ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    &url=https%3A%2F%2Fassets.bwbx.io%2Fimages%2Fusers%2FiqjWHBFdfxIU%2FiE6rNAk4Sbn4%2Fv0%2F1200x800.jpg

    (Nov 20) เฟดนิวยอร์คสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป : นาย John Williams, Federal Reserve Bank of New York President (Voter) กล่าวสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะถึงระดับ neutral โดยเน้นย้ำถึงการดำเนินนโยบายในลักษณะ data dependent ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มิได้มี “preset course” ของระดับอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

    ดังนั้น การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงต้องอยู่บนพื้นฐานของภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ นาย Williams มองว่าจากการที่อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับเศรษฐกิจที่แสดงสัญญาณเชิงบวก หน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพให้นานที่สุด

    Source: BOTSS

    - John Williams Sees Fed Likely Raising Interest Rates ‘Somewhat’ More: https://www.bloomberg.com/news/arti...kU0pQbsyTON7CRmb--3fbAB0NQaehO0t2MZzl8K_u9FIY
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    Do1GL0pfzUPr3QVvE8oDKw-bjGT3oEA1aNP4JkXOLl7sJUhHT-DDUlOhajc0Ixg&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png

    (Nov 19) ศก.สหรัฐดีหนี้ครัวเรือนทุบสถิติใหม่ : ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนของสหรัฐในไตรมาส 3 ปีนี้ พุ่งแตะระดับ 13.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 443 ล้านล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทุบสถิติเดิมเมื่อครั้งวิกฤตการเงินโลกปี 2008 สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหันมากู้ยืมเงินเพื่อการใช้จ่ายมากขึ้น

    เฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่า หนี้ครัวเรือนทั้งหมดของสหรัฐในปัจจุบัน มีปริมาณมากกว่าสถิติเมื่อปี 2008 ถึง 8.37 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 27 ล้านล้านบาท) และเป็นการเพิ่มติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว รวมถึงเพิ่มขึ้นมากกว่า 21% เมื่อเทียบกับปี 2013

    รายงานยังระบุว่า ในไตรมาส 3 ปีนี้ สินเชื่อเพื่อการศึกษามีอัตราผิดนัดชำระหนี้ที่มีระยะ 90 วัน หรือนานกว่านั้น เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ โดยขึ้นเป็น 9.1% จาก 8.6% ในไตรมาสก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี รวมเป็นมูลค่าราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 46 ล้านล้านบาท) และเป็นทิศทางที่น่ากังวลหลังจากที่สินเชื่อรถยนต์และบัตรเครดิตมีสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้ว

    ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้ยังเติบโตได้ดีกว่าศักยภาพ เนื่องจากผู้บริโภคใช้จ่ายแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 48 ปี โดยจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวได้ 3.5% ขณะที่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า ผลจากสงครามการค้าจะเริ่มกระทบเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า

    Source :posttoday

    - Total Household Debt Rises for 17th Straight Quarter
    https://www.newyorkfed.org/newseven...Ks7yFllw09EUUZs58x5rWPw9ovhF5t1PPvdIXAyfOU_4A
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    rces%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F11%2F09%2F105565876-1541791814886gettyimages-588166060.1910x1000.jpg

    (Nov 19) Update: โกลด์แมน แซคส์คาดปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว- นายแจน แฮตซีอุส หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปรับขึ้น 4 ครั้งในปีหน้า และผลบวกจากมาตรการปรับลดภาษีของรัฐบาลสหรัฐเริ่มเบาบางลง

    “การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีหน้า จาก 3.5% ในปัจจุบัน สู่ระดับราว 1.75% ในปลายปีหน้า โดยเราคาดว่าภาวะการเงินจะตึงตัวมากขึ้น และผลบวกจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังได้เบาบางลง” นายแฮตซีอุสระบุในรายงาน

    ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 3.5% ในไตรมาส 3 ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีหน้าจะอยู่ที่ 2.5% ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.2%, 1.8% และ 1.6% ใน 3 ไตรมาสถัดไป
    ADVERTISEMENT

    อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ ไม่คาดว่าสหรัฐจะมีการขยายตัวติดลบในเร็วๆนี้ ส่งผลให้สหรัฐจะมีการขยายตัวยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า

    โกลด์แมน แซคส์ยังคาดด้วยว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และอีก 4 ครั้งในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.25% ในปลายปีหน้า เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของค่าจ้าง และภาษีนำเข้า

    ด้านนายแลร์รี่ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่า สหรัฐมีโอกาส 50% ที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในช่วง 2 ปีข้างหน้า

    นายซัมเมอร์สกล่าวว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจมีความเป็นไปได้มาก โดยได้รับผลกระทบจากภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน, ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการที่เฟดเริ่มวัฏจักรคุมเข้มนโยบายการเงิน

    นายซัมเมอร์ส ยังเตือนด้วยว่า เฟดควรระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่พยายามเข้าแทรกแซงนโยบายการเงินของเฟดก็ตาม

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    ********************
    โกลด์แมน แซคส์คาดเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวปีหน้า ขณะเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง:

    นายแจน แฮตซีอุส หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปรับขึ้น 4 ครั้งในปีหน้า และผลบวกจากมาตรการปรับลดภาษีของรัฐบาลสหรัฐเริ่มเบาบางลง

    "การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีหน้า จาก 3.5% ในปัจจุบัน สู่ระดับราว 1.75% ในปลายปีหน้า โดยเราคาดว่าภาวะการเงินจะตึงตัวมากขึ้น และผลบวกจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังได้เบาบางลง" นายแฮตซีอุสระบุในรายงาน

    ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 3.5% ในไตรมาส 3 ขณะที่ในไตรมาสแรกของปีหน้าจะอยู่ที่ 2.5% ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.2%, 1.8% และ 1.6% ใน 3 ไตรมาสถัดไป

    อย่างไรก็ดี โกลด์แมน แซคส์ไม่คาดว่าสหรัฐจะมีการขยายตัวติดลบในเร็วๆนี้ ส่งผลให้สหรัฐจะมีการขยายตัวยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า

    โกลด์แมน แซคส์ยังคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และอีก 4 ครั้งในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.25% ในปลายปีหน้า เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของค่าจ้าง และภาษีนำเข้า

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - https://www.cnbc.com/2018/11/19/gol...AcI6s0Xn56BvtXA8kxEgFHXFtenTW60HybmP57GnA2VT0
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Desastres Naturales Extremos

    1W9zhXxx5w3X4_HarMyAUebfqOUpFT_KY89-vaWRRnWf_wGVYYYq5CxLeItunLg&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    Za8q0j5ZhscRSY2tlLkw5c5-_jGUddzuXJYCY7IldsYeI0K_Tc3N37y7s_U1Krg&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    UYOAukCZc9K8MaGxvAuvJuteCWTkbtFIDCSQFbR3uKtWcQEqfTEIN3L07KD9wPQ&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    lzAYIuGubUE05YtfM_yP2pqgKI42VHBJK89SbBCXEFwWInoq6qKlBb_Qw1qQ8lA&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    zgFqWlg2BF2e_Q6RJ7I3QILITqmE1SOFH8W_bBktoc6Yi04qkC1T-FjtMKYlKFA&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    5AsD47U98qWB1doD3ifWU1VPWnVfvaWswAiiXme_XO3uTX-DR6sHdDoE0xrLisQ&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    hvVUM7Qk4dFGfjHDPInkNflxVMTD5bsWtbux2BTA625TMHAgir2a5kW86ksautQ&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg


    พายุลูกเห็บประวัติศาสตร์ใน quito เอกวาดอร์
    การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกำลังได้รับความรุนแรง
    17.11.2018
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    เมฆที่น่าประทับใจถูกสังเกตเมื่อวานนี้ใน arizona usa
    18.11.2018
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    น่าตกใจ

    อีกหนึ่งวิดีโอที่เป็นทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียกลายเป็นมหาสมุทรทั้งหมดว้าว
    19.11.2018
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    UR เตือนด่วน!



    รอยแยกขนาดใหญ่เปิดที่ชายแดนของรัฐปานามา - คอสตาริกา
    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ San Vito คอสตาริกา ใกล้ชายแดนปานามา ได้พบความผิดปรกติทางธรณีวิทยาขนาดให....... พวกเขากล่าวว่าความล้มเหลวนี้อาจก่อให้เกิดแผ่นดินไหว M9.0 ......
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระทึก!ภูเขาไฟปะทุพ่นลาวาแดงเถือก กัวเตมาลาประกาศเตือนภัย'สีแดง'(ชมคลิป) เผยแพร่: 19 พ.ย. 2561 22:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



    เอเอฟพี - ทางการกัวเตมาลาในวันจันทร์(19พ.ย.) ประกาศเตือนภัยสีแดง หลังภูเขาไฟฟูเอโกปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ส่งผลให้ชาวบ้านเกือบ 3,000 คนต้องอพยพหลบหนี

    ลาวาเรืองแสงเกรี้ยวกราดถูกพ่นออกจากมาปากปล่องภูเขาไฟฟูเอโก ซึ่งเกิดการปะทุเป็นครั้งที่ 5 ในรอบปีนี้ หนึ่งเดือนหลังจากหนล่าสุดและตามหลังเหตุปะทุครั้งรุนแรงเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ห่าฝนหิน, เถ้าถ่านและแก๊สพิษลอยพวงพุ่งออกมา คร่าชีวิตชาวบ้านเกือบ 200 คนและอีก 235 คนสูญหาย

    561000012003601.jpg

    โฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติของกัวเตมาลา(CONRED) ยืนยันว่าชาวบ้าน 2,995 คนในเทศบาลเอสคูอินตลาและเขตอื่นๆอีก 2 แห่ง ถูกย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในมาตรการป้องกันไว้ก่อน

    เดวิด เดอ ลีออน โฆษกของ CONRED เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวว่าการปะทุของภูเขาไฟซึ่งมีความสูง 3,763 เมตรและตั้งอยู่ห่างจากกัวเตมาลาซิตี ราว 35 กิโลเมตร เริ่มขึ้นในตอนเช้าวันอาทิตย์(18พ.ย.) และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทางการเอสคูอินตลาจึงประกาศเตือนภัยระดับสีแดง

    ลาวาพวยพุ่งขึ้นเหนือปากปล่องภูเขาไฟฟูเอโก 500 เมตร ส่วนกลุ่มเถ้าถ่านก็ปลิวขึ้นเหนือกรวยภูเขาไฟเกินกว่า 1 กิโลเมตร และกำลังก่อให้เกิดฝนอนุภาค สถาบันภูเขาไฟวิทยาระบุ

