ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kemjira Maneechot

    [​IMG]

    ดาวหางฮัลเลย์ ฑูตอาถรรพ์แห่งจักรวาล มีความเป็นมาอย่างไร
    มนุษย์โลกเคยได้ยืนชื่อดาวหาง มาข้านานแล้ว แต่โอการที่เราจะได้เห็นดาวหางนั้น ดูเหมือนว่าจะน้อยเต็มที โดยเฉพาะดาวหางฮัลเลย์ซึ่งงมีกิติศัพท์ก้องโลกนั้น น้อยคนนักจะได้มีโอกาสเห็น เพราะอายุขัยของคนเรา บางคนก็มีไม่เท่ากัน การปรากฏตัว ของดาวหางฮัลเลย์ นั้นยาวนานถึงประมาณ 76 ปี ดางหางคืออะไร ? นี่เป็นคำถามที่ทุกคนน่าจะได้รับคำตอบเป็นเบื้องต้น ดาวหาง ก็คือปรากฏการณ์ของธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถจะเห็นได้บ่อยนัก ลักษณะรูปร่างของมันคล้ายผีพุ่งใต้ทว่ามีกำลังส่องสว่างสูงและมีลำแสงส่วนหางยาวมาก ในระบบสุริยะจักรวาลของเรานี้ มีดาวหางอยู่ประมาณสองล้านดวง ซึ่งโคจรไปในอวกาศอันเวิ้งว้างด้วยความเร็ว 700 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือถึง 1,250,000 ไมล์ต่อชั่วโมงและจะเดินรอบดวงอาทิตย์ เป็นเวลานานมาแล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดาวหางประกอบไปด้วยกลุ่มของแข็งเม็ดเล็ก ๆ ที่มารวมตัวกันด้วยแรงดึงดูดในตัวเอง เดี๋ยวนี้ทฤษฎีดังกล่าวได้เปลี่ยนไป นักวิทยาศาสตร์ เชื่อกันว่าดาวหางประกอบไปด้วยกลุ่มเมฆมหึมาที่ห่อหุ้มระบบสุริยะจักรวาล เรียกว่า " กลุ่มเมฆออร์ต" คาดกันว่ากลุ่มเทฆนี่มีดาวหางอยู่ประมาณ 10 กำลัง 1 ถึง 12 กำลัง 12 ดวง โดยแต่ละดวงจะมีมวลราว 2-3% ของมวลของโลก ดาวหางแต่ละดวงมีองค์ประกอบ ที่เริ่มแรกของระบบสุริยะครบถ้วน ทั้งยังมีเหตุผลที่น่าเชื่อว่ากลุ่มเมฆออร์ตดัวกล่าวนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับระบบสุริยะ "กลุ่มเมฆออร์ต" อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 50,000 ถึง 150,000 หน่วยดาราศาสตร์ ( 1 หน่วยดาราศาสตร์ เท่ากับ 1 ล้านกิโลเมตร ) โครงสร้างดาวหางนั้นมีอยู่ 3 ส่วนคือ 1. นิวเครียส ( Nucleus) 2. โคม่า ( Coma) 3 ส่วนหาง (Tails) นิวเครียสและโคม่านั้นคือส่วนหัวของดาวหาง ประกอบไปด้วยกลุ่มเมฆ ฝุ่น และเกล็ดน้ำแข็ง ตลอดจนโมเลกุลของสารหลายชนิด เป็นก้อนใหญ่ซึ่งเรียกกันว่า "ก้อนหิมะสกปรก" โคม่านั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ล้านไมล์ ทันทีที่เคลื่อนผ่านดาวงอาทิตย์ อนุภาคเล็ก ๆ ของก๊าซ และน้ำจะถูกผลักให้ทางด้านหลังเกิดเป็นหาง ส่วนหางประกอบด้วยหาง 2 ชนิดคือ ฝุ่นซึ่งประกอบด้วยซิลิเกตเป็นส่วนใหญ่ มีสีเหลืองและโค้ง ชนิดที่ 2 คือหางพลาสมา ประกิบด้วย CO เป็นส่วนใหญ่ มีสีน้ำเงิน และตรงหางจากดาวหางจะชี้ในทิศตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เสมอ เนื่องจากผลของลมสุริยะ ดาวหางฮัลเลย์ ฑูตอาถรรพ์แห่งจักรวาล มีีความเป็นมาอย่างไร ดางหางฮัลเลย์ เป็นชื่อของดาวหาง ซึ่งถูกค้นพบโดยเอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ เขาเคยมีชีวิตอยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2199 - 2285 บุคคลผู้นี้ได้เคยคำนวน ทางโคจรของดาวหางดวงนี้ และพบว่ามันเคยปรากฏมาแล้วในปี พ.ศ. 2074, 2150 และ 2225 คือมีหางโคจรเหมือนกัน เอ็ดมัน ฮัลเลย์ ได้สรุปการค้นคว้าของเขาว่าดาวที่ปรากฏทั้ง 3 ครั้งนั้นเป็นดาวหางดวงเดียวกัน หากแต่มันได้โคจรวกวนเข้ามาในระบบสุริยะจักรวาล ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยมีคาบโคจรทุก 76 ปี ( ดวงอื่น ๆ อาจจะ 79 ปี) นอกจากนั้นแล้วเขายังได้ทำนายไว้ล่วงหน้าว่า ดาวหางดวงนี้จะปรากฏขึ้นทุก ๆ 76 ปี ซึ่งจะครบคาบโคจรในปี พ.ศ 2301 และมันก็ปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น หากแต่ผู้ทำนาย ได้จากโลกนี้ไปเสียก่อน ดังนั้นดาวหางดังกล่าวจะถูกตั้งชื่อว่า "ดาวหางฮัลเลย์" หลังจากคำทำนายของเอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ได้เกิดขึ้นแล้วดาวหางดวงเดียวกันนี้ก็ได้ปรากฏให้ชาวโลกได้เห็นตามวาระ คาบโคจรของมันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2528 ซึ่งการปรากฏตัวครั้งล่าสุดนี้ โลกมนุษย์ตื่นเต้นกันมาก และผู้ที่เกิดมาเห็นดาวหางฮัลเลย์ในปีดังกล่าวนี้ ก็จะไม่มีโอกาสเห็นการกลับมาของมันอีกเพราะกว่าจะถึงวันนั้นเราก็ไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว เหตุผลที่มนุษย์มีความตื่นเต้น กับการมาของดาวหางฮัลเลย์นั้น เนื่องจากมีความเชื่่อทางโหราศาสตร์ว่า ดาวหางนั้นเป็นฑูตแห่งโชคร้ายแก่โลกหรือการนำมาซึ่งภัยพิบัติแก่โลก มนุษย์นักดาราศาสตร์ที่เชื่อเรื่องโหราศาสตร์ได้สรุปความวิบัติเกี่ยวกับดาวหางฮัลเลย์ได้ดังนี้ 1. ดาวหางฮัลเลย์ จะบอกเหตุแห่งความหิวโหย เกิดโรคระบาด และสงคราม 2. จะนำมาซึ่งการสูญเสียของกษัตริย์, ผู้นำประเทศหรืออาณาจักรใหญ่น้อยบนโลกมนุษย์ 3. จะนำมาซึ่งการเกิด วินาศภัยจากพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ นักโหราศาสตร์ยังสรุปภัยพิบัติ 3 ประการนี้ไว้อีกว่าประสบการณ์ในอดีต มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับมนุษย์ คือ ปี พ.ศ 532 การมาเยือนครั้งที่ 4 ตามบันทึกปรากฏว่าอกริปปา นักปรัญญาจอมพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ของยุโรปแห่งศตรรษที่ 15 ถึงแก่ความตาย ปี พ.ศ 609 การมาเยือนครั้งที่ 5 เป็นลางร้ายทำให้เกิดความพินาศแก่นครเบรูซาเล็ม ปี พ.ศ 994 การมาเยือนครั้งที่ 10 ขุนพลฮัน พ่ายสงครามแห่งซาลอนส์ ปี พ.ศ 1609 การมาเยือนครั้งที่ 18 เกิดสงครามเฮสทิงส์ เกาะอังกฤษถูกพระเจ้าวิลเลี่ยมยึดได้ ปี พ.ศ 1765 การมาเยือนครั้งที่ 20 พระเจ้าฟิลลิปออกัสตัส แห่งฝรั่งเศสสิ้นพระชนม์ ปี พ.ศ 2453 การมาเยือนครั้งที่ 29 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ทั้งหมดนั้นเป็นตำทำนายในอดีต แต่สำหรับในการมาเยือนของฮัลเลย์ในเดือนธันวาคม 2528 ที่ผ่านมา คำทำนายปรากฏให้เห็นทุกส่วนของโลก ที่เห็นชัดเจนคือ โรคเอดส์มาเยือนโรคมนุษย์ อันที่จริงแล้วปรากฏการณ์ ของดาวหางฮัลเลย์เคยมีมาในโลกก่อนที่เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์จะค้นพบเสียอีก แต่ในสมัยก่อนมนุษย์รู้จักดาวหางดวงนี้ ในนามของดาวหางสุกสว่างดวงหนึ่ง จากหลักฐานในประวัติศาสตร์ ปรากฏว่า ในปี พ.ศ 77 นั้น จีนโบราณเคยบันทึกดาวหาง ที่อาจจะเป็นดาวหางฮัลเลย์ก็ได้ แต่หลักฐานไม่แน่นอนนัก อย่างไรก็ตตามการจดบันทึกหลักฐาน การปรากฏของดาวหางฮัลเลย์ครั้งแรกในโลกนั้นมาเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ปี 304 ซึ่งบันทึกไว้ว่า ดาวหางดวงนี้ชาวจีน ได้เห็นปรากฏทางทิศตะวันออก ในการจดบันทึกสมัยต่อ ๆ มา มีการจดไว้ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ และมันจะมาปรากฏให้เห็น ตรงตามกำหนด 76 ปี ไม่เคยคลาดเคลื่อนเลยสักครั้งเดียว ใครที่มีอายุยืนถึงปี พ.ศ 2604 คอยดูให้ดี
    รูปภาพ : Kemjira Maneechot

