ติดตามสถานะการณ์

WudhichaI Maitreesophone


เรื่องพิพาทระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน คือทางรัสเซียเขาถือว่า แหลมไคร์เมีย เมื่อชาวไคร์เมียส่วนใหญ่โหวตขอเข้ารวมประเทศกับรัสเซียแล้ว รัสเซียย่อมได้มาทั้งประชาชน ดินแดน และสิทธิทางกฎหมายระหว่างประเทศตามมาด้วยทั้งหมด เพราะฉะนั้นน่านน้ำเดิมตามสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งช่องแคบ Kerch Strait ด้านตะวันตกที่ติดกับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย เป็นของรัสเซียตามกฎหมายระหว่างประเทศมานานแล้ว


ซึ่งแต่เดิมช่องแคบ Kerch Strait ฝั่งตะวันออกเป็นของยูเครน เพราะยูเครนเป็นเจ้าของแหลมไคร์เมีย แต่พอสหรัฐเข้าไปควบคุมรัฐบาลยูเครนของประธานาธิบดี โปโรเซ็งโก้ได้ และต้องการยึดฐานทัพเรือทะเลดำของรัสเซียซึ่งสร้างมาตั้งแต่ ยูเครนยังเป็นสหภาพโซเวียต พอโซเวียตล่มสลาย รัสเซียก็ทำสัญญาเช่าฐานทัพเรือทะเลดำ กับยูเครน แต่พอสหรัฐสามารถควบคุมรัฐบาลใหม่ของยูเครนได้ ก็ดำเนินการรุกจะเอาฐานทัพนาโต้เข้าไปใส่ในทะเลดำ เพื่อปิดล้อมรัสเซีย รัสเซียสู้ด้วยการขอให้ประชาชนชาวไคร์เมีย โหวตลงประชามติขอปกครองตนเอง ไม่ขึ้นต่อยูเครนอีกแล้ว โดยรัสเซียได้รับความช่วยเหลือจาก เยอรมัน และฝรั่งเศส ในการเป็นสักขีพยานการลงประชามติของชาวยูเครน โหวตครั้งที่ 1 ขอปกครองตนเองเรียบร้อย รัฐสภายูเครนอนุมัติ โหวตประชามติครั้งที่ 2 ขอรวมประเทศกับรัสเซีย เยอรมัน กับฝรั่งเศส เป็นสักขีพยานเช่นเดิม เรียบร้อย


ฐานทัพเรือทะเลดำของรัสเซียจึงยังคงอยู่ที่เดิม สหรัฐ และนาโต้ไม่สามารถฮุบได้ ยูเครนต้องเสียดินแดนให้รัสเซียแบบไม่มีใครเสียเลือดเนื้อ เมื่อรัสเซียได้แหลมไครเมียเข้ามา สิทธิต่างๆ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ย่อมเป็นของรัสเซียตามไปด้วย เพราะฉะนั้นชายฝั่งทะเลดำส่วนในที่จะเข้าไปยังทะเล Asov ของยูเครน จึงต้องผ่านพื้นที่ตามสิทธิของรัสเซีย ซึ่งเมื่อความสัมพันธ์เป็นแบบศัตรูกันอย่างนี้ ก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่ฝั่งทะเลดำส่วนนอกของยูเครนยังมีอีกมากมาย นอกจากยูเครนต้องการหาเรื่อง ให้สหรัฐกับรัสเซียปะทะกัน จึงเอาเรือยามฝั่งขนาดเล็กเข้าไปให้รัสเซียจับกุม แล้วรัสเซียขอเปิดประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ก็เปิดไม่ได้ เพราะสหรัฐคุมเสียงสมาชิกส่วนใหญ่ไว้ได้ ปีหน้าปลายๆ ปีจะมีเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ของยูเครน อีตา โกโรโกโส หรือโปโรเซ็งโก้คงไม่ได้อีกแล้ว ประธานาธิบดีนิยมรัสเซียคงกลับมาอีกครั้ง สถานการณ์ในทะเลดำคงสงบเรียบร้อยตามเดิม


An urgent meeting of the UN Security Council scheduled for 11:00 New York time, in Kiev will be 18:00


ขนาดรัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจ และเป็นสมาชิกมนตรีความมั่นคงถาวรขององค์การสหประชาชาติ ถูกเรือรบขนาดเล็กของยูเครนละเมิดน่านน้ำ จึงเข้าจับกุม และยื่นขอเปิดประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ก็เปิดไม่ได้ เพราะสหรัฐโดยท่านผู้แทนถาวรสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ Nikki Haley ล็อบบี้ 7 ชาติใน 15 ชาติซึ่งประกอบด้วย สมาชิกถาวร Permanet 5 ชาติ ประกอบด้วย China, France, Russia UK and USA


กับสมาชิกไม่ถาวร Non-Permanent 10 ชาติประกอบด้วย Bolivia (2018), Côte d’Ivoire (2019), Quatorial Guinea (2019), Ethiopia (2018), Kazakhstan (2018), Kuwait (2019), Netherlands (2018), Peru (2019), Poland (2019), and Sweden (2018)


มีผู้สนับสนุนรัสเซีย 4 ประเทศ ประกอบด้วย China, Russia, Kazakhstan and Bolivia

มีผู้ไม่ออกเสียง 4 ประเทศ (ไม่มีรายงาน)

มีผู้ออกเสียงคัดค้าน 7 ประเทศ ประกอบด้วย USA, UK, France, Sweden (มีรายงานไม่ครบ)

 

WudhichaI Maitreesophone


เมื่อวานนี้ คณะผู้สังเกตุการณ์ของกลุ่มประเทศประชาคมอ่าว ลงพื้นที่ภาคเหนือของซีเรีย โดยตุรกีเป็เจ้าภาพนำดูสถานการณ์ทางตอนเหนือของเมือง Aleppo ตามที่สำนักข่าวตุรกีรายงานว่า มีทหารซาอุดิอาระเบีย และทหาร UAE เข้ามาทำการรบในซีเรีย แต่ไม่มีภาพนิ่ง หรือวีดีโอ ประกอบการรายงานข่าวแต่อย่างใด


https://mobile.almasdarnews.com/art...yment/?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


07:10 กรุงเทพฯ 24°C


#เชียงราย 13°C


เชียงใหม่ 16°C ลำปาง 14°C เลย 19°C น่าน 15°C แพร่ 16°C กำแพงเพชร 20°C โคราช 21°C หนองคาย 20°C หัวหิน 24°C แม่ฮ่องสอน 17°C พัทยา 23°C ตาก 18°C ร้อยเอ็ด 22°C อุบล 22°C สุรินทร์ 21°C อุดร 20°C(ฝนตก) สุพรรณ 24°C สมุย 27°C ชุมพร 22°C ภูเก็ต 24°C สงขลา 26°C

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


"รับแรงปะทะเพื่อรุกฆาติของรัสเซีย" กับการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรสังหารไปยังพื้นที่สำคัญภายหลังยูเครนส่งเรือล้ำเข้าไปในพื้นที่รัสเซีย

https://www.rt.com/russia/445015-ru...ylceQyVweHXlFQ3Hga1PYReEbNDOfiU96mAn61BJ5IJvw


คาดว่าสหรัฐและหรือนาโตจะเคลื่อนย้ายอาวุธขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาที่ชายแดนรัสเซียมากกว่าเดิม..


* เรือของยูเครนสร้างเรื่องเพื่อให้พันธมิตรตะวันตกยกทัพสมทบเพิ่มเติมหรือไม่?

 

China Report ASEAN - Thailand


จีนบรรลุเป้าหมาย ‘ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ-ลดโลกร้อน’ ได้เร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี | จีนทำอย่างไร?


รัฐบาลจีนเผยแพร่ข้อมูลล่าสุดว่า ปี 2017 ที่ผ่านมา จีนลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลงถึง 46% เมื่อเทียบกับระดับของปี 2005 ซึ่งแต่เดิมจีนเคยตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซให้ได้ 40-45% ภายในปี 2020 นั่นหมายความว่า จีนบรรลุเกินกว่าเป้าหมาย และเร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี


วิธีการที่รัฐบาลจีนใช้คือ (1) การมีระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading Scheme: ETS) (2) ลดการใช้พลังงานฟอสซิล เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด และ (3) การเพิ่มปริมาณผืนป่า


ทั้งนี้ ระบบการซื้อขายใบอนุญาต ETS นั้น จีนได้เริ่มนำร่องมาตั้งแต่ปี 2013 ในพื้นที่กรุงปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ ฉงชิ่ง เซินเจิ้น กว่างตง และหูเป่ย ซึ่งล้วนแต่เป็นเขตที่สร้างมลภาวะสูง นอกจากนี้ จีนลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งปัจจุบัน การใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นเป็น 13.8% แล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในปี 2020


สำหรับการเพิ่มปริมาณผืนป่า ปัจจุบันจีนเพิ่มผืนป่าได้ 22% แล้วจากพื้นที่ทั้งประเทศ และกำลังขยายพื้นที่ป่าต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ปริมาณผืนป่าของจีนแตะระดับ 2,100 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2020 แล้ว.

 

China Report ASEAN - Thailand


Winter Wonderland @ เมืองมอเหอ มณฑลเฮย์หลงเจียง


หมู่บ้านอาร์กติกในเมืองมอเหอ มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนตอนนี้ อุณหภูมิอยู่ที่ -21°C นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยียมเยือนเมืองมอเหอ ก็ไม่พลาดที่จะได้ทดลองเล่นสาดน้ำร้อน ที่เมื่อสาดไปปุ๊บ น้ำร้อนก็จะกลายเป็นน้ำแข็งปั้บ


ฤดูหนาวของเมืองมอเหอนั้น ยาวนานตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเมษายน และเคยหนาวสุดที่ -50°C มาแล้ว


กิจกรรมสนุกๆเช่นการสาดน้ำร้อนให้กลายเป็นน้ำแข็งนี่เอง ที่ทำให้เมืองมอเหอเป็น Winter Wonderland อย่างแท้จริง

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 28) สหราชอาณาจักรตอบกลับทรัมป์กรณีแสดงความกังวลต่อการถอนตัวออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป ขณะที่ May มีแผนนำ Brexit deal เข้าสภาวันที่ 11 ธ.ค.นี้ : นาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเตือนว่า ข้อตกลงสำหรับการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรอาจทำให้การเจรจาการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ในอนาคตมีความยากลำบากมากขึ้น


ด้านโฆษกของนาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ตอบกลับต่อความกังวลของ นาย Trump ว่า คณะทำงานร่วมระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาที่ ‘positive and productive’ ในข้อตกลงทางการค้าที่มีความท้าทาย และ public consultations ของทั้งสองฝ่ายเป็นเหมือนสัญญาณของความคืบหน้าในการเจรจา


นอกจากนี้สหราชอาณาจักรสามารถบรรลุข้อตกลงในหลักการร่วมกับองค์การการค้าโลก หรือ World Trade Organisation (WTO) เพื่อให้สหราชอาณาจักรยังได้รับสิทธิเป็นสมาชิกอิสระของ the World Trade Organization’s Government Procurement Agreement (GPA) หลังถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป


GPA คือ ข้อตกลงระหว่างสมาชิก WTO ทั้ง 47 ประเทศ ซึ่งตกลงเปิด government procurement markets ของประเทศตัวเองต่อกัน โดยข้อตกลง GPA ในปัจจุบันครอบคลุมมูลค่าของการใช้จ่ายรายปี จำนวนกว่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.


สหราชอาณาจักรเสนอที่จะยังคงดำเนินการในฐานะสมาชิก GPA เสมือนตอนเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปต่อไป เนื่องจากการเป็นสมาชิก GPA มีความสำคัญต่อบริษัทสหราชอาณาจักรเพราะทำให้ยังคงสามารถประมูลงานภาครัฐใน สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ต่อไปได้


ด้านนาย Julian Braithwaite เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำ WTO กล่าวว่า สหราชอาณาจักรขอบคุณสมาชิก GPA ทุกฝ่าย สำหรับความร่วมมืออย่างจริงจังในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงในหลักการเกี่ยวกับการเข้าร่วม GPA ของสหราชอาณาจักร ที่เป็นที่ยอมรับ


ขณะที่นาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เลือกวันที่ 11 ธันวาคม 2018 ซึ่งเป็นสองวันก่อนหน้าการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 -14 ธันวาคม เป็นวันลงคะแนนเสียงสำหรับ Brexit deal โดยการเลือกวันออกเสียงดังกล่าว ส่งผลให้ทางยุโรปจำเป็นต้องเตรียมการรับมือหากรัฐสภาสหราชอาณาจักรลงมติไม่เห็นชอบ Brexit deal แม้ตัวแทนจากสหภาพยุโรปได้กล่าวเตือนว่า Brexit deal ดังกล่าวเป็นข้อตกลงเดียวที่มีและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดใดๆ อีก


หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หากรัฐสภาสหราชอาณาจักรลงมติไม่เห็นชอบ Brexit deal สหภาพยุโรปอาจทำการปรับแก้ข้อตกลงเพียงรายละเอียดที่ไม่มีนัยสำคัญเท่านั้น เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดต้องการเจรจาใหม่หรือแก้ไขในรายละเอียดหลัก


หากรัฐสภาสหราชอาณาจักรปฏิเสธ Brexit deal ฉบับดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจะต้องแถลงการณ์ต่อสภาผู้แทนราษฎรถึง “how it proposes to proceed” ภายใน 21 วัน หลังจากนั้นรัฐบาลจะมีเวลาอีก 7 วัน สำหรับการนำเสนอญัตติเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแสดงความคิดเห็นต่อแนวทางปฏิบัติของรัฐบาลต่อไป


Source: BOTSS


- May defends Brexit deal as Trump casts doubt on UK ability to trade with US: https://edition.cnn.com/2018/11/27/politics/trump-brexit-deal-claims-gbr-intl/index.html


- Brexit: Theresa May denies 'rolling over' on deal:

 

เจนจิรา จันทรเสนา


รัสเซียให้ทหารยูเครนที่ถูกจับตัวได้สารภาพผ่านสื่อ ยอมรับว่าตัวเองผิด รับคำสั่งมาป่วนรัสเซียจริง

Ukrainian crew admit to ‘provocation’ in statements released by FSB

Credit: Ruptly

 

เคียงข้างทุกสถานการณ์ แม้สถานการณ์นั้นยูเครนสร้างขึ้นเพื่อป่วนรัสเซีย

เจนจิรา จันทรเสนา



ยัยวายร้าย Nikki Haley เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ นางตัวแสบเค้ายืนยันว่า สหรัฐอเมริกาจะยืนเคียงข้างชาวยูเครนในทุกวิถีทาง เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย

◽️Nikki Haley :
"The United States will continue to stand with the people of Ukraine against this Russian aggression."

US Mission to The UN

 

เจนจิรา จันทรเสนา


Do you hear the people sing เพลงนี้เป็นเพลงของชนชั้นรากหญ้า ที่มาพร้อมควันไฟ อาวุธ เลือดเนื้อ กลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง อ้างตนเองว่าเป็นชนชั้นรากหญ้าของฝรั่งเศส

 

เจนจิรา จันทรเสนา

นาทีประวัติศาสตร์..!
ยานสำรวจ InSight ของ NASA
ลงจอดบนดาวอังคารสำเร็จ ️

ยานหุ่นยนต์สำรวจ InSight สามารถลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารได้สำเร็จ เวลา19.53 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช เมื่อ 26 พ.ย. ตรงกับเวลาประเทศไทย 02.53 น. ของวันที่ 27 พ.ย. หลังจากนี้ยาน InSight จะเริ่มภารกิจขุดเจาะผิวดาวเคราะห์แดงเพื่อศึกษาข้อมูลอุณหภูมิและอื่นๆ



ก่อนที่ยานจะแตะพื้นดาวอังคาร เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ควบคุมภารกิจในห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion Laboratory (JPL) ในแคลิฟอร์เนีย ต่างก็ลุ้นกับช่วงเวลา 7 นาทีที่ยาน InSight เข้าสู่ขั้นตอนการพุ่งเข้าชั้นบรรยากาศ ลดระดับความสูงและลงแตะพื้นผิวดาว เพราะดาวอังคารมีความบรรยากาศเบาบางเพียง 1% ของโลก จึงมีแรงเสียดทานที่ช่วยชะลอความเร็วขณะลงจอดได้น้อย แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลา 7 นาที ยาน InSight ก็ส่งสัญญาณการลงจอดกลับมาได้สำเร็จ ทุกคนยินดีปรีดาพร้อมกับผู้ที่เฝ้าชมการถ่ายทอดสดกับวินาทีแห่งประวัติศาสตร์

เจมส์ ไบรเดนสไตน์ ผู้บริหาร NASA เรียกวันแห่งความสำเร็จนี้ว่า "วันที่น่าอัศจรรย์" พร้อมเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ต่อสายตรงมาแสดงความยินดีด้วยตนเอง

ยาน InSight ย่อมาจาก Interior Exploration using Seismic Investigations, Geodesy and Heat Transport โดยยานจะใช้อุปกรณ์ขุดเจาะผิวดาวอังคารลึกลงไป 5 เมตร เพื่อเก็บข้อมูลอุณหภูมิของดิน เพื่อศึกษาอัตราการถ่ายเทความร้อนจากแก่นดาวอังคารออกมาสู่พื้นผิว โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์อัตราการถ่ายเทความร้อนในอดีต และสืบสาวไปจนถึงกระบวนการเกิดของดาวอังคารได้

นอกจากการวัดอุณหภูมิแล้ว ยานลำนี้ยังมีภารกิจตรวจจับคลื่นสั่นสะเทือนบนดาว เพื่อช่วยให้นักดาราศาสตร์เก็บข้อมูลโครงสร้างภายในดาวอังคารว่าเป็นอย่างไร

อ้างอิง: www.bbc.com/news/science-environment-46351114

(NASA) https://www.flickr.com/photos/nasah...Se9oNLymRSt5mvUWyo9i6oWMb72OnSxTwDoMlmuxYIbi0
via, jenjira1958

 

เจนจิรา จันทรเสนา

วินาทีสำคัญ!
เมื่อยานอวกาศ InSight ของ NASA สามารถลงจอดบนดาวอังคาร ได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นยานอวกาศลำแรกในรอบ 6 ปีของมนุษย์ที่สามารถลงจอดบนดาวเคราะห์สีแดงแห่งนี้ได้สำเร็จ เนื่องจากปัจจุบันการลงจอดบนดาวอังคารยังมีความเสี่ยงสูงมากในระดับ 50:50 ที่จะล้มเหลว

ยาน InSight ได้ลงจอดบน Elysium Planiti ที่ราบกว้างบริเวณศูนย์สูตรของดาวอังคาร
ภารกิจหลักของยาน InSight คือการสำรวจทางธรณีวิทยาของดาวอังคาร ตั้งแต่พื้นผิวภายนอก ไปจนถึงการเจาะลึกลงไปในชั้นดิน

Our @NASAInSight spacecraft stuck the MarsLanding!

Its new home is Elysium Planitia, a still, flat region where it’s set to study seismic waves and heat deep below the surface of the Red Planet for a planned two-year mission. Learn more: https://www.nasa.gov/mission_pages/insight/main/index.html

 

ยักษ์ใหญ่มะกัน ‘จีเอ็ม’ประกาศปลดพนง.กว่า 14,000 ตำแหน่ง ระงับผลิต-ปิด 8 โรงงาน วันที่ 27 November 2018 - 08:51 น.

บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส(จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา อาทิ รถยนต์เชฟโรเล็ต รถยนต์คาดิแลค และรถบิ๊กอัพจีเอ็มซี ประกาศปลดพนักงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด และจะระงับการผลิตในโรงงาน 5 แห่งทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังจะปิดโรงงานผลิตรถนอกทวีปอเมริกาเหนืออีก 3 แห่งภายในสิ้นปี 2562 ด้วย

หันให้ความสำคัญผลิตรถบรรทุก รถไฟฟ้า รถยนต์ไร้คนขับ
การตัดสินใจปรับลดพนักงานและปิดโรงงานครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นหลังจากยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง เนื่องจากผู้ซื้อไม่สนใจที่จะซื้อรถยนต์ขนาดเล็ก แต่หันไปซื้อรถใหญ่อย่างรถเอสยูวีหรือรถบรรทุกแทน โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 70% ของการซื้อรถในอเมริกาเหนือทั้งหมด บวกกับปัญหารายจ่ายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากกำแพงภาษีใหม่ที่มีการประกาศใช้โดยเฉพาะภาษีนำเข้าเหล็ก บริษัทระบุว่าจะหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตรถบรรทุก รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งน่าจะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์ยุคต่อไปแทน

การตัดสินใจปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวของจีเอ็มทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักการเมืองจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ระบุว่าไม่มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับย้ำว่านโยบายของเขากำลังช่วยกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นบริษัทควรจะเลือกดำเนินการอย่างอื่นแทนการตัดสินใจเช่นนี้

ด้านจีเอ็มระบุว่าแผนการปฏิรูปองค์กรดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2563 และจะทำให้บริษัทสามารถสร้างกำไรและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับการลงทุนในอนาคต เพราะบริษัทตระหนักดีว่าต้องการอยู่ในแถวหน้าภายใต้เงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงของตลาด และเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงทำให้บริษัทประสบผลสำเร็จในระยะยาวต่อไป

ที่มา:มติชนออนไลน์

https://www.prachachat.net/world-ne...PWKkRk6eqwoOGN82OfXHBXFnLftQlx-TBF0OqyiGEmQFA

 

ประธานาธิบดียูเครนหวั่นเกิด ‘สงครามเต็มรูปแบบ’ กับรัสเซีย
วันที่ 28 November 2018 - 09:15 น.
เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดีของยูเครน
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนออกมาเตือนว่ามีภัยคุกคามและความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเสริมกำลังรถถังขึ้นเป็น 3 เท่า ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังรัสเซียได้ยึดเรือของกองทัพยูเครน 3 ลำไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน

วิกฤตการณ์ดังกล่าวยังส่งผลลุกลามไปยังมิติด้านการทูต โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐออกมาเตือนว่า เขาอาจจะยกเลิกการหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งกำหนดจะมีขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดจี 20 ที่ประเทศอาร์เจนตินาในช่วงปลายสัปดาห์นี้

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีปูตินออกมาเตือนว่า ยูเครนได้กระทำการแบบสิ้นคิด หลังจากรัฐสภายูเครนมีมติรับรองการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่บริเวณชายแดนติดกับรัสเซียเป็นเวลา 30 วัน ทางการรัสเซียยังกล่าวหายูเครนว่าวางแผนให้เกิดการเผชิญหน้าและการยั่วยุดังกล่าวขึ้นอีกด้วย

ที่มา:มติชนออนไลน์

https://www.prachachat.net/world-ne...hqMyIlzECIEP6x41faKPcAc0__8hYrrlTVYg2PKk9nXiI

 

ขายทิ้งโรงแรมเชียงใหม่-ภูเก็ต พิษทัวร์จีนวูบหนัก-ห้องพักล้น
วันที่ 28 November 2018 - 08:03 น.

นักท่องเที่ยวจีนวูบพ่นพิษโรงแรม “เชียงใหม่-ภูเก็ต” ทรุด แห่ขาย 150 ราย 10-500 ล้าน นายกโรงแรมภาคเหนือชี้เป็นโรงแรมขนาดกลาง-เล็ก ไม่มีใบอนุญาต เผยทุนจีนลงทุนเปิดรับกรุ๊ปทัวร์จีนโดยเฉพาะ เปิดข้อมูลเชียงใหม่มีโรงแรมทุนจีน 1,000 แห่ง นายกสมาคมโรงแรมไทยแจงซัพพลายล้นตลาด ผสมโรงนักท่องเที่ยวจีนหดตัว กระทบรุนแรง โบรกเกอร์รายใหญ่เผยประกาศขายโรงแรมพุ่ง 20%


ขายโรงแรมเชียงใหม่-ภูเก็ต
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์เจ้าของกิจการโรงแรมขนาดเล็ก รีสอร์ตต่าง ๆ มีการประกาศขายกิจการจำนวนมาก โดยจากการสำรวจทางเว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง พบว่ามีกิจการโรงแรมและรีสอร์ตในจังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ประกาศขายกิจการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน กรณีของเว็บไซต์ DD Property และ Dot Property พบว่าในช่วงเดือน พ.ย.มีประกาศขายกิจการประเภทโรงแรมและรีสอร์ต ในพื้นที่เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยว[จีนรวมกันกว่า 150 รายการ โดยพบว่าเป็นการประกาศขายโรงแรมในเชียงใหม่อยู่ที่ 49 รายการ ประกาศขายโรงแรมที่พัทยาประมาณ 51 รายการ และจังหวัดภูเก็ต 105 รายการ โดยข้อมูลประกาศขายรายการเก่าที่สุดไม่เกิน 1 เดือน โดยสินทรัพย์ที่ขายส่วนใหญ่ระดับราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท

ทั้งนี้โรงแรมและรีสอร์ตที่ประกาศขายในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นกิจการขนาดกลางถึงขนาดเล็ก เช่น ธาราบุรี รีสอร์ท มีลักษณะเป็นรีสอร์ตไม้สักทอง ใกล้สนามบินเชียงใหม่เสนอขายราคา 52.5 ล้านบาท และบูติครีสอร์ตบริเวณอำเภอหางดง ราคา 25 ล้านบาท โดยระบุว่าเป็นรีสอร์ตที่ดำเนินกิจการมาแล้ว 3 ปี นอกจากนี้ยังมีโฮสเทลขนาดเล็กจำนวนมาก ในระดับราคา 5-30 ล้านบาท

สำหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีประกาศขายโรงแรมและรีสอร์ตมากถึง 105 รายการ ส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวน 34 รายการ และกลุ่มราคา 100-500 ล้านบาท อยู่ที่ 31 รายการ พื้นที่ประกาศขายมากที่สุดคือบริเวณอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ทั้งในตำบลกะทู้ ตำบลป่าตอง และตำบลกมลา รองลงมาคือตำบลราไวย์ และกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต



เชียงใหม่ โรงแรมทุนจีนนับพันแห่ง
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือ) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นว่า ภาพรวมปัจจุบันในจังหวัดเชียงใหม่มีโรงแรมมากกว่า 2,000 แห่ง จำนวนห้องพักมากกว่า 60,000 ห้อง ในส่วนของโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมถูกต้องมีราว 600 แห่ง มีห้องพักมากกว่า 25,000 ห้อง และในจำนวนนี้เป็นสมาชิกของสมาคม 68 แห่ง รวมกว่า 8,000 ห้อง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงดำเนินกิจการตามปกติ ไม่พบว่ามีการปิดกิจการหรือขายกิจการทิ้ง

แต่ในส่วนของโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็กที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการลงทุนของกลุ่มทุนจีนที่มาร่วมกับคนไทยเพื่อรองรับกลุ่มทัวร์จีนโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมยังไม่มีการทำสถิติตัวเลขที่ชัดเจน คาดว่ามากกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งจากฐานข้อมูลบนแพลตฟอร์ม OTA (online travel agent) มีความเป็นไปได้ว่ามีการทยอยปิดกิจการหรือขายกิจการ

นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือ) กล่าวว่า ด้วยหลายปัจจัยคือ 1.การเข้มข้นและตรวจจับโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตอย่างจริงจังของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ทำให้โรงแรมหลายแห่งต้องหยุดให้บริการหรือปิดกิจการไป 2.นักท่องเที่ยวจีนในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์มีจำนวนลดลงอย่างมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว มีผลทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มระดับล่างและเป็นกลุ่มขนาดใหญ่อาจต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวทั้ง 2 ปัจจัยน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โรงแรมที่เปิดขึ้นมาเพื่อเน้นให้บริการนักท่องเที่ยวจีนต้องปิดกิจการลง เพราะเมื่อถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้มงวด ขณะที่ซัพพลายมีจำนวนมาก แต่ไม่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเฉพาะเข้ามาใช้บริการ จึงไม่สามารถแบกต้นทุนได้

นางละเอียดกล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวจีนในเชียงใหม่ไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่ที่มีจำนวนลดลงคือ กลุ่มทัวร์จีนที่มากับบริษัททัวร์ แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือ พฤติกรรมการท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไปมาก โดยนิยมเดินทางท่องเที่ยวเอง ออกแบบการเดินทางเอง จองที่พักเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มกำลังซื้อระดับกลาง-บนที่นิยมพักโรงแรม 5-6 ดาว กลุ่มนี้จึงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของโรงแรมทั่วไป

ห้องพักล้น-นักท่องเที่ยวหด

นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขยายตัว จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนแห่ลงทุนสร้างโรงแรมมากเกินความต้องการ ทำให้ในตลาดมีปริมาณห้องพักที่มากเกินความต้องการของตลาด หรือเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย

ปัจจัยที่ 2.สภาพตลาดห้องพักโรงแรมโอเวอร์ซัพพลายอยู่แล้ว เมื่อมาเจอกับสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ธุรกิจสะดุด เกิดปัญหากระแสเงินสดหมุนเวียน และ 3.ธุรกิจปรับตัวไม่ทัน เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น บวกกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจจำนวนมากปรับตัวตามไม่ทัน

“การบริหารธุรกิจโรงแรมวันนี้เปลี่ยนไปจาก 4-5 ปีก่อนอย่างมาก ทุกอย่างต้องเร็ว และขยับเข้าสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์มกันหมดแล้ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ธุรกิจในต่างจังหวัดยังปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก” นางสาวศุภวรรณกล่าว

ยอดประกาศขาย รร.พุ่ง 20%

นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล อดีตนายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย และประธานกรรมการ บริษัท ฟอร์เบสท์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ผู้ประกอบการบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศขายโรงแรมและรีสอร์ตในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ตผ่านทางเว็บไซต์ปัจจุบัน พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 20% หากเปรียบเทียบก่อนหน้านี้ สาเหตุหลักมองว่ามีผลจากปริมาณนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจาก 4 ปัจจัย คือ จากกรณีเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต ส่งผลต่อเนื่องให้นักลงทุนจีนและนักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาประเทศไทย และเรื่องเศรษฐกิจของประเทศจีนเองที่มีปัญหาชะลอตัว ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนมีความกังวลว่า ในอนาคตอาจมีการปล่อยขายโรงแรมและรีสอร์ตในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ส่วนผู้ประกอบการที่กำลังจะเริ่มลงทุนสร้างโครงการใหม่อาจชะลอตัวลง เนื่องจากที่ผ่านมาในตลาดมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะมีการนำคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์มาปล่อยเช่ารายวัน ทำให้มาแย่งกลุ่มลูกค้าของโรงแรม

ธุรกิจจีนชะลอลงทุนในภูเก็ต

นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด และบริษัท โบ๊ท แอสเซท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในเครือภูเก็ต โบ๊ท ลากูน ผู้ประกอบการธุรกิจมารีน่า โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จ.ภูเก็ต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศขายกิจการโรงแรม รีสอร์ตของภูเก็ตตามเว็บไซต์ซื้อขายต่าง ๆ คิดว่าเป็นกิจการของนักลงทุนไทยที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนทัวร์จีนที่หายไปประมาณ 50% ขณะที่นักท่องเที่ยวจีน FIT หายไปประมาณ 10% เพราะผู้ประกอบการไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ยสถาบันการเงิน จึงต้องหาทางขายธุรกิจ ในส่วนของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านมารีน่าและโรงแรมได้รับผลกระทบทำให้รายได้หายไปพอสมควร เพราะมีลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 20%

ส่วนบริษัท โบ๊ท แอสเซท แมนเนจเมนท์ ที่ทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ให้ลูกค้าที่ซื้ออาคารพาณิชย์ บ้าน ทาวน์เฮาส์ไปปล่อยเช่าต่อ ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนอย่างเห็นได้ชัดเจน หลังเกิดเหตุการณ์เรือล่ม 1 เดือน นักธุรกิจจีนมาเช่าอาคารพาณิชย์ไว้ทำสำนักงาน 4 ห้อง ก็ยุบสำนักงานเหลือ 1 ห้อง นอกจากนี้มีนักลงทุนจีนที่มาติดต่อจะเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อลงทุนเปิดร้านอาหารก็ชะลอแผนออกไปไม่มีกำหนด บางรายหายไปเลย

“ในส่วนธุรกิจมารีน่า ท่าเทียบเรือ ซึ่งมีนักธุรกิจจีนเช่าอาคารพาณิชย์ทำออฟฟิศ 3 แห่ง ตอนนี้เหลือเพียง 2 แห่ง เรือที่ให้บริการจากที่เคยสูงถึง 30 ลำเหลือแค่ 8 ลำ เพราะปริมาณทัวร์หายไป ส่งผลให้การลงทุนของนักธุรกิจจีนหายไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำลังประเมินว่า นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากน้อยเพียงใด ซึ่งคงต้องรอช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงหยุดเทศกาลตรุษจีน” นายบุญกล่าว

ธุรกิจท่องเที่ยวสำลักทัวร์จีนหาย

แหล่งข่าววงการธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่ง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากประเมินภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนย้อนหลังไป 10 ปีจะพบว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากประมาณ 8-9 แสนคนในปี 2551-2552 และปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเฉลี่ยปีละ 1-2 ล้านคนในช่วงปี 2554-2555 และที่ชัดเจนที่สุดคือในปี 2558 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านคน จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ทำให้บรรดานักลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แห่เข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวสำหรับตลาดจีน ทั้งร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงพวกการแสดงโชว์ต่าง ๆ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ ฯลฯ เกิดขึ้นตามมาอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนสะดุดและเกิดการชะลอตัว บวกกับการแข่งขันและสภาพตลาดที่เริ่มขยับเข้าสู่ตลาดคุณภาพจึงทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เริ่มประสบปัญหาตามมา

ทั้งนี้ จากรายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่านักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2553 อยู่ที่ 1.13 ล้านคน และปี 2558 อยู่ที่ 7.93 ล้านคน ปี 2559 จำนวน 8.77 ล้านคน และปี 2560 จำนวน 9.8 ล้านคน สำหรับปี 2561 โดยภาครัฐตั้งเป้าไว้ที่ 10.5 ล้านคน แต่เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 9.01 ล้านคน

โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 6.4 แสนคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว -19.8% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ในแง่เม็ดเงินรายได้อยู่ที่ 3.45 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว -16.59%


https://www.prachachat.net/property...Pw33eZSdEIVhSByw8GyHnlKEprr2n776RTIgsT0ZM6t2E

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Nov 28) รองประธานเฟดย้ำถึงความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเร็วหรือช้าเกินไป ขณะที่ท่านอื่นมองความท้าทายในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดคือความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ : นาย Richard Clarida, Federal Reserve Vice Chairman กล่าวสุนทรพจน์ให้การสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของระดับ neutral rate โดยมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวในทิศทางที่ดี ท่ามกลางภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งระบุว่ายังคงมีโอกาสที่ labor participation rate ในกลุ่มแรงงานประเภท prime-age จะปรับสูงขึ้นได้อีก ขณะที่ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อนั้น นาย Clarida ระบุว่าตลาด TIPS สะท้อนให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ที่ยังคงต่ำกว่าร้อยละ 2 พร้อมทั้งระบุว่าตนพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อการดำเนินนโยบายหากอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย

นอกจากนี้ นาย Clarida เน้นย้ำถึงความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วหรือช้าเกินไป โดยความเสี่ยงในภาพรวมนั้น “less skewed to downside” เมื่อเทียบกับ 3 ปี ก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ยังมีความต้องการที่จะเห็น Capital Expenditure ฟื้นตัวจากไตรมาส 3

ด้านนาย James Bulllard, Federal Reserve Bank of St. Louis President ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ระบุว่าความท้าทายในการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะต่อไป เนื่องจากตนเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเกิดการชะลอตัวในปี 2019 ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจยากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหากระดับ potential growth อยู่ที่ร้อยละ 1.8 ตามที่ได้มีการประมาณการไว้จริง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับดังกล่าวในที่สุด
ขณะที่นาย Charles Evans, Federal Reserve Bank of Chicago President นาย Raphael Bostic Federal Reserve Bank of Atlanta President และนาง Esther George, Federal Reserve Bank of Kansas City President ได้ขึ้นร่วมเสวนาร่วมกัน ณ เมืองนิวยอร์ก โดยนาย Evans กล่าวว่าตัวเลขเศรษฐกิจชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนยังคงประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ ในส่วนของนาย Bostic ระบุว่าเมืองใหญ่ในภูมิภาคของตนนั้นกำลังอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่ยังประสบปัญหา สำหรับนาง George ระบุว่าธุรกิจส่วนใหญ่ในพื้นที่ของตนกำลังดำเนินไปได้ดี ยกเว้นภาคการเกษตร และบางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นความขัดแย้งด้านนโยบายการค้า

Source: BOTSS

- Fed Vice Chairman Clarida Backs Gradual Rate Hikes: https://www.bloomberg.com/news/arti...zH-8UseFfPb-QAv-m_xKilshCVfujW23muM_GGL6Pjxmg

- Fed's Bullard: 'cracks' in growth may shape Fed 2019 debate: https://www.reuters.com/article/us-...XRN2L5F6C3RUnkp1uWkX0lc1bd44Xuvo3w7misj7ZdsW0

- Fed’s Evans Says Time to Get Back Toward More Normal Interest-Rate Levels:
https://www.wsj.com/articles/feds-e...OFqFOjLOU5tzsPRmJeCl4acnA8nphQ2ViNDu2zp5Y1tCg

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว ครบวงจรที่แท้ทรู!!! ครบแบบไม่ขอแบ่งใครเลยจริงๆ กับ #บริการสุดเซอร์ไพรส์ล่าสุด จาก 7-Eleven ยุค 2018 ร้านสะดวกซื้อที่ในปัจจุบันมีกว่า 10,300 สาขาทั่วประเทศ #ตอบสนองแทบทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคนี้ได้อย่างครอบคลุม

#หากมองในแง่ดี ถือว่าการเพิ่มการให้บริการที่มากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป #เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย รวมทั้งเจ้าของกิจการต่างๆ ก็จะได้ตื่นตัวให้หนีพ้นจากการถูก #กินรวบ เร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการของตนเองให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน #สู้ไหวไหมพี่น้อง

Source : thaiquote - https://bit.ly/2DX3iAL

▪️ #ร้านกาแฟสด
หลังจากขายแค่กาแฟเย็นแบบสำเร็จรูป คือหยิบแก้วพลาสติกไปกดจากเครื่องและกาแฟชงทรีอินวันมานาน 7-Eleven ก็ตัดสินใจเปิด All Café มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกมากมายทั้งร้องและเย็น แถมราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 25 บาทเท่านั้น

▪️ #อาหารตามสั่งปรุงสด
7-Eleven เพิ่มบริการอาหารตามสั่งปรุงสดที่เรียกว่า All Meal เข้าไปเป็นหนึ่งในงานบริการล่าสุด โดยนำเสนอเมนูง่ายๆ อย่างเมนูข้าวหน้าต่างๆ โจ๊ก ข้าวต้ม ไปจนถึงอาหารกินเล่นจำพวกของทอดและของหวาน ซึ่งในหลายๆ สาขาบริการเต็มร้อยถึงขนาดทำโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกินได้แบบสะดวกสบายกันเลยทีเดียว

▪️ #ส่งพัสดุ
ในยุคที่อีคอมเมิร์ซกำลังบูม แน่นอนว่า 7-Eleven ย่อมไม่พลาดที่จะดึงบริการนี้เข้ามา แค่เลือกซื้อกล่องไปรษณีย์ขนาดที่ต้องการ (ใน 7-Eleven เองก็มีขาย) แพ็กของ เขียนที่อยู่ แล้วส่งให้ที่เคาน์เตอร์ในราคาแบบเหมากล่อง ไม่ต้องชั่งน้ำหนักให้ยุ่งยาก บริการนี้มีประมาณ 45 สาขาในกรุงเทพฯและกำลังจะขยายไปในอนาคต

▪️ #ร้านขายยา
ปกติ 7-Eleven จะมีการขายยาอยู่แล้ว แต่ในบางสาขามีการยกระดับเป็น ร้าน Extra Plus ชูจุดเด่นคือมีเภสัชกรประจำและสามารถขายยาอันตรายได้ ซึ่งมีทั้งสิ้น 150 สาขา จากประมาณ 10,300 สาขาทั่วประเทศ

▪️ #ซื้อพรบ. + #ต่อทะเบียนรถ
อำนวยความสะดวกขั้นสุด ไม่ต้องไปที่ขนส่งให้เสียเวลาเพื่อต่อ พรบ.รถ แค่มีบัตรประชาชนและเล่มทะเบียนรถก็สามารถต่อทะเบียนและซื้อ พรบ.ผ่านบริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ใน 7-Eleven โดยสามารถทำได้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์

▪️ #ซักอบรีด
CP All จับมือกับมืออาชีพในวงการซักอบรีด บริษัท CLEANMATE ซึ่งถือเป็นไอเท็มใหม่ของ 7-Eleven ที่กล้ามากๆ ถึงจะยังมีแค่ไม่กี่สาขา แต่ดูแล้วมีแนวโน้มที่ดีอย่างแน่นอน

▪️ #ถ่ายเอกสารและปรินต์รูปภาพ
บริการนี้เริ่มมีพบเห็นใน 7-Eleven หลายสาขาที่ใกล้โรงเรียนและมหาวิทยาลัย นอกจากถ่ายเอกสารแล้วยังสามารถปรินต์รูปภาพผ่านโทรศัพท์และ SD Card ได้ด้วย

▪️ #ตัวแทนธนาคาร
Banking Agent คือการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เลือกให้กิจการของเอกชนที่ไม่ใช่สาขาของธนาคารนั้นๆ เช่น 7-Eleven ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมการเงิน และนิติบุคคลบางประเภทเท่านั้น โดยในอนาคตมีความเป็นได้สูงที่ 7-Eleven จะพัฒนาให้มีสถานะเป็นธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ

▪️ #ขายโทรศัพท์มือถือ
เซอร์ไพรส์สุดๆ สำหรับบริการนี้ บูธสมาร์ทโฟนในร้านสะดวกซื้อ เรียกได้ว่าไม่ต้องไปห้างให้เสียเวลา โดยเปิดนำร่องไปแล้วที่สาขาแยกโรงเรียนเทศบาล 2 แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา

... ต้องรอดูว่า ปี 2019 เจ้าสัวซีพีจะมอบบริการสุดเซอร์ไพรส์อะไรใน 7-Eleven อีก #รอชื่นชมค่ะ.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว น่ายินดี!!! เนื่องใน #วันสิ่งแวดล้อมไทย ทุกภาคส่วนต่างตื่นตัวขานรับให้ความสำคัญกับการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด #เทสโก้โลตัส หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของธุรกิจค้าปลีก #ได้ประกาศทดลองนำถุงกระดาษมาใช้ #งดให้ถุงหูหิ้วพลาสติกที่ร้านค้าทุกรูปแบบและทุกสาขาในประเทศไทย (มีอยู่ราว 2,000 สาขา) ในวันสิ่งแวดล้อมไทย คือวันที่ 4 ธ.ค.ที่จะถึงนี้

ร่วมมือกับ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง #เอสซีจี ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ครบวงจร #นำกล่องกระดาษใช้งานแล้วในธุรกิจของเทสโก้โลตัสมารีไซเคิลเป็นถุงกระดาษใหม่ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าแทนการใช้ถุงพลาสติก#เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ถุงพลาสติก รวมถึงมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

Source : marketingoops -https://bit.ly/2zsNUYJ

อนึ่ง ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา #สามารถลดถุงพลาสติกไปได้แล้วอย่างน้อย100ล้านใบ ซึ่งทางเทสโก้ โลตัสได้เพิ่มความเข้มข้นของการรณรงค์ขึ้นทุกปี และเมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เพิ่มแต้มกรีนพ้อยท์ 5 เท่า จากเดิม 20 แต้มเป็น 100 แต้มทุกวัน ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่ไม่รับถุงพลาสติกเพิ่มขึ้นถึง 70%.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว แก้ปัญหาให้ได้!!! นายกคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เผยชัด #โรงเรียนเอกชนจ่ายเงินเดือนครูไม่เต็มวุฒิสวัสดิการไม่เพียงพอ (ได้ต่ำกว่าอัตราที่กำหนดคือ 15,000 บาทต่อเดือน) เร่งสำรวจและหาทางแก้ไข

#สาเหตุที่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครออกมาโวยเพราะเป็นการสมยอมระหว่างครูกับโรงเรียน อย่างน้อยโรงเรียนก็อยู่ได้ ครูก็มีงานทำ ซึ่งตามระเบียบก็ถือว่าไม่ถูกต้อง โดยที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามีโรงเรียนหลายแห่งแม้ว่าจะได้รับเงินอุดหนุนไม่เพียงพอ-ไม่ถึงจุดคุ้มทุน แต่ก็จ่ายเงินเดือนครูตามวุฒิ ซึ่งโรงเรียนนั้นๆ #หาทางออกโดยการกู้หนี้ยืมสินมาจ่าย

Source : https://www.thaipost.net/main/detail/22386 // https://mgronline.com/qol/detail/9610000115158

โดยเรื่องนี้ ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกฯ ส.ปส.กช.เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรณีปัญหาโรงเรียนเอกชนจ่ายเงินเดือนครูไม่เต็มตามวุฒิ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 30-40% ของจำนวนครู โดยขณะนี้ทาง สช. ศธจ.และ ส.ปส.กช.ได้ร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาโดยกำลังสำรวจข้อมูลที่ชัดเจนอยู่ เพราะจากข้อมูล #จุดคุ้มทุนของโรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุนต้องมีนักเรียนไม่น้อยกว่า340คน เนื่องจากตามระเบียบโรงเรียนเอกชนต้องมีครูครบชั้น เพราะฉะนั้น #ถ้านักเรียนน้อยกว่านี้เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้จะไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินเดือนครูให้ได้ตามวุฒิ

"โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ได้ปัจจุบันมีโรงเรียนเอกชนทั้งหมดกว่า 4,000 โรง แต่มีโรงเรียนที่รับเงินอุดหนุนที่มีเด็กไม่ถึงจุดคุ้มทุนประมาณ 50% หรือประมาณ 2,000 โรง #ไม่ได้หมายความว่าทุกโรงจะประสบปัญหา เพราะครึ่งหนึ่งในจำนวน 2,000 โรงนี้ยังสามารถเก็บเงินค่าเทอมได้ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนของรัฐในการจ่ายเงินเดือนครู" ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว

ด้าน นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงสวัสดิการครูโรงเรียนเอกชนด้วย เนื่องจากขณะนี้ #เงินกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนมีไม่เพียงพอต่อการจัดสวัสดิการให้แก่ครูเอกชน เพราะมีทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร เนื่องจากปัจจุบันสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของครูเอกชนได้สิทธิคนละ 1 แสนบาทต่อคนต่อปี ดังนั้น ตนจะประสานเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา #เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป.