ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้

    IMG_5269.JPG IMG_5270.JPG
    เดือนก่อนแอดโพสรูปจรวดของกลุ่มแนวร่วมฯ หลายคนบอกว่ามั่ว ความจริงก็ตามข่าวนี้ครับ เขากำลังพัฒนาจรวดระยะไกล


    นายซาการียา อาแว ถูกเรียกชื่อ “เปาะยาบูเก็ตซูดอ” หรือ “เปาะยาเทือกเขาซูดอ” เป็นภูเขาอีกลูกหนึ่งนอกเหนือจากเขาบูโด ที่อยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความห้าวหาญ กล้าหาญในการสู้รบ ในระหว่างที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธของขบวนการพูโล


    ปัจจุบันขบวนการพูโลได้มีการพัฒนาอาวุธจรวดเพื่อเตรียมการเดินหน้าต่อสู้เพื่อปลดปล่อยปัตตานีตามอุดมคติ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเจรจาว่ามีความชัดเจนในส่วนไหนบ้าง ความจริงใจเกิดขึ้นหลังจากการตกลงมากน้อยแค่ไหนอย่างไร สำหรับการพัฒนาอาวุธในคราวนี้ มาจากสมาชิกที่ได้รับการฝึกฝนจากตะวันออกกลางจนสำเร็จ และได้ใบประกาศเกียรตินิยมอันดับ 1 อีกด้วย และอาวุธเหล่านี้เคยลองใช้ยิงจริงในพื้นที่เขต อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มาก่อนหน้านี้แล้ว


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Nov 22) ธปท.จับตาเศรษฐกิจไทยปี 62 ผลกระทบสงครามการค้า-ดอกเบี้ยขึ้น : ผู้ว่าการ ธปท.ชี้จับตาเศรษฐกิจไทยปี 62 ถูกกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และแนวโน้มดอกเบี้ยโลกปรับขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่ถึงร้อยละ 4.5


    ในงานสัมมนาประจำปีเป็นครั้งที่ 31 ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการรวบรวมนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ มาร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ในหัวข้อ "ยุคปฏิวัติข้อมูลและเทคโนโลยี กับก้าวต่อไปของประเทศไทย" นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเฝ้าระวังจากบรรยากาศเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีทิศทางรุนแรงขึ้น แม้ว่าตัวเลขมูลค่าการส่งออกตลาดเอเชีย อาจจะไม่ได้ลดลงมาก เนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้ามาเเล้วล่วงหน้า แต่ผลกระทบจะเห็นอย่างชัดเจนต้นปี 2562 ซึ่งผลที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยมีทั้งผลบวกและผลลบ เพราะเมื่อสหรัฐอเมริกาตั้งกำแพงภาษีสินค้าสูงขึ้น ผลลบจะเกิดขึ้นกับสินค้าจีน เช่น เหล็ก อลูมิเนียม จะส่งไปขายที่สหรัฐไม่ได้ จำเป็นต้องหาตลาดใหม่ด้วยการกระจายแหล่งผลิตไปประเทศอื่น ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อไทย โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี


    ส่วนภาคตลาดเงินตลาดทุน ผู้ประกอบการจะต้องมีการบริหารสภาพคล่องและต้นทุนการทำธุรกิจให้ดี เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกที่เติบโตนั้นมาจากการก่อหนี้ที่สูง ทั้งภาครัฐและเอกชน และตอนนี้ธนาคารกลางประเทศหลัก เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ได้เริ่มส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบปกติแล้ว ส่งผลให้ดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังคงเข้มแข็ง มีกันชนที่ดี ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง การก่อหนี้ต่างประเทศต่ำ ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่ยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบาย


    นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตรชัย ผู้ช่วยกรรมการการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องขึ้นอย่างชัดเจนใกล้ร้อยละ 3 จากปัจจุบันร้อยละ 2.25 โดยคาดว่าจะปรับขึ้น 3 - 4 ครั้ง ภายใน 12 เดือน ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ มีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาใกล้ชิด คือ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ว่าจะมีการเจรจาเพื่อหาข้อยุติหรือไม่ ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบบริษัทใหญ่ ๆ ที่กำลังจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตอย่างแน่นอน ส่วนเศรษฐกิจไทยที่เติบโตชะลอลงในไตรมาส 3 ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลมาจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เติบโตชะลอลง จึงมองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะเติบโตได้ที่ร้อยละ 4 เล็กน้อย สวนทางกับที่ธนาคารโลกประเมินไว้ว่าไทยจะโตได้ร้อยละ 4.5


