงมาก ระหว่างกระดาษและโรงงานวัดดูว่าท้ายที่สุดใครจะเหนือกว่า
    5. ท้ายที่สุดนายจิ๋มเชื่อว่าวิกฤติการเงินรอบใหม่จะมา จะรุนแรงกว่าปี2008 เมื่อถึงตอนนั้นราคาทองจะพุ่งกระฉูด งบดุลของธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางของสหรัฐจะไม่มีช่องว่างเพียงพอที่จะอุ้มระบบการเงิน เพราะว่าได้ทำQEมาแล้ว3รอบจนงบดุลเพิ่มจาก$900,000ล้านเป็น$4.5ล้านล้าน ถ้าเฟดต้องขยายงบดุลอีกเป็น$6ล้านล้าน ดอลล่าร์จะเน่าเป็นเศษกระดาษ มีเพียงไอเอ็มเอฟเท่านั้นที่จะดูแลระบบการเงินโลกได้ เพราะว่างบดุลของไอเอ็มเอฟยังไม่leverageมาก หรือสัดส่วนหนี้ต่อทุนยังน้อย เมื่อวิกฤติรอบหน้ามาถึง ไอเอ็มเอฟจะพิมพ์เงินSpecial Drawing Rightsของตัวเองเพื่อเพิ่มทุนระบบธนาคารของโลก และเงินSDRจะเป็นเงินสกุลหลักของโลกแทนดอลล่าร์ที่ต้องกลายไปเป็นลูกไล่ต่อไป ใครไม่ยอมรับSDRเท่ากับไม่รับระบบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน จะโดนโดรนสอย ระเบิดตูมๆตามๆ
    คำถามว่าจีนจะยอมรับเงินSDRที่พิมพ์มาจากตระกร้าของไอเอ็มเอฟที่ไม่ได้เป็นประเทศ แต่เป็นเพียงสถาบันการเงินระหว่างประเทศ โดยที่ผู้นำของไอเอ็มเอฟไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่อยู่ภายใต้การบงการของสหรัฐนั้นหรือ? สหรัฐกำลังจะทำดอลล่าร์เจ้ง แล้วจะมาสวมรอยบริหารระบบการเงินโลกต่อผ่านSDR ถ้าพี่ปูและเถ้าแก่สียอมเรื่องนี้ ก็โง่เต็มทน แต่เรารู้ว่าปูตินและเถ้าแก่สีไม่โง่ ดังนั้นจึงได้มีการเตรียมนุ๊คไว้เต็มกระบุง
    ยูนุ๊คมาไอก็นุ๊คกลับ ก็เท่านั้นเอง
    thanong
    20/7/2015
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ภาคผนวก 5
    สงครามการเงินสหรัฐ vsจีนเต็มรูปแบบ
    จีนเทขายบอนด์สหรัฐอย่างหนักระหว่างเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคมที่ผ่านมา พอเข้าเดือนมิถุนายน สหรัฐถล่มตลาดหุ้นจีนกลับ
    เล่นกันแรงจริงๆ
    จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐประมาณ$1.2ล้านล้านตามที่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ที่ไม่เป็นทางการคือการถือพันธบัตรสหรัฐอีกประมาณ$200,000ล้านผ่านผู้ดูแลผลประโยชน์หรือคัสโตเดี้ยนที่เบลเยี่ยม
    ปรากฎจีนค่อยๆลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐในปีนี้ เพราะว่าจีนกำลังจะโปรโหมทหยวน และกำลังจัดตั้งสถาบันการเงินปล่อยกู้เป็นเงินหยวน โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจีนเทขายพันธบัตรสหรัฐที่ถือผ่านโนมินีในเบลเยี่ยมออกไป$92,500ล้าน ก่อนที่จะขายอีก$24,000ล้านในเดือนเมษายน และ$26,000ล้านในเดือนพฤษภาคม
    รวมแล้วจีนขายพันธบัตรสหร้ฐ$143,000ล้านใน3เดือน น่าจะเอาเงินไปตุนทองคำดีกว่าถือกระดาษสหรัฐที่ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเพราะว่าการลดดอกเบี้ยมาสุดปลายทางแล้ว ยิ่งธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ย ตลาดบอนด์สหรัฐจะน่าลงทุนน้อยลง
    ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเปล่าที่หลังจากจีนปล่อยพันธบัตรสหรัฐทิ้ง สหรัฐตอบโต้ด้วยการเปิดฉากถล่มตลาดหุ้นจีนผ่านนายจอร์จ โซรอสในกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดแพนิกเซลล์ไปทั่วจนตลาดหุ้นจีนพังไป 30% จีนโต้กลับด้วยการแฮ๊คตลาดหุ้นนิวยอร์คทำให้ปิดการเทรดไป4ชั่วโมง United AirlinesและWall Street Journalก็โดนแฮ๊คจนระบบล่มเหมือนกัน
    มาวันนี้ตลาดทองโดนถล่มไปจนราคาทองร่วง4% ลงมาที่$1,086ต่อออนซ์ หรือระดับต่ำสุดในรอบ5ปี ใครดั๊มก็ไม่รู้ แต่จีนได้ทองของถูกแน่ๆ
    เรียกได้ว่าล่อกันนัวเนียสลับกันไปมาในช่วงนี้
    thanong
    20/7/2015
    http://www.zerohedge.com/news/2015-...143-billion-us-treasurys-three-months-belgium
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    19 ก.ค. “นาซาเผยพบชั้นบรรยากาศบนดาวพลูโตที่หนาถึง 1600 กิโลเมตร”

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาที่ดูแลโครงการสำรวจดาวพลูโตของยานอวกาศนิวฮอร์ไรซอนส์ (New Horizons) ได้เผยข้อมูลใหม่ที่ได้จากการสำรวจ ซึ่งข้อมูลที่ได้นำเสนอนี้เผยให้เห็นว่าดาวพลูโตนั้นมีชั้นบรรยากาศที่หนาถึง 1,600 กิโลเมตร หรือประมาณ 1,000 ไมล์ ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้เกิดจากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของแสงที่หรี่ลงขณะที่ยานอวกาศ ลำนี้เคลื่อนเข้าไปภายใต้เงามืดของดาวพลูโตในช่วง 1 ชั่วโมงหลังจากที่ยานเคลื่อนเข้าใกล้ดาวพลูโตมากที่สุดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Alice สามารถตรวจวัดได้ว่าดาวพลูโตมีชั้นบรรยากาศที่หนาและเต็มไปด้วยแก๊สไนโตรเจน (N2) กระจายอยู่ทั่วชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตมีระยะไกลกว่า 1,600 กิโลเมตร

    (ชมคลิป..https://www.youtube.com/watch?v=dX7zMDAWwa8)

    **จากวิดีโอแสดงการนับอัตราการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นขณะที่แสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์เดินทางผ่าน ชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตทำให้อุปกรณ์Alice ที่ติดตั้งไปกับยานสามารถตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้และเมื่อสังเกตจากกราฟช่วงสุดท้ายจะแสดงค่าที่ราบเรียบซึ่งนักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจเป็นผลมาจากโมเลกุลขนาดเล็กจำนวนมากของไฮโดรคาร์บอนหรือแม้แต่แก๊สมีเทนบริเวณชั้นบรรยากาศด้านล่างมีการดูดซับแสงที่มาจากดวงอาทิตย์

    อนุเคราะห์ข้อมูลโดยNASA/JHUAPL/SwRI

    **จากภาพ..แสดงให้เห็นถึงข้อมูลตัวเลขที่ได้จากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์บนดาวพลูโตจากการตรวจวัดในครั้งนี้ของอุปกรณ์Alice ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถวิเคราะห์ลักษณะชั้นบรรยากาศบนดาวพลูโตได้โดยบรรยากาศของดาวพลูโตนั้นเติมไปด้วยแก๊สไนโตรเจนที่สามารถดูดซับแสงจากดวงอาทิตย์ได้รวมถึงบรรยากาศชั้นล่างที่เติมไปด้วยโมเลกุลของไฮโดรคาร์บอนและแก๊สมีเทนด้วยนั้นก็สามารถดูดซับแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ได้เช่นกันส่งผลให้ค่าตัวเลขที่วัดได้นั้นมีการลดลง

    อนุเคราะห์ข้อมูลโดยNASA/JHUAPL/SwRI

    Andrew นักดาราศาสตร์หนึ่งในทีมงานสำรวจของยานอวกาศนิวฮอร์ไรซอนส์จาก Southwest Research Institute in Boulder, Colorado กล่าวว่า การค้นพบในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการศึกษาชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์แคระน้ำแข็งพลูโตเท่านั้น” ทั้งนี้ท่านสามารถดูวีดีโอจำลองการค้นพบชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตได้

    ทั้งนี้ดาวพลูโตมีแรงโน้มถ่วงที่น้อยมากประมาณ 0.58 เมตร/วินาที² ส่งผลให้แก๊สที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของดาวพลโตถูกดึงดูดด้วยแรงที่น้อยมาก นั่นหมายความว่าแก๊สในชั้นบรรยากาศอาจมีการกระจายตัวออกไปได้มากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้ดาวพลูโตนั้นมีชั้นบรยากาศที่มีระยะทางที่ไกลมากเช่นนี้

    อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้ยังเป็นเพียงแค่ข้อมูลบางส่วนที่ยานสำรวจนิวฮอร์ไรซอนส์ได้ส่งกลับมายังโลกเท่านั้นเนื่องด้วยระยะทางที่ไกลกว่า 4 พันล้านกิโลเมตร การส่งข้อมูลภายในครั้งเดียวจึงเป็นเรื่องที่ยากมากและนั่นหมายถึงข้อมูลความละเอียดที่มากยิ่งขึ้นกว่านี้ยังถูกบันทึกเก็บไว้ในหน่วยความจำบนยานรอการส่งกลับมายังโลกอีกครั้ง

    ตำแหน่งของยานอวกาศยานนิวฮอร์ไรซอนส์ขณะนี้

    ขณะนี้ยานอวกาศนิวฮอร์ไรซอนส์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 4,929,250,000 กิโลเมตร อยู่ห่างจากโลกของเราประมาณ 4,779,650,000 กิโลเมตร และบินห่างจากดาวพลูโตออกไปแล้วด้วยระยะประมาณ 5,983,910 กิโลเมตร ด้วยความเร็วประมาณ 49,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อมุ่งสำรวจวัตถุอื่นๆ อีกในแถบไคเปอร์

    เรียบเรียงโดย
    นายบุญญฤทธิ์ ชุนหกิจ
    หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ฯ นครราชสีมา สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
    แหล่งที่มา..New Horizons Reveals Pluto’s Extended Atmosphere | NASA

    อ่านต่อ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) - “นาซาเผยพบชั้นบรรยากาศบนดาวพลูโตที่หนาถึ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    (ข่าวเก่า 2 มีนาคม 2015) ดาวพลูโตความจริงแล้วมีขนาดใหญ่กว่าโลก ถ้ารวมชั้นบรรยากาศเข้าไปด้วย

    [​IMG]

    Michael Summers นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ที่ทำงานเกี๋ยวกับการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของดาวพลูโต ได้โพสภาพนี้ลงใน Blog ของโครงการ พร้อมกับพูดว่า

    " "เหนือขอบเขต" ของชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตนั้นมันยากมากที่จะกำหนดขอบเขตของมัน แม้ว่าเราจะรู้ว่ามันอยู่ไกลจากพื้นผิวมากก็ตาม ถ้าหากเรากำหนดพื้นผิวนอกจากชั้นบรรยากาศเช่นเดียวกับโลก ก็จะเป็นรัศมีกว้างกว่า 7 เท่าของดาวพลูโต นั่นหมายความว่าชั้นบรรยากาศของดาวพลูโตนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตัวเองถึง 350 เท่า ซึ่งเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ และมหัศจรรย์ที่เราจะต้องค้นหาและสำรวจต่อไป"

    Pluto Is Actually Bigger Than Earth, If You Include Its Atmosphere

    Michael Summers, a NASA scientist working on the New Horizons mission to Pluto, posted the image on the mission’s blog last week. He wrote:

    The “outer limit” of Pluto’s atmosphere is very difficult to define, although we know that it is very far from the surface. If one defines it similar to the way we define the exobase of Earth’s atmosphere, then Pluto’s atmosphere has an outer limit of at least seven times Pluto’s radius above it surface. This means that the volume of Pluto’s atmosphere is over 350 times the volume of Pluto itself! This illustrates what a strange and wonderful new kind of world we are about to visit and explore.

    http://www.buzzfeed.com/kellyoakes/...han-earth-if-you-include-its-atmos#.pe7nWG99b

    ดาวพลูโตความจริงแล้วมีขนาดใหญ่กว่าโลก ถ้ารวมชั้นบรรยากาศเข้าไปด้วย
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ติดเชื้อHIVมีหวัง!!เด็กสาวฝรั่งเศสทุเลาจาก'เอดส์'หลังหยุดรักษามานับสิบปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2558 04:02 น.

