ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดง วงศ์ทวิชาติ


    21 Dec 2018
    IMG_6246.JPG
    #earthquakesdisaster

    <> จับตาเฝ้าระวังเหตุเปลี่ยนแปลง จากแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่า M7+ แค่ 20 วันไหวรุนแรงแล้ว 4 ครั้ง (กราฟ 2)

    แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งที่ 129 ในวันนี้. ที่สำคัญที่สุดในปีพ. ศ. 2561 ซึ่งอาจจะเป็นปีที่สอง ที่ต่ำที่สุดในรอบนี้ นับตั้งแต่ปีพ. ศ. 2560

    USGS

    ขนาด M 7.4 - คัมชัตการ์ คือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ล่าสุดที่จะกระทบกับดาวเคราะห์ของเรา มีเพียง 9 วันที่เหลือจากปี

    พ. ศ. 2561 ซึ่งอาจไม่ใช่เป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในปีนี้ ..!!!


    จนถึงปีพ. ศ. 2561 ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่สุด 129 ครั้งซึ่งมากกว่าปี พ.ศ. 2560 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 111 แห่งซึ่งต่ำที่สุดในรอบนี้ ( เกณฑ์ที่ต่ำกว่าปกติมาก น่าจะผิดปกติเช่นกันด้วย )


    ปีนี้สัญญาณว่าจะรวมต่ำเกินไปด้วย. น้อยกว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจะไปถึงปลายปี 129 จะเป็นครั้งที่สอง อย่างน้อยรวมในศตวรรษนี้หลังจากที่รวมต่ำ 2017

    จำนวนเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงโดยรวมของปีที่สำคัญที่สุด ของการสั่นไหวต่อปีในศตวรรษนี้คือ 158 ซึ่งมากถึง 2017 และ 2018 (จนถึงปัจจุบัน)


    ฉันไม่สามารถจินตนาการว่า เราอาจมีการสั่นไหวที่สำคัญอีก 10-20 ครั้งในอีก 9 วันข้างหน้า แต่คุณไม่เคยรู้..!!!


    ปีที่เกิดแผ่นดินไหวที่สำคัญที่สุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา แท้จริงแล้วนับตั้งแต่ เริ่มมีการบันทึก เป็นปี 2011 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 208 ราย อย่างใกล้ชิดในปีพ. ศ. 2550 โดยมีจำนวน 201

    ครั้ง

    แผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้มีขนาด 8.2 - 286 กิโลเมตร NNE ของเมือง Ndoi เกาะฟิจิ

    ในเดือนสิงหาคม


    แผ่นดินไหวใหญ่ (Mag 6+) ในศตวรรษนี้กราฟแกรี่วอลตัน Quakes Front Page

    โพสต์โดย Gary Walton เวลา 11:21 น


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Great Shift

    Heliplots วันนี้ - แผ่นดินไหวครั้งใหญ่กำลังดังรอบโลกอีกครั้ง D :)

    IMG_6249.JPG IMG_6250.JPG IMG_6251.JPG IMG_6252.JPG IMG_6253.JPG IMG_6254.JPG IMG_6255.JPG IMG_6256.JPG IMG_6257.JPG IMG_6258.JPG IMG_6259.JPG IMG_6260.JPG IMG_6261.JPG IMG_6262.JPG IMG_6263.JPG IMG_6264.JPG IMG_6265.JPG IMG_6266.JPG IMG_6267.JPG IMG_6268.JPG

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Report ASEAN - Thailand

    IMG_6269.JPG
    บริษัทจีนใจดี แจกเงินพ่อแม่พนักงาน 20 ล้านบาท

    .

    นับเป็นวิธีสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน ส่งเสริมความกตัญญู ตลอดจนทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจในตัวลูกได้ดีเยี่ยมทีเดียว เมื่อบริษัท YiChang ChanJiang Machine Technology บริษัทเอกชนผู้ผลิตเครื่องจักรชื่อดังของจีน ตั้งอยู่ในเมืองอี้ชาง มณฑลหูเป่ย มีสวัสดิการสุดพิเศษสำหรับพนักงาน นั่นคือ โครงการ ‘เงินตอบแทนคุณ’ เป็นเงินที่บริษัทมอบให้กับพ่อแม่ของพนักงานที่มีผลงานดีเยี่ยม

    .

    ที่น่าชื่นชมคือ บริษัทดำเนินโครงการนี้มา 11 ปีต่อเนื่องแล้ว พ่อแม่ของพนักงานจะได้รับเงินทุกเดือน เดือนละ 200 หยวน (1,000 บาท) และปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 500 หยวน (2,500 บาท) เมื่อปี 2550 ซึ่งบริษัทจะโอนเงินเข้าบัญชีของพ่อหรือแม่ของพนักงานโดยตรง

    .

    ปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานราวๆ 470 กว่าคน มีพนักงานที่อยู่ในโครงการเงินตอบแทนคุณกว่า 70 คน รวมเป็นเงินที่มอบให้กับพ่อแม่ของพนักงานแล้วกว่า 4 ล้านหยวน (20 ล้านบาท) บริษัทระบุว่า โครงการนี้มีขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณพนักงานที่ตั้งใจทำงานและทุ่มเท จนทำให้บริษัทมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านหยวน (1,000 ล้านบาท)

    .


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลที่ได้จากการหลอกลวง ได้มาเพียงชั่วขณะ แต่ทุกข์ทรมาน ที่จะต้องประสบจะตามติดไปตลอด

    ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34

    IMG_6270.JPG
    แม่ “ฟอส” เหยื่อกระสุน “เสี่ยอ้วน” ทุกข์หนักไร้เยียวยา ซ้ำพ่อช็อกจนเสียสติ


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6272.JPG
    (Dec 21) ส่งออกเดือน พ.ย.ติดลบ 0.95 % : น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือน พ.ย. ติดลบ 0.95% มูลค่า 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานสูงและผลกระทบทางอ้อมจากข้อพิพาททางการค้าที่ไทยอยู่ในห่วงโซ่อาหาร รวม 11 เดือนส่งออกขยายตัว 7.3 % มูลค่า 232,725 ล้านดอลลาร์ ส่วนนำเข้า 231,343.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


    อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่า การส่งออกปี 61 ยังเป็นไปตามเป้า 8 % แม้ว่าจะมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายจากความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงภายนอก


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821907


    ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์

    http://www2.ops3.moc.go.th/


    (Dec 21) ส่งออกเดือน พ.ย.ติดลบ 0.95 % : น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือน พ.ย. ติดลบ 0.95% มูลค่า 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานสูงและผลกระทบทางอ้อมจากข้อพิพาททางการค้าที่ไทยอยู่ในห่วงโซ่อาหาร รวม 11 เดือนส่งออกขยายตัว 7.3 % มูลค่า 232,725 ล้านดอลลาร์ ส่วนนำเข้า 231,343.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


    อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่า การส่งออกปี 61 ยังเป็นไปตามเป้า 8 % แม้ว่าจะมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายจากความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงภายนอก


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821907


    ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์

    http://www2.ops3.moc.go.th/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีทรัมป์ทวิตโวปราบชนะISIS ปุบปับประกาศถอนทหารทั้งหมดออกจากซีเรียโดยไม่แจ้งก่อน แต่เพนตากอนชี้สงครามกับISISยังไม่จบ
    Last updated: 21 ธันวาคม 2561 | 12:56
    07EF5AAF-1EBA-440B-BAFF-4D0E2A9EC013.jpeg 2162322E-90CA-4166-87F3-1710338699AC.jpeg
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนถอนกองกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากประเทศซีเรีย ท่ามกลางความประหลาดใจของนานาชาติ หลังทรัมป์ระบุว่า ปฏิบัติการสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ISIS) สำเร็จลุล่วง โดยสามารถปราบกลุ่ม IS จนพ่ายแพ้หมดสิ้นแล้ว ขณะที่เพนตากอนชี้การต่อสู้กับกลุ่ม ISISยังไม่จบ

    20 ธันวาคม 2561-ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันพุธว่า การต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรียนั้น สิ้นสุดลงแล้ว สหรัฐฯ สามารถปราบปรามกลุ่ม ISIS ได้อย่างราบคาบ และว่า นั่นเป็นเหตุผลเดียวของการที่ยังมีปฎิบัติการของสหรัฐฯ อยู่ในซีเรีย ระหว่างที่ตนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

    ซาราห์ ฮัคเคอร์บี้ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงการณ์ในวันพุธว่า "สหรัฐฯ ได้เริ่มกระบวนการถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรียแล้ว" โดยปัจจุบันมีทหารสหรัฐฯ ปฏิบัติการอยู่ในซีเรียราว 2,000 คน

    อย่างไรก็ตาม ในอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดน่า ไวท์ ออกมาแถลงว่า "กองกำลังพันธมิตรสามารถยึดพื้นที่ในการครอบครองของกลุ่ม ISIS ได้แล้ว แต่การต่อสู้กับกลุ่ม ISIS นั้นยังไม่จบ"

    คำแถลงสามฉบับของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำเนียบขาว และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความงุนงงให้กับหน่วยงานข่าวกรองต่างๆ ของสหรัฐฯ รวมทั้งต่อบรรดานักการเมืองในรัฐสภา

    ด้านสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ หลายคน แสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลมิได้แจ้งเรื่องการถอนทหารออกจากซีเรียให้กับทางรัฐสภาทราบ ก่อนที่จะมีการประกาศออกมา

    นายเบร็ท แม็คเกิร์ค ผู้แทนพิเศษด้านการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่ประมาทเกินไป หากจะระบุว่ากลุ่มรัฐอิสลามได้ถูกปราบปรามอย่างราบคาบแล้ว และเราสามารถถอนทหารกลับบ้านได้ทันที เพราะตนเชื่อว่ายังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันประจำการอยู่ในซีเรียต่อไปอีกสักระยะ เพื่อรับรองว่ากลุ่มก่อการร้ายนี้จะไม่กลับมาอีก

    ที่ผ่านมา ทหารราว 2,000 นายมีส่วนร่วมในภารกิจสู้รบจนทำให้กลุ่ม IS ถอยร่นออกจากที่มั่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย อย่างไรก็ตามนักรบติดอาวุธจำนวนมากยังคงปักหลักอยู่ในประเทศดังกล่าว ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนในสภาคองเกรสเตือนว่า การถอนทหารในเวลานี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

    การถอนทหารและลดบทบาทของสหรัฐฯ ยังสร้างความวิตกว่า สหรัฐฯ จะสูญเสียอิทธิพลในซีเรีย ขณะเดียวกันก็ทำให้รัสเซียและอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย มีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยืนยันว่า กองทัพสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพร้อมที่จะกลับเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางทหารหากมีความจำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ป้องกันกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงไม่ให้แทรกซึมเข้าพรมแดนของสหรัฐ

    ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน แสดงความสนับสนุนการตัดสินใจของทำเนียบขาว เรื่องการถอนทหารอเมริกันจำนวน 2,000 คน ออกจากซีเรีย โดยบอกว่าการที่สหรัฐฯ ส่งทหารเข้าไปในซีเรียนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก และถือเป็นการขัดขวางกระบวนการสันติภาพในภูมิภาคนั้น

    ประธานาธิบดีปูตินกล่าวต่อผู้สื่อข่าว 1,700 คน ระหว่างการกล่าวปราศรัยในโอกาสสิ้นปี ในวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า ตนเห็นด้วยกับประธานาธิบดีทรัมป์ว่ากลุ่มรัฐอิสลามได้ถูกทำลายไปแล้วในซีเรีย และว่า "โดนัลด์กล่าวถูกต้อง กลุ่มรัฐอิสลามได้ถูกทำลายเสียหายอย่างหนักในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา คงเหลือเพียงส่วนน้อยที่กระจัดกระจายอยู่ทางภาคเหนือของซีเรีย"

    ประธานาธิบดีปูติน กล่าวด้วยว่า "ไม่จำเป็นต้องมีทหารอเมริกันประจำการที่ซีเรียอีกต่อไป และต้องไม่ลืมว่าสหรัฐฯ เข้าไปแทรกแซงในซีเรียอย่างไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ทั้งไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ หรือจากรัฐบาลซีเรียเอง ซึ่งแตกต่างจากรัสเซียที่ได้รับคำเชิญจากรัฐบาลซีเรียโดยตรง"

    First posted: 20 ธันวาคม 2561 | 14:29

    http://www.thaitribune.org/contents/detail/310?content_id=34104&rand=1545291351


    #thaitribune


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    IMG_6277.JPG
    สภาผ่านงบประมาณ$5,700ล้านให้ทรั้มป์สร้างกำแพงเม็กซิโก


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    IMG_6278.JPG IMG_6279.JPG
    ต้องปลดอีกคน


    อีกคนที่ทรัมป์ต้องปลดให้ได้คือJerome Powell ประธานเฟดที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามและเป็นผู้ที่เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยให้ตลาดหุ้นป่วน และจะทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะถดถอยไปถึงปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่ทรัมป์จะหาเสียงสมัครเป็นประธานาธิบดีสมัย2


    จากกราฟ จะเห็นได้ว่าเฟดกดดอกเบี้ย0.25%เกือบตลอดสมัยของประธานาธิบดีโอบามา (คศ 2009-2016)ที่ดำเนินมาเป็นเวลา8ปีเต็ม โดยที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวเป็น0.50%ในปี2015 และอีกครั้งในเดือนธันวาคมเป็น0.75%ปี 2016 หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งสดๆร้อนๆ


    พอทรัมป์เป็นประธานาธิบดีในปี2017อย่างเป็นทางการ เฟดกลับเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอุตหลุดถึง7ครั้ง จนถึงระดับ2.50%ในเวลานี้

    แม้ว่าทรัมป์จะเตือนเฟดแล้วว่า มันไม่ถูกต้องที่เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยสมัยโอบามา แต่พอมาสมัยเขากลับขึ้นดอกเบี้ยแบบขึ้นเอาขึ้นเอาๆ เอาหัวสมองอะไรมาคิดในหลักการบริหารการเงินและเศรษฐกิจ


    ถ้าทรัมป์ไม่ปลดPowellมีหวังได้เห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยจนเศรษฐกิจมีปัญหาจนทรัมป์มิอาจชนะการเลือกตั้งสมัย2ได้


    21/12/2018


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post

    IMG_6280.JPG
    ส.ว.สหรัฐฯ รุมซัดทรัมป์ ผลักประเทศเข้าสู่ความโกลาหล ต้นเหตุรมต.กลาโหมลาออก

    https://www.publicpostonline.net/20804


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระทรวงพลังงาน

    IMG_6281.JPG
    เนื่องจากมีเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับการเชิญชวนดำเนินการก่อสร้างโครงการกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า(ดังแนบ) ซึ่งเป็นการแอบอ้าง ปลอมแปลงลายมือชื่อผู้บริหารกระทรวงพลังงาน

    กระทรวงพลังงานขอเรียนว่าเอกสารฉบับดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ซึ่งจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้จัดทำอย่างเด็ดขาด

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ และไม่หลงเชื่อข้อมูลจากกลุ่มผู้กระทำการดังกล่าว ขอบคุณครับ


    https://energy.go.th/2015/96241-2/


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ทรัมป์" หวั่น "จีน-รัสเซีย" ทำลายดาวเทียม สั่งเพนตากอน ตั้งกองบัญชาการอวกาศรับมือ
    เรื่องโดย สถาพร เกื้อสกุล | ภาพโดย Nation TV 21 ธันวาคม 2561 09:00

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความพยายามมาโดยตลอดในการที่จะเพิ่มศักยภาพทางทหาร และการแข่งขันทางอาวุธ ที่ผ่านมานั้นเขาเองได้ริเริ่มที่จะดำเนินการจัดตั้งกองบัญชาการอวกาศ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานใหม่ แยกออกมาจากกองทัพอากาศเดิม โดยกองบัญชาการอวกาศนี้จะเป็นคนละส่วนกับเป้าหมายสร้างเหล่าทัพใหม่แห่งกองทัพสหรัฐฯ ที่เรียกว่ากองกำลังอวกาศแต่มันอาจเป็นก้าวย่างหนึ่งในการเดินหน้าไปให้ถึงจุดดังกล่าว

    ผู้นำสหรัฐฯ ได้ทำบันทึกส่งไปยัง จิม แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าต้องการจัดตั้งกองบัญชาการอวกาศแห่งอเมริกา ในฐานะกองบัญชาการรบหนึ่ง แต่ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายของสหรัฐฯ

    ขณะที่ทางด้าน ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กองบัญชาการอวกาศใหม่จะบูรณาการแสนยานุภาพด้านอวกาศทั่วทุกเหล่าทัพของกองทัพมันจะพัฒนาทฤษฎี, กลยุทธ์,เทคนิคและขั้นตอนทางอวกาศต่างๆ ซึ่งจะสามารถช่วยให้การทำสงครามปกป้องประเทศนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นยุคสมัยปัจจุบัน

    640_h6kbfckaeadcb55aebgag.jpg

    กองบัญชาการอวกาศ หรือ SpaceCom จะกลายเป็นกองบัญชาการการรบที่ 11 ของเพนตากอน มีศักดิ์เทียบเท่ากับกองบัญชาการอื่น ๆ อาทิเช่น กองบัญชาการกลางและกองบัญชาการยุโรป เป็นต้น

    เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา นายโดนัดล์ ทรัมป์ เคยบอกว่าตัวเขาต้องการที่จะสร้างกองกำลังอวกาศ ซึ่งจะเป็นเหล่าทัพใหม่ของกองทัพสหรัฐฯ เคียงข้างกองทัพเรือ, นาวิกโยธิน, กองทัพบก, กองทัพอากาศและกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่ง ซึ่งเขายังได้ย้ำว่าเรื่องดังกล่าวนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยทำให้สหรัฐฯ นั้นก้าวกระโดดไปกว่า จีน รัสเซีย แต่ทว่าก็ยังไม่ชัดเจนนักเนื่องจากจะต้องผ่านรัฐสภา

    โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัดเดินหน้าตั้งกองกำลังอวกาศแน่ เพราะเวลานี้ สหรัฐฯ เองนั้นหวั่นวิตกอย่างหนักว่า จีน และรัสเซีย กำลังหาทางก่อความวุ่นวาย แม้กระทั่งทำลายดาวเทียมของสหรัฐฯ ดังนั้น ผู้นำสหรัฐฯ จึงเห็นว่าควรเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้น การก่อตั้งกองบัญชาการอวกาศแห่งอเมริกา ในฐานะกองบัญชาการรบหนึ่ง จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างผลงาน เพื่อขยับไปเป็นกองกำลังอวกาศในอนาคตหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

    http://www.nationtv.tv/main/content/378677802/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2018
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Severe Weather Europe

    IMG_6284.JPG

    ลูกเห็บยักษ์รายงานในซิดนีย์เมื่อวานนี้! ผ่าน Oz Cyclone Chasers

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE

    IMG_6287.JPG
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ปาดน้ำตาแพร้พ!!! #กระทรวงคมนาคมอนุมัติปรับโครงสร้างค่าโดยสาร เพิ่มขึ้น 10% ผู้ประกอบการเฮรับคึกคัก คาดรายได้ต่อปีเด้งขึ้น 10% #นครชัยแอร์ ประเมินเบื้องต้น อัตราค่าโดยสารรถโดยสารระหว่างจังหวัด (รถทัวร์) ทั้งของ บขส. และรถร่วมบริการ บขส. จะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30-40 บาท #แต่จะไม่เท่ากันทุกเส้นทางขึ้นอยู่กับระยะทางในแต่ละสาย


    "ในฐานะผู้ประกอบรู้สึกดีใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือในครั้งนี้ #ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งในระยะยาว ในอนาคตอยากให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติม อาทิ ต้นทุนค่าน้ำมัน ต้นทุนค่าซ่อมบำรุงตลอดจนยกเว้นภาษีบางส่วน เป็นต้น"


    Source : thaipost - https://bit.ly/2ScF8W2


    โดยเรื่องนี้ นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า #ปัจจุบันผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะระหว่างจังหวัดได้รับผลกระทบเรื่องต้นทุนจำนวนมาก ส่งผลให้มีแต่ปิดกิจการและไม่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา จึงมองว่าทิศทางของตลาดในอนาคตจะมีแต่กลุ่มทุนจีนและบริษัทต่างประเทศเข้ามาลงทุน ในฐานะผู้ประกอบรู้สึกดีใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐานระบบขนส่งในระยะยาว ในอนาคตจึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติม อาทิ ต้นทุนค่าน้ำมัน ต้นทุนค่าซ่อมบำรุง ตลอดจนยกเว้นภาษีบางส่วน เป็นต้น ทั้งนี้มองว่า จากนโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 10%


    "ความท้าทายในอนาคต #ยังคงเป็นสภาพตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงกับสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งเปิดเส้นทางใหม่ในเมืองรองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจในอนาคตที่จะทำให้ปริมาณการบริโภคและอำนาจจับจ่ายใช้สอยลดลง ดังนั้น #ต้องเร่งเปิดเส้นทางใหม่เพื่อกวาดต้อนในจุดที่มีศักยภาพผู้โดยสาร" นางเครือวัลย์ กล่าว


    รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า การปรับโครงสร้างค่าโดยสารดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 2562 โดยรถทัวร์มีการปรับราคาเพิ่ม 10% แบ่งเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย


    ▪️ระยะทาง 40 กิโลเมตรแรก เดิม 0.49 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.53 บาทต่อกิโลเมตร

    ▪️ระยะทาง 40-100 กิโลเมตร เดิม 0.44 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.48 บาทต่อกิโลเมตร

    ▪️ระยะทาง 100-200 กิโลเมตร เดิม 0.40 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.44 บาทต่อกิโลเมตร

    ▪️ระยะทางเกิน 200 กิโลเมตร เดิม 0.36 บาทต่อกิโลเมตร เป็น 0.39 บาทต่อกิโลเมตร.


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยังไม่คอนเฟิร์ม! ยก3จังหวัดชายแดนใต้เป็น’เขตปกครองพิเศษ’ โดย กองบก. - 21 ธันวาคม 2018

    Untitled-1-19.jpg
    ‘บิ๊กป้อม’ ยังไม่คอนเฟิร์ม! 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ เผยต้องดูความเหมาะสมเกี่ยวข้องกับงบประมาณ

    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการแบ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ ว่าคงต้องมีการพูดคุยกันเรื่องการกระจายอำนาจ ซึ่งเรามีคณะผู้คุยคณะสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การนำของ พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ดำเนินการอยู่แล้ว และเราก็ไม่ได้ตั้งธงว่าจะแบ่งเป็นเขตปกครองพิเศษไม่ได้

    แต่คณะพูดคุยก็ต้องไปดูว่าฝ่ายอำนวยความสะดวกมาเลเซียว่าคิดอย่างไร ส่วนโอกาสที่จะให้เป็นเขตปกครองพิเศษเหมือนกรุงเทพฯและพัทยานั้น ยังต้องดูความเหมาะสมและสามารถทำได้แค่ไหน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับงบประมาณ รวมถึงเรื่องอื่นๆ

    “เรื่องเขตปกครองพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราต้องมีการพูดคุยในเรื่องรายละเอียดกันก่อน ส่วนจะเป็นความต้องการของผู้เห็นต่างในพื้นที่หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ไปคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่าง โดยในช่วงก่อนหน้านี้ที่ได้มีโอกาสได้พบปะกับผู้นำของมาเลเซียก็ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้ถือเป็นเพียงแนวความคิด และหาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษจริง ผมก็ไม่ทราบว่าในอนาคตจะเกิดความสงบจริงหรือไม่” พล.อ.ประวิตร กล่าว


    https://www.publicpostonline.net/20807
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2018
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หน้าแรก ภูมิปัญญาชาวบ้าน
    สุดยอดคนไทย!! ผลิตน้ำมันดิบจากใบอ้อย ได้เป็นที่แรกของโลก
    โดย
    admin
    -
    กุมภาพันธ์ 27, 2018

    3699-696x348.jpg
    รู้หรือไม่? ใบอ้อย 4 กิโลกรัม สามารถผลิตเป็นน้ำมันดิบได้ถึง 1 ลิตร ใช้ระยะเวลา 30-40 นาที ดังนั้น ถ้าใบอ้อย 10 ล้านตัน จะทำให้ได้น้ำมันดิบประมาณ 2.5 พันล้านลิตรเลยทีเดียว!!

    ทั้งที่บราซิล สหรัฐอเมริกา ขึ้นชื่อมีพื้นที่ ปลูกอ้อยมาก ไทยเทียบไม่ติดฝุ่น…แต่วันนี้ไทยจะเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถนำใบอ้อยมา ผลิตเป็นน้ำมันดิบเทียบเท่าน้ำมันจากใต้พื้นพิภพ

    84-11.jpg

    ผลงานวิจัยของ รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร อาจารย์วิศวกรรมเครื่องกล พร้อมด้วย นายวศกร ตรีเดช นักศึกษาระดับปริญญาเอก ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

    l2.jpg

    ไปคว้ารางวัลเหรียญเงิน หรือ Silver Prize ในการประกวดและแสดงผลงาน Seoul International Invention 2014 หรือ SIIF ซึ่งเป็นการประกวดนวัตกรรมระดับชาติ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา

    l3.jpg

    รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร เผยว่า “ผลงานวิจัยนี้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาสภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงของโลก จึงทำให้ประสบความสำเร็จได้รับ Silver Prize ในงาน Seoul International Invention 2014 ซึ่งเป็นงานประกวดนวัตกรรมระดับชาติ

    นโยบายของประเทศไทยก็มีการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น จากการสำรวจประเทศไทยพบว่ามีปริมาณชีวมวลจำนวนมาก และชีวมวลหลายอย่างถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างไม่คุ้มค่า อาทิเช่น ใบอ้อย แกลบ กากอ้อย ไม้ และฟืน เป็นต้น

    โดยชีวมวลดังกล่าวสามารถนำมาแปรรูปเป็นแหล่งพลังงานทดแทนได้อย่างมีศักยภาพ คณะวิจัยจึงเลือกใบอ้อยซึ่งมีค่าความร้อนสูงเมื่อเทียบกับชีวมวลประเภทอื่น และยังเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรที่มีปริมาณกว่า 10 ล้านตันต่อปี มาใช้ในการวิจัยครั้งนี้

    l6.jpg

    ผลงานวิจัยพบว่า ใบอ้อย 4 กิโลกรัม ได้น้ำมันดิบ 1 ลิตร ใช้ระยะเวลา 30-40 นาที ดังนั้นถ้าใบอ้อย 10 ล้านตัน จะทำให้ได้น้ำมันดิบประมาณ 2.5 พันล้านลิตร ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและเศรษฐกิจให้ประเทศไทยได้”

    557000004860104.jpg

    ศ.ดร.รัชพล กล่าวว่า “เตาปฏิกรณ์ฟลูอิดไดซ์เบดซึ่งมีลักษณะเป็นหอสูง 154 เซนติเมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร เพื่อเผาใบอ้อยที่ถูกบดละเอียด ผงใบอ้อยจะถูกป้อนเข้าด้วยระบบที่มีอัตราการป้อนที่ 10 กิโลกรัมต่อชั่วโมง

    โดยภายในบรรจุเม็ดทรายซึ่งใช้เป็นตัวนำความร้อนจากก๊าซไนโตรเจนที่ผ่านฮีตเตอร์ควบคุมให้ได้อุณหภูมิ 500 องศาเซลเซียส เป่าขึ้นจากด้านล่างของหอเตาปฏิกรณ์ ทำให้เม็ดทรายร้อนและเคลื่อนไหวลักษณะแขวนลอยอยู่ภายในหอเตาปฏิกรณ์ ผงใบอ้อยจึงถูกเผาไหม้กลายสภาพเป็นไอ

    gen_thumb.jpg

    นอกจากนี้ยังได้มีการออกแบบภายในให้มีระบบดักจับผงใบอ้อยที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ด้วยไซโคลน 2 ชุด เมื่อไอจากการเผาไหม้ผ่านเข้าสู่ระบบควบแน่นที่อุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส จึงกลายเป็นน้ำมันดิบด้วยเทคโนโลยีไพโรไลซิสในการใช้ความร้อนสกัดน้ำมันจากชีวมวล”

    l1.jpg

    รศ.ดร.รัชพล กล่าวต่อว่า “ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณน้ำมันดิบที่ได้ คือ อุณหภูมิของหอเตาปฏิกรณ์ และอัตราการไหลของก๊าซไนโตรเจน

    หากสัดส่วนไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดปริมาณไอที่ไม่กลั่นตัวเป็นน้ำมันดิบสูงขึ้น และปริมาณถ่านชาร์หรือผงใบอ้อยที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์มากขึ้น โดยน้ำมันดิบที่ได้ยังมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่

    เนื่องจากความชื้นของใบอ้อยและธาตุไฮโดรเจนที่ทำปฏิกิริยาความร้อนกลั่นตัวออกมาเป็นน้ำ จึงต้องทำการต้มที่จุดเดือดของน้ำอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เพื่อขับน้ำที่เป็นส่วนประกอบในน้ำมันดิบออก จากนั้นนำน้ำมันดิบที่ได้มาวิเคราะห์คุณสมบัติเบื้องต้น

    l7.jpg

    พบว่า ค่าความร้อนเชื้อเพลิง ค่าความหนืด ความหนาแน่น และความเป็นกรดด่าง เมื่อผ่านการกลั้นกลายเป็นน้ำมันดีเซลจะมีค่าใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลที่ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน

    โดยมั่นใจว่าถ้ามีการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพนี้ จะสามารถนำไปใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขาดแคลนในปัจจุบันได้ แต่จากผลงานวิจัยนี้ซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบ ยังพบสิ่งที่ต้องพัฒนาหลายอย่าง อาทิเช่น เศษผงใบอ้อยที่เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์”

    2-523-B83BB55A.jpg

    “โครงการวิจัยเตาปฏิกรณ์ฟลูอิดไดซ์เบด ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพจากใบอ้อย ด้วยเทคโนโลยีไพโรไลซิส จึงดำเนินการวิจัยต่อในเตาปฏิกรณ์รุ่นที่สองซึ่งได้มีการออกแบบและสร้างขึ้นใหม่

    โดยพัฒนาต่อยอดจากเตาปฏิกรณ์รุ่นแรก เช่น หอเตาปฏิกรณ์ที่มีความสูงกว่า 220 เซนติเมตร ระบบป้อนผงใบอ้อยแบบใหม่ ระบบวนลูปผงใบอ้อยจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์กลับเข้าสู่หอเตาปฏิกรณ์ใหม่เพื่อพัฒนาเครื่องรุ่นที่สองให้เกิดการเผาไหม้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ระบบควบแน่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังจะมีการนำชีวมวลประเภทอื่นมาใช้ในการทดลองอีกด้วย” รศ.ดร.รัชพล กล่าวในที่สุด

    ขอบคุณที่มา https://www.kku.ac.th/news/
    ภาพ/ข่าว : วรวิทย์ สิริภานุวัฒน์
    ภาพข่าวหลัก : บริพัตร ทาสี


    https://phumpunya.com/ภูมิปัญญาชาวบ้าน/สุดยอดคนไทย-ผลิตน้ำมัน/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    IMG_6299.JPG
    ... “ตุรกี อิหร่าน จับมือด้านทหารแน่นขึ้น หลังอเมริกาประกาศถอนทหารจากซีเรีย ”

    ... หลังจากที่ “อเมริกา” โดยทรัมป์ประกาศอย่างไม่เป็นทางการ ว่าจะถอนทหารอเมริกา 2,000 นาย ออกจาก “ซีเรีย” เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งลดการโจมตีทางอากาศต่อไอซิส โดยอ้างเหตุผลเมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2018 ว่าเพราะว่า ไอซิสนั้นแพ้แล้ว แต่ผ่านมาแค่วันเดียว เขาก็บอกว่าการถอนทหารนั้นก็ “เพื่อรักษาชีวิตนายทหารและงบประมาณของประเทศ” เขาบอกว่า “ทำไมเราต้องคงทหารเอาไว้รบและฆ่าไอซิสเพื่อซีเรีย รัสเซีย อิหร่าน และประเทศบริเวณนี้” และหลังจากนั้นก็มีปฏิกิริยาออกมาจากหลายฝ่ายทันที

    ... เช่น ลุงปูตินที่ขนทหารไปร่วมในการช่วยรัฐบาลซีเรียปราบผู้ก่อการร้ายเต็มตัวในปี 2015 ก็ออกมาชื่นชมในการพูดออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “ทรัมป์ทำถูกแล้ว ผมยินดีกับการตัดสินใจแบบนั้นของอเมริกา... เพราะว่าที่ผ่านมานั้นอเมริกาทำผิดกฎหมาย เพราะเอากองกำลังทหารเข้ามาซีเรียโดยไม่ได้รับการยินยอมจากรัฐบาลเจ้าของประเทศ”

    ... ขณะที่ประเทศบริวาร เช่น “อังกฤษ ฝรั่งเศส” หรือประเทศอื่นๆ ที่ก็มีกองทหารตามลูกพี่ไปในซีเรียด้วย ก็ออกอาการงง เพราะว่าลูกพี่ประกาศแบบไม่ปรึกษาแจ้งลูกน้องให้ทราบล่วงหน้าเลย แต่ ฝรั่งเศสนั้นจะยังไม่ถอนทหารออกจากซีเรีย เพราะกลัวว่าจะทำให้ไอซิส กลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมได้ โดยอ้างว่าการประเมินของพวกอเมริกาที่ทรัมป์บอกว่า ไอซิสนั้นแพ้แล้วนั้น พวกเขาไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่า ไอซิสยังไม่แพ้ และจะทำให้ฝ่าย SDF หรือ Syrian Democratic Forces ต้องโดดเดี่ยว และทำงานยาก และกลุ่มนี้เองที่คอยช่วยเหลือเอื้อหนุนและเดินตามการนำของกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียหรือ YPG ในการต่อสู้กับไอซิส แต่ว่ากองกำลังของทั้ง อังกฤษและฝรั่งเศสนั้นอยู่ได้ด้วยการสนับสนุนขนส่งจากอเมริกาเป็นหลัก ถ้าหัวหน้าหาย พวกเขาก็อยู่ลำบากขึ้น ( แค่เป็นการเล่นละครหน้าฉากตบตาชาวโลกต่อไป )

    ... ในเดือนสิงหาคมปี 2018 นี้ ฝ่าย “อเมริกา” ได้ประเมินว่า กองกำลังไอซิสเหลืออยู่ในซีเรียประมาณ 14,500 คน แต่ฝ่ายยุโรปมองว่าไอซิสยังเหลือกำลังอีก 10 % ยังไม่แพ้ราบคาบ

    ... ขณะที่ “ชาวเคิร์ด” ที่อยากเป็นรัฐอิสระในอนาคตเพื่อจะเป็นสาขาย่อยและบริวารของอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย คอยทิ่มแทง ตุรกีและอิหร่าน นั้นกลับไม่พอใจการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์อย่างมาก โดยตำหนิประณามการตัดสินใจครั้งนี้ว่า จะทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ เกิดสุญญากาศทางการเมืองและทางการทหารในดินแดนนี้ จะทำให้เกิดการรื้อฟื้นของกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง และจะกระทบกับความปลอดภัยของชาวบ้านแถบนี้ โดยภาพที่ออกสื่อกระแสหลักนั้น อเมริกาสนับสนุนเคิร์ดเพื่อช่วยเหลือในการรบกับ ไอซิส ( เพราะพวกเขาต้องรบกับไอซิสโดยลำพัง แต่เคิร์ดกลัวตุรกีมากกว่า ในตอนนี้ )

    ... ส่วน “ตุรกี” ในเวลาที่ “อเมริกา” ประกาศว่าจะถอนทหารออกจาก “ซีเรีย” ตุรกีก็กำลังจะทำการส่งกองกำลังเข้าไปในซีเรีย เพื่อว่าจะจัดการกับพวกเคิร์ดในซีเรีย เพราะพวกเขามองว่ากองกำลังเคิร์ดในซีเรียหรือ YPG ที่พวกเขามองว่าเป็นภัยคุกคามอธิปไตยของเขา และเป็นเครือข่ายเดียวกับพวก PKK หรือกองกำลังเคิร์ดในตุรกี ที่พวกเขามองว่าเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน และแน่นอน “อเมริกา” สนับสนุนพวกเคิร์ดอยู่ ทำให้ตุรกีไม่พอใจวอชิงตันมาก จนทำให้พวกเขาแตกแยกกันในที่สุด ทำให้ตุรกีหันไปคบหากับรัสเซียกับอิหร่านแทน

    ... และทั้ง “ตุรกีและอิหร่าน” ที่แม้จะไม่มีคอมเม้นท์ต่อการประกาศถอนทหารอเมริกาออกจากซีเรีย และมีจุดยืนในการสนับสนุนต่างกัน อิหร่านนั้นสนับสนุนอัลอัสสาด ขณะที่ตุรกีจะโค่นล้มอัลอัสสาด แต่ในการประชุมกับอิหร่านที่อังการ่าที่มีการวางแผนพบกันก่อนที่ทรัมป์จะประกาศถอนทหารแล้วนั้น พวกเขาบอกว่าจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกในการหยุดสงครามในดินแดนเหล่านั้น และตอนนี้ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียกองทหารของรัฐบาลก็สามารถครอบครองได้เกือบหมดแล้ว เหลือแต่เมือง อิดลิบ Idlib เท่านั้น ( รู้กันว่า เคิร์ดโดนรุมแน่ เพราะพวกเขาแทรกแซงปั่นป่วนทั้งในตุรกีและอิหร่าน ตามนายอิสราเอลและอเมริกาเขียนบทให้ )

    ... แต่ตุรกีกลับแสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่อเมริกาจะกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งในเรื่องนิวเคลียร์ หรือ JCPOA ว่าจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในดินแดนนี้มากขึ้น และตุรกีไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้

    ... นอกจากจะประกาศทำให้โลกประหลาดใจด้วยการจะถอนทหารออกจากซีเรียที่พวกเขาส่งเข้าไปแทรกแซงนับตั้งแต่พวกเขาสร้างกระแส “อาหรับสปริง” ขึ้นมาและตามมาด้วยการแทรกแซงทางการทหารในซีเรีย ( ตอนนี้กำลังมี ฝรั่งเศสสปริง ที่ดูเหมือนจะดี แต่อาจจะเป็นแค่การหลอกใช้ประชาชนโค่นมาครอง ) แล้ว นอกจากการประกาศถอนออกจากซีเรียแล้ว ทรัมป์ยังกำลังจะวางแผนถอนทหาร 14,000 คนออกจาก “อัฟกานิสถาน” ด้วย

    ... แต่นักวิเคราะห์ตะวันตกบางสายมองว่า การประกาศถอนทหารออกจากซีเรีย อาจจะเป็นแค่เกมการพยายามลดอิทธิพลของอิหร่านในย่านนี้ของอเมริกา

    .

    .

    ... “If the USA made that decision then it’s the right one,” Putin said during a nationally televised press conference on Thursday, repeating complaints that US troop deployments in Syria were illegal because they were not agreed upon with the Assad government. He said he agreed with Trump that a “serious blow” had been struck against Isis, saying: “Donald is right, I agree with him.”

    ... “Why are we fighting for our enemy, Syria, by staying & killing ISIS for them, Russia, Iran & other locals?,” Trump asked on Twitter. “Time to focus on our Country & bring our youth back home where they belong!”

    ... The planned US pullout was announced as Turkey was preparing to send its military into Syria to confront Kurdish militias that it says threaten its sovereignty. The US-backed Kurds are drawn from the same Kurdish groups – a point that has caused friction between Ankara and Washington throughout the four-year campaign against Isis.

    ... "There are many steps that Turkey and Iran can take together to stop the fighting in the region and to establish peace," said Erdogan, without elaborating, at a joint news conference with Rouhani in Ankara.

    ... Some Western analysts consider the U.S. presence a key counterweight to Iranian influence in the region.

    .


    https://www.theguardian.com/world/2018/dec/20/syria-kurds-trump-troop-withdrawal-isis-turkey

    https://news.cgtn.com/news/3d3d414f3155444e31457a6


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6300.JPG
    (Dec 21) เตือนนักเที่ยว ห้ามพกพาเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าไต้หวัน โทษปรับสูงสุด 1 ล้าน: สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรื่อง การห้ามพกพาเนื้อสัตว์ทุกชนิดและทุกประเภทเข้าไต้หวัน ฝ่าฝืนโทษปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1,060,000 บาท)


    ประกาศดังกล่าว ระบุว่า ด้วยตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2561 เวลา 0.00 น. ทางการไต้หวันได้ประกาศเพิ่มค่าปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยปรับเริ่มต้นเมื่อตรวจจับได้ครั้งแรก 200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และครั้งที่ 2 ปรับ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยไม่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ละเมิดข้อห้ามการนำเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าไต้หวัน ทั้งที่ปรุงสุกและดิบ ซึ่งมีการตรวจพบผู้ลักลอบพกพาเข้าไต้หวันหลายรายรวมทั้งผู้โดยสารชาวไทยด้วยนั้น


    สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ขอย้ำเตือนให้ผู้โดยสารชาวไทยที่จะเดินทางเข้าไต้หวัน “งด” การพกพาเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าไต้หวันทั้งแบบดิบ สุก สูญญากาศ และเครื่องกระป๋อง (อาทิ แคปหมู ข้าวตังหน้าตั้งหน้าหมูหยอง แหนม ไส้อั่ว และสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนประกอบจากหมู) หากไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พกพาเข้ามา จะเข้าข่ายถูกจับปรับหรือไม่ ควรสำแดงสิ่งของต่อเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจก่อนเข้าไต้หวัน เมื่อถูกตรวจพบว่า มีสิ่งของที่เข้าข่ายข้อห้ามเหล่านี้ จะถูกเจ้าหน้าที่ยึดและนำไปทำลายเท่านั้น โดยไม่มีการปรับ


    นอกจากนี้ คนไทยที่พำนักอาศัยในไต้หวันควรระมัดระวังการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางเว็บไซต์ หากถูกตรวจพบไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่สั่งซื้อหรือของแถมก็จะมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับเป็นเงินอีก 3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ตามกฎหมายไต้หวันด้วย จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


    Source: ผู้จัดการออนไลน์

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000126490
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6301.JPG
    (Dec 21) จีนกระตุ้นปล่อยกู้รายย่อย - พีบีโอซีงัดกลไกหนุน เงินกู้ให้เอกชนรายเล็ก ด้านเวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจจีนปีหน้าโต 6.2%



    ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เปิดเผยว่า พีบีโอซีได้ออกกลไกกู้ยืมระยะ กลางแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (ทีเอ็มแอลเอฟ) เพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินต่างๆ ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทเอกชนขนาดเล็ก นับเป็นความเคลื่อนไหว ล่าสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่กำลัง ชะลอตัว ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ



    พีบีโอซี ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ธนาคารร่วมทุน และธนาคารพาณิชย์ตามเมืองใหญ่ สามารถเข้าร่วมกลไกทีเอ็มแอลเอฟ โดยอัตราดอกเบี้ยของทีเอ็มแอลเอฟจะอยู่ที่ 3.15% ลดลง 0.15% จากอัตราดอกเบี้ยกลไกกู้ยืมระยะกลาง (เอ็มแอลเอฟ)



    นอกจากนี้ พีบีโอซียังได้เพิ่มโควตาการให้สินเชื่อกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอีก 1 แสนล้านหยวน (ราว 4.74 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นการเพิ่มโควตารอบล่าสุดของพีบีโอซี หลังการเพิ่มโควตา 3 แสนล้านหยวน (ราว 1.42 แสนล้านบาท) ในปีนี้



    ขณะเดียวกัน พีบีโอซียังคงอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตรอายุ 7 วัน ไว้ที่ 2.55% และคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรอายุ 14 วัน ไว้ที่ 2.7% แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ของปีนี้ โดย พีบีโอซี ระบุว่า จะยังคงใช้นโยบายการคลังที่รอบคอบและเป็นกลางต่อไป เพื่อช่วยรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับพอดี



    ทั้งนี้ ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ยังคงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ในปี 2019 ไว้ที่ 6.2% เท่ากับคาดการณ์เดิมในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 28 ปี และลดลงมาจากการขยายตัวที่ 6.5% ในปีนี้ โดยระบุว่าการบริโภคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีน ขณะที่ดีมานด์ทั่วโลกที่ลดลงและภาษีนำเข้าของสหรัฐที่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน



    เวิลด์แบงก์ เปิดเผยว่า จีนควรมุ่งใช้นโยบายกระตุ้นการบริโภคครัวเรือนมาก กว่าระบบโครงสร้างพื้นฐาน และแนะว่าจีนยังมีโอกาสลดภาษีนิติบุคคลมากกว่านี้ พร้อมระบุว่า จีนควรเพิ่มความพยายามแก้ปัญหาการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพี) และการบีบบังคับถ่ายเอกชนต่างชาติโอนเทคโนโลยีให้รัฐบาล



    ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติ 7-2 คงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ -0.1% ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อไม่ถึงเป้า และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีขายในเดือน ต.ค. ปีหน้า



    ด้านธนาคารกลางไต้หวันยังคง อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.375% ตามการ คาดการณ์ เนื่องจากกังวลเรื่องสงครามการค้ากระทบเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.0% ตามการคาดการณ์ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 6 ครั้ง เพื่อป้องกันเงินทุนไหลออกและพยุงค่าเงิน และธนาคารกลางอังกฤษยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% จากความไม่แน่นอนเรื่องเบร็กซิต ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 100 วัน ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)



    ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และธนาคารกลางฮ่องกง ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามเฟด เช่นเดียวกับธนาคารกลางสวีเดนที่ขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ -0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี


    Source: Posttoday


    https://www.scmp.com/economy/china-...w-cost-loans-banks-help-fund-small-businesses
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    06A5173D-A12C-4BD6-A666-BBE9A159B285.jpeg
    (Dec 21) สหรัฐจ่อชัตดาวน์เที่ยงคืนนี้ หลังวุฒิฯยันคว่ำร่างงบประมาณฉบับสภาผู้แทนฯ: สหรัฐใกล้เผชิญภาวะชัตดาวน์ในเที่ยงคืนนี้ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐส่งสัญญาณชัดเจนที่จะไม่อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณที่เพิ่งผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎร


    "ทุกคนต่างก็รู้ว่าร่างกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา" นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภากล่าว


    เมื่อวานนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 185 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้บรรจุงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ตามความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


    ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ แต่ในร่างกฎหมายงบประมาณของวุฒิสภาไม่มีการบรรจุงบประมาณการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ


    ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับของสภาผู้แทนราษฎรจะถูกส่งกลับมาให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะส่งต่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยหากปธน.ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ปีหน้า


    ทั้งนี้ วุฒิสภาจะต้องให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ และส่งต่อให้ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย


    source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-253


    https://www.reuters.com/article/us-...ard-partial-government-shutdown-idUSKCN1OK15M
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6304.JPG
    (Dec 21) ธนาคารกลางเอเชียไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า เศรษฐกิจโตลดลง-เงินเฟ้อไม่รุนแรง-'เฟด' ชะลอขึ้นดอกเบี้ย - ธนาคารกลางในเอเชียยังมีเหตุผลไม่มากนักที่จะเข้มงวดนโยบายในปีหน้า นอกเสียจากว่าค่าเงินจะอ่อนตัวอีกรอบ เนื่องจากเศรษฐกิจโตลดลง เงินเฟ้อไม่รุนแรง ในขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยลดลง

    ธนาคารกลางสหรัฐได้ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สี่ของปีนี้ตามคาดเมื่อวันพุธ แต่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยให้ช้ากว่าที่คาดในปีหน้า แนวโน้มนโยบายของเฟดเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย และแนวโน้มที่สหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงในปีหน้าจะลดแรงกดดันในการเทขายสกุลเงินในเศรษฐกิจอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ธนาคารกลางในประเทศเหล่านี้ได้ขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้เพื่อยับยั้งการไหลออกของเงินทุนและทำให้เงินเฟ้อบรรเทาลง

    หนึ่งวันหลังการตัดสินใจของเฟด ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงนโยบายเงิน และมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในไต้หวันและอินโดนีเซียจะคงดอกเบี้ยเช่นกันเมื่อมีการประชุมนโยบายเงิน

    ไอรีน เชียง นักกลยุทธ์เอเชียของเอเอ็นแซด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางในเอเชียในปีหน้าขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าเฟดจะมีนโยบายอ่อนโยนลงอีกและมีแรงกดดันน้อยลงมากที่จะให้เอเชียเข้มงวดนโยบาย

    การหยุดเข้มงวดนโยบายเป็นเวลานานของธนาคารกลางในเอเชียอาจทำให้เงินทุนไหลเข้ามายังเอเชีย และช่วยสร้างความโล่งใจในระยะสั้นให้กับผู้กู้ขนาดเล็กที่มีมาร์จิ้นต่ำทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ และเมื่อดูจากความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนก็แทบจะไม่มีเหตุผลที่ธนาคารกลางในเอเชียต้องขึ้นดอกเบี้ย

    กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะโตลดลงเหลือ 5.4% ในปีหน้า จาก 5.6% ในปีนี้ แต่ ชางยอง รี ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไอเอ็มเอฟกล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันอังคารว่า ไอเอ็มเอฟอาจจะลดการเติบโตของเอเชียลงอีกเมื่อมีการทบทวนใหม่ในเดือนมกราคม

    นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า การเติบโตของจีนอาจลดลงถึง 1% เต็มในปีหน้า หากการหยุดยิงของจีนและสหรัฐล้มลงและมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นในปีหน้า และชาติอื่น ๆ ในเอเชียอาจได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับจีนเนื่องจากพึ่งพาการค้าและการลงทุนอย่างหนักจากจีน

    แนวโน้มการเติบโตที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ และลดเหตุผลที่จะขึ้นดอกเบี้ย โดยราคาผู้บริโภคได้สูงอย่างน่าประหลาดใจในปีนี้ แม้ว่าค่าเงินอ่อนตัวลงเป็นเลขสองหลักในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม และราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นเกือบ 40% จากต้นปีจนถึงเดือนตุลาคมแม้ว่าได้เปลี่ยนทิศทางโดยสิ้นเชิงนับตั้งแต่นั้นมา

    เศรษฐกิจเดียวในเอเชียที่ราคาผู้บริโภคโตขึ้นในปีนี้ คือ ฟิลิปปินส์ โดยเงินเฟ้ออยู่ที่ 6% ในเดือนพฤศจิกายน แต่มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าเงินเฟ้อจะลดลงในปีหน้า

    เฟรเดอริก นิวแมนน์ ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของเอชเอสบีซี กล่าวว่า ธนาคารกลางจำเป็นต้องระวังเกี่ยวกับการเข้มงวดนโยบายเพิ่มเติม และในบางประเทศนโยบายเงินอาจจะต้องผ่อนคลายลง ตัวอย่างเช่น จีน แต่อาจมีหลายประเทศต้องผ่อนคลายนโยบายในปีหน้าเมื่อมีความเสี่ยงที่อัตราแลกเปลี่ยนจะแกว่งตัวรุนแรง

    เงินเฟ้อที่ลดลงและการขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงเป็นข่าวดีสำหรับพันธบัตรในเอเชีย ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนได้กลับมาลงทุนในพันธบัตรเอเชียแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจได้ดำเนินนโยบายเพียงพอที่จะปรับค่าพรีเมียมความเสี่ยงแล้ว

    ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียได้ขึ้นดอกเบี้ย 5 ครั้ง และ 6 ครั้ง ตามลำดับ โดยในปีนี้แต่ละประเทศขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 1.75% ในขณะที่อินเดียได้ขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง โดยรวมทั้งหมด 0.50%

    ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เมื่อวันพุธแต่ส่งสัญญาณว่าไม่มีแผนการที่จะขึ้นอีกในเร็ว ๆ นี้ ส่วนมาเลเซียขึ้นดอกเบี้ยไปหนึ่งครั้งในเดือนมกราคม ขณะที่เกาหลีใต้ขึ้นไปหนึ่งครั้งในการประชุมครั้งล่าสุด อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางทั้งสามแห่งนี้มีเป้าหมายเพื่อคุมหนี้ครัวเรือนมากกว่าเงินเฟ้อ

    ในกรณีของประเทศไทยมีความกังวลมากขึ้นว่าการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มอาจกระทบภาครถยนต์ซึ่งเป็นภาคเดียวที่สดใสในเศรษฐกิจ ส่วนเกาหลีใต้ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ร้อนแรงที่สุดในโลก ในขณะนี้ก็กำลังส่งสัญญาณเย็นลง

    Source: ข่าวหุ้น

    https://www.bworldonline.com/asias-...on-to-increase-policy-interest-rates-in-2019/
     

แชร์หน้านี้

Loading...