ติดตามสถานะการณ์

ปีนี้ไม่มีทางขึ้น แต่ปีหน้าขยับแน่ สำนักวิจัย ธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย2 ราย คือซีไอเอ็มบี-ไทย กับ ธนาคารกสิกรไทย เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 3-6 เดือนหลังจากนี้ไป โดยคาดว่าจะปรับขึ้นครั้งแรกเดือนมีนาคม 2562 และทั้งปี 2562 จะขยับไป 0.50%

ทางออกนอกตำรา : ดอกเบี้ยมาประชาชอกชํ้า ปีหน้าขาขึ้น! ไม่ตั้งรับเจอดี



ในสายตาชาวบ้านทั่วไป มติของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 4 ต่อ 3 ที่เห็นชอบให้ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” หรือดอกเบี้ยอาร์/พี ซึ่งเป็นดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติจะปล่อยกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ 1.5% อาจไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นตกใจ

เพราะแบงก์ชาติใช้นโยบายดอกเบี้ยตํ่าเช่นนี้มานานจนชิน ประชุมลงมติกันแบบนี้มาแล้ว 28 ครั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ปากท้องชาวบ้านสักนิดเดียว ยังจ่ายดอกเบี้ยแพงเหมือนเดิม

แต่สำหรับตลาดเงิน ตลาดทุน สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งเป็น “ผู้หากินและเล่นกับเงิน” รวมตลอดไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กยันรายใหญ่ที่ “ต้องการเงิน” ต้องหูผึ่ง ตาไว และต้องไหวตัวให้ทัน ไม่เช่นนั้น ท่านอาจตกขบวนและมีต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว

ส่วนชาวบ้านร้านค้าทั่วไปนั้น ผมขอบอกว่า “ภัยในเรื่องต้นทุนทางวงการเงิน” กำลังเดินย่องแบบเงียบกริบมาเคาะประตูบ้านของทุกท่านในเร็ววันนี้แน่นอน...ทำไมเป็นเช่นนั้น!!!

นับตั้งแต่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งรับไม้ต่อมาจาก “ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์” ปฏิรูปกระบวนการทำงานของแบงก์ชาติครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2543 ด้วยการสร้าง “คณะกรรมการ” ขึ้นมากำกับดูแลงานอย่างเป็นอิสระของแบงก์ชาติ 2 ชุด ภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 ที่จนลงเป็นหนี้กันทั้งประเทศ

ชุดแรก เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน รู้จักกันในนาม “กนง.” มีกรรมการ 7-9 คน ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดเป้าหมายนโยบายการเงินประเทศ โดยคำนึงถึงสภาวะเศรษฐกิจและดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพด้านราคา

หลักใหญ่ในการทำงาน คือ เปลี่ยนวิธีการบริหารของธนาคารกลางจากเดิมที่ใช้ “ปริมาณเงิน” Monetary Targeting มากำหนดเป้าหมายนโยบายการเงิน เม็ดเงินจากภาคต่างประเทศ และดุลการชำระเงิน เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวมีระดับราคาที่เหมาะสม มาเป็น “ตัวเลขเงินเฟ้อ”Flexible Inflation Targeting เป็นเป้าหมายในการดูแลเศรษฐกิจ

ภาษาชาวบ้าน กนง. ใช้อัตราดอกเบี้ย มาดูแลเรื่องเงินเฟ้อ ค่าเงิน อันเป็นต้นทุนราคาสินค้าที่บุกไปถึงปากท้องของชาวบ้าน

ชุดที่ 2 เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน รู้จักกันในนาม “กนส.” มีกรรมการรวม 11 คน ผู้ว่าการแบงก์ชาติเป็นประธาน รับผิดชอบด้านการกำหนดนโยบายระบบสถาบันการเงินให้มีเสถียรภาพมั่นคง ฉีดเงินหรือดูดซับเงินลงไปในระบบ กำกับ สั่งการกันที่นี่

แบงก์ชาติใช้คณะกรรมการ 2 ชุดนี้ ขับดอกเบี้ยออกมาเคลื่อนเศรษฐกิจและใช้สถาบันการเงินปล่อยกู้เงินออกไปให้กับประชาชนคนไทยมาร่วม 18 ปีแล้ว

