ติดตามสถานะการณ์

แผ่นดินไหว ขนาด 4.0
ภูมิภาค BANDA SEA
วันที่เวลา 2018-12-03
เวลา 00: 09: 18.0 น. ไทย
สถานที่ตั้ง 6.02 S; 128.24 E
ความลึก 366 กม



Magnitude M 4.0
Region BANDA SEA
Date time 2018-12-02 17:09:18.0 UTC
Location 6.02 S ; 128.24 E
Depth 366 km
Distances 407 km NE of Dili, Timor-Leste / pop: 150,000 / local time: 02:09:18.0 2018-12-03
257 km S of Ambon, Indonesia / pop: 356,000 / local time: 02:09:18.0 2018-12-03

https://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=729635

 

แผ่นดินไหว ขนาด 4.4
ภูมิภาค FIJI
วันที่ 2018-12-03
เวลา 04: 01: 04.8 น. ไทย
ตำแหน่ง 18.24 S; 177.92 W
ความลึก 586 กม




Magnitude mb 4.4
Region FIJI REGION
Date time 2018-12-02 21:01:04.8 UTC
Location 18.24 S ; 177.92 W
Depth 586 km

Distances
385 km E of Suva, Fiji / pop: 77,400 / local time: 10:01:04.8 2018-12-03
351 km SE of Lambasa, Fiji / pop: 24,200 / local time: 10:01:04.8 2018-12-03

https://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=729672

 

แผ่นดินไหว ขนาด 4.6
ภูมิภาค FIJI
วันที่ 2018-12-03
เวลา 12: 48: 41.4 น. ไทย
ตำแหน่งที่ตั้ง 18.67 S; 178.14 W
ความลึก 498 กม



Magnitude mb 4.6
Region FIJI REGION
Date time 2018-12-03 05:48:41.4 UTC
Location 18.67 S ; 178.14 W
Depth 498 km

Distances
366 km E of Suva, Fiji / pop: 77,400 / local time: 18:48:41.4 2018-12-03
411 km NW of Nuku‘alofa, Tonga / pop: 22,400 / local time: 18:48:41.4 2018-12-03
866 km SW of Apia, Samoa / pop: 40,500 / local time: 19:48:41.4 2018-12-03

https://www.emsc-csem.org/Earthquake/earthquake.php?id=729776

 

เจนจิรา จันทรเสนา




ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่น เร่งรีบแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง เพื่อเปิดรับแรงงานต่างชาติมาทำงานในญี่ปุ่นมากขึ้น

แต่ฝ่ายค้านมองว่ามีปัญหาหลายประการและอาจกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่น และงานบางประเภทที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก กฎหมายนี้กลับไม่เปิดให้คนต่างชาติทำงานได้

 

ป.ป.ช.เชือด‘วัลลภ’อดีตปธ.บอร์ดบริหารบินไทยขนสัมภาระเกินสิทธ์แต่ไม่จ่ายเพิ่ม
เขียนวันที่ วันศุกร์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เวลา 12:44 น.

ป.ป.ช. ชี้มูลผิด ‘วัลลภ พุกกะณะสุต’ อดีต ปธ.บอร์ดการบินไทย ปมขนสัมภาระกว่า 300 กิโลกรัม ไม่เสียค่าใช้จ่าย-รับเนื้อโกเบ-ผลไม้จากเอกชนมูลค่าเกิน 3,000 บาท – ฟันวิศวกรฯ บ.วิทยุการบินฯ-ผู้จัดการเอกชน ทุจริตสร้างสถานีเรดาร์ จ.ประจวบฯ - เชือด 2 นายก อบจ.พะเยา-สุราษฎร์ฯ



ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตในการนำกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าสิทธิ์ขึ้นเครื่องบิน ณ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น และกรณีถูกกล่าวหาว่า รับเนื้อโกเบ และผลไม้จากบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท โดยส่งสำนวนและรายงานความเห็นให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลแล้ว

กรณีนี้เกิดขึ้นช่วงปี 2552 โดยขณะนั้นนายวัลลภ ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารการบินไทยพร้อมภริยา เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น โดยถูกกล่าวหาว่า ขนสัมภาระน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม กลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายน้ำหนักที่เกิน ทำให้การบินไทยสูญเสียรายได้จำนวนมาก ต่อมาบอร์ดการบินไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้นปี 2553 มีมติสั่งปรับเงินนายวัลลภ อย่างไรก็ดีนายวัลลภ ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว (อ้างอิงข่าวจาก คมชัดลึกออนไลน์ และไทยรัฐออนไลน์)

@ชี้มูลผิดวิศวกรฯ บ.วิทยุการบินฯ-ผู้จัดการเอกชน ทุจริตสร้างสถานีเรดาร์ จ.ประจวบฯ

แหล่งข่าว ระบุอีกว่า ขณะเดียวกันคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด เรืออากาศเอก ชรินทร์ ทองเปี่ยม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง วิศวกรโยธา บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และ น.ส.พรชนันท์ หรือศิริพร วิสิทธิสมบูรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี คอมฟอร์ด จำกัด กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารสถานีเรดาร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ด้วย

