ติดตามสถานะการณ์

เก็บตกตะวันออกกลาง

หน่วยคอมมานโดอิสราเอลซ้อมรบ10 วัน เตรียมรับมือฮามาสและฮิซบุลลอฮ์...

ระบอบยิวไซออนิสต์เปิดตัวการซ้อมรบทางทหาร 10 วันเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นกับกาซาหรือเลบานอน

สถานีโทรทัศนของยิวไซออนิสม์ได้แพร่ภาพออกอากาศส่วนหนึ่งของการซ้อมรบทางทหารของระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ซึ่งกำลังเตรียมสำหรับการทำสงครามกับทั้งสองแนวรบของฉนวนกาซาและเลบานอน

สำนักข่าว มาอัน กล่าวว่าการฝึกทางทหารเหล่านี้ใช้ระยะเวลา 10 วันรวมถึงการออกฝึกซ้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆรวมทั้งสงครามในฉนวนกาซาและเลบานอน

รายงานในช่วงท้ายระบุว่าวัตถุประสงค์ของการฝึกคือการเตรียมหน่วยคอมมานโดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น
#เก็บตกตะวันออกกลาง!
#ฮามาส #ฮิซบุลลอฮ์
#อิสราเอล

 

SpringNews

"สาเหตุที่ตนและบอร์ดลาออก เป็นเพราะ ป.ป.ช.กำหนดให้ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า อาจทำให้มิจฉาชีพ หรือผู้ไม่หวังดี มีช่องทางเข้ามาทำร้าย หรือหาประโยชน์ได้"
.
"ขอยืนยันว่า พวกตนไม่ได้กลัวการตรวจสอบ แต่ไม่อยากวุ่นวาย หากหลงลืมผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ รวมถึงบอร์ด สมศ.เองหมดวาระไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา" รศ.ณมน จีรังสุวรรณ ผอ.สมศ.

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.springnews.co.th/politics/390863

 

ชงเองเบิกเอง-ไม่สนโดนท้วง! ละเอียดคำพิพากษาคุก 70 ปี ผอ.ร.ร.โกงค่าอาหารกลางวันเด็ก เขียนวันที่ วันพุธ ที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 12:42 น.
เขียนโดย isranews

“…จำเลยในฐานะผู้บังคับบัญชามีหน้าที่อนุมัติเบิกจ่ายเงินและควบคุมกำกับให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ จากนั้นจำเลยทำสัญญายืมเงินไปจำนวน 24 สัญญา โดยไม่เสนอโครงการและวัตถุประสงค์ และเป็นการอนุมัติให้ตนเองยืมไปใช้เกินความจำเป็น และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ในทางราชการ เพราะว่าโครงการอาหารกลางวันมีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่มีเหตุที่จำเลยต้องยืมเงินประเภทโครงการอาหารกลางวัน และอนุมัติให้ตนเองยืมเงินในโครงการดังกล่าวอีก และไม่ปรากฏว่า นำเงินไปใช้ในโครงการอาหารกลางวัน…”



จำเลยใช้โอกาสที่ตนมีหน้าที่ดังกล่าวทำบันทึกขอยืมเงินประเภทเงินอุดหนุนอื่น และประเภทเงินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านมะรือโบตกโดยไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการยืมเงินว่าจะนำไปใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมใดของโรงเรียน ขัดต่อระเบียบทางราชการ จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบอนุมัติให้ตนเองยืมเงินดังกล่าว เมื่อจำเลยได้รับเงินที่ยืมไปแล้วได้เบียดบังเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายในโครงการหรือแผนงานใดของโรงเรียน ทั้งยังไม่ส่งใช้เงินยืมรายเก่าตามกำหนดเวลา พิพากษาจำคุก 70 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 35 ปี

จำเลยขอให้รอการลงโทษโดยอ้างว่าได้นำเงินที่ยืมไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนบ้านมะรือโบตกหลายกิจกรรมและบางส่วนนำไปใช้ปรับปรุงห้องพักครูเป็นประโยชน์แก่ราชการ รวมทั้งจำเลยได้จ่ายเงินคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยแล้วนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานการใช้เงินยืมว่าจำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งหากจำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมดังกล่าวจริง จำเลยย่อมสามารถแสดงหลักฐานการใช้เงินยืมดังกล่าวได้โดยไม่ยาก การกระทำของจำเลยกระทบต่อระเบียบแบบแผนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอันเป็นการกระทำที่ร้ายแรง แม้จำเลยจะชดใช้คืนเงินยืมพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นภายหลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

เป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษนายเฉลิม พละสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ในคดีทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันเด็ก (อ่านประกอบ : คุก 70 ปี! อดีต ผอ.ร.ร.มะรือโบตก จ.นราธิวาส ทุจริตค่าอาหารกลางวันเด็ก)

เพื่อให้ทราบที่มาที่ไปมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปรายละเอียดตามคำพิพากษาฉบับเต็มคดีดังกล่าว ดังนี้

@ชงเอง-อนุมัติเอง ยืมเงิน 24 สัญญา 8.4 แสน โดนท้วงแต่ไม่สน

ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวน ประกอบคำรับสารภาพของจำเลย รับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อประมาณต้นปี 2552 ผอ.ตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 3 ได้รับมอบหมายจาก ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ให้ตรวจเงินคงเหลือประจำวันของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก ตารายงานเงินคงเหลือประจำเดือนวันที่ 31 มี.ค. 2552 และวันที่ 30 เม.ย. 2552 พบว่า มีการใช้จ่ายเงินผิดปกติ

จำเลยทำบันทึกขอยืมเงิน 24 สัญญา เป็นเงินประเภทอุดหนุน 12 สัญญา ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. 2550-18 ก.พ. 2552 และประเภทโครงการอาหารกลางวัน 12 สัญญา ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2550-28 เม.ย. 2551 รวมทั้งหมด 840,261 บาท ในการยืมเงินดังกล่าวต้องมีแผนงานประจำปีรองรับ โดยให้บุคลากรที่รับผิดชอบเป็นผู้เสนอโครงการผ่านคณะกรรมการการศึกษาของโรงเรียนเพื่ออนุมัติ เมื่อคณะกรรมการอนุมัติแล้วเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติเพื่อพิจารณาอนุมัติ และดำเนินการใช้เงินตามโครงการต่อไป

แต่จำเลยกลับยืมเงินทั้ง 2 ประเภทเองทั้งหมด แต่ไม่มีเอกสารประกอบการยืม เช่น รายละเอียดของโรงการต้นเรื่อง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่การเงินของโรงเรียนทักท้วงแล้วว่า ไม่สามารถยืมเงินดังกล่าวได้ แต่จำเลยยังอนุมัติให้ตนเองยืมเงิน และอนุมัติให้ตนเองทำสัญญายืมเงินและรับเงินยืมไป หลังจากที่จำเลยยืมเงินไปตามสัญญาฉบับแรกแล้ว การยืมครั้งต่อไปจำเลยเป็นผู้ทำบันทึกขอยืมและอนุมัติเอง โดยยังไม่ได้ใช้หนี้เงินตามสัญญาฉบับก่อน ทั้งที่เจ้าหน้าที่การเงินได้ทักท้วงว่าไม่สามารถดำเนินการได้เพราะขัดระเบียบการเบิกเงินจากคลัง พ.ศ.2520 และระเบียบการเบิกเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2551

@ตรวจสอบเจอแต่เพิกเฉย คืนตอนโดนตั้ง กก.สอบวินัยแล้ว

เมื่อตรวจพบ ผอ.ตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 3 ดำเนินการให้จำเลยส่งใช้เงินคืนเพื่อล้างหนี้ตามระเบียบ แต่จำเลยเพิกเฉย จนกระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยแก่จำเลย จำเลยจึงนำเงินทั้งหมดที่ยืมไปมาส่งใช้คืนพร้อมดอกเบี้ย

เห็นว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยรับราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.โรงเรียน ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษาที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาของรัฐ จำเลยจึงต้องบริหารจัดการโรงเรียนด้านต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ รวมทั้งด้านงบประมาณ

การที่จำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งทีมบริหารโรงเรียน มอบหมายให้ครูและบุคลากรของโรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านต่าง ๆ การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนจึงควรให้ผู้รับผิดชอบตามคำสั่งโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการเสนอโครงการที่สอดคล้องกับแผนประจำปี แล้วเสนอเรื่องให้คณะกรรมการโรงเรียนพิจารณาอนุมัติ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้วผู้รับผิดชอบโครงการทำบันทึกขอยืมเงินเสนอเรื่องให้จำเลยในฐานะหัวหน้าส่วนราชการพิจารณาอนุมัติและทำสัญญายืมเงินไปใช้ตามโครงการ และผู้ยืมจะต้องส่งหลักฐานการจ่ายและเงินทีเหลือจ่ายที่ยืมไป (ถ้ามี)

การที่จำเลยทำบันทึกขอยืมเงินประเภทอุดหนุนอื่น และประเภทโครงการอาหารกลางวัน ทั้ง ๆ ที่มีครู และบุคลากรรับผิดชอบตามโครงการดังกล่าวอยู่แล้ว นอกจากนี้จำเลยไม่ได้เสนอโครงการและวัตถุประสงค์ของการยืมเงินว่าจะนำไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนให้คณะกรรมการโรงเรียนพิจารณาอนุมัติก่อน แต่จำเลยกลับอาศัยอำนาจในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนงานราชการอนุมัติให้ตนเองยืมเงิน ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่การเงินทักท้วงว่า ไม่สามารถยืมเงินดังกล่าวได้ เพราะไม่ระบุวัตถุประสงค์ของการยืมและควรให้ผู้รับผิดชอบโครงการตามแผนเป็นผู้ขอยืมเงินไปใช้จ่าย

@ยืมเงินไปใช้เกินความจำเป็นเข้าตัวเอง ไม่ใช่ประโยชน์ทางราชการ

จำเลยในฐานะผู้บังคับบัญชามีหน้าที่อนุมัติเบิกจ่ายเงินและควบคุมกำกับให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์และถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ จากนั้นจำเลยทำสัญญายืมเงินไปจำนวน 24 สัญญา โดยไม่เสนอโครงการและวัตถุประสงค์ และเป็นการอนุมัติให้ตนเองยืมไปใช้เกินความจำเป็น และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ในทางราชการ เพราะว่าโครงการอาหารกลางวันมีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่มีเหตุที่จำเลยต้องยืมเงินประเภทโครงการอาหารกลางวัน และอนุมัติให้ตนเองยืมเงินในโครงการดังกล่าวอีก และไม่ปรากฏว่า นำเงินไปใช้ในโครงการอาหารกลางวัน หลังจากนั้นได้ยืมเงินโดยไม่เสนอโครงการและวัตถุประสงค์ของการยืมอีกหลายครั้ง และไม่คืนเงินยืมรายเก่าให้เสร็จสิ้นไปก่อน

การกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุม กำกับ การใช้จ่ายงบประมาณโรงเรียนบ้านมะรือโบตก ที่จำเลยเป็นหัวหน้าส่วนราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียน

จำเลยจึงมีควาผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังจากจำเลยรับเงินยืมไปแล้วได้เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตนเองในขณะที่จำเลยมีหน้าที่จัดการ และรักษาเงินงบประมาณของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก จึงเข้าลักษณะเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์และเบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนโดยทุจริตอีกฐานหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งการกระทำของจำเลยในแต่ละวันดังกล่าวข้างต้น มีเจตนาเพื่อเบียดบังเอาเงินไปเท่านั้น และเป็นการกระทำต่างกรรมการต่างวาระกัน 14 กระทง เมื่อการกระทำของจำเลยมีความผิดตามมมาตรา 147 ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก

@คุกกระทงละ 5 ปี รวม 70 ปี-สารภาพลดโทษเหลือ 35 ปี ไม่รอลงอาญา

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 70 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 35 ปี

ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษโดยอ้างว่า ได้นำเงินที่ยืมไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนบ้านมะรือโบตกหลายกิจกรรม และนำเงินบางส่วนนำไปใช้ปรับปรุงห้องพักครูเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ รวมทั้งจำเลยได้จ่ายเงินยืมคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยแล้วนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานการใช้เงินยืมว่า จำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง

หากจำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมดังกล่าวจริง จำเลยย่อมสามารถแสดงหลักฐานการใช้เงินยืมดังกล่าวได้โดยไม่ยาก การกระทำของจำเลยกระทบต่อระเบียบแบบแผนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอันเป็นการกระทำที่ร้ายแรง แม้จำเลยจะชดใช้คืนเงินยืมพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นภายหลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และเป็นเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก


https://www.isranews.org/isranews/7...UvA55Dsr-Weh6kAp_0ABrpPBmMZfC5w_wsx9M0A_gLJ_c

 

สำนักข่าวอิศรา

พลิกประวัติ ‘พล.อ.ยุวนัฏ’ เพื่อน ตท.12 ร่วมรุ่น ‘บิ๊กตู่’ อดีตหน้าห้อง ผบ.ทบ. ขุมข่ายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 6 แห่ง-เฟอร์นิเจอร์ 2 แห่ง-เช่าและบริการ 2 แห่งรวมกว่า 195 ล้าน ปี’54 ลงทุนในมูลนิธิส่งเสริมสวัสดิการสังคมไท 100 ล้าน ก่อนไขก๊อก สนช.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม :https://www.isranews.org/isranews/71510-isranews11-71510.html

 

เหตุปะทะเทพา ที่แท้ผู้ต้องสงสัยยิงเปิดทางแหกด่าน ทำ อส.เจ็บ 2
เขียนวันที่ วันอังคาร ที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เวลา 11:48 น. เขียนโดย ศูนย์ข่าวภาคใต้

ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.61 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ โดย 1 ในนั้นเป็นเหตุต่อเนื่องจากกรณีคนร้ายบุกยิงเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยตลาดนัด เสียชีวิต 3 ราย ที่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า



เหตุคนร้ายแฝงตัวแต่งกายเป็นผู้หญิง ทำทีเป็นคู่รักสามีภรรยาขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจ่ายกับข้าวด้วยกันที่ตลาดนัดท่าหยี ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา แล้วใช้อาวุธปืนสงครามที่เตรียมมายิงถล่มเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน หรือ อส. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ เสียชีวิต 3 คนคาซุ้มไม้ไผ่ ขณะนั่งรักษาความปลอดภัยตลาดนัดอยู่นั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.61 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ระดมกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นที่ ต.ลำไพล อ.เทพา เพื่อหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุ

จากปฏิบัติการกดดันอย่างหนัก ปรากฏว่าช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ 26 พ.ย. มีผู้ต้องสงสัย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์แหกด่านตรวจในพื้นที่บ้านทุ่งโดน ต.ท่าม่วง อ.เทพา (ตำบลเดียวกับที่เกิดเหตุยิง 3 ศพและปิดล้อมตรวจค้นไล่ล่าคนร้าย) เจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้อาวุธปืนยิงสกัด แต่ผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กลับมา กระสุนถูก อส.ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อส.โกสินทร์ แก้วมณี และ อส.มานิตย์ ดำดี เพื่อน อส.ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเทพา ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิง 3 ศพที่ตลาดนัดท่าหยี

ส่วนที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายซุกระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ไว้ในกรวยยางสีส้มของเจ้าหน้าที่ที่ใช้วางบนถนนเพื่อจัดระเบียบการจราจร จากนั้นใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดช่วงที่ทหารพรานเดินลาดตระเวนผ่าน ทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อารง ยูโซะ อายุ 37 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4707 ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด

---------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : สภาพความเสียหายหลังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา


https://www.isranews.org/south-news...s3SobNnRJDMfGj-m8KZpn3llWjJLLUrxiZhrq0hu9IEMY

 

China Report ASEAN - Thailand

ความสัมพันธ์จีน-สเปน : แน่นแฟ้นที่สุด ดีที่สุดในประวัติศาสตร์

วานนี้ (อังคารที่ 27 พ.ย.) นายสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางเยือนสเปนอย่างเป็นทางการ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนสเปน และยังเป็นวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสเปนอีกด้วย

ในการเยือนสเปนครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน พระองค์ตรัสกับนายสี จิ้นผิงว่า “สเปนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีนและสเปน สเปนต้องการที่จะยกระดับความร่วมมือในหลายๆด้านกับจีน และสเปนจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ยุโรป-จีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น”

ขณะที่ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า “จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระว่างจีนและสเปนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จีนยินดีที่จะสนับสนุนสเปนในด้านต่างๆที่อยู่ในความสนใจร่วมกันและเกิดผลประโยชน์ร่วมกัน”

ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิงจะอยู่ที่สเปนเป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะเดินทางเยือนอาร์เจนตินา ปานามา และโปรตุเกส เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันเก่าแก่และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างจีนและประเทศในยุโรปต่อไป.

 

'ฤาษี'สิ้นฤทธิ์!ศาลสั่งจำคุก5ปีคดีข่มขืนสาว17 สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง วันพุธ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 13.25 น.

ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ตัดสินคดีปู่ฤาษีตาไฟ ข่มขืนสาวอายุ 17 ปี ลงโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 60,000 บาท ให้การรับสารภาพในชั้นศาลลดกึ่ง จำเลยจ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหาย 150,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 3 ปี

28 พ.ย.61 กรณีนายแก้ว (นามสมมติ) อายุ 47 ปี และนางสวยผู้เป็นภรรยา ได้พา น.ส.บี (นามสมติ) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท. หญิง ศิรินทรา บุญธรรม รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าน.ส.บี ถูกนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ คนพิการแขนขาอ่อนแรงลุกยืนเดินไม่ได้ อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นร่างทรงที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ข่มขืนกระทำชำเราภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง บนถนนสายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.61



ต่อมาวันที่ 31 ส.ค. 61 นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ได้เข้าพบ พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุรสิทธิ์ว่า พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น

โดยนายสุรสิทธิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งตัวนายสุรสิทธิ์ ฝากขังต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ ในวันเดียวกันญาติยื่นขอประกันตัวศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 200,000 บาท พงส. ได้สอบปากคำพยานจนครบถ้วนแล้วสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ กระทั่งพนักงานอัยการส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 61



ล่าสุด เมื่อเวลา 15.56 น. วันที่ 23 พ.ย. 61 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้ ว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง จึงตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี ปรับ 60,000 บาท ซึ่งการไต่สวนในชั้นศาลจำเลยให้การรับสารภาพ และจำเลยยอมจ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหายเป็นเงิน 150,000 บาท จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6เดือน ปรับ 30,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 3 ปี โดยให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง มีบางข้อหาที่สามารถยอมความได้ ผู้เสียหายได้ถอนคำร้องแล้ว


https://www.naewna.com/local/379687...RHd6LKK15QysO-z0PZAnKFL6HGWL3yh53XFr-vPqKfhGo

 

Pariwat Chanthorn ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 6 ภาพลงในอัลบั้ม: เกาชาง อาณาจักรพุทธโบราณบนสายแพรไหม













เกาชางกู่เฉิง 高昌古城 Gaochang Ruin Sites เป็นซากปรักเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีน มีอาณาบริเวณกว้างขวางถึง ๒๐ ตร.กม. ที่ได้รับการรักษาไว้ได้

พุทธอาณาจักรเกาชางสันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นหลังจากเมืองโบราณเจียวเหอประมาณ ๑๐๐ ปี คือในราวศตวรรษที่ ๑ ก่อนปีคริสตกาล ตั้งอยู่ในเขตเมืองถูหลู่ฟาน หรือ ทูร์พาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเขตซินเจียงในปัจจุบัน

(๑.)

ในหนังสือประวัติศาสตร์ดินแดนตะวันตกในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก บันทึกไว้ว่า

“ดินแดนเกาชางนี้ มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มวลประชาต่างสมบูรณ์พูนสุข”

ต่อมา ในสมัยราชวงศ์ถังได้ใช้เป็นหัวเมืองสำคัญทางตะวันตก มีเจ้าผู้ครองเมืองหรือกษัตริย์ปกครองเรียกว่า “เกาชางหวางกว๋อ” 高昌王国

กษัตริย์แห่งเมืองเกาชางที่มีชื่อเสียงที่สุด ผู้ทรงดำรงตนอยู่ในพุทธมามกะน่ายกย่องคือ กษัตริย์ชวีเหวินไท่ 麹文泰 ในสมัยของพระองค์เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับพระถังซำจั๋งออกธรรมจาริกสู่ดินแดนตะวันตก (ประเทศอินเดีย) ในปีค.ศ.๖๓๐

เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าวจากเมืองอีอู่ (ฮามี่) ว่าพระถังซำจั๋งจากนครฉางอานได้จาริกมาถึง ก็ทรงออกมาต้อนรับพระถังซำจั๋งด้วยพระองค์เอง ทรงเลื่อมใสศรัทธาพระถังซำจั๋งยิ่ง และไม่อยากให้ท่านเดินทางจากไป ปรารถนาให้ท่านอยู่ที่เมืองเกาชางเทศน์สั่งสอนพระองค์ พระญาติวงศ์ ขุนนาง และประชาชน ๓ ปี เพราะในเวลานั้นเมืองเกาชาง ยังขาดพระอาจารย์ผู้รู้ผู้สอนในพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง

กษัตริย์ชวีเหวินไท่ทรงใส่ใจดูแลท่านเป็นอย่างพิเศษ ทำให้พระถังซำจั๋งรู้สึกเกรงใจพระองค์เป็นยิ่งนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่งในปณิธานของท่าน จึงได้ตั้งปฏิญาณว่า จะไม่ขอฉันอาหาร เพื่อให้กษัตริย์กลับพระทัย แล้วจึงนั่งสงบไม่ฉันน้ำและอาหารอยู่ ๓ วัน

(๒.)

กษัตริย์ชวีเหวินไท่ทรงรู้สึกไม่สบายพระทัยยิ่งนัก จึงเลิกล้มความตั้งใจ กราบขอขมาท่าน และยอมให้เดินทางต่อไปตามเจตจำนง แต่ขอให้ท่านฉันน้ำและอาหารก่อน โดยในขากลับพระองค์ขอให้ท่านมาพำนักอยู่ที่เมืองเกาชางนี้ ๓ ปี โดยในระหว่างนี้ขอให้พักอาศัยอยู่หนึ่งเดือนก่อน เพื่อแสดงธรรม

ท่านรับคำตามที่พระองค์ทรงขอ จากนั้นกษัตริย์ชวีเหวินไท่จึงได้ทรงสร้างโรงธรรมเพื่อให้ท่านเทศน์สั่งสอนพระมารดา พระองค์ พระราชวงศ์ ขุนนาง และประชาชนก่อน ๑ เดือน กล่าวกันว่า พระองค์ทรงกราบพระถังซำจั๋งลงกับพื้น และใช้พระวรกายของพระองค์น้อมลงเพื่อให้พระถังซำจั๋งเหยียบก้าวขึ้นเทศน์บนโรงธรรมอยู่เป็นนิตย์ รูปรอยของโรงธรรมนี้ ปัจจุบันยังปรากฏอยู่ใจกลางวัดพระใหญ่

และก่อนที่ท่านจะจากเมืองเกาชางไป พระองค์ได้ทรงบรรพชาสามเณร ๔ รูป เพื่อให้คอยติดตามรับใช้ท่าน จัดเสบียงเงินตรา ผ้าสบง จีวรของใช้จำเป็น พร้อมทั้งม้าและคนรับใช้ ให้ท่านเดินทางสู่อินเดียได้โดยสะดวก พร้อมทั้งมีพระราชสาส์นไปยังแว่นแคว้นต่าง ๆ ให้เปิดทางให้พระถังซำจั๋งเดินทางสู่อินเดียได้โดยสะดวก

นับว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่ ทรงมีคุณูปการอันเอกอุต่อการธรรมจาริกสู่ดินแดนตะวันตกของพระถังซำจั๋งโดยแท้จริง และหากไม่มีพระองค์ ความเพียรและความมุ่งมั่นของพระถังซำจั๋ง อาจไม่เป็นจริงดังเช่นบนหน้าประวัติศาสตร์ก็เป็นได้


(๓.)

ทว่าต่อมาเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ลง พระอนุชาได้ขึ้นปกครอง เปลี่ยนวิเทโศบาย ไม่สวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ถัง เรียกเก็บภาษีการค้าบนเส้นทางสายแพรไหมอย่างสูงลิ่ว ทำให้เหล่าพ่อค้าวาณิชที่มาทำการค้าถูกขูดรีดภาษี่จนเดือดร้อนไปทั่ว จึงนำข่าวไปแจ้งต่อราชสำนักถัง

จักรพรรดิถังไท่จงจึงทรงบัญชาให้กองทหารหัวเมืองทางตะวันตกยกทัพไปปราบหัวเมืองเกาชางเสีย ในปีค.ศ.๖๔๐ จากนั้น เกาชางจึงมีฐานะเป็นเพียงอำเภอ ขึ้นอยู่กับเขตการปกครองอานซี

ดังนั้น ในเที่ยวกลับจากอินเดีย ในขณะที่พระถังซำจั๋งพำนักอยู่ที่เมืองเหอเถียน ก็ได้ทราบว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่สิ้นพระชนม์ และเมืองเกาชางได้ตกเป็นดินแดนของราชวงศ์ถังเสียแล้ว ท่านจึงได้ส่งสมณสาส์นไปกราบบังคมทูลจักรพรรดิถังไท่จงให้ทรงทราบถึงการเดินทางกลับมาจากอินเดียของท่าน หลังจากได้รับพระราชสาส์นจากจักรพรรดิถังไท่จง ท่านจึงเดินทางพร้อมคณะที่มาต้อนรับออกจากเมืองเหอเถียน กลับผ่านเมืองรว่อเชียง และเมืองตุนหวง กลับคืนสู่นครฉางอาน โดยไม่ได้แวะที่เมืองเกาชาง

(๔.)

และนับจากคริสต์ศตวรรษที่ ๙ เป็นต้นมา ชาวหุยหูได้อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองเกาชางแห่งนี้ และสถาปนาอาณาจักรหุยหูเกาชางหวางกว๋อขึ้น และดำรงคงอยู่จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ เมืองเกาชางจึงถูกสงครามทำลายลงอย่างสิ้นเชิง (ในระยะเวลาใกล้เคียงกับเมืองโบราณเจียวเหอ)


เมืองโบราณเกาชางในทุกวันนี้ มีอาณาบริเวณกว้างขวางถึง ๒๐ ตร.กม. นับเป็นซากปรักเมืองโบราณที่ใหญ่ที่สุดของจีน

มีบันทึกพรรณนาไว้ว่า "ภายในตัวเมืองเคยมีประชากรอยู่อาศัยถึง ๓ หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นพระภิกษุถึง ๓,๐๐๐ รูป มีการแบ่งเมืองเป็นสามเขตคือ เขตราชสำนัก เขตวัด และเขตบ้านเรือนอยู่อาศัย"

หมุดหมายสำคัญอันดับหนึ่งของเกาชางคือ วัดต้าฝอซื่อหรือวัดพระใหญ่ ซึ่งอยู่ภายในรอบรั้วกำแพงพระราชวังอันยิ่งใหญ่ ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางถึง ๓๐,๐๐๐ ตร.ม.

ภายในยังเห็นโรงธรรมของพระถังซำจั๋ง ร่องรอยซากพระวิหาร พระเจดีย์ผนังอิฐสูงราว ๘ เมตร มีช่องประดิษฐานพระพุทธรูป แม้ทุกวันนี้จะไม่มีพระพุทธรูปคงเหลือปรากฎอยู่ แต่ในบางช่อง ยังเห็นเค้าลางของภาพเขียนสีพระรัศมีของพระพุทธรูปปรากฎอยู่ เป็นหลักฐานให้เห็นความเป็นพุทธอาณาจักรโบราณบนเส้นทางสายแพรไหมได้เป็นอย่างดี...

 

จีนขอคงสถานะ“ชาติกำลังพัฒนา”ในดับเบิลยูทีโอ 26 พฤศจิกายน 2561


นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐ ยังส่งสัญญาณในช่วงก่อนหน้านี้ว่า กำลังหาทางใช้มาตรการต่างๆเพื่อขับจีนออกจากการเป็นสมาชิกดับเบิลยูทีโอ โดยให้เหตุผลว่า จีนไม่ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของการเป็นสมาชิก

นายหวัง จูเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า จีน จะให้ความร่วมมือในการปฏิรูปองค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ) ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจีนยังคงมีสถานะประเทศสมาชิกที่ยังอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในดับเบิลยูทีโอต่อไป

อย่างไรก็ตาม ชาติตะวันตกไม่พอใจนักที่จีน ซึ่งปัจจุบัน มีฐานะทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐ แต่จีนยืนยันมาตลอดว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่ต้องการการปกป้องทางการค้าเป็นพิเศษ รวมทั้งได้รับการผ่อนปรนในการปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆมากกว่าประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สามารถชะลอการใช้กฎใหม่ๆ และใช้ภาษีนำเข้าในระดับที่สูงกว่าได้


http://www.bangkokbiznews.com/news/...40uJazPt_dtH0rbqXbn86iCZ5bguwZO2R6oBPu0qpVGAc

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events

สาร์นสวรรค์ถึงบรรดาผู้นำและคำเรียกร้องจากปูตินถึงโกลบอลลิสต์เพื่อหยุดกิจกรรมเลวร้ายก่อนโลกถึงจุดจบ!

ปูตินกล่าวว่าเขา "พร้อมและพร้อมที่จะยิงอาวุธนิวเคลียร์ถ้ารัสเซียกำลังถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธที่เข้ามา"

วลาดิเมียร์ปูตินเผยว่าเขาจะยิงอาวุธนิวเคลียร์ และจะก่อให้เกิดภัยพิบัติทั่วโลก!

เราไม่ใช่คนแรกที่เริ่มต้นเรื่องนี้ทั้งหมด
"ผมขอเตือนว่าแรกเริ่มระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้ปรากฏอยู่ในรัสเซีย แต่กำเหนิดในสหรัฐอเมริกา

ประการที่สองเราไม่เคยใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่มันได้ถูกทำโดยประเทศสหรัฐอเมริกาต่อประเทศญี่ปุ่น ในอนาคตมีใครสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก?"

นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นว่าหลักความเชื่อการป้องกันทางทหารของรัสเซียไม่ได้หมายถึงการโจมตีกันด้วยนิวเคลียร์ โดยเน้นว่ามอสโกจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ของตนเฉพาะเมื่อระบบเตือนภัยล่วงหน้าตรวจพบขีปนาวุธที่เคลื่อนไปทางรัสเซีย (ที่มาของคำที่ว่า "#รัสเซียรับแรงปะทะเพื่อรุกฆาติ")

เขาเสริมว่า "แต่ผมต้องการให้คุณรู้ว่าผมต้องการให้คนของเรารู้ว่าแผนของเราจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ (ก็ต่อเมื่อ) และผมหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แต่ในทางทฤษฎีก็คือการที่เรียกว่า" "การเปิดตัวภายใต้การโจมตี " (หรือการเปิดตัวนิวเคลียร์ภายหลังจากการถูกโจมตีก่อน)

ผู้นำรัสเซียกล่าวว่าการตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์สามารถทำได้เฉพาะในกรณีที่ระบบเตือนภัยล่วงหน้าของพวกเขาตรวจพบขีปนาวุธเข้ามา ไม่เพียงแต่ลงทะเบียนการเปิดตัวขีปนาวุธ แต่ยังช่วยให้การพยากรณ์ คำเตือน คำทำนายตามวิถีที่กำลังมุ่งเข้ามา?

กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้ามีคนตัดสินใจที่จะทำลายรัสเซีย "เราจะมีสิทธิที่ถูกต้องในการแก้แค้น" ประธานฯวลาดิเมียร์ปูตินแห่งรัสเซียยืนยัน

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวเพิ่มเติมว่า "ใช่แล้วจะเป็นภัยพิบัติทั่วโลกซึ่งเป็นภัยพิบัติสำหรับทั้งโลก"

เมื่อต้นปีมีการประชุมในเวทีสนทนานโยบายระหว่างประเทศในเมืองโซซีในโซซีรีสอร์ทประธานฯปูตินเปิดเผยว่า "ผู้รุกรานควรรู้ว่าการแก้แค้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเขาจะถูกทำลาย

"เราจะตกเป็นเหยื่อจากการรุกรานและจะได้ไปสวรรค์เพราะการเสียสละ แต่ผู้รุกรานจะไม่มีแม้โอกาสที่จะได้กลับใจ"
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1804308566359166&id=599504813506220https://www.express.co.uk/latest/vladimir-putin

* ในคริสเตียนการกลับใจคือหนทางรอด.. รอดทั้งโลกนี้โลกหน้า.. แต่ทำไมอเมริกาและพันธมิตรยังเดินหน้าสร้างเลวร้ายไม่เลิก ตะวันออกกลางไฟยังครุ! อิหร่าน ซีเรียเรียกร้องสหรัฐถอนกำลังออกไป..
การขายอาวุธรอบสองขนาดล๊อตใหญ่กำลังตามมาของทรัมป์..

กลุ่มมนุษยธรรมระหว่างประเทศได้เรียกร้องให้สหรัฐหยุดการสนับสนุนกำลังทหารของตนสำหรับซาอุดีอาระเบีย
ในแถลงการณ์ร่วมองค์กรการกุศล 5 แห่งที่มีเสียงเตือนดังกล่าวได้เน้นย้ำว่ามีคนเสียชีวิตถึง 14 ล้านคนเว้นแต่จะมีการดำเนินการเร่งด่วน
องค์กรการกุศลเรียกร้องให้สหรัฐฯยุติการสนับสนุนทางการทหารของซาอุดิอาระเบีย
https://youtu.be/dHmX4wyhuEQ

*อำนาจโกลบอลลิลต์ดูเหมือนยากจะถอนตัวเพราะความตั้งใจลงทุนลงแรงและจุดหมายที่ไปของพวกเขาคือการกองลงไปในขี้เถ้าแล้วให้ลุกขึ้นมาใหม่ในกะลาของเขา..
ประชาชนมะกันจะดึงผู้นำกลับใจก่อนพบมหาภัยพิบัติ "บิ๊กวัน" หรือไม่หรืออยู่ที่กรรม (ข่าวเลือกเตือนจากทำนาย) ..

บรรดาผู้นำก็นำไปผิดทาง และบรรดาผู้ตามก็ถูกนำให้หลงเตลิด อิสยาห์ 9
พระวิญญานบริสุทธิ์เรียกร้องผู้นำ (ผู้มีศักยภาพของสั่งการ) ไตร่ตรองในทางธรรม ใครครวญกลับใจ ..

" ผู้ลั่นกลองสงครามครึกโครมไม่ได้เป็นผู้ที่จะตัดสินใจที่จะเริ่มต้นสงคราม เขาเป็นเพียงแพะรับบาป นี่คือวิธีที่ผู้ปกครองชั่วร้ายเล่นเกมชั่วร้ายของตนและซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเงาและความมืดและตรึงโทษกับคนอื่น "
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1356661817790512&id=599504813506220&ce
..โลกที่มันตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทุกวัน
สันติภาพที่แท้จริงมาจากเจ้าชายแห่งสันติเท่านั้น ศัตรูมีสันติภาพเท็จและพวกเขาเชื่อการโกหกของเขาเพราะพวกเขาไม่รู้จักพระวจนะ เพราะเขาไม่รู้จักเราและทำให้จิตใจของพวกเขาแข็งกระด้างต่อเราครั้งแล้วครั้งเล่า
และเหตุการณ์จะเริ่ม เมื่อเริ่มต้นระบบจะไม่หยุดจนกว่าการทำลายจะเสร็จสมบูรณ์! ...

บรรดาผู้ที่นอบน้อมถ่อมตนจงนึกถึงชื่อของเราและการกลับใจใหม่จะได้รับการช่วยให้รอด จะมีกลุ่มชนกลุ่มน้อยและแม้แต่หัวเมืองของชนชาติของเราซึ่งจะรอดพ้นจากความพินาศ ทุกเมืองใหญ่จะถูกทำลายเพราะบาปยิ่งใหญ่ของพวกเขา....

พระวิญญาณบริสุทธิ์

 

สุดฉงน! วาฬ 28 ตัวเกยตื้นตายในออสเตรเลีย หลังเพิ่งเกิดเหตุการณ์เดียวกันในนิวซีแลนด์
เผยแพร่: 28 พ.ย. 2561 14:36 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – วาฬ 28 ตัวถูกพบตายในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียในวันนี้ (28) ภายหลังการเกยตื้นหมู่ที่สร้างความงุนงงให้กับผู้เชี่ยวชาญ

นักบินคนหนึ่งที่ขับเครื่องบินส่วนตัวเหนืออุทยานแห่งชาติโครจินโกลองในรัฐวิกตอเรียพบวาฬนำร่อง 27 ตัวและวาฬหลังค่อมหนึ่งตัวเกยตื้นบนชายหาดเมื่อบ่ายวานนี้ (27)

หน่วยงานอุทยานที่เข้าไปเยือนกลุ่มแรกในวันนั้นพบวาฬ 8 ตัวยังคงมีชีวิตอยู่ในอยู่ในขั้นวิกฤต เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานกลับไปในวันนี้ (28) พวกมันตายหมดแล้ว เจ้าหน้าที่เผย

วาฬหลังค่อมน่าจะเกยตื้นตายก่อนวาฬส่วนที่เหลือมานานมาแล้ว เกล ไรท์ จากหน่วยงานอุทยานวิกตอเรีย กล่าวว่า กำลังมีการเก็บตัวอย่างจากซากวาฬเพื่อพยายามทำความเข้าใจว่า พวกมันขึ้นมาเกยตื้นได้อย่างไร

“มันเป็นหนึ่งในปริศนาลี้ลับที่สุด เราไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น” เธอ บอกกับเอเอฟพี พร้อมเสริมว่า นี่อาจเป็นการเกยตื้นครั้งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ส่วนนี้ของออสเตรเลียนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980

เมื่อสุดสัปดาห์ วาฬนำร่อง 145 ตัวถูกพบเกยตื้นในพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ ครึ่งหนึ่งตายหมดแล้วและส่วนที่เหลือถูกการุณยฆาต เนื่องจากไม่มีโอกาสที่จะช่วยเหลือพวกมันในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้

เหตุผลที่แน่นนอนว่าทำไมวาฬและโลมาถึงเกยตื้นยังไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยๆ ต่างอาจรวมถึงการเจ็บป่วย ความผิดพลาดในการนำร่อง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ น้ำที่ลงอย่างฉับพลัน การถูกไล่ลาโดยนักล่า และสภาพอากาศที่เลวร้าย

https://mgronline.com/around/detail/9610000118682

 

ฝน 100 ปีถล่ม ‘ซิดนีย์’ ทำจราจรอัมพาต-น้ำท่วม สังเวยอุบัติเหตุแล้ว 1 ศพ เผยแพร่: 28 พ.ย. 2561 14:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ - นครซิดนีย์ของออสเตรเลียเผชิญกับพายุฝนที่ตกหนักเทียบเท่า 1 เดือนภายในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 พ.ย.) ส่งผลให้การจราจรทั่วเมืองกลายเป็นอัมพาต ไฟฟ้าดับหลายพันครัวเรือน ขณะที่สถานีรถไฟหลายแห่งถูกปิดและต้องมีการยกเลิกเที่ยวบิน

ตำรวจซิดนีย์เตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถนนชั่วคราว และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายจากอุบัติเหตุรถชน นอกจากนี้ยังมีตำรวจอีก 2 นายบาดเจ็บสาหัสจากการถูกต้นไม้ล้มทับ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BOM) รายงานว่ามีฝนตกที่ซิดนีย์เกินกว่า 100 มิลลิเมตรในเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดทั้งเดือน พ.ย.

แอนน์ ฟาร์เรลล์ ผู้บริหาร BOM ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “นี่คือฝนตกใหญ่ที่ 100 ปีจะมีสักครั้งหนึ่ง”

แม้ฝนที่ตกลงมาจะสร้างความโล่งใจแก่เกษตรกรที่เผชิญปัญหาภัยแล้งตลอดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ แต่ก็สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ต่อระบบคมนาคมภายในเมืองใหญ่อันดับ 1 ของแดนจิงโจ้

สนามบินซิดนีย์ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารคับคั่งที่สุดของประเทศได้สั่งปิดรันเวย์ 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่งที่มีอยู่ เป็นเหตุให้เที่ยวบินถูกยกเลิกหรือล่าช้าไปทั้งหมด 130 เที่ยว

“มีฝนตกแรงมากทั้งในสนามบินและพื้นที่รอบๆ” เคต คยานน์ โฆษกสนามบินซิดนีย์ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ “เราเปิดใช้รันเวย์ได้แค่จุดเดียว ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีเที่ยวบินดีเลย์ หรือบางไฟล์ทอาจถูกยกเลิก”

ออสกริด (Ausgrid) ซึ่งเป็นผู้จ่ายไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ยืนยันว่ามีลูกค้า 8,100 รายในนครซิดนีย์และเขตเซ็นทรัลโคสต์เผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ หลังเกิดพายุฝนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และบ่ายวันนี้ (28) ยังคงมีบ้านเรือนและห้างร้านราว 1,700 แห่งที่ไม่มีไฟฟ้าใช้

พายุซึ่งเทกระหน่ำในช่วงเวลาเร่งด่วนทำให้ผู้ใช้รถจำนวนมากต้องติดอยู่บนถนนซึ่งกลายสภาพเป็นคลอง

BOM แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนที่จะต่อตกเนื่องไปตลอดทั้งวัน และอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 4 เมตรตามชายหาดต่างๆ ของนครซิดนีย์

อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐควีนส์แลนด์ทางตอนเหนือของออสเตรเลียกลับมีอุณหภูมิพุ่งสูงเฉียด 40 องศาเซลเซียส ขณะที่กระแสลมแรงยิ่งโหมกระพือไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นมากกว่า 80 จุดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา














https://mgronline.com/around/detail/9610000118669

 

ทางการอิเหนาชี้ “ไลออนแอร์” ต้องปรับปรุงวัฒนธรรมความปลอดภัย หลังเครื่องตก เผยแพร่: 28 พ.ย. 2561 12:40 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – ไลออนแอร์ต้องปรับปรุงวัฒนธรรมความปลอดภัยและงานบันทึกการซ่อมแซมเครื่องบิน ทางการอินโดนีเซีย ระบุในวันนี้ (28) ในรายงานผลตรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินตกเมื่อเดือนที่แล้วที่คร่าทั้ง 189 ชีวิตบนเครื่อง

เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX สูญหายจากจอเรดาร์ประมาณ 13 นาทีหลังจากขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม และตกลงสู่ทะเลชวาไม่นานหลังจากนักบินร้องขอหันหัวกลับไปยังเมืองหลวง

หน่วยงานความปลอดภัยด้านการขนส่งไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยรายงานการตกฉบับสุดท้ายน่าจะยังไม่ออกมาจนถึงปีหน้า

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวน กล่าวว่า ไลออนแอร์นำเครื่องบินลำดังกล่าวกลับมาให้บริการต่อ ทั้งๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดกับอุปกรณ์มาตรวัดความเร็วของเครื่องบินไม่กี่วันก่อนเที่ยวบินมรณะ

รายงานยังบ่งชี้ด้วยว่า นักบินพยายามดิ้นรนด้วยระบบต่อต้านการสูญเสียการทรงตัว ในขณะที่พวกเขาวิทยุร้องขอคำอนุมัติหันหัวกลับไปยังสนามบินหลักในจาการ์ตา

รายงานชิ้นนี้จะยิ่งเพิ่มความกังวลที่ว่ามีปัญหาหลายอย่างในระบบสำคัญของหนึ่งในเครื่องบินขนส่งพาณิชย์ที่ใหม่และทันสมัยที่สุดในโลก

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สืบสวน กล่าว่า เครื่องบินมรณะลำนี้มีปัญหากับอุปกรณ์มาตรวัดความเร็วของเครื่องบินและเซ็นเซอร์มตรวจมุมปะทะ (AOA) กระตุ้นให้บริษัทโบอิ้งต้องออกประกาศด่วนพิเศษแจ้งให้บรรดาสายบินทราบถึงวิธีการปฏิบัติเมื่อพวกเขาเผชิญสถานการณ์ลักษณะเดียวกัน

เซ็นเซอร์ AOA ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมุมปะทะที่อาการกำลังไหลผ่านเหนือปีกเครื่องบินและบอกนักบินว่าเครื่องบินกำลังยกตัวขึ้นมากแค่ไหน ข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันไม่ให้เครื่องบินสูญเสียการทรงตัว



https://mgronline.com/around/detail/9610000118620

 

ชาวเน็ตสับเละ! รบ.เม็กซิโกจ่อมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดให้ ‘ลูกเขยทรัมป์’ เผยแพร่: 28 พ.ย. 2561 11:17 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และที่ปรึกษาทำเนียบขาว

รอยเตอร์ - รัฐบาลเม็กซิโกประกาศวานนี้ (27 พ.ย.) ว่าจะมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติให้แก่ เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อื้ออึงจากบรรดาชาวเน็ต

คุชเนอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาว จะได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้น แอซเท็ก อีเกิล (Order of the Aztec Eagle) เนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือฉบับใหม่เมื่อเดือน ส.ค.

นักธุรกิจหนุ่มรายนี้รับบทเด่นในงานด้านการทูตของรัฐบาล ทรัมป์ มาแล้วหลายครั้ง และมีส่วนช่วยเจรจาจนสหรัฐฯ และเม็กซิโกสามารถปรับปรุงเงื่อนไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ซึ่งใช้มานาวนานถึง 24 ปีได้สำเร็จ ก่อนที่แคนาดาจะตัดสินใจเข้าร่วมอีกชาติ และเกิดเป็นข้อตกลงใหม่ที่เรียกว่า ข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)

หนังสือพิมพ์รีฟอร์มาของเม็กซิโกอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลซึ่งระบุว่า ประธานาธิบดี เอนริเก เปนญา เนียโต ซึ่งใกล้หมดวาระเต็มทีจะมอบเครื่องอิสรยาภรณ์ให้แก่ คุชเนอร์ อย่างเป็นทางการ ระหว่างเดินทางไปร่วมการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา

ทั้งนี้ คาดว่าผู้นำเม็กซิโก สหรัฐฯ และแคนาดา จะถือโอกาสนี้จัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ด้วย

การที่รัฐบาลจังโก้ตัดสินใจมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่ คุชเนอร์ ในครั้งนี้ได้จุดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะจากบรรดาผู้มีชื่อเสียงของเม็กซิโก

เอนริเก เคราเซ นักประวัติศาสตร์ชาวเม็กซิกันได้ทวีตข้อความว่า การมอบอิสริยาภรณ์ชั้น แอซเท็ก อีเกิล ให้แก่ คุชเนอร์ “แสดงถึงทัศนคติที่น่าอับอายและขี้ขลาดอย่างที่สุด” พร้อมพาดพิงถึงเรื่องที่ ทรัมป์ เคยพูดจาดูถูกผู้อพยพจากเม็กซิโกว่าเป็น'ฆาตกรและโจรข่มขืน' ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2016

รัฐบาลเม็กซิโกเคยมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้น แอซเท็ก อีเกิล ให้แก่ชาวต่างชาติที่ประกอบคุณงามความดีมาแล้วหลายคน เช่น กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกวซ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมชาวโคลอมเบีย และอดีตประธานาธิบดี เนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้

อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ว่าที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกคนใหม่ จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันเสาร์นี้ (1 ธ.ค.) หลังได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.ค. โดยคาดว่า อิวองกา ทรัมป์ ภรรยาของคุชเนอร์ รวมถึงรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนด้วย



อิวองกา ทรัมป์ บุตรสาวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ เจเร็ด คุชเนอร์ ผู้เป็นสามี และลูกๆ

https://mgronline.com/around/detail/9610000118577

 

รถบรรทุกเคมีในเหอเป่ยระเบิด ดับแล้ว 22 บาดเจ็บ 22 เผารถวอดไป 50 คัน เผยแพร่: 28 พ.ย. 2561 11:55 ปรับปรุง: 28 พ.ย. 2561 12:25 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พนักงานดับกำลังดับไฟที่เผาไหม้รถหลังจากเกิดเหตุระเบิดใกล้โรงงาน เหอเป่ย เซิ่งหวาฮว่า เคมีคัล โค เมืองจางจยาโข่ว มณฑลเหอเป่ยเมื่อเวลา 24.41 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 2018 (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา เผยแพร่โดย เอพี)
รายงานบนหน้าเว็บไซต์โซเชียล มีเดีย เวยปัวของรัฐบาลท้องถิ่นจางจยาโข่ว แจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดใกล้โรงงงาน เหอเป่ย เซิ่งหวาฮว่า เคมีคัล โค (Hebei Shenghua Chemical Co) เขตเฉียวตง เมืองจางจยาโข่ว มณฑลเหอเป่ยเมื่อเวลา 24.41 น. ของวันนี้ (28 พ.ย.)

ระหว่างเหตุระเบิด เกิดไฟไหม้ลุกลามเผารถบรรทุก 38 คัน และรถยนต์ 12 คัน ผู้คนเสียชีวิตไปแล้ว 22 คน บาดเจ็บระนาว 22 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟไหม้ลุกลามได้แล้ว หน่วยปฏิบัติกู้ภัยกำลังค้นหาและช่วยเหลือชีวิต สำหรับผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในท้องถิ่น ด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยสืบสวนได้รุดไปยังบริเวณที่เกิดเหตุแกะรอยหาสาเหตุบึ้มใหญ่ครั้งนี้

สื่อจีน เดอะ เปเปอร์ (Thepaper.cn.) รายงานว่า คณะกรรมาธิการดูแลพิทักษ์ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน เมืองจางจยาโข่ว เผยว่าเหตุไฟไหม้เกิดจากการระเบิดของขบวนรถบรรทุกสารเคมีอันตรายที่เข้าแถวรอเข้าไปในโรงงานฯ และเกิดไฟไหม้ลุกลามเผาลาญพาหนะที่อยู่ในบริเวณนั้น ขณะนี้ไม่มีการระเบิดอีกแล้ว

พนักงานสองคนของโรงงานสารเคมีเซิ่งหวา ได้บอกกับ เดอะ เปเปอร์ ว่าพาหนะถูกไฟไหม้นั้น ไม่ใช่ของโรงงาน

สื่อจีนอีกราย เป่ยจิง ยูธ เดลี่ อ้างคำกล่าวพนักงานของโรงงานเหอเป่ย เซิ่งหวา รายงานว่าขณะนี้โรงงานได้พักการผลิต “ทางโรงงานกำลังจัดการตรวจสอบสารเคมีอันตราย กลัวเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จึงหยุดการผลิต เพราะเราไม่รู้ว่าสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้”

ทั้งนี้ เมืองจางจยาโข่ว กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2022 (2022 Winter Olympic Games)

ความปลอดภัยในภาคอุตสาหกรรมจีน เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหาหนึ่งที่รัฐบาลวิตก เนื่องจากความหละหลอมในการบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยในการเก็บและขนส่งสารเคมีและสารอันตรายต่างๆ ในปี 2015 เกิดเหตุระเบิดครั้งมหากาฬในโกดังเก็บสารเคมีที่เมืองเทียนจิน ผู้คนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 173 คน

ในวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานี้ ได้เกิดเหตุสารอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน C9 ปริมาณ 69 ตันจากโรงงานกลั่นปิโตรเคมีในเฉวียนโจว มณฑลฝูเจี้ยน รั่วไหลปนเปื้อนในทะเล เป้นเหตุให้ประชาชน 52 คน ล้มป่วยจากการดมกลิ่นและสัมผัสสารพิษดังกล่าว



พนักงานดับกำลังดับไฟที่เผาไหม้รถหลังจากเกิดเหตุระเบิดใกล้โรงงาน เหอเป่ย เซิ่งหวาฮว่า เคมีคัล โค เมืองจางจยาโข่ว มณฑลเหอเป่ยเมื่อเวลา 24.41 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 2018 (ภาพจากสำนักข่าวซินหวา เผยแพร่โดย เอพี)



ซากไฟไหม้จากเกิดเหตุระเบิดใกล้โรงงาน เหอเป่ย เซิ่งหวาฮว่า เคมีคัล โค เมืองจางจยาโข่ว มณฑลเหอเป่ยเมื่อเวลา 24.41 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 2018 (ภาพ รอยเตอร์ส)



ซากไฟไหม้จากเกิดเหตุระเบิดใกล้โรงงาน เหอเป่ย เซิ่งหวาฮว่า เคมีคัล โค เมืองจางจยาโข่ว มณฑลเหอเป่ยเมื่อเวลา 24.41 น. ของวันที่ 28 พ.ย. 2018 (ภาพ รอยเตอร์ส)


https://mgronline.com/china/detail/9610000118595

 

หนึ่งสัปดาห์ในออสเตรเลีย:

bushfires

พายุฝุ่น

น้ำท่วม

❄ หิมะ (ในเดือนพฤศจิกายน! )

 

Noticias 507 y el mundo

ซาอุดีอาระเบีย

หิมะในภาคเหนือซาอุดีอาระเบีย

 

เกษตรฮอตนิวส์ สาระความรู้ด้านการเกษตร

เคยเห็นยัง! เครื่องมือปลูกผัก สะดวก ง่าย ต่อการใช้งาน

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว กรรมของเวร!! ก็ว่าจะปล่อยๆ ผ่านข่าวนี้เพราะเคยทำมาแล้ว แต่พอได้อ่านเหตุผลของ 'ผู้ทรงเกียรติ' ในของคณะกรรมการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. แล้ว รู้สึกทึ่งว่าคิดได้ โดย ผอ.สมศ.ออกโรงชี้แจง #สาเหตุที่ต้องลาออกยกชุดเพราะการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน #อาจทำให้มิจฉาชีพเข้ามาทำร้ายหรือหาประโยชน์ เป็นอันตรายต่อตัวเองและครอบครัว #ยันไม่ได้กลัวการตรวจสอบแต่ไม่อยากวุ่นวาย หากหลงลืมหรือชี้แจงผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจจะมีความผิดทางอาญาได้ ส่วนที่ไม่รอมติคณะกรรมการ ปปช.ก่อน #เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่ได้แก้ปัญหาให้กลุ่มองค์กรมหาชน เผยยังมีองค์กรอีกหลายแห่งเตรียมลาออกเช่นกัน

รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ อดีต ผอ.สมศ. ระบุเพิ่ม#คนที่เข้ามาทำงานส่วนใหญ่เข้ามาช่วยดูระบบการศึกษาไม่ได้มีเรื่องทุจริต

แบบนี้ก็ได้เหรอ!!????

Source : https://www.thairath.co.th/content/1431541

โดยเรื่องนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการลาออกของบอร์ด สมศ. แล้ว #ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลในการลาออกคาดว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว โดยคิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของสมศ.รวมถึงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ เพราะมีการแต่งตั้งรักษาการ ผอ.สมศ.ไปแล้ว เมื่อได้บอร์ด สมศ.ชุดใหม่ จึงจะคัดเลือก ผอ.สมศ.ต่อไป #ขอให้ใจเย็นและเชื่อว่างานด้านประเมินคุณภาพการศึกษาจะเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรค

"ทราบมาว่าบอร์ด สมศ.ชุดที่รักษาการอยู่ในปัจจุบันได้ลาออกยกชุด น่าจะเป็นผลจากประกาศ ปปช.เรื่องกําหนดตําแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร แต่คงต้องเร่งสรรหาบอร์ด สมศ.ชุดใหม่โดยเร็ว"

สำหรับคณะกรรมการบริหาร สมศ.ชุดที่ลาออกประกอบด้วย ศ.ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ประธานกรรมการ โดยตำแหน่ง ได้แก่ นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ประธานกรรมการการอาชีวศึกษากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นางเพ็ชรากรณ์ วัชรพล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายเลอศักดิ์ จุลเทศ นางวัลลิยา ปังศรีวงศ์ นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง และ รศ.ดร.ณมน จีรังสุวรรณ กรรมการและเลขานุการ และ ผอ.สมศ.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว เซ่นสังเวย #โกงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ไปแล้ว 1 รายเหนาะๆ สำหรับอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านมะรือโบตก จ.นราธิวาส โดยล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบสั่งลงโทษ#จำคุก70ปี ฐานยืมเงินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนไปโดยไม่ระบุวัตถุประสงค์ของการยืม #ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเอาเงินไปทำโครงการของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง

#คดีข้างต้นยังไม่ถือเป็นที่สุด และอยู่ภายใต้สิทธิการอุทธรณ์ การพิจารณาวินิจฉัยของศาลสูงตามลำดับ จำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Source : https://www.thairath.co.th/content/1431283

โดยเรื่องนี้ นายสนั่น ทองจีน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 9 (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่ อท.29/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อท.33/2561 กรณี นายเฉลิม พละสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่อนุมัติการเบิกจ่ายและควบคุมกำกับการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และความถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งของทางราชการที่เกี่ยวข้อง

#จำเลยใช้โอกาสที่ตนมีทำบันทึกขอยืมเงินประเภทเงินอุดหนุนอื่นและเงินโครงการอาหารกลางวัน ของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก #โดยไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการยืมเงิน ว่าจะนำไปใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมใดของโรงเรียน #ขัดต่อระเบียบของทางราชการ จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบ อนุมัติให้ตนเองยืมเงินดังกล่าว เมื่อจำเลยได้รับเงินที่ยืมไปแล้ว#ได้เบียดบังเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายในโครงการหรือแผนงานใดของโรงเรียน ทั้งยังไม่ส่งใช้เงินยืมรายเก่าตามกำหนดเวลา

อนึ่ง คำพิพากษาของศาลระบุว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน #ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 70 ปี #จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 35 ปี

ที่จำเลยขอให้รอการลงโทษโดยอ้างว่าได้นำเงินที่ยืมไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนบ้านมะรือโบตกหลายกิจกรรม และบางส่วนนำไปใช้ปรับปรุงห้องพักครูเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ รวมทั้งจำเลยได้จ่ายเงินคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยแล้วนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานการใช้เงินยืมว่าจำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง #หากจำเลยนำไปใช้ในกิจกรรมดังกล่าวจริง #จำเลยย่อมสามารถแสดงหลักฐานการใช้เงินยืมดังกล่าวได้โดยไม่ยากการกระทำของจำเลยกระทบต่อระเบียบแบบแผนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน #อันเป็นการกระทำที่ร้ายแรง แม้จำเลยจะชดใช้คืนเงินยืมพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นภายหลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น.