ติดตามสถานะการณ์

ทะเลทรายของ #saudi arabia. ทะเลทรายกลายเป็นทะเลสาบขนาดยักษ์ใหญ่ (18 พ. ย. 2018)

 

ยักษ์ใหญ่ #ทอร์นาโดใน #ashburton, #นิวซีแลนด์ (17 พ. ย. 2018)

 

เมฆรูปกะโหลก

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


บางทีโลกอาจกำลังเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเล็ก ๆ (จริง ๆ)

กรมอุตุแจ้งว่า "พายุโทราจี" กำลังเข้าไทยในช่วงสองสามวันนี้?


พายุเข้าทั้งที่ช่วงนี้อากาศควรจะแห้งและหนาว ..ในขณะที่บริเวณทะเลทรายซาอุฝนหนัก! อย่างน้อยสองเรื่องที่บอกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุหภูมิน้ำ..


เราตั้งคำถามเกิดอะไรขึ้นกับสภาพดินฟ้าอากาศ..ขณะที่นักวิทย์นาซาเตือนโลกกำลังเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเล็กๆ ..


ปกติเราไม่ค่อยเชื่อนาซาเตือน แต่ข้อมูลพ้องกับสิ่งที่นักวิทย์ชาวรัสเซียทำ (ที่แชร์มา) ที่เราคิดว่าดวงอาทิตย์จำศีลหรือส่งพลังงานมาที่โลกน้อยเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของน้ำในมหาสมุทร

กอรปกับก่อนหน้านี้ย้อนไปพบความร้อนในอ่าวอันดามัน (ด้านล่าง) และคำบอกเล่านักวิทย์ชาวรัสเซียยืนยันด้วยการชี้ไปที่การไหลเวียนของ Amoc ที่ปัจจุบันมันอืด - อืดมากๆ

การไหลอืดหรือเกือบที่จะหยุกชงักนี้เป็นเหตุมาจากดวงอาทิตย์ที่ส่งพลังงานน้อย ดวงอาทิตย์หลับหรือจำศีล การผิดปกติของดวงอาทิตย์


ชายฝั่งอันดามันน้ำทะเลร้อนในรอบยี่สิบปี

https://m.facebook.com/story/graphq...fSTU5OTUwNDgxMzUwNjIyMDoxNTkyOTY4MDU0MTU5ODg2

ควบคู่การพบน้ำทะเลร้อนผิดปกติในแมกซิโก

(ในช่วงภูเขาไฟฮาวายปะทุ..)


เรื่องราวเหล่านี้ที่ผู้โพสคิดว่ามันเกิดจากดวงอาทิตย์มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรากฏการณ์ก่อนยุคน้ำแข็งเร็วๆนี้..คุณผู้อ่านล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้างเขียนบอกเล่าสู่กันฟังหน่อย...

 

คลังตีกรอบงบแสนล้านช่วยผู้สูงอายุ เล็งเพิ่มเบี้ยเป็น 1 พันบาท ช่วยค่าเช่าบ้าน ค่ารถไปหาหมอ ฯลฯ

 

แผ่นดินไหว Fiji Islands Region

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 03:25 น. ตามเวลาประเทศไทย

(2018-11-18 20:25:46 UTC)

ขนาด 6.5 ลึก 536 กม.

Epicenter (-17.93 , -178.88)

[ ข้อมูล GEOFON ]

กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา

www.earthquake.tmd.go.th

 

ข่าวฮ่องกง


นักโทษหลบหนีตำรวจฮ่องกงอีกครั้งที่ห้องน้ำโรงพยาบาล หลังก่อเหตุตั้งแต่ปี 2015


นักโทษชาย Leon Li อายุ 34 ปี ที่หลบหนีจากฮ่องกงตั้งแต่ปี 2015 ถูกจับอีกครั้งหลังเข้าฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วยหนังสือเดินทางของสาธารณรัฐโดมินิกัน


หลังถูกคุมขังที่สถานีตำรวจ Central เขาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขาป่วยเป็นโรคเอดส์และต้องไปโรงพยาบาล Queen Mary เพื่อรักษาตัว จนคืนวันพฤหัสบดีเขาร้องขอเจ้าหน้าที่หลายต่อหลายครั้งเพื่อไปใช้ห้องน้ำเนื่องจากมีอาการท้องเสีย


ครั้งแรกๆ เจ้าหน้าที่เป็นคนพาไปและใส่กุญแจมือรวมทั้งล่ามโซ่ไว้ แต่ครั้งหลังๆ เจ้าหน้าที่เป็นคนปลดกุญแจมือให้เขาไปเข้าห้องน้ำเอง จนเขาได้ทำการหลบนีสำเร็จเมื่อเช้าวันศุกร์ เวลา 8.30 น.


นาย Ho ผู้ป่วยที่ต้องพักร่วมกับผู้ต้องหานาย Li เล่าให้ฟังว่า “คนร้ายน่าจะพยายามวางแผนหลบหนีล่วงหน้า เพราะเขาไปห้องน้ำหลายต่อหลายครั้ง”


จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า คนร้ายปีนขึ้นฝ้าเพดานห้องน้ำบนชั้น 2 และได้เปิดฝาออกเพื่อไปยังห้องน้ำของอีกวอร์ดหนึ่ง


ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขาเคยถูกจับกุมฐานครอบครองบัตรประชาชนปลอมเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2015 เขาถือหนังสือเดินทางของประเทศจีนและได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน และหลบหนีออกไปจากฮ่องกงในช่วงประกันตัวและไม่ได้กลับมารายงานตัวที่ศาลอีกเลย


Source :


#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

Earthquake TMD


เมื่อวันที่ 1-8 พ.ย. 61 กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เดินทางไปซ่อมบำรุงรักษาเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหว เครื่องตรวจวัดอัตราเร่งของพื้นดิน และเครื่องตรวจวัดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก ที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ( PWSA) Acc Compact, สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.ชัยนาท(NATA) Acc AFF, อบต.สบปราบ จ.ลำปาง (LPSP) BH-SP, ที่ว่าการอ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (CMPR) BH-SP + (CHIA) GPS-TOPCON, ที่ว่าการ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง(SOEA) Acc Compact +( LAMP)GPS-TOPCON

 

Clima Extremo 24


สเปน



คลื่นรุนแรง กระแทกชายฝั่งด้วยกำลัง ก่อให้เกิดความเสียหายจากทะเลเข้าสู่แผ่นดิน และก่อให้เกิดความเสียหายใน Tenerife, หมู่เกาะคะเนรี

 

Univision Noticias





ความตึงเครียดเติบโตขึ้นบนท้องถนนของ Tijuana เนื่องจากการประท้วงต่อต้านการอพยพของผู้อพยพ ประชาชนบางคนมาชุมนุมกันเพื่อยกระดับเสียงประท้วงเกี่ยวกับการมาถึงของผู้ย้ายถิ่นฐานในอเมริกากลางซึ่งเกินขีดความสามารถของที่พักอาศัยเพื่อต้อนรับพวกเขา

 

Clima Extremo 24


MEXICO


ความตึงเครียดขยายตัวขึ้นบนท้องถนนของ Tijuana เนื่องจากการประท้วงต่อต้านการอพยพของผู้อพยพ


ประธานาธิบดีทรัมพ์กล่าวผ่านทาง Twitter ว่า "สหรัฐฯไม่พร้อมสำหรับการรุกรานครั้งนี้และจะไม่ยอมให้พวกเขาก่อให้เกิดอาชญากรรมและปัญหาใหญ่ในเม็กซิโก!

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


22:03 พายุดีเปรสชัน “โทราจี” สลายตัวแล้ว

 

Terremoto Y Vulcán


คุณภาพอากาศดีขึ้นมากเลยวันนี้ ท้องฟ้าสีฟ้าและควันน้อยลง มันก็ยังพร่ามัวนิดนึงแต่ไม่มีควันหนาๆ

 

In Pics: ทรัมป์บุกเมืองพาราไดซ์ถูก “ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย” ทำลายทั้งเมือง สูญหายเกินหลักพัน ดับล่าสุด 76 เผยแพร่: 18 พ.ย. 2561 21:54 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาตลอดทั้งวันเสาร์(17 พ.ย)ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเข้าตรวจพื้นที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าแคมป์ไฟทั้งเมืองทางตอนเหนือของรัฐ และรวมไปถึงมาลิบู ทางใต้ที่ถูกไฟปาวูลซีย์เข้าทำลาย ยอดเสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า 76 ราย ส่วนผู้สูยหายร่วม 1,276 คน แต่ยังคงยืนยันไฟป่าแคลิฟอร์เนียไม่ทำให้เปลี่ยนใจเชื่อภาวะโลกร้อน

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(17 พ.ย)ว่า ในวันเสาร์(17) ผู้นำสหรัฐฯเดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันมายังรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเครื่องลงจอดที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ Beale ซึ่งในการเดินทางไปเยือนเมืองพาราไดซ์(Paradise) ทางตอนเหนือของรัฐ

อ้างอิงจากทำเนียบขาวพบว่ามีผู้เข้าร่วมได้แก่ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียที่กำลังจะลงจากตำแหน่งหลังจากหมดสมัย เจอร์รีย์ บราวน์ (Jerry Brown) ว่าที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนใหม่ กาวิน นิวสัน (Gavin Newson) รวมไปถึง บร็อค ลอง (Brock Long) ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการภัยพิบัติสหรัฐฯ FEMA และนายกเทศมนตรีเมืองพาราไดซ์ โจดี โจนส์ (Jody Jones)

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า เมื่อเดินทางไปถึงประธานาธิบดีทรัมป์ได้เดินสำรวจความเสียหายภายในเมืองพาราไดซ์ที่เกิดจากฝีมือไฟป่าแคมป์ไฟ ซึ่งถือเป็นไฟป่าที่มีความร้ายแรงที่สุดมากในประวัติศาสตร์ของรัฐ โดยในขณะที่ขบวนรถของผู้นำสหรัฐฯใกล้มาถึง ภาพที่ปรากฎตรงหน้าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่บางส่วนยังคงมีฐานรากตั้งตระหง่าน ในขณะที่อีกหลายจุดได้รับความเสียหายจนราบ ส่วนบริเวณป่าที่ยังมีต้นไม้หลงเหลืออยู่แต่บริเวณพื้นกลับมีมีเหมือนสีดำทาทับไว้

และเมื่อทรัมป์ลงเดินสำรวจภายนส่วนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านเรือนประชาชนในเมืองพาราไดซ์ กลับพบว่าสภาพอากาศยังมีกลิ่นควันไหม้เหม็นคละคลุ้งในอากาศ ซึ่งพบว่าส่วนพื้นที่บ้านเรือนที่ผู้นำสหรัฐฯลงสำรวจนั้นได้รับความเสียหายจากไฟป่า 100% โดยในขณะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ทรัมป์กล่าวกับกองทัพนักข่าวที่ติดตามไปด้วยว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าจากสิ่งที่เห็น” และเขากล่าวว่า มีคนจำนวนมากที่ยังคงไม่ได้รับการติดต่อ และมีบางพื้นที่ที่เสียหายมากกว่านี้

ทรัมป์ยังชี้อีกว่า “หวังว่านี่คงจะเกิดเป็นครั้งสุดท้าย” และโดยที่ไม่ได้อธิบาย ทรัมป์กล่าวว่าพื้นป่าต้องได้รับการดูแลรักษา และเป็นอีกครั้งที่ผู้นำสหรัฐฯกล่าวเลยไปถึงเวลาที่ต้องใช้รวบรวมและทำความสะอาดใหม่ทั้งหมด ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ทรัมป์ได้กล่าวโทษไปถึงปัญหาการจัดการป่าไม้ของทางรัฐ

โดย MSNBC รายงานว่า ทรัมป์ใช้เวลาราว 2 ช.มในการสำรวจทั้งเมืองแต่ไม่ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติการ แต่ได้แต่กล่าวว่า “ไม่มีใครคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น”

CNN ชี้ว่า หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการเยือนเมืองพาราไดซ์แล้ว ผู้นำสหรัฐฯถูกตั้งคำถามว่า ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาเปลี่ยนใจถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลกหรือไม่ ทำให้ผู้นำสหรัฐฯตอบกลับมาว่า

“ไม่ ไม่ ผมมีความคิดที่แน่นอน ผมต้องการสภาวะอากาศที่ดี พวกเราจะต้องได้มัน และพวกเราจะต้องได้อย่างปลอดภัยเพราะพวกเราไม่สามารถทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อีก แต่พวกเราต้องผจญกับมันทุกปี พวกเราต้องมีป่าที่ปลอดภัยและมันกำลังเกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังพูดกันอยู่”

ทั้งนี้ก่อนหน้าในขณะที่ทรัมป์อยู่ที่ศูนย์ เขาได้ถูกถามถึงปัจจัยของภาวะโลกร้อนที่มีต่อไฟป่าแคลิฟอร์เนีย แต่ผู้นำสหรัฐฯตอบกลับมาว่า “เราคิดว่าเรามีหลายปัจจัยด้วยกัน เรามีปัจจัยการบริหารจัดการที่ผมรู้มาว่าเจอร์รีย์ (เจอร์รีย์ บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนปัจจุบัน)นั้นทำได้ด้วยดี และเกวิน (เกวิน นิวสัน) กำลังจะ...ดูสิ่งนั้นด้วยกัน”

RT สื่อรัสเซียชี้ว่า ไฟป่าแคมป์ไฟได้ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้วล่าสุดราว 13,000 เอเคอร์ เผาทำลายพื้นที่ร่วม 149,000 เอเคอร์นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย เป็นต้นมา เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า พบว่ามีคนจำนวน 1,276 คนยังคงสูญหายในพื้นที่เมืองพาราไดซ์และบริเวณโดยรอบ

ส่วนยอดเสียชีวิตล่าสุดมีไม่ต่ำกว่า 74 ราย สื่อรัสเซียรายงาน หลังจากมีการพบศพเพิ่มเติมอีก 5 รายในวันเสาร์(17)ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงจะได้ต่อสู้กับไฟป่าแคมป์ไฟมากว่า 1 สัปดาห์แต่กลับพว่าประสบความสำเร็จสามารถควบคุมได้เพียง 55% เท่านั้น

และในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน(17) ผู้นำสหรัฐฯและคณะเดินทางต่อไปทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเดินทางไปถึงในเวลา 15.11 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานว่า พบว่า ทั้งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนปัจจุบัน และว่าที่ผู้ว่าการรัฐคนใหม่เดินทางไปด้วย รวมไปถึงผู้อำนวยการสำนักงาน FEMA

ทั้งนี้ที่มาลิบูซึ่งไม่ห่างจากลอสแอนเจลีส พบว่าไฟป่าวูลซีย์สร้างความเสียหาย อ้างอิงจากสื่อรัสเซียพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าลูกนี้ 3 ราย หลังจากได้เผาทำลายพื้นที่ราว 98,000 เอเคอร์ ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 836 แห่ง และทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมได้แล้ว 82%

สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ (National weather service) แถลงว่า สัญญาณเตือนธงแดงยังคงมีอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียตลอดทั้งวันอาทิตย์(18) แต่เตือนว่า บริเวณจุดเกิดไฟป่าแคมป์ไฟ ทางเหนือ อาจพบกับลมแรงอัตรา 40 ไมล์/ช.ม และคาดว่ากลางสัปดาห์อาจมีฝนตกที่อาจจะช่วยการดับไฟป่าได้

























https://mgronline.com/around/detail/9610000115081

 

ทรัมป์ยอมรับรายงานCIA'เป็นไปได้' มกุฎรชกุมารซาอุดีฯสั่งฆ่า'คาช็อกกี'
เผยแพร่: 18 พ.ย. 2561 21:39 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชายผู้หนึ่งถือโปสเตอร์ตีพิมพ์ภาพของมกุฎราชกุมารเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และคอลัมนิสต์ จามาล คาช็อกกี โดยที่เขียนบรรยายเจ้าชายองค์นี้ว่าเป็น “ฆาตกร” ส่วนคาช็อกกีถูกระบุว่าเป็น “ผู้สละชีพ” ระหว่างงานละหมาดไว้อาลัยให้แก่คาช็อกกี ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ย.) ที่ผ่านมา
เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้เมื่อวันเสาร์ (17 พ.ย.) การประเมินของซีไอเอที่กล่าวหามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการสังหารคอลัมนิสต์ชื่อดัง จามาล คาช็อกกี “ยังเร็วเกินไปมาก” แต่ “มีความเป็นไปได้” พร้อมเผยว่าจะได้รับรายงานฉบับสมบูรณ์วันอังคาร(20) ขณะที่วุฒิสมาชิกจี้ทรัมป์จัดการรัชทายาทริยาด

ทรัมป์กล่าวระหว่างเดินทางไปดูสถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ว่า การสังหารคาช็อกกีไม่ควรเกิดขึ้น และว่า รายงานฉบับสมบูรณ์จะอธิบายว่า ใครคือคนที่รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่า ฆ่าคอลัมนิสต์ชาวซาอุดีฯ ผู้นี้และผลกระทบโดยรวมจากการตายของคาช็อกกี อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่า รายงานดังกล่าวมาจากหน่วยงานใด

ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า การสืบค้นของหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ที่ระบุว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีฯ อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมคาช็อกกีนั้นมีความเป็นไปได้

ทรัมป์แสดงความคิดเห็นนี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ ฮีทเทอร์ เนาเอิร์ต โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า รายงานข่าวที่เผยแพร่กันก่อนหน้านี้ ซึ่งระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปแล้วนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยังมีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับการฆาตกรรมคาช็อกกีที่ยังไม่มีคำตอบ

เนาเอิร์ตเสริมว่า ทางกระทรวงจะเดินหน้าค้นหาความจริงร่วมกับประเทศอื่นๆ ต่อไปเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ผู้นี้มาลงโทษ พร้อมกับการรักษาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอเมริกากับซาอุดีฯเอาไว้

ทางด้านซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ทรัมป์หารือเรื่องรายงานการประเมินของซีไอเอทางโทรศัพท์กับจีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการซีไอเอ และไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ระหว่างบินไปแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (16) ว่า ซีไอเอบรรยายสรุปการประเมินของตนเองต่อหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงรัฐสภา โดยการประเมินนี้อิงกับพยานแวดล้อมเกี่ยวกับบทบาทหลักของมกุฎราชกุมารซาอุดีฯ ในการบริหารรัฐบาลซาอุดีฯ อย่างไรก็ดี ความเห็นเช่นนี้ของซีไอเออาจจะส่งผลบ่อนทำลายความพยายามของทรัมป์ในการรักษาความสัมพันธ์กับริยาดที่เป็นพันธมิตรสำคัญของวอชิงตัน



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตอบคำถามจากผู้สื่อข่าว ขณะเขาออกจากทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ (17 พ.ย.) เพื่อไปดูสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในแคลิฟอร์เนีย ทั้งนี้ทรัมป์ได้พูดถึงรายงานข่าวการประเมินของซีไอเอที่กล่าวหามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการสังหารคอลัมนิสต์ชื่อดัง จามาล คาช็อกกี โดยเขาบอกว่า การพูดเช่นนั้น “ยังเร็วเกินไปมาก” แต่ “มีความเป็นไปได้”

การสืบค้นของซีไอเอ ถือเป็นการประเมินของสหรัฐฯที่ชัดเจนที่สุดจนถึงขณะนี้ ซึ่งมีการเชื่อมโยงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ผู้ปกครองซาอุดีฯ โดยพฤตินัย กับการสังหารคาช็อกกีโดยตรง และขัดแย้งกับการกล่าวอ้างของริยาดว่า เจ้าชายองค์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้

ด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ซีไอเอพบว่า สายลับซาอุดีฯ 15 คนบินไปนครอิสตันบูลด้วยเครื่องบินของรัฐบาลริยาด และสังหารคาช็อกกีในสถานกงสุลซาอุดีฯประจำอิสตันบูล

คาช็อกกี คอลัมนิสต์ที่ชอบวิจารณ์เจ้าชายมกุฎราชกุมาร ถูกฆาตกรรมในเดือนตุลาคม ระหว่างเดินทางไปขอรับเอกสารสำหรับการแต่งงานตามที่แจ้งเอาไว้ล่วงหน้า ณ สถานกงสุลซาอุดีฯ ในเมืองอิสตันบุลของตุรกี

ในวันเสาร์ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯจำนวนหนึ่งกำลังผลักดันให้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อลงโทษซาอุดีฯ วุฒิสมาชิกทั้งจากรีพับลิกันและเดเมโครต อาทิ บ็อบ คอร์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสามัญวุฒิสภา ก็เรียกร้องให้ทรัมป์จัดการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด เนื่องจากหลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า เป็นผู้บงการสังหารคาช็อกกี ก่อนที่มกุฎราชกุมารซาอุดีฯ จะสั่งสังหารผู้ที่เห็นได้ชัดว่า ปฏิบัติตามคำสั่งของตนเอง

ริชาร์ด บลูเมนทัล วุฒิสมาชิกเดโมแครตสำทับว่า กษัตริย์ซาอุดีฯ ควรปลดเจ้าชายโมฮัมเหม็ดและบุคคลอื่นๆ ตลอดจนยุติการปิดบังที่ทรัมป์ยินยอมให้เกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ ทั้งผู้นำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนของคณะบริหาร ระบุว่า ริยาดต้องลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของคาช็อกกี ซึ่งรวมถึงชาวซาอุดีฯ 17 คนที่พันพันอยู่ในคดีนี้ แต่พวกเขาก็ย้ำความสำคัญของความสัมพันธ์ของวอชิงตันกับริยาด ซึ่งเป็นลูกค้าใหญ่สุดของอุตสาหกรรมกลาโหมอเมริกัน และทรัมป์ต้องการปกป้องข้อตกลงขายอาวุธให้ซาอุดีฯ แม้ถูกสภาต่อต้านมากขึ้นทุกทีก็ตาม

ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว (15) ชาลัน อัล-ชาลัน อัยการซาอุดีฯ ระบุว่า ต้องการลงโทษประหารผู้ต้องสงสัย 5 คนในคดีนี้ และยืนยันว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดไม่มีส่วนรู้เห็นปฏิบัติการนี้ ซึ่งมีการหั่นศพของคาช็อกกีเป็นชิ้นๆ และนำออกจากสถานกงสุล

อัล-ชาลันสำทับว่า ทีมงานที่ประกอบด้วยชาวซาอุดีฯ 15 คนถูกส่งไปเผชิญหน้ากับคาช็อกกีเพื่อบังคับให้เดินทางกลับซาอุดีฯ และรัดคอคอลัมนิสต์ผู้นี้จนเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ

https://mgronline.com/around/detail/9610000115078

 

Chad Khari Risbrooke



ซาอุดีอาระเบียน้ำท่วมในทะเลทรายไม่เคยก่อนเห็น

 

เจนจิรา จันทรเสนา


·
เหตุเกิดจากการปิดถนนประท้วงการขึ้นภาษีน้ำมัน เมื่อวานนี้ ที่ฝรั่งเศส

จะมีอยู่จุดหนึ่ง ที่เกิดเหตุมีคนขับรถยนต์พุ่งชนผู้ประท้วงซึ่งเป็นหญิงวัย 63 ปีเสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุบอกกับตำรวจว่า ..เธอจะพาลูกสาวที่ป่วยไปโรงพยาบาล แต่ถูกกลุ่มผู้ประท้วงล้อมรถไว้จนเธอกลัว จึงตัดสินใจขับรถพุ่งออกไป

For more on the story: https://news.sky.com/story/death-an...Cl5Av2Bhz1vuVoAECTv6rE3Pd0z4NyYToLNcuQFDNW3Pg

SkyNews

 

เจนจิรา จันทรเสนา



การปิดถนนประท้วงขึ้นภาษีน้ำมันในฝรั่งเศสทำให้ผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยโดนรถชนบ้าง ปะทะกับตำรวจบ้าง เจ็ยอย่างน้อยราว 200คน สาหัส 7คน และโดนจับกุมอย่างน้อย 50คน

ปธน.มาครง ยืนยันว่าต้องขึ้นภาษีน้ำมันเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และปีหน้าจะขึ้นภาษีตัวนี้อีก ..

https://www.bbc.com/news/world-europe-46233560

 

เจนจิรา จันทรเสนา



เหตุการณ์นี้ถ้าภาษาบ้านเราคือ ...มึงมาแล้ว!

ตำรวจควบคุมฝูงชน ใช้แก็สน้ำตาสกัดกั้นกลุ่มผู้ประท้วงขึ้นภาษีน้ำมันที่ฝรั่งเศส โดยผู้ชุมนุมพยายามจะบุกไปยังทำเนียบประธานาธิบดี

 

เจนจิรา จันทรเสนา



กรณีประท้วงขึ้นภาษีน้ำมันที่ฝรั่งเศส

"ปิดถนนด้วยใจรัก"
นักประท้วงคนนี้ใจรักมาก..ต้องยอมใจแกอ่ะ! ถึงแม้แยกนี้จะไม่มีใครมาร่วมปิด แกก็นั่งปิดของแกอยู่คนเดียว