ปัจจุบันกรรมการ กนง.7 คน ประกอบด้วย วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เป็นประธาน เมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงิน เป็นรองประธาน ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการ สายบริหาร เป็นกรรมการที่เป็นฝ่ายบริหารของแบงก์ชาติ ที่เหลือเป็นนักเศรษฐกิจจากองค์กรภายนอก 4 คน ประกอบด้วย เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานคณะกรรมการ สถาบันอนาคตไทยศึกษา อดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี สุภัค ศิวะรักษ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยและธนาคารซีไอเอ็มบี-ไทย และ สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทีดีอาร์ไอ

ในฐานะที่คลุกคลีกับข่าวทางเศรษฐกิจมา ผมขอบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ที่ “กนง.เสียงแตก 4 ต่อ 3 เสียง” ในการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้น ที่แตกต่างกันมากมายและสูสีกันขนาดนี้

ผมทำนายโดยไม่อ้อมค้อม และไม่ต้องให้ ทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน และเลขานุการ กนง.ออกมาชี้แจงว่า กนง. ที่สนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยอาร์/พี เพื่อสกัดการเก็งกำไรและจะได้รับมือกับการขึ้นของดอกเบี้ยโลกได้ทันท่วงที คือ ฝ่ายบริหารของแบงก์ชาติ 3 คน ส่วน 4 คน ที่ลงมติให้ตรึงไว้ก่อนคือ กรรมการที่มาจากคนนอก ถ้าจะผิดฝาผิดตัวไปก็ไม่เกิน 2 คนนี้ คือ “พ.” กับ “ส.”

ที่ผ่านมาเพียงแค่คณะกรรมการมีเสียงแตกแค่ 2 เสียง ตลาดเงิน ตลาดทุน ธนาคารพาณิชย์ก็อื้ออึง “ขาดทุน-ทำกำไร” กันสนั่นเป็นพันล้านเป็นหมื่นล้านแล้ว เพราะนี่คือสัญญาณว่า นโยบายเศรษฐกิจของไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการปรับเปลี่ยนแล้ว

วันที่ 19 กันยายน 2561 กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% โดย 2 เสียงเห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% ปรากฏว่า ค่าเงินบาทแกว่งขึ้นลง 0.20-0.30 บาท นักค้าเงินซื้อขายกันมือระวิง ไตรมาส 3/2561 ปริมาณซื้อขายเงินตราต่างประเทศทะลุ 2.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

มาถึงรอบวันที่ 14 พฤศจิกายน กรรมการ กนง. 4 คน ลงมติให้คงดอกเบี้ยอาร์/พีไว้ในอัตราเดิม ขณะที่กรรมการอีก 3 คน สนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดพฤติกรรมแสวงหาผลกำไร เก็งกำไร และเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินให้ตอบรับกับดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคต

สัญญาณมาชัดเจนครับว่า เวลาดอกเบี้ยอาร์/พีที่ตํ่า 1.50% ที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิงในการคิดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้จากประชาชนทั่วไป6.25-7.5% ยกเว้นบรรดาเศรษฐีระดับ“มิลเลนเนียล” ที่ได้ดอกเบี้ย 4-5% จะหมดเวลาแล้ว

เมื่อดอกเบี้ยอาร์/พีขยับขึ้นไปไม่ต้องมากแค่ 0.50-1.0% รับประกันซ่อมฟรีว่า การที่ผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อย ประชาชนทั่วไปจะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 9-10% มีให้เห็นภายใน 1-2 ปีแน่นอน และผู้ที่จะพุงกางก่อนใครคือธนาคารพาณิชย์ ที่ปีนี้แม้จะมีต้นทุนพุ่งรายได้ลดจากดิจิตอลแค่ 9 เดือนทำกำไรไป 1.62 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว

ทำไมนะหรือ เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 0.25% จะช่วยส่งผลต่อกำไรธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 1% นี่คือสูตรการเงินที่แท้จริง ซึ่งแบงก์ชาติรู้ดีกว่าชาวบ้าน

แต่ผมประเมินว่าแบงก์ชาติ และ กนง.จะไม่ลงมติขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบสุดท้ายของปีในวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เด็ดขาด เนื่องจากเป็นท้ายปีที่จะไปสกัดกำลังซื้อและส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของรัฐบาลที่กำลังนำไปสู่โหมดการเลือกตั้ง

ผมเชื่อว่า ถ้าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ถ้าจะลากไปก็คงเป็นช่วงวันที่ 20 มีนาคม 2562 ไม่ก็เป็นวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 เพราะขึ้นดอกเบี้ยไปเท่าใด ฝ่ายการเมืองก็ปลอดภัยจากการด่าทอของประชาชนที่โดนดอกเบี้ยมากัดกินเงินรายได้

เชื่อผมเต๊อะปี้น้อง.... แม้ Code of Conduct หรือข้อพึงปฏิบัติของ กนง.จะกำหนดไว้ตัวโตว่า กรรมการพึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระในการออกความคิดเห็นและตัดสินใจ โดยถือประโยชน์โดยรวมต่อระบบเศรษฐกิจไทยเป็นสำคัญ และพึงวางตัวเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อสาธารณชนว่ามีความเป็นอิสระจากการเมือง แต่ในทางปฏิบัติต้องยอมรับว่า แรงส่ง และการแทรกแซงด้วยวาจา “Verbal Intervention” ทางการเมืองนั้น สำคัญต่อการชี้นำทางนโยบายอย่างมาก

ปีนี้ไม่มีทางขึ้น แต่ปีหน้าขยับแน่ สำนักวิจัย ธนาคารพาณิชย์อย่างน้อย2 ราย คือซีไอเอ็มบี-ไทย กับ ธนาคารกสิกรไทย เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 3-6 เดือนหลังจากนี้ไป โดยคาดว่าจะปรับขึ้นครั้งแรกเดือนมีนาคม 2562 และทั้งปี 2562 จะขยับไป 0.50%

แต่ปีนี้อัตราเงินเฟ้อที่ยังตํ่าทำให้แรงกดดันต่อการขึ้นดอกเบี้ยไม่มาก แถมเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ความจำเป็นที่ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม 2561 จะยิ่งลดน้อยลง

แต่คนที่จะกู้เงินยาว หรือผู้ที่จะล็อกต้นทุนทางการเงินด้วยการออกหุ้นกู้ ตราสารหนี้ทางอื่น ต้องลงมือทำกันช้าไม่ได้แล้วครับ...เพราะดอกเบี้ยมันไม่เคยเหี่ยวเฉาสักที บานเบ่งชั่วนาตาปีดอกบานทวียืนอยู่ที่ธนาคาร...รู้มั้ยดอกอะไรบานไม่รู้โรย...

| คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
| โดย : บากบั่น บุญเลิศ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3419 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย.2561

http://m.thansettakij.com/content/349069#

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 17) 'เกาหลีเหนือ'ทดสอบอาวุธรอบใหม่ : สื่อทางการโสมแดงรายงาน"คิม จอง อึน" ตรวจการทดสอบอาวุธเชิงยุทธวิธี รุ่นใหม่ ด้านสหรัฐเผยเชื่อมั่นในคำสัญญาปลด อาวุธนิวเคลียร์ที่เคยให้ไว้ที่สิงคโปร์



สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ รายงานวานนี้ (16 พ.ย.) ว่า นายคิม จอง อึน เยี่ยมชมศูนย์ทดสอบอาวุธของสถาบันวิทยาศาสตร์ป้องกันประเทศ และดูแลการทดสอบอาวุธเชิงยุทธวิธีรุ่นใหม่ ที่พัฒนาล้ำสมัยมาก รายงานข่าวระบุด้วยว่า การทดสอบสำเร็จลงด้วยดีแต่ไม่ได้ระบุถึงประเภทของอาวุธ โดยนายคิมพอใจอย่างยิ่ง พร้อมกล่าวว่าการทดสอบครั้งนี้ถือเป็นการกลับเข้ามาเสริมสร้างสมรรถนะในการสู้รบอย่างเด็ดเดี่ยว



รายงานจากเคซีเอ็นเอถือเป็นข่าวการทดสอบอาวุธอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่เกาหลีเหนือเริ่มกระบวนการทางการทูตอันเปราะบางกับสหรัฐ ว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ



ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรายงานข่าว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า มั่นใจว่า กระบวนการทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศยังเป็นไปตามแผน



"ตอนที่ประชุมที่สิงคโปร์ ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานคิมได้ให้คำมั่นกันไว้ระดับหนึ่ง เรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์โดยไม่หวนกลับไปอีก เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับเกาหลีเหนือ เรากำลังคุยกับเกาหลีเหนือให้ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ทั้งหมด และยังเชื่อมั่น ว่าสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์และประธาน คิมพูดไว้จะได้รับการตอบสนองอย่าง เต็มที่"