@เชือด 2 นายก อบจ.พะเยา-สุราษฎร์ฯ

นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีเกี่ยวกับการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกอย่างน้อย 2 คดี ได้แก่ กรณีกล่าวหานายวรวิทย์ บูรณศิริ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กับพวก กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตในการจัดซื้อท่อคอนกรีตเสริมเหล็ก 129 ท่อน
และชี้มูลความผิดนายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี กรณีถูกกล่าวหาว่าดำเนินการก่อสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ก่อนที่สภา อบจ.สุราษฎร์ธานี จะอนุมัติงบประมาณ


https://www.isranews.org/isranews/7...AI3Jt0tHqzfSrgwFVzIZ_dMgPdU9lBKrywhgp0ce4emhY

 

เบื้องหลังช่อง3 เลิกจ้างพนง.บิ๊กล็อตจ่ายชดเชย10ด.บวกค่าตกใจโบนัสพิเศษคูณอายุงาน0.25%เขียนวันที่ วันจันทร์ ที่ 03 ธันวาคม 2561 เวลา 12:35 น. เขียนโดย isranews

เบื้องหลังช่อง 3 เลิกจ้างพนง. บิ๊กล็อต เหตุสัมปทานแพร่ภาพ อสมท ใกล้สิ้นสุดลง ต้องย้ายคนทำงานมาบ.ใหม่ ถือโอกาสปรับโครงสร้างการบริหารงานให้เหมาะสมสภาพธุรกิจสื่อปัจจุบัน ใช้ 3 เกณฑ์คัดเลือก 'วัยเกษียณอายุ-ประเมินผลงาน-ให้ออกโดยสมัครใจ' จ่ายค่าชดเชย 10 เดือน บวกค่าตกใจโบนัสพิเศษ คำนวณฐานอายุงาน คูณอัตรา 0.25% ล่าสุดฝ่ายบุคคลทยอยโทรเรียกพบตกลงเป็นรายบุคคลแล้ว



สืบเนื่องจากปรากฏข้อมูลว่า ผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มีมติให้เลิกจ้างพนักงานฝ่ายข่าวจำนวนกว่า 80 คน ซึ่งมีการจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยเป็นค่าชดเชย 10 เดือน ค่าตกใจ (ไม่แจ้งล่วงหน้า) 2 เดือน (อ่านประกอบ : ภาสกร จําลองราช : ตกงานกันอีกอื้อ สื่อมวลชนไทย)

แหล่งข่าวจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ผู้บริหารช่อง 3 มีมติให้มีการเลิกจ้างพนักงานฝ่ายข่าว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปจริง เหตุผลเป็นเพราะสัมปทานการแพร่ภาพออกอากาศที่ทำสัญญาไว้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในนาม บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด จะสิ้นสุดลง จึงต้องมีการย้ายพนักงานเข้ามาทำงานภายใต้บริษัท สำนักข่าว บีอีซี จำกัด แทน พร้อมปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ ให้เหมาะสมสภาพการทำธุรกิจสื่อในปัจจุบัน

สำหรับการแจ้งเลิกพนักงาน แบ่งออกเป็น 3 เกณฑ์ คือ 1. กลุ่มพนักงานในวัยเกษียณอายุ ซึ่งที่ผ่านมาช่อง 3 ไม่เคยมีการให้พนักงานเกษียณอายุ ตามนโยบายของผู้บริหารยุคเดิม แต่ผู้บริหารยุคปัจจุบันเห็นว่าควรยกเลิกนโยบายนี้ พนักงานที่ถึงวัยเกษียณอายุก็ควรให้เกษียณอายุไป แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เข้าทำงานก่อนปี 2545 นับอายุเกษียณ 60 ปี ส่วนที่เข้าหลังปี 2545 นับอายุเกษียณ 55 ปี

ส่วนกลุ่ม ที่ 2. เป็นกลุ่มพนักงานที่ใช้วิธีการประเมิน พิจารณาจากผลการทำงานในช่วง 3ปี ที่ผ่านมา และ 3. กลุ่มพนักงานที่ให้ออกโดยสมัครใจ

“ในข้อตกลงการเลิกจ้าง กำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าชดเชยจำนวน 10 เดือน ตามกฎหมายแรงงาน บวกค่าตกใจและโบนัสพิเศษ คำนวณฐานจากอายุงาน คูณอัตรา 0.25%” แหล่งข่าวระบุ

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้จำนวนตัวเลขพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างเป็นการ เนื่องจากผู้บริหารฝ่ายบุคคลได้โทรเรียกพนักงานกลุ่มที่จะถูกเลิกจ้างเข้ามาตกลงเป็นรายคน

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท สำนักข่าว บีอีซี จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2538 ทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 3199 อาคารมาลีนนท์ ชั้น 10,11 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ผลิตรายการข่าว นายประชุม มาลีนนท์ นางสาวรัตนา มาลีนนท์ นางสาวอัมพร มาลีนนท์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9986%

นำส่งข้อมูลงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2560 แจ้งว่ามีรายได้รวม 281,855,259.14 บาท รวมรายจ่าย 185,859,437.99 บาท กำไรสุทธิ 74,392,556.78 บาท


https://www.isranews.org/isranews/7...y_x209IxMGxdaTqCVbtmtajRrmx_b4RWM6C39rMtMoa7A

 

สำนักข่าวอิศรา

"... ที่ผ่านมา นายชีคอะหมัด ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด เขาชี้ว่ามีกระบวนการทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการกล่าวหานี้ เนื่องด้วยตัวเขาเองมีประเด็นข้อพิพาทกับสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆของคูเวตที่เคยมีประวัติเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ..ผมมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของสวิสเซอร์แลนด์ และผมมั่นใจว่าชี้แจงความบริสุทธ์ของตัวเองที่หน้าบัลลังก์ศาลของสวิสเซอร์แลนด์ได้..."

