ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students


(Nov 17) จีน-สหรัฐวิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจกันเองบนเวทีเอเปก: ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่าโลกต้องร่วมมือกันสร้างเครือข่ายการค้าแบบพหุภาคี ขณะที่รองประธานาธิบดีสหรัฐวิจารณ์ "นโยบายการทูตสมุดเช็ค" ของรัฐบาลปักกิ่งเป็นการสร้างกับดักหนี้


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวบนเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ( เอเปก ) ที่กรุงพอร์ตมอร์ตสบี เมื่อวันเสาร์ มีสาระสำคัญในตอนหนึ่งว่าความพยายามก่อกำแพงการค้า และการตัดความสัมพัยธ์ทางการค้าโดยใช้มาตกรารที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นไปตามกระแสโลก ถือเป็นการดำเนินนโยบายซึ่งขาดวิสัยทัศน์ และมีแต่จะนำไปสู่การเกิดความผิดพลาดเท่านั้น พร้อมทั้งย้ำจุดยืนของรัฐบาลปักกิ่งในการสนับสนุนนโยบายการค้า "พหุภาคี"


อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ขึ้นเวทีเป็นคนต่อมา กล่าวว่าสหรัฐ "ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด" เพื่อลดช่องว่างการขาดดุลทางการค้าของอเมริกาที่มีต่อจีน ตอนนี้รัฐบาลวอชิงตันขึ้นภาษีของจีนจากมูลค่าการนำเข้า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 8.25 ล้านล้านบาท ) แต่อาจเพิ่มขึ้นอีกในอนาค จนกว่า "จีนจะปรับเปลี่ยนนโยบาย" เพราะสหรัฐ "จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง" ขณะเดียวกัน เพนซ์ยังวิจารณ์ "นโยบายการทูตสมุดเช็ค" ที่หมายถึงการเสนอความสนับสนุนด้านการเงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นเป้าหมายว่าเป็นแผนการที่ "ไม่ชัดเจน" และมีแต่จะส่งผลให้ประเทศที่ยอมรับความช่วยเหลือต้องจมอยู่กับ "กับดักหนี้" ในระยะยาว จนเป็นวังวนไม่จบสิ้น และเชิญชวนให้ประเทศแถบแปซิฟิกร่วมมือกับสหรัฐ โดยเฉพาะปาปัวนิวกินีที่กำลังมีแผ่นฟื้นฟูฐานทัพ ซึ่งรองผู้นำสหรัฐกล่าวว่ารัฐบาลวอชิงตัน "สามารถช่วยเหลือได้"


ถ้อยแถลงของเพนซ์เรียกได้ว่าสวนทางอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขาจะระงับมาตรการตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเติมต่อจีนในอนาคต หลังได้รับ "ข้อเสนอ" จากรัฐบาลปักกิ่ง ที่อาจนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งทางการค้า


Source เดลินิวส์ออนไลน์

: https://www.dailynews.co.th/foreign/677584

 

#breakingnews: มีผู้สูญหายจากเหตุการณ์แคมป์ไฟ (ไฟป่า) แคลิฟอร์เนีย มากกว่า 1,000 คน เจ้าหน้าที่กล่าวไว้

 

Fuck Devil V2


ตะลึง!

...ผู้หญิงมุสลิมในประเทศมาเลเซีย ร้อยละ93 ถูกขลิบอวัยวะเพศ!


.....จากการสำรวจ พบว่าในปี 2012 พบว่า 93% ของผู้หญิงมุสลิมในประเทศมาเลเซียเข้าร่วมพิธีสุหนัต ซึ่งหญิงรายหนึ่งที่เข้ารับการสุหนัตผู้สนับสนุนพิธีกรรมนี้ กล่าวว่า “มันไม่ได้ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานหรือหะดีษ” แต่คือหนึ่งในพิธีกรรรมซึ่งได้นำบุตรหลานของตนมาเข้าพิธี และได้กล่าวกับเราว่า “นี่คือวัฒนธรรมและสังคมมาเลเซีย ที่คาดหวังให้เราทำ" เธอเป็นหนึ่งในหญิงจำนวนหลายล้านคนทั่วประเทศมาเลเซียที่ครอบครัวเชื่อว่าการขลิบนั้น เพื่อเป็นการปกป้องเด็กสาววัยรุ่นจากกระทำที่ผิดบาป

"ซึ่งชาวมุสลิมหลายคนในมาเลเซียจะบอกกับคุณว่า ในการขลิบอวัยวะเพศหญิงนั้นจะช่วยปกป้องเด็ก ๆ เมื่อโตขึ้น จะไม่มีความรู้สึกทางเพศ และเป็นการป้องกันอาชญากรรม" นางสาวอับดุลกล่าว ...


...นางสาวอับดุลผู้ซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์และทำงานในสื่อสิ่งพิมพ์ข่าวออนไลน์ของมาเลย์คินิ - ได้ให้กำเนิดลูกคนแรกของเธอเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งตอนนั้นเธออายุได้เพียง 20 ปี สืบเนื่องมาจากการกดดันทางศาสนา เธอและลูกสาวของเธอจึงจะต้องเข้ารับพิธีสุหนัต หล่อนกล่าวว่า"หมอดึงลูกของเธอออกมาจากช่องคลอดและใช้สิ่งที่ดูคล้ายเข็มเพื่อตัดปุ่มคริสตอริสของลูกเธอหลังคลอด" เธอกล่าว แล้วก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาแล้วลูกสาวก็เริ่มร้องไห้"


....ในทศวรรษต่อมามุมมองของนางสาวอับดุลเกี่ยวกับการขลิบของผู้หญิงเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากที่เธอค้นพบว่าไม่มีประโยชน์ใดๆในทางการแพทย์เลย แต่มันเป็นเพียงแค่วัฒนธรรมทางศาสนาเท่านั้น


>>>แปล/เรียบเรียง โดย@อาอีชะห์


อ้างอิง

สำนำนักข่าวMalaysia-Today

https://www.malaysia-today.net/2018...6DZLJv45YR4-dm8ep0ltB2F6c243Dr1Y6OFuQr2hBo_W8

........................


...วัฒนธรรมในการตัดอวัยวะเพศหญิงนั้นได้รับการยืนยันว่าเป็นแนวทางปฏิบัติด้านวัฒนธรรมของชาวแอฟริกาตะวันออกและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับศาสนาอิสลาม แต่จริงๆแล้ว การขลิบอวัยวะเพศหญิงนั้นได้รับการบัญญัติจากกฎหมายอิสลามซึ่ง"การขลิบอวัยวะเพศนั้นใช้บังคับสำหรับชายและหญิง โดยการตัดชิ้นส่วนของผิวที่ลึงค์ของอวัยวะเพศชาย แต่การขลิบของเพศหญิงโดยการตัดชิ้นเนื้อที่เรียกว่า จุด คริสตอริสออก -อัมเดย์ อัลซาลิค


เป็นข้อบังคับในศาสนาอิสลามหรือไม่?

...ท่านนบีมุฮัมมัด(ซอลฯ) กล่าวไว้ว่า “ท่านอาบูอัล มาลิกอิบนุอุซามะ ซึ่งเป็นญาติฝ่ายบิดาของท่านนบี กล่าวไว้ว่า “การขลิบอวัยวะเพศนั้นเป็นข้อบังคับสำหรับผู้ชายและหญิงจะต้องปฏิบัติ ซึ่งสำหรับผู้หญิงนั้นการขลิบอวัยวะเพศจะเป็นไปเพื่อการรักษาเกียรติและศรัทธาต่อสามี”

(อาหมัดอิบันฮันบัน5:75)


...ผู้หญิงนั้นเคยมีการทำพิธีเข้าสุหนัตในเมืองมาดินะห์ ซึ่งท่านนบี กล่าวว่า "การตัดอวัยวะเพศหญิงนั้นให้เป็นไปเพื่อการรักษาเกียรติแด่สามีและไม่ควรกระทำการรุนแรงนัก" (อบูดาวูด41:5251)


อ้างอิง

https://quranx.com/Hadith/abudawud/usc-msa/book-41/hadith-5251/


"อาอิซะห์ กล่าวว่า" เมื่อฉันได้ทำการขลิบอวัยวะเพศที่ปุ่มกระสันแล้ว ซึ่งแน่นอน จำเป็นต้องอาบน้ำญะนาบะฮฺ(การชำระล้างมลทิน) ซึ่งหลังจากที่ฉันได้ขลิบอวัยวะเพศแล้ว ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์จึงได้อนุญาติให้ฉันอาบน้ำญะนาบะฮฺได้'" (Jami` at-Tirmidhi 108)


อ้างอิง

https://muflihun.com/tirmidhi/1/108


@อาอีชะห์

 

Severe Weather Europe


น้ำท่วมฉับพลันใน lentini (sr) อิตาลีเมื่อวานนี้วันที่ 16 พ. ย. ที่มา: Weather Sicily

 

Arab Storms





การช่วยเหลือ

เมืองทหารคิงคาลิด

# ซาอุดีอาระเบีย⚠️

 

เลบานอนเผชิญกับฝนตกหนัก
15 พย 61

 

เตือนภัย พิบัติโลก


17/11/2561 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนผ่านทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามและจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ก่อนเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ ในช่วงวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2561 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

https://www.tmd.go.th/index.php

 

Candy Bella


เอวิต้า เปรอง ซินเดอเรลล่าแห่งอาร์เจนตินา...