    ภูเขาไฟฟูเอโกเกิดการปะทุหนล่าสุดเมื่อวันที่ 12-13 ตุลาคม ส่งเสียงบูมดังสนั่นและปล่อยลาวาหลาก ทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 62 คนและเจ้าหน้าที่ต้องปิดทางหลวงสายหนึ่ง

    https://mgronline.com/around/detail/9610000115488
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Clip: หัวหน้ากบฎฮูตีเรียกร้อง “ข้อตกลงหยุดยิง” กับริยาดในเยเมน – กษัตริย์ซาอุฯสนับสนุนแผนสันติภาพยูเอ็น เผยแพร่: 19 พ.ย. 2561 20:25 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000011986801.jpg


    เอเอฟพี/รอยเตอร์ – หัวหน้ากลุ่มกบฎฮูตี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล-ฮูตี (Mohammed Ali al-Houthi) ชี้ทางกลุ่มหยุดการโจมตีในเยเมน เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลซาอุฯ ระหว่างที่ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติเดินทางเข้าเยเมนเตรียมพร้อมการเจรจาสันติภาพ ด้านกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯล่าสุดทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ซาอุฯสนับสนุนแผนการสันติภาพของสหประชาติเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในเยเมน


    เอเอฟพีรายงานวันนี้(19 พ.ย)ว่า โมฮัมเหม็ด อาลี อัล-ฮูตี (Mohammed Ali al-Houthi) หัวหน้ากบฎฮูตีกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ว่า ทางกลุ่มของเขาต้องการให้ทุกฝ่ายที่เป็นทางการของเยเมนเรียกร้องยุติการสู้รบ

    “ทางเราขอประกาศข้อเรียกร้องริเริ่มในการขอให้ทุกฝ่ายที่เป็นทางการของเยเมนเรียกร้องการหยุดการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่อประเทศผู้รุกราน...เพื่อให้คนเหล่านี้ไม่มีเหตุผลที่จะยังแสดงความก้าวร้าวและการเข้าบุกยึดต่อไป พร้อมไปกับความพร้อมที่จะหยุดและยุติปฎิบัติการทางทหารทุกประเภทในทุกแนวรบเพื่อที่จะให้มีสันติภาพเกิดขึ้น”

    การออกแถลงการณ์ของหัวหน้ากบฎฮูตีมีขึ้นหลังจากในวันศุกร์(16) มาร์ติน กริฟฟิธส์ (Martin Griffiths) ทูตพิเศษสหประชาชาติประกาศแผนการเดินทางไปยังกรุงซานา เยเมน ซึ่งในเวลานี้อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฎฮูตีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อเตรียมการครั้งสุดท้ายสำหรับการเจรจาสันติภาพที่จะมีขึ้นในสวีเดน

    ประกาศต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กริฟิธส์ชี้ว่า “นี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับเยเมน” และเสริมต่อว่า “ผมได้รับการยืนยันอย่างหนักแน่นจากผู้นำทุกฝ่ายของเยเมน..ว่าคนเหล่านั้นมีความประสงค์จะเข้าร่วมการปรึกษาหารือเหล่านี้ ผมเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่เชื่อถือได้”

    เอเอฟพีรายงานว่า อาลี อัล-ฮูตีกล่าวว่า ข้อเรียกร้องหยุดยิงของเขาในการให้ยกเลิกการโจมตีด้วยจรวดและโดรนนั้นมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความพยายามของทูตพิเศษยูเอ็น และเป็นการแสดงเจตนาที่ดีของทางกลุ่ม พร้อมเสริมต่อว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากได้มีการติดต่อกริฟฟิธส์และข้อเรียกร้องของเขาที่ต้องการให้ทางกลุ่มฮูตียกเลิกการโจมตี

    ทั้งนี้พบว่า อังกฤษได้เสนอร่างแผนข้อเสนอทางออกเยเมนก่อนการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติจะมีขึ้นในวันจันทร์(19) ซึ่ง คาเรน เพียร์ซ(Karen Pierce) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติชี้ว่า จะเป็นการแสดงถึงข้อเรียกร้อง 5 ประการที่ออกมาจากมาร์ค โลว์ค็อก( Mark Lowcock) รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติดูแลปัญหาด้านมนุษยธรรมและหัวหน้าสำนักงานประสานงานปัญหาด้านมนุษยธรรมหรือ OCHA ในความวิตกเกี่ยวกับสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในเมืองโฮไดดาห์ (Hodeidah) ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตกของเยเมน และบริเวณโดยรอบ

    ซึ่งแผนของทางอังกฤษ เพียร์ซชี้ว่า จะเป็นการทำให้ข้อเรียกร้องของโลว์ค็อกได้รับการปฎิบัติ แต่ไม่ยอมเปิดเผยถึงเงื่อนเวลาที่ร่างข้อเสนอนี้จะสามารถได้รับการเสนอในที่ประชุมเพื่อลงมติรับรองได้

    รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้(19)ที่กรุงริยาด สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด แห่งซาอุดีอาระเบียทรงมีพระราชกระแสรับสั่งเกี่ยวกับหนทางสันติภาพในเยเมนต่อสภาที่ปรึกษาชูรา(Shura Council) ว่า

    ทางราชอาณาจักรซอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนความพยายามของทางสหประชาชาติในการที่จะยุติความขัดแย้งในเยเมน ซึ่งทางซาอุฯให้การสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรอาหรับในการเขาสู้รบกับกองกำลังฮูตีที่มีอิหร่านให้การสนับสนุนเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ปีเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติสามารถกลับเข้ากรุงซานาได้อีกครั้ง

    “การยืนเคียงข้างเยเมนของเราไม่ใช่ทางเลือกแต่ถือเป็นหน้าที่ในการสนับปสนุนประชาชาวเยเมนในการเผชิญหน้าต่อความก้าวร้าวของกลุ่มกองกำลังที่อิหร่านให้การสนับสนุน”

    https://mgronline.com/around/detail/9610000115455
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ประธานศาลสูงสุดฟิลิปปินส์’ชี้ ‘ดูเตอร์เต’พูดผิดข้อเท็จจริงในเรื่องทะเลจีนใต้ เผยแพร่: 19 พ.ย. 2561 21:48 โดย: กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์
    561000011980501.jpg

    อันโตนิโอ คาร์ปิโอ (ซ้าย) กำลังชี้ที่แผนที่โบราณแผ่นหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) เขาออกมากล่าวแก้ไขคำพูดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ที่ระบุว่าจีนเข้าครอบครองเป็นเจ้าของทะเลจีนใต้ทั้งหมด
    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

    Philippine chief justice corrects Duterte s South China Sea comments
    By Asia Times staff
    17/11/2018

    อันโตนิโอ คาร์ปิโอ ประธานศาลสูงสุดของฟิลิปปินส์ กล่าวแก้คำพูดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ที่ว่าจีนเป็นเจ้าของครอบครองทะเลจีนใต้อยู่แล้วในเวลานี้ โดยเขาบอกว่าลักษณะทางแผ่นดินแห่งต่างๆ ซึ่งปักกิ่งครอบครองอยู่ตอนนี้ ยังไม่ถึง 8% ของพื้นที่ทั้งหมดของน่านน้ำแห่งนี้

    โรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีผู้ชอบยั่วยุท้าทายของฟิลิปปินส์ ก่อให้เกิดการโต้แย้งกันอย่างดุเดือดอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการพูดยืนยันอย่างสบายอกสบายใจในระหว่างที่เขาเข้าร่วมการประชุมระดับสุดยอดของสมาคมอาเซียนที่สิงคโปร์ว่า จีนเป็นเจ้าของครอบครองทะเลจีนใต้ทั้งหมดอยู่แล้ว

    น่านน้ำกว้างใหญ่ซึ่งหลายๆ ประเทศยังโต้แย้งช่วงชิงกรรมสิทธิ์กันอยู่แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของลักษณะทางแผ่นดิน (land features) จำนวนกว่า 250 แห่ง หลายๆ แห่งได้ถูก อ้างกรรมสิทธิ์และเข้าครอบครองโดยหลายๆ ประเทศ รวมทั้งจีนและฟิลิปปินส์ด้วย

    เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) อันโตนิโอ คาร์ปิโอ (Antonio Carpio) ประธานศาลสูงสุดของฟิลิปปินส์ ได้ออกมากล่าวแจกแจงเพื่อแก้ไขข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง

    “โดยข้อเท็จจริงแล้ว จีนไม่ได้เป็นเจ้าของครอบครองทะเลจีนใต้” สื่อ เอบีเอส-ซีบีเอ็น นิวส์ (ABS-CBN news) ของฟิลิปปินส์รายงานข่าวโดยระบุว่า คาร์ปิโอพูดเช่นนี้ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://news.abs-cbn.com/news/11/16...te-china-not-in-possession-of-south-china-sea)

    “ประมาณ 25% ของทะเลจีนใต้นั้นเป็นทะเลหลวง ตาม UNCLOS (อนุสัญญากฎหมายทะเลแห่งสหประชาชาติ) แล้ว ไม่มีรัฐใดสามารถเข้าครอบครองหรือเป็นเจ้าของทะเลหลวงได้ เนื่องจากทะเลหลวงถือเป็นของมวลมนุษยชาติ และภายใต้ UNCLOS ทุกๆ ชาติมีเสรีภาพในการเดินเรือและในการบินเหนือเขตทะเลหลวง” เขากล่าว

    ดินแดนซึ่งจีนควบคุมอยู่จริงๆ ในเวลานี้ คิดคำนวณแล้วมีปริมาณ “ไม่ถึง 8% ของพื้นที่ทั้งหมดของทะเลจีนใต้” นี่เป็นคำกล่าวของคาร์ปิโอ ผู้เป็นหนึ่งในทีมนักกฎหมายที่เป็นตัวแทนของฟิลิปปินส์ ในการยื่นฟ้องร้องต่อ ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศถาวร (Permanent Court of Arbitration) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเฮก เพื่อท้าทายการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเหนือทะเลจีนใต้

    การตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 เสียงที่สำคัญยิ่งของฟิลิปปินส์คราวนี้ บังเกิดขึ้นขณะที่บรรดารัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กำลังตกอยู่หว่างกลางการแข่งขันช่วงชิงผลประโยชน์ของสหรัฐฯกับจีน อันเป็นความเป็นจริงซึ่งประธานาธิบดีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ บรรยายออกมาได้อย่างชัดเจนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

    สำหรับบรรดาชาติสมาชิกของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว “เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างมากๆ ” ถ้าหากสามารถหลีกเลี่ยงการเลือกข้างได้ อย่างไรก็ดี มันอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียแล้วสำหรับการที่ประเทศต่างๆ จะ “ต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” ลี กล่าว

    https://mgronline.com/around/detail/9610000115486
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'ทรัมป์'พูดแล้ว มีแผนเปลี่ยนตัวคณะบริหาร3-5ตำแหน่ง คาดรับมือเดโมแครตคุมสภาล่าง-ผลสอบคดีรัสเซีย เผยแพร่: 19 พ.ย. 2561 21:44 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000012006001.jpg

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวขณะเขาออกจากทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ (17 พ.ย.) ทั้งนี้เขาพูดในรายการสัมภาษณ์ของทีวี ฟ็อกซ์ นิวส์ ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์ (18) ว่า เตรียมที่จะเปลี่ยนตัวบุคคลในคณะบริหารของเขา 3-5 ตำแหน่ง
    เอเจนซีส์ – ทรัมป์เล็งเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่สำคัญในคณะบริหาร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสภาล่างในความควบคุมของเดโมแครต รวมทั้งแนวโน้มการเปิดเผยผลการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งที่รอคอยกันมานาน

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์รายการ ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ ที่นำออกอากาศในวันอาทิตย์ (18 พ.ย.) ว่า มีตัวเลือกการเปลี่ยนแปลงในใจ 3-5 ตำแหน่ง และแย้มว่า หนึ่งในนั้นอาจเป็นจอห์น เคลลี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวที่ต้องการวางมืออยู่แล้ว

    ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ พรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรหลังกวาดที่นั่งเพิ่มอย่างน้อย 36 ที่นั่ง ทำให้สามารถขัดขวางร่างกฎหมายที่ทรัมป์สนับสนุน, ออกหมายเรียกและเริ่มกระบวนการสอบสวนของรัฐสภาเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของทรัมป์หรือทีมหาเสียงในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ของรัสเซีย , ตลอดจนเรียกดูหลักฐานหรือเรียกคนเกี่ยวข้องมาให้การเกี่ยวกับการเสียภาษีและสถานะการเงินของทรัมป์, และประเด็นอ่อนไหวอื่นๆ

    ข่าวหลายกระแสระบุว่า นิก เอเยอร์ส ประธานคณะทำงานของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ คือตัวเก็งสำคัญที่จะทำหน้าที่แทนเคลลี

    เอเยอร์ส วัย 36 ปี ที่ถูกมองว่า เป็นนักยุทธศาสตร์ที่คมคายและแข็งกร้าว อีกทั้งมีสัญชาติญาณทางการเมือง อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเคลลี อดีตพลเอกเหล่านาวิกโยธิน ในการรับมือกับการตรวจสอบและการท้าทายของเดโมแครต ระหว่างที่ทรัมป์ก็จะต้องหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2

    ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกกับฟ็อกซ์ว่า มีโอกาสที่จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ปัจจุบันคือ คริสเตน นีลเซน โดยบอกว่า แม้นิยมชมชอบในตัวนีลเซนมาก แต่อยากให้มีจุดยืนด้านการรักษาความปลอดภัยพรมแดนและนโยบายคนเข้าเมืองแข็งกร้าวยิ่งขึ้น

    ก่อนหน้านี้ทรัมป์เพิ่งปลดเจฟฟ์ เซสชันส์ จากตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม และแต่งตั้งแมตต์ วิทเทกเกอร์ หัวหน้าคณะทำงานของเซสชันส์ รักษาการแทน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นความพยายามของคณะบริหารในการเตรียมพร้อมรับมือรายงานการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งที่โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านกฎหมาย อาจเปิดเผยออกมาเร็วๆ นี้

    เดโมแครตวิจารณ์การแต่งตั้งวิทเทกเกอร์อย่างดุเดือด โดยตั้งข้อสังเกตว่า บุคคลผู้นี้เคยพูดว่า รัฐมนตรียุติธรรมอาจตัดงบทีมงานของมุลเลอร์

    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวกับฟ็อกซ์ว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซง หากวิทเทกเกอร์พยายามลดขอบเขตการสอบสวนคดีรัสเซีย

    561000012006002.jpg

    จอห์น เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว ในภาพที่ถ่ายจากทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งถูกพูดกันมากว่าจะถูกทรัมป์เปลี่ยนตัวในเร็ววันนี้

    ก่อนหน้านี้ทรัมป์ยังหารือเกี่ยวกับการปลดมิรา ริคาร์เดล รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกย้ายไปนั่งตำแหน่งอื่นในคณะบริหารหลังมีเรื่องขัดใจกับเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง กระทั่งภรรยาประธานาธิบดีออกแถลงการณ์พิเศษเรียกร้องให้สามีปลดริคาร์เดล

    ทรัมป์พูดถึงเรื่องนี้ว่า ริคาร์เดลขาดคุณสมบัตินักการทูต แต่มีความสามารถ และแก้ต่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คณะทำงานของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแค่อยากแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย ซึ่งตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี

    ขณะเดียวกัน แม้ทรัมป์พยายามกลบเกลื่อนความพ่ายแพ้ของรีพับลิกันในสภาล่างที่ถือว่า เลวร้ายกว่าความพ่ายแพ้ในปี 2006 ที่จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีในขณะนั้นออกปากว่า “เลวร้ายมาก” แต่ชัยชนะของเดโมแครตก็ตอกย้ำความท้าทายที่ทรัมป์และรีพับลิกันจะต้องเผชิญในปี 2020

    รีพับลิกันเสียที่นั่งในเมืองใหญ่ทางใต้อย่างฮูสตัน และ 3 รัฐ ได้แก่ มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ทรัมป์กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รีพับลิกันยังแพ้ยับเยินในหมู่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่เป็นผู้หญิงที่อาศัยย่านชานเมือง และพวกที่ไม่ได้ฝักใฝ่พรรคใดเป็นพิเศษ

    ผู้สนับสนุนทรัมป์บางคนบอกว่า ประมุขทำเนียบขาวควรใช้ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ปรับท่าทีตนเองเสียใหม่ ลดความแข็งกร้าวและลดการสร้างความแตกแยกลง ทว่า เจ้าตัวบอกกับฟ็อกซ์ว่า ไม่มีแผนทำแบบนั้น

