ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 4) ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจีนส่งสัญญาณปรับนโยบายการเงินอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์เศรษฐกิจ : นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนจะปรับนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการเงิน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ


นายอี้ได้กล่าวแสดงความเห็นผ่านบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการเงินฉบับหนึ่งของจีนเมื่อวานนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งธนาคารกลางจีน โดยนายอี้กล่าวว่า จีนควรยกระดับกฎระเบียบที่จะช่วยป้องกันปัจจัยผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ


"ธนาคารกลางจีนควรยึดมั่นในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินเป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะความสำเร็จในการปฏิรูปการเงินใดๆก็ตาม จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากสภาพแวดล้อมที่ดีทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเงิน" นายอี้กล่าว


นอกจากนี้ นายอี้ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเศรษฐกิจอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป หรือเมื่อราคาสินทรัพย์ตกอยู่ในภาวะฟองสบู่ จีนก็ต้องนำมาตรการต่างๆมาใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะไม่ชะลอตัวลงมากเกินไป พร้อมกับกล่าวว่า ธนาคารกลางจีนจะสร้างสมดุลในการปฏิรูปทางการเงิน การพัฒนา และการสร้างเสถียรภาพ


สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอี้ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารกลางจีนจะพัฒนาตลาดการเงิน ควบคู่ไปกับการผลักดันการปฏิรูปทางการเงินให้มีความคืบหน้า และเพิ่มการเปิดกว้าง ขณะเดียวกันก็จะรักษาเสถียรภาพในระบบการเงิน สร้างความเชื่อมั่นว่าการบริการทางการเงินจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในเชิงระบบ


Source-อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา


- Chinese central bank chief says will keep monetary policy flexible

https://www.cnbc.com/2018/12/04/chi...-says-will-keep-monetary-policy-flexible.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 4) แบงก์ลุยหารือธปท. เหตุแบกต้นทุนอื้อเล็งเก็บค่าฟีถอน'เงินสด-เช็ค' : ธนาคารพาณิชย์ ถก"แบงก์ชาติ" หารือแผนเก็บค่าธรรมเนียมถอนเงินสด-เช็ค ทั้งจากตู้เอทีเอ็ม-หน้าเคาน์เตอร์ หลังเลิกเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์เหตุแบกต้นทุนอื้อ สมาคมแบงก์ เชื่อ ธปท.อยากเห็นธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ก่อนเปิดให้คิดค่าฟีถอนเงินสดได้ ด้านแบงก์กรุงเทพ ระบุช่วงแรกใช้วิธีทยอยลดสิทธิ์ถอนเงิน จากปัจจุบันกดเงินฟรีต่อเดือน 5 ครั้ง ธนาคารพาณิชย์เข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อขอเก็บค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด กรณีทำธุรรรมหน้าเคาน์เตอร์ของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินและชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัล

นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา สมาคมธนาคารไทย รวมถึงธนาคารต่างๆ ได้หารือเรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสด หน้าเคาน์เตอร์และเครื่องเอทีเอ็มจริง ซึ่งมีการหารือร่วมกับธปท.อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพราะ ธปท. ต้องการพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนอนุญาตให้แบงก์สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเงินสด หรือการใช้เช็คเงินสดต่างๆได้ สาเหตุที่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสด เพราะธุรกรรมส่วนนี้เป็นต้นทุนที่สูงของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเงินสดตู้เอทีเอ็ม และพนักงาน

"ทุกวันนี้แบงก์มีต้นทุนเยอะในการจัดการเงินสด เหล่านี้แบงก์ต้องแบกรับไว้ ไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมกับผู้บริโภคตามต้นทุนที่แท้จริง แต่เชื่อว่า อนาคตหากการทำธุรกรรมถูกผลักไปช่องทางออนไลน์มากขึ้น การเก็บค่าฟีก็ทำได้ง่ายขึ้น แบงก์ก็อาจเก็บค่าฟีให้เหมาะสมกับต้นทุนได้"นายกอบศักดิ์กล่าว

นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อธุรกรรมเกือบทั้งหมดอยู่บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น คาดว่า การเก็บค่าธรรมเนียม จากการทำธุรกรรมผ่านเงินสด หรือผ่านเช็คเงินสด น่าจะเกิดขึ้นซึ่งปัจจุบันได้หารือร่วมกับธปท.ไปหลายครั้งแล้ว ส่วนจะสามารถเก็บได้ในเร็วๆนี้หรือไม่ เชื่อว่าธปท.คงอยู่ระหว่างการพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากทั้งการหันไปใช้คิวอาร์โค้ด พร้อมเพย์

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นหากสามารถเก็บค่าธรรมเนียมได้จริง คงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเริ่มแรก แต่อาจเป็นการลดสิทธิประโยชน์ด้านเงินสดลง เช่น การถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ที่อาจให้สิทธิการถอนฟรีลดลง เพราะทุกวันนี้ทุกธนาคารให้ถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ข้ามธนาคาร ฟรีเฉลี่ย 5 ครั้งต่อเดือน เหล่านี้เชื่อว่าจะเห็นสิทธิประโยชน์เหล่านี้ลดลงก่อน

"การลดค่าฟี คงไม่ใช่ปีนี้ คือจริงๆอาจเห็นค่อยๆปรับไป คงไม่ใช่เป็นการเก็บค่าธรรมเนียมฮวบฮาบ แต่อาจเป็นการลดสิทธิประโยชน์ที่น้อยลง เช่น การถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มข้ามธนาคาร เดิมแบงก์อาจให้สิทธิประโยชน์โดยการถอนฟรี 5 ครั้ง อาจลดจำนวนลง แต่ก็ยังได้ฟรีอยู่ ก็ค่อยๆปรับไป" นางปรัศนีกล่าว

ส่วนแผนงานด้านตู้เอทีเอ็ม เชื่อว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ในระยะข้างหน้าคงไม่เห็นธนาคารขยายตู้เอทีเอ็มเพิ่มขึ้น แม้ปัจจุบันการถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มจะไม่ได้ลดลง แต่คาดว่าระยะข้างหน้า มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เพราะคนหันไปใช้ดิจิทัลในการทำธุรกรรมมากขึ้น

ด้านนายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีโอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินสด หรือจากเช็คเงินสดต่างๆ เหมือนในต่างประเทศ เช่นสหรัฐ หรือในแถบยุโรป เนื่องจากเหล่านี้เป็นต้นทุนของระบบธนาคาร แต่อาจยังไม่ได้เห็นเร็วๆ นี้ แต่อย่างน้อย 3 ปีข้างหน้าก็มีโอกาสได้เห็น

สาเหตุเพราะ ธปท.อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ดิจิทัล ว่ามีความหลากหลาย ทั่วถึงหรือไม่เพราะปัจจุบันหากดูการถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มพบว่า ยังเกินระดับ 8 ล้านล้านบาทต่อปี ไม่ได้ลดลงหากเทียบกับปีก่อนหน้า ดังนั้นก็สะท้อนว่า การใช้เงินสดในระยะอันใกล้นี้ยังเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้หากดูการใช้โมบายแบงกิ้งวันนี้ พบว่า ได้รับความนิยมสูงอยู่ในกลุ่มเขตชุมชนเมือง แต่ต่างจังหวัดการใช้ยังไม่แพร่หลาย ดังนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพัก พฤติกรรมผู้บริโภคถึงเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ระบบการชำระเงิน ยังเป็นโจทย์สำคัญ ที่จำเป็นต้องให้เกิดการชำระเงินใหม่ๆหลากหลายมากขึ้นกว่าปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการได้

Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 4) ปธน.เม็กซิโก ประกาศขายเครื่องบินส่วนตัว ลดค่าใช้จ่ายช่วยชาติ: ปธน.เม็กซิโก เดินหน้านโยบายลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยภาครัฐด้วยการประกาศขายเครื่องบินส่วนตัว มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท รวมทั้งเครื่องบินรัฐบาล 60 ลำและเฮลิคอปเตอร์อีก 70 ลำ


ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำคนใหม่ของเม็กซิโก เดินหน้านโยบายลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยภาครัฐด้วยการประกาศขายเครื่องบินส่วนตัวประธานาธิบดีเม็กซิโก มูลค่า 218 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 7,000 ล้านบาท รวมทั้งเครื่องบินรัฐบาลอีก 60 ลำและเฮลิคอปเตอร์ 70 ลำ


ภายในเครื่องบินส่วนตัวประธานาธิบดีเม็กซิโกลำนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา เครื่องบินประธานาธิบดีเม็กซิโกจะบินไปที่ท่าอากาศยานในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อปรับปรุงสภาพก่อนขายให้เจ้าของคนใหม่


Source: สำนักข่าวไทย


Mexico’s Leader Sells Off ‘Too Lavish’ Presidential Boeing 787 https://www.bloomberg.com/news/arti...nds-president-s-plane-to-boeing-before-a-sale

 

‘วิษณุ’ยันป.ป.ช.จ่อยกเลิก ยื่นทรัพย์สินบางตำแหน่ง ติดเงื่อนไขกฎหมาย
วันพุธ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 12.29 น.

“วิษณุ”เผย ป.ป.ช.จ่อยกเลิกบางตำแหน่งต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ประกาศใหม่หลังแบ่ง 3 กลุ่ม เชื่อ ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้บกพร่อง แต่ติดเงื่อนไขกฎหมายและเวลา ยันมีทางออกแน่นอน

5 ธ.ค. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่า ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก เพราะ ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้เขารู้ปัญหาหมดแล้ว และก็ไปคิดว่า จะออกประกาศอย่างไร ซึ่งเขามีหลายทางออก โดยจะดูว่า ทางไหนดีที่สุดและยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาล คือ ตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงจะต้องมีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า แม้บางตำแหน่งจะไม่ต้องยื่น ก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง ป.ป.ช. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อยู่ดี เช่น หากกรรมการสภามหาวิทยาลัยจะไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว แต่การที่ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบการทุจริต สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทุกเวลา ดังนั้นต้องแยกให้ออก ปัญหาตอนนี้ที่กำลังเกิดคือ ป.ป.ช. จะดูว่าตำแหน่งใดที่สุ่มเสี่ยง มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาได้ แต่ที่แล้วมาเขาไม่ได้ดู เขากวาดไปหมดทุกตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า อาจจะมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่อยู่ในประกาศ ป.ป.ช. ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง เป็นไปได้ ตรงนี้เป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช.เอง ไม่มีใครไปบังคับอะไรทั้งนั้น ทั้งนี้เท่าที่ได้คุยกับ ป.ป.ช. มีการแบ่งตำแหน่งออกเป็น 3-4 กลุ่ม คือ 1.ตำแหน่งที่ไม่ต้องไปยื่นอะไรทั้งสิ้น และไม่ควรให้ยื่น เพราะไม่ได้สุ่มเสี่ยงใดๆเลย 2.กลุ่มที่ควรจะต้องให้ยื่น แต่ไม่ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ จะกลัวเรื่องการเผยแพร่ เพราะวันนี้ก็มีหลายตำแหน่งที่ยื่น แต่ไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ 3.กลุ่มที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ ดังนั้น ป.ป.ช. จะต้องไปจัดกลุ่มแบบนี้

