ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE

    #มอร์มูฟเป็นข่าว ไฝว์ต่อไม่รอแล้วนะ!!! #เอสโซ่ ผนึกพันธมิตรใหม่ เบทาโกร-Kerry-Tyreshop 51-สตาร์บัคส์ ต่อยอดธุรกิจตอบโจทย์ลูกค้า ตั้งเป้าเพิ่มปั้มน้ำมันทะลุ 630 ปั้มทั่วประเทศในปี 2562

    Source : prachachat - https://bit.ly/2PVoaOl

    โดยเรื่องนี้ นายมาโนช มั่นจิตจันทรา กรรมการและผู้จัดการฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจตามแผน 3S ซึ่งประกอบด้วย

    ▪️การพัฒนาสถานีบริการ (Station)
    ▪️การปรับโฉมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสถานีบริการ (Synergy)
    ▪️การดูแลและเอาใจใส่ลูกค้า (Smile)

    โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะขยายสถานีให้บริการน้ำมันให้ได้ 600 สาขา เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวน 553 สาขา

    "นโยบายของบริษัทยังคงรักษาจุดแข็งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูง และการทำธุรกิจน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ส่วนธุรกิจประเภท non-oil จะมุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจต่างๆ เพื่อให้บริการกับลูกค้า #โดยเอสโซ่จะไม่ดำเนินการเอง"

    ล่าสุดได้จับมือพันธมิตรใหม่ 4 รายคือ
    #เครือเบทาโกร - จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือเบทาโกร ซึ่งมีเป้าหมายจะทดลองเปิด 2 สาขาคือแจ้งวัฒนะเปิดให้บริการแล้ว และในทำเลไทรน้อยซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง

    #KerryLogistic - พันธมิตรในธุรกิจขนส่ง เพื่อให้บริการขนส่งในปั้มน้ำมัน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในธุรกิจออนไลน์ที่กำลังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปลายปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดให้บริการ 10-15 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

    #Tyreshop51 - ให้บริการเปลี่ยนยางโดยตั้งเป้าหมายว่าจะขยายได้ 4-5 สาขา

    #สตาร์บัคส์ - เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์เตรียมเปิดบริการในปั้มเอสโซ่ 3 สาขา โดยนำร่องเปิดสาขาแรกที่บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดกาญจนบุรีในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ และต้นปีหน้ามีเปิดที่บางบัวทอง มีเคเอฟซี สตาร์บัคส์ และบีควิก และกำลังจะเปิดที่วังมะนาว จ.เพชรบุรีอีกสาขา.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มนุษย์กลยุทธ

    ทำไมร้านกาแฟ
    ถึงลดราคาแค่ช่วงบ่าย?