คำว่า "อาวุธเชิงยุทธวิธี" ที่เคซีเอ็นเอ ใช้ หมายถึงขีปนาวุธพิสัยใกล้หรือปานกลาง หรืออาวุธนิวเคลียร์ และเกาหลีใต้ก็ยังตรวจไม่พบว่าเป็นอาวุธชนิดใด



เคซีเอ็นเอเผยแพร่ภาพประกอบรายงานข่าวเพียงภาพเดียว เป็นกลุ่มชายใน เครื่องแบบกำลังจดบันทึกสิ่งที่นายคิมพูดโดยไม่มีภาพอาวุธปรากฏให้เห็น ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนานาชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ เหล่านั้นมีนายปัก จอง ชอน ผู้บัญชาการหน่วยสรรพาวุธกองทัพประชาชนเกาหลีรวมอยู่ด้วย



นายยัง มู จิน จากมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซล กล่าวว่า การทดสอบอาวุธเป็นการส่งสัญญาณให้สหรัฐเดินหน้าจัดการเจรจาระดับสูง ได้แล้ว ความอดทนของเกาหลีเหนือเหลือน้อย เต็มที



คิม จอง อึน เยี่ยมชมศูนย์ทดสอบอาวุธของ สถาบันวิทยาศาสตร์ป้องกันประเทศ และดูแลการทดสอบ อาวุธเชิงยุทธวิธีรุ่นใหม่ที่พัฒนาล้ำสมัยมาก


Source: กรุงเทพธุรกกิจ


https://edition.cnn.com/2018/11/15/asia/kim-north-korea-missile-kcna-intl/index.html

 

ชิลีพบปลาแผ่นดินไหว จะเกิดแผ่นดินไหวตามมาไหม?

 

คนฝรั่งเศสเขาไม่ทน..ฮือประท้วงรัฐบาล700 จุดทั่วประเทศ..

เห็นพลังปชช.ของเขาแล้วสงสารประเทศเราจับใจ ต้องทนให้เขาเอาเปรียบโดยไม่เคยคิดลุกขึ้นสู้

 

ฝันดีครับ

17-18 พ.ย.นี้ เตรียมชม “ราชาแห่งฝนดาวตก” ดูได้ด้วยตาเปล่าทั่วไทย

 

Jeerachart Jongsomchai


... "ซีไอเอ บอกว่ามกุฏราชกุมารซาอุดเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสังหารนักข่าว"


... ซีไอเอของเมกาออกมาบอกแล้วว่ามกุฏราชกุมารของซาอุด MBS นั้นเกี่ยวข้องกับการสังหารนักข่าวนายคาซอกกี้โดยตรง


... โดยบอกว่าพบมีการโทรศัพท์จากมุฏราขกุมารไปที่สถานทูตในอเมริกาให้ไปเอาเอกสารบางอย่างที่อิสตันบูลในตุรกี ที่ปรากฏว่าต่อมาเป็นสถานที่มีการสังหารนายคาซอกกีอย่างอุกอาจ (ไม่เนียนตาตามมาตราฐานยุโรป)


... แม้ทางคาลิดบินซัลแมนอนุชาของมกุฏราชกุมารจะออกมาปฏิเสธว่าจะไม่ได้คุยกับคาซอกกี้มาเป็นปีก่อนการเสียขีวิตแล้วแม้ว่าทางการซาอุดจะจนมุมและยอมรับว่านายคาซอกกี้เสียชีวิตในกุงศุลที่อิสตันบูลจริงแต่ก็บอกว่าเป็นอุบัติเหตุ


... แต่ฝ่ายสืบสวนของ"ตุรกี" บอกตรงข้ามว่าเป็นการตั้งใจสังหารแบะเร่งทางการซาอุดิอาระเบียให้ส่งตัวผู้ร้ายมาให้ตุรกีโดยด่วน ตามแหล่งสถานที่เกิดอาชญากรรม


... ต้นสัปดาห์นี้ "อเมริกา" ได้คว่ำบาตรทาวเศรษฐกิจต่อซาอุดแล้วหลังพบว่ามีเจ้าหน้าซาอุด17คนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้


... และมีการคาดหมายว่าเรื่องนี้จะมีผลกระเพื่อมต่อการแย่งขิวบัลลังค์ภายในซาอุดิอาระเบียรวมทั้งนโยบายต่างประเทศด้วย


.


. https://www.euronews.com/2018/11/17...ween-saudi-crown-prince-and-khashoggi-killing

 

Jeerachart Jongsomchai


... "ฝรั่งเศสหลายหมื่นประท้วงน้ำมันแพง"


... ชาวฝรั่งเศสเรือนหมื่นออกมาประท้วงรัฐบาลของนายมาครองที่ขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลทำให้คนเดือดร้อนโดยเฉพาะคนขับรถบรรทุกและทำให้มีคนขับเร่งความเร็วใส่ผู้ประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคนและบาดเจ็บอีกสองร้อยคน


... นอกจากนั้นแล้วนายมาครองยังถูกมองว่าตลอดเวลาปีครึ่งของเขานั้นเป็น"รัฐบาลของคนรวย" ที่คนจนเข้าไม่ถึง


... ปัญหาเรื่อง"น้ำมันและพลังงาน" เป็นปัญหาใหญ่ของยุโรป ที่รวยแต่ขาดน้ำมันมาตลอด อเมริกาพยายามจะรัดคอยุโรปให้ตายโดยการสกัดโครงการท่อแก๊สยูเครนที่ทำสำเร็จแล้วในปี2014, และตามมาด้วยล่าสุดท่อแก๊สสายเหนือโครงการ2 หรือ Nord stream 2 ที่หลายประเทศยินยอมให้สร้างเดินท่อผ่านได้แล้วทั้งเยอรมัน, สวีเดน, ฟินแลนด์ เหลือแต่"เดนมาร์ก" ที่ยังไม่ยอมให้เดินท่อแก๊สผ่านน่านน้ำตน เพราะบอกชัดเจนว่ากลัวเมกาคว่ำบาตรประเทศตนและโปแลนด์เองก็ได้ลงนามซื้อแก๊สเหลวจากอเมริกาแล้ว ทั้งๆที่รัสเซียใกล้บ้านกว่า


... ซึ่งเรื่องนี้นายมาครองเห็นด้วยและสนับสนุนลุงปูตินในการทำโครงนี้ที่มีนายทุนพลังงานของฝรั่งเศสเข้าร่วมด้วย เลยทำให้เมกาไม่พอใจมาครองที่เคยเป็นเด็กปั้นของวอลบ์สตรีทมากขึ้นเรื่อยๆ


... และตามมาด้วยมีการประท้วงเรื่องราคาน้ำมันแพงดังกล่าว ทั้งๆที่ในระยะยาวราคาจะถูกขึ้นถ้าท่อแก๊สจากรัสเซียสร้างเสร็จ


... ส่วนไทยแลนด์ประเทศผมมีน้ำมันเยอะราคาตลาดโลกลดลง แต่ยังต้องใช้น้ำมันแพงเอาใจ "ปตทรพีและเชฟกะทะร่อน" (ที่เก่งในการทำโฆษณาสวยๆ)ให้รวยบนหลังคนไทย กันต่อไป


.


. https://www.euronews.com/2018/11/17/one-dead-and-over-200-injured-in-fuel-protests-across-france

 

Jeerachart Jongsomchai


.... "ออสเตรีย : เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเป็นสายลับให้รัสเซีย"


... นาง Karin Kneiss รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรียเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางทหารของประเทศเป็นสายลับใหักับ"รัสเซีย" จึงเอาเป็นข้ออ้างในการงดการเยือนมอสโกว์ออกไป, และตามมาด้วยการเรียกตัวทูตรัสเซียประตำออสเตรียเข้าพบเพื่ออธิบายเรื่องนี้ต่อกระทรวงการต่างประเทศโดยด่วน


... โดยเธอเชื่อว่ามีนายทหารที่เพิ่งเกษียณนายหนึ่งได้เป็นสายลัยให้กับรัสเซียมานานตั้งแต่ทศวรรษที่1990 จนถึงปัจจุบัน


... แต่สื่อมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่องที่พยายามทำให้ "ออสเตรีย" ที่เป็นพันธมิตรที่สนิทมากกับรัสเซียต้องมีเรื่องบาดหมางกัน(คล้ายกรณีของยูเครน) โดยในเดือนสิงหาคมปี2018นี้นางคารินยังได้เชิญลุงปูตินมางานแต่งงานของเธอด้วยยิ่งกว่านั้นเธอยังได้เต้นลีลาสกับลุงปูติน ที่เป็นสัญลักษณ์ของความใกล้ชิดของประเทศทั้งสอง


... นอกจากนั้นออสเตรีย ยังเป็นประเทศในยุโีรปชนกลุ่มน้อยที่กล้าหาญไม่เต้นไปตามบทเพลงของปีศาจที่อังกฤษสร้างเรื่องสายลับรัสเซียถูกวางยาพิษในอังกฤษทั้งๆที่ยังไม่มีสรุปการสืบสวนอย่างละเอียด ทำให้ประเทศยุโรปจุกจ้อยต้องขับไล่นักการทูตรัสเซียพ้นยุโรปมากมาย ตามนายใหญ่สั่งเพื่อจุดหมายไกลๆที่คนยุโรปคิดไม่ถึงคือการหยุดการขายแก๊สน้ำมันจากรัสเซียให้ยุโรปและต้องการให้เมกามีอิทธิพลเหนือยุโรปประหนึ่งนายทาสต่อไป


.


.


. https://www.euronews.com/2018/11/09...its-senior-military-officers-spied-for-russia

 

INSTITUTE OF ISLAMIC STUDIES THAILAND


นายทหารระดับสูงของระบอบไซออนิสต์ยอมรับในความล้มเหลวของกองทัพอิสราเอลต่อกองกำลังต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) และกล่าวว่ายอมรับ เมื่อสี่สิบปีก่อนเราได้ทำสงครามกับอาหรับสามประเทศ ซึ่งเราได้รับชัยชนะเหนือประเทศอาหรับเหล่านั้น แต่วันนี้เราไม่สามารถเอาชนะขบวนการฮามาสได้....

 

La nueva era de la tierra - respaldo

น่ากลัว

ในขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญนรกที่โหดร้าย รัสเซียกำลังประสบกับคลื่นแห่งความหนาวเย็นในเดือนพฤศจิกายนถึงระดับที่แช่แข็งรถ


รูปภาพ

 

La nueva era de la tierra - respaldo


เรื่องนี้เผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ ...



สิ่งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง


รอยร้าวขนาดใหญ่ในทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียและกลืนน้ำ ตกใจ .....(ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม)

 

La nueva era de la tierra - respaldo


#DIFUNDAN

กองคาราวานของแรงงานข้ามชาติที่มุ่งหน้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาได้โยนอาหารที่ชาวเม็กซิกันให้แก่พวกเขาและเรียกร้องจานที่มีราคาแพงกว่า


รูปภาพวิดีโอ

 

La nueva era de la tierra - respaldo

#FOTOS #NEWS


ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ - ทะเลทรายซาอุดีอาระเบียกลายเป็นทะเล การเปลี่ยนขั้วโลกกำลังใกล้เข้ามา?


รูปภาพสุดเจ๋ง

 

ฝูงนกบินเข้าหาเครื่องบินและบังคับให้เครื่องบินกลับไปยังพื้นดิน (USA)


เครื่องบินโดยสารได้ประสบเหตุการณ์ที่น่าตกใจ เมื่อได้ขึ้นบินไป Southwest Florida International Airport และหันเครื่องกลับไป Pittsburgh,


ตามที่ผู้โดยสารรายหนึ่งบนเครื่องได้ยินเสียงแปลก ๆ ราวกับว่าอุปกรณ์เชื่อมโยงไปถึง ทำให้เกิดเสียงดังมาก หลังจากนั้นเขาเห็นอะไรแปลก ๆ ผ่านหน้าต่าง ฝูงนก


มันเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเครื่องบินได้บินออกจากสนามบินนานาชาติพิตส์เบิร์ก เครื่องบินชนกับฝูงนก และนักบินกลับไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเดียวกัน


ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาลงจอดอย่างปลอดภัยที่สนามบิน และอุปกรณ์ดังกล่าวถูกนำออกเพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียด


ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

และ ผู้โดยสาร 134 รายและลูกเรือ6 ราย ได้เดินทางต่อ โดยเครื่องบินลำอื่น


- 17/11/2018


https://www.climaseveromundial.com/2018/11/pajaros-desorientados-obligan-un-avion.html?m=1

 

Forbidden Knowledge News


เหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดีอาระเบีย


ซาอุดิอาราเบียประกาศว่าน้ำท่วมฉับพลันได้สังหารคนอย่างน้อย 30 คนข้ามประเทศทะเลทรายในช่วงเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกคำเตือนฉุกเฉินตามที่สถานการณ์คาดว่าจะแย่ลงทั่วประเทศ...

 

China Xinhua News


ไทยกู้ซาก “เรือฟีนิกซ์” จมทะเลภูเก็ตนานกว่า 4 เดือนสำเร็จ

.

ภารกิจการกอบกู้ซากเรือท่องเที่ยวฟีนิกซ์ (Phoenix) ซึ่งประสบเหตุจมทะเลนอกชายฝั่งเกาะภูเก็ตในเดือนก.ค. จนทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 47 ราย ประสบความสำเร็จแล้วในวานนี้ (17 พ.ย.) หลังจากพยายามมานานกว่า 4 เดือน

.

รายงานระบุว่าไทยได้ซื้อเรือเครนยกขนาดใหญ่จากสิงคโปร์มาใช้กอบกู้และยกซากเรืออับปางที่จมอยู่ก้นทะเลลำนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากความพยายามใช้ถังและบอลลูนอัดอากาศยกซากเรือก่อนหน้านี้ประสบความล้มเหลว

.

ปัจจุบันทีมสืบสวนจะเริ่มการตรวจสอบซากเรืออย่างละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุดของไทย ซึ่งกำลังส่งผลกระทบหนักต่อธุรกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ

.

การกู้ซากเรือฟีนิกซ์ขึ้นมาได้นั้นจะช่วยตอบคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับความสามารถของลูกเรือ ความพร้อมในการออกทะเลของเรือ และประสิทธิภาพของอุปกรณ์ช่วยชีวิตบนเรือมรณะลำนี้

.

“เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น” พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าว “เราจะตรวจสอบเรือด้วยความโปร่งใสเพื่อความมั่นใจของญาติเหยื่อ เราจะลงโทษทุกคนที่มีส่วนผิด”

.

รายงานเสริมว่าเจ้าของเรือฟีนิกซ์ กัปตันเรือ และวิศวกรประจำเรือ ล้วนถูกตั้งข้อหากระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังพบว่าเจ้าของเรือเพิกเฉยต่อประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศที่พยากรณ์ว่าจะมีพายุรุนแรง

.

โศกนาฏกรรมเรือฟีนิกซ์อับปางได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อการสูญเสียชีวิตของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงปัญหาความปลอดภัย นำไปสู่การยกเลิกทริปท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก

.

ด้านรัฐบาลไทยดำเนินมาตรการตรวจสอบเรือท่องเที่ยวที่ให้บริการอยู่ในเกาะภูเก็ตกว่า 400 ลำ ซึ่งพบว่าราวครึ่งหนึ่งไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ และมีคำสั่งห้ามใช้งานทันทีสามสิบลำ

.

อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตจีนจำนวนไม่น้อยที่ทราบข่าวว่าไทยสามารถกู้ซากเรือฟีนิกซ์ขึ้นมาได้แล้วนั้นต่างตั้งคำถามว่า “ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนี้?”

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี


23:00 #เส้นทางพายุโซนร้อน “โทราจี” ประเมินโดยสำนักอุตุฯ 6 ประเทศ #พายุมีแนวโน้มจะสลายตัวบนฝั่งเวียดนาม


22:00 #หย่อมความกดอากาศต่ำ 91W ในทะเลจีนใต้ ทวีกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน 32W แล้วกลายเป็นพายุโซนร้อน

#ได้ชื่อเรียกว่า “โทราจี” Toraji ชื่อนี้ตั้งโดยประเทศเกาหลีเหนือ หมายถึงดอกไม้ชนิดหนึ่ง #พายุโซนร้อนโทราจีจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนใต้ใน 24 ชม.ข้างหน้า

 

#breakingnews: ผู้เสียชีวิตจาก ไหป่าแคลิฟอร์เนีย เพิ่มขึ้น เป็นอย่างน้อย 76 คน

 

ภาพที่ยังไม่ได้ปล่อย #ภาพใหม่ #รูปภาพ


ภาพถ่ายทางอากาศจับภาพทะเลทรายของซาอุดีอาระเบียกลายเป็นมหาสมุทร verdedaro ไม่เคยพบในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่เคยเห็นสิ่งนี้


รูปภาพ


17/11/2561


https://www.climaseveromundial.com/2018/11/fotos-imagenes-aereas-del-desierto.html

 

La nueva era de la tierra - respaldo

#FOTOS #NEWS


#VIDEO #NUEVO



อีกหนึ่งวิดีโอที่ทะเลทรายกลายเป็นมหาสมุทร ในซาอุดิอาราเบีย

17.11.2018