    ทรัมป์ปิดท้ายว่า ปี 2020 จะแตกต่างจากการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อต้นเดือนนี้โดยสิ้นเชิง และชื่อของเขาจะปรากฎอยู่บนบัตรเลือกตั้งด้วย

    https://mgronline.com/around/detail/9610000115483
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รองปธน.มะกันเล่นบทกร้าว ขู่จีนเจอ‘สงครามเย็น’ ถ้าไม่ยอมอ่อนข้อเรื่องการค้าและอื่นๆ เผยแพร่: 17 พ.ย. 2561 00:10 โดย: กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์
    561000011920101.jpg

    รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ ขณะเข้าร่วมการประชุมข้างเคียงรายการหนึ่งของการประชุมซัมมิตสมาคมอาเซียน ที่สิงคโปร์ เมื่อวันพฤหัสบดี (15 พ.ย.) ที่ผ่านมา
    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

    Pence: expect ‘cold war’ if China doesn’t concede on trade, security
    By Asia Times staff
    15/11/2018

    มีรายงานว่ารองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ กล่าวย้ำจุดยืนอันแข็งกร้าว โดยข่มขู่ว่าหากจีนไม่ยินยอมอ่อนข้อทั้งในเรื่องการค้าและอื่นๆ แล้ว ก็จะต้องเข้าสู่ “สงครามเย็น ทั้งนี้เขาแสดงท่าทีเช่นนี้ ก่อนหน้าการเจรจาซัมมิตระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับ สี จิ้นผิง ตอนสิ้นเดือนนี้ที่อาร์เจนตินา

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังปล่อยประตูเปิดกว้างเอาไว้สำหรับการทำข้อตกลงการค้ากับจีน มีรายงานว่ารองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ กล่าวเช่นนี้ในสัปดาห์นี้ โดยเขาสำทับต่อไปด้วยว่า แต่มีเงื่อนไขว่าปักกิ่งจะต้องยอมกระทำตามบัญชีข้อเรียกร้องอันยาวเหยียดของวอชิงตัน รวมทั้งประตูนี้จะไม่เปิดทิ้งเอาไว้อย่างนี้เนิ่นนานนัก

    ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะเรื่องการค้า โจช รอจิน (Josh Rogin) เขียนเอาไว้เช่นนี้ในวอชิงตันโพสต์ เมื่อวันอังคาร (13 พ.ย.) (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.washingtonpost.com/news...13/pence-its-up-to-china-to-avoid-a-cold-war/)

    การทำข้อตกลงจะเป็นไปได้ “ก็ต่อเมื่อปักกิ่งมีความยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารตามที่สหรัฐฯกำลังเรียกร้อง ทั้งในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ, การทหาร, และการเมืองของพวกเขา” รอจิน ถ่ายทอดคำพูดของเพนซ์ โดยที่รองประธานาธิบดีอเมริกันอ้างอิงถึงกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ ตลอดจน “การที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าก้าวก่ายแทรกแซงในการเมืองของพวกประเทศตะวันตก”

    เพนซ์ “บอกว่า นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของจีน (ถ้าหากไม่ใช่โอกาสสุดท้ายของจีนแล้ว) ที่จะหลีกเลี่ยงจากฉากทัศน์แห่งสงครามเย็นกับสหรัฐฯ ... ถ้าปักกิ่งไม่ได้สนองกลับมาด้วยการอ่อนข้อยินยอมที่สำคัญและเป็นรูปธรรมแล้ว สหรัฐฯก็เตรียมตัวที่จะเพิ่มระดับแรงบีบคั้นกดดันต่อจีนทั้งทางเศรษฐกิจ, การทูต, และการเมือง” รอจิน เขียนเอาไว้เช่นนี้

    “เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการบานปลายขยายตัวดังกล่าวได้ ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีความทนทานน้อยกว่า”

    ความเห็นต่างๆ ที่ถูกบรรยายออกมาเหล่านี้ โดยสาระสำคัญแล้วก็เป็นการเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งถึงสิ่งที่เพนซ์ได้พูดไว้ขณะไปกล่าวคำปราศรัยต่อ “สถาบันฮัดสัน” (Hudson Institute) องค์การคลังสมองแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยที่ในคำปราศรัยดังกล่าวเขาได้แจกแจงพูดถึงรายละเอียดของนโยบายใหม่ต่อจีนอันแข็งกร้าวเพิ่มมากขึ้นอีก ด้วยการเสาะแสวงหาทางเผชิญหน้ากับปักกิ่งในทุกๆ แนวรบ

    ทรัมป์นั้นมีกำหนดที่จะพบปะเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างที่ทั้งคู่ไปร่วมการประชุมซัมมิตของกลุ่ม จี20 ในตอนสิ้นเดือนนี้ ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา และก็ได้แสดงความคิดเห็นมาแล้วหลายครั้งซึ่งบ่งชี้ว่าทั้งสองฝ่ายกำลังมีการเจรจาทำข้อตกลงกันอยู่ รายงานข่าวหลายกระแสที่ออกมาในสัปดาห์นี้บ่งชี้ว่า รองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจาด้านการค้าของฝ่ายจีน อาจจะเดินทางไปกรุงวอชิงตันก่อนหน้านั้นซัมมิต จี20

    เมื่อพิจารณาจากการที่ หลิว ยกเลิกเที่ยวเดินทางไปวอชิงตันในเดือนกันยายน ตอนที่ดูเหมือนกับว่าสหรัฐฯไม่ได้พร้อมที่จะเจรจาด้วย การที่ที่ปรึกษาระดับท็อปทางเศรษฐกิจของ สี ผู้นี้ ตัดสินใจจะมาสหรัฐฯในครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงความมั่นอกมั่นใจที่ว่า เวลานี้ทรัมป์มีความพร้อมที่จะพิจารณาการทำความตกลงกันในบางรูปแบบ

    มองจากบริบทของความเคลื่อนไหวอันมุ่งไปสู่การทำดีล ความเห็นต่างๆ ของเพนซ์ในครั้งนี้ จึงน่าจะถูกมองว่าเป็นยุทธวิธีการเจรจาต่อรองแบบคลาสสิกของทรัมป์ ซึ่งมุ่งบีบคั้นปักกิ่งให้ต้องยื่นข้อเสนอแบบอ่อนข้อยิ่งขึ้นออกมา ในเวลาที่ สี นั่งลงเจรจากับเขา ณ การเจรจาข้างเคียงของการประชุมซัมมิต จี-20 อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเรื่องไม่ได้เป็นเช่นนี้แล้ว มันก็แทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะมีดีลใดๆ ออกมาจากการหารือที่บัวโนสไอเรส

    https://mgronline.com/around/detail/9610000114678
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์ชมฟินแลนด์ฉลาดใช้คราดกันไฟไหม้ป่า ถูกโซเชียลอำเละ“กวาดให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง”เผยแพร่: 19 พ.ย. 2561 21:19 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000012005001.jpg

    ภาพจากทวิตเตอร์
    เอเจนซีส์ - คนฟินแลนด์ทั้งมึนทั้งฮา หลังทรัมป์ยกย่องประเทศนี้ว่า จัดการผืนป่ากว้างอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการหมั่นใช้คราดกวาดพื้นที่ใต้ต้นไม้จนสะอาดเอี่ยม กระทั่งถูกอำกระจายบนโลกออนไลน์ ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในแคลิฟอร์เนียล่าสุดนั้น ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 77 คน ส่วนผู้สูญหายลดเหลือ 993 คน



    วันเสาร์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำคำวิจารณ์เดิมระหว่างเดินทางไปสำรวจความเสียหายจากไฟป่าในแคลิฟอร์เนียว่า การจัดการป่าไม้ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นสาเหตุของไฟป่าที่ลุกลามรุนแรงที่สุดครั้งนี้

    ทรัมป์ยังอ้างอิงการสนทนากับผู้นำฟินแลนด์เมื่อเร็วๆ นี้โดยบอกว่า คนฟินแลนด์ยอมเสียเวลามากมายเพื่อใช้คราดกวาดเศษใบไม้ในป่า ซึ่งทำให้สถานการณ์ป่าไม้ของฟินแลนด์และอเมริกาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    ทว่า ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีซาอูลี นีนีสเตอ กลับให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของฟินแลนด์ว่า จำไม่ได้เลยว่า เคยพูดเรื่องใช้คราดกวาดใบไม้แห้งตอนที่เจอกับทรัมป์

    ผู้นำฟินแลนด์เสริมว่า ได้กล่าวกับทรัมป์ว่า ฟินแลนด์เป็นประเทศที่ปกคลุมด้วยผืนป่า และมีเครือข่ายและระบบติดตามตรวจสอบที่ดีเท่านั้น

    ทางด้านเฮกกี ซาโวไลเนน ผู้อำนวยการสมาคมป่าไม้ฟินแลนด์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันว่า การใช้คราดกวาดใบไม้ไม่ใช่มาตรการบริหารจัดการป่าไม้ทั่วไป แต่น่าจะเป็นวิธีการสำหรับสนามหรือสวนเท่านั้น สำหรับเขาใช้วิธีนี้เฉพาะในสนามที่บ้าน

    หลังข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวฟินแลนด์มากมายพากันโพสต์ภาพตัวเองใช้คราดเก็บกวาดใบไม้ในป่า และล้อเลียนสโลแกนของทรัมป์ว่า “กวาดกันให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 5,000 คนในแคลิฟอร์เนียยังคงต่อสู้กับไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (18) เพิ่มเป็น 77 คน ในจำนวนนี้ระบุอัตลักษณ์ได้แล้ว 67 คน และจำนวนผู้สูญหายลดเหลือ 993 คน จากกว่า 1,200 คน

    บ้านเรือนกว่า 10,000 หลังเสียหายจากไฟป่าที่โหมกระหน่ำมาตั้งแต่วันที่ 8 ที่ผ่านมา และทำลายพื้นที่เป็นวงกว้างพอๆ กับขนาดเมืองชิคาโก รวมทั้งทำให้เมืองพาราไดซ์เหลือแต่ซาก

    อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่า จะเกิดฝนตกหนักในช่วงไม่กี่วันนี้ ซึ่งแม้เป็นผลดีกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่ขณะเดียวกัน อาจทำให้ความพยายามค้นหาร่างผู้เสียชีวิตยากลำบากขึ้น

    รายงานระบุว่า ไฟป่า “แคมป์ไฟร์” ที่เผาผลาญพื้นที่ 15,000 เอเคอร์ในแคลิฟอร์เนียเหนือ ขณะนี้ควบคุมเพลิงได้แล้ว 65% แต่จะไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมดจนกว่าจะถึงสิ้นเดือน

    https://mgronline.com/around/detail/9610000115473
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    ปธน.มาครง งัดไม้เด็ดมาสู้!