“ประกาศที่ออกมา ไม่ได้แบ่งเอาไว้แบบนี้ โดยการจะเลือกว่า ตำแหน่งใดอยู่กลุ่มใด ไม่ควรใช้สองมาตรฐาน แต่ควรใช้การพิจารณาอย่างมีเหตุผล อย่างองค์การมหาชนมี 40 แห่ง ซึ่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์การมหาชน บัญญัติไว้ว่า ห้ามทำมาค้าขาย ป.ป.ช.จะต้องไปดู” รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ที่เคยระบุว่า จะมีการประกาศฉบับแก้ไข ภายใน 1-2 วันนี้ ใกล้ออกมาแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ป.ป.ช.แจ้งว่า ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เนื่องจากเขาคิดว่า เมื่อขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 แล้ว เขายังมีเวลาที่จะดูเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่ควรจะไปตื่นเต้นและรีบลาออกกัน

เมื่อถามว่า กรรมการสภามหาวิทยาลัยและกรรมการในองค์การมหาชนที่ลาออกไปแล้ว จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ แต่การกลับมาในบางตำแหน่งนั้นง่าย แต่บางตำแหน่งการกลับเข้ามานั้นยาก เช่น กรรมการสภามหาวิทยาลัย เพราะกฎหมายกำหนดว่า การจะเป็นกรรมการสภามหาวิทยา จะต้องตั้งคณะกรรมการไปสรรหา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน เมื่อสรรหาเสร็จ จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ดังนั้น รวมกันทั้งหมดแล้วใช้เวลานานหลายเดือน

เมื่อถามว่า สุดท้าย หากมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว จะดูเหมือนว่า ถอยให้เพราะถูกกดดันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ได้มองแบบนั้น แต่ ป.ป.ช.ต้องมีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น และเรื่องนี้ ป.ป.ช.เป็นผู้คิด เป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช. เอง และถ้ามีคนถามว่า ทำไม ป.ป.ช. ไม่คิดเช่นนี้ตั้งแต่แรก เขามีเวลาไม่มากหรอก กฎหมายบังคับให้เขาต้องทำแบบนั้น เขาจึงต้องทำ และผมคิดว่าเขารอบคอบ แต่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย และมีความจำเป็น ในเวลานั้นที่ทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ จะไปปรึกษาใครว่าตำแหน่งนั้นควรต้องยื่นหรือไม่ เขาทำแบบนั้นไม่ได้ แต่วันนี้ พอประกาศออกมา มีการตื่นตูมกันทั้งบ้านทั้งเมือง เขาก็ได้รับฟังผลตอบรับ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าตำแหน่งใดจะต้องยื่นหรือไม่ยื่น ก็ต้องยืนบนหลักธรรมาภิบาล และกฎหมาย

เมื่อถามว่า แสดงว่าที่มีการร้องขอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 เป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะไม่มีวันทำอย่างนั้น ถ้าจะยกเลิก ป.ป.ช.จะเป็นฝ่ายยกเลิกเอง เขาจะไปหาวิธีของเขาเอง ขอย้ำว่าคสช.จะไม่ไปยกเลิกในสิ่งที่เขาออก เพราะนั่นคือการแทรกแซง แต่ตนไม่บอกว่าเขาจะทำอย่างไร ตรงนี้มันมีเงื่อนบางอย่างที่ ป.ป.ช .จะต้องไปคิด และถ้าติดปัญหาอย่างไร ให้บอก

“ผมไม่คิดว่า ป.ป.ช. ผิดพลาด ผมยังมานั่งนึกเลยว่า ถ้าผมเป็น ป.ป.ช. ผมจะทำอย่างเขาหรือไม่ สรุปคือ ต้องประกาศออกไปก่อน แต่ก่อนจะประกาศ มันมีวิธีการแบบผมอีกแบบหนึ่ง” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า ถือเป็นบทเรียนในการออกกฎกติกาต่างๆ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังเชื่อว่า เขาไม่ผิด และบางครั้งมันเป็นเรื่องของการตีความทางกฎหมาย ผมคิดว่า บทเรียนมันก็มีได้ทุกวัน ทุกเรื่อง ไม่ใช่เป็นเรื่องประหลาดอะไร

https://www.naewna.com/politic/381103

 

ฝันดีครับ

โพสต์ทูเดย์


ฝรั่งเศสล้มแผนขึ้นภาษีน้ำมัน ยอมจำนนกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง หวั่นกระทบท่องเที่ยว


https://www.posttoday.com/world/572941

 

‘ทอมสัน รอยเตอร์ส’ ประกาศเลิกจ้าง 3,200 ตำแหน่ง ปิดสนง.หลายสิบแห่งใน 2 ปี
วันที่ 5 December 2018 - 12:13 น.


REUTERS/Andrew Kelly/File Photo
ทอมสัน รอยเตอร์ส ประกาศปลดบุคลากรในสำนักข่าวและแผนกข้อมูลทางการเงิน รวม 3,200 ตำแหน่ง และปิดสำนักงานทั่วโลกอีกหลายสิบแห่งทั่วโลกภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กร

การปรับลดตำแหน่งงานดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 12 เปอร์เซ็นต์ของตำแหน่งงานทั้งหมด นอกจากนี้รอยเตอร์สยังจะปรับลดสำนักงานทั่วโลกลงอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ให้มาอยู่ที่ 133 แห่งเท่านั้น

โฆษกของรอยเตอร์สระบุว่า พนักงานส่วนใหญ่ของบริษัทได้รับแจ้งให้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว การปรับปรุงองค์กรให้ปราดเปรียวขึ้นเป็นสิ่งที่รอยเตอร์สทำอยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งอาจหมายถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้านบุคลากร เพื่อให้เราสามารถที่จะสร้างสมดุลระหว่างการบริหารทรัพยกรในองค์กรกับความต้องการของลูกค้า ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่รุนแรง

ด้านตลาดดูจะตอบรับการปรับโครงสร้างองค์กรของรอยเตอร์สครั้งนี้ โดยหุ้นของรอยเตอร์สปรับขึ้นมาถึง 1.17 เปอร์เซ็นต์ มาปิดที่ 50.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

ก่อนหน้านี้รอยเตอร์สได้ขายหน่วยงานด้านข้อมูลการเงินและความเสี่ยงให้กับบริษัทบริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่มแบล็กสโตน เพื่อที่จะมุ่งความสนใจไปที่หน่วยงานที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมายและภาษี

ทั้งนี้รอยเตอร์สเป็นสำนักข่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่สำนักข่าวสร้างรายได้เพียง 6 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ขณะที่เมื่อเดือนที่ผ่านมารอยเตอร์เพิ่งเลิกจ้างนักข่าวในฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอฟพีก็เพิ่งจะเลิกจ้างพนักงานรวม 125 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั่วโลก เพื่อยุติการขาดทุนของบริษัทด้วย

ที่มา มติชนออนไลน์

https://www.prachachat.net/world-news/news-260529

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ถกกันต่อเรื่องการศึกษาไทย!! แอดมินอ่านเจอบทความหนึ่งที่น่าสนใจจัง ชัดเจน!! #เด็กไทยไม่ได้โง่แต่รูปแบบการสอบวัดผลพยายามบอกว่าเด็กโง่ ซ้ำทำให้เด็กไทยขาดอิสรภาพในการมี Passion ในการดำเนินชีวิต


บทความดังกล่าวเป็นบทความโดย ศ.ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์ ผอ.ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเศรษฐกิจ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจนิด้า ซึ่งเผยแพร่ใน โพสต์ทูเดย์


อ่านฉบับเต็มได้ที่ : https://bit.ly/2EedJQt


โดยสรุปคร่าวๆ คือ ผู้เขียนชี้ว่า ตัวชี้วัดในด้านต่างๆ ทั้งการประเมินในระดับชาติหรือการประเมินในระดับนานาชาติ รวมไปถึงการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาที่เราได้คะแนนค่อนข้างต่ำ ทำให้สังคมไทย (โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่) มักพูดว่า “เด็กไทยโง่” ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ผู้เขียนชี้ว่า เด็กไทยไม่ได้โง่ แต่ความโง่เกิดจากวิธีการประเมิน (โดยกลุ่มผู้ใหญ่ของประเทศ) ที่ไม่ฉลาดนัก


▪️กระบวนการวัดผล เช่น ข้อสอบ O-NET #เป็นข้อสอบที่ไม่สามารถคัดกรองคนฉลาดออกมาได้ ข้อสอบท่องจำ ไม่ได้ตอบโจทย์การทำงานของโลกอนาคต ส่งผลให้เด็กที่ทำข้อสอบได้คะแนนสูงกลายเป็นพวกเด็กในกรอบ #ผลสอบไม่ได้รับประกันว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาดในการทำงาน


▪️คะแนนการสอบระดับนานาชาติ (PISA หรือ TIMSS) ที่เด็กไทยสอบออกมามีคะแนนต่ำ เป็นเพราะข้อสอบเหล่านั้นเป็นการสอบความสามารถในการคิดวิเคราะห์เป็นหลัก #การศึกษาไทยไม่ได้สอนเด็กมาแบบนั้น พอเด็กทำก็ทำไม่ได้


▪️ปัญหาที่คะแนนสอบของเด็กไทยมีคะแนนต่ำไม่ได้มาจากเด็กโง่ลงและทำคะแนนสอบได้ลดลง #แต่เกิดจากปัญหาความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการศึกษา เรามีเด็กยากจนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรการศึกษาที่มีคุณภาพ พอเข้าไม่ถึงคะแนนสอบที่ได้ก็น้อย ทำให้ค่าเฉลี่ยคะแนนของประเทศลดลง วิธีทำให้คะแนนสอบเฉลี่ยสูงขึ้นคือการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา


▪️เด็กไทยไม่ได้โง่ แต่รูปแบบการสอบ การวัด การประเมิน พยายามบอกว่าเด็กโง่ พ่อแม่ก็คิดว่าลูกตัวเองโง่ (เพราะไปเอาเกณฑ์ผิดๆ พวกนี้มาวัดหรือไม่ก็ไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น) #ก็เลยสร้างกระบวนการที่ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กโง่จริงๆ เช่น จับไปติว จับไปเรียนพิเศษ เรียนโน่นเรียนนี่ไปเรื่อย จนหนักไปถึงทำการบ้านทั้งหมดแทนลูก


สุดท้าย บทความได้ชี้ว่า #การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญแต่ต้องดูที่กระบวนการของการพัฒนาไม่ใช่ไปดูผลลัพธ์ #เด็กทุกคนเกิดมาด้วยพรสวรรค์ติดตัวที่แตกต่างกัน และจะดีมากถ้าเขาหามันพบ (โดยพ่อแม่-ครูอาจารย์ช่วยค้นหา) ใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์นั้นไปสู่การเรียน การทำงาน และพัฒนาตัวเอง


เด็กไทยไม่ได้โง่แต่ขาดอิสรภาพในการมี Passion ในการดำเนินชีวิต


คิดเห็นอย่างไร ไหนมาคุยกันค่ะ.

 

เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำ ไทยขึ้นเบอร์ 1 โลก แค่ 2 ปี คนรวยรวยขึ้น คนจนแย่ลง !
วันที่ 5 ธันวาคม 2561 - 17:20 น.

ความเหลื่อมล้ำ – นายบรรยง พงษ์พานิชอดีตคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Banyong Pongpanich เปิดเผยข้อมูล เรื่องความเหลื่อมล้ำ ปรากฎว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับ 1 ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก ความว่า

ว่าด้วยความเหลื่อมล้ำ… 5 ธ.ค.61

ประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลกไปแล้ว …ตามข้อมูลของ CS Global Wealth Report 2018 ที่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคม มีข้อมูลที่น่าเป็นห่วงมากว่า ถ้านับในด้านความมั่งคั่ง(Wealth)แล้ว ไทยแลนด์แดนสารขัณฑ์ที่ได้อันดับ 3 ในการสำรวจเมื่อสองปีที่แล้ว สามารถแซงทั้งรัสเซีย ทั้งอินเดีย ฉลุยขึ้นป้ายอันดับ 1 ได้อย่างค่อนข้างห่างด้วยซ้ำ

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2016) คนไทย 1% มีทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ มาปีนี้(2018) 1% มีเพิ่มเป็น 66.9% รวยขึ้นอื้อเลยครับ …แซงรัสเซียที่ลดจาก 78% เหลือแค่ 57.1% ตกไปเป็นที่2 ขณะที่ตุรกีมาแรงทั้งๆที่เศรษฐกิจห่วยแตกแต่คนรวยกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นได้เป็น54.1% แซงอินเดียที่ตกไปเป็นที่4 จาก 58.4% เหลือแค่เพียง 51.5%

แล้วนอกจาก 4 ประเทศนี้ ก็ไม่มีประเทศไหนในโลกอีกแล้วที่คนรวย 1% มีเกินครึ่ง โดยประเทศที่ดีที่สุดคือเบลเยี่ยมที่ 1% มีแค่ 20.1% ตามด้วยออสเตรเลีย 22.4% (ดูตาราง40ประเทศด้านล่าง)

พอไปดูรายละเอียดของตาราง(table6.5) ยิ่งอยากเอาเท้าก่ายหน้าผากเข้าไปใหญ่ …เพราะคนไทยที่จนสุด 10% มีทรัพย์สิน0% (จริงๆถ้ารวมหนี้น่าจะติดลบนะครับ) …ขณะที่ถ้านับ 50% (25ล้านคน)ก็ยังมีแค่ 1.7% …และถ้าเอา70% (35ล้านคน) ก็เพิ่มไปเป็นแค่ 5%

…ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับเพราะว่าไอ้ 1% มันเอาไปหมด …แต่ที่น่ากังวลก็คือมันสะท้อนว่า คนครึ่งประเทศ เป็นพวก”หาเช้ากินค่ำ”หรือไม่ก็”เดือนชนเดือน” ไม่มีเหลือเก็บเหลือออม แล้วแถมกำลังจะแก่ก่อนมีเงินออมซะอีกด้วย

ถ้าไปดูตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์GINIด้านความมั่งคั่ง (มาตรวัดการกระจาย ที่ค่าสูงสุด100 หมายถึงคนเดียวเอาไปหมด ถ้า0 แปลว่าทุกคนเท่ากันหมด) ตามtable6.6 ก็ยืนยันว่าประเทศไทยนั้นเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก เพราะGINI เราสูงถึง90.2 ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นสถิติโลกที่คงหาคนทำลายได้ยาก

อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ยืนยันว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราอาจจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน ทางการเมืองได้ดี แต่ถ้าไม่แก้เรื่องนี้ให้ได้ก็สุ่มเสี่ยงมากครับว่า เสถียรภาพทางสังคมจะมีปัญหา

ที่ยากจะกระจาย ก็เพราะว่ามันกระจุกแบบสุดๆนี่แหละครับ ใครคิดว่า”รัฐสวัสดิการ”จะช่วยได้ ก็ต้องระวังแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามากระจายด้วยนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่(80%)เขาก็หาได้แทบไม่พออยู่แล้ว

ครั้นจะเอาจากพวก1% ก็ต้องฝ่ากระบวนการล็อบบี้อันทรงอิทธิพลของเหล่าเจ้าสัวให้ได้ และต้องระวังเขาหอบทรัพย์หนีออกนอกประเทศกันหมดด้วย บางคนบอกว่าเอาจากงบทหารแล้วกัน ทำอย่างนั้นก็เหมือนอยู่บ้านไม้เก่าๆโทรมๆแล้วยังไม่ยอมจ่ายเงินซื้อประกันไฟอีก …มันเสี่ยงนาครับ

ถามผมว่าอะไรคือคำตอบ …ผมก็ขอนำเสนอว่าให้ใช้หลักการ ทุนนิยมเสรีใหม่+รัฐ

สวัสดิการ(Neoliberalism+Welfare) นี่แหละครับ สร้างทั้งความเติบโต พร้อมกับการกระจายไปด้วยกัน สังคมนิยม(Socialism)พิสูจน์แล้วว่าไม่เวิร์ก Keynesian กับเศรษศาสตร์พัฒนาการที่นำโดยรัฐก็พาเรามาได้แค่นี้แล้วก็ติดกับมาเป็น 10 ปีอย่างที่เห็นน่ะครับ ถ้าดันทุรังกันแบบเดิมๆ แผนยุทธศาสตร์จะกลายเป็นแผนฉุดกระชากชาติไป

รายละเอียดเป็นอย่างไร ต้องสารภาพว่าผมก็ไม่รู้หมดหรอกครับ แถมการขับเคลื่อนก็ยากเย็น(ก็ไอ้พวก1%มันไม่ยอมง่ายๆนี่ครับ) ผมเองก็พิสูจน์แล้วว่าทำไม่เป็น ทำไม่สำเร็จ …ไม่งั้นป่านนี้ไปลงสมัครเลือกตั้ง

รายละเอียดรายงาน

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_1917116

 

La nueva era de la tierra - respaldo



น้ำทะเลหายไปและกลับมาอย่างมากมายใน Touaourou Yatéทางตอนใต้ของ New Caledonia หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 7.6 ถึง 10 กิโลเมตรลึก

 

La nueva era de la tierra - respaldo


สภาพภูมิอากาศไม่ได้รับการควบคุม



พวกเขาพบปลาดุกในทะเลทรายซาอุดีอาระเบีย

2018/05/11

 

La nueva era de la tierra - respaldo


#URGENTE


การทดสอบของยูเครนประสบความสำเร็จจรวดล่องเรือ เนปจูน การทดสอบไปสู่ทะเลและทดสอบขีปนาวุธของระบบต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ S-125 ด้วย

 

Diego Bahena



#น้ำท่วมใน #ecatepec, รัฐแม็กซิโก (4 ธันวาคม 2018)

 

Diego Bahena


คลื่นความร้อนในออสเตรเลียทิ้งค้างคาวเป็นพันๆตายไปจนถึงตอนนี้ค้างคาวเสียชีวิตกว่า 5.500 (วิดีโอและรูปภาพ)..


⬇️ คลิ๊กที่ลิ้งค์ / ภาพด้านล่างเพื่อดูข่าวเต็ม ⬇️

 

Manuel Barrera



สุดยอด :# พายุในทะเลทรายของ #saudiarabia. ทะเลทรายปกคลุมด้วยลูกเห็บ (4 ธันวาคม 2018)


ชัดเจนว่าอากาศในหลายๆส่วนของโลกกำลังเปลี่ยนแปลง

 

Manuel Barrera





ทะเลทรายของ #saudiarabia (4 ธันวาคม 2018)

 

Diego Bahena


ทีมนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้ค้นพบภาพของภูเขาไฟ Sabancaya ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาค Arequipa ในการปะทุอย่างเต็มรูปแบบรายงานว่าสถาบันธรณีฟิสิกส์แห่งเปรู (วิดีโอ)


คลิกลิงก์ / รูปภาพด้านล่างเพื่อดูเรื่องราวทั้งหมด⬇️

 

La nueva era de la tierra - respaldo



Oymyakon รัสเซียลงทะเบียน -60 องศา
และพลเมืองคนนี้ได้ลงไปในแม่น้ำ wow

คุณจะทำมันได้หรือไม่?

 

La nueva era de la tierra - respaldo



สุดยอด ทอร์นาโด ใน เซาเปาโล brasil wow
2018/05/12

 

clima extremo 24

แม็กซิโก



น้ำท่วมรุนแรงที่เกิดจากฝนตกหนักที่ตกเมื่อวานคืนที่ 4 ของธ. ค. ใน ecatepec ในรัฐเม็กซิโก,

 

clima extremo 24

บราซิล

น้ำท่วมรุนแรงใน Bahia บราซิลเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม