ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 3) รายงานพิเศษ: จีน-สหรัฐพักรบ สงครามเศรษฐกิจ แต่ศึกนี้ยังไม่จบง่ายๆ : ในระยะหลังการประชุม G20 มักไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนนัก เนื่องจากสภาพการณ์ของการเมืองโลกที่แตกเป็นฝ่ายมากขึ้นทุกที แต่การประชุมครั้งล่าสุดที่อาร์เจนตินา กลับมีผลสะเทือนครั้งสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แห่งจีน กับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ร่วมประชุมนอกรอบระหว่างการรับประทานอาหารค่ำนานถึง 2 ชม. เพื่อสะสางปัญหาที่เกิดจากการเผชิญหน้ากัน จนนำไปสู่ภาวะ "สงครามเศรษฐกิจ" ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงไทย



แต่ในที่สุด สีจิ้นผิงกับทรัมป์ก็สามารถ ลงรอยกันได้ชั่วคราว โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสงบศึกเป็นเวลา 90 วันนับจากนี้ และสหรัฐจะระงับการขึ้นภาษีสินค้าจีน 25% เป็นเงิน 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐไปก่อน โดยมีกำหนดการที่จะประกาศใช้มาตรการนี้ใน วันที่ 1 ม.ค. 2019 หลังจากใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้กันไปมาตั้งแต่ช่วง ม.ค. 2018 ขณะที่จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเพิ่มจากสหรัฐของภาคเกษตร, พลังงาน และอุตสาหกรรม รวมถึงสินค้ากลุ่มอื่นๆ แม้จะยังไม่ตกลงกันว่าจะนำเข้าในปริมาณเท่าไร แต่ทำเนียบขาวแถลงว่าจะมีปริมาณมากพอสมควร เพื่อลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน



ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างขึ้นเครื่องแอร์ฟอร์ซวันเดินทางกลับประเทศ ว่า "เป็นข้อตกลงที่เหลือเชื่อมาก ที่เราจะทำ ก็คือยับยั้งการขึ้นภาษีไว้ก่อน ส่วนจีนจะ เปิดตลาดให้มากขึ้น จีนจะระงับพิกัดภาษี จีนจะซื้อสินค้ามากมายมหาศาลจากเรา"



ในระหว่างนี้จีนกับสหรัฐจะเจรจาเพื่อหาจุดลงรอยในเรื่องการค้า แต่ประเด็นที่จะหารือไม่อาจหาข้อสรุปได้โดยง่าย เพราะเป็นปมเงื่อนความขัดแย้งใหญ่หลวง เช่น ท่าทีของสหรัฐที่ไม่พอใจกับนโยบายของจีน ที่บังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เพื่อแลกกับการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ประเด็นที่สหรัฐอ้างว่าจีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, การล่วงล้ำและฉกชิงข้อมูลไซเบอร์, ปัญหาการใช้มาตรการที่มิใช้ภาษีในการกีดกันการค้า และภาคการบริการกับภาคเกษตร



สำนักข่าวเกียวโดมีบทวิเคราะห์เรื่อง ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ โดยชี้ว่า สงครามการค้ายังจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะจีนมี เป้าหมายในการรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ของประเทศ ซึ่งไม่พ้นที่จะขัดแย้งกับมหาอำนาจอย่างสหรัฐแน่นอน นักการทูตรายหนึ่งในปักกิ่งเผยว่า สีจิ้นผิงจะไม่ยอมวางมือจากนโยบายสร้างจีนให้ยิ่งใหญ่ง่ายๆ จึงยากที่จีนจะยอมโอนอ่อนให้กับความต้องการของทรัมป์ไปเสียทั้งหมด ส่วนฝ่ายสหรัฐเองก็จะไม่ยอม หากจีนไม่อ่อนข้อให้ตามที่สหรัฐต้องการ


Source: M2F


เพิ่มเติม

- Future of U.S.-China trade war hinges on 90-day talks

https://english.kyodonews.net/news/...-face-talks-may-decide-fate-of-trade-war.html


