ติดตามสถานะการณ์

Thairath


#ข่าวหน้า1 ม็อบต้านโรงไฟฟ้าขยะสลายตัวแล้ว “ศรีวราห์” เจรจาแกนนำเครียด พบพิรุธเอกสารหลายอย่างในการยื่นขออนุญาตสร้างโรงไฟฟ้าเป็นเอกสารปลอม ผู้ชุมนุมทราบเรื่องต่างดีใจรีบสลายตัว แกนนำถูกออกหมายจับ 6 คน และได้ประกันตัวหมด

 

WudhichaI Maitreesophone


แย่เลย สหรัฐอเมริกา Bloomberg รายงานว่า หนี้สาธารณะของสหรัฐ กำลังพุ่งขึ้นด้วยความเร็วสูง ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์


หนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มขึ้น1.36 ล้านล้าน ดอลลาร์หรือ 6.6% ตั้งแต่เริ่มปี 2018 และเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านล้าน ดอลลาร์ ตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามานั่งในทำเนียบขาว


ถ้าพูดกันแบบคร่าวๆ เฉพาะหนี้ส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้เท่ากับ GDP ของประเทศบราซิล ทั้งปีเลย


ล่าสุดเมื่อวันจันทร์หนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นถึง 21.90 ล้านล้านดอลลาร์


การกู้ยืมเพิ่มใหม่ ต้องครอบคลุมส่วนที่ขาดดุลงบประมาณคือ

 

Watchers


#สภาพอากาศ #94B

12/12/18

PhethaI คาดการณ์ ว่าหย่อมความกดต่ำ 94B ในอ่าวเบงกอล จะพัฒนาขึ้นในวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561 และจะเพิ่มความรุนแรงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียและศรีลังกา ให้เป็นพายุไซโคลนรุนแรงมาก

ทำให้มีลมแรงและมีฝนตกหนักตามแนวชายฝั่งของรัฐทมิฬนาฑูและรัฐอานธรประเทศอินเดีย


ลมรุนแรงขึ้น 150 กม. / ชม. (93 ไมล์ต่อชั่วโมง) มีแนวโน้มทำให้พายุรุนแรงมากขึ้น


ผลกระทบต่อประเทศไทย

หย่อมความกดต่ำกำลังแรง 94B ก่อให้เกิดฝนบางแห่งในภาคเหนือ

ภาคใต้ก็ยังอยู่ในหน้าฝน ฝนตกทุกวัน บางจุดอาจหนักจนท่วม

หย่อมนี้กำลังจะกลายเป็นพายุไซโคลนไปทางประเทศอินเดีย ฝนถึงจะค่อยๆห่างไป


Featured image credit: NASA/NOAA Suomi NPP/VIIRS. Acquired December 11, 2018 และ mrvob

#Watchers

 

Watchers


#Tornado

12/12/18

#Argentina

ทอร์นาโดที่ไม่ได้เกิดจาก ซุปเปอร์เซลล์ (NST) ตอน บ่ายวันนี้ในอาเจนติน่า

ทอร์นาโดแบบนี้ละที่จะเกิดได้ในประเทศเรา..ส่วนใหญ่ความรุนแรงจะแค่ F0-F1

เครดิตภาพ : METEORO

 

Watchers



#ข่าวภัยพิบัติ

11/12/18

วิดีโอ | พายุหิมะในRío Branco Cerro Largo #อุรุกวัย เป็นเหตุให้เกิดการทำลายล้าง

เครดิต : Met Uy Estacion bcp

#Watchers

 

Watchers

#Earthquake

12/12/18

เวลา 20:13 น. ตามเวลาไทย

(13:13:56.2 UTC)

แผ่นดินไหว

PACIFIC-ANTARCTIC RIDGE

ชนาด 6.3

พิกัด 55.67 S ; 128.61 W

ความลึก 10 กม.


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=732052

#Watchers

 

Watchers

#Earthquake

วันที่ 12 ธันวาคม 2561

เวลา 18:14 น. ตามเวลาประเทศไทย

แผ่นดินไหว

ประเทศพม่า (18.24,96.22)

ขนาด 3.5

ความลึก 10 กม.


ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 181 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/QtRd9Z)

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake #Yellowstone

// เยลโลว์สโตนปะทุทำลายสถิติ รอบ54ปี //

11/12/18

Steamboat geyser ใน Yellowstone ได้มีการปะทุของไอน้ำและน้ำ 30 ครั้งในปีนี้(2018)ซึ่งทำลายสถิติ 29 ครั้งในปี 1964 รายงานจาก : Yellowstone Volcano Observatory report


Steamboat Geyser ในลุ่มน้ำ Norris Geyser ดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ช่วงของการปะทุของน้ำบ่อยมากขึ้นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในทศวรรษที่ 1960 และต้นทศวรรษ 1980


แม้ว่าการปะทุเหล่านี้จะไม่มีผลต่อการเกิดกระบวนการภูเขาไฟในอนาคตที่เยลโลว์สโตนก็ตาม (อย่างไรก็ตามการปะทุขึ้นส่วนใหญ่จะทำให้เกิดการพังทลายไปเช่นที่ Steamboat Geyser)

และมันยังคงงดงามและหลายคนก็มีโอกาสเห็น Steamboat Geyser ในการปะทุ ในช่วงฤดูร้อนของปี 2018 "YVO กล่าว