    [​IMG]

    บีบีซี/เอเอฟพี - เด็กสาววัย 18 ปีชาวฝรั่งเศสที่ติดเชื้อเอชไอวีมาตั้งแต่เกิด อาการป่วยทุเลาลงอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ไม่ได้รับยาต่อต้านไวรัสชนิดนี้มานานกว่า 12 ปีแล้ว กรณีแรกของโลกที่เพิ่มเติมความหวังสำหรับการควบคุมโรคร้ายนี้หากดำเนินการรักษาตั้งแต่ระยะแรกๆ

    คณะแพทย์นำเสนอรายละเอียดเคสของเธอ ณ ที่ประชุมสมาคมโรคเอดส์นานาชาติ (International AIDS Society) ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งนับเป็นรายงานแรกของโลกที่มีเด็กอาการทุเลาจากเอชไอวีในระยะยาว

    อย่างไรก็ตามเหล่าผู้เชี่ยวชาญบอกว่ายังจำเป็นต้องมีการศึกษาขนานใหญ่เพื่อสรุปว่าทำไมถึงผู้ป่วยบางส่วนถึงยังสามารถควบคุมไวรัสชนิดนี้ได้หลังจากหยุดรักษาไปแล้ว

    หญิงสาวรายนี้ลืมตาดูโลกในปี 1996 และได้รับการส่งผ่านเอชไอวีมาจากมารดา อาจจะเป็นในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์หรือไม่ก็ระหว่างคลอด จากนั้นพออายุ 3 เดือน เธอก็ได้รับยาต้านรีโทรไวรัส 4 เม็ด แต่ครอบครัวของเธอตัดสินใจหยุดการรักษาตอนหนูน้อยอายุเกือบ 6 ขวบ

    12 ปีต่อมา ระดับไวรัสในกระแสเลือดของเธอวัดได้ต่ำมาก แม้คณะแพทย์ยังระมัดระวังว่ามันอาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยดอคเตอร์ อาเซียร์ ซาเอซ -ซิเรียง จากสถาบันปาสเตอร์ในกรุงปารีส ให้ความเห็นว่า "ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้ทุเลาจากไวรัสมานานแล้ว เพราะว่าเธอได้รับยาต้านรีโทรไวรัสอย่างรวดเร็วหลังจากติดเชื้อ" พร้อมบอกว่ายังไม่พิจารณาว่าสาวน้อยรายนี้หายป่วยแล้ว เพียงแต่เธอตอบสนองต่อการรักษาอย่างสมบูรณ์แบบ

    "นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ข้อพิสูจน์ความคิดที่ว่า มีความเป็นไปได้ที่อาการป่วยในระยะยาวจะทุเลาในเด็ก เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามกรณีนี้ยังพบเห็นน้อยมาก เด็กสาวใช้ชีวิตตามปกติ กรณีของเธอมีความพิเศษแต่ไม่มีใครสังเกต แม้แต่ตามคลินิกต่างๆในฝรั่งเศส เมื่อ 2 ปีก่อน" ดอคเตอร์ อาเซียร์ ซาเอซ -ซิเรียงกล่าว

    เมื่อ 2 ปีก่อน เด็กหญิงคนหนึ่งในอเมริกา หรือที่รู้จักกันในนาม" มิสซิสซิปปี เบบี้" หายจากการติดเชื้อไอชไอวี แต่กรณีนี้เธอมีอาการทุเลาลงหลังจากหยุดรักษาด้วยยาเพียง 2 ปี

    ดอคเตอร์ อาเซียร์ ซาเอซ -ซิเรียง ยังเป็นผู้นำการวิจัยคนไข้ผู้ใหญ่ 14 คน ซึ่งพวกเขาก็ไม่มีสัญญาณไวรัสกำเริบแต่อย่างใด แม้หยุดให้ยาแล้ว โดยหนึ่งในคนไข้ควบคุมเชื้อเอชไอวีมาได้นานกว่า 13 ปีแล้ว

    ศาสตราจารย์ ชารอน เลวิน จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ในออสเตรเลีย บอกว่า "กรณีของเด็กสาวฝรั่งเศสได้มอบหลักฐานที่หนักแน่นอีกครั้งของประโยชน์อันมหาศาลของการเริ่มให้ยาต่อต้านเอชไอวีเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่คือเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจแก่เราที่กำลังทำงานในสมรภูมินี้ และสำหรับทุกๆคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับเอชไอวี"

    เลวิน กล่าวต่อว่า "ความสำคัญของเคสนี้ก็คือ ฉันเชื่ออย่างหนักแน่นว่ามันคือความก้าวหน้าในความพยายามของเราสำหรับหาทางรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี เราจำเป็นต้องศึกษาอย่างกว้างขวางที่สามารถสรุปได้ว่าใครบ้างที่สามารถหยุดบำบัดต่อต้านไวรัสอย่างปลอดภัยและควบคุมไว้รัสได้ ซึ่งเคสเดียวยังบ่งบอกไม่ได้ เราจำเป็นต้องการวิธีทดสอบที่เถรตรงเพื่อวัดไวรัสในระดับต่ำมาก หรือค้นหาแนวทางที่ดีกว่านี้ในการคาดคะเนแนวคิดแห่งการควบคุมหลังการรักษา"

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัมพฤกษ์-อัมพาต อัมพาตสิบปี ดื่มสมุนไพร ห้าวันรู้ผล
    « on: July 02, 2015, 12:25:05 PM »

    [​IMG]

    อัมพฤกษ์-อัมพาต

    อัมพาตสิบปี ดื่มสมุนไพร

    ห้าวันรู้ผล

    เสียงตื่นเต้นระคนดีใจของ คุณประนอม มณีย้อย บ้านท่าศาลเจ้า ต.เชิงกลัด อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
    โทรศัพท์เข้ามาหาผม บอกว่าติดต่อคุณจำรัส ยากมาก ดีใจที่โทรติด ดิฉันป่วยเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต มาร่วม ๑๐ ปี เธอรีบ พูด โดยไม่ปล่อยให้ผมได้ซักถาม เธอบอกว่าป่วยเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต มาร่วม ๑๐ ปี ขาลีบ ตะโพกลีบ ไหล่ซ้ายห้อย เดินเอียงเซไปเซมา เหมือนเจ้าเข้าทรง เวลาเดินต้องลากขาไปด้วยบางครั้งโดนก้อนหินเท้าจะเป็นแผล ไหล่ขวาชาไม่มีแรง ต้องไปฉีดยาที่ไหล่ขวาทุกอาทิตย์ ครั้งละ ๒๕๐ บาท หมดเงินไปเยอะ

    ดิฉันทนทุกข์มานานแล้ว พยายามติดต่อคุณจำรัส อยากบอกเอาบุญให้คนที่เป็นได้หาย ดิฉันกินสมุนไพรนี้เพียง ๕ วันรู้ผลเลย ปัจจุบันเดินได้ปกติแล้ว เธอยังเล่าไม่หยุดผมได้แต่ขานรับ ครับๆ
    “ ดิฉันได้ตัวยานี้มาจากผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต ที่นอนซมอยู่กับที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ เหมือนนอนรอความตาย อยู่ๆก็ลุกเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ ตัวยามีสมุนไพร ๔ ชนิด หาง่าย พอได้สูตรยามาดิฉันก็ไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อนบ้านก็เอาไปทำ เพียงไม่กี่วันก็วิ่งมาบอกว่าหายแล้ว ดิฉันตกใจ..งง..ดิฉันเป็น คนบอกยังไม่ได้ทำ แต่มีคนเอาไปทำก่อน หายจากโรคอัมพฤกษ์-อัมพาตแล้ว ดิฉันจึงรีบทำกินบ้าง

    ตัวยามี พริกไทยดำ ๒ ช้อนโต๊ะ ดีปลี ๓๐ ดอก ผักเสี้ยนผี ๑ กำมือ มะตูมอ่อน ๑ ขีด ตัวยาทุกตัวต้องตากหรืออบให้แห้งก่อน หลังจากนั้นเอาไปต้ม ใส่น้ำเยอะๆ ต้มให้เดือดประมาณ ๒๐ นาทีให้ฤทธิ์ยาออกมา ให้ดื่มต่างน้ำ ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ รสชาติจะเผ็ดร้อน กิน ๔ วันแรกจะเฉยๆ พอวันที่ ๕ จะปวดมากแทบทนไม่ได้ โดยเฉพาะบริเวณที่อาการหนัก เราต้องทนให้ได้หลังจากนั้นมันก็จะหลุดออกมาเลยคือหายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนไม่เคยปวดกลับมาเป็นปกติ ดิฉันร้องไชโย ดังลั่นบ้าน ชาวบ้านใกล้เคียงนึกว่าดิฉันบ้า”

    สำหรับผักเสี้ยนผี ที่ใช้ประโยชน์มีอยู่ 2 ชนิดคือ ผักเสี้ยนชนิดที่เรานำมาดองรับประทาน หรือเรียกว่าผักเสี้ยนตัวผู้ หรือผักเสี้ยนขาวบางทีก็มีดอก สีขาว ออกม่วง หรือ สีม่วงส่วนอีกชนิดคือผักเสี้ยนผีหรือผักเสี้ยนตัวเมีย ต้นจะแผ่กิ่งก้านตรงเฉียงประมาณ ๔๕ องศา ดอกมีสีเหลืองบางและเกลี้ยง ดอกจะบานในวันเดียวคือตอนเช้า มีเมือกเหนียวๆอยู่ภายในลำต้น เมื่อเด็ดจะมีกลิ่นเหม็นเขียวฉุนๆลำต้นสูงประมาณ ๑ เมตร สรรพคุณเด่นของผักเสี้ยนผีคือแก้ข้ออักเสบ แก้เหน็บชา บางแห่งเรียกผักเสี้ยนผีว่าสมุนไพรไปนิพพานไม่กลับ หรือส้มเสี้ยนตัวเมียดอกจะมีสีเหลือง

    สมุนไพรมะตูมอ่อน เป็นยาธาตุทำให้เจริญอาหาร บำรุงกำลัง และขับลมเนื่องจากมีสารเพคตินจึงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในลำไส้ได้ สมุนไพรพริกไทยดำมีสารแอลคาลอยด์ไพเพอร์ริน ทำให้เลือดลมเดินสะดวก กระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดี สมุนไพรดีปลีรสเผ็ดร้อนขม แก้เส้นอัมพฤกษ์-อัมพาตดับ ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ ขับลม แก้ธาตุพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ บางแห่งเรียกสมุนไพรประดงข้อ ดีปลีเชือก ปานนุ และพิษพญาไฟ

    หลังจากสูตรนี้รายการทั่วทิศถิ่นไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นำออกเผยแพร่ ทั้งผมและคุณประนอม ก็ได้รับตำแหน่งใหม่เป็นชุมสายโทรศัพท์รับปรึกษาปัญหาสุขภาพเฉลี่ยวันละ๘๐ สายทั้งวันทั้งคืน ถ้าโทรหาคุณประนอมไม่ติดก็โทรหาคุณจำรัส โทรหาคุณจำรัสไม่ติดก็โทรหาคุณประนอม ขอโทษทีครับเวลาอาบน้ำ-นั่งสุขาวดียังต้องรับสาย จะปิดเครื่องก็เห็นใจคนป่วย

    นี่เป็นประสบการณ์จริงของผู้ป่วยอัมพาต-อัมพฤกษ์ คุณประนอม มณีย้อย บ้านท่าศาลเจ้า ต.เชิงกลัด อ.บางระจันทร์ จ.สิงห์บุรี โทร. ๐๘-๑๓๖๕-๘๓๑๓
    เพื่อให้หายข้องใจผมบึ่งรถไปหาคุณประนอม ที่จังหวัดสิงห์บุรี ไมน่าเชื่อจากผู้หญิงที่หมดสภาพเวลาล้มไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขนาดหมาเลียหน้า แต่วันนี้ที่ผมเห็นเธอปั่นจักรยานมารอรับผมถึงปากทางเข้าบ้าน แล้วจัดเตรียมสมุนไพรต่างๆให้ผมดู ซึ่งตำรับยานี้มีหลายคนนำไปใช้แล้วแจ้งกลับมาว่าได้ผลดีมาก นิ้วล็อคก็หาย นกเขาคืนชีพ ความดัน-เบาหวาน-เก๊าท์-ปวดหัวเข่ารูมาตอยล์

    ที่มาอัมพฤกษ์-อัมพาต : จำรัส เซ็นนิล


    อัมพฤกษ์-อัมพาต อัมพาตสิบปี ดื่มสมุนไพร ห้าวันรู้ผล
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    โช๊ะ! ขาดสะบั้น คีร์กิซสถานประกาศตัดความสัมพันธ์ยกเลิกข้อตกลงปี1993กับสหรัฐฯ
    ---------

    [​IMG]