 

อุณหภูมิโลก 4 ปีที่ผ่านมาร้อนสูงสุดทำลายสถิติ
29 พฤศจิกายน 2018
Image copyrightGETTY IMAGES
รายงานฉบับล่าสุดขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่าช่วงระหว่างปี 2015-2018 หรือตลอด 4 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยมีความร้อนแรงสูงสุดเท่าที่เคยปรากฏในบันทึกสถิติ และหากแนวโน้มของสภาพภูมิอากาศเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไป โลกจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส ภายในช่วงสิ้นศตวรรษนี้

แถลงการณ์ว่าด้วยสภาพภูมิอากาศโลกของ WMO ชี้ว่า ปีที่อุณหภูมิโลกพุ่งขึ้นสูงสุดติด 20 อันดับแรก ล้วนแต่อยู่ในช่วงเวลา 22 ปีที่ผ่านมา ส่วนปี 2018 นั้น อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยใน 10 เดือนแรกสูงกว่าระดับของยุคก่อนอุตสาหกรรม (1850-1900) อยู่เกือบ 1 องศาเซลเซียส ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 4 เท่าที่เคยมีการบันทึกมา

แม้ปี 2018 จะมีสภาพอากาศโดยทั่วไปเย็นลงกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากมีปรากฏการณ์ลานีญาที่อุณหภูมิผิวน้ำในมหาสมุทรลดต่ำลง แต่ผู้เชี่ยวชาญของ WMO บอกว่า ในช่วงต้นปี 2019 อาจเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญที่ไม่รุนแรงขึ้นได้อีก ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศของปีหน้าร้อนขึ้นกว่าในปีนี้

แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในระยะยาวชี้ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำทะเลมีสภาพเป็นกรด และธารน้ำแข็งทั่วโลกละลาย

Image copyrightGETTY IMAGES
คำบรรยายภาพคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมทั่วยุโรปเป็นเวลานาน ทำให้เกิดไฟป่าในสวีเดน
"เราไม่ได้เดินอยู่ในแนวทางที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามเป้าหมายเลย และไม่สามารถจำกัดควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิได้" นายเปตเตรี ตาลัส เลขาธิการของ WMO กล่าว "ตอนนี้ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกพุ่งสู่ระดับสูงสุดอีกครั้งแล้ว และถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2100"

รายงานของ WMO ยังเผยว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา (2009-2018) อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ยปีละ 0.93 องศาเซลเซียส แต่ในระหว่างปี 2014-2018 อุณหภูมิกลับเพิ่มขึ้นอีกโดยเฉลี่ยปีละ 1.04 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19


คำบรรยายภาพแผนภาพแสดงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของระดับอุณหภูมิ โดยเปรียบเทียบสถิติของปีนี้กับในระยะยาว ซึ่งชี้ว่าภูมิอากาศในแถบอาร์กติกกำลังร้อนขึ้น
ศ. ทิม ออสบอร์น จากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียของสหราชอาณาจักร หนึ่งในคณะผู้จัดทำรายงานของ WMO บอกว่า ตลอดปี 2018 มีเหตุวินาศภัยและเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสีย อันเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากมายนับไม่ถ้วนในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมฉับพลันในอินเดียและญี่ปุ่นที่คนหลายล้านต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย หรือคลื่นความร้อนในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงแม้แต่ในแถบสแกนดิเนเวียและในเขตวงกลมอาร์กติกที่เคยหนาวจัดมาก่อน

"ผลร้ายจากภาวะโลกร้อนกำลังแสดงตัวออกมาให้มนุษย์ได้เห็นและสัมผัสชัดเจนขึ้นทุกขณะแล้ว" ศ. ออสบอร์นกล่าว

https://www.bbc.com/thai/features-46389037

 

โลกจะเผชิญอุณหภูมิร้อนสุดขั้วตลอด 4 ปีข้างหน้า
15 สิงหาคม 2018

สภาพภูมิอากาศโลกมีแนวโน้มจะร้อนแรงขึ้นตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปีข้างหน้านี้ เนื่องจากวงจรสภาพอากาศตามธรรมชาติเข้าสู่ระยะที่ร้อนที่สุดช่วงหนึ่งในรอบไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เสริมให้ภาวะโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์มีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

การทำนายสภาพอากาศโลกดังกล่าว มาจากผลการศึกษาทางสถิติที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications ซึ่งระบุว่านับแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทั่วโลกมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับคลื่นความร้อนและภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นไปจนถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย

ดร. ฟลอเรียน ซีวีลเลก จากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้บอกว่า ในช่วงสิบกว่าปีแรกของต้นศตวรรษที่ 21 คือระหว่างปี 1998-2010 ภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการปล่อยคาร์บอนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของมนุษย์นั้นไม่ได้บรรเทาเบาบางลง แต่เราไม่รู้สึกถึงผลกระทบที่รุนแรงมากนัก เพราะได้รับความเย็นชดเชยจากวงจรสภาพอากาศตามธรรมชาติที่ยังคงเป็นปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) อยู่

อย่างไรก็ตาม โลกได้เข้าสู่วงจรสภาพอากาศช่วงใหม่ที่มีความร้อนระอุมากขึ้นในปีนี้ ทำให้ปี 2018 มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาวะโลกร้อนในระยะยาวถึง 2 เท่า และจะพุ่งขึ้นอีกเป็น 3 เท่าในปีหน้า

Image copyrightGETTY IMAGES
ภาวการณ์เช่นนี้จะทำให้กระแสน้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นเร็วกว่าอากาศบนภาคพื้นทวีปต่าง ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดพายุไต้ฝุ่นและไซโคลนที่รุนแรง รวมทั้งน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนการเกิดคลื่นความร้อน ไฟป่า และภัยแล้ง เช่นที่เกิดขึ้นกับซีกโลกเหนือในปีนี้นั้น เป็นไปได้ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่ไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดขึ้นในส่วนใดของโลก

"คนทั่วไปอาจยังไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากนัก แต่ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษานี้น่าตกใจอย่างมาก และชี้ให้เราเร่งย้ำเตือนให้ความรู้เรื่องภาวะโลกร้อนที่ถูกต้องกับผู้คน เพื่อให้พวกเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยด่วน" ดร.ซีวีลเลก กล่าว

https://www.bbc.com/thai/features-45192961

 

เจนจิรา จันทรเสนา

ปารีสวันนี้ บรรดาร้านค้า ธนาคาร ต่างๆ แถว Champs Élysées เตรียมการณ์ล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดจากการประท้วงเรียกร้องให้ ปธน.มาครง ลาออก เพื่อรับผิดชอบกับการขึ้นภาษีน้ำมันที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนชั้นรากหญ้าและประชาชนคนในชนบทของประเทศ

 

Jeerachart Jongsomchai


... “อดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช, บุชผู้พ่อกับการถูกเชื่อมโยงกับซีไอเอ ในคดีสังหาร เจเอฟเค”


... ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช ผู้พ่อ หรือ George Herbert Walker Bush เกิดเมื่อ 12 มิถุนายน 1924 และเสียชีวิตเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา รวมอายุ 94 ปี นั้น เป็นอดีตประธานาธิบดีที่มีบทบาทในการแปลงแปลงการเมืองอเมริกาและนโยบายต่างประเทศของอเมริกามากมาย โดยเฉพาะในช่วงสิ้นสุด “สงครามเย็น” รวมทั้งการไปแทรกแซงประเทศเพื่อนบ้านอย่างโหดเหี้ยมด้วย


... “ตระกูลบุช” ของเขานั้นถูกกล่าวถึงการเชื่อมโยงกับการช่วยเหลือพรรคนาซีชองฮิตเล่อร์ในการป่วนและทำลายอำนาจโลกเก่าของอังกฤษและฝรั่งเศส สมัยหนุ่มเขาเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเยล และในปี 1942 เขาได้เป็นนักบินของกองทัพเรือในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย หลังสงครามเขาเรียนต่อจนจบการศึกษาที่เยล และเป็นสมาชิกของสมาคม “กะโหลกและกระดูกไขว้” หรือ Skull and Bone ที่เดิมเป็นสมาคมของนักเรียนรุ่นอาวุโสของมหาวิทยาลัยเยล ที่ต่อมากลายเป็นสมาคมศิษย์เก่าที่มีอิทธิพลต่อกิจกรรมและนโยบาย รวมทั้งเหตุการณ์มากมายในอเมริกา เป็นสมาคมลับที่ดำเนินงานอยู่หลังฉาก โดยพ่อเขา Prescott Bush ที่เป็นทั้งนายธนาคารและนักการเมืองเองก็เป็นสมาชิกของสมาคมนี้ด้วยใน ปี 1917


... หลังจาก “สงครามโลกครั้งที่ 2 “ ในปี 1951 เขาได้เริ่มก่อตั้ง “บริษัทด้านน้ำมัน” จนร่ำรวย และสามารถมีเงินมาเล่นการเมืองในปี 1963 โดยเป็น สส.ของพรรครีพับรีกัน


... จากนั้นในปี 1976 – 1977 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการองค์กรที่อื้อฉาวมากในตอนนั้นอย่าง “ซีไอเอ” ที่ไปสอดแนมและแทรกแซงองค์กรอื่นอย่างผิดกฎหมายไปทั่ว จนเขาเล่าในหนังสือชีวประวัติในภายหลังว่า เขาคิดว่าถูกส่งไปดับอนาคตทางการเมืองที่นี่ และในช่วง “สงครามเย็น” นี่เองที่เขามีส่วนในนโยบายและปฏิบัติการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้คนมากมาย เช่น “ปฎิบัติการ Condor” ในลาตินอเมริกา


... "ปฎิบัติการ Condor คือบาดแผลเรื้อรังที่อเมริกาทำไว้กับคนอเมริกาใต้"


... สาเหตุที่ "โอบาม่า" มาเยือนที่อาร์เจนติน่าร์ แล้วโดนโห่ไล่ ประท้วงและเรียกร้องให้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ในอดีตสมัยที่ "อเมริกา" สนับสนุนและวางแผนออกแบบการรัฐประหารและหนุนรัฐบาลเผด็จการในช่วงปี 1976 - 1983 นั้น ก็เพราะว่าอาร์เจนติน่าร์ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เกิดการฆ่ากันเองมากมาย ในหลายประเทศของอเมริกาใต้


... เหตุการณ์ครั้งนั้น ในอาร์เจนติน่าร์ มีผู้เสียชีวิตมากมาย ที่บันทึกได้ประมาณ 9,000 คน และสูญหายอีกสองหมื่นกว่า ( คาดว่าจะเสียชีวิตทั้งหมด ) รวมทั้งหมดแล้ว ตายไป 30,000 คน ในช่วงเจ็ดปีที่เผด็จการครองเมืองโดยมีทุนนิยมสามานย์อเมริกาหนุน ในช่วง "สงครามเย็น" ที่อเมริกาจะต่อต้านและกำจัดพวกที่เห็นด้วยกับฝ่าย "คอมมิวนิสต์" และขจัดอิทธิพลของ "โซเวียตรัสเซีย" ออกไปให้หมดดินแดนนี้ ทั้งอาจารย์ นักศักษา นักบวช แม่ชี นักกิจกรรม ศิลปิน กรรมกร สหภาพแรงงาน ประชาชนทั่วไป ที่ออกมาต่อต้านล้วนต่างเสียชีวิตแบบโหดเหี้ยม


... ไม่ใช่แค่ใน อาร์เจนติน่าร์เท่านั้น ในประเทศอื่นก็โดนมากมายเช่นกัน เพราะปฎิบัติการ"Operation Condor" นั้นอเมริกาจัดการทั้งหมดทั่วทวีปอเมริกาใต้ เช่น Argentina, Chile, Uruguay, Paraguay, Bolivia and Brazil. เพื่อต้องการให้เป็นเขตปลอดคอมมิวนิสต์ มีการบันทึกว่า ในปารากวัย มีผู้เสียชีวิตและสูญหายประมาณ 2,000 คน, ในชีลี 3,196 คน , ในอุรุกวัย 297 คน, ในบราซิล 366 คน และอาร์เจนติน่าร์มากสุด ประมาณ 30,000 คน บางแหล่งก็บอกว่าโดยรวมทั้งทวีปมากกว่านั้นมาก อาจจะ ทั้งหมดประมาณ 60,000 คน


... ในปี 1981 – 1989 เขาเป็นรองประธานาธิบดีของอเมริกา และก้าวขึ้นเป็น ประธานาธิบดีอเมริกาในระหว่าง ปี 1989 – 1993 ต่อจากโรนัลด์ เรแกน แม้จะช่วงสั้นๆแค่สมัยเดียว แต่มีบทบาทสำคัญต่อการสิ้นสุดของสงครามเย็น ช่วงปี 1989 – 1991 เขาได้ประชุมสุดยอดทั้งเป็นทางการและไม่ออกสื่อกับอดีตผู้นำสูงสุดของ โซเวียตรัสเซีย ทั้งนายมิคาอิล กอร์บาชอพ และ นายบอริสต์ เยลซิน ในการพยายามยุติสงครามเย็นจนสำเร็จ


... และเมื่อสงครามเย็นสิ้นสุด โซเวียตรัสเซียแตกเป็นประเทศย่อย และ รัฐน้อยใหญ่ ทำให้อเมริกาต้องการเป็น “มหาอำนาจชายเดี่ยว” ของโลกในตอนที่รัสเซียกำลังอ่อนแอ จึงมีความพยายามเร่งการขยายอำนาจมาในดินแดนที่เคยเป็นอาณานิคมเดิมของรัสเซีย ซึ่งนโยบายเหล่านั้นมาจากสมัยของ จอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช แทบทั้งสิ้น เช่น การไปคบค้ากับ โปแลนด์ ประเทศแถบทะเลบอลติค เช่น เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิถัวเนีย หรือ ยูเครน เป็นต้น


... นอกจากนั้น ในวันที่ 2 สิงหาคม ปี 1991ที่”อิรัก” ของซัดดัม ฮุสเซน กำลังกล้ามใหญ่ประกาศศักดาในย่านดินแดนอาหรับ เข้าไปยึดครองดินแดนคูเวตโดยเฉพาะเมืองท่าปากทางออกทะเลเปอร์เซีย ทำให้ “ซาอุดิอาระเบีย” เรียกร้องไปขอกำลังทหาร “อเมริกา” ไปช่วยเกรงว่าอิรักจะเข้ามายึดบ่อน้ำมันของตน ที่มีผลประโยชน์ของบริษัทน้ำมันของอเมริกาอยู่ด้วย ทำให้ “จอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช” ได้ตัดสินใจทำ “สงครามอ่าว”กับซัดดัม แล้วตามด้วย “ปฏิบัติการพายุทะเลทราย” ในระหว่าง 2 สิงหาคม 1990 – 28 กุมภาพันธ์ 1991 ที่กินเวลาแค่ร้อยวัน แต่เป้าหมายของเขาไม่ได้แค่ต้องการให้อิรักถอนออกจากคูเวตเท่านั้น แต่บุชผู้พ่อมีนโยบายต้องการล้มอำนาจของซัดดัมด้วย จนนโยบายดังกล่าวได้สำเร็จในสมัยของลูกชาย จอร์จ บุชลูก ในปี 2003 โดยใส่ร้ายอิรักว่ามีอาวุธทำลายล้างสูง ทั้งๆที่ไม่มีแต่อย่างใด สงครามทั้งสองครั้งในอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย ยังไม่นับ อาคาร สมบัติทางโบราณคดีที่เสียหายมากมาย ทองคำอิรักก็หายสาปสูญแบบไร้ร่องรอยน้ำมันก็ถูกขโมยไปขายมากมาย


... เพราะว่าสมัย “สงครามเย็น” นั้น “อิรัก” ในสมัยซัดดัม เป็นพันธมิตร สหายกับ “โซเวียตรัสเซีย” มาโดยตลอด อเมริกาต้องการก่อตั้งสนับสนุนรัฐบาลอิรักที่นิยมอเมริกามาแทน เพื่อจะได้มาทำการค้าน้ำมันในอิรักได้ง่าย ( จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้สมหวังอย่างสมบูรณ์ )


... แต่มีเรื่องที่อื้อฉาวที่สุดเกี่ยวกับ “จอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช” ก็คือ เขาถูกเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคเนดี้ หรือ เจเอฟเค ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 โดยมีทฤษฎีมากมายที่พูดถึงเรื่องนี้ และส่วนใหญ่จะต้องมี ซีไอเอ เกี่ยวข้องด้วยเสมอ ที่เป็นองค์กรที่ เขา เคยทำงานและเป็นเจ้านายใหญ่และเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่า เจเอฟเคนั้น เคยจะตัดงบประมาณของ ซีไอเอ 20 เปอร์เซนท์ และมีหลายนโยบายที่ทั้ง เจเอฟเคกับอีกฝ่ายคือรองประธานาธิบดีนิกสันกับซีไอเอ เห็นไม่ตรงกัน เช่น ปฏิบัติการบุกคิวบาที่อ่าวหมูนั้น เจเอฟเคก็ไม่เห็นด้วย แต่รองนิกสันกับซีไอเอเห็นด้วย จนเกิดการบุกคิวบาแต่แพ้ราบคาบกลับมาในที่สุด


... โดยในวันที่ 4 มีนาคม ปี 1967 หนังสือพิมพ์ฝ่ายนิยมซ้ายของอิตาลีได้เปิดเผยข้อมูลลับจากการสืบสวนโดยอัยการ Jim Garrison ของ นิวออร์ลีนส์ ที่โยงนายClay Shaw, นักธุรกิจของ International Trade Mart โดยนาย ชอว์นั้น Jim Garrisonบอกว่าเชื่อมโยงกับการสังหาร เจเอฟเค โดยนายชอรว์นั้นเป็นกรรมการของ Permindex ที่มีบริษัทลูกคือ Centro Mondiale Commerciale หรือ CMC และองค์กร “ซีเอ็มซี” นี่เองที่การสืบสวนบอกว่าเป็นองค์กรหน้าฉากของ “ซีไอเอ” ในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวในอิตาลีและฝรั่งเศส ในกรณีของ”ฝรั่งเศส” นั้นมีการพยายามทำทุกอย่างเพื่อโค่นล้ม ประธานาธิบดีชารล์ส เดอโกลส์ ของฝรั่งเศส ที่พยายามจะสร้างยุโรปให้เป็นขั้วที่สามในช่วงสงครามเย็น ไม่เอียงเอนไปเข้ากับทั้งฝ่ายอเมริกาเลือกตั้งธิปไตยกับฝ่ายสังคมนินมโซเวียตรัสเซีย ที่ทำให้อเมริกาไม่พอใจมากที่มหาอำนาจเก่าไม่ยอมเข้าคอก


... เมื่อชอว์เกี่ยวข้องกับการสังหาร เจเอฟเค และเขาเป็นเครือข่ายของซีไอเอ ทำให้ Jim Garrisonเห็นความเชื่อมโยงของซีไอเอ ในการเกี่ยวข้องกับการสังหารเจเอฟเคด้วย


... ยิ่งกว่านั้น ในบันทึกของผู้อำนวยการ เอฟบีไอ นาย J Edgar Hoover มีการบันทึกเอาไว้เมื่อ 29 พฤศจิกายน 1963 ว่า มีการประชุมกันภายในระหว่างเจ้าหน้าที่เอฟบีไอและซีไอเอ ว่ามีการกล่าวถึงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของซีไอเอ ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารเจเอฟเค โดยตรง ที่ระบุชื่อหนึ่งคือนาย “จอร์จ เอช ดับเบิ้ลยู บุช” อย่างชัดเจน


... โดยหนึ่งในสาเหตุที่มีการเชื่อมโยงกับการสังหารเจเอฟเค ก็เพราะว่า เอฟบีไอ สมัยนั้นกำลังจะยึดทรัพย์ของ “ตระกูลบุช” ที่ค้นพบหลักฐานว่ามีการสนับสนุนพรรคนาซีชองฮิตเล่อร์ และกำลังจะทำการยึดทรัพย์สินของตระกูลนี้ จึงเป็นหนึ่งในสันนิษฐานว่าคนในตระกูลอาจจะสังหารเขาเพื่อยุติการถูกยึดทรัพย์ไป


.


.


.

... On March 1, 1967, businessman Clay Shaw, head of the International Trade Mart in New Orleans, was arrested and charged with conspiring to assassinate President John F. Kennedy by New Orleans District Attorney Jim Garrison.[6][7] Three days later on March 4, the Italian left-wing newspaper Paese Serapublished a story alleging that Shaw was linked to the CIA through his involvement in the Centro Mondiale Commerciale, a subsidiary of Permindex in which Shaw was a board member.[6] According to Paese Sera, the CMC had been a front organization developed by the CIA for transferring funds to Italy for "illegal political-espionage activities" and had attempted to depose French President Charles de Gaulle in the early 1960s.[6] On March 6, the newspaper printed other allegations about individuals it said were connected to Permindex, including Louis Bloomfield whom it described as "an American agent who now plays the role of a businessman from Canada [who] established secret ties in Rome with Deputies of the Christian Democrats and neo-Fascist parties."[8] The allegations were retold in various newspapers associated with the Communist parties in Italy (l'Unità), France (L'Humanité), and the Soviet Union (Pravda), as well as leftist papers in Canada and Greece, prior to reaching the American press eight weeks later.[6] American journalist Max Holland said that Paese Sera's allegations connecting Shaw to the CIA were what led to Garrison to implicate the CIA in a conspiracy to assassinate Kennedy.[6]


...

Behind the Bushes

+ The architects for the Bay of Pigs were Vice President Richard Nixon and CIA director Allen Dulles. JFK inherited the plan from the Eisenhower administration. Nixon lost the race for the presidency to JFK and Dulles was fired by JFK for the failure of the Bay of Pigs. Yet Dulles is appointed by president Johnson as a Warren Commission member to "investigate" JFK's murder. The proof for Bush's lie about his CIA past can be found in a document, declassified in 1988.

It's a memorandum of FBI director J Edgar Hoover to the State department, dated 29 November 1963. It describes a meeting, one day after JFK's murder, between FBI and CIA officials talking about the reaction of the Cuban exile community to the Kennedy Assassination. The last paragraph states that the "the substance of the foregoing information was orally furnished to us and George Bush of the Central Intelligence agency". Here we have the name of George Bush mentioned as a CIA official in direct connection to the Kennedy assassination. When asked by journalists, he initially stated "It's not me, must be another Bush!" This was checked and found to be NOT true. When asked again, a spokesperson for Bush declined to comment any further. The obvious question is: Why does Bush need to lie about it?


… Part three presents the Nazi-connections of the Bush family, which prompted the FBI to seize their assets during WW II, as Nazi assets. It presents the suppressed fact that Watergate burglar and CIA operative E. Howard Hunt was found by a jury to have been in Dallas and involved in the conspiracy to kill Kennedy. Hunt was a supervisor of the misguided CIA-led anti-Castro Cubans who broke into the Watergate. He is not only connected to Bush through Watergate; and through Bush's father, Prescott; but five days after the assassination, the head of the FBI, J. Edgar Hoover, wrote a memo, titled "Assassination of President John Fitzgerald Kennedy" in which he named "George Bush of the Central Intelligence Agency" as the supervisor of what Hoover himself called the "misguided anti-Castro Cuban" killers of the President. Bush has said he doesn't remember the events of that day, but FBI documents place him in Dallas.


.


.


. http://jfkmurdersolved.com/bush3.htm

https://en.wikipedia.org/wiki/George_H._W._Bush

https://www.kanopy.com/product/dark-legacy-george-bush-and-jfk-assassinat

https://en.wikipedia.org/wiki/Family_of_Secrets

https://en.wikipedia.org/wiki/Prescott_Bush

 

The MATTER


BRIEF: ป.ป.ช.ใช้ 6 ล้าน จัดงานวันต้านโกงสากล ภายใต้แนวคิด ‘คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต’ ตรงกันวันครบรอบ 1 ปี คดีนาฬิกายืมเพื่อน พอดิบพอดี

.

สัปดาห์ก่อน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ที่ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด ‘Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต’

.

สำหรับงานดังกล่าว ป.ป.ช.ใช้งบในการจัดทั้งสิ้น 5.78 ล้านบาท โดยการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานตาม TOR ว่าจ้างเอกชน ขณะที่ในวันงานจะต้องมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 3,000 คน ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ประชาสังคม กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนและสื่อมวลชน ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลเสียร้ายแรงที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

.

สิ่งที่น่าสนใจก็คือวันจัดงานที่ตรงกับวันครบรอบ 1 ปี คดีนาฬิกายืมเพื่อน กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่แจ้งการถือครองนาฬิกาหรู 22-25 เรือนไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช. ซึ่งคดียังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยขอให้สื่อมวลชน ‘ลดราวาศอก’ ในการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้

.

ทั้งนี้ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาไทยได้คะแนน ‘ดัชนีการรับรู้การทุจริต’ หรือ CPI (Corruption Perception Index) ราว 34-38% ไม่ว่าจะเต็มร้อยหรือเต็มสิบ โดยปีล่าสุด ได้คะแนน CPI อยู่ที่ 37 คะแนนเต็มร้อย อยู่ในลำดับที่ 96 จากทั้งหมด 180 ประเทศ

.

ขณะที่การจัดงานดังกล่าว ยังมีขึ้นในช่วงเวลาที่หลายๆ หน่วยงานกดดันให้ ป.ป.ช.ยกเลิกประกาศที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษา ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่พอดิบพอดี

.

.