    รัฐบาลฝรั่งเศส เอาสถิติค่ารักษาพยาบาลโรคที่เกิดจากมลพิษ ที่กองทันประกันสุขภาพแห่งชาติต้องจ่ายไปมากมายในแต่ละปี มาสู้มาแย้ง ผู้ชุมนุมปิดถนนประท้วงการขึ้นภาษีเชื้อเพลิง.. นับว่าเจ๋งมาก
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    สำหรับตำรวจนั้น เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ต้องฟิต พร้อม และคล่องตัวอยู่เสมอ ในคลิปคือตำรวจแคลิฟอร์เนีย

    Watch the closing speed from this California cop

    Credit: Busted Coverage
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Daily Mail Australia



    โรงแรมนี้ในประเทศจีนน่าทึ่งมาก!
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora

    ต่อ Part 2
    The Global Financial Crisis Enters Its Second Round After Lehman
    Part 2
    Jim Willie. Nov 15, 2018

    ***โปรดใช้วิจารณญานและศึกษาเพิ่มเติมนะครับ***

    0:05....Jim Willie.... There was no human cancer in the United States or the West before widespread of vaccinations in the 1950s and 60s.

    1:16....ถาม....คุณจะ recommend วัคซีนหรือเปล่า

    Jim Willie.....แน่นอนว่าไม่..ผู้ที่กำลังอุ้มท้องเป็นแม่คน สามารถเลี้ยงลูกผ่านทางสายรก และในระหว่างนั้นแม่ย่อมได้รับยาและเคมิคัลหลายๆชนิดมาก ..ไม่คิดหรือว่าทารกได้รับอาหารและมีภูมิคุ้มกันเพียงพอแล้ว ..

    ส่วนอาหารจากธรรมชาติก็มีเอ็นไซม์เพียงพอที่เป็น anti-cancer อยู่แล้ว ...เราได้รับข่าวสารเกี่ยวกับสาเหตุของมะเร็งจาก ..บุหรี่..สารเคมี..อากาศเสีย..น้ำ .....นานมาแล้วที่เราไม่เคยต้องหาความจริงเกี่ยวกับมะเร็งเลยจนกระทั่งโลกรู้จักกับวัคซีน

    จนถึงปัจจุบันมีแพทย์องค์รวม (holistic doctor) 111 คน ถูกฆาตกรรมหรือตายแบบไม่รู้สาเหตุจากการพยายามเปิดเผยหรือกำลังจะเปิดเผย contents ที่มีอยู่ในวัคซีน ที่ไม่ใช่แค่ ฟอร์มัลดีไฮด์ หรือสารปรอท ที่ถูกเรียกว่า preservatives (สารกันเสีย) ...แต่มันมี suppressant (สารระงับ) ...ชื่อ (ฟังไม่ชัดครับ ..nagalees..nagalis.. เลยหาข้อมูลต่อไม่พบ..ผู้แปล).. ที่มันจะไประงับการทำงานของภูมิคุ้มกันมะเร็งที่มีอยู่ในร่างกายของเรา คือ GcMAF

    (GcMAF Gc Protein Macrophage Activating Factor เป็นส่วนประกอบในระบบภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ เป็นโปรตีนที่ผลิตโดยตับ ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกายแมโครฟาจ สั่งให้ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์มะเร็งและเชื้อโรคจากนอกร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดโรคร้ายแรงต่างๆเช่น มะเร็ง, เอดส์, ไวรัสตับ ช่วยจัดระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันใหม่ เพื่อรับมือกับโรคเหล่านี้ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราไม่ทำงานตามที่ควรจะเป็น...กูเกิ้ล)

    นี่คือการระงับ GcMAF และทำให้มันกลับกลายเป็นปฏิปักษ์กับร่างกายเราเอง

    แพทย์องค์รวมที่ถูกฆาตกรรมส่วนใหญ่กำลังจะไปประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์เพื่อเปิดเผยสิ่งที่พบ ว่าระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายอย่างไรจาก contents ในวัคซีน

    วัคซีนถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กับอุตสาหกรรมฟาร์มาซูติคัล

    สมาชิกในกลุ่มข่าวสารของผมคนหนึ่งในปานามาบอกผมว่า จากรายงานข่าวเมื่อเดือนกันยายน 2016 มีแพทย์ 5 คนเสียชีวิตไล่เลี่ยกันในสองวันที่ปานามาแบบผิดปกติ ..ทั้ง 5 คนมีแผนจะเข้าประชุมที่สวิสอยู่ด้วย ..ทั้ง 5 มีแขกเข้าพบที่มาจากจาก FDA และ FBI ..48 ชม. ก่อนตาย

    ยังมีข้อมูลปลีกย่อยคล้ายกันนี้อีกมากมาย

    เมื่อตอนที่ทรัมพ์เข้ารับตำแหน่ง ..Robert Kennedy Jr. ออกมาบอกว่าจะเป็นผู้นำรณรงค์ต่อต้านวัคซีน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เดาว่าอาจถูกขู่ฆ่า ..แต่ตอนนี้เขาออกมาพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ทรัมพ์เองก็มีลูกชายคนหนึ่งเป็นออทิสติกส์ ที่ไม่มีใครรู้ ...ผมคิดว่า โรเบิร์ต เคนเนดี้จูเนียร์คงได้ไฟเขียวจากทรัมพ์เรื่องนี้ คงสะดวกขึ้นจากการที่ฝ่ายทรัมพ์ได้เสียงข้างมากแล้วในศาลสูง

    ***ใช้วิจารณญานนะครับ***

    มีต่อ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...