    พึ่งลงข่าวเกี่ยวกับคีร์กีซสถานไปวันก่อนนี่เอง ไม่นึกว่าจะมาเร็วขนาดนี้ และสหรัฐฯคงจะคิดว่าคีร์กีซสถานแค่ออกมาขู่เล่นๆคงจะไม่กล้าทำจริงหรอกมั๊ง เฮ้อ… ก็ส่งสัญญาณเตือนดีๆไม่ฟัง อยากลองของใช่ไหม? ให้โอกาสแล้วแต่ยังไม่สำนึกรีบแก้ไขอีก เลยเวลาเดทไลน์ไปแล้ว สุดท้ายคีร์กิซสถานก็จัดให้สมใจจักรวรรดิเฮเกซะเลย เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Kyrgyzstan Terminates Cooperation Agreement With US" แปลว่า "คีร์กีซสถานยุติข้อตกลงความร่วมมือกับสหรัฐฯ" เปรี๊ยง! ยังกะฟ้าลงกลางกบาลโอบาม่าซะงั้น จักรวรรดิเฮเกถึงกับช็อกไปไม่เป็น นึกว่าคีร์กีซสถานจะหงอยสิคราวนี้
    โฆษกของนากยรัฐมนตรี Temir Sariyev ของคีร์กิซสถานกล่าวว่า "นายกรัฐมนตรี Temir Sariyev ของคีร์กีซสถานได้ยุติข้อตกลงกับสหรัฐฯว่าด้วยความร่วมมือการในเรื่องสาธารณูปโภคและการอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ปี 1993"
    รายงานข่าวบอกว่า ข้อตกลงในปี 1993 ทำให้สหรัฐฯสามารถใช้สิทธิ์ในการนำ (บางอย่าง) ที่สหรัฐฯเรียกว่า "USAID" เข้าหรือออกจากประเทศคีร์กิซสถานโดยไม่ต้องเสียภาษีและภาษีศุลกากรใดๆ ยิ่งกว่านั้น บุคคลากรสหรัฐฯที่อาศัยอยู่ในดินแดนของคีร์กิซสถานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรแกรม USAID ต่างๆ จะได้รับสถานะที่ใกล้เคียงกับเจ้าหน้าที่ทางการทูตด้วย
    ข้อตกลงดังกล่าวถูกระงับไปหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯตัดสินใจมอบรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนให้กับนาย Azimjon Askarov กลุ่มชาติพันธุ์อุซเบกซึ่งถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 2011 ในข้อหาจัดให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวคีร์กิซและชาวอุซเบกในปี 2010 (Kyrgyz Uprising การปฏิวัติสีครั้งที่สองของคีร์กิซสถาน)
    แล้วสหรัฐฯจะทำอย่างไรหละคราวนี้? ทางสหรัฐฯได้ออกมาโอดครวญว่า รู้สึกผิดหวังหลังจากการตัดสินใจของรัฐบาลคีร์กีซสถานในการยุติข้อตกลงระดับทวิภาคี (ก็คุณไปแส่เรื่องกิจการภายในของประเทศเขาทำไม?) กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯออกมากล่าวว่า "การตัดสินใจในครั้งนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อโปรแกรมการให้ความช่วยเหลือ (แน่ใจหรือว่าไม่ใช่โปรแกรมเสี้ยมให้ชาวบ้านเขาแตกแยกกัน?) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชากรชาวคีร์กีซสถาน (ให้เขาฆ่ากันตายนี่นะ?) รวมทั้งโปรแกรมที่ต่อสู้กับการใช้ความรุนแรงทางชาติพันธุ์ (ขยายความรุนแรงสิไม่ว่า) ช่วยเพิ่มอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงาน (งานแบบไหน? ส่งเสริมกลุ่มติดอาวุธ?) และปรับปรุงระบบการศึกษา และพัฒนาประชาธิปไตย (นั่นแหละไม้ตายเขาหละ ประชาธิปตาย ท่องไว้ แล้วก็ใช้เยาวชนของประเทศที่ตกเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือ แล้วอ้างว่าเป็นการส่งเสริมระบบการศึกษา แล้วก็ได้พวกผลไม้พิษออกมา)"
    เอาข้อมูลชัดๆเลยนะ ตามรายงานข่าวบอกว่าในปี 2010 ได้เกิดการปะทะกันขั้นรุนแรงโดยกลุ่มชาติพันธุ์ระหว่างชาวคีร์กีซและชาวอุซเบก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 รายในภูมิภาค Osh และ Jalal-Abad ทางตอนใต้ของคีร์กิซสถาน ประชาชนนับหมื่นต้องอพยพหนีจากความไม่สงบ ทางการของคีร์กีสถานกล่าวว่า การก่อเหตุของกลุ่มชาติพันธุ์ภายในประเทศได้รับการกระตุ้นโดยกลุ่มที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี Kurmanbek Bakiyev ซึ่งเป็นโปรสหรัฐฯ (เป็นหุ่นเชิดของจักรวรรดิเฮเก้ว่างั้นเถอะ) ซึ่งเข้าสู่อำนาจหลังการปฏิวัติสีดอกทิวลิป (Tulip Revolution) ในปี 2005
    The Eyes
    22/07/2558
    ----------
    Kyrgyzstan Terminates Cooperation Agreement With US / Sputnik International
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ฮ่าๆๆ... อเมริกาล่อพวกเดียวกันเองซะแล้ว ป้ายอี้ให้ตะวันตกกรณียูเครนเฉยเลย มาดูลีลาการตวัดลิ้นของจักรวรรดิเฮเกบ้าง
    ---------
    เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "West’s ‘Geopolitical Chess Game’ in Ukraine Will End Badly" แปลว่า "เกมหมากรุกรัฐภูมิศาสตร์ของตะวันตกในยูเครนจะจบไม่สวยแน่ๆ!" นี่ไม่ใช่คำพูดหรือความคิดเห็นจากฝั่งรัสเซียนะ ต้องอ่านเนื้อข่าวให้ดีซะก่อนว่าเขาซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในคำพูดนี้
    นาย Rodney Martin อดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯออกมากล่าวว่า ทางการของกรุงเคียฟ (Kiev) กำลังวิ่งเล่นเกม "ระบอบการปกครองหุ่นเชิด" (puppet regime) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยพวกตะวันตกสำหรับเป้าหมายของพวกเขา (ฮิ้วววว! อ้าปากก็เห็นลูกกระเดือกแล้ว สมุนปลายแถวของจักรวรรดิเฮเกเอ๋ย กะจะประเหลาะรัสเซียให้หันไปโจมตีตะวันตกแทนสหรัฐฯหละสิ ปูตินนะครับ ไม่ใช่ผู้นำญี่ปุ่นหรือฟิลิปปินส์หรือกลุ่มประเทศบอลติกที่จะให้อเมริกามาจูงจมูกได้ง่ายๆ)
    Rodney Martin กล่าวต่ออีกว่า "ความพยายามที่ไม่ประสบผลสำเร็จในการที่จะยุติการสู้รบในภูมิภาคดอนบาสส์ เป็นความผิด (fault) ของรัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบัน (นั่นไง! จะเปลี่ยนตัวรัฐบาลยูเครนชุดใหม่แล้วจะส่งนางหนูดิน (Nuland) คนของตัวเองไปเป็นผู้นำยูเครนหละสิ ฮ่าๆๆ ก็รู้ทันอีกนั่นแหละ)"
    Rodney Martin กล่าวว่า "ตามที่ผมชี้ให้เห็นอยู่บ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกเมื่อรัสเซียถูกโอบล้อมโดยชาติอื่นๆ มันไม่ได้ส่งผลดีใดๆต่อพวกเขาเลย (แล้วสหรัฐฯไปบีบให้พวกยุโรปตะวันออกต่อต้านรัสเซียทำไม? ล่าสุดก็ส่งนาโต้เข้าไปซ้อมรบในยูเครนด้วย หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ พอรัสเซียโวยวายก็โยนอี้ไปให้ตะวันตะซะนี่) พวกเรากำลังเข้าสู่สถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดมากๆ และผมคิดว่าพวกเราต้องมีสติที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจา พวกแบ่งแยกดินแดน ไม่ได้ยิงจรวดถล่มพวกเขาเอง เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะต้องทำอย่างนั้นเลย (คำถามก็คือว่าแล้วใครทำ? ตามตรรกะของสหรัฐฯถ้าไม่ใช่ฝ่ายที่เขาพูดถึงก็ย่อมหมายถึงฝ่ายตรงข้ามแม้เขาจะไม่ได้พูดถึงก็ตาม จำได้นะโษฆกกลาโหมของสหรัฐฯตอบสื่อฯรัสเซียเอง ฮ่าๆๆ)"
    นี่คือท่าทีของสหรัฐฯที่กำลังพลิกลิ้นแบบ 360 องศา เพราะอะไร? ก็เพราะว่ากลุ่ม DPR/LPR โปรรัสเซียในยูเครนตะวันออกได้ถอนอาวุธหนักออกจากเขตสู้รบกันแล้วนะสิ โดยไม่ต้องมีใครบังคับด้วย กองทัพยูเครนจะถล่มภูมิภาคดอนบาสส์ต่อไปก็ให้มันรู้ไปสิ นี่เป็นการเดินหมากของปูตินเห็นๆ บอกว่าเด็กของผมยอมถอยแล้วนะ แล้วพวกคุณหละจะว่าอย่างไร? ส่วนข่าวล่าสุดจากกองหน้าของยูเครนที่อยู่แนวหน้าบอกว่ายังไม่ได้รับคำสั่งให้ถอนกองกำลังออกจากเขตสู้รบ ซวยเลยสิยูเครน ก่อนหน้านี้โปโรเชนโก้ก็ถูกบีบให้ปลดอาวุธพวกฝ่ายขาวหัวรุนแรงที่มีกองกำลังอิสระไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล แต่ช่วยรัฐบาลยูเครนถล่มกองกำลังฝ่าย DPR/LRP จนเกิดความขัดแย้งขึ้นมาระหว่างพวก Right Sectors กับรัฐบาลกลาง สุดท้ายดูเหมือนว่าจะปลดไม่ได้ หรือว่าเป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้นก็ไม่รู้?
    Rodney Martin ยังกล่าวอีกว่า "รัฐบาลกรุงเคียฟเป็นหนี้ตะวันตกหลายพันล้านดอลล่าร์ (ไม่พูดถึงสหรัฐฯบ้างเลยนะว่ายูเครนเป็นหนี้สหรัฐฯเท่าไรแล้ว) และดังนั้น (ยูเครน) ก็จะปฏิบัติตามคำสั่ง (ของตะวันตก) เป้าหมายหลักของตะวันตกก็คือ ทำลายสหภาพโซเวียต ทำไปแล้ว (จริงดิ? หมอนี่ไปอ่านประวัติศาสตร์เล่มไหนมาอ่ะ หนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯเขาเขียนไว้แบบนั้นหรือ? น่าสงสารเด็กอเมริกาจังเลย) คราวนี้เป้าหมายต่อไปของตะวันตกก็คือ แบ่งแยกสหพันธรัฐรัสเซีย" (ที่หมอนี่พูดมาทั้งหมดนี่คือพฤติกรรมของจักรวรรดิเฮเก้ทั้งนั้น ใครทำสงครามเย็นกับโซเวียต? ก็จักรวรรดิเฮเกไม่ใช่หรือ? วันนี้กล้าตอแ*ลว่าตะวันตกซะงั้น มันก็รวมหัวกันนั่นแหละ แต่พอจะถูกตำหนิก็เอาตัวรอดโยนอี้ไปให้ยุโรปเฉยเลย เมื่อไหร่พวกนักการเมืองสหรัฐฯจะมีพฤติกรรมในการพูดความจริงเลิกตลบตะแลงหลอกลวงสังคมและตัวเองซะทีนะ? เขาคิดว่าชาวโลกตาบอดกันหมดไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไง? เพราะสหรัฐฯส่งเสริมแต่พวกแบบนี้แหละสังคมโลกมันถึงได้ป่วยและมีปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้)
    พอพูดเกี่ยวกับการฟื้นฟูสันติภาพในยูเครน นาย Rodney Martin กะล่อนทอง ก็กล่าวว่า "ประชาชนชาวยูเครนจำเป็นต้องเข้าใจเงื่อนไขต่างๆในสิ่งที่พวกเขาเป็นฝ่ายถูกต้องในปัจจุบันนี้ ประชาชนถูกใช้เป็นเบี้ย (pawns) ในเกมหมากรุกทางการเมืองระดับภูมิภาค (ภูมิรัฐศาสตร์) ซึ่งไม่สามรถจบลงได้ด้วยดี เนื่องจากตะวันตกจะไม่ยอมสูญเสีย (สังเวย) มรดกและทรัพยากรต่างๆของประเทศของตน โลกจำเป็นต้องหยุดระบบก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ (the economic terrorism) (ไปบอกโอบาม่าสิ!) ซึ่งตะวันตกใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์และทางกองทัพ"
    ว้าว! เป็นไงเล่าลมปากและลีลาการตวัดลิ้นสองแฉกของพวกนักการเมืองของสหรัฐฯของจริงไม่อิงนิยาย ข้อสังเกตพฤติกรรมของพวกนี้จะคล้่ายๆกันคือชิงใช้คำพูดที่จะทำให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่นโดยไม่มีความละอายหรือสะอิดสะเอียนที่จะพูดแบบยกยอตัวเองและกล่าวหาผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย พวกนี้พร้อมที่จะบิดเบือน ป้ายสีคนอื่นทุกเมื่อ เมื่อมีโอกาส โดยเฉพาะในตอนที่พวกเขารู้สึกว่าเสียหน้าหรือเพลี่ยงพล้ำในเวทีต่างๆ พฤติกรรมแบบนี้ถูกถ่ายทอดออกมาบ่อยๆและมีอิทธิพลต่อพวกสื่อฯขี้ข้าอเมริกาและคอลัมนิสต์ นักวิชาเกิน และนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลายเป็นอย่างมาก พวกนี้จะฉลาดในการเบี่ยงเบนประเด็น และบางครั้งชอบที่จะทำตัวเป็นสีเทา คนทั่วไปดูไม่ค่อยออก เนียนว่างั้นเหอะ คบกับคนแบบนี้อันตรายมากๆ ไม่รู้ว่าจะถูกหักหลังได้เมื่อไร นี่แหละจักรวรรดิเฮเกของจริง
    สงสัยว่าสื่อฯรัสเซียคงจะหมั่นไส้ไอ้หมอนี่มากก็เลยลงภาพธงชาติของสหรัฐฯกับยูเครนที่ทหารของทั้งสองประเทศถืออยู่ในยูเครนซะเลย เพื่อบอกว่าดูให้เต็มตาซิว่านั้นธงประเทศไหน? ฮ่าๆๆ อ้อ… โพสต์นี้ไม่มีอะไรมาก แปลให้อ่านเพื่อจะได้รู้ว่าพวกนักการเมืองจอมกะล่อนทองของสหรัฐฯเขามีตวัดลิ้นแบบนี้แหละ
    ป.ล. มีอีกบทความหนึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปูติน ในมุมมองของอดีตเจ้าหน้าที่ทางกองทัพของอเมริกาเช่นกัน น่าสนใจมาก แล้วจะเล่าให้ฟังในโพสต์ต่อไปนะครับ
    The Eyes
    22/07/2558
    ----------
    West’s ‘Geopolitical Chess Game’ in Ukraine Will End Badly / Sputnik International
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    กรีซคือสนามรบของสงครามการเงิน และจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม และอาจจะเกิดขึ้นในที่อื่นๆอีก