... วันหนึ่งในขณะที่เธอทำหน้าที่ เป็นพิธีกรในงานเลี้ยง ทำให้เอวาได้พบกับกุหลาบแดงหลายดอกเสียบอยู่ที่ประตูเหล็กบานใหญ่ซึ่งมีรูปกางเขนทำด้วยทองแดงสุกปลั่งท่ามกลางลวดลายอันงดงาม และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองกรอบประตูด้านบน จะเห็นตัวอักษรโลหะเป็นภาษาสเปนว่า FAMILIA DUARTE ประดับอยู่บนหินอ่อนสีดำขัดมัน...


ผู้พันจวน โดมินโก เปรอง (Juan Domingo Peron) ทั้งสองคนต่างหลงรักซึ่งกันและกัน เอวาต้องยอมรับสภาพความเป็นภรรยาลับๆ ของจวน จนกระทั่งผ่านไป 2 ปี พวกเขาจึงตัดสินใจแต่งงานกัน


อย่างไรก็ตาม การแต่งงานของเอวานั้นไม่ได้รับการยอมรับ จากเพื่อนทหารของจวน และวงสังคมการเมืองของเขา เนื่องจากเอวา เกิดจากครอบครัวที่ต่ำต้อย เป็นภรรยาลับและเป็นนักแสดง เธอจึงถูกลงความเห็นว่าไม่มีค่าพอ ที่จะเข้ามาในวงสังคมร่วมกันจวน


แต่อย่างไรก็ตาม เอวิต้าได้ทำให้ทุกคนยอมรับในตัวเธอ อย่างไม่มีข้อกังขา โดยเธอเป็นกลไกสำคัญตัวหนึ่ง ที่ช่วยให้นายพลเปรอง ได้รับตำแหน่งทางการเมือง ที่สำคัญ คือ ตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งอาร์เจนตินา ด้วยคำแนะนำต่างๆ ของเอวา เช่น การหาเสียงกับผู้ใช้แรงงาน ซึ่งทำให้นายพลเปรอง มีฐานคะแนนสนับสนุนมากมาย


เอวา เปรอง (Eva Peron) หนึ่งในสตรีที่ทรงอำนาจ เธอเริ่มต้นชีวิตมาจากความยากจน ในฐานะลูกนอกสมรส มาสู่การเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของอาเจนตินา เส้นทางชีวิตอันยาวไกลของเธอ เหมือนกับตำนานที่ยกให้เธอเป็น “ซินเดอเรลล่าแห่งอาเจนติน่า”


เอวิต้า ชื่อเดิมในวัยเด็กของเธอคือ มาเรีย เอวา ดัวเต้ (Maria Eva Duarte) เกิดที่เมืองลอสโทลดอส เนื่องจากพ่อของเธอตายไป ตั้งแต่เอวามีอายุเพียง 7 ขวบ อีกทั้งครอบครัวของเธอยากจนมาก เอวา แม่ และพี่สาวทั้ง 3 คนต้องอาศัยรวมกันอยู่ในห้องแคบๆ ของครอบครัว ที่พวกเธอทำงานเป็นสาวใช้อยู่


เนื่องจากเอวาเป็นเด็กเงียบๆ และช่างเพ้อฝัน เธอคิดถึงโอกาส ที่เธอจะได้สัมผัสกับความร่ำรวยอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งอายุ 14 ปี เด็กบ้านนอกอย่างเธอต้องเดินทางเข้ากรุงบัวเอโนส แอร์เรส (Buenos Aires) เพื่อหางานทำ ไม่นานนัก เธอได้เป็นนักแสดง นักร้อง และนักจัดรายการวิทยุถึง 2 แห่ง คือ Radio El Mitndo และ Radio Belgrano


ระหว่างที่นายพลเปรอง ทำหน้าที่ประธานาธิบดี โดยมีเอวิต้าเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง ทั้งคู่ทุ่มงบช่วยเหลือคนยากจนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้ยากไร้ แต่ปัญหาเรื้อรังที่เขาทั้งสองคนได้ก่อไว้ คือ การจ้างงาน หรือสหภาพแรงงาน ทำให้อาร์เจนตินาประเทศที่เคยร่ำรวย เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ ต้องเผชิญปัญหาอัตราเงินเฟ้อ และขาดปัจจัยแข่งขันกับต่างประเทศ จนเกิดปัญหาความวุ่ยวายมากมายภายในประเทศ


ด้วยอาการป่วย จากโรคมะเร็งในมดลูกของเอวิต้า ทำให้เธอเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2495 ทั้งๆ ที่เธอมีอายุได้เพียง 33 ปีเท่านั้น ดอกไม้ทุกดอก ประชาชนทั่วทั้งเมือง ต่างร่ำไห้กับการจากไปของเธอ


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเอวาจะเสียชีวิตไปแล้ว ศพของเธอยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี โดยเอวามักจะบอกกับจวนเสมอๆ ว่าสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดคือ “การลืม” ดังนั้นจวนจึงจ้างนักพยาธิวิทยามาดองศพของเธอไว้ ซึ่งเขาตั้งใจจะสร้างอนุสาวรีย์ให้กับเอวา แต่ในที่สุดจวน เปรองก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเกิดการปฏิวัติเสียก่อน เขาจึงจำเป็นจะต้องหนีไปอยู่ที่สเปน เรื่องวุ่นวายยังไม่จบสิ้น เมื่อศพของเอวา ถูกกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาล (anti-Peronistas) ของเปรองขโมยไป ตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 โดยนำไปซ่อนไว้ในสุสานเล็กๆ ในมิลาน ภายใต้ชื่อปลอมจนกระทั่งในปี พ.ศ.2514


แต่อย่างไรก็ตาม ศพของเอวาจากอิตาลี ได้ถูกนำกลับมาที่อาร์เจนตินาอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2517 ซึ่งศพของเธอนั้น ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยตอนแรกรัฐบาลได้นำไปฝังไว้ที่ห้องใต้ดินของประธานาธิบดี แต่สองปีต่อมาได้มีการนำศพของเธอไปฝังไว้ที่หลุม ซึ่งทำด้วยเหล็กหลายชั้น แล้วฝังไว้ภายในสุสานของตระกูลที่เรโคเลตา (Recoleta)


แม้ว่าเรื่องราวชีวิตของเอวิต้า เปรอง จะสิ้นสุดไปเป็นเวลากว่า 53 ปีแล้ว


แต่การดำเนินชีวิตที่น่าสนใจของเธอ กลับถูกนำมาตีแผ่ในรูปแบบของภาพยนตร์ บทละคร หนังสือ ฯลฯ และที่สำคัญที่สุดคือ ชื่อของเอวิต้า เปรองยังอยู่ในความทรงจำของชาวอาร์เจนตินาตลอดไป


... คำกล่าวของเอวา...


"ฉันต้องการมีชีวิตร่วมกับเปรอง และประชาชนของฉันตลอดไป ซึ่งมันเป็นความจริง ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และมันคือความต้องการ ครั้งสุดท้ายของฉัน มันน่าจะเป็นวิถีทาง ที่ต้องดำเนินต่อไป ทรัพย์สมบัติของฉันทั้งหมด ถูกใช้ไปกับการแก้ปัญหาความยากจน และฉันต้องการให้สิ่งนี้ พิสูจน์ความรักของฉัน ที่มีต่อประชาชนทุกคน”


ที่มา :https://www.clipmass.com/story/13443

 

ฐานเศรษฐกิจ


ดีเอสไอตามล่า "เลขาฯคุณหญิงพจมาน" หนีคดีฟอกเงินเผ่นนอก #ฐานเศรษฐกิจ

 

Anti-southern terrorism Association of Thailand


ขยายพรก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดใต้ อีก 3 เดือน ปรับลด อ.สุคีริน ออกจากพื้นที่ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

16 พฤศจิกายน 2018


คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เห็นชอบขยายพรก.ฉุกเฉิน3 จ.ใต้ อีก 3 เดือน ปรับลด อ.สุคีริน ออกจากพื้นที่ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง


เมื่อ 15 พ.ย. 61 พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2561 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ความรุนแรงในพื้นที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2561 และสิ้นสุดในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาครั้งที่ 54


นอกจากนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภายอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เสนอขอปรับลดพื้นที่อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อนำมาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาบังคับใช้แทน ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก กอ.รมน. ได้ประเมินตามตัวชี้วัดของแผนการและขั้นตอนการปรับลดพื้นที่แล้วพบว่าพื้นที่อำเภอสุคิรินจังหวัดนราธิวาส ผ่านเกณฑ์ตามตัวชี้วัดการประเมิน


ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังมีการหารือถึงแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ของหน่วยต่างๆ โดยเฉพาะกองทัพภาค 4 ที่เน้นย้ำเรื่องของศูนย์ปฏิบัติการร่วมระดับอำเภอเชิงบูรณาการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือนเข้าร่วมปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลด้วยและได้รับการตอบรับจากประชาชน


อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้ฝากให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมมือกันดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ที่ประชาชนสามารถประกอบอาชีพและใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พร้อมเน้นย้ำเรื่องยาเสพติด ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะพื้นที่ทั่วประเทศยังมีการระบาดของยาเสพติดและถือเป็นปัญหาสำคัญของภาคใต้ปัญหาหนึ่ง โดยกองทัพภาค 4 ก็รับไปดำเนินการ ส่วนความรุนแรงที่อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามยาเสพติดหรือการเลือกตั้งที่มีการต่อสู่ทางการเมืองและมีความรุนแรงเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำตรวจสอบดูแลมาตรการทางการข่าวกับหน่วยต่างๆ

 

อาเจนติน่าอาจจะค้นพบเรือดำน้ำ ARA San Juan ที่สูญหายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ภาพถ่ายจากก้นทะเลแสดงให้เห็นซากวัตถุที่มีความยาว 60 เมตร ซึ่งอาจจะเป็นซากของเรือดำน้ำลำดังกล่าว

 

ยืนยันหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 91W ทวีความรุนแรงเป็นพายุดิเปรสชั่น TD 91W จากกรมอุตุของญี่ปุ่น



ส่วนไทยให้รึยังไม่รู้ คาดการณ์หย่อมพายุดังกล่าวจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ตอนล่างช่วงวันที่ 20-21พฤศจิกายนนี้ เตรียมตัวรับน้ำให้ดีๆ หาทางระบายเยอะๆ


***(ไม่ใช่หย่อมความกดอากาศต่ำแล้วนะ)


CR.คุณปรัชญา


ยิ่งใกล้วันจริงก็จะยิ่งชัดเจน #ตื่นรู้ไม่ตื่นตระหนก


https://www.facebook.com/groups/paipibat.vcharkarn/permalink/2208295719419081/

 

ทำยังกับให้ผู้หญิงเป็นทาสรองรับอารมณ์ชายอย่างเดียว


"ในการขลิบอวัยวะเพศหญิงนั้นจะช่วยปกป้องเด็ก ๆ เมื่อโตขึ้น จะไม่มีความรู้สึกทางเพศ และเป็นการป้องกันอาชญากรรม"



สำหรับผู้หญิงนั้นการขลิบอวัยวะเพศจะเป็นไปเพื่อการรักษาเกียรติและศรัทธาต่อสามี”

(อาหมัดอิบันฮันบัน5:75)


เรื่องควรรู้ การขลิบอวัยวะเพศหญิง ต่างจากการขลิบกระปู๋มาก เพราะการขลิบกระปู๋ มันมีงานวิจัยชัดเจนว่ามีประโยชน์ในหลายแง่ ส่วนการขลิบอวัยวะเพศหญิง ไม่มีผลดีด้านสุขภาพใดๆเลยแม้แต่อย่างเดียว แถมยังมีแต่ผลเสียสารพัด ที่ยังทู่ซี้ทำกันอยู่ด้วยเหตุผลทางความเชื่อวัฒนธรรมเท่านั้น ดีที่บ้านเราไม่มีทำแบบมาเลย์ ... ใช่มะ คงไม่มีท้องที่ไหนแอบทำกันนะ

 

Wealth Station


IQ> ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $8 รับเงินดอลล์อ่อน,การเมืองอังกฤษผันผวนหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 61)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองในอังกฤษ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,223.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 1.2%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.9 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 14.382 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 846.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 17.20 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1154.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.64% แตะระดับ 96.51 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่รัฐมนตรีหลายรายพากันลาออก เนื่องจากไม่เห็นด้วยต่อข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากนางเมย์ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ หรือประสบความพ่ายแพ้ในการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา ก็จะส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ตัวแทนถาวรของซีเรียประจำสหประชาชาติ ย้ำว่าการอนุมัติมติประณามการยึดครองที่ราบสูงโกลานของซีเรีย คือสาส์นที่ชัดเจนและแน่นอนสำหรับระบอบไซออนิสต์....

 

Catástrofes Mundiales


กลุ่มผู้อพยพปฏิเสธข้อเสนองานที่เสนอโดยรัฐบาลเม็กซิกัน: ถ้าเราอยู่ที่นี่เราจะอยู่อย่างยากจนเสมอ ข้อความเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเลขานุการของภายใน, อัลฟอนโซ่ navarrete prida, ประกาศการติดตั้งงานแสดงสินค้าการจ้างงานสำหรับผู้อพยพ


ข้อมูลที่สมบูรณ์ใน

https://www.catastrofesmundiales.com/migrantes-rechazan-empleo-mexico/

 

Catástrofes Mundiales


ผู้เชี่ยวชาญ จากสำรวจบริติชแอนตาร์กติก (BAS) พบว่าใกล้ขั้วโลกใต้ พื้นที่ขนาดใหญ่ของน้ำแข็งได้หาย เนื่องจากการไหลที่ร้อนแรงของความร้อนใต้พิภพที่อยู่ใต้พื้นผิวน้ำแข็ง การศึกษาที่เป็นปัญหาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports


ข้อมูลที่ครบถ้วนใน

https://www.catastrofesmundiales.co...eotermico-derrite-rapidamente-hielo-polo-sur/

 

Catástrofes Mundiales


คฤหาสน์ของนักแสดงชื่อดังแอนโทนี่ฮอปกินส์ตั้งอยู่ในเมืองของ #มาลิบู, รัฐแห่ง #แคลิฟอร์เนียและมูลค่าที่ 4,9 ล้านดอลลาร์ได้รับการสร้างปาฏิหาริย์อย่างน่าอัศจรรย์ในท่ามกลางไฟป่าที่ทำลายย่านที่มีชื่อเสียง (ภาพ)


ข้อมูลที่สมบูรณ์ใน

https://www.catastrofesmundiales.co...ns-salva-milagrosamente-incendios-california/

 

GEN


「GEN News」


Yeon Jeong Lee นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ ที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศอังกฤษ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกเหยียดผิวและถูกทำร้ายร่างกายโดยกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน โดยมีใจความดังนี้

.

“ฉันเป็นนักศึกษาจากเกาหลีใต้ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย UCA (University of Creative Arts) เมืองแคนเทอร์เบอรี่ สหราชอาณาจักร ได้มีกลุ่มคนแปลกหน้าที่มีทั้งคนผิวขาวและคนผิวดำ ได้เหยียดผิวฉันและทำร้ายร่างกายฉันบนถนนออกซ์ฟอร์ด ในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน

.

เวลาประมาณ 17:50 น. ฉันกับเพื่อนอีกคนกำลังเดินอยู่บนถนนออกซ์ฟอร์ด อยู่ๆก็มีคนโยนสิ่งของใส่ศีรษะฉันจากข้างหลัง ตอนแรกฉันก็ไม่สนใจพวกที่เดินตามฉัน แต่พวกเขาก็โยนของใส่ฉันไม่หยุด ฉันจึงหันไปบอกให้พวกเขาหยุด ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงผิวดำคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆฉันแล้วพูดว่า ‘โอ้ เธอพูดอังกฤษได้ด้วยเหรอ?’ หลังจากนั้นเธอก็โยนสิ่งของใส่ศีรษะฉันต่อไป ฉันเริ่มรู้สึกโกรธและโยนสิ่งของใส่เธอบ้าง

.

หลังจากนั้นเธอก็เริ่มโวยวายขึ้นมาว่า ‘กล้าดียังไงมาโยนของใส่ฉัน’ แล้วก็ผลักฉันล้มลงพื้น ฉันรู้สึกว่ามีคนประมาณ 10 คนวิ่งกรูเข้ามารุมทำร้ายฉัน ฉันพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ผลักฉันล้มลงอีกครั้ง แล้วก็เริ่มต่อยเข้าที่หัวและใบหน้าของฉัน พวกเขาเริ่มรุมเตะฉัน ลักษณะของพวกเขาดูเหมือนเป็นเด็กวัยรุ่น แต่พวกเขาตัวสูงใหญ่กว่าฉันมาก (ฉันสูงประมาณ 5 ฟุต 2 นิ้ว ส่วนพวกเขาส่วนใหญ่จะสูงประมาณ 6 ฟุต) ผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่มก็ชกฉันเข้าที่ใบหน้าและศีรษะหลายครั้ง ฉันจำได้ว่าฉันตะโกนว่า ‘นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้วนะ เลิกเหยียดผิวซะทีเถอะ’ และฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ถูกคน 10 คนรุมทำร้าย

.

เพื่อนของฉันอีกคนหนึ่งที่มาด้วยกันก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่สามารถทำอะไรได้ แต่มีคนแปลกหน้า 2 คนเดินเข้ามาพยายามหยุดพวกเขา ซึ่งพวกเขาทำท่าว่าจะเดินจากไป แต่ในภายหลังพวกเขาก็กลับมาอีกแล้วก็เริ่มทำร้ายร่างกายฉันอีกครั้ง ผู้หญิงผิวดำถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเธอแล้วก็ต่อยฉันอีกครั้ง และเท่าที่ฉันจำได้ในเย็นวันนั้น คนผิวขาวสูงประมาณ 6 ฟุต (180 เซ็นติเมตร) ต่อยฉันเข้าที่ศรีษะ จนฉันเกือบจะหมดสติ

.

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ บนถนนออกซ์ฟอร์ด ใจกลางกรุงลอนดอน ผู้คนมากมายต่างก็เดินผ่านไปเฉยๆ มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่พยายามจะช่วยฉัน และคนที่เหลือก็ได้แต่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันถูกทำร้ายร่างกายประมาณ 6-7 นาที และพวกเขาก็วิ่งหนีไปทางร้านแม็คโดนัลด์ ฉันขอให้ชายคนหนึ่งโทรแจ้งตำรวจ แล้วฉันก็อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟังทางโทรศัพท์ แต่ 1 ชั่วโมงผ่านไปก็ไม่มีตำรวจโผล่มาในที่เกิดเหตุเลย พวกเรารอตำรวจอยู่นาน และโทรหาตำรวจอีก 4 ครั้ง ตำรวจที่รับสายก็พูดคำเดิมๆว่าพวกเขาจะโทรกลับและจะแจ้งเวลาที่จะไปถึงที่เกิดเหตุให้ทราบ แต่พวกเขาก็ไม่โผล่มาเลย

.

ฉันรู้สึกช็อกและตกใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ และคืนนั้นฉันก็เดินทางกลับมาที่พักของฉันในเมืองแคนเทอร์เบอรี่ ทันทีที่กลับมาถึง ฉันก็แจ้งความผ่านอินเทอร์เน็ต และจำได้ว่าถนนฝั่งตรงข้ามมีกล้องวงจรปิดอยู่หน้าร้าน M&S และหน้าร้าน Uniqlo ส่วนตำรวจก็แค่ส่งอีเมลมาหาฉัน บอกฉันให้ไปหาหมอบำบัด พวกเขาไม่กระตือรือร้นที่จะช่วยฉันหรือสืบค้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นการเหยียดผิวและอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ใครที่พยายามจะช่วยฉัน

.

ฉันจึงโทรไปที่สถานทูตเกาหลี อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นและถามว่าพวกเขาจะช่วยฉันจัดการกับผู้ก่อเหตุอย่างไรได้บ้าง แต่พวกเขาบอกแค่ว่า การเข้าไปแทรกแซง ‘กิจการพลเรือน’ ของอังกฤษอยู่นอกเหนืออำนาจของพวกเขา และฉันต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ พวกเขายังบอกอีกว่า การจะขอภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ต้องขออำนาจจากศาลซึ่งใช้เวลาหลายเดือน ทั้งตำรวจและสถานทูตเกาหลีไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย ไม่แม้แต่จะช่วยตามหาคนร้ายหรือช่วยเยียวยารักษาสภาพร่างกายและจิตใจของฉัน

.

ช่วงไม่กี่วันมานี้ ฉันรู้สึกได้ว่า มีรอยปูดบวมบนศีรษะและคางของฉัน ฉันรู้สึกตกใจ หวาดกลัว และอาเจียน จนฉันต้องโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อเข้าห้องฉุกเฉิน

.

นี่คือปี 2018 และนี่คือใจกลางกรุงลอนดอนในวันอาทิตย์ตอนเย็น ฉันยังไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน ฉันเคยได้ยินว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีนักศึกษาชาวเกาหลีคนหนึ่งหายตัวไปในกรุงลอนดอน และฉันก็เคยได้ยินว่า เมื่อปีที่แล้วพวกเหยียดผิวทำร้ายร่างกายกลุ่มนักศึกษาเกาหลีในเมืองไบรท์ตัน ฉันรู้สึกช็อกมากที่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ ฉันอยู่ในสภาพที่แย่มาก และฉันรู้สึกหมดหนทาง

.

ดังนั้นฉันจึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ ได้โปรดบอกฉันให้รู้ที ว่าทำยังไงฉันถึงจะบอกเรื่องนี้กับสื่อได้ เพื่อเร่งให้ตำรวจอังกฤษทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ และฉันจะไม่ปล่อยให้วัยรุ่นกลุ่มนั้นไปทำร้ายคนอื่นอีก และถ้าใครมีคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ช่วยติดต่อมาที่ฉันที ได้โปรด ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

.....


*อย่าลืมกดติดตามเพจ「GEN」เพื่อไม่ให้พลาด บทความ ข่าวสาร และสาระดีๆ


https://twitter.com/GenonlineCo


GEN

.

ที่มา :

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ปัญหา #ปะการังฟอกขาว ซึ่งเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนนับเป็นปัญหาเร่งด่วนที่นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมทั่วโลกตื่นตระหนกและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแนวปะการังยักษ์ (Great Barrier Reef) ในประเทศออสเตรเลียซึ่งถูกคุกคามหนักมาก #อยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยล่าสุด #ทีมนักวิจัยออสเตรเลียเตรียมใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำปลูกลูกปะการัง เพื่อซ่อมแซมแนวปะการังยักษ์ที่เสียหายจากภาวะฟอกขาว


ภาวะโลกร้อนเป็นต้นเหตุแรกที่ทำให้แนวปะการังยักษ์ซึ่งมีขนาดเท่ากับประเทศอิตาลีเสียหาย โดยคาดว่าระดับอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 2 ถึง 4 องศาเซลเซียสภายในปี ค.ศ.2050


Source : https://www.voathai.com/a/australia-reef-robot-tk/4654431.html


โดยเรื่องนี้ ศ.ปีเตอร์ เเฮร์ริสัน ผอ.ศูนย์วิจัยระบบนิเวศวิทยาทางทะเล ที่มหาวิทยาลัย Southern Cross กล่าวว่า #ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะช่วยสนับสนุนกระบวนการทางธรรมชาติ


#ปะการังส่วนมากจะแพร่พันธุ์ผ่านการปล่อยไข่และเชื้อสเปิร์มสู่น้ำในเวลาเดียวกัน โดยปลายด้านใต้ของแนวปะการัง Great Barrier Reef ในออสเตรเลียได้รับความเสียหายทั้งจากมรสุมและภาวะโลกร้อน ในขณะที่ทางปลายด้านเหนือยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีการแพร่พันธุ์ปกติ ทีมนักวิทยาศาสตร์จึงเตรียมออกไปเก็บไข่และสเปิร์มของปะการังจำนวนมากที่ลอยอยู่เหนือบริเวณปลายเหนือในแนวปะการังยักษ์ของออสเตรเลียเพื่อนำไปเลี้ยงให้เป็นตัวอ่อนปะการัง แล้วใช้ #LarvalBot หุ่นยนต์ใต้น้ำกึ่งบังคับอัตโนมัตินำลูกปะการังไปปลูกตามแนวปะการัง Vlasoff Reef ที่ห่างจากฝั่งของเมืองแคร์สไปหนึ่งชั่วโมงด้วยการเดินทางทางเรือ


ด้าน แมทธิว ดันบาบิน ศาสตราจารย์แห่ง Queensland University of Technology กล่าวว่า โครงการนี้ยังใหม่และทีมงานต้องทำงานแข่งกับเวลา #เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถนำลูกปะการังลงไปปลูกได้อย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ เพื่ออนุรักษ์แนวปะการังเอาไว้


อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ของแนวปะการังยักษ์ออสเตรเลียได้รับความเสียหายจากภาวะฟอกขาวที่รุนแรง ภาวะฟอกขาวนี้เกิดจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น #ภาวะโลกร้อนทำให้ภาวะฟอกขาวเลวร้ายมากขึ้น


แนวปะการังยักษ์ของออสเตรเลียเจอกับปัญหาคุกคามหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลก การประมงเกินพอดี สารเคมีจากการเกษตรที่ไหลลงสู่ทะเล ไปจนถึงปลาดาวหนามที่กินปะการังเป็นอาหาร.