    ดาวหางฮัลเลย์ ฑูตอาถรรพ์แห่งจักรวาล มีความเป็นมาอย่างไร
    มนุษย์โลกเคยได้ยืนชื่อดาวหาง มาข้านานแล้ว แต่โอการที่เราจะได้เห็นดาวหางนั้น ดูเหมือนว่าจะน้อยเต็มที โดยเฉพาะดาวหางฮัลเลย์ซึ่งงมีกิติศัพท์ก้องโลกนั้น น้อยคนนักจะได้มีโอกาสเห็น เพราะอายุขัยของคนเรา บางคนก็มีไม่เท่ากัน การปรากฏตัว ของดาวหางฮัลเลย์ นั้นยาวนานถึงประมาณ 76 ปี ดางหางคืออะไร ? นี่เป็นคำถามที่ทุกคนน่าจะได้รับคำตอบเป็นเบื้องต้น ดาวหาง ก็คือปรากฏการณ์ของธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถจะเห็นได้บ่อยนัก ลักษณะรูปร่างของมันคล้ายผีพุ่งใต้ทว่ามีกำลังส่องสว่างสูงและมีลำแสงส่วนหางยาวมาก ในระบบสุริยะจักรวาลของเรานี้ มีดาวหางอยู่ประมาณสองล้านดวง ซึ่งโคจรไปในอวกาศอันเวิ้งว้างด้วยความเร็ว 700 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือถึง 1,250,000 ไมล์ต่อชั่วโมงและจะเดินรอบดวงอาทิตย์ เป็นเวลานานมาแล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดาวหางประกอบไปด้วยกลุ่มของแข็งเม็ดเล็ก ๆ ที่มารวมตัวกันด้วยแรงดึงดูดในตัวเอง เดี๋ยวนี้ทฤษฎีดังกล่าวได้เปลี่ยนไป นักวิทยาศาสตร์ เชื่อกันว่าดาวหางประกอบไปด้วยกลุ่มเมฆมหึมาที่ห่อหุ้มระบบสุริยะจักรวาล เรียกว่า " กลุ่มเมฆออร์ต" คาดกันว่ากลุ่มเทฆนี่มีดาวหางอยู่ประมาณ 10 กำลัง 1 ถึง 12 กำลัง 12 ดวง โดยแต่ละดวงจะมีมวลราว 2-3% ของมวลของโลก ดาวหางแต่ละดวงมีองค์ประกอบ ที่เริ่มแรกของระบบสุริยะครบถ้วน ทั้งยังมีเหตุผลที่น่าเชื่อว่ากลุ่มเมฆออร์ตดัวกล่าวนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับระบบสุริยะ "กลุ่มเมฆออร์ต" อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 50,000 ถึง 150,000 หน่วยดาราศาสตร์ ( 1 หน่วยดาราศาสตร์ เท่ากับ 1 ล้านกิโลเมตร ) โครงสร้างดาวหางนั้นมีอยู่ 3 ส่วนคือ 1. นิวเครียส ( Nucleus) 2. โคม่า ( Coma) 3 ส่วนหาง (Tails) นิวเครียสและโคม่านั้นคือส่วนหัวของดาวหาง ประกอบไปด้วยกลุ่มเมฆ ฝุ่น และเกล็ดน้ำแข็ง ตลอดจนโมเลกุลของสารหลายชนิด เป็นก้อนใหญ่ซึ่งเรียกกันว่า "ก้อนหิมะสกปรก" โคม่านั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ล้านไมล์ ทันทีที่เคลื่อนผ่านดาวงอาทิตย์ อนุภาคเล็ก ๆ ของก๊าซ และน้ำจะถูกผลักให้ทางด้านหลังเกิดเป็นหาง ส่วนหางประกอบด้วยหาง 2 ชนิดคือ ฝุ่นซึ่งประกอบด้วยซิลิเกตเป็นส่วนใหญ่ มีสีเหลืองและโค้ง ชนิดที่ 2 คือหางพลาสมา ประกิบด้วย CO เป็นส่วนใหญ่ มีสีน้ำเงิน และตรงหางจากดาวหางจะชี้ในทิศตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เสมอ เนื่องจากผลของลมสุริยะ ดาวหางฮัลเลย์ ฑูตอาถรรพ์แห่งจักรวาล มีีความเป็นมาอย่างไร ดางหางฮัลเลย์ เป็นชื่อของดาวหาง ซึ่งถูกค้นพบโดยเอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ เขาเคยมีชีวิตอยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2199 - 2285 บุคคลผู้นี้ได้เคยคำนวน ทางโคจรของดาวหางดวงนี้ และพบว่ามันเคยปรากฏมาแล้วในปี พ.ศ. 2074, 2150 และ 2225 คือมีหางโคจรเหมือนกัน เอ็ดมัน ฮัลเลย์ ได้สรุปการค้นคว้าของเขาว่าดาวที่ปรากฏทั้ง 3 ครั้งนั้นเป็นดาวหางดวงเดียวกัน หากแต่มันได้โคจรวกวนเข้ามาในระบบสุริยะจักรวาล ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยมีคาบโคจรทุก 76 ปี ( ดวงอื่น ๆ อาจจะ 79 ปี) นอกจากนั้นแล้วเขายังได้ทำนายไว้ล่วงหน้าว่า ดาวหางดวงนี้จะปรากฏขึ้นทุก ๆ 76 ปี ซึ่งจะครบคาบโคจรในปี พ.ศ 2301 และมันก็ปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น หากแต่ผู้ทำนาย ได้จากโลกนี้ไปเสียก่อน ดังนั้นดาวหางดังกล่าวจะถูกตั้งชื่อว่า "ดาวหางฮัลเลย์" หลังจากคำทำนายของเอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ได้เกิดขึ้นแล้วดาวหางดวงเดียวกันนี้ก็ได้ปรากฏให้ชาวโลกได้เห็นตามวาระ คาบโคจรของมันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2528 ซึ่งการปรากฏตัวครั้งล่าสุดนี้ โลกมนุษย์ตื่นเต้นกันมาก และผู้ที่เกิดมาเห็นดาวหางฮัลเลย์ในปีดังกล่าวนี้ ก็จะไม่มีโอกาสเห็นการกลับมาของมันอีกเพราะกว่าจะถึงวันนั้นเราก็ไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว เหตุผลที่มนุษย์มีความตื่นเต้น กับการมาของดาวหางฮัลเลย์นั้น เนื่องจากมีความเชื่่อทางโหราศาสตร์ว่า ดาวหางนั้นเป็นฑูตแห่งโชคร้ายแก่โลกหรือการนำมาซึ่งภัยพิบัติแก่โลก มนุษย์นักดาราศาสตร์ที่เชื่อเรื่องโหราศาสตร์ได้สรุปความวิบัติเกี่ยวกับดาวหางฮัลเลย์ได้ดังนี้ 1. ดาวหางฮัลเลย์ จะบอกเหตุแห่งความหิวโหย เกิดโรคระบาด และสงคราม 2. จะนำมาซึ่งการสูญเสียของกษัตริย์, ผู้นำประเทศหรืออาณาจักรใหญ่น้อยบนโลกมนุษย์ 3. จะนำมาซึ่งการเกิด วินาศภัยจากพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรืออุบัติเหตุอื่น ๆ นักโหราศาสตร์ยังสรุปภัยพิบัติ 3 ประการนี้ไว้อีกว่าประสบการณ์ในอดีต มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับมนุษย์ คือ ปี พ.ศ 532 การมาเยือนครั้งที่ 4 ตามบันทึกปรากฏว่าอกริปปา นักปรัญญาจอมพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ของยุโรปแห่งศตรรษที่ 15 ถึงแก่ความตาย ปี พ.ศ 609 การมาเยือนครั้งที่ 5 เป็นลางร้ายทำให้เกิดความพินาศแก่นครเบรูซาเล็ม ปี พ.ศ 994 การมาเยือนครั้งที่ 10 ขุนพลฮัน พ่ายสงครามแห่งซาลอนส์ ปี พ.ศ 1609 การมาเยือนครั้งที่ 18 เกิดสงครามเฮสทิงส์ เกาะอังกฤษถูกพระเจ้าวิลเลี่ยมยึดได้ ปี พ.ศ 1765 การมาเยือนครั้งที่ 20 พระเจ้าฟิลลิปออกัสตัส แห่งฝรั่งเศสสิ้นพระชนม์ ปี พ.ศ 2453 การมาเยือนครั้งที่ 29 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ทั้งหมดนั้นเป็นตำทำนายในอดีต แต่สำหรับในการมาเยือนของฮัลเลย์ในเดือนธันวาคม 2528 ที่ผ่านมา คำทำนายปรากฏให้เห็นทุกส่วนของโลก ที่เห็นชัดเจนคือ โรคเอดส์มาเยือนโรคมนุษย์ อันที่จริงแล้วปรากฏการณ์ ของดาวหางฮัลเลย์เคยมีมาในโลกก่อนที่เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์จะค้นพบเสียอีก แต่ในสมัยก่อนมนุษย์รู้จักดาวหางดวงนี้ ในนามของดาวหางสุกสว่างดวงหนึ่ง จากหลักฐานในประวัติศาสตร์ ปรากฏว่า ในปี พ.ศ 77 นั้น จีนโบราณเคยบันทึกดาวหาง ที่อาจจะเป็นดาวหางฮัลเลย์ก็ได้ แต่หลักฐานไม่แน่นอนนัก อย่างไรก็ตตามการจดบันทึกหลักฐาน การปรากฏของดาวหางฮัลเลย์ครั้งแรกในโลกนั้นมาเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ปี 304 ซึ่งบันทึกไว้ว่า ดาวหางดวงนี้ชาวจีน ได้เห็นปรากฏทางทิศตะวันออก ในการจดบันทึกสมัยต่อ ๆ มา มีการจดไว้ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ และมันจะมาปรากฏให้เห็น ตรงตามกำหนด 76 ปี ไม่เคยคลาดเคลื่อนเลยสักครั้งเดียว ใครที่มีอายุยืนถึงปี พ.ศ 2604 คอยดูให้ดี
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kemjira Maneechot

    [​IMG]

    วันนี้โลกเราจะโคจรผ่านกระแสฝุ่นของดาวหางฮัลเลย์ METEOR SHOWER PEAKING NOW: Today, Earth is passing through a stream of dusty debris from Halley's Comet, source of the annual eta Aquarid meteor shower. "The Canadian Meteor Orbit Radar (CMOR) CMOR is detecting peak activity from the eta Aquarid stream today," reports Prof. Peter Brown of the University of Western Ontario. "In our radar data, the shower shows up as a strong, point-like source emanating from the head of Aquarius." Click to view the latest CMOR all-sky map
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "ปูติน" วอนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเลื่อนประชามติ 8 พฤษภาคม 2557 เวลา 11:56 น.