กิจกรรมการปะทุถึง30ครั้ง ที่ Steamboat ในปีนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ไม่เป็นประวัติการณ์เราเคยเห็นกิจกรรมที่คล้ายคลึงกันมาก่อนหน้านี้สองครั้งก่อนหน้านี้ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 และอีกครั้งในช่วงต้นทศวรรษ 1980 น้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการพ่นไอน้ำแต่ยังคงความสงบเงียบ หรือ ไม่มีการปะทุรุนแรง แม้ว่าจะการปะทุของไอน้ำและน้ำครั้งใหญ่ตลอดโดยมีระยะเวลายาวนานที่สุดคือ 50 ปีระหว่างปีพ. ศ. 2454 (1911)ถึง 2504 (1961)"เจฟฟ์ฮังเกอร์ฟอร์ดนักธรณีวิทยาแห่งอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนกล่าว "เราจะคอยตรวจสอบน้ำพุร้อนนี้เป็นพิเศษ"


ไม่มีภาพถ่ายหรือวิดีโอเกี่ยวกับการปะทุในวันที่ 8 ธันวาคม แต่คุณสามารถไปที่หน้า Flickr ของอุทยานเพื่อดูรูปถ่ายและวิดีโอการปะทุได้ในวันที่ 17 กันยายน 2018


อย่างไรก็ตาม ในปี2018, Steamboat ได้ปะทุถึง 30 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติใหม่สำหรับหนึ่งปีปฏิทิน

ข้อมูลข้างล่างเป็นการปะทุตามเวลาท้องถิ่น

* March 15, 5:37 AM

* April 19, 4:30 PM

* April 27, 6:30 AM

* May 4, 11:50 PM

* May 13, 3:54 AM

* May 19, 9:49 PM

* May 27, 7:33 PM

* June 4, 9:05 AM

* June 11, 1:06 AM

* June 15, 4:55 PM

* July 6, 1:38 PM

* July 20, 10:36 PM

* August 4, 2:10 PM

* August 22, 11:44 AM

* August 27, 9:30 PM

* September 1, 11:21 PM

* September 7, 10:20 AM

* September 12, 4:23 AM

* September 17, 9:38 AM

* September 24, 5:18 AM

* September 30, 6:55 PM

* October 8, 10:25 AM

* October 15, 2:12 PM

* October 23, 9:29 PM

* October 31, 8:22 AM

* November 7, 4:16 PM

* November 15, 11:04 AM

* November 21, 7:10 PM

* November 28, 8:37 PM

* December 8, 1:07 AM


สถานีฐาน Seismograph ของ University of Utah ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานและการวิเคราะห์เครือข่ายแผ่นดินไหวของ Yellowstone มีพื้นที่ ที่เกิดแผ่นดินไหว 126 แห่ง ในเขตอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนเมื่อเดือนที่แล้ว เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดคือแผ่นดินไหวขนาด 2.4 ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวสท์เยลโลว์สโตน

วันที่ 4 พฤศจิกายนเวลา 10:11 น. MST


ครั้งที่สองเกิดแผ่นดินไหวแบบกลุ่ม ขึ้น 22 ครั้งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน (MST) เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นแผ่นดินไหวขนาด 2.3 มีระยะทาง 25.7 กม. (16 ไมล์) ทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของ Mammoth, WY ในวันที่ 23 พฤศจิกายนเวลา 09:25 MST

Steamboat Geyser eruption on September 17, 2018. Credit: USGS/YVO

#Watchers

 

Thairath


ป้าบอก ทุกวันนี้ได้เบี้ยยังชีพ เดือนละ600 กินอยู่อย่างกระเหม็ดกระแหม่ ถ้าได้จากลุงตู่อีกสัก500 จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

 

อี้จิง...ต้นแบบระบบดิจิตอลที่โลกตะลึง

ต้องยอมรับว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุด เมื่อช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี่เอง เมื่อเราเปลี่ยนผ่าน

โลกแบบ "อนาลอก" มาเป็น"โลกดิจิตอล" หากมองสิ่งต่างๆที่เราเคยใช้มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อแม่เรา

จะพบว่ามันถูกปฏิวัติ ไปอย่างสิ้นเชิง เช่น โทรศัพท์ ,วิทยุ ,ทีวี ,อุปกรณ์สื่อสารและอีเลคโทรนิค

ที่สำคัญคือ คอมพิวเตอร์ดิจิตอล...




แอนนาลอก เรลเทป(Analog Reel Tape) เทียบกับ เรคคอร์ดสติค (Record Stricks) จิ๋วปลายก้อย

รูปแบบและกระบวนการคิดไปอย่างสิ้นเชิง เห็นได้จากบรรดาสิ่งของรอบตัวเราทุกอย่างตั้งแต่ ข้าว

ของต่างๆในบ้านไปจนถึงอุปกรณ์สื่อสาร และคอมพิวเตอร์ ,มีเดียที่ใช้จัดเก็บ อาจเรียกได้ว่า

ในยุคนี้ถือ เป็นยุคของดิจิตอลก็ไม่ผิด



พื้นฐานที่สุดของระบบดิจิตอล คือระบบคณิตศาสตร์ "ฐานสอง" (คล้ายๆระบบเลขฐานสิบที่เราใช้)

แนวคิดนี้อิงระบบสัญญาณไฟฟ้า คือ "ติด" On และ "ดับ" Off มาเป็นตัว กำหนด ค่ารหัสข้อมูล

ก่อนกลายเป็น คำสั่ง ...ชุดคำสั่ง และภาษาเครื่องจักรกล สำหรับสั่งงานคอมพิวเตอร์ ในที่สุด ..




แผนภูมิแปดทิศ 八卦图片 ปากั๋วถูเพี่ยน ต้นแบบแรกสุด ของ กษัตริย์ ฝูซี 伏羲 ผู้ให้กำเนิดระบบฐานสอง


แผนภูมิแปดทิศแนวคิดอี้จิง

เชื่อหรือไม่ ระบบคณิตศาสตร์ฐานสองนั้นกำเนิดขึ้นในจีน ในยุคของกษัตริย์ ฝูซี 伏羲

พระองค์ ทรงสอนมนุษย์ให้รู้จักการถักทอแห และสอนการเลี้ยงสัตว์ หนึ่งในสิ่งที่พระองค์

ทรงวางรากฐานที่สำคัญคือ "อี้จิง" ระบบเลขฐานสอง ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแผนภูมิ

แปดทิศ รากฐานของระบบการคำนวนและพยากรณ์ของจีน

หากดูดีดี ลักษณะ แผนภูมิ อี้จิง 易经 คือระบบเลขฐานสองนั้นเอง โดย ข้อมูลพื้นฐานสุด

ของแผนภูมิคือ หยาง ....ขีดเต็ม และ ยิน ขีดขาด โดย แผนภูมิอี้จิง จะใช้ สามหลัก (Byte)

ในการแทนค่าซึ่ง จะได้รหัสจำนวน แปดค่า จากค่าประจำหลักคือ 4x2x1 ( หรือ 22 x21x20 )

นั้นเอง หากงงก็เทียบกับระบบเลขที่เราใช้ (ฐานสิบ) ก็จะพอเข้าใจได้ไม่ยาก

รหัสอี้จิงแปดค่าพื้นฐาน (ดูภาพประกอบ) ได้แก่

ฟ้า(天) ,ดิน(地) ,น้ำ(水) ,ไฟ(火) ,สายฟ้า(雷) ,สายลม(凤) ,สระน้ำ(泽),ขุนเขา( 山)

และ ทำนองเดียวกัน

หากเรานำจำนวนค่าสองชุดมาสร้างเป้นตารางไขว้ (หรือ 2 byte) ก็จะเป็นตารางกำหนดค่า

ระบบได้ 64 ค่า ชาวจีนเรียกว่า 64 ฉักกะลักษณ์ ดังแผนภูมิล่างนี้



ซึ่งคือหลัการเดียว กับสร้างโครงสร้างรหัสแอสกี้โค้ด (ASCII Code) ที่เราใช้ในปัจจุบัน

(เพียงแต่รหัสแอสกี้ใช้ สี่ค่า ต่อหนึ่ง byte)




น่าทึ่งไหมครับเพื่อนๆ....




เชิญรับฟังรายละเอียดของเรื่องราวนี้ จาก เทปรายการเสวนา สนทนาภาษาดนตรี ที่นี่ ....



หมายเหต

หนึ่ง

สามกษัตริย์จีน ได้แก่ เหยี่ยนตี้ 炎帝 หรือ เทพกสิกรรม เสิ่นหนง 神农.......คือผู้กำเนิด การเพาะปลูก

ฝูซี 伏羲 .... ผู้ให้กำเนิด ศาสตร์ความรู้

ซุ่ย 燧 .... ผู้ให้กำเนิด และ ผู้ให้กำเนิดการใช้ไฟ

ในภาพทั้งสามจะถือ สัญญลักษณ์ ตัวแทนของท่าน

สอง

ยุค สามกษัตริย์ห้าพระราชา 三皇五帝 (ซันหวงอู่ตี้) นักโบราณคดีบางกลุ่มก็ยังไม่ยอมรับเพราะเป็น

กึ่งตำนานหรือเรื่องเล่าของจีน อยู่ในช่วง 2600 ปีก่อน คริสตกาล ถึง 2200 ปีก่อนคริสตกาล

บางสำนักประวัติศาสตร์ก็จะเริ่มนับประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ก็มี

สาม

เรือเป่าฉวน宝船 ถูกต่อขึ้นที่นานกิง เรือลำนี้มีขนาด ยาว 400 ฟุต ใหญ่มาก หากเทียบกับเรือของ

ซานตา มาเรีย ของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่ยาวเพียง 85 ฟุต ถึง 5 เท่า

http://oknation.nationtv.tv/blog/chailasalle/2014/06/28/entry-1

 

ฝรั่งเศสยกระดับความมั่นคง-ล่าคนร้ายกราดยิง 3 ศพรวมคนไทย
ต่างประเทศ > ข่าวต่างประเทศ :

"มาครง"เรียกประชุมฉุกเฉิน ยกระดับภัยคุกคามความมั่นคงเป็นขั้นสูงสุด ขณะไล่ล่าคนร้าย กราดยิง 3 ศพ คนไทยที่เสียชีวิต เพิ่งเดินทางไปยุโรปได้วันเดียว


ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้เลื่อนการประชุมอื่นทั้งหมด เพื่อเข้าประชุมฉุกเฉินที่ทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อเช้ามืดของวันนี้ หลังเกิดเหตุกราดยิงใกล้ตลาดคริสต์มาส บริเวณจัตุรัสแพลซ เคลแบร์ ในเมืองสตาร์สบูร์ก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทย 1 คน กับผู้บาดเจ็บอีก 12 คน

คนร้ายถูกระบุชื่อว่า เชอริฟ ซี วัย 29 ปี อยู่ในแฟ้ม "ฟีเช่อ แอส" หรือบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ได้กระโดดขึ้นรถแท็กซี่หนีไป หลังถูกทหารรักษาความปลอดภัยที่ตลาดยิงบาดเจ็บ



คริสตอฟ กัสตาแนร์ รัฐมนตรีมหาดไทย ระบุว่า คนร้ายกราดยิงใน 3 จุด ก่อนยิงต่อสู้กับทหาร ขณะนี้ ทางการได้ยกระดับภัยคุกคามความมั่นคงสาธารณะเป็นขั้นสูงสุด ที่รวมถึงเพิ่มการควบคุมชายแดนให้รัดกุมยิ่งขึ้น คุ้มครองตลาดคริสต์มาสต่างๆ รวมถึงการจัดงานอื่นๆ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนหลบอยู่แต่ในบ้าน ขณะที่ตำรวจปิดถนนสายหลักๆ ทั้งขาเข้าและออกนอกเมือง ใช้ปฏิบัติการค้นหาที่เป็นการสนธิกำลังของตำรวจกับทหาร 350 นาย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์





ส่วนกรณีนายอนุพงษ์ สืบสมาน วัย 45 ปี ชาวไทยที่เสียชีวิต ได้รับการยืนยันจากนางน้ำทิพย์ ฟิโชต์ ประธานสมาคมไทยโปรวองซ์ ที่ได้รับการติดต่อประสานงานจากสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศส โดยนายอนุพงษ์เพิ่งเดินทางมาถึงยุโรปได้เพียงวันเดียว พร้อมกับนางนัยนา ภรรยา ซึ่งขณะนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อมที่จะให้ข่าวเพิ่มเติม

ด้านเพจสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศส ได้โพสต์เตือนคนไทยให้ระวังภัยก่อการร้ายในฝรั่งเศส พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอนุพงษ์ สืบสมาน

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ได้รับทราบข่าวร้ายนี้แล้ว พร้อมรายงานเหตุการณ์เข้าไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกงสุลประจำสถานเอกอัครราชทูตจะเดินทางไปเมืองสตราสบูร์กแล้ว เพื่อดูแลและประสานงานให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ประสบเหตุครั้งนี้ด้วย



http://www.komchadluek.net/news/for...Q3hYT7xAmfE01Hjtt5DKdnAnk5UJeWYC2gWWVvjOSH-Ts

 

บีบีซีไทย - BBC Thai


นักผจญเพลิง 25 คนต้องช่วยกันจัดการกับช็อกโกแลตที่ไหลกว้างเป็นพื้นที่ราว 10 ตร.ม. โดยใช้พลั่ว น้ำร้อน และเครื่องพ่นไฟ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 13) Updated: จีนยอมรับแล้วคุมตัวชาวแคนาดา 2 ราย - จีนออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า ทางการได้ควบคุมตัวชาวแคนาดา 2 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงต่อประเทศจีน

นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมายอมรับข่าวดังกล่าวในวันนี้ หลังจากที่เว็บไซต์ข่าวภาษาจีนแห่งหนึ่งรายงานในวันนี้ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของเมืองตานตงได้ทำการสอบสวนชายชาวแคนาดาที่ชื่อว่า ไมเคิล สแปเวอร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การสอบสวนนักธุรกิจคนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของจีนได้จับกุมตัวนายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตชาวแคนาดา ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ไครสิส กรุ๊ป

กระทรวงต่างประเทศแคนาดาได้ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า นายคอฟริกได้ถูกจับกุมตัวในประเทศจีน และยังเปิดเผยว่า ทางกระทรวงไม่สามารถติดต่อนายสแปเวอร์ทางโทรศัพท์ได้ หลังจากที่นายสแปวอร์ได้ติดต่อมาที่กระทรวงเพื่อแจ้งว่าเขาถูกทางการจีนสอบสวน

นักวิเคราะห์บางรายได้ตั้งข้อสงสัยว่า การที่จีนได้จับกุมตัวนายคอฟริก และขณะนี้อาจกำลังควบคุมตัวนายสแปเวอร์ด้วยนั้น อาจเป็นการโต้ตอบทางการแคนาดาที่จับกุมตัวนางเมิ่ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค. ตามคำเรียกร้องของสหรัฐ

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/ปนัยดา

*********************************
จีนเผยชาวแคนาดาซึ่งถูกคุมตัวคนที่ 2 "เป็นภัยต่อความมั่นคง": ทางการจีนเปิดเผยเหตุผลของการควบคุมตัว "ไมเคิล สเปวอร์" ซึ่งเป็นพลเมืองคนที่สองของแคนาดาแล้วที่ถูกควบคุมตัวภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ว่าเป็นบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ "ต้องสงสัยทำลายเสถียรภาพและความมั่นคง"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.โดยอ้างจากรายงานของสำนักงานประชาสัมพันธ์แห่งมณฑลเหลียวหนิง ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวนายไมเคิล สเปวอร์ สัญชาติแคนาดา ไว้ที่สำนักงานของกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ สาขาเมืองตานตง ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด เนื่องจากสเปวอร์ "มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงของจีน" โดยไม่มีการลงลึกในรายละเอียดใดอีก

ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับสเปวอร์ นักธุรกิจซึ่งเคยติดตามคณะของนายเดนนิส ร็อดแมน อดีตซวูเปอร์สตาร์นักบาสเกตบอลชาวอเมริกัน เยือนกรุงเปียงยางและได้มีโอกาสพบกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือด้วย โดยทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับทั้งสองคน เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่นายลู่ คัง โฆษกระทรวงการต่างประเทศจีน ปฏิเสธกล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่งควบคุมตัวนายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตชาวแคเนเดียน ซึ่งเคยประจำอยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตและสำนักงานคณะผู้แทนการทูตของแคนาดาทั้งในกรุงปักกิ่ง ฮ่องกง และสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) เอาไว้จริงหรือไม่ แต่กล่าวว่าองค์กรต้นสังกัดของคอฟริกในปัจจุบัน คือ "อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป" ไม่ได้เป็นเอ็นจีโอที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายของจีน

ด้านสำนักข่าวออนไลน์ "ปักกิ่งนิวส์" รายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลปักกิ่งสงสัยคอฟริก "พัวพันกับกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ" ซึ่งหมายถึงพฤติการณ์จารกรรมข้อมูลทางราชการ หรือคอฟริกต้องสงสัยเป็น "จารชน" ให้กับรัฐบาลแคนาดา ขณะที่นางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของแคนาดา กล่าวว่าสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงปักกิ่งกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการประสานงานกับทางการจีน เพื่อขอพบกับพลเมืองทั้งสองคน แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองที่ชัดเจน

อนึ่ง ศาลสูงแห่งรัฐบริติชโคลอมเบีย ในเมืองแวนคูเวอร์ ทางตะวันตกของแคนาดา มีคำพิพากษาเมื่อวันอังคาร ให้น.ส.เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ยและยังเป็นบุตรคนโตของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้รับการประกันตัวด้วยวงเงินและหลักทรัพย์มหาศาล แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการสอดแนมที่เข้มงวดก่อนขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 6 ก.พ. นี้ ตามคำร้องของสหรัฐซึ่งต้องการตัวน.ส.เมิ่งในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อดำเนินคดีฐานกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านระหว่างปี 2552 ถึง 2557 ด้วยการตั้งบริษัทบังหน้าชื่อ "สกายคอม".

Source: เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/foreign/682292

- Second Canadian missing in China after detention of former diplomat:
https://www.cnbc.com/2018/12/13/can...michael-spavor-being-questioned-in-china.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 13) สหรัฐต้องการให้ยูเอ็นเพื่อให้มีท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่านมากขึ้น: สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังกดดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อประเทศอิหร่านมากขึ้น เพื่อป้องกันการสร้างขีปนาวุธข้ามทวีปและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์

ทั้งนี้ นาย Mike Pompeo, U.S. Secretary of State กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงฯ ว่า การคว่ำบาตรต่อประเทศอิหร่านของ UN ไม่ควรถูกยกเลิกไปภายในปี 2020 พร้อมกับเรียกร้องให้มีมาตรการตรวจสอบและข้อห้ามในน่านน้ำทะเลลึก เพื่อขัดขวางความพยายามของอิหร่านในการหาช่องโหว่ฝ่าฝืนข้อห้ามด้านอาวุธ

นอกจานี้ นาย Pompeo ยังได้กล่าวว่า อิหร่านเป็นผู้ที่ให้ที่พักแก่กลุ่มผู้ก่อการร้าย al Qaeda และสนับสนุนกองกำลังตาลีบันในอัพกานิสถาน รวมถึงเป็นผู้ลำเลียงอาวุธให้แก่ผู้ก่อการร้ายในเลบานอน อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าประเทศรัสเซีย และจีน ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีสิทธิในการ veto เหมือนกับสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร จะไม่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวของนาย Pompeo

Source: BoTSS

- U.S. wants U.N. to ban nuclear ballistic missile work by Iran: https://www.reuters.com/article/us-...ic-missile-restrictions-on-iran-idUSKBN1OB23Z

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 13) ฝรั่งเศสติดหล่ม แก้ปัญหาศก.เรื้อรัง : เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจกล่าวได้ว่าเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลของกลุ่ม "เสื้อกั๊กเหลือง" ในฝรั่งเศส ทวีความรุนแรงจนถึงขีดสุดนับตั้งแต่เกิดการชุมนุมลุกฮือขึ้นมาในวันที่ 17 พ.ย. โดยกลุ่มผู้ประท้วงต่างบุกเข้าไปทำลายร้านค้า จุดไฟเผารถยนต์จำนวนมากทั่วกรุงปารีส จนตำรวจรวบตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงไปกว่า 1,200 คน ในวันที่ 8 ธ.ค.

แม้ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นบ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนให้เห็นความเดือดดาลอย่างรุนแรงต่อรัฐบาล ทั้งจากจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุมเกินหลักแสน และโพลสำรวจโดยนิตยสาร เลอ ฟิกาโร พบว่า 78% ของชาวฝรั่งเศสเชื่อว่ากลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองกำลังต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของคนในชาติ

เหตุประท้วงล่าสุดกำลังกลายเป็นปัจจัยฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจฝรั่งเศส ซึ่งจะเป็นความท้าทายใหญ่บั่นทอนอนาคตแผนปฏิรูปของรัฐบาลประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ทั้งสำหรับในฝรั่งเศสและอาจรวมถึงสหภาพยุโรป (อียู)

ล่าสุดนั้น ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจฝรั่งเศส (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยคาดว่าจะขยายตัว 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ลดลงมาจาก คาดการณ์เดิม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 0.4% เนื่องจากการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองทั่วประเทศส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

การหั่นคาดการณ์จีดีพีดังกล่าวส่งผลให้ฝรั่งเศสอาจไปไม่ถึงเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ 1.7% สำหรับตลอดทั้งปี 2018

ด้าน บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส มองว่า การประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองจะฉุดจีดีพีของฝรั่งเศสลง 0.1% ในไตรมาส 4 พร้อมเสริมว่า เหตุดังกล่าวคือ "หายนะ" สำหรับภาคธุรกิจ โดยเตือนว่ารายได้ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกจะหายไปถึง 1,000 ล้านยูโร (ราว 3.7 หมื่นล้านบาท)

สำหรับชนวนเหตุที่เป็นฟาง เส้นสุดท้ายจุดระเบิดการประท้วงขึ้นมา คือเรื่องการจะขึ้นภาษีน้ำมันในปีงบประมาณ 2019 โดยตั้งเป้าว่า ภาษีดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีรายได้จากภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1,900 ล้านยูโร (ราว 7.1 หมื่นล้านบาท) และจากภาคธุรกิจอีก 1,000 ล้านยูโร (ราว 3.7 หมื่นล้านบาท)

รัฐบาลมาครง ระบุว่า จุดมุ่งหมายของการขึ้นภาษีน้ำมัน คือเพื่อเอา เงินไปใช้ลงทุนพลังงานหมุนเวียน ตามเป้าหมายต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ร่วมกันของอียู

อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวนับว่าเกิดขึ้นผิดที่ผิดเวลา เพราะรถส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสราว 52% ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลอยู่ การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจึงส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสต้องแบกค่าน้ำมันมากขึ้น ท่ามกลางราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว 23% ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันแพงถือเป็นหนึ่งในปัญหาเรื้อรังที่ชาวฝรั่งเศสต้องเผชิญ โดยนิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ราคาเชื้อเพลิง 1 แกลลอนในฝรั่งเศส อยู่ที่ 6 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า โดยภาษีคิดเป็นสัดส่วน 60% ของราคาเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับในสหรัฐ ที่เฉลี่ย 3 ดอลลาร์

แม้เหตุประท้วงรุนแรงล่าสุดทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศชะลอการขึ้นภาษีน้ำมันออกไปอีก 6 เดือน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากการโละภาษีน้ำมันเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของปัญหาเท่านั้น ท่ามกลางปัญหาเรื้อรังอื่นๆ มากมายรุมเร้า โดยเฉพาะเรื่องการต้องจ่ายภาษีสูงและค่าครองชีพแพง สวนทางกับรายได้ที่ลดลง

ล่าสุดนั้น ข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ระบุว่า ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่เก็บภาษีสูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2017 โดยรายได้จากภาษีของรัฐบาลฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 46.2% ของจีดีพี สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มโออีซีดีที่ 34.2% ของจีดีพี

ขณะที่รายได้ต่อครัวเรือนของชาวฝรั่งเศสลดลงเฉลี่ย 440 ยูโร (ราว 1.6 หมื่นบาท) ในช่วงปี 2008-2016 ตามข้อมูลของหน่วยงานวิจัยเศรษฐกิจฝรั่งเศส (โอเอฟซีอี) โดยรายได้เฉลี่ยรายเดือนต่อครัวเรือนก่อนหักภาษีอยู่ที่ราว 1,500-1,700 ยูโร (ราว 5.2-6.3 หมื่นบาท) ซึ่งสวนทางกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าไฟฟ้า ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 ยูโรเมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ที่ราว 100 ยูโร (ราว 3,752 บาท)

แม้เมื่อไม่นานนี้ รัฐบาลประกาศ ให้เงินช่วยเหลือครอบครัวรายได้ต่ำรวม 500 ล้านยูโร (ราว 1.8 หมื่น ล้านบาท) แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความโกรธของผู้ประท้วงได้ โดยกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเรียกให้รัฐบาลจัดการปัญหาอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ การร้องขอขึ้นค่าแรง ลดภาษีส่วนอื่นๆ จ่ายเงินบำนาญมากขึ้น รวมถึงการขอผ่อนกฎให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยให้ง่ายขึ้นด้วย

นอกจากการประกาศระงับแผน ขึ้นภาษีน้ำมันจึงยังไม่ใช่แนวทาง แก้ปัญหาที่ตรงจุดแล้ว ยังอาจส่งผล ต่อการบรรลุเป้าหมายลดสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลมาครงต้องการลดสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณลงมา อยู่ที่ 2.8% ต่อจีดีพี ใกล้เคียงกับเพดานจำกัดของอียูที่ 3%

ในกรณีที่ฝรั่งเศสไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ยังเสี่ยงบั่นทอนเสียงของมาครงในการผลักดันการปฏิรูปด้านงบประมาณภายในอียู ซึ่งอียูจะหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในการประชุมสิ้นปีวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้

เหตุการณ์ประท้วงครั้งล่าสุดจึงเป็นสัญญาณบ่งชี้สำคัญว่า ฝรั่งเศสต้องหาทางออกจัดการปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรังนี้อย่างจริงจัง ก่อนปัญหาดังกล่าวจะยิ่งทับถมหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ปะทุขึ้น ในอนาคต

โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 13) คลังเตือนรับมือดบ.ขาขึ้นห่วงปีหน้า'การเมือง'ป่วน : "อภิศักดิ์"เตือนรับมือ 3 ปัจจัยเสี่ยง "ดอกเบี้ยขึ้น-เลือกตั้งป่วน-สงครามการค้า" ย้ำสหรัฐ ถอนเงินกลับ ดันดอกเบี้ยขยับแน่ ชี้แม้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่งแต่เลี่ยงไม่พ้น พร้อมระบุนักลงทุนเริ่มกังวล หลังเลือกตั้งการเมืองป่วน จับตาสงครามการค้ายืดเยื้อกระทบส่งออก ด้าน"เอดีบี"คงประมาณการเศรษฐกิจเอเชีย แต่หั่น "จีดีพี" ไทยเหลือ 4.3%

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจไทยใน ปีเลือกตั้ง 2562" จัดโดยสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้า จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลักใน 3 ด้าน คือ การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในปีหน้า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย แต่โดยรวมแล้วเศรษฐกิจไทยปีหน้าเชื่อว่าจะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 4%

สำหรับปัจจัยเสี่ยงเรื่องดอกเบี้ย นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยคงปรับขึ้น แน่นอน เพราะสหรัฐกำลังดึงเงินกลับ เมื่อ เขาดึงเงินกลับ อัตราดอกเบี้ยก็จะปรับเพิ่ม สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น ผลที่ตามมา เงินจะเริ่ม ไหลกลับ แน่นอน เงินถูกๆ ในโลกจะน้อยลง แต่ประเทศไทยโชคดี สิ่งที่เราบริหารจัดการ ทำให้เราเองได้รับการเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน ระดับทริบเปิลเอ ฉะนั้น เราจะเป็นคนสุดท้ายที่ถูกทิ้ง แต่อย่างไรเราก็คงถูกทิ้งแน่นอน

"อัตราดอกเบี้ยในอเมริกาสูงกว่าไทย แต่เรายังอยู่ได้ ยังมีเงินไหลเข้าอยู่ แต่จากเหตุผลดังกล่าว ในปีหน้า เราคงเจอปัญหาเรื่อง ดอกเบี้ยปรับขึ้นแน่นอน"

ห่วงหลังเลือกตั้งการเมืองป่วน

ส่วนกรณีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในปีหน้านั้น เท่าที่คุยกับนักลงทุนพบว่า สิ่งที่เขาห่วง คือเขากลัวความไม่สงบจะเกิดขึ้นอีก ฉะนั้น ก็ทำให้หลายคนบอกว่า ต้องรอดูก่อนว่า จะสงบไหม จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ แต่กรณีนักลงทุน ไทยนั้น เชื่อว่า ยังจะตัดสินใจลงทุนอยู่

ทั้งนี้ หากมองการลงทุนก่อสร้างในประเทศ พบว่า ยังเดินหน้าได้ค่อนข้างดี โดยเอกชนลงทุน ต่อเนื่องมา 4 ไตรมาสแล้ว ส่วนการบริโภค ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โตต่อเนื่องมา 6 ไตรมาส แล้วจากระดับ 2% กว่า ล่าสุดมาอยู่ที่ประมาณ 5% แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจภายในมีความเข้มแข็ง แต่ความเสี่ยงต่างประเทศก็ยังมีอยู่

"ความเสี่ยงต่างประเทศนั้น เป็นเหตุให้ จีดีพีของเราลดลงในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ก็คงลงมาด้วย คงไม่ได้อยู่ที่ 4.8% อย่างที่เราเห็น เป็นเพราะเรื่องการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัวลง ขณะเดียวกันในภาค บริการก็มีการอ่อนตัว โดยเฉพาะเรื่องการ ท่องเที่ยว ปัจจัยหลักจากเศรษฐกิจโลกมีผลทำให้เศรษฐกิจจีนมีปัญหา คนจีนเที่ยวต่างประเทศ น้อยลงในทุกประเทศ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น"

เชื่อสงครามการค้าไม่จบง่าย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน นักเศรษฐศาสตร์กระทรวงการคลังมีความเห็นว่า ปัญหาดังกล่าวจะเริ่มส่งผลกระทบต่อทั่วโลกมากขึ้น กระทบต่อการส่งออก มีคนศึกษาว่า วงจรเศรษฐกิจลงและก็ขึ้นใช้เวลาประมาณ 10 ปี กรณีของไทยนั้น เราขยายตัวสูงสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่การส่งออกขยายตัวได้กว่า 10% และขณะนี้กำลังลง