- รมว.คลังสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน : https://www.ryt9.com/s/iq38/2923934

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 3) สื่อเผยข้อมูลส่วนตัวทางการแพทย์ของลูกค้าแบงก์ยักษ์ใหญ่ในออสเตรเลียเกิดการรั่วไหล : สถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลียรายงานว่า ข้อมูลส่วนตัวทางการแพทย์ของลูกค้าธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ อินชัวรันส์ (CommInsure) เกิดการรั่วไหลไปยังกลุ่มพนักงานของสาขาต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท


รายงานของ ABC ระบุว่า คอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย (CBA) ได้ตระหนักถึงข้อผิดพลาดดังกล่าวที่เกิดขึ้นในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ CBA เตรียมตัดขายกิจการธุรกิจประกันในเครือ คิดเป็นมูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์


อย่างไรก็ตาม CBA เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางธนาคารยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ อีกทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่า พนักงานจากสาขาที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทนั้น เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวด้วยหรือไม่


CBA ยังระบุด้วยว่า พวกเขากำลังตรวจสอบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวและได้แจ้งความไปยังหน่วยงานดูแลที่เกี่ยวข้อง

โฆษกหญิงของ CBA กล่าวว่า "เราเข้าใจว่า ลูกค้าบางรายอาจกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลภายใน และเรากำลังดำเนินการร่วมกับ CommInsure ในการให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว"


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รณชัย ชายผา/รัตนา


- Commonwealth Bank customers' medical data exposed in potential privacy breach

https://www.abc.net.au/news/2018-12...ata-exposed-potential-privacy-breach/10563414

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 3) สัมภาษณ์พิเศษ: วิรไท สันติประภพ 'เป็นหน้าที่ ธปท.ที่ต้องเตือน' : วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่าไทยยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องเตือนว่า "อย่าชะล่าใจ" เพราะทิศทางดอกเบี้ยของโลกกำลังปรับขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve) กลุ่มที่ใช้หนี้ระยะสั้นไปลงทุนระยะยาวที่ไม่สอดคล้องกัน โดยมีความเสี่ยงผลกระทบจากการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดของอัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตร (Yield Snapback) ต่อต้นทุนการกู้ยืมโดยเฉพาะภาคธุรกิจที่กู้ยืมระยะสั้น หากเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปอย่างที่คาดคิด ผลที่เกิดขึ้นจะขยาย วงกว้างเหมือนใส่แว่นขยายหากไม่เตรียมพร้อมหรือจัดโครงสร้างทางการเงินที่ดี

อีกด้านหนึ่งที่ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ คือ ความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) เหลือน้อย ต้องคิดถึงการสร้างกันชน (Buffer) เพื่อรองรับความผันผวนและความเสี่ยงสูงขึ้นในระยะข้างหน้า หากมีโอกาสก็ต้องชั่งน้ำหนักถึงความสามารถในการเพิ่มความสามารถดำเนินนโยบายการเงินด้วย เช่นเดียวกับนโยบายการคลังก็ต้องมีกันชนเก็บไว้ เพื่อนำออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเมื่อจำเป็น

"ในภาวะข้างหน้าที่มีความผันผวนสูง ทางการมีเครื่องมือใดบ้างที่เข้าไปดูแลและให้เกิดผล หลักนโยบายการเงินทั่วไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเข้าไปดูแล ต้องลดและลดแรงจึงจะเกิดผลเข้าไปช่วยดูแลอย่างที่เกิดวิกฤตในรอบก่อนๆ ขณะนี้ความสามารถดำเนินนโยบายการเงินเหลือน้อยมาก จึงต้องมองถึงการปรับเพิ่มความสามารถเพื่อให้มีกันชนในยามจำเป็นในอนาคต"ความเปราะบางที่ต้องจับตา

วิรไท กล่าวว่า ยอมรับว่าความเสี่ยงภาพใหญ่ที่น่าเป็นห่วง คือ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เป็นตัวถ่วงของระบบเศรษฐกิจ ถ้าไม่มีกลไกดูแลหนี้ครัวเรือนก็จะเป็นความเปราะบาง ที่พิจารณาอยู่ อาทิ ภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio) ยังไม่มีข้อมูลที่ดีพอ ขณะนี้ได้เริ่มทำงานกับภาคธนาคารว่าควรต้องคำนึงถึงภาระหนี้ต่อรายได้ เพราะการออกเกณฑ์วงเงินสินเชื่อต่อหลักประกัน (LTV) เป็นเพียงทางอ้อม ที่สำคัญจะต้องดูความสามารถในการจ่ายหนี้ หากเศรษฐกิจเริ่มชะลอ รายได้ถูกกระทบ จะมีผลกระทบอย่างไร

ความเสี่ยงอีกด้าน คือ ธนาคารเงา (Shadow Bank) ซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นธนาคารเงาใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนการฝากเงินที่สหกรณ์ออมทรัพย์ถึง 10% ของเงินฝากทั้งระบบ ซึ่งใหญ่มาก ทั้งที่ระบบฐานข้อมูลความเชื่อมโยง ยังไม่มีใครที่สามารถให้ภาพที่ชัดเจนได้ อีกทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์มีสัดส่วนเงินฝากมากกว่าเงินกู้ แต่ก็ยังกู้ไปลงทุน ที่มีความเสี่ยง เช่น อิควิตี้ลิงค์ ทั้งที่ยังไม่มีความรู้

นอกจากนี้ จับตากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่กู้เงินเยอะมากในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ ยิ่งการกู้ผ่านการออกตราสารหนี้ดอกเบี้ยยิ่งต่ำมาก ปัญหาถัดมาก็พบว่า ธุรกิจรายใหญ่ไปต่อรองกับธนาคารว่า กู้ผ่านตราสารหนี้ดอกเบี้ยต่ำมาก ทำให้ธนาคารแข่งขันปล่อยกู้โดยลดดอกเบี้ยให้ต่ำเป็นพิเศษ เป็นการปล่อยกู้ที่ประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร ฉะนั้น พฤติกรรมการอนุมัติสินเชื่อต้องประเมินความเสี่ยงที่ดี ไม่ใช่มุ่งเน้นเพียงหวังตัวเลขสินเชื่อเติบโต แม้ขณะนี้ธนาคารมีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง แต่ก็ต้องระวังไม่ให้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

นโยบายการเงินยังผ่อนคลาย

วิรไท กล่าวว่า รายงาน กนง.ล่าสุดมี 3-4 ประเด็นที่คนให้น้ำหนักว่าจะ ขึ้นดอกเบี้ยและหมดยุคดอกเบี้ยถูก ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเมื่อขึ้นดอกเบี้ยแล้วจะขึ้นต่อเนื่อง แต่การพิจารณาใช้หลักประเมินสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งไทยไม่ได้มาจากประเทศที่ใช้นโยบายดอกเบี้ยสุดขั้ว จนต้องรีบปรับสู่ภาวะปกติ และเราไม่ได้เป็นประเทศที่มีการจ้างงานอย่างเต็มที่ อย่างสหรัฐที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดรอบ 30 ปี ค่าจ้างเพิ่มขึ้นและมีนโยบายการคลังอัดฉีดอีก ทำให้เศรษฐกิจร้อนแรง จึงเป็นสภาวะที่สหรัฐจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในทิศทางดังกล่าว

"เราไม่ได้มาจากประเทศที่ดอกเบี้ยติดลบหรือเป็นศูนย์ และเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังเปราะบาง ฉะนั้นเราจึงมีหลัก Data Dependent ถ้าสมมติว่ามีการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ได้หมายความว่าหมดยุคดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยอย่างไรก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ดังที่รายงาน กนง.ที่เขียนชัดว่า คณะกรรมการโดยรวมเห็นว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังจำเป็นสำหรับเศรษฐกิจไทย"

ดอกเบี้ยต่ำพิเศษจำเป็นน้อยลง

นโยบายการเงินอยู่ในระดับการผ่อนคลายมากเป็นพิเศษที่ผ่านมา "จำเป็นน้อยลง" หากดูอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ต่ำสุดอยู่ในระดับ 1.25% เมื่อปี 2552 หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขณะนั้นจีดีพีของไทยติดลบ 0.9% เทียบกับปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายอยู่ระดับ 1.5% ขณะที่ปีนี้แม้จีดีพีไทยอาจจะไม่ได้ 4.4% แต่ก็ยังอยู่ระดับ 4% ต้นๆ และปี 2562 คาดว่าจีดีพีจะอยู่ระดับ 4% บวกลบ ซึ่งหลายเครื่องยนต์กำลังทำงาน จึงมีคณะกรรมการ 3 เสียงเป็นห่วงว่า นโยบายการเงินผ่อนคลายมากเป็นพิเศษจะเกิดผลข้างเคียงกับเสถียรภาพระบบการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งระยะยาวประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไม่ได้ดูแลผู้กู้อย่างเดียวต้องดูแลผู้ฝากด้วยให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม

สำหรับภาวะเศรษฐกิจในปี 2562 ที่ กนง.ให้ประมาณการเติบโตที่ระดับ 4.2% ต้องมีการประเมินผลกระทบการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการช็อกที่ไม่ได้คาดไว้ ส่วนการส่งออกได้ประเมินถึงผล กระทบไว้ส่วนหนึ่งแล้ว โดยปี 2561 นับเป็นครั้งแรกที่เศรษฐกิจเติบโตได้ระดับ 4%

หากปี 2562 เศรษฐกิจเติบโตได้ถึงระดับ 4% จะเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่เศรษฐกิจเติบโต 4% ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี เข้มแข็งกว่าเมื่อครั้งที่ดอกเบี้ยอยู่ระดับ 1.25% มากอย่างไรก็ดี การที่ยอมให้ดอกเบี้ยไทยต่ำกว่าสหรัฐได้ เพราะสร้างกันชนไว้ได้ดี ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง และพึ่งพิงเงินตราต่างประเทศน้อย ต่างชาติถือพันธบัตรไทยสัดส่วน 10% จึงสามารถดำเนินนโยบายการเงินเพื่อตอบโจทย์ในประเทศ แต่ชะล่าใจไม่ได้เพราะเงินทุนไหลเข้าออกขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ภายนอกประเทศ ที่มักเปลี่ยนนโยบายการเปิดหรือปิดรับความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุการณ์ในประเทศใหญ่ หากดอกเบี้ยห่างกันมากก็อาจมีการไหลออกแรงได้ ทว่า ในมุมมองต่างชาติเห็นว่าไทยค่อนข้างมีเสถียรภาพจึงกล้านำเงินเข้ามาลงทุนแม้ดอกเบี้ยจะน้อยก็ตาม

โดย ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 3) ทยอยขึ้นดอกเบี้ย - ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันดอกเบี้ย ต่ำพิเศษจำเป็นน้อยลง เชื่อแม้ปรับขึ้น ไม่ส่งผลกระทบผู้บริโภค



นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า รายงานคณะกรรมการนโยบายการเงินล่าสุดที่มีมติ 4 ต่อ 3 ทำให้เกิดคาดการณ์ กนง.เตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่การสื่อความว่าหมดยุคดอกเบี้ยต่ำอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าเมื่อเริ่มขึ้นดอกเบี้ยแล้ว จะขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นเช่นนั้น



ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงภายนอกอีกหลายด้าน เช่น มาตรการกีดกันการค้าและผลกระทบการท่องเที่ยว ซึ่งในที่ประชุม กนง.เห็นตรงกันว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากเป็นพิเศษลดความจำเป็นลงแล้ว แต่นโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายต่อเนื่อง โดยการจะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยจะพิจารณาจากข้อมูลและสถานการณ์ในแต่ละช่วง (Data-Dependent) เป็นสำคัญ



อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำต้องดูแลความเสี่ยงและผู้ฝากเงินด้วย โดยความเสี่ยงสำคัญ อาทิ การแสวงหาผลตอบแทนสูงที่เห็นการกู้เงินมาลงทุน อย่างเช่นที่เกิดในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ ธปท.ต้องออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาดูแลความเสี่ยง



"เอ็นพีแอลสินเชื่อประเภทอื่นลดลง แต่เอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านปรับขึ้นทั้งที่ทิศทาง เศรษฐกิจดี และบ้านเป็นสิ่งสุดท้ายที่คน จะทิ้ง สะท้อนการเก็งกำไร" นายวิรไท กล่าว



อย่างไรก็ดี ไม่คิดว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะสภาพคล่องส่วนเกินยังมีมาก และธนาคารแข่งขันสูง ต้นทุนเงินฝากไม่ได้ปรับขึ้นทันที จึงไม่ต้องเร่งปรับดอกเบี้ยสินเชื่อ สิ่งที่ธนาคารควรทำคือปรับดอกเบี้ยเงินกู้ที่เคยให้เอ็มแอลอาร์ลบสูงๆ แก่ธุรกิจรายใหญ่ก่อน


Source: Posttoday

https://www.posttoday.com/finance/news/572739

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 3) เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 17 : กระทรวงพาณิชย์เผยกลุ่มอาหารยังสูงต่อเนื่องดึงเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 61 สูงในอัตราชะลอตัวร้อยละ 0.94 โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันลดต่อเนื่อง แต่ดันสินค้าเกษตรบางรายการดีขึ้น คาดการณ์เงินเฟ้อ 62 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.7-1.7

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค. ) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 2561 โดยระบุว่าอัตราเงินเฟ้อขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง แต่ยังสูงขึ้นร้อยละ 0.94 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 สาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 1.04 ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมและหมวดปิโตรเลียมที่เคยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ตอนนี้ราคาน้ำมันมีแนวโน้นลดลง และคาดว่าเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2561 ยังขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงน่าจะขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 1 จะส่งผลอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.8-1.6 หรือเฉลี่ยค่ากลางอยู่ร้อยละ 1.2 แม้ว่าในช่วงปลายปีจะมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านบัตรสวัสดิการบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อปรับเพิ่มมากนัก

อย่างไรก็ตาม การที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 1.13 มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน อาหาร และเครื่องดื่มเป็นสำคัญ โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะข้าวและผลิตภัณฑ์จากแป้งสูงขึ้นร้อยละ 4.12 และในกลุ่มข้าวราดแกง อาหารเช้า อาหารตามสั่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 แต่ภาพรวมทั้งประเทศราคายังไม่ปรับขึ้นมากนัก ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรมีการปรับตัวดีขึ้นหลายรายการ เช่น ข้าว ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2562 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.7-1.7 โดยสมมติฐานคาดการณ์จีดีพีของประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.50-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมัน เป็นต้น.

Source: สำนักข่าวไทย
https://www.tnamcot.com/view/WfXDCL3FT

แถลงข่าว กระทรวงพาณิชย์ http://www.price.moc.go.th/price/fileuploader/file_cpi/Cpig112561_tg.pdf

 

Richard Whitt


'กาตาร์' ขอถอนตัวออกจากกลุ่ม OPEC


Qatar pulls out of Opec to focus on gas production


• 'กาตาร์' สมาชิกองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC ประกาศจะถอนตัวจากกลุ่มแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2018 โดยจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2019 เป็นต้นไป หลังจากที่ร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ทรงอิทธิพลในตลาดพลังงานโลกอย่าง OPEC มาเกือบ 60 ปี


• ปัจจุบัน OPEC มีสมาชิกจำนวน 15 ประเทศ โดยมเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย อิรัก อิหร่าน คูเวต และเวเนซุเอลา


• จากนั้นมีเพิ่มอีก 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE กาตาร์ ไนจีเรีย แอลจีเรีย ลิเบีย กาบอง เอกวาดอร์ แองโกลา อิเควทอเรียลกินี และคองโก


• 'กาตาร์' ไม่ใช่ประเทศแรกที่ถอนตัวออกจากกลุ่ม เพราะก่อนหน้านี้ กาบองและเอกวาดอร์ ก็เคยขอถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก แต่สุดท้ายก็ขอกลับเข้ากลุ่มอีก


• นายซาอัด เชอริดา อัล-คาบี (Saad Sherida al-Kaabi) รัฐมนตรีกิจการน้ำมันของกาตาร์เปิดเผยว่า...การตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม OPEC ครั้งนี้ สะท้อนความต้องการของกาตาร์ที่จะมุ่งเน้นพัฒนาและเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันกาตาร์เป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ชั้นนำของโลก ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 38%


• เนื่องจากในรอบ 1 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา กาตาร์ประสบปัญหาถูกพันธมิตรกลุ่มอาหรับคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากซาอุดิอาระเบียที่มีอำนาจการต่อรองในกลุ่ม OPEC ทำให้กาตาร์ต้องเร่งเพิ่มการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติหารายได้เข้าประเทศให้มากขึ้นชดเชยกับการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการคว่ำบาตร


• สำหรับการผลิตน้ำมันดิบนั้น กาตาร์มีกำลังผลิตน้ำมันดิบวันละประมาณ 600,000 บาร์เรล ซึ่งนับว่าเป็นเศษเสี้ยวเพียงน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตรวมของประเทศอื่น ๆ ที่เป็นสมาชิก OPEC ที่มีกำลังการผลิตรวมกันประมาณวันละ 25 ล้านบาร์เรล


• OPEC ได้ขยายขอบเขตสมาชิกนอกเหนือจากประเทศในตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ ไปสู่ประเทศในแถบแอฟริกา เช่น คองโก และประเทศอิเควทอเรียลกินี (Equatorial Guinea) ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เมื่อไม่นาน


• บรรณานุกรม :


Credit : https://www.bbc.com/news/business-46424110


Credit : https://www.theguardian.com/business/2018/dec/03/qatar-pulls-out-of-opec-to-focus-on-gas-production


Credit : https://abcnews.go.com/International/wireStory/qatars-energy-minister-country-pulling-opec-59569080


Credit : https://www.ft.com/content/66cc3bee-f6c6-11e8-af46-2022a0b02a6c


Credit : https://www.nytimes.com/2018/12/03/world/middleeast/qatar-withdraw-opec.html

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



พื้นดินและบ้านกำลังได้รับผลกระทบจาก liquefacción ในกาลิมันตันอินโดนีเซียในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2018.

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



พื้นดินถล่มทลายและจมลงสำหรับ liquefacción ในกาลิมันตัน อินโดนีเซีย ในวันที่ 30 พ. ย.

 

Clima Extremo 24


โบลิเวีย



แม่น้ำ Mapiri และ Tipuani กำลังคุกคาม เกิดน้ำท่วม Guanay ในวันนี้ในวันที่ 2 ธันวาคม

 

Clima Extremo 24


โบลิเวีย



ทำให้เกิดความกังวลต่อประชากรหลังจากการขยายตัวของแม่น้ำ Mapiri ในประเทศโบลิเวีย

 

Clima Extremo 24


อเมริกาเหนือ



การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ริโอบราโว่


แม่น้ำที่มีเอกลักษณ์ไหลตามสามพัน 33 กิโลเมตรจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคเหนือเม็กซิโก


The rio grande หรือ rio bravo, tributary ที่ delimit ส่วนของชายแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกกำลังแห้งเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ได้ทำให้ความถี่และความเข้มของความแห้งแล้งตามหลักฐานที่สะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ


แม่น้ำที่มีเอกลักษณ์ไหลมากว่าสามพัน 33 กิโลเมตรจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาคเหนือเม็กซิโกและเป็นแหล่งน้ำอุปโภคและบริโภคให้ ประชาชนมากกว่า 13 ล้านคนในทั้งสองประเทศ แต่เนื่องจสกสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับประชากรเพิ่มขึ้น และความหลากหลายของความต้องการคุกคาม อนาคตของมันและผู้ที่ขึ้นอยู่กับมัน

..

....

ที่มา: 12 superchannel

 

MOREMOVE


#ซาวเสียงกันหน่อย โอไม่โอ!!?? ธนาคารพาณิชย์เตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย #ขอเก็บค่าธรรมเนียม ถอนเงินกดจากตู้ ATM-หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร ชี้ชัดๆ #ธนาคารมีต้นทุนจัดการเงินสดที่สูง แถมเป็นอีกช่องทางหนึ่ง #กระตุ้นให้คนใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น (ก่อนหน้านี้ธนาคารพาณิชย์ได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินและชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลแล้ว)


Source : https://morning-news.bectero.com/economy/03-Dec-2018/134309


โดยเรื่องนี้ ธนาคารกรุงเทพระบุว่า #หากมีการเก็บค่าธรรมเนียมจริงคงเป็นการทยอยทำ แต่ไม่ได้ประกาศเก็บค่าธรรมเนียมแบบทันทีทันใด โดยอาจเริ่มจากการลดสิทธิประโยชน์ของบางบริการ เช่น ลดจำนวนครั้งที่ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ฟรี ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมหน้าเคาน์เตอร์คงต้องใช้เวลาและคิดให้รอบคอบก่อน


ขณะที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่า #ในต่างประเทศมีการเก็บค่าธรรมเนียมหน้าเคาน์เตอร์มานานแล้ว แต่หากจะนำมาใช้ในประเทศไทยอาจต้องใช้เวลาถึง 3 ปีว่าจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็คงต้องหารือกับธนาคารต่างๆ และธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน.

 

ฝันดีครับ

ทางตัน"แม้ว-ปู" จับตา สนช.ผ่านวาระ 3 พรุ่งนี้ แก้ กม.คนหนีคดีไม่มีสิทธิฟ้องอาญาคนอื่น

สนช.ถกวาระ 2-3 พรุ่งนี้ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้จำเลยหรือผู้ต้องหาในคดีที่มีโทษไม่เกิน 10 ปี ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักประกันได้ พร้อมห้ามคนหนีคดีฟ้องคนอื่นในคดีอาญา เพราะถือว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม

คลิก>> https://mgronline.com/politics/detail/9610000120461

#MGRonline #สนช #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #หนีคดี

 

Sayan Rujiramora


ZeroHedge

EU Proposes Widespread 'De-Dollarization' Initiatives

Tyler Durden Dec 3, 2018


อียูเตรียมเสนอแผน De-Dollarization


ปฏิกิริยาที่เปิดเผยของคณะกรรมาธิการของอียู ทีมีต่อแผนการกดขี่ลูกสมุนของวอชิงตัน คือการเตรียมแผนที่จะลดบทบาทของดอลล่าร์ในการค้าระดับนานาชาติ


ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างทรัมพ์กับกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการแซงค์ชั่นด้วยมาตรการภาษี ..คณะกรรมาธิการยุโรปวางแผนที่จะพัฒนาให้เงินยูโรเพิ่มบทบาทมากขึ้นในระดับนานาชาติ..จากเอกสารที่รั่วสู่มือของ Bloomberg


ตามแผนจะมีอยู่สามมิติ คือ ..ภาคการเงินของยุโรป ..ภาคการเงินระดับนานาชาติ ..และในภาคยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน


"ประเทศสมาชิกควรโปรโมทการใช้เงินยูโรมากขึ้นกับคู่ค้าในภาคพลังงาน รวมไปถึงในสัญญาในระดับทวิภาคีและพหุภาคี"


"คณะกรรมการเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก ใช้ข้อกำหนดในโมเดลเงื่อนไขที่คณะกรรมการได้ออกแบบไว้แล้ว ในสัญญาการค้าระหว่างรัฐต่อรัฐกับประเทศนอกกลุ่มอียู ให้ใช้เงินยูโรเป็นสกุลหลัก"


"ผู้ร่วมค้าในตลาดพลังงานของยุโรปทำสัญญาระหว่างกันโดยใช้ยูโรเป็นเงินสกุลหลัก"


"Agencies ผู้แจ้งราคาน้ำมันดิบในตลาดยุโรป ต้องใช้ราคา benchmark เป็นเงินยูโร"


"ตลาดสินค้าโภคภัณท์ต้องเตรียมการให้ใช้เงินยูโรในสัญญาอนุพันธ์ในส่วนที่เกี่ยวกับน้ำมันดิบและผลิตภัณท์น้ำมันสำเร็จรูป"


จากการที่รัสเซียและอิหร่านเริ่มลดการใช้ดอลล่าร์ ตามด้วยจีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐลง (แต่ยังคงอ้างว่าสนับสนุนอยู่) และเพิ่มการโปรโมทสัญญา petroyuan รวมถึงยุโรปเริ่มถอยห่างจาก petrodollar ...จะเป็น beginning of the end ของคิงดอลล่าร์ในบัลลังก์เงินทุนสำรองของโลก ...เริ่มอย่างช้าๆก่อน และพังอย่างทันทีทันใด


ถ้ามีพันธมิตรแบบนี้ ....ไม่ต้องมีศัตรูอีกแล้วก็ได้

 

เก็บตกตะวันออกกลาง


ซูดาน เตรียมถอนกองกำลังออจากพันธมิตรซาอุฯ รุกรานเยเมน!!!


รัฐบาลซูดานจะถอนกองกำลังของตนออกจากพันธมิตรซาอุฯ เนื่องจากความกดดันภายในจากฝ่ายค้านให้ถอนตัวออกจากกลุ่มพันธมิตรซาอุฯรุกรานเยเมน


เจ้าหน้าที่ซูดานได้เรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบียให้ความสำคัญกับการยุติสงครามและการแก้ปัญหาทางการเมืองต่อวิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศเยเมน


รายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ซูดานได้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย โดยชี้ถึงถึงความกดดันภายในของฝ่ายค้านเนื่องจากการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรซาอุฯโจมตีเยเมน โดยเจ้าหน้าที่ ซูดานได้ประกาศว่าซูดานตั้งใจที่จะประกาศช่วงเวลาที่จะถอนทหารออกจากเยเมน


รายงานจากแหล่งการทูตระบุว่า ซาอุดีอาระเบียแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของซูดานและเรียกร้องให้มีการเลื่อนเวลาในการตกลงกันเรื่องการถอนกองกำลังซูดานจากพันธมิตรรุกรานเยเมน แต่ซูดานปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว


#เก็บตกตะวันออกกลาง!

#ซาอุดิอาราเบีย ! #เยเมน

 

La nueva era de la tierra - respaldo



การสั่งสมหิมะครั้งใหญ่ในไอซ์แลนด์ สุดยอด

02.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ภูเขาไฟ Popocatépetl ปล่อยเถ้าพุ่งขึ้นสูง 2.5 กม.

 

El despertar a un nuevo mundo 2


สุนัข ♧] ตายจากความหนาวระหว่างความเฉยเมยของคนที่ผ่านเคียงข้างคุณ

ตรงข้ามกับความรักไม่ได้เกลียดแต่ก็ไม่สนใจ

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



ฝนตกหนักกระทบเมือง semarang ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วงบ่ายนี้ใน sumastra, อินโดนีเซีย

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



ลมแรงและฝนทำให้เกิดการทำลายล้างในวันนี้ที่อินโดนีเซีย