    [​IMG]

    ---------
    วันนี้ (21 ก.ค.58) อ่านเจอข่าวหนึ่งจาก Sputnik news ของรัสเซียซึ่งเอามาจากสื่อของกรีซ เป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซโมเดลที่จะเกิดขึ้นในที่อื่นๆอีก โดยศาสตราจารย์ Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2001 อดีตรองประธานอาวุโสและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก (World Bank) และอดีตสมาชิกและประธานสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย Columbia University นครนิวยอร์ก เห็นว่าน่าสนใจดีจึงนำมาแปลและเล่าสู่กันฟังนะครับ
    ตามรายงานข่าวบอกว่า ศ.Joseph Stiglitz ไปบรรยายที่งานประชุมสัมมนา George Papandreou บนเกาะ Corfu Island ของกรีซ และได้แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้สินของกรีซโดยพวกเจ้าหนี้ทรอยก้าว่า "มันเป็นเรื่องที่น่าสลดใจที่พวกคุณ ชาวกรีซ ต้องทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ทรอยก้า [เจ้าหนี้รายใหญ่ระหว่างประเทศของกรีซประกอบด้วย EC, ECB และ IMF] ซึ่งข้อตกลงครั้งที่ 3 ของพวกเขาได้เพิ่มความไม่เท่าเทียมกันและมุ่งไปที่คนยากจน" (กรรม!)
    แล้วมันเป็นสงครามหรือสนามรบระหว่างอะไรกับอะไรหละ? และ ศ.Joseph Stiglitz กล่าวว่า "(นี่) เป็นสนามรบระหว่างความคิด (อุดมการณ์) กับอำนาจเงิน กรีซไม่ใช่เพียงประเทศเดียวที่ลุกขึ้นต่อสู้กับ Big Money diktat"
    ศ.Joseph Stiglitz กล่าวว่า "พวกเราเองก็กำลังขับเคี่ยวต่อสู้อยู่ในสนามรบที่คล้ายกันนี้ในสหรัฐฯ การเพิ่มทุนของพวกธนาคารต่างๆในการตื่นขึ้นของอุบัติเหตุ Lehman Brothers ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะนำธนาคารของประเทศกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของภาคประชาชน" อ้างตามรายงานข่าวจากสำนักข่าว Athens News Agency ของกรีซ (Lehman Brothers คืออะไรอ่ะ? เปิดดูในเน็ทแล้ว อูยส์... ประวัติยาวมาก โดยย่อบอกว่า Lehman Brothers Holdings Inc. เป็นสถาบันทางการเงินทั่วโลก เคยเป็นธนาคารด้านการลงทุนที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 4 ของสหรัฐฯ แต่ก็ไปไม่รอดและประกาศล้มลายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2008 วิกฤตเศรษฐกิจโลกเลยหละปีนั้นหนะ ด้วยสินทรัพย์ที่มีมูลค่าถึง $639 billion และมีหนี้สินถึง $619 billion แต่ก็ไปไม่รอด ถือว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีการล้มละลาย มีพนักงานทั่วโลกถึง 25,000 คน พอหละแค่นี้รู้เรื่องหละนะ)
    มาฟังคำพูดของ ศ.Joseph Stiglitz ต่อดีกว่า ศ.Joseph Stiglitz กล่าวว่า "มันเป็นโอกาสที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าธนาคารต่างๆจะไม่สามารถจัดการกับตลาดและระบบบัตรเครดิตได้อีก บางอย่างที่พวกเขาเคยทำมาเป็นประจำ... แต่โอบาม่ากล่าวว่า 'ไม่, พวกเราจำเป็นต้องปกป้องธนาคารเอาไว้ เพื่อให้พวกเขาทำอย่างที่พวกเขาเคยทำมาก่อนหน้านี้' และนี่คือสิ่งที่พวกเราได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่ละครั้งที่พวกคุณเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ The Financial Times หรือหนังสือพิมพ์อื่นๆฉบับไหนก็แล้วแต่ พวกคุณก็จะได้อ่านข่าวเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของธนาคารรายใหญ่ๆ" (จริงดิ? จริงครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกซักธนาคารหนึ่งเร็วๆนี้เอง ขอเล่าคำพูดของ ศ.Joseph Stiglitz ให้จบก่อนนะ)
    ศ.Joseph Stiglitz กล่าวเสริมอีกว่า "การต่อสู้แบบวิ่งระยะยาวสำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจ (เท่านั้น) ที่จะทำให้แน่ใจว่ามีการกระจายความยุติธรรมด้านความมั่งคั่งและต่อต้านกฎต่างๆในเกมที่มีแต่เพิ่มความไม่เท่าเทียมกัน สิ่งที่เกิดขึ้นในกรีซขณะนี้คือลางสังหรณ์ของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ในที่อื่นๆด้วย" (นี่คือคำเตือนจาก ศ.Joseph Stiglitz นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล)
    ตามที่บอกไว้ว่ามีอีกเคสหนึ่งที่จะเล่าให้ฟังก็คือ เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.58) รายงานจาก Sputnik news อ้างจากหนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษว่า ธนาคาร Barclays ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลกมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอนออกมาประกาศว่าจะปลดพนักงาน (layoff) ราว 30,000 อัตรา (ฮ่าๆๆ เจ๊ง!) แอบไปดูข้อมูลในวิกิมาหน่อยหนึ่งบอว่าในปี 2011 ธนาคาร Barclays ได้เลย์ออฟพนักงานไปแล้วถึง สองรอบโดยรอบแรกลดไปได้ 1,400 อัตรา และรอบที่สองลดอีก 1,600 อัตรา ในปี 2014 ธนาคารประกาศว่าจะลดพนักงานอีกราว 19,000 อัตราภายใน 3 ปี และลดไปแล้วเฉพาะในปี 2014 จำนวน 2,000 อัตรา โดยบอกว่าจะลดให้ได้ถึง 7,000 อัตราภายในปี 2016 (ก็ปีหน้านะสิ) ยังไม่ถึงปี 2016 เลย แค่กลางปี 2015 ซึ่งก็คือเมืื่อวานนี้เองทางธนาคารก็ออกมากประกาศใหม่อีกว่าจะลดพนักงานจำนวน 30,000 อัตรา (ฮ่าๆๆ) และเมื่อต้นเดือนนี้เองธนาคารแห่งนี้พึ่งจะปลด Antony Jenkins CEO ของธนาคารออกไปหยกๆ เงินสูงเกินไปผู้ถือหุ้นจ่ายไม่ไหว ฮ่าๆๆ
    ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมธนาคาร Barclays ถึงต้องมีชะตากรรมแบบนี้ เช็คข้อมูลเบื้องต้นพบว่า พี่แกไปซื้อหนี้เน่ามาจากธนาคาร Lehman Brothers ด้วยการเข้าซื้อกิจการต่อนั่นเอง แล้วทายาทการล้มลายจาก Lehman Brothers ก็กำลังตามมาหลอน Barclays ในปัจจุบันนี้ นั่นหมายความว่าอะไร? ก็หมายความว่าเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯและอียูกำลังจะแย่มากๆ อีกครั้ง และจะฉุดเศรษฐกิจโลกให้ล่วงตามไปด้วยนะสิ พี่ไทยเราตื่นตัวบ้างหรือยังก็ไม่รู้นะ ทำเป็นเล่นไปนะพวกที่ต้องการให้เอาเศรษฐกิจของไทยไปแขวนไว้กับการส่งออกไปแต่ยุโรปและอเมริกาเท่านั้น จะหัวทิ่มตามพวกเขาไปด้วยนะสิ
    พูดถึงเรื่องกรีซเพิ่มอีกซักหน่อยนะครับ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ศ.Yanis Varoufakis อดีตรมว.คลังของกรีซผู้ไม่ยอมก้มหัวให้เจ้าหนี้ สุดท้ายก็ถูกบีบออกจากโต๊ะเจรจาเจ้าหนี้และลาออกจากตำแหน่งขุนคลังของกรีซจนได้ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจแบบเจ้าหนี้กินรวบของกรีซว่า "ไปไม่รอดแน่ๆ" (อ๊ะ! ทำไมตรงกันกับของ ศ.Joseph Stiglitz เลยอ่ะ?) โดย ศ.Yanis Varoufakis กล่าวว่า "โปรแกรมนี้กำลังจะพัง ไม่ว่าใครก็ตามที่รับไปดำเนินการต่อ" (เขากล่าวกับบีบีซีเลยนะ) และวิจารณ์อีกว่า "แผนปฏิรูปกรีซ (ตามมาตรการของเจ้าหนี้ทรอยก้า) ถือว่าเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการจัดการเศรษฐกิจมหภาคเท่าที่เคยมีมา"
    ศ.Yanis Varoufakis ได้แสดงความเห็นใจต่อการตัดสินใจของนายกฯ Alexis Tsipras ที่ตกลงยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดของพวกเจ้าหนี้ว่าเนื่องจากเขาไม่มีทางเลือก Varoufakis กล่าวว่า "พวกเราได้รับข้อเสนอตัวเลือกระหว่างถูกประหารชีวิตกับการยอมจำนน (We were given a choice between being executed and capitulating) เท่านั้น และ Alexis Tsipras ก็ได้ตัดสินใจการยอมจำนนเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด" (เพราะอย่างนี้นี่เอง ศ.Yanis Varoufakis ถึงได้กล่าวว่าลาก่อนนะอเล็กซิส ไซปราส กระดูกนายยังอ่อนกว่าพวกเจ้าหนี้หลายระดับนัก)
    และวันนี้เอง Sputnik news ก็ลงข่าวอีกว่า "According to a new poll… ตามผลโพลครั้งใหม่บอกว่า Grexit (กรีซออกจากยูโรโซน) ยังเป็นไพ่อีกหนึ่งใบของกรีซ (ฮ่าๆๆ สะใจอ่ะ... เอ้า! หลอกเอาเงินพวกเจ้านี้มาอีก จ่ายคืนให้ IMF บ้าง เพื่อช่วยรักษาหน้าให้พวกนั้นซักบางส่วนก็ยังดี IMF รีบออกมาแถลงซะใหญ่โตเลยว่าได้เงินคืนจากกรีซแล้วโว้ยยย แม้จะเป็นบางส่วน ก็แหงหละ เจ้าหนี้พึ่งโอนไปให้หยกๆ แล้วก็ให้กรีซโอนกับมาให้เจ้าหนี้บางส่วน ทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่พอกกันขึ้นมาอีก) กรีซอาจจะถูกบังคับให้ออกจากอียูในปี 2016 (ว้าว!) ผลการสำรวจความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายได้แสดงให้เห็นว่า กรีซอาจจะยังปลอดภัยในปี 2015 นี้ แต่เงินช่วยเหลือ (หมายถึงเงินกู้รอบใหม่) จำนวน $93 billion (€86bn) จะไม่เพียงพอ (not enough)" (อ้อ.. โพลนี้จัดทำโดย Bloomberg นะครับ)
    แถมให้อีกหน่อยหนึ่งนะ... ตอนนี้ Finland ก็กำลังล่ารายชื่อออกจากยูโรโซน กำลังจะกลายเป็น Finnxit ตาม Brexit, Grexit, Auxit และ Frexit แล้ว ตอนนี้ล่ารายชื่อได้ 25,000 คนแล้ว และตามกฎหมายของเขาบอกว่าต้องให้ได้อย่างนี้ 50,000 รายชื่อถึงจะเสนอเรื่องเข้าสภาได้ ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ Nordic (Denmark, Finland, Iceland, Norway, and Sweden) ที่ใช้เปลี่ยนมาใช้เงินยูโร ส่วน Denmark and Sweden แม้จะเป็นสมาชิกของอียู แต่ก็ไม่ได้ใช้เงินยูโรด้วย ก็สบายไป
    The Eyes
    21/07/2558
    ----------
    Greece a Battlefield for Financial War - Nobel Winner Stiglitz / Sputnik International
    https://en.wikipedia.org/wiki/Joseph_Stiglitz
    http://www.investopedia.com/…/…/lehman-brothers-collapse.asp
    https://en.wikipedia.org/wiki/Bankruptcy_of_Lehman_Brothers
    https://en.wikipedia.org/wiki/Lehman_Brothers
    Greece Economic Reforms Doomed – Ex-Finance Minister / Sputnik International
    The Big Fat Problem for Greece: The Bailout Will Never Be Big Enough / Sputnik International
    'Finnxit'? Eurozone Exit Initiative Moving Toward Finnish Parliament / Sputnik International
     

แชร์หน้านี้

Loading...