    เริ่มต้นสัปดาห์พร้อมลุยงานอย่างเต็มที่แบบนี้ หลายคนอาจต้องหาตัวช่วยชั้นดีอย่างกาแฟให้มาเป็นเพื่อนเคียงข้างยามทำงาน
    .
    แต่มีใครเคยสงสัยเหมือนมนุษย์กลยุทธ์บ้างไหมครับ ว่าทำไมร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ในไทยหลาย ๆ แบรนด์ถึงมักจะออกโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 มายั่วยวนใจให้เราอยาก แต่โปรโมชั่นดันขายเฉพาะช่วงบ่าย ๆ เท่านั้น
    วันนี้มนุษย์กลยุทธ์เลยแอบไปไขความลับเก็บคำตอบมาบอกกระซิบให้เพื่อน ๆ ฟังกันครับ
    .
    โดยปกติแล้วสินค้าประเภทชาและกาแฟ จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรับประทานในช่วงเช้าเท่านั้น ซึ่งมันส่งผลกระทบร้านกาแฟหลาย ๆ เพราะยอดขายในช่วงบ่ายมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน ทำให้ร้านอย่างสตาร์บัคส์ หรืออย่าง Dean and Deluca ต่างจำเป็นต้องงัดกลยุทธ์ไม้เด็ดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงบ่ายให้ได้มากที่สุด
    .
    โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ที่หลายต่อหลายร้านต่างงัดออกมาใช้นั้น ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อจับกลุ่มลูกค้าสมาชิกเท่าไรนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนนี้จัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าเกรดเอ มีกำลังซื้อสูงและบริโภคอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว พูดง่าย ๆ คือ Brand Loyalty จะชัดมากระดับหนึ่งแล้ว โดยกลุ่มผู้บริโภคส่วนนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับโปรโมชั่นเหล่านี้มากเท่าไรนัก
    .
    หากแต่กลยุทธ์ลด แลก แจก แถม เน้นให้เห็นความคุ้มค่า คุ้มราคา ดังที่ได้ทำออกมายั่วยวนผู้บริโภคนนั้น ก็เพื่อกระตุ้นยอดขายกับผู้บริโภคที่ไม่ใช่ขาประจำ โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมีอัตราการใช้บริการ 1-5 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น
    .
    ดังนั้นโปร 1 แถม 1 ที่มีขายอย่างจำกัดเวลาเฉพาะช่วงบ่ายนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการกระตุ้นกลุ่มลูกค้าดังกล่าว เพื่อที่จะกระตุ้นการขายในช่วงบ่าย ที่ร้านกาแฟส่วนใหญ่มักทำยอดขายได้ไม่ดีนักนั่นเอง
    .
    มนุษย์กลยุทธ์หวังว่า กลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายวิธีการนี้อาจสามารถนำไปปรับใช้หรือต่อยอดทางธุรกิจของเพื่อน ๆ ได้บ้างนะครับ
    .
    หากไม่อยากพลาดข้อมูลดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ อย่าลืมกดติดตามแบบ SeeFirst ให้ มนุษย์กลยุทธ์ ด้วยนะครับ

    #มนุษย์กลยุทธ์ #Strategyrefill #Strategy #Business #Marketing

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    5.9 ล้านล้านดอลลาร์ ก็แค่รายจ่าย แต่รายรับ และผลประโยชน์ที่ได้รับนั้นได้กลับมาเท่าไหร่

    ผลวิจัยใหม่เผย สหรัฐใช้เงิน 5.9 ล้านล้านดอลลาร์ กับสงครามในตะวันออกกลางและเอเชีย ตั้งแต่ปี 2011
    โดย กองบรรณาธิการ - 15 พฤศจิกายน 2018
    105574718-15422278925579248358864_d63ae07c89_k.jpg
    ทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ และทหารกองทัพจอร์เจีย ประเทศอัฟกานิสถาน, 3 กรกฎาคม 2013 / ภาพนาวิกโยธินสหรัฐฯ
    สงครามและปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรีย และปากีสถาน ใช้เงินผู้เสียภาษีชาวอเมริกันไปถึง 5.9 ล้านล้านเหรียญ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2011 CNBCรายงานอ้างผลวิจัยชิ้นใหม่จากสถาบันวัตสัน

    ตัวเลขดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางทั้งหมดในช่วงปีงบประมาณ 2017-18 เกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์

    รายงานจากสถาบันวัตสันเพื่อกิจการระหว่างประเทศและกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยบราวน์ พบว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 480,000 คน อันเป็นผลโดยตรงจากการสู้รบ โดยในจำนวนนี้เป็นพลเรือนที่เสียชีวิตกว่า 244,000 คน และอีก 10 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นอันเนื่องจากความรุนแรง

    ตัวเลข 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐในการทำสงคราม ไม่ใช่จากกระทรวงกลาโหมเพียงอย่างเดียว “เนต้า ครอฟอร์ด” (Neta Crawford) ผู้เขียนงานวิจัยนี้ระบุ

    ตามรายงานของครอฟอร์ด การใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสงครามทั้งหมดของสหรัฐจนถึงปีงบประมาณ 2019 มีมูลค่า 4.9 ล้านล้านดอลลาร์

    อีก 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นประมาณการค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสำหรับทหารผ่านศึกหลังเหตุการณ์ 9/11

    กรมกิจการทหารผ่านศึกจะต้องรับผิดชอบดูแลทหารผ่านศึกมากกว่า 4.3 ล้าน ภายในปี 2039

    https://www.publicpostonline.net/19186
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไหม้แต่บ้าน ไฟไหม้แคลิฟอร์เนีย

    FB_IMG_1542277060239.jpg FB_IMG_1542277080660.jpg
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1542277381154.jpg

    ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แคลิฟอร์เนียยังคงขยายตัสในวันพุธ ขณะที่นักผจญเพลิงทำงานเพื่อปกป้องทรัพย์สินที่ถูกคุกคาม

    เมื่อเช้าวันพุธไฟไหม้ของ Ranch ได้เผาไหม้พื้นที่ 314,925 เอเคอร ์และมีอยู่ 64% มันทำลายบ้าน 147 หลังแล้ว หนึ่งในนักผจญเพลิง, Matthew Burchett, 42, ของ Draper City, Utah, ตายในขณะต่อสู้กับไฟ ไฟป่า นักดับเพลิงยังคงเฝ้าระวังการเกิดไฟไหม้ของแม่น้ำทั้งสองไว้เล็กน้อยซึ่งนับจากวันจันทร์ที่มีอยู่ 100% ไรท์กล่าวว่าความชื้นสัมพัทธ์ต่ำยังคงปล่อยให้กองไฟมีการขยายตัวอย่าวต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้น 9,400 เอเคอร์ในวันอังคาร และ 1,300 เอเคอร์ในวันจันทร์ ในวันพุธนักดับเพลิงคาดว่าจะได้รับการแบ่งช่วงสั้น ๆ ในสภาพอากาศร้อน อุณหภูมิที่คาดว่าจะลดลงและระดับความชื้นจะเพิ่มขึ้นในวันพุธ และวันพฤหัสบดีที่เขากล่าวว่า ความชื้นในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันอังคารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดไฟไหม้ไรท์กล่าวว่า นักผจญเพลิงต้องพึ่งพาการลดอุณหภูมิและเพิ่มความชื้น ซึ่งโดยปกติจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในชั่วข้ามคืนเพื่อให้พวกเขาก้าวหน้า แต่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นใน Lake County เมื่อเร็ว ๆ นี้ ระดับความชื้นในตอนกลางคืนอยู่ในช่วงถึง 30% อย่างต่อเนื่อง คืนวันอังคารความชื้นสูงถึง 80%



    The largest fire in California history continues to grow Wednesday while firefighters worked to protect threatened properties

    As of Wednesday morning, the Ranch fire had consumed 314,925 acres and was 64% contained. It has destroyed 147 homes so far. One firefighter, Matthew Burchett, 42, of Draper City, Utah, has died battling the fire. The Ranch fire is one of two fires that form the Mendocino Complex fire. Firefighters were still monitoring the smaller of the two, the River fire, which as of Monday was 100% contained. Wright said the persistent low humidity has allowed the fires to continue growing — by 9,400 acres on Tuesday and 1,300 acres Monday. On Wednesday, firefighters were expecting to get a brief break in the hot weather. Temperatures were expected to drop and humidity levels to increase Wednesday and Thursday, he said. Nighttime humidity rose significantly Tuesday for the first time since the fire started, Wright said. Firefighters count on the drop in temperature and increase in humidity that usually occurs naturally overnight to allow them to make progress. But that hasn’t been happening in Lake County recently. Nighttime humidity levels have consistently been in the teens to 30% range. Tuesday night, the humidity reached 80%.

    (Source: www.latimes.com)

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนุชา เกียรติธารัย : เมื่อดุลอำนาจเปลี่ยนไป “อิสราเอล VS. ฮามาสปาเลสไตน์”
    อนุชา เกียรติธารัย นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ เมืองกุม ประเทศอิหร่าน (ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก อยู่ที่วิทยาเขตเตหะราน) อดีตอาจารย์พิเศษวิชาประวัติศาสตร์ตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร วิเคราะห์สถานการณ์ปะทะล่าสุด "อิสราเอล VS. ฮามาสปาเลสไตน์" โดย กองบรรณาธิการ - 15 พฤศจิกายน 2018
    1.6650825.2852019798.jpg
    รถโดยสารประจำทางของอิสราเอลถูกไฟไหม้หลังจากโดนปืนครกยิงจากฉนวนกาซา 12 พ. ค. 2018 / Eliyahu Hershkovitz
    สัปดาห์นี้ ปฏิบัติการล้วงคองูเห่าลับสุดยอดของอิสราเอลที่หวังจะลักพาตัวแกนนำปีกทหารของขบวนการฮามาสปาเลสไตน์ มีอันต้องล้มไม่เป็นท่า

    จากที่จะปฏิบัติการลับสุดยอด เจาะเข้ามาปฏิบัติการกลางฉนวนกาซ่า แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นปฏิบัติการโฉ่งฉ่าง ความแตก

    ฮามาสตั้งท่ารออยู่แล้ว ทำให้ปะทะกับป้อมทหารฮามาส ผลก็คือหน่วยลับสุดยอดของอิสราเอลจำต้องเรียกเครื่องบินรบมาถล่ม เรียก ฮ.มารับตัว ส่วนหน่วยลับสุดยอดก็หนีหัวซุกหัวซุน สูญเสียผู้บัญชาการภารกิจไปหนึ่งนาย ที่เหลือก็บาดเจ็บชนิดไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

    จากที่กะจะล้มกระดานฮามาส ก็ทำได้เพียงสังหารแกนนำคนหนึ่ง นั่นคือนาย อัลบารากา และอีกกว่าสิบนายก็เสียชีวิตขณะสาดกระสุนแลกกันอย่างระห่ำ โดยฝ่ายอิสราเอลมีเครื่องบินรบสนับสนุน

    เนทันยาฮูเท่านั้นที่รู้ดีว่าปฏิบัติการลับครั้งนี้สำคัญขนาดใหน ถึงขั้นที่ยกเลิกการเดินทางไปประชุมยุโรปกระทันหันแล้วเรียกประชุมครม.ฉุกเฉิน

    เพื่อเป็นการตอบโต้การจู่โจมล้วงคองูเห่าของอิสราเอล ฮามาสได้ยิงจรวดหลายระลอกรวมกันกว่า 470 ลูกใส่เมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองอัสกาลาน ซึ่งห่างจากกาซ่าประมาณ 100 กม.

    อิสราเอลส่งเครื่องบินรบไปถล่มกาซ่า พังอาคารสำนักงานทีวีดาวเทียม “อัลอักซอ” ของฮามาสราพณาสูร ส่วนฮามาสก็ระดมยิงจรวดที่แม้จะขนาดจิ๋ว แต่ก็เล็กพริกขี้หนู ส่งชาวอิสราเอลไปนอนคุดคู้อยู่ในหลุมหลบภัยแทนเบาะนุ่มๆในบ้าน

    สุดท้าย ครม.อิสราเอลที่นำโดยนายเนทันยาฮู ก็ได้ประกาศยอมรับการหยุดยิง

    ชาวอิสราเอลไม่น้อยออกมาประท้วง แต่ในซีกของกาซ่า ชาวปาเลสไตน์ออกมาแสดงความดีใจต่อสิ่งที่ตนมองว่ามันเป็น “ชัยชนะ” ของฮามาสและชาวปาเลสไตน์

    มาประมวลกันนะครับว่าเป็นชัยชนะอย่างไร?
    1. คณะรัฐมนตรีอิสราเอลร้าวฉานหนัก ถึงขั้นที่ รมว.กลาโหมอย่าง ลิเบอร์มาน หัวหน้าพรรค “อิสราเอลบ้านของเรา” ประกาศลาออกเพราะรับไม่ได้กับการอ่อนข้อของเนทันยาฮู

    อดีต รมว.ต่างประเทศของยิวอย่าง ซิปปี้ ลิฟนี ก็ออกมาประณามการตัดสินใจหยุดยิงเช่นกัน

    อันที่จริง เนทันยาฮูขึ้นชื่อในเรื่องความเด็ดขาดไม่ปราณีปาเลสไตน์ แต่ที่ต้องยอมหยุดยิงกับฮามาสครั้งนี้ เป็นเพราะ… ข้อสอง

    2. ดุลอำนาจทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิสราเอล_ปาเลสไตน์เปลี่ยนไป!
    จากที่อิสราเอลโจมตีกาซ่าเมื่อใดก็ได้ตามใจฉัน แต่ตอนนี้ดุลอำนาจเปลี่ยนไปเนื่องจากฮามาสและกลุ่มอื่นๆ มี “จรวด” และ “ขีปนาวุธ” อีกทั้งโดรนสอดแนม

    สามสิ่งนี้คือสิ่งที่อิหร่านให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ เพราะอิหร่านใช้ยุทธศาสตร์การสงครามแบบ “อสมมาตร” พูดง่ายๆคือ ทำยังไงให้ลบจุดอ่อนของเรา จุดอ่อนของปาเลสไตน์ก็คือ ไม่มีกองทัพ ไม่มีเครื่องบินรบ…

    …ก็แก้ด้วยโดรน และ จรวด ซะก็สิ้นเรื่อง #จ่ายแพงกว่าทำไม?

    3. สถานการณ์มีแต่จะตัดแต้มอิสราเอล!
    การสังหารคาช็อกกี นักข่าวซาอุฯ โดยมกุฏราชกุมาร MBS นั้น ทำให้อิสราเอลต้องเข้าข้างซาอุอย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งๆ ที่ยุโรปและแม้แต่สื่อมะกันต่างก็ประณามซาอุในเรื่องนี้

    การที่เนทันยาฮูโดดเข้าปกป้องซาอุก็เพราะต้องการจะสร้างพันธมิตรกับชาติอาหรับในแถบอ่าวเปอร์เซีย เพื่อต่อกรกับฟากอิหร่าน จึงไม่แปลกใจที่หลังๆ ทั้งเนทันยาฮูและ รมว.ยิวคนอื่นๆ พยายามเดินสายไปประเทศอาหรับต่างๆ อย่างเช่น โอมาน บาห์เรน เอมิเรต ฯลฯ

    หากปล่อยให้เกิดสงครามกาซ่าอย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่าพันธมิตรอาหรับ + ยิว ที่เนทันยาฮูสู้อุตส่าห์ผลักดันเต็มที่เพื่อใช้ต้านอิหร่าน ต้องพังครืนลงมาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมุสลิมทั่วโลกจะเดินขบวนต่อต้านอิสราเอลที่บุกกาซ่า เมื่อนั้นรัฐบาลอาหรับเหล่านี้ก็คงต้องยุติสายสัมพันธ์หวานชื่นไว้กลางคัน

    อิสราเอลก็จะต้องประดาบกับอิหร่าน ซีเรีย เลบานอน อิรัก ฯลฯ โดยลำพัง

    4. การข่าวของอิสราเอลป่วยหนัก!
    เพราะฝ่ายฮามาสล่วงรู้และเตรียมรับมือตั้งด่าน แสดงว่าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลมีรูรั่ว ข่าวปฏิบัติการจึงล่วงรู้มาถึงฝ่ายฮามาส

    อย่าลืมนะครับว่าหมัดเด็ดของอิสราเอลก็คือ “หน่วยข่าวกรอง” และ “การปฏิบัติการลับ” ที่น่าสพรึงกลัว เคยปฏิบัติการมาแล้วทั่วโลก ถึงขั้นที่มีประสบการณ์เหนือกว่ามะกันด้วยซ้ำ อิสราเอลสร้างชื่อกระฉ่อนโลกเมื่อสามารถปฏิบัติการชิงตัวประกันชาวยิวนับร้อยจากเหตุปล้นเครื่องบิน ณ ประเทศอูกันด้า กลายเป็นที่โจษขานกันไปทั่วในนามปฏิบัติการ “Entebbe”

    แต่คราวนี้ กลายเป็นว่าปฏิบัติการลับสุดยอดระดับที่นายกฯคอยจับตาอยู่นั้น รู้ถึงฝ่ายฮามาส ทำให้ฮามาสตามไล่ยิงหน่วยปฏิบัติการลับของอิสราเอลแตกกระเจิงไม่คิดชีวิต ไม่เหลือมาดหน่วยลับสุดยอด ทิ้งให้ ผบ.ตายในแดนศัตรู ที่เหลือข้ามเขตกาซ่ารีบกระโจนขึ้น ฮ.อย่างที่แทบไม่หันหลังกลับไปดูนายที่ตาย

    5. ระบบไอรอนโดม หมูสนามจริง_สิงห์สนามซ้อม!!!
    เพื่อรับมือกับจรวดของฮามาส อิสราเอลทุ่มงบประมาณไม่อั้น เพื่อติดตั้งระบบต่อสู้อากาศยานสามระบบ ระบบพิสัยใกล้ (สำคัญที่สุด-ใช้สู้กับฮามาส) ก็คือ Iron_Dome พิสัยกลางและพิสัยไกลก็คือ ระบบ David’s Sling (หนังสติ๊กเดวิด) และระบบ Arrow

    รัฐบาลคุยโวว่าจากนี้ไปอิสราเอลอยู่ภายใต้โดมเหล็กที่ป้องกันภัยจากจรวดทุกชนิด ดุลอำนาจใหลเข้าเท้าอิสราเอล กร่างได้เต็มที่

    การโจมตีครั้งก่อนๆ ที่ระบบไอรอนโดมสกัดได้นั้น เป็นเพราะฮามาสยิงทีละไม่กี่ลูก สบายไอรอนโดม!

    แต่อานิจจา คราวนี้ฮามาสยิงชุดละเป็นร้อยลูก รวมทั้งหมดที่ยิงประมาณวันถึงสองวัน รวมได้ 470 ลูก

    อกอีแป้นยิวจะแตกก็ตรงที่ระบบไอร่อนโดมที่คุยนักคุยหนา ทางการอิสราเอลออกมายอมรับเองว่า สกัดได้เพียงแค่ 100 ลูกเท่านั้น!!!

    แล้วอีก 370 ลูกล่ะครับท่าน?!?

    ก็ลงเป้าตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองอัสกาลานที่ค่อนข้างห่างออกไปไงครับ

    สรุปก็คือ อิสราเอลเจอโรค ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เรียบร้อยโรงเรียนยิว!!!

    นักมวยที่คู่ต่อสู้ทราบว่ามีจุดอ่อนตรงใหน ต่อยไปก็เสี่ยงเปล่าๆ

    ด้วยประการฉะนี้ อิสราเอลจึงยอมแตก ครม. แต่ไม่กล้าทำสงครามกาซ่าครั้งใหม่ครับ

    https://www.publicpostonline.net/19214


    อนุชา เกียรติธารัย : เมื่อดุลอำนาจเปลี่ยนไป “อิสราเอล VS. ฮามาสปาเลสไตน์”
    อนุชา เกียรติธารัย นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมุสตอฟานานาชาติ เมืองกุม ประเทศอิหร่าน (ปัจจุบันกำลังศึกษาปริญญาเอก อยู่ที่วิทยาเขตเตหะราน) อดีตอาจารย์พิเศษวิชาประวัติศาสตร์ตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร วิเคราะห์สถานการณ์ปะทะล่าสุด "อิสราเอล VS. ฮามาสปาเลสไตน์" โดย กองบรรณาธิการ - 15 พฤศจิกายน 2018
    1.6650825.2852019798.jpg
    รถโดยสารประจำทางของอิสราเอลถูกไฟไหม้หลังจากโดนปืนครกยิงจากฉนวนกาซา 12 พ. ค. 2018 / Eliyahu Hershkovitz
    สัปดาห์นี้ ปฏิบัติการล้วงคองูเห่าลับสุดยอดของอิสราเอลที่หวังจะลักพาตัวแกนนำปีกทหารของขบวนการฮามาสปาเลสไตน์ มีอันต้องล้มไม่เป็นท่า

    จากที่จะปฏิบัติการลับสุดยอด เจาะเข้ามาปฏิบัติการกลางฉนวนกาซ่า แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นปฏิบัติการโฉ่งฉ่าง ความแตก

    ฮามาสตั้งท่ารออยู่แล้ว ทำให้ปะทะกับป้อมทหารฮามาส ผลก็คือหน่วยลับสุดยอดของอิสราเอลจำต้องเรียกเครื่องบินรบมาถล่ม เรียก ฮ.มารับตัว ส่วนหน่วยลับสุดยอดก็หนีหัวซุกหัวซุน สูญเสียผู้บัญชาการภารกิจไปหนึ่งนาย ที่เหลือก็บาดเจ็บชนิดไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

    จากที่กะจะล้มกระดานฮามาส ก็ทำได้เพียงสังหารแกนนำคนหนึ่ง นั่นคือนาย อัลบารากา และอีกกว่าสิบนายก็เสียชีวิตขณะสาดกระสุนแลกกันอย่างระห่ำ โดยฝ่ายอิสราเอลมีเครื่องบินรบสนับสนุน

    เนทันยาฮูเท่านั้นที่รู้ดีว่าปฏิบัติการลับครั้งนี้สำคัญขนาดใหน ถึงขั้นที่ยกเลิกการเดินทางไปประชุมยุโรปกระทันหันแล้วเรียกประชุมครม.ฉุกเฉิน

    เพื่อเป็นการตอบโต้การจู่โจมล้วงคองูเห่าของอิสราเอล ฮามาสได้ยิงจรวดหลายระลอกรวมกันกว่า 470 ลูกใส่เมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองอัสกาลาน ซึ่งห่างจากกาซ่าประมาณ 100 กม.

    อิสราเอลส่งเครื่องบินรบไปถล่มกาซ่า พังอาคารสำนักงานทีวีดาวเทียม “อัลอักซอ” ของฮามาสราพณาสูร ส่วนฮามาสก็ระดมยิงจรวดที่แม้จะขนาดจิ๋ว แต่ก็เล็กพริกขี้หนู ส่งชาวอิสราเอลไปนอนคุดคู้อยู่ในหลุมหลบภัยแทนเบาะนุ่มๆในบ้าน

    สุดท้าย ครม.อิสราเอลที่นำโดยนายเนทันยาฮู ก็ได้ประกาศยอมรับการหยุดยิง

    ชาวอิสราเอลไม่น้อยออกมาประท้วง แต่ในซีกของกาซ่า ชาวปาเลสไตน์ออกมาแสดงความดีใจต่อสิ่งที่ตนมองว่ามันเป็น “ชัยชนะ” ของฮามาสและชาวปาเลสไตน์

    มาประมวลกันนะครับว่าเป็นชัยชนะอย่างไร?
    1. คณะรัฐมนตรีอิสราเอลร้าวฉานหนัก ถึงขั้นที่ รมว.กลาโหมอย่าง ลิเบอร์มาน หัวหน้าพรรค “อิสราเอลบ้านของเรา” ประกาศลาออกเพราะรับไม่ได้กับการอ่อนข้อของเนทันยาฮู

    อดีต รมว.ต่างประเทศของยิวอย่าง ซิปปี้ ลิฟนี ก็ออกมาประณามการตัดสินใจหยุดยิงเช่นกัน

    อันที่จริง เนทันยาฮูขึ้นชื่อในเรื่องความเด็ดขาดไม่ปราณีปาเลสไตน์ แต่ที่ต้องยอมหยุดยิงกับฮามาสครั้งนี้ เป็นเพราะ… ข้อสอง

    2. ดุลอำนาจทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิสราเอล_ปาเลสไตน์เปลี่ยนไป!
    จากที่อิสราเอลโจมตีกาซ่าเมื่อใดก็ได้ตามใจฉัน แต่ตอนนี้ดุลอำนาจเปลี่ยนไปเนื่องจากฮามาสและกลุ่มอื่นๆ มี “จรวด” และ “ขีปนาวุธ” อีกทั้งโดรนสอดแนม

    สามสิ่งนี้คือสิ่งที่อิหร่านให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ เพราะอิหร่านใช้ยุทธศาสตร์การสงครามแบบ “อสมมาตร” พูดง่ายๆคือ ทำยังไงให้ลบจุดอ่อนของเรา จุดอ่อนของปาเลสไตน์ก็คือ ไม่มีกองทัพ ไม่มีเครื่องบินรบ…

    …ก็แก้ด้วยโดรน และ จรวด ซะก็สิ้นเรื่อง #จ่ายแพงกว่าทำไม?

    3. สถานการณ์มีแต่จะตัดแต้มอิสราเอล!
    การสังหารคาช็อกกี นักข่าวซาอุฯ โดยมกุฏราชกุมาร MBS นั้น ทำให้อิสราเอลต้องเข้าข้างซาอุอย่างโจ๋งครึ่ม ทั้งๆ ที่ยุโรปและแม้แต่สื่อมะกันต่างก็ประณามซาอุในเรื่องนี้

    การที่เนทันยาฮูโดดเข้าปกป้องซาอุก็เพราะต้องการจะสร้างพันธมิตรกับชาติอาหรับในแถบอ่าวเปอร์เซีย เพื่อต่อกรกับฟากอิหร่าน จึงไม่แปลกใจที่หลังๆ ทั้งเนทันยาฮูและ รมว.ยิวคนอื่นๆ พยายามเดินสายไปประเทศอาหรับต่างๆ อย่างเช่น โอมาน บาห์เรน เอมิเรต ฯลฯ

    หากปล่อยให้เกิดสงครามกาซ่าอย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่าพันธมิตรอาหรับ + ยิว ที่เนทันยาฮูสู้อุตส่าห์ผลักดันเต็มที่เพื่อใช้ต้านอิหร่าน ต้องพังครืนลงมาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมุสลิมทั่วโลกจะเดินขบวนต่อต้านอิสราเอลที่บุกกาซ่า เมื่อนั้นรัฐบาลอาหรับเหล่านี้ก็คงต้องยุติสายสัมพันธ์หวานชื่นไว้กลางคัน

    อิสราเอลก็จะต้องประดาบกับอิหร่าน ซีเรีย เลบานอน อิรัก ฯลฯ โดยลำพัง

    4. การข่าวของอิสราเอลป่วยหนัก!
    เพราะฝ่ายฮามาสล่วงรู้และเตรียมรับมือตั้งด่าน แสดงว่าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลมีรูรั่ว ข่าวปฏิบัติการจึงล่วงรู้มาถึงฝ่ายฮามาส

    อย่าลืมนะครับว่าหมัดเด็ดของอิสราเอลก็คือ “หน่วยข่าวกรอง” และ “การปฏิบัติการลับ” ที่น่าสพรึงกลัว เคยปฏิบัติการมาแล้วทั่วโลก ถึงขั้นที่มีประสบการณ์เหนือกว่ามะกันด้วยซ้ำ อิสราเอลสร้างชื่อกระฉ่อนโลกเมื่อสามารถปฏิบัติการชิงตัวประกันชาวยิวนับร้อยจากเหตุปล้นเครื่องบิน ณ ประเทศอูกันด้า กลายเป็นที่โจษขานกันไปทั่วในนามปฏิบัติการ “Entebbe”

    แต่คราวนี้ กลายเป็นว่าปฏิบัติการลับสุดยอดระดับที่นายกฯคอยจับตาอยู่นั้น รู้ถึงฝ่ายฮามาส ทำให้ฮามาสตามไล่ยิงหน่วยปฏิบัติการลับของอิสราเอลแตกกระเจิงไม่คิดชีวิต ไม่เหลือมาดหน่วยลับสุดยอด ทิ้งให้ ผบ.ตายในแดนศัตรู ที่เหลือข้ามเขตกาซ่ารีบกระโจนขึ้น ฮ.อย่างที่แทบไม่หันหลังกลับไปดูนายที่ตาย

    5. ระบบไอรอนโดม หมูสนามจริง_สิงห์สนามซ้อม!!!
    เพื่อรับมือกับจรวดของฮามาส อิสราเอลทุ่มงบประมาณไม่อั้น เพื่อติดตั้งระบบต่อสู้อากาศยานสามระบบ ระบบพิสัยใกล้ (สำคัญที่สุด-ใช้สู้กับฮามาส