    Source: สำนักข่าวไทย


    https://www.tnamcot.com/view/5bf63684e3f8e4e9020d965b
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_5271.JPG
    (Nov 22) ท่องเที่ยววูบรอบ10เดือนลุ้นส่งออก2เดือนเข้าเป้า: "พาณิชย์"ใจชื้นกัดฟันคงเป้าส่งออก ปีนี้ 8% หลังตัวเลขส่งออกต.ค.พลิกกลับเป็นบวก 8.7% เห็นสัญญาณสั่งซื้อปลายปีคึก ลุ้น 2 เดือนสุดท้ายส่งออกต่อเดือน 22,000 ล้านดอลลาร์ ขณะภาพรวมท่องเที่ยวต.ค.วูบครั้งแรกรอบ10เดือน ผลพวงนักท่องเที่ยวจีนยังทรุดต่อเป็นเดือนที่ 4 ปลัดท่องเที่ยว หวั่นรายได้ต่างชาติปีนี้ วืดเป้า 2 ล้านล้าน เหตุต้องดันรายได้อีกถึง 3.7 แสนล้าน

    ภาคการส่งออกและท่องเที่ยว เป็นสองภาคส่วนหลักในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทย มีลุ้นว่าปีนี้ การเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ หลังการส่งออกในเดือนก.ย.ติดลบ 5.2%ถือเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 19 เดือน ผสมโรงด้วยภาคการท่องเที่ยวถูกท้าทายโดยจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทยทรุดต่อเนื่องหลังเกิดเหตุการณ์เรือล่ม ที่จ.ภูเก็ตเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเหตุผลหลักฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ในไตรมาส 3 โต 3.3% ต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส

    นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ต.ค.2561 พบว่า การส่งออกไทยกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหลังจากติดลบในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

    โดยการส่งออกเดือน ต.ค.นี้ มีมูลค่า 21,758 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวที่ 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำยังขยายตัว 4.7% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 22,037 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.23% ส่งผลให้ การค้าขาดดุลอยู่ที่ 280 ล้านดอลลาร์

    ทั้งนี้ การส่งออกในรอบ 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.2561) มีมูลค่า 211,488 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.2% การนำเข้า มีมูลค่า 208,929 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.8% และเกินดุลการค้า 2,559 ล้านดอลลาร์

    สินค้าเกษตรหลายรายการฟื้น

    สำหรับปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การส่งออกเดือน ต.ค.2561 มาจากราคาน้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตรหลายรายการกลับมาขยายตัว ประกอบกับการส่งออกทุกตลาดขยายตัวดี โดยเฉพาะตลาดเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และกลุ่ม CLMV ที่ขยายตัวระดับสูง ต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดสหรัฐและจีน กลับมาขยายตัวได้หลังจากหดตัวเล็กน้อยในเดือนก่อนหน้า

    นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์การ ส่งออกปีนี้ขยายตัว 8% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะยอดสั่งซื้อสินค้า 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ส่งสัญญาณบวก ประกอบกับความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียน และ CLMV จะยังเข้าหนุนการค้า อีกทั้งช่วงที่การค้าโลกยังมีความผันผวน หลายประเทศหาแหล่งสินค้าใหม่ทดแทนจีน ทำให้ไทยต้องใช้ประโยชน์นี้เพิ่มการส่งออกมากขึ้น

    ลุ้นส่งออก2เดือนสุดท้ายเข้าเป้า

    "หากจะผลักดันเป้าส่งออก ขยายตัว 8% ตามที่ตั้งไว้ต้องส่งออก เฉลี่ย 22,039 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 2 เดือนที่เหลือนี้ ซึ่งยอมรับว่ายากแต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ โดยสิ่งที่กังวล คือราคาน้ำมันที่ลดลงจาก 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจทำให้มูลค่าสินค้าลดลง เช่น น้ำมัน เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก แต่ถ้าช่วงที่เหลือผลักดันมูลค่าส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์ จะทำให้ส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 7.5%"

    นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมกลยุทธ์และแนวทางการส่งเสริมการส่งออก การค้า และการลงทุนของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ไว้แล้ว รวมทั้งเตรียมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อประเมินผลกระทบและรับมือสงครามการค้า พร้อมวางยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2562 พบว่าเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวด้านการลงทุน ซึ่งสะท้อนจากตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่ลดลง

    สรท.มั่นใจเป้าส่งออก8%

    นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือน ต.ค.2561 ที่ขยายตัว 8.7% ทำให้มีความมั่นใจว่าการส่งออกรวมปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะขยายตัว 8% โดยการส่งออกในเดือน ต.ค.ที่มีมูลค่า 21,757 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อหักการส่งออกทองคำออกไปยังทำให้การ ส่งออกขยายตัวได้ 7% ก็ถือเป็นระดับที่น่าพอใจ รวมทั้งได้ปัจจัยบวกจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่มีราคาดีขึ้น รวมทั้งได้ปัจจัยการสั่งซื้อสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่

    นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สถานการณ์สงครามการค้าทำให้สหรัฐและจีนมีการนำเข้าสินค้าในช่วงนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกของไทยที่มี คำสั่งซื้อสินค้า เพื่อนำไปสต็อกก่อนที่ ทั้ง 2 ฝ่ายจะขึ้นภาษีนำเข้าอีก

    ภาพรวมท่องเที่ยวต.ค.วูบครั้งแรก

    นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวในเดือน ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติรวม 2,712,033 คน หดตัว 0.51% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการติดลบครั้งแรกของปีนี้เป็นผลจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนในเดือน ต.ค. ที่ลดลงถึง 19.8% มีจำนวน 646,143 คน ส่วนรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเฉพาะเดือน ต.ค. อยู่ที่ 141,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.66%

    โดยเมื่อดูภาพรวมสถานการณ์ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) พบว่ามียอดสะสมนักท่องเที่ยวต่างชาติ เที่ยวไทยแล้ว 31,253,920 คน เพิ่มขึ้น 7.84% เป็นนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากที่สุด 9.02 ล้านคน รองลงมาคือมาเลเซีย 3.18 ล้านคน, เกาหลีใต้ 1.47 ล้านคน, สปป.ลาว 1.45 ล้านคน และญี่ปุ่น 1.35 ล้านคน

    หวั่นรายได้พลาดเป้า2ล้านล้าน

    ขณะที่รายได้การท่องเที่ยวจากตลาดชาวต่างชาติในช่วง 10 เดือนแรก อยู่ที่ 1.63 ล้านล้านบาท แม้จะเพิ่มขึ้น 9.98% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่จุดที่น่ากังวลคือรายได้จาก นักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ อาจไปไม่ถึงเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท เพราะเท่ากับว่าจะต้องทำรายได้ในช่วง 2 เดือน สุดท้ายของปีนี้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3.7 แสน ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละเกือบ 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายมาก เพราะปกติรายได้จากนักท่องเที่ยว ต่างชาติในแต่ละเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท

    "ยิ่งเห็นผลสำรวจอัตราการจองที่พักล่วงหน้าซึ่งกระทรวงการ ท่องเที่ยวฯได้สำรวจตั้งแต่เดือนก.ย. ที่ผ่านมา ไปยังอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่าอัตราการจองที่พักล่วงหน้าในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 27.98% มีอัตราติดลบ 0.93% จากช่วงเดียวกันของ ปีที่แล้ว จึงมองว่าการไปถึงเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวจากตลาดต่างชาติที่ 2 ล้านล้านบาทนั้นดูเป็นไปได้ยาก"

    ด้านสถานการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยภายในประเทศเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีชาวไทยเที่ยวในประเทศ 13.44 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2.46% สร้างรายได้ 93,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% และเมื่อรวม 9 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย.2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวไทย 114.82 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.93% สร้างรายได้ 787,971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.55% โดยมองว่าตลาดไทยเที่ยวไทยปีนี้ น่าจะถึงเป้าหมายรายได้ 1 ล้านล้านบาทอย่างไม่น่ามีปัญหา

    1-20พ.ย.ต่างชาติมาไทยเพิ่ม0.52%

    นายพงษ์ภาณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1-20 พ.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติมาไทยแล้ว 2,080,825 คน เพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และหลังจากรัฐบาลประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa On Arrival (VoA) ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าตัวเลขในช่วง 5 วันแรก (ถึง วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา) มีจำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 6.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 6.55% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    เมื่อลงลึกเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน พบว่าตั้งแต่วันที่ 1-20 พ.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวน 441,978 คน ติดลบ 17.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในช่วงวันที่ 1-14 พ.ย. ติดลบ 21.44% ส่วนตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.เป็นต้นมา ยังไม่เห็นการกลับมาชัดเจน แต่พบว่าติดลบน้อยลง ลดลง 10% เท่ากับว่ามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VoA นี้มีผลในระดับหนึ่ง

    เอกชนคาดท่องเที่ยวพ.ย.เริ่มฟื้น

    ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า เนื่องจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VoA เพิ่งประกาศและมีผลบังคับใช้ทันที จึงคาดการณ์ว่าเดือน พ.ย.นี้ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเพิ่งจะกลับมา หากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเดือน พ.ย.ยังติดลบ ก็ประเมินว่าเป็นการติดลบน้อยลง และจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งมีโอกาสกลับมาดีใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

    "ขณะนี้ผู้ประกอบการฝั่งจีนออกโปรแกรมส่งเสริมการขายและโฆษณาแพ็คเกจทัวร์มาไทยแล้ว มีการจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมวางเงินมัดจำโรงแรมมากขึ้น และตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไป เริ่มเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) มากขึ้น เพื่อรองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางตั้งแต่ช่วงปลายปียาวไปถึงเทศกาลตรุษจีน ก.พ.ปีหน้า พร้อมมองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่จำนวน 38 ล้านคน และทำรายได้ถึง 2 ล้านล้านบาท"

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ให้รอดูเมื่อถึงเวลา ว่าจะทำยังไง แต่มาพูดเผื่อแบบนี้ แสดงว่าดอกเบี้ยขึ้นแน่นอน

    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_5272.JPG
    (Nov 22) ผู้ว่า ธปท.มองหาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แบงก์พาณิชย์ไม่จำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นตามทันทีเหตุสภาพคล่องยังสูง : นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นว่า หากจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ก็ไม่มีแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามในทันที โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เนื่องจากมองว่าขณะนี้ในระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสภาพคล่องอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ประกอบกับในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารพาณิชย์สามารถทำกำไรได้ดีกว่าอยู่แล้ว

    "เชื่อมั่นว่าสภาพคล่องที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับเร็ว แม้ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

    พร้อมระบุว่า อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินไทยนั้น ไม่ควรจะเกิดผลกระทบหรือมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เนื่องจากสภาพคล่องในระบบการเงินไทยยังอยู่ในระดับสูง เพราะแม้อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินโลกได้ปรับขึ้นไปสูงค่อนข้างมาก และหลายประเทศเพื่อนบ้านได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปแล้วก็ตาม แต่อัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรของไทยไม่ได้ขึ้นไปเร็วมาก เนื่องจากไทยพึ่งพิงสภาพคล่องในประเทศเป็นหลัก และไม่มีปัญหาเสถียรภาพด้านต่างประเทศเหมือนเช่นประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ซึ่งไทยมีกันชนรองรับแรงปะทะที่จะมาจากภายนอกได้ดีกว่า

    อย่างไรก็ดี แม้ขณะนี้ ธปท.จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่อัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรได้ปรับขึ้นไปบ้างแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินตลาดทุนโลกที่ขยับขึ้น ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรปรับสูงขึ้น ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะแข่งกันปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายใหญ่ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้ารายใหญ่ค่อนข้างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีลูกค้ารายใหญ่บางส่วนกลับมากู้แบงก์มากขึ้น

    "ในช่วงที่สภาพคล่องยังสูงอยู่นี้ ความจำเป็นในการรีบปรับอัตราดอกเบี้ยหลักๆ หรืออัตราดอกเบี้ยพื้นฐานจึงไม่มีความจำเป็น ไม่มีแรงกดดันให้สถาบันการเงินต้องเร่งปรับดอกเบี้ย พวก MLR หรือ MOR เพราะมองอีกข้างหนึ่ง เขาก็ได้อานิสงส์จากการแข่งขันที่ลดลงสำหรับลูกค้ารายใหญ่ ที่เมื่อก่อนอาจต้องไปแข่งกับตลาดพันธบัตรที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ส่วนอีกข้างคือสภาพคล่องในระบบการเงินไทยยังค่อนข้างสูง และเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น แบงก์ก็มีความสามารถในการทำกำไรได้ดีกว่า เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากใช้เวลานาน แต่การปล่อยกู้ เขาจะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นทันที" นายวิรไทกล่าว

    พร้อมย้ำว่า การทำนโยบายการเงินของ ธปท.ต้องประเมินสถานการณ์อยู่ตลอด โดยมีการคาดการณ์ไปในอนาคต และชั่งน้ำหนักในปัจจัยที่สำคัญ 4 ด้าน คือ 1.พัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ 2.ความเข้มแข็งในการขยายตัวของเศรษฐกิจ 3.เสถียรภาพของระบบการเงิน 4.ความสามารถในการทำนโยบายในอนาคต

    "เราต้องมองไกล ถึงประเด็นความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดจุดเปราะบางกับเศรษฐกิจไทย ในการประชุม กนง.ครั้งล่าสุด แม้จะมีกรรมการที่เห็นควรให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 3 เสียง แต่อีก 4 เสียงเห็นควรให้คงดอกเบี้ยนั้น แต่ทุกคนยังเห็นตรงกันว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังจำเป็นสำหรับประเทศไทย แต่ระดับการผ่อนคลายที่มากเป็นพิเศษแบบที่เคยเป็นมา อาจจะลดความจำเป็นลง เราต้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้เศรษฐกิจหลายตัวยังมีโมเมนตัมการขยายตัวได้ดี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกประเทศ เช่น สงครามการค้า การส่งออก และการท่องเที่ยว" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

    ขณะเดียวกัน การที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำเป็นเวลานาน และต่ำมากเป็นพิเศษ ย่อมจะทำให้เกิดจุดเปราะบาง และส่งผลข้างเคียงต่อระบบการเงินไทยได้ ดังนั้นแนวทางการตัดสินนโยบายของ ธปท.ยังยึดหลัก Data Dependent คือต้องประเมินสถานการณ์ และบริบท รวมทั้งข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดในการตัดสินนโยบายแต่ละครั้ง

    "บางครั้งมีข่าวที่อาจทำให้เข้าใจผิด ว่าแบงก์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ย และต้องขึ้นต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการประชุม อันนั้นไม่ใช่ เพราะการตัดสินใจของเรา คือใช้หลัก data dependent ทุกครั้งที่มีการประชุม เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ไม่ได้หมายความว่าเมื่อขึ้นแล้ว จะต้องขึ้นต่อทุกครั้ง" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

    Source: อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา
    ภาพ ธปท.
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... แค่การกระพริบตา ทัองฟ้าซิดนีย์เปลี่ยนเป็นสีส้มเนื่องจากพายุทรายที่กระแทกวันนี้


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝันดีครับ
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Prachachat - ประชาชาติ


    ดอลลาร์ถูกเทขาย หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟป่าแคลิฟอร์เนียยังไม่ดับ!

    ไฟวูลซี่ถูกจำกัดวง 100 % และไฟค่าย ถูกจำกัดวง 80 %

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2018
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Nov 22) หนี้กยศ.ท่วมสหรัฐ บลูมเบิร์กทุ่มช่วย : ไมเคิล บลูมเบิร์ก บริจาค เงินก้อนใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ 1,800 ล้าน ดอลลาร์ เป็นทุนการศึกษาให้มหาวิทยาลัย จอห์นส ฮอปกินส์ ตอกย้ำปัญหาหนี้ กยศ. สหรัฐ ที่ผู้กู้ต้องแบกรับไปอีกหลายปี หลังเรียนจบ



    นายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายก เทศมนตรีนครนิวยอร์ก บริจาคเงิน 1,800 ล้านดอลลาร์ให้กับมหาวิทยาลัย จอห์นส ฮอปกินส์ สถาบันเก่าที่เคยเรียน ไว้สำหรับช่วยเหลือนักศึกษารายได้ต่ำ- ปานกลางให้ได้เรียนหนังสือ ในประเทศ อย่างสหรัฐที่ค่าเทอมมหาวิทยาลัย ชื่อดังสูงกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี จนหลายครอบครัวไม่มีปัญญาส่งเสีย บุตรหลาน



    ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เขียนเรื่องการบริจาคในหน้าตรงข้าม บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ระบุ ตนโชคดีที่พ่อเป็นพนักงาน บัญชีมีรายได้ไม่เกินปีละ 6,000 ดอลลาร์ แต่ได้เรียนที่จอห์นส ฮอปกินส์ ด้วยเงินทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาและ ทำงานระหว่างเรียน



    นายโรนัลด์ แดเนียลส์ ประธาน มหาวิทยาลัยกล่าวว่า เงินบริจาคก้อนนี้ ที่เชื่อกันว่ามากที่สุดเท่าที่จอห์นส ฮอปกินส์เคยได้รับ เป็นหลักประกันว่า มหาวิทยาลัยจะรับนักศึกษารายได้น้อย ที่เพิ่งได้เรียนระดับปริญญาคนแรก ของครอบครัวได้มากขึ้น ช่วยให้พวกเขา เข้าถึงประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย ได้ทุกมิติ



    ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการระบุว่า เมื่อสิ้นเดือน มิ.ย.ชาวอเมริกัน 42.2 ล้านคน ต้องใช้หนี้ กยศ.ยอดรวมเกือบ 1.5 ล้านล้าน ดอลลาร์ เป็นหนี้ก้อนใหญ่สุดรองจากหนี้บ้าน



    ส่วนนักศึกษาจอห์นส ฮอปกินส์ปัจจุบัน 44% จบการศึกษาพร้อมหนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว ต้องแบกหนี้กว่า 24,000 ดอลลาร์ต่อคน



    นางสาวแซนดี บาม อาจารย์สถาบันเมือง เผยว่า สิ่งที่นายบลูมเบิร์กมอบให้ ถือเป็น หยดน้ำในทะเล ถ้าเขาให้เงินปรับปรุงคุณภาพ การศึกษาแก่นักศึกษาทั่วไปที่ขาดแคลนเงินทุน แทนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน ชั้นนำจะได้ผลมากกว่านี้



    คณะกรรมการมหาวิทยาลัยประเมินว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับการเรียนมหาวิทยาลัย เอกชน 4 ปี อยู่ที่ 24,740 ดอลลาร์ ไม่รวมค่า หอพัก ค่าใช้จ่ายส่วนตัว นักศึกษาส่วนใหญ่ กู้ยืมจากรัฐบาลกลางหรือธนาคารเอกชน และ บางคนโดยเฉพาะที่ไม่ได้ร่ำรวย ต้องตกอยู่ใน วงจรหนี้สินไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ จึงไม่สามารถทำบัตรเครดิต ไม่มีเงินเช่าบ้าน หรือซื้อรถ เมื่อเร็วๆ นี้มีรายการโทรทัศน์ "เกมปลดหนี้" ผู้ชนะได้เงินไปชำระหนี้ กยศ.



    ปัญหานี้สร้างความกังวลไปทั่ว ไม่เว้น แม้แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟดเคยเตือนเมื่อ เดือน มี.ค.ว่า หนี้นักศึกษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ก้อนโตขึ้นทุกที ซึ่งจะฉุดรั้งการขยายตัว ทางเศรษฐกิจ



    ด้านนางสาวโจแอนนา ดาร์คัส ทนายความกลุ่มคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค "เอ็นซีแอลซี" ระบุว่า เงินบริจาคจำเป็นมาก สำหรับระบบเงินทุนการศึกษาที่พังทลาย เพราะหนี้สิน การลดค่าใช้จ่ายให้นักศึกษา ที่มีรายได้น้อยเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง การมี หนี้สินจะยิ่งเพิ่มช่องว่างระหว่างคนรวย กับคนจน


    Source: กรุงเทพธุรกิจ


    https://www.cnbc.com/2018/11/20/mic...int8-billion-to-johns-hopkins-university.html
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การควบคุมแคมป์ไฟเพิ่มขึ้นเป็น 90 เปอร์เซ็นต์

    E37EEF27-8ADB-4801-8483-619107747F87.jpeg 57F04024-F6E4-4670-A712-EB7C3FE444EE.jpeg
    ไฟป่าที่เรียกว่า แคมป์ไฟได้ลุกไหม้ ไปมากกว่า 153,000 เอเคอร์ และมีสัดส่วน 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี


    ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 83 คน ในวันพุธหลังจากที่มีการค้นพบศพอีก 2 ศพนาย Butte County นายอำเภอกล่าว


    ไฟป่าที่เริ่มเกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้แผ่ซ่านบริเวณที่มีขนาดประมาณชิคาโก เผาบ้านเรือนมากกว่า 13,000 หลัง และสังหารคน อย่างน้อย 83 คน โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน


    มีคนนับร้อยคนที่ยังไม่รู้จัก - รายการที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและกระจายความสับสนเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่สุด


    คาดว่าจะมีการควบคุมได้ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้


    https://www.kron4.com/news/bay-area/camp-fire-containment-increases-to-90-percent/1613094985
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นึกสภาพไทยเป็นแบบเวเนซุเอลาไม่ออกเลย สภาวะการค้า และการใช้บริการเงียบเหงามาก ถ้าไม่ได้เงินจากประชาชน หรือภาคเอกชน เพราะไม่มีกำลังทรัพย์นำมาใช้จ่าย รัฐก็ต้องใส่เงินลงมา ซึ่งจะมาก น้อย ก็แล้วแต่เป้าว่าต้องการให้ตัวเลขที่แสดงว่าบรรลุผลทางเศรษฐกิจดีแค่ไหน เห็นเอาแต่โชว์ GDP ก็คงอยากทำให้ GDP ออกมาดีๆ

    MOREMOVE


    #มอร์มูฟเป็นข่าว คืนความสุข!!?? รัฐเตรียมแจก (ต่อเนื่อง) เมื่อล่าสุด ครม.มีมติเห็นชอบแก้ไขร่าง พรก. #เงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ควัก 20,000 ล้านเพิ่มเงินบำเหน็จให้ข้าราชการบำนาญ #ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน (?!) ระบุ หลังกฎกระทรวงประกาศใช้แล้ว จะมีผลบังคับใช้ใน 60 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา แบ่งเป็น 2 มาตรการคือ


    ให้ข้าราชการบำนาญสามารถนำบำเหน็จตกทอด 30 เท่าของเงินเดือนมาใช้เป็นบำเหน็จดำรงชีพได้เป็นครั้งที่ 3 ได้อีก 1 แสนบาท (มีผู้ได้สิทธิ 6.59 แสนคน เป็นเงิน 2 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ ยังเติมเงินข้าราชบำนาญที่ได้บำเหน็จน้อยต่ำกว่าเดือนละ 1 หมื่นบาทให้เป็น 1 หมื่นบาท (จำนวน 5.27 หมื่นคน ใช้เงิน 558 ล้านบาท) เพื่อให้ผู้รับบำนาญสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ #เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีพให้แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ


    Source : smartsme - https://bit.ly/2BpZplm // https://www.khaosod.co.th/politics/news_1853602


    โดยเรื่องนี้ น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา #คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. … (ออกตามความใน พรบ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. … (ออกตามความใน พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไข ดังต่อไปนี้


    ▪️ #ปรับเพิ่มเงินให้ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ซึ่งได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดบำนาญทุกประเภท และรวม ช.ค.บ.แล้วต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท ให้ได้รับ ช.ค.บ.เพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วจะได้รับเงินเดือนละ 10,000 บาท


    ▪️ #ขยายเพดานวงเงินบำเหน็จดำรงชีพ ให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปอีก 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท ให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท หากผู้รับบำนาญเคยของรับบำเหน็จดำรงชีพไปบางส่วนแล้ว สามารถขอรับได้ไม่เกินจำนวนเงินที่ยังไม่ครบตามสิทธิ แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท


    ทั้งนี้ การเพิ่มเงินดังกล่าวต้องใช้เงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท และหลังจากกฎกระทรวงประกาศใช้แล้วจะมีผลบังคับใช้ใน 60 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา.


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo





    แม่น้ำลูกเห็บในทะเลทรายของซาอุดีอาระเบีย


    22.11.2018
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo


    #URGENTE


    การปะทุครั้งใหม่ของภูเขาไฟของกัวเตมาลา เมื่อนาทีที่แล้ว

    IMG_5281.JPG IMG_5282.JPG IMG_5283.JPG IMG_5284.JPG IMG_5285.JPG IMG_5286.JPG

    22.11.2018


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รอบ 2 ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ถูกนกจู่โจม

    IMG_5287.JPG

    ชนกับลูกนกกระทุงบังคับเครื่องบินให้ลงจอดฉุกเฉินของใน Salt Lake City (USA)


    เครื่องบินของสายการบินเดลต้าซึ่งบินต่อกรุงปารีสถูกบังคับให้ลงจอดเพียงไม่กี่นาทีหลังจากออกเดินทางจากเมืองซอลท์เลคซิตีหลังจากที่เครื่องยนต์ถูกทำลายจากการปะทะกับนกกระทุงหลายตัว


    เที่ยวบิน DL248 จากสนามบินนานาชาติ Salt Lake กำลังบินอยู่ มีผู้โดยสาร 223 คนในวันเสาร์มุ่งหน้าไปยังปารีส ประมาณ 15 นาทีหลังจากเครื่องบิน บินขึ้นพบกับฝูงนกกระทุงที่ชนกับเครื่องยนต์ด้านขวาของโบอิ้ง 767 -300


    นักบินสามารถลงและลงจอดในไม่ช้าหลังจากที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญ


    การถ่ายภาพ: JACDEC @ JacdecNew ผ่านทาง Twitter


    https://www.climaseveromundial.com/2018/11/otro-avion-atacado-por-aves.html?m=1
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo


    #URGENTE. #DIFUNDAN


    ใบหน้าของโลกกำลังใกล้อันตราย

    องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก (wmo) ของสหประชาชาติ เตือนเมื่อวันพฤหัสบดีเกี่ยวกับการคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกหลังจากระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศสูง และระดับของมันสูง ได้เพื่มสูง ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว หากสิ่งนี้ยังคงเปลี่ยนแปลงแล้ว ทุกครั้งภูมิอากาศจะรุนแรงมากขึ้น


    รายละเอียด


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไวรัสร้ายแรงแพร่ระบาดทั่วโลกและอ้างว่าพบผู้เสียชีวิตครั้งแรกในแคนาดา

    IMG_5288.JPG
    หลายร้อยกรณีของไวรัสเวสต์ไนล์ ได้รับรายงานจนถึงปีนี้และ มีผู้เสียชีวิต 22 คน จากการติดเชื้อจากยุง


    ในกรณีล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจาก West Nile Virus (WNV) ในประเทศแคนาดาหนึ่งคน รายงานโดย blackburnnews.com


    นี่คือการเสียชีวิตครั้งแรกของฤดูกาลที่เกิดจากเชื้อไวรัสในประเทศแคนาดากล่าวโดยหน่วยงานสาธารณสุขมณฑลวินด์เซอร์ - เอสเซ็ก ในวันศุกร์นี้


    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ UU ยืนยันการเสียชีวิตครั้งแรกในปีนี้ของไวรัสเวสต์ไนล์ใน North Carolina


    การตายครั้งแรกโดย West Nile ไวรัสได้รับการยืนยันในปี คศ.2015 ใน North Carolina

    นอกจากนี้เขายังเตือนว่า WNV ยังคงมีความเสี่ยงอยู่จนกว่าพื้นที่จะมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (เชื้อคงตายที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง)

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่าประชาชนควรจะป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยุงบางชนิดแพร่กระจายไวรัสเวสต์ไนล์ ซึ่งเป็นเชื้อที่ร้ายแรงอย่างร้ายแรง ต่อมนุษย์


    พวกเขาให้คำแนะนำประชาชนควรจัดการกับน้ำที่อยู่รอบ ๆ บ้าน ใช้มาตรการป้องกันอันตรายส่วนบุคคลเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดโดยใช้การไล่แมลง อยู่ในบ้าน ในช่วงที่ยุงออกมามากที่สุด ในตอนค่ำและยามเช้า และให้แน่ใจว่าทั้งหมด หน้าประตูและหน้าต่างแน่นและปราศจากรูใด ๆ



    ไวรัสเวสต์ไนล์ เป็นโรคที่มีการแพร่กระจายจากยุงมาสู่มนุษย์


    ยุงจะติดเชื้อเมื่อดูเเลือดของนกที่มีเชื้อไวรัส ประมาณสองสัปดาห์ต่อมายุงสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปยังคนและสัตว์ได้ขณะกัดเพื่อรับสารอาหารในเลือด


    ไวรัสไม่ได้แพร่กระจายจากคนสู่คนและไม่สามารถส่งผ่านโดยตรงไปยังผู้ที่ สัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น นกม้าหรือสัตว์เลี้ยง


    ไวรัสเวสต์ไนล์มาจากแคว้นเวสต์ไนล์ของยูกันดา ในปี พ. ศ. 2480 และเป็นเวลาหลายสิบปีในทวีปแอฟริกา อนุทวีปอินเดียและบางส่วนของตะวันออกกลางและยุโรป


    https://www.climaseveromundial.com/2018/11/el-virus-mortal-se-propaga-en-todo-el.html?m=1
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลการศึกษาเขาว่าแบบนั้น ธารน้ำแข็งจะละลายเร็ว ระดับน้ำจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้แต่แรก

    La nueva era de la tierra - respaldo


    ระดับน้ำทะเลกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้มีความเสี่ยงในเมืองใหญ่บนโลกใบนี้


    รายละเอียด


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo


    คำเตือนออกแล้ว


    อากาศขั้วโลกจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเตือนเพื่อนและครอบครัวของคุณจะมีชีวิตอยู่ในวันขอบคุณพระเจ้าและวันศุกร์สีดำด้วยความเย็น


    เมืองที่ได้รับผลกระทบ


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo


    เธอคือ #สุภาพสตรีถั่ว (lady frijoles) ที่บอกว่าถั่วสำหรับหมู (หมู) และใครแล้วขอโทษที่ได้พูดมันชื่อจริงของเธอคือ mirian yamileth และสำหรับสิ่งที่เราสามารถชื่นชมในรูป facebook ของเธอในบ้านเกิดของเธอในฮอนดูรัส ชีวิตที่ดีกว่าเม็กซิกันหลายคน ไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่ชอบถั่ว!


     

แชร์หน้านี้

Loading...