    [​IMG]

    "วลาดิเมียร์ ปูติน" ผู้นำรัสเซีย เรียกร้องให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซีย ทางภาคตะวันออกของยูเครน เลื่อนแผนลงประชามติเพื่อขอแตกตัวออกจากยูเครน ออกไปก่อน

    วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะหาทางช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาวิกฤตในยูเครน และเพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสม สำหรับเจรจาแก้วิกฤต ผู้นำรัสเซียจึงขอให้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนระงับแผนจัดลงประชามติในวันที่ 11 พ.ค.นี้ไว้ก่อน นอกจากนั้นประธานาธิบดีปูติน ยังยอมอ่อนท่าทีลงด้วยการ สนับสนุนแผนจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนในวันที่ 25 พ.ค. นี้ว่า เป็นแนวทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสูทางออกของวิกฤตในประเทศยูเครนหลังจากก่อนหน้านี้ รัสเซียตำหนิการจัดการเลือกตั้งในวันดังกล่าวมาตลอดว่าเป็นสิ่งไร้สาระ

    ทั้งนี้ กลุ่มเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนที่นิยมรัสเซีย ได้บุกยึดอาคารราชหารหลายแห่งในดินแดนต่างๆ ทางภาคตะวันออกไม่ว่าจะเป็นที่โดเนตส์ และลูฮานส์ ต่างแถลงแผนจัดลงประชามติแยกตัวออกจากยูเครน หลังจากไคเมียได้มีการลงประชามติขอแยกตัวไปก่อนหน้านี้ และรัฐบาลรัสเซียได้ผนวกดินแดนไครเมียเป็นส่วนเหนึ่งของรัสเซียในเวลาต่อมา

    ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

    "ปูติน" วอนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเลื่อนประชามติ - Spring News
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กองทัพเรือจีนและเวียดนามปะทะเดือด! ในทะเลจีนใต้
    8 พฤษภาคม 2557 เวลา 13:26 น.

    [​IMG]

    เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของเวียดนามและจีนในทะเลจีนใต้ หลังกองทัพเรือเวียดนามพยายามป้องกันไม่ให้เรือของจีนเข้าไปติดตั้งฐานขุดเจาะแท่นน้ำมันในน่านน้ำดังกล่าว (ดูรูป)

    เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของกองทัพเรือเวียดนามและเรือของจีนในทะเลจีนใต้ โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากกองทัพเรือเวียดนามพยายามป้องกันไม่ให้เรือของจีนเข้าไปติดตั้งฐานขุดเจาะแท่นน้ำมันในน่านน้ำดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศล้วนกล่าวอ้างอธิปไตย ทั้งนี้รายงานระบุว่า ไม่มีการยิงปะทะกัน แต่เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่ามีการฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของเวียดนาม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำของเวียดนามเปิดเผยต่อสื่อของเวียดนามว่า เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของทั้ง 2 ฝ่ายถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนยืนยันว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของจีน

    นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุตำรวจฟิลิปปินส์เข้ายึดเรือประมงของจีนลำหนึ่งในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่ตกเป็นข้อพิพาทกันอยู่ และควบคุมตัวลูกเรือ 11 เอาไว้ อย่างไรก็ตาม ทางการฟิลิปปินส์ออกมายืนยันการจับกุมดังกล่าวจริง แต่ระบุด้วยว่าไม่ได้ต้องการทำให้ความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายทวีความรุนแรงมากขึ้น

    ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
    รูปภาพ : กองทัพเรือจีนและเวียดนามปะทะเดือด! ในทะเลจีนใต้
    8 พฤษภาคม 2557 เวลา 13:26 น.

    เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของเวียดนามและจีนในทะเลจีนใต้ หลังกองทัพเรือเวียดนามพยายามป้องกันไม่ให้เรือของจีนเข้าไปติดตั้งฐานขุดเจาะแท่นน้ำมันในน่านน้ำดังกล่าว (ดูรูป)

    เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของกองทัพเรือเวียดนามและเรือของจีนในทะเลจีนใต้ โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากกองทัพเรือเวียดนามพยายามป้องกันไม่ให้เรือของจีนเข้าไปติดตั้งฐานขุดเจาะแท่นน้ำมันในน่านน้ำดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 ประเทศล้วนกล่าวอ้างอธิปไตย ทั้งนี้รายงานระบุว่า ไม่มีการยิงปะทะกัน แต่เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่ามีการฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของเวียดนาม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำของเวียดนามเปิดเผยต่อสื่อของเวียดนามว่า เกิดการปะทะกันระหว่างเรือของทั้ง 2 ฝ่ายถึง 3 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนยืนยันว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของจีน

    นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุตำรวจฟิลิปปินส์เข้ายึดเรือประมงของจีนลำหนึ่งในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่ตกเป็นข้อพิพาทกันอยู่ และควบคุมตัวลูกเรือ 11 เอาไว้ อย่างไรก็ตาม ทางการฟิลิปปินส์ออกมายืนยันการจับกุมดังกล่าวจริง แต่ระบุด้วยว่าไม่ได้ต้องการทำให้ความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายทวีความรุนแรงมากขึ้น

    ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทำไม 'แผ่นดิน' ถึงไหว??? แล้วมาจับตา..แนวโน้มการเกิด 'แผ่นดินไหว' ในอนาคต! โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 พ.ค. 2557 05:35

    [​IMG]

    "ภัยธรรมชาติ" ที่บางครั้ง มักมาแบบไม่ทันให้ใครตั้งตัว หรือบางครั้ง มนุษย์ก็เตรียมพร้อมทุกสิ่งอย่างเรียบร้อย แต่แล้ว... "ความเสียหาย" ก็ยังมีอยู่ไม่น้อยอยู่ดี...

    หลายคนก็อาจจะรับรู้ รับทราบ เรื่อง "แผ่นดินไหว" กันมามากแล้ว แต่อีกหลายคนก็ยังคงสงสัยว่า ทำไมแผ่นดินจึงไหว??? จนเมื่อล่าสุดเย็นวันที่ 5 พ.ค. 57 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศไทย ขนาด 6.3 โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย สร้างความเสียหายไม่น้อย แก่สิ่งของ บ้านเรือน อาคาร วัด สถานโบราณ ถนน รวมถึงห้างร้าน โรงแรมอีกหลายแห่ง "ไทยรัฐออนไลน์" จึงได้นำข้อมูลจากสำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา มาตีแผ่แบบเฉพาะ ว่าแท้จริงแล้ว...แผ่นดินไหวเกิดจากอะไร ??? และมีสาเหตุมาจากอะไร ???

    การเกิดแผ่นดินไหว อาจมีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดภายในโลก ภายนอกโลก หรือทั้งภายในและภายนอกโลก

    โดย แผ่นดินไหวที่เกิดภายในโลก อาจเกิดจากรอยเลื่อน ระเบิดใต้ดิน การไหลหมุนเวียนของน้ำใต้ดิน การเคลื่อนตัวของหินหลอมละลาย การเปลี่ยนแปลงสถานะใต้ดิน การทำเหมือง และการยุบตัวใต้ดิน

    ส่วน แผ่นดินไหวที่เกิดนอกโลก จะเกิดจากลม ความดันบรรยากาศ คลื่นในทะเล น้ำขึ้นหรือลง ความสั่นสะเทือนจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น จราจร ระเบิดเป็นต้น และการชนของอุกาบาต

    และสุดท้าย แผ่นดินไหวที่เกิดจากทั้งภายในและภายนอกโลก คือ การระเบิดของภูเขาไฟ และแผ่นดินถล่ม

    [​IMG]
    ทำไม 'แผ่นดิน' ถึงไหว???


    ขอยกตัวอย่าง การเกิดแผ่นดินไหวโดยธรรมชาติ ก็มีอย่างเช่น แผ่นดินไหวเกิดจากแรงภายในเปลือกโลก (Tectonic Earthquake), แผ่นดินไหวเกิดจากภูเขาไฟระเบิด (Volcano Eruption), แผ่นดินไหวเกิดจากการยุบตัวหรือพังทลายของโพรงใต้ดิน (Implosion), ความสั่นสะเทือนจากคลื่นมหาสมุทร (Oceanic Microseism)

    และ การเกิดแผ่นดินไหวโดยการกระทำของมนุษย์ ก็เช่น เหตุการณ์ที่ควบคุมได้ เช่น การระเบิด หรือจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ เช่น การจราจร เครื่องจักรเครื่องยนต์ การระเบิดบนพื้นผิวหรือใต้ดิน เป็นต้น, แผ่นดินไหวจากการกระตุ้น เช่น การสร้างอ่างเก็บน้ำ การทำเหมือง การฉีดของเหลวลงใต้ดิน เป็นต้น

    สำหรับแผ่นดินไหวที่ทำความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์เป็นจำนวนมาก ได้แก่ แผ่นดินไหวซึ่งเกิดจากแรงภายในเปลือกโลก ปัจจัยที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเนื่องจากแรงภายในเปลือกโลก คือ

    1.ลักษณะโครงสร้างของโลก ซึ่งสามารถแบ่งได้คร่าวๆ เป็น 3 ส่วน คือ

    -ส่วนที่เป็นแกนโลกอยู่ลึกที่สุดและมีอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งเป็นต้นกำเนิดทำให้ชั้นหินหลอมละลายมีการเคลื่อนตัว

    -ส่วนที่เป็นชั้นหินหลอมละลาย เป็นของแข็ง แต่มีคุณสมบัติของการเคลื่อนตัวคล้ายของเหลว แต่มีความเร็วช้ามากอยู่ในระดับหลายเซนติเมตรต่อปี

    -ส่วนที่เป็นเปลือกโลก เปลือกโลกที่ห่อหุ้มโลกอยู่มีความหนาน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของโลก และไม่ได้เป็นชิ้นเดียวกัน แบ่งออกเป็นชิ้นใหญ่ๆได้ประมาณ 10 ชิ้น

    [​IMG]
    ทำไม 'แผ่นดิน' ถึงไหว???


    2. การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกชิ้นต่างๆ

    เนื่องจาก ชั้นหินหลอมละลาย ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวขึ้นผลักดันเปลือกโลกอยู่ตลอดเวลา เปลือกโลกแต่ละชิ้น จะมีทิศทางการเคลื่อนตัวต่างๆ กัน พร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณตรงขอบของเปลือกโลก จึงเป็นส่วนที่มีการชนกันหรือเสียดสีกันหรือแยกจากกัน หากบริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกใดๆ ที่ไม่สามารถทนแรงอัดได้ ก็จะแตกหัก และมีการเคลื่อนตัวโดยฉับพลัน หรือบางครั้งผลักดันให้เปลือกโลกอีกชิ้นคดโค้ง ต่อจากนั้นเมื่อสะสมพลังงานมาก ก็จะดีดตัวกลับเพื่อรักษาสมดุลย์ กระตุ้นให้เกิดความสั่นสะเทือน แผ่กระจายไปทุกทิศทาง บริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่

    โดยบริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก เป็นบริเวณแนวแผ่นดินไหวของโลก หากพาดผ่านหรืออยู่ใกล้กับประเทศใด ประเทศนั้นจะมีความเสี่ยงต่อภัยแผ่นดินไหวค่อนข้างสูง เช่น ประเทศญี่ปู่น ฟิลิปปินส์ ชิลี สหรัฐอเมริกา เป็นต้น นอกจากนั้นแรงที่สะสมในเปลือกโลก ยังถูกส่งผ่านเข้าไปในพื้นทวีปตรงบริเวณรอยร้าวของหินใต้พื้นโลก หรือที่เรียกว่า รอยเลื่อน (Fault) ในกรณีที่รอยเลื่อนใดๆ ไม่สามารถทนแรงที่บดอัดได้ ก็จะมีการเคลื่อนตัวอย่างฉับพลันเช่นกัน เพื่อปรับความสมดุลย์ของแรง กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว กระจายคลื่นความสั่นสะเทือนไปทุกทิศทาง เรียกบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวภายในเปลือกโลกใต้พื้นดิน ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่แท้จริง และเรียกบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว ตรงผิวพื้นข้างบน ซึ่งสามารถกำหนดพิกัดเป็นตำบลที่ละติจูดและลองจิจูด ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนผิวพื้น

    [​IMG]
    สภาพอาคารเรียน4ชั้น โรงเรียนพานพิทยาคม พังเสียหายทั้งหลัง จนต้องปิดทำการสอนไม่มีกำหนด

    นับสถิติ "แผ่นดินไหวในไทย"

    สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้บันทึกสถิติการเกิดแผ่นดินไหว ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.1905 จนถึง พ.ศ.2556 พบว่า ประเทศไทยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วประมาณ 148 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนครั้งที่ประชาชนรู้สึกได้ แต่หากนับในส่วนที่ไม่รู้สึกนั้น มีจำนวนมากมายมหาศาล!

    ทั้งนี้ แผ่นดินไหวที่มีขนาดเล็กที่สุด ที่ถูกบันทึกไว้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2521 ขนาด 1.6 และขนาดที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้ถูกบันทึกในสถิติชุดนี้ แต่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 5 พ.ค.57 ที่ผ่านมานี่เอง ทำให้ทุกฝ่ายจับจ้องเหตุการณ์ครั้งนี้ในทุกมิติ ทั้งมองว่า ปรากฏการณ์ในครั้งนี้ อาจเป็น "สัญญาณเตือน" ถึงการมาของภัยธรรมชาติ ที่อาจจะรุนแรงมากกว่านี้ หรือจะเป็นในมุมของความเสียหาย ทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สิน หรืออาจเป็นในด้านของการรับมือ

    เช่นเดียวกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ที่มองว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ อาจทำให้หน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันภัย กู้ภัย และช่วยเหลือ จากเหตุแผ่นดินไหว ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และประชาชนคนไทยเอง ก็ถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้กับการรับมือภัยพิบัติประเภทนี้ เพราะต้องยอมรับว่า เราทุกคนยังไม่คุ้นชินกับเหตุแผ่นดินไหวเท่าไหร่นัก


    จับตา! แนวโน้มของการเกิดแผ่นดินไหวในอนาคต

    "บุรินทร์ เวชบรรเทิง" ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว เปิดเผยกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงแนวโน้มในการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยในอนาคตว่า ไม่สามารถบอกได้ว่า แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวในอนาคตของประเทศ จะเป็นอย่างไร เพราะเราจะอ้างอิงข้อมูลจากสถิติที่เกิดขึ้นในอดีตเท่านั้น ซึ่งแผ่นดินไหวในประเทศไทยขนาด 5.0 ขึ้นไป จะเกิดขึ้นกับประเทศ 5 ปีต่อ 1 ครั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ในอนาคต..ความรุนแรงของแผ่นดินไหวนั้น จะมีเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ใช่ความรุนแรงของขนาด แต่เป็นเรื่องของความสูญเสีย เนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และต้องการหาที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจไม่รู้ว่า พื้นที่ตรงนั้นเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่

    นอกจากนี้ ทุกหน่วยงาน แม้ว่าจะมีการตื่นตัวมากยิ่งขึ้น แต่เรื่องของอุปกรณ์ที่จะรวบรวมข้อมูล และบุคลากร ที่เพิ่มขึ้นมาก ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะว่าการคาดการณ์เหตุภัยพิบัตินั้น จะต้องมีการทำข้อมูลอย่างต่อเนื่องหลายปี นอกจากนี้แล้ว การทำแผนเฝ้าระวัง ป้องกัน และกู้ชีพนั้น ยังต้องให้ความสำคัญ และต้องตรวจสอบว่า ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และบังคับใช้มากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกัน กฎหมายของการควบคุมการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ซึ่งเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ดังนั้น ภาครัฐจะต้องเตรียมพร้อมอย่างมากในการรับมือกับภัยพิบัติประเภทนี้

    "ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อลดความสูญเสียให้มากที่สุด รวมถึงการให้ความรู้กับประชาชนถึงแผ่นดินไหว ขณะที่ประชาชนเองต้องมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดเมื่อเกิดเหตุได้ด้วยตนเองก่อนในเบื้องต้น" นายบุรินทร์ กล่าว

    [​IMG]
    ยอดฉัตรเจดีย์วัดทรายขาว ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงใหม่ หักและวิหารแตกร้าวเสียหายหนัก


    เมื่อเกิดภัยพิบัติ สิ่งเหล่านี้ต้องไม่ขาดไป!

    ภับพิบัติในแต่ละประเภท จะมี "วิธีรับมือ" แตกต่างกัน ซึ่ง "ไทยรัฐออนไลน์" ขอแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ การเตรียมพร้อมก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว ระหว่างเกิดเหตุแผ่นดินไหว และหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

    หน่วยงานที่เกี่ยวกับการเตรียมพร้อม คือ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ศูนวิจัยภัยพิบัติแผ่นดินไหว ที่จะคอยบันทึึก และตรวจตราสถิติ รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ

    ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่กล่าวไป ก็ยังต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว ควบคู่ไปกับการรายงานข่าวผ่านสื่อมวลชน ที่ต้องคอยเฝ้าระวังสถานการณ์ที่ของการเกิดอาฟเตอร์ช็อก ในส่วนนี้เรายังเห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวกับการคมนาคม และการสื่อสาร ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ต ตลอดจนสื่อมวลชน จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ทั้งเรื่องเส้นทางการคมนาคม ความเสียหาย รวมไปถึงการออกมากู้ชีพของหน่วยงาน อย่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นต้น ที่จะต้องคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บ และกาจัดหาที่พักพิงชั่วคราวอีกด้วย

    จนล่วงเลยไปถึงหลังเหตุแผ่นดินไหว หน่วยงานที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูทั้งสิ่งแวดล้อม บ้านเรือน ถนน และจิตใจ ก็ยังต้องทำงานกันต่อไป ซึ่งอาจพูดได้ว่า ทุกๆ หน่วยงานนั้น จะต้องทำงานกันอย่างไม่หยุดหย่อน และต้องเตรียมพร้อมรับเหตุแผ่นดินไหวเสมอ

    แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ถือเป็นสัญญาณเตือน ว่า หน่วยงานและคนไทยทุกคน จะต้องพร้อมที่จะรับมือ และรู้จัก "ภัยพิบัติ" ประเภทนี้ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตราย ที่เราไม่มีทางรู้เลยว่า...จะมาถึงตัวเองเมื่อไหร่.

    [​IMG]
    ภาพมุมสูงความเสียหายจากแผ่นดินไหว

    ทำไม 'แผ่นดิน' ถึงไหว??? แล้วมาจับตา..แนวโน้มการเกิด 'แผ่นดินไหว' ในอนาคต! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เกิดหลุมหยุบตัวหน้าบ้านขนาดกว้าง ที่บ้านปางมุ้ง เชียงราย

    แผ่นดินไหวเป็นเหตุ เกิดหลุมยุบ ณ บ้านเจ้น้อย ปางมุ้ง"
    7/5/2014 เตือนระวังเกิดหลุมยุบ ดินถล่ม หลังเกิดแผ่นดินไหว และหลังจากเกิดฝนตกหนักโดยเฉพาะ บริเวณ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย และ รอบๆบริเวณรอยเลื่อนพะเยา นะครับ...

    [​IMG]

    [​IMG]

    อ้างอิงจากเฟสบุค : เตือนภัย พิบัติโลก

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แผ่นดินไหวเชียงราย ใกล้ตัว...ไกลเมือง
    โดย 8 พ.ค. 2557 05:01

    [​IMG]

    “อยู่บนรถ...อยู่ๆรถก็เหมือนโดนยกแรงมาก! พระห้อยในรถเหวี่ยงไปมา ตกใจนึกว่าใครมาแกล้ง รู้สึกวืดๆมึนๆ มองกระจกหลังไม่มีใคร สรุป...แผ่นดินไหวรุนแรงมาก

    นึกถึงในหนัง...ถ้าแรงมากขนาดที่รถไถไหลไปกับพื้นถนนที่เริ่มแตกแยก อันนั้นคงจะกลัวอยู่ แต่สองทุ่มแล้ว...ยังมึนหัวไม่หาย”

    เพื่อนคนหนึ่งแสดงความรู้สึกไว้ในเฟซบุ๊ก ระหว่างขับรถอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

    แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนี้ สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เกิดขึ้นที่ตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ขนาด 6.3 ริกเตอร์ ลึก 7 กิโลเมตร ทำให้รู้สึกสั่นไหวในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดเชียงราย ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ น่าน พะเยา หนองคาย เลย และกรุงเทพมหานคร

    “แผ่นดินไหว” เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน และมีความรุนแรงมากน้อยเพียงไร ในความเสี่ยงทั้งหมดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไปของธรรมชาติที่ไม่อาจเลี่ยงได้ แต่มนุษย์ป้องกันให้ได้รับผลกระทบเสียหายน้อยที่สุดได้

    ในประวัติศาสตร์ประเทศไทยเคยเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วราวปี 2088 พระเจดีย์หลวงแห่งนครเชียงใหม่ กลางเมืองเชียงใหม่...ยอดเจดีย์หักโค่นลงมา พร้อมๆกับเจดีย์โดยรอบๆ...ก็พังลงมา

    [​IMG]

    “แผ่นดินสะเทือนต่อไปอีกเป็นเดือน ซึ่งปัจจุบันนี้เราก็รู้กันว่า คือ...อาฟเตอร์ช็อก ยุคนั้นรู้เพียงว่าแผ่นดินผิดปกติ มันสั่นสะเทือน...แล้วก็ตามมาอยู่เรื่อยๆ”

    รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) บอกว่า อีกข้อความจริงที่ควรรู้ แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดทุกๆที่...ทุกๆแห่ง แต่เกิดเฉพาะบางตำแหน่ง...บางแนว...บางบริเวณเท่านั้นเอง อย่างญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวเยอะมาก ถ้าดูในแผนที่พิกัดแผ่นดินไหวจะเห็นจุดเต็มไปหมดจนมองแทบไม่เห็นประเทศ...

    “ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียก็เกิดถี่เพราะเป็นแนวที่มีแผ่นดินไหวมาก ฉะนั้นหากจะไล่แนวมาเรื่อยๆก็จะมาที่ทะเลอันดามัน ประเทศพม่า แล้วก็ประปรายอยู่ใกล้ๆเมืองไทย แนวแผ่นดินไหวนี้ ใครที่เคยเห็นภาพกราฟแสดงจุดเกิดแผ่นดินไหวที่แสดงเป็นรายครั้ง รายตำแหน่งก็อาจจะสงสัย ทำไม? ต้องเกิดตามแนวที่ว่านี้ด้วย”

    คำตอบมีว่า...แผนที่แสดงแผ่นเปลือกโลก โลกเรามีเปลือกโลกหลายชิ้น บางชิ้นก็ใหญ่...แผ่นแปซิฟิก บางชิ้นก็เล็ก...บางชิ้นก็มีขนาดกลางๆ และแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกบางแผ่นก็เข้ามาชนกัน เข้ามาเฉือนกัน ซึ่งแต่ละแผ่นจะมีการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆตลอดเวลา และก็เคลื่อนอย่างสม่ำเสมอ

    บางทีการเคลื่อนก็เคลื่อนเข้าหากัน แต่บางแนวก็เคลื่อนออกจากกัน ปัญหาอยู่ที่แนวแผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนเข้าหากัน จะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเยอะ

    แนวรอยต่อนี่เองที่เกิดแผ่นดินไหว ถ้าลองเอาเฉพาะบริเวณประเทศไทยมาขยายดู เราจะเห็นภาพที่ชัดขึ้น จะเห็นว่าแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนที่เราอยู่มีประเทศไทย เวียดนาม พม่า มาเลเซีย แล้วก็มีอีกแผ่นที่อินเดีย...ออสเตรเลียตั้งอยู่ที่เรียกว่าแผ่นอินโดออสเตรเลียน

    “สองแผ่นเปลือกโลกนี้มีรอยต่อกันอยู่ในทะเล แล้วแนวนี้ก็มีแผ่นดินไหวชุกชุม แล้วภายในแผ่นเราก็มีรอยร้าวมากมาย รอยร้าวที่เราเห็นมักจะเรียกว่ารอยเลื่อนนั้น...รอยเลื่อนนี้ แต่ความจริงคือรอยร้าวในแผ่นเปลือกโลก ซึ่งก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้”

    ต้องย้ำว่าแนวที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ชุกชุมกว่า และมีขนาดใหญ่กว่า...คือแนวระหว่างรอยต่อแผ่นเปลือกโลกแล้วแผ่นตัวล่างกำลังเคลื่อนเข้าหาแผ่นบน ด้วยอัตราความเร็วสม่ำเสมอ 65 มิลลิเมตรต่อปี

    แนวนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวอยู่เนืองๆ 8 ปีที่แล้วก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เริ่มบริเวณหัวเกาะสุมาตรา แล้วก็ไถลต่อเนื่องตามแนวรอยต่อขึ้นมาทางหมู่เกาะนิโคบา มาถึงหมู่เกาะอันดามัน กินแนวยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างมหาศาล

    รศ.ดร.เป็นหนึ่ง ย้ำว่า รอยเลื่อนในบ้านเราเป็นรอยแตกเล็กๆภายในเปลือก เกิดเพราะเปลือกมีการบิดเบี้ยวและถูกทำให้บิดเบี้ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    แรงที่ทำให้บิดเพราะมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา ไม่ต้องมีแผ่นดินไหวก็เกิดการสะสมพลังงานบิดเบี้ยวเพิ่มขึ้นทุกๆวันอยู่แล้วด้วยอัตราสม่ำเสมอ อาจจะเร็วขึ้น...ช้าลงขึ้นกับสภาพแผ่นดินไหวโดยรอบ

    “ตรงไหนถึงคิวก็จะระเบิด...ไม่จำเป็นต้องมีแผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์...9.1 ริกเตอร์แบบปี 47 รอยเลื่อนบ้านเราก็อันตรายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาสะสมพลังงานนานจนกว่าจะคลายออกมาเป็นแผ่นดินไหวสักที”

    เคยย้ำไปแล้วหลายครั้ง ที่น่าวิตกคือสิ่งที่เราควรจะเตรียมพร้อม แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...อาคารบ้านเรือนในภาคเหนือที่ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะรับมือแผ่นดินไหว...เขื่อนก็อยู่ในรายการที่มีความเสี่ยง แต่อาคารจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าเขื่อน ถ้าอาคารพังผู้คนก็เสี่ยงบาดเจ็บ เสียชีวิต

    จังหวัดทางภาคเหนือกับฝั่งตะวันตก...กาญจนบุรี ตาก เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด มีความเสี่ยงและโอกาสที่จะต้องเจอกับภัยแผ่นดินไหวได้มากกว่า เมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ

    ปัญหามีว่า...กฎหมายกำหนดว่าอาคารสูงเกินกว่า 15 เมตร ต้องออกแบบต้านทานแผ่นดินไหว อาคารที่ต่ำกว่า 15 เมตร ถ้าเป็นอาคารสาธารณะ อาคารที่เก็บวัสดุอันตรายก็ควรจะออกแบบรองรับต้านทานแผ่นดินไหว คำถามมีว่า...อาคารต่ำกว่า 15 เมตรของชาวบ้านล่ะ? พวกอาคารบ้านพัก อาคารพาณิชย์...จะต้องออกแบบให้ต้านทานแผ่นดินไหวหรือเปล่า?

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวในประเทศไทย หลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องไกลตัว หากจะบอกว่าเมืองไทยจะไม่เจอแผ่นดินไหวที่อันตราย คงไม่ได้แล้ว รศ.ดร.เป็นหนึ่ง บอกว่า เรามีโอกาส...แผ่นดินไหวอย่างที่เกิดขึ้นที่เมืองไครสต์เชิร์ช 6.3 ริกเตอร์ เราก็มี...เคยเกิดมาแล้ว เช่นที่จังหวัดน่าน 70 ปีมาแล้ว...ก็เกิด 6.5 ริกเตอร์ แล้วเมื่อห้า...หกปีก่อนก็เกิดที่ประเทศลาว อยู่ห่างจากเชียงรายไปแค่ 50 กิโลเมตร

    แผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ที่จังหวัดตาก แผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ ที่จังหวัดกาญจนบุรี แล้วก็มีแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์กว่าๆกระจายอยู่ทั่วภาคเหนือหลายครั้ง แผ่นดินไหวที่เป็นอันตรายพวกนี้เกิดขึ้นได้ แต่อาจจะเกิดไปอีกสิบ...อีกร้อยครั้ง โดยที่ไม่ทำให้เกิดภัยพิบัติเลยก็ได้

    ในโลกนี้แผ่นดินไหว 5 ริกเตอร์ เกิดปีละ 1,500 ครั้ง แต่ที่เป็นข่าวมีนิดเดียว และขนาด 6 ริกเตอร์ เกิด 150 ครั้งต่อปี...แผ่นดินไหวแบบนี้ โอกาสที่จะสร้างความเสียหายทำได้ แต่ต้องเกิดใกล้เมืองมาก อย่างกรณีไครสต์เชิร์ช เกิดห่างไปแค่ 5 กิโลเมตร ถ้าห่างมากกว่านั้นอีกสัก 10 กิโลเมตร อาจจะไม่มีใครตายเลยก็ได้

    เมืองไทยความเสี่ยงไม่ต่างกัน เกิดมาหลายครั้งแล้วโดยที่ไม่ตรงเมือง แต่ว่าในอนาคตก็อาจจะตรงได้ แล้วแถมบ้านเรายังมีรอยเลื่อนที่มีศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหวได้ถึงขนาด 7 ริกเตอร์

    เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ถ้าเกิดในเมืองแหล่งคนอยู่อาศัยหนาแน่น ความเสียหายจะมากมายขนาดไหน เหตุการณ์นี้มีความเป็นไปได้ เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมเผื่อเอาไว้... “มนุษย์” จะรับมือกับพิบัติภัยธรรมชาติ ต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท.

    แผ่นดินไหวเชียงราย ใกล้ตัว...ไกลเมือง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แก๊สหินแตก(shale gas)-พลังงานทางเลือกอนาคต
    บลูมเบิร์ก บิสเนสวีค ฉบับภาษาไทย ตุลาคม 2555 ตีพิมพ์เรื่อง "ถ่านหิน: ไหม้ ที่รัก ไหม้", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    ยุค 1860/2403 เซอร์วิลเลียม ซีเมนส์ คิดค้นวิธีการทำถ่านหินใต้ดินให้กลายเป็นแก๊สธรรมชาติ (underground coal gassification / UCG) เพื่อใช้เป็นไฟส่องถนนในลอนดอน
    .
    เรื่องนี้ถึง กับทำให้ท่านวลาดิเมียร์ เลนิน กล่าวยกย่องใน นสพ.ปราฟดา ของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตในปี 2456 ว่า จะช่วยให้คนงานรัสเซียไม่ต้องเสี่ยงอันตรายลงไปในปล่องเหมืองอีก

    เทคนิคนี้ถูกทิ้งไปกว่า 100 ปี เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ใหญ่ เช่น ไฟไหม้เหมืองที่เริ่มในปี 2505 ทำให้ชาวเมืองเซนทราเลีย (Centralia-ชื่อคล้ายๆห้างที่โดนเผา) รัฐเพนซิลวาเนีย อพยพออกทั้งเมือง

    [​IMG]
    ภาพที่ 1: ภาพควันไฟเหมืองถ่านหินที่เป็นโพรงใหญ่ใต้เมือง ดับไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2505 ทำให้ต้องอพยพคนออก เนื่องจากเสี่ยงอันตรายจากควันไฟ และเหมืองถล่ม > [ wikipedia ]

    ตอนนี้มีผู้เสนอไอเดียใหม่ว่า น่าจะลองขุดเหมืองถ่านหิน ฉีดน้ำกับออกซิเจนเข้าไป ทำให้ถ่านหินติดไฟ แยกแก๊สธรรมชาติที่ได้ไปใช้ และอัดแก๊สเสีย เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ฯลฯ กลับลงไป

    เทคโนโลยีอีกอย่างหนึ่งที่ทดลอง แล้ว น่าจะได้ผลดี และปลอดภัยกว่า คือ การทำชั้นหินดินดาน (shell) ให้แตก ทำให้สหรัฐฯ มีแก๊สธรรมชาติในราคาต่ำกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ล้าน BTU (MMbtu) เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

    ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดประเมินว่า การผลิตแก๊สได้มากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้สหรัฐฯ มีปริมาณถ่านหินสำรองเพิ่มเป็น 5 เท่า ส่งออกไปยุโรปได้มากขึ้น และจะส่งไปเอเชีย เช่น จีน ฯลฯ มากขึ้นด้วย

    [​IMG]
    ภาพที่ 2: การทำชั้นหินให้แตก เพื่อแยกเก็บแก๊ส (fracturing / fracking) > [ wikipedia ]
    .
    หลักการสำคัญ คือ การเจาะแผ่นดิน ต่อท่อหลายชั้นเพื่อกันรั่วซึม ผ่านระดับชั้นน้ำใต้ดินตื้น (หิน-ดินพรุน, น้ำซึมผ่านได้), ชั้นหินแข็ง (น้ำซึมผ่านไม่ได้), ชั้นน้ำใต้ดินลึก (หินพรุน, น้ำซึมผ่านได้), และชั้นหินแข็ง (น้ำซึมผ่านไม่ได้) ตามลำดับ
    .
    หลังจากผ่าน 4 ชั้นแรกแล้ว จะถึงชั้นหินดินดาน (shale) ที่กักเก็บแก๊สอยู่, ฉีดน้ำ-ทราย ผสมสารเคมีลงไป โดยมีจังหวะกระแทกเป็นพักๆ คล้ายการเกิดแผ่นดินไหว ทำให้หินแตก แล้วดูดแก๊สกลับขึ้นมา


    [​IMG]
    ภาพที่ 3: แหล่งแก๊สธรรมชาติสำรองในโลก; แถบสีแดง คือ แหล่งที่ทำการสำรวจ-ประมาณการณ์แล้ว; แถบสีเหลือง คือ แหล่งที่ยังไม่สำรวจไม่แล้วเสร็จ-ยังไม่ได้นำไปคำนวณ (ประมาณการณ์) > [ Forbes ]
    .
    ประเทศที่มีแก๊สธรรมชาติในชั้นหิน ดินดานมากที่สุด คือ จีน 36.1; สหรัฐฯ 24.4; อาร์เจนตินา 21.9; เม็กซิโก 19.3; ออสเตรเลีย 11.2; แคนาดา 11 (หน่วยล้านล้านลูกบาศก์เมตร)
    .
    ความเสี่ยงจากการทำชั้นหินดินดาน ให้แตก คือ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก, มีความเสี่ยงที่สารเคมีจะรั่วซึมไปสู่ชั้นน้ำใต้ดิน หรือโลหะหนัก-สารพิษจากบ่อแก๊สอาจรั่วออกมาสู่ผิวดิน
    .
    ทว่า... เท่าที่สหรัฐฯ ทดลองทำไปจนถึงวันนี้ยังไม่พบการรั่วไหล เนื่องจากมีการป้องกันโดยใช้ท่อเหล็กสเตนเลส 3 ชั้นขึ้นไปซ้อนกัน

    [​IMG]
    ภาพที่ 4: วิธีการทำชั้นหินให้แตก (fracturing / fracking) > [ RWE ]
    .
    การทำชั้นหินดินดานให้แตก ทำโดยการอัด(ปั๊มพ์)น้ำ-ทราย-สารเคมี เช่น บ็อกไซต์ (bauxite - หินที่มีแร่อลูมิเนียม เหล็ก) ฯลฯ ลงไปที่ระดับความลึก 5,000 เมตร = 5 กิโลเมตร, สร้างคลื่นกระแทกเป็นพักๆ อัดเข้าไป ทำให้เกิดรอยแตกขนาด 1-2 เซนติเมตรในระยะรัศมี 100 เมตร [ บ็อกไซต์ ]
    ; [ หินบ็อกไซต์ ]

    หินทราย (sandstone) ที่กักเก็บแก๊สไว้จะคายแก๊สออกมาตามรอยแตก ทำให้สูบกลับขึ้นมาใช้ได้

    [​IMG]
    ภาพที่ 5: ศ.ดร.มาร์ค เจ. เพอรี มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐฯ ทำกราฟแสดงอัตราการผลิตแก๊สธรรมชาติในสหรัฐฯ (หน่วยล้านลูกบาศก์ฟุต) ซึ่งมีการผลิตแก๊สที่เพิ่มขึ้นมาก ตั้งแต่ช่วงปี 2006/2549 และผลิตได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปีปัจจุบัน (2012/2555) > [ mjperry.blogspot ]
    .
    กราฟเส้นสีแดงแสดงปริมาณที่ขุดค้นได้ เส้นสีน้ำเงินแสดงปริมาณที่นำไปขายในตลาดได้จริง

    [​IMG]
    ภาพที่ 6: แสดงวิธีทำชั้นหินให้แตก (fracturing / fracking) > [ northwestern.edu ]

    การทำชั้นหินให้แตกใช้หลักการขุด ให้ลึกเกินกว่าชั้นระดับน้ำใต้ดิน (ระดับตื้นและระดับลึกแสดงด้วยแถบสีฟ้า), เจาะผ่าชั้นหินดินหาน (shale), อัดน้ำ-ทราย-สารเคมีลงไป

    ศ.ดร.เจราวด์ โฮวเดอร์ จากมหาวิทยาลัยพิทซ์เบิร์ก กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะทำให้สหรัฐฯ ผลิตแก๊สธรรมชาติสะสมได้จนถึงระดับมีแก๊สสำรองมากเป็นอันดับ 2 ของโลก

    ปี 2011/2554 มหาอำนาจด้านแหล่งสำรองแก๊สธรรมชาติของโลกได้แก่ รัสเซีย อิหร่าน กาตาร์ ซาอุฯ และสหรัฐฯ ตามลำดับ [ CIA ]

    เทคนิคนี้จะนำแก๊สจากชั้นหินมาใช้ได้ประมาณ 20% ของทั้งหมด ซึ่งน่าจะมากพอสำหรับสหรัฐฯ ใช้ไป 20 ปี และเก็บอีก 80% ไว้ที่เดิม เพื่อรอเทคโนโลยีใหม่ที่จะดึงแก๊สจากชั้นหินมากกว่านี้มาใช้อีกในอนาคต
    .
    ตอนนี้จีนจ้างทีมขุดชั้นหินดินดาน จากสหรัฐฯ เข้าไปทดลองขุดในจีน ซึ่งคาดว่า จะพบในทะเลทรายที่อยู่ใกล้เอเชียกลาง ทางตะวันตกของประเทศ และภาคใต้ตรงกลางประเทศ (แถบสีแดง ภาพที่ 3)
    .
    การทำชั้นหินดินดานให้แตก เพื่อหาแหล่งแก๊ส จะทำให้บ่อน้ำมัน-แก๊สเก่า และเหมืองถ่านหินอีกหลายแห่งมีศักยภาพที่จะใช้เป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติในอนาคต
    .
    นี่เป็นศักยภาพในการผลิตแก๊สธรรมชาติได้มากขึ้น ความขาดแคลนแก๊สลดลง อย่างน้อยใน 20 ปีข้างหน้าทีเดียว

    ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

    แก๊สหินแตก(shale gas)-พลังงานทางเลือกอนาคต - GotoKnow
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
  10. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เกิดหลุมยุบก็เป็นธรรมดา เพราะดินที่ยุบลง จะไปแทนที่โพรงว่างๆใต้ดิน อันเกิดจากหลายปัจจัย เช่น สูบน้ำไปใช้ โพรงอากาศ เป็นต้น
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Adepto Perfectus = dutchsinse

    [​IMG]

    ในที่สุด ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า การทำ fracking สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (Finally. Now that the professionals confirm fracking can cause large earthquakes.)

    ตอนนี้มาแบน fracking! (Now come the FRACKING BANS !)

    Beverly Hills becomes first in California to ban fracking | Reuters

    ขุดเจาะน้ำมัน ด้วยวิธี FRACKING ทำลายล้างระบบนิเวศ ชีวิตคน-สัตว์ ?
    เขียนวันที่ วันเสาร์ ที่ 03 สิงหาคม 2556 เวลา 14:04 น.เขียนโดยนพ.ชูชัย ศุภวงศ์

    [​IMG]

    ท่ามกลางข่าวน้ำมันดิบปนเปื้อนที่เกาะเสม็ด ในอ่าวไทย ที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว ถึงผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศและห่วงโซ่อาหาร อากาศ

    ขณะนี้คนไทยจำนวนมากยังไม่ทราบว่า มีการขุดเจาะพลังงานในอ่าวไทยและบนแผ่นดินสยามอย่างไร้ความรับผิดชอบของบรรษัทพลังงานข้ามชาติ ที่ใช้เทคโนโลยี่ที่เรียกว่า fracking. ที่สามารถใช้เครื่องมือขุดเจาะชอนไชไปทั่วใต้พื้นดินลึกถึง 8,000 ฟุต ผ่านชั้นหินต่างๆเพื่อสกัดแหล่งพลังงานที่อยู่กันเป็นหย่อมๆ โดยการใช้น้ำ สารเคมี แรงดันสูงอัดลงไป ทำให้ชั้นหินต่างๆแตกและปนเปื้อนถึงกัน

    วิดิทัศนสั้นๆ เพียง 2 นาที อธิบายให้เข้าใจเทคนิคที่เรียกว่า fracking กับสารเคมีเหล่านี้จะปนเปื้อนน้ำบาดาล ดิน อากาศ ห่วงโซ่อาหาร สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนไปทั่วโลก

    ขณะที่มีบทความเกิดในอเมริกา..How Fracking Affects Your Farmer’s Market ขณะนี้เกิดปรากฎการณ์หรือขบวนการ..anti-fracking movement ในที่ต่างๆ
    แต่ในเมืองไทยยังมีการปกปิดข้อมูล. ไม่เพียงเรื่องที่คนไทยต้องจ่ายค่าพลังงานที่แพงมากแล้ว ยังมีเรื่องการใช้เทคโนโลยี่สกปรกทำลายล้างระบบนิเวศ ชีวิตของคนและสัตว อย่างไร้ความรับผิดชอบ

    ขุดเจาะน้ำมัน ด้วยวิธี Fracking ทำลายล้างระบบนิเวศ ชีวิตคน-สัตว์ ?
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    fyi

    เรามีแผ่นดินไหวขนาด 6.0mag+ การไหวหลายครั้ง ใน 4 วันที่ผ่านมา....
    we have had 6 x 6.0mag+ quakes in the past 4 days....
    the count for the past 30 days is 26 x 6.0mag+ quakes....
    the count for the past 60 days is 50 x 6.0mag+ quakes...

    monthly average WAS 6-10 X 6.0mag+ quakes per month...?
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    ....TAKE NOTE guys ......

    คำเตือน ดาวหาง LINEAR / ตอนนี้ได้ทำปฏิกิริยากับอาทิตย์ ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ.2014 ...... coment 209P LINEAR เริ่มที่จะเกิดปกิกริยาเมื่อเริ่มเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ (COMET LINEAR WARNING/NOW REACTING TO THE SUN
    May 6, 2014......COMENT 209P LINEAR STARTING TO REACT TO ITS CLOSE APPROACH TO THE SUN.)

    เราควรจับตาดูการขยายตัวต่อเนื่องของอาการสาหัสส่วนนอกของดาวหาง ซึ่งอาจเกิดผลลัพธ์ 2 ประการ คือ 1. การระเบิดของดาวหาง Linear เกิดในแนวเดียวกับดาวหาง โฮล์มส์ เกิดการกระจายตัวของเขตเศษซากปรักหักพังของดาวหางมากขึ้น และ 2. เพราะ ดาวหาง Linear กำลังจะประจุตัวใหม่อีกครั้ง ซึ่งมันจะทำให้เกิดเปลวไฟสุริยะที่มีทิศทางตรงกับโลก (We should watch for continued expansion of the outer coma. This could have two results. One, Linear explodes the way Comet Holmes did expanding the Debris field. and Two, since linear is recharging it very well could cause earth directed solar flares)

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/Q6jAQOFDIYU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The Event

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/iBGrusRj6Xk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    อุกกาบาตขนาดใหญ่ ลูกบอลไฟ และ bolides ผ่าน 20 MAY 2014 - การเตือนภัยที่เผยแพร่ (Large Meteors, Fireballs and Bolides Through 20 MAY 2014 - ALERT ISSUED)
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    7 พ.ย. จากแผ่นดินไหวถึงสึนามิ...เตือนตรงไหนเคยเกิดก็จะเกิดซ้ำอีก

    [​IMG]

    วันที่ 7 พ.ค. 57 มีการแถลงข่าวเรื่อง “แผ่นดินไหว รับมืออย่างไร” จัดขึ้น ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหว คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 พ.ค.57 ที่ผ่านมาว่า ถ้าพิจารณาในแง่ความเสียหาย นับว่าโชคดีที่รอยเลื่อนไม่ได้พาดผ่านกลางเมือง โดยจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในทึ่งนา แต่อาคารที่อยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตร ซึ่งรวมถึง “วัดร่องขุ่น” ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ต่างได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

    พร้อมกันนี้ รศ.ดร.ปัญญา ตั้งข้อสังเกตว่า เราอาจต้องให้ความสนใจกับแผ่นินไหวที่มีจุดศูนย์กลางใกล้ผิวดินมากขึ้น เพราะแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางตื้นๆ จะส่งแรงกระเพื่อมมาถึงผิวดินและก่อให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งพบว่าเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วในเมืองไทย แผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นที่ อ.ถลาง ภูเก็ต , จ.พังงา และ จ.ตาก ทั้งหมดเป็นผลมาจากรอยเลื่อนที่อยู่ในระดับตื้น ขณะที่แผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกๆ จะถูก ดิน หิน ซับแรงไปก่อนที่แรงจะขึ้นมาถึงผิวดิน

    ทั้งนี้ รศ.ดร.ปัญญายังได้ศึกษาสึนามิโบราณในบริเวณพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งสึนามิเป็นผลจากแผ่นดินไหวในทะเลที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ถล่มชายฝั่ง ซึ่งการศึกษาดังกล่าวเพื่อศึกษาและคาดการณ์ว่าจะเกิดสินามิขึ้นอีกเมื่อไร เนื่องจากพื้นที่ที่เคยเกิดสึนามิแล้วก็จะเกิดสึนามิซ้ำที่เดิมอีก แต่สำหรับเมืองไทยกลับไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา และพบว่าหลายพื้นที่ที่เคยเกิดสึนามิเมื่อปี 2547 นั้นยังคงไม่มีการเตรียมรับมือกับสึนามิอีก

    อย่างไรก็ดี รศ.ดร.ปัญญาย้ำว่าเทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่สามารถทำนายเหตุแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า แต่สามารถทำนายได้ในเชิงพื้นที่เท่านั้นว่าพื้นที่ใดจะเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งจากแผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทยของของกรมทรัพยากรธรณี จะเห็นว่าภาคอีสานปลอดภัยจากแผ่นดินไหวแน่นอน แต่ก็อาจเผชิญกับปัญหาอย่างภัยแล้งแทน

    [​IMG]

    [​IMG]

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    7 พ.ค. รัสเซียโชว์แสนยานุภาพ ส่งบินรบสอดแนมสหรัฐ

    [​IMG]

    ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของสหรัฐเผย รัสเซียแสดงแสนยานุภาพล่าสุดด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์บินเข้ามาสอดแนมนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียและเกาะกวม

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ว่า พลเอกเฮอร์เบิร์ต ฮอว์ก คาร์ลิเซิล ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของสหรัฐเปิดเผยว่า จากการที่รัสเซียเข้าแทรกในวิกฤตยูเครนนั้น รัสเซียมีการเพิ่มกิจกรรมทางทหารขึ้นมากมายในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของกองทัพอากาศที่มีบทบาทมากเป็นพิเศษในพื้นที่เอเชีย-แปซิฟิก ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวนั้นเป็นไปเพื่อแสดงแสนยานุภาพและสอดแนมข้อมูลฐานทัพของประเทศในภูมิภาคที่เหล่าอากาศยานของมอสโกบินผ่าน

    นายคาร์ลิเซิลกล่าวที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐ (ซีซิส)พร้อมฉายภาพสไลด์แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินเอฟ-15 ของสหรัฐเข้าขัดขวางการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ “ทูโพลอฟ ทียู-95” เหนือน่านฟ้าเกาะกวม เกาะหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เป็นของสหรัฐ ซึ่งทางการรัสเซียส่งมาสอดแนม เนื่องจากบนเกาะกวมนั้นมีฐานทัพของสหรัฐตั้งอยู่ นอกจากนี้ มอสโกยังส่งเครื่องบินลาดตระเวนระยะไกลบินมาสอดแนมสหรัฐนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียอีกด้วย

    รัสเซียโชว์แสนยานุภาพ ส่งบินรบสอดแนมสหรัฐ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    7 พ.ค. ไข้หวัดนกระบาดไกลถึงเพนกวินในขั้วโลกใต้แล้ว

    [​IMG]

    ทีมนักวิจัยออสเตรเลียตรวจพบไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ “เอช11เอ็น2” ในนกเพนกวินที่อาศัยอยู่ในขั้วโลกใต้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้ทำให้นกป่วย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ว่า นายแอรอน เฮิร์ต นักวิจัยอาวุโสที่ทำงานให้กับองค์การอนามัยโลก(ฮู)ร่วมกับศูนย์ประสานงานข้อมูลและการวิจัยของออสเตรเลียในเมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยในประเด็นดังกล่าวเผยว่า ทีมวิจัยตรวจพบไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ “เอช11เอ็น2” ในนกเพนกวินอะเดเลีย ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปแอนตาร์กติกา อ่าวแอดไมรัลตีและเขตราดา โควาดอนกา

    นักวิจัยตรวจพบไวรัสไข้หวัดนกใน 8 ตัวอย่างที่ไปเก็บมา ในจำนวนนี้ 6 ตังอย่างมาจากเพนกวินโตเต็มวัยและ 2 ตัวอย่างมาจากเพนกวินที่ยังเยาว์วัย

    ผลการวิเคราะห์เชื้ออไวรัสดังกล่าวพบว่า ไวรัสจากตัวอย่างทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ “เอช11เอ็น2” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้ทำให้นกป่วย และยังไม่พบว่าสามารถติดต่อไปยังสัตว์ชนิดอื่นโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ นอกจากนี้ ไวรัสนี้ยังมีลำดับคู่เบสในสาย DNA ไม่เหมือนเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆที่พบอยู่บนโลกขณะนี้อีกด้วย งานวิจัยดังกล่าวได้รับการเผยแพร่บนวารสารชื่อดังทางด้านจุลชีววิทยาออนไลน์ “เอ็มบริโอ”ของสหรัฐ

    ไข้หวัดนกระบาดไกลถึงเพนกวินในขั้วโลกใต้แล้ว | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc ได้แบ่งปัน รูปภาพ รูปภาพ

    7 พ.ย. 'เรือจีน'ฉีดน้ำ-ไล่ชน 'เรือเวียดนาม' เจ็บ6 ฮานอย'พยายามขวางปักกิ่งตั้งแท่นขุดน้ำมัน

    [​IMG]

    ...ภาพที่เผยแพร่โดยหน่วยยามฝั่งเวียดนาม แสดงให้เห็นเรือของจีนลำหนึ่ง (ซ้าย) ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงสูงฉีดใส่เรือเวียดนาม (ขวา) ขณะที่เรือของหน่วยยามฝั่งจีน (กลาง) แล่นคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันพุธ (7พ.ค.) โดยที่ฮานอยระบุว่า เรือของจีนยังได้พยายามชนกระแทกเรือของฝ่ายเวียดนาม ซึ่งกำลังพยายามเข้าหยุดยั้งไม่ให้ฝ่ายจีนสามารถตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันได้อย่างมั่นคงในพื้นที่ซึ่งพิพาทกันอยู่

    เอพี/เอเอฟพี - ฮานอยแถลงในวันพุธ (7 พ.ค.) ว่า กองเรือของจีนที่กำลังคุ้มกันแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลลึก ซึ่งถูกนำออกมาติดตั้งตรงน่านน้ำในทะเลจีนใต้ที่ 2 ประเทศพิพาทช่วงชิงกันอยู่ ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำเข้าโจมตีขับไล่กองเรือตรวจการณ์ของเวียดนาม รวมทั้งพยายามเข้ามาชนกระแทกอยู่หลายครั้ง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน นับเป็นเหตุการณ์การเผชิญหน้าครั้งร้ายแรงที่สุดในระยะหลายๆ ปีที่ผ่านมา

    จีนได้ขนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลลึกขนาดใหญ่มูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์แท่นนี้ ไปยังบริเวณน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะพาราเซลเมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา โดยมีกองเรือนาดเล็กจำนวนหนึ่งตามคุ้มกัน พร้อมกันนั้น สำนักงานบริหารความปลอดภัยทางทะเลของจีน ได้ออกประกาศเตือนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ห้ามเรือต่างชาติเข้าไปในรัศมี 4.8 กิโลเมตรจากแท่นขุดเจาะ

    ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ถูกมองว่า เป็นการดำเนินการมุ่งยั่วยุที่สุดครั้งหนึ่ง ในความพยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไปและหนักแน่นมั่นคงของแดนมังกรที่จะอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนืออาณาบริเวณเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งได้ก่อให้เกิดกรณีพิพาทกับทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอีกบางประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ทางด้านเวียดนามได้ออกมาตอบโต้โดยระบุว่า การตัดสินใจตามอำเภอใจเช่นนี้ของจีนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ถอนแท่นขุดเจาะออกไป อีกทั้งจัดส่งเรือจำนวนหนึ่งไปยังพื้นที่ดังกล่าว

    โง หว็อค ถู รองผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจน้ำเวียดนาม แถลงที่กรุงฮานอยว่า นับตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นมา เรือของจีนได้เข้าชนกระแทกเรือของเวียดนามอย่างน้อย 3 ครั้ง และเครื่องบินจีนลำหนึ่งได้บินระดับต่ำๆ เหนือเหล่าเรือตรวจการณ์ของตำรวจเวียดนามที่ถูกส่งไปยังบริเวณนั้น เพื่อเป็นการข่มขู่

    “สถานการณ์ตึงเครียดมาก” เขากล่าว และเสริมว่า “เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ประมงของเวียดนามได้รับบาดเจ็บไป 6 คน เนื่องจากการกระแทกของเรือจีนทำให้มีกระจกแตก”

    (อ่านต่อ..
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เทพบุตร ชาวดิน ได้แชร์รูปภาพของ สมาคมดาราศาสตร์ไทย

    [​IMG]

    อีกแค่ 3 วัน
    อย่าลืมมาพบกันนะครับ กับกิจกรรม "เบิกฟ้ากลางกรุง ส่องกล้องดูวงแหวนดาวเสาร์" ที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย ลง BTS เอกมัย

    หากมาไม่ถูกหรือมีข้อสงสัยถามได้ทั้งทางเพจหรือจะโทรมาที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย 02-381-7409 ได้เลยครับ
    อีกแค่ 3 วัน
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,221
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระดมทีมสุขภาพจิต เยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว หวั่นเครียดสะสม
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 พ.ค. 2557 16:27

    [​IMG]

    กรมสุขภาพจิต ส่งทีมสุขภาพจิต ดูแลผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว พบหวาดผวา ตื่นตระหนกข่าวลือ พร้อมเฝ้าระวัง หวั่นเกิดโรคเครียดภายหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญได้...

    จากเหตุแผ่นดินไหว 6.3 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย โดยรู้สึกสั่นไหวได้ในหลายพื้นที่ และมีอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องอีกหลายครั้งนั้น

    นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ได้ส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤติ รพ.สวนปรุง (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ประสานงานร่วมกับทีม MCATT พื้นที่อำเภอแม่ลาวและอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เพื่อให้การดูแลประเมินผลกระทบและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที ป้องกันการเกิดบาดแผลทางใจในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บผู้สูญเสียบุคคลในครอบครัว และผู้ได้รับผลกระทบบ้านเรือนได้รับความเสียหาย

    ทั้งนี้ ในเบื้องต้นพบว่า ผู้ประสบภัยมีความเครียด ไม่กล้าอยู่ในบ้าน มีภาวะหวาดกลัวมาก และตื่นตระหนกกับข่าวลือเรื่องแผ่นดินแยก/เขื่อนแม่สรวยแตก ทำใหัอดนอน หายใจไม่ทั่วท้อง หายใจไม่อิ่ม นอนไม่หลับ โดยได้ให้คำแนะนำและใช้เทคนิคปฐมพยาบาลทางจิตใจเบื้องต้น ประเมินภาวะความเครียดและวิตกกังวล เพื่อป้องกันการเกิดโรคเครียดภายหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หรือ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) รวมทั้ง แนะนำการใช้เทคนิคคลายเครียด

    อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า หลังจากการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด โดยไม่คาดคิดมาก่อน ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้ ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทั้งนี้ หลังเหตุการณ์วิกฤติหรือภัยพิบัติในช่วง 3 วันแรกถึง 2 สัปดาห์ ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะด้านจิตใจ จะมีอาการ ช็อก ตื่นตระหนก หวาดกลัว วิตกกังวล สับสน ไม่มีสมาธิ เครียด บางรายมีภาวะซึมเศร้า โกรธ ส่วนด้านร่างกายจะมีอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น ไม่มีแรง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ รับประทานอาหารได้น้อย ซึ่งอาการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งหากได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที อาการดังกล่าวจะค่อยๆ หายไปและดีขึ้นภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ – 1 เดือน

    สำหรับผลกระทบในเด็ก จะมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไปตามกลุ่มอายุ เช่น เด็กอายุ 1-5 ปี จะมีอาการกลัว ร้องไห้ โยเยติดแม่ กลัวคนแปลกหน้า หงุดหงิด โมโหง่าย กลัวการอยู่คนเดียว ปัสสาวะรดที่นอน ขณะที่ เด็กอายุ 6 -11 ปี จะแยกตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อน ไม่มีสมาธิ ต้องการให้พ่อแม่อยู่ใกล้ชิด ให้ความสนใจตลอดเวลา มีพฤติกรรมถดถอยแบบเด็กๆ ไม่อยากไปโรงเรียน กลัวการนอนคนเดียว ส่วนเด็กอายุ 12 -14 ปี จะมีพฤติกรรมแยกตนเอง ไม่สนใจกิจกรรมร่วมกับครอบครัว สนใจเรื่องเรียนน้อยลง มีพฤติกรรมก่อกวน ต่อต้านผู้ใหญ่ มีอาการทางกายที่เป็นสาเหตุทางด้านจิตใจ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง มีปัญหาการนอน นอนไม่หลับ ฝันร้าย เป็นต้น ซึ่งทีมสุขภาพจิตได้คัดแยกเด็กโรงเรียนที่ประสบภัยแผ่นดินไหว อาทิ บ้านห้วยส้าน อ.แม่ลาว และ แนะนำเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นช่วยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด

    หากภายหลัง 1 เดือน พบว่า มีอาการเครียดค่อนข้างรุนแรง ฝันร้ายบ่อยๆ สะดุ้ง หวาดผวา รู้สึกเหมือนตนเองตกอยู่ในเหตุการณ์นั้นตลอดเวลา ไร้อารมณ์ มึนชา ตกใจง่าย หงุดหงิดโมโหง่าย กระสับกระส่าย หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับความทรงจำที่ปวดร้าว วิตกกังวล / ซึมเศร้า อย่างรุนแรง รู้สึกไร้ค่า มีความคิดอยากตาย ความจำไม่ดี การรับรู้ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป หากมีอาการดังกล่าวแสดงว่าเป็นโรคเครียดอย่างรุนแรงหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ จำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน

    ในการปรับสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยภายหลังเกิดภัยพิบัติอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะว่า ผู้เกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลือควรปล่อยให้ผู้ประสบภัยได้ระบายถึงความเครียด ความสิ้นหวังที่เกิดขึ้น รวมทั้ง ช่วยกันเยียวยาโดยการสนับสนุนให้ทำกิจกรรมสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ ที่ประสบภัย ส่งเสริมให้ผู้ประสบภัยได้พูดคุยกับคนในครอบครัวและเพื่อนให้มากขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ประสบภัยได้รับข่าวสารและภาพข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติมากเกินไปเพื่อลดความตึงเครียด ตลอดจนให้ผู้ประสบภัยได้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เชิญชวนผู้ประสบภัยร่วมกันฟื้นฟูชุมชนและสังคมของตนเอง รวมทั้งทำกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆ เป็นต้น ที่สำคัญ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด ซึ่งผู้ประสบภัยเองก็ต้องพยายามพบปะพูดคุยกับคนอื่นตามปกติ ไม่หลีกเลี่ยงการพูดคุยถึงเหตุการณ์ร้ายที่ประสบมา ไม่ปลีกตัวเองออกจากสังคมหรืองดเว้นกิจกรรมที่เคยชอบเคยปฏิบัติ พยายามดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามปกติเท่าที่ทำได้ หากพยายามแล้วอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

    เพื่อลดความวิตกกังวลจากข่าวลือหรือคำทำนายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงเวลานี้ อธิบดีกรมสุขภาพจิตแนะให้ พึงตั้งสติและระมัดระวังในการติดตามและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ออกไป อย่าตื่นตระหนก แต่ให้ตื่นตัว โดย ต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏนั้นย่อมมีทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวปล่อย ค่อยๆ กลั่นกรอง อย่ารีบร้อน ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล มองโลกในแง่ลบมากขึ้น ดังนั้น จึงควรเสพข้อมูลจากคนที่ไว้ใจได้ หรือตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง อาจใช้กลไกการสื่อสารของชุมชน เช่น วิทยุชุมชน เคเบิลทีวี ตลอดจนคนในชุมชนรวมกลุ่มกันเพื่อเฝ้าระวังและกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้และเข้าใจข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

    อย่างไรก็ตาม กรมสุขภาพจิตจะทำการประเมินและติดตามความเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะ PTSD ตลอดจน เฝ้าระวังปัญหาการทำร้ายตนเอง ในระยะยาว เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนกรณีบ้านเรือนได้รับความเสียหายและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงกลุ่มนี้ต่อไป ทั้งนี้ สามารถขอรับบริการปรึกษาได้ที่ สายด่วน 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ทีมสุขภาพจิตในพื้นที่ อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว.

    ระดมทีมสุขภาพจิต เยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว หวั่นเครียดสะสม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...