"ความเชื่อนั้น ผมว่า มีความจริงบางส่วน เพราะเศรษฐกิจค่อยๆลงมา จะเห็นว่า เมื่อเศรษฐกิจ โลกลง เราเองถูกกระทบ แต่ว่า ก็มีคนถามว่า ทำไมเรากระทบขณะที่บางประเทศยังส่งออกได้ดีอยู่ เช่น เวียดนาม ส่งออกก็ยังโตได้ดี เหตุผลจริงๆ ต้องบอกว่า สิ่งที่เราผลิตนั้น อาจแข่งขัน กับคนอื่นไม่ได้ เมื่อเศรษฐกิจลง คนก็ไม่ซื้อ โดย เขาไปซื้อของกับคนที่ขายถูกที่สุด ตอกย้ำว่า เราเอง ยังต้องรีฟอร์มเศรษฐกิจให้ได้ ทั้งภาคอุตสาหกรรม และการผลิต ถ้าเราทำตามแผนที่วางไว้ เราจะสามารถหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง"

นายอภิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้น คงไม่จบลงโดยง่าย เพราะจุดประสงค์ของสงครามไม่ใช่เรื่องการค้า แต่เป็นเรื่องของความต้องการของสองประเทศที่ไม่ต้องการให้ใครมีอำนาจเหนือตัวเองหรือดีเท่าตัวเอง ฉะนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นมาตลอด เรื่องนี้จึงไม่จบโดยง่ายๆ

"เอดีบี"หั่นศก.ไทยปีนี้โต4.3%

ด้านธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะขยายตัว 5.1% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อน โดยคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าวจะได้ปัจจัยหนุนจากความแข็งแกร่งของการอุปโภคบริโภค และการลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน

เอดีบี ระบุในรายงาน "แนวโน้มการพัฒนาของเอเชีย (เอดีโอ) 2018" โดย "คง" คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้เอาไว้ที่ระดับดังกล่าว และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2562 จะขยายตัว 5.1% เช่นเดียวกัน

เอดีบี ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัว ของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ลงสู่ระดับ 4.3% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.5% หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งชะลอลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว อย่างแข็งแกร่งถึง 4.6%

ชี้สงครามการค้าภัยคุกคามศก.

นอกจากนี้ รายงานล่าสุดของเอดีบียังระบุว่า ภูมิภาคเอเชียจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 6% ในปีนี้ และ5.8% ในปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์เมื่อเดือนก.ย.แต่ก็เตือนกว่า ภัยคุกคามเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เอดีบี คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ ของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคจะชะลอตัว ลงเหลือ 6.3% ในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ความตึงเครียดด้านการค้าจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและฉุดให้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตลดลง ประกอบกับการเดินหน้ามาตรการปราบปรามธนาคารนอกระบบ การคุมเข้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการลดลงอย่างฮวบฮาบของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะฉุดให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 13) อดีตทนายความทรัมป์ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี : นาย Michael Cohen, อดีตทนายความจาก Trump Organization ถูกตัดสินโทษจำคุก 3 ปี จ่ายค่าปรับรวม 1.4 ล้านดอลลาร์ สรอ. และโดนยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม 500,000 ดอลลาร์ สรอ. ภายใต้ 4 ข้อหาหลัก ได้แก่
1) หลีกเลี่ยงภาษี
2) ปลอมแปลงข้อมูลเกี่ยวกับภาระหนี้สิน และรายจ่าย เพื่อใช้ประกอบการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
3) รายงานเท็จต่อสภาคองเกรส และ
4) ละเมิดกฎการสนับสนุนการรณรงค์หาเสียง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2016 โดยให้สินบนแก่ผู้หญิง 2 ราย ที่เป็นข่าวเชิงชู้สาวกับประธานาธิบดี Trump (Karen McDougal และ Stephanie Clifford)

นาย Cohen กล่าวขอโทษต่อการโกหกชาวอเมริกัน พร้อมยอมรับว่า ตนหลงกระทำความผิด เนื่องด้วยความภักดีต่อประธานาธิบดี Trump

อย่างไรก็ดี นาย Rudy Giuliani, ทนายความของประธานาธิบดี Trump ให้ความเห็นว่า นาย Cohen มิได้มีความจงรักภักดีต่อประธานาธิบดี Trump แต่อย่างใด สังเกตได้จากการที่นาย Cohen ลักลอบบันทึกบทสนทนากับประธานาธิบดี Trump และรอจังหวะในการนำหลักฐานดังกล่าวมาเปิดโปง เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ตนเอง ขณะที่ วุฒิสมาชิก พรรค Republican นาย Orrin Hatch แห่งรัฐ Utah คาดว่าคำกล่าวหาของนาย Cohen จะไม่ส่งผลกระทบต่อประธานาธิบดี Trump อย่างมีนัยสำคัญ

Source: BoTSS

- Trump ex-lawyer Cohen given three years in prison as risks rise for Trump: https://www.reuters.com/article/us-...-prison-as-risks-rise-for-trump-idUSKBN1OB16H

 

ศูนย์สารสนเทศอิสลาม Islamic Information Center


นายกรัฐมนตรีไซออนิสต์กล่าวเตือนว่า โลกทั้งโลกจะไม่มีเสถียรภาพหากในซาอุดิอาระเบียไม่มีเสถียรภาพ อิสราเอลพร้อมจะไม่ปฏิเสธการปฏิบัติการทางทหารภายในอาณาเขตของอิหร่าน หากรู้สึกถึงภัยอันตราย.....

 

La nueva era de la tierra - respaldo



หิมะตกรุนแรงในบอสเนีย

13.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo



ลมแรง ทำให้เกิดความเสียหายใน Bahia ประเทศ brazil มองดูหลังคาของบ้านว้าว

2018/12/11