อ้างอิงจาก


http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/17073


https://thematter.co/pulse/thai-corruption-2017-ncpo/46330


#Brief #TheMATTER

 

La nueva era de la tierra - respaldo


นี่คือทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียตอนนี้

03.11.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ภูเขาไฟอิตาลีในอิตาลีเข้าสู่การระเบิดของภูเขาไฟetna ในอิตาลี

2018/12/03

2018/12/03

 

La nueva era de la tierra - respaldo



พายุโหดใน indoensia ว้าวววว

03.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ว้าวหิมะจำนวนมหาศาลในไอซ์แลนด์

02.12.2018

 

Mundo Naturaleza Extremo


AWESOME] ความจริงทางประวัติศาสตร์เกิดอะไรขึ้น: อีกครั้ง #DESIERTO_DE_ARABIA ลุกลามไปในสีแดงเตือนไม่หยุดยั้งหรือ FALL #GRANIZO ❄❄

 

ข่าวต่างประเทศ


กาต้าร์ ประกาศถอนตัวจากโอเปคแล้ว เพื่อจะมุ่งหน้าพัฒนาก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มที่


1 มกราคมคือดีเดย์ และได้แจ้งให้โอเปคทราบเรื่องอย่างเป็นทางการแล้ว


การประกาศถอนตัวเกิดจากการโดนสมาชิกด้วยกันกล่าวหาว่ากาต้าร์สนับสนุนบางกลุ่มผู้ก่อการร้าย และ การมองไปในอนาคตว่า กลุ่มโอเปคอาจโดนแซงชั่นจากอเมริกา แม้แต่ซาอุดีอาระเบียก็เริ่มพิจารณาแล้วว่า ถ้าตนถอนตัวจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง


Wall Street Journal รายงาน

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 3) “กาตาร์” ประกาศถอนตัวจากโอเปก มีผล 1 ม.ค. ปีหน้า มุ่งพัฒนาก๊าซธรรมชาติเหลว : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซาอัด อัลคาบี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของกาตาร์เปิดเผนในวันนี้ระบุ “กาตาร์” จะถอนตัวออกจากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก และจะหันไปพัฒนาการผลิตก๊าซธรรมชาติอย่างเต็มที่


รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยังกล่าวว่า กาตาร์ยังคงจะเข้าร่วมประชุมโอเปกที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ โดยการออกจากกลุ่มโอเปกของกาตาร์นี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2562


กรุงโดฮาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายเล็กในกลุ่มโอเปก ที่กำลังถูกข้อพิพาททางการทูตกับซาอุดีอาระเบีย ในข้อหาสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ซึ่งรัฐมนตรีพลังงานระบุว่า การออกจากกลุ่มโอเปกครั้งนี้ไม่ได้มาจากเหตุผลทางด้านการเมือง


โดยกาตาร์เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่ของโลก โดยจะขยายกำลังผลิดที่ปัจจุบันอยู่ที่ 77 ล้านตันต่อปี ไปอยู่ที่ระดับ 110 ล้านตัน ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า


ทั้งนี้ “กาตาร์” ได้เข้ามาเป็นสมาชิกกับองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ตั้งแต่ปีค.ศ.1961 (พ.ศ.2504) ภายหลังแค่ 1 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มโอเปก


Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


- Qatar to Leave OPEC as Politics Finally Rupture Oil Cartel

https://www.bloomberg.com/news/arti...pec-exit-days-before-pivotal-oil-cuts-meeting


- กาตาร์ยันการตัดสินใจถอนตัวจากโอเปกไม่เกี่ยวซาอุฯคว่ำบาตรเศรษฐกิจ: https://www.ryt9.com/s/iq30/2923932

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 3) ขุนคลังสหรัฐเผยทรัมป์พอใจสุนทรพจน์พาวเวลส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย: นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์รู้สึกยินดีที่ได้ฟังสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว


"ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดีมีความพอใจต่อสุนทรพจน์ในสัปดาห์ที่แล้ว และผมจะยังคงให้คำแนะนำที่ดีที่สุดต่อท่านประธานาธิบดี" นายมนูชินกล่าว


ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายใต้การนำของนายพาวเวล และโทษนายพาวเวลว่าเป็นต้นเหตุทำให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง รวมทั้งทำให้บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ตัดสินใจปิดโรงงานหลายแห่งในสหรัฐ


ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


"อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบตามมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยจากระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก


การแสดงความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของนายพาวเวล สอดคล้องกับนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ซึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่เฟดเริ่มต้นวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558


นอกจากนี้ คำกล่าวของนายพาวเวลในสัปดาห์ที่แล้วยังแตกต่างจากในเดือนต.ค. ซึ่งเขาระบุว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง โดยคำกล่าวของเขาส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า คำกล่าวของนายพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


เพิ่มเติม

- Mnuchin says Trump 'liked' Fed chief Powell's speech that : https://www.cnbc.com/2018/12/03/mnuchin-says-trump-liked-powells-speech-that-boosted-markets.html


- Mnuchin on trade policy as an economic driver and the job Fed's Powell..: https://www.cnbc.com/video/2018/12/03/mnuchin-says-fed-chair-powell-has-a-difficult-job.html


- Fed Chairman Powell's testimony to Congress postponed: https://www.reuters.com/article/us-...mony-to-congress-postponed-idUSKBN1O21S8?il=0


- Mnuchin Says He's Hopeful of China Policy Change in 90-Day Truce: https://www.bloomberg.com/news/arti...ge-policies-in-90-day-truce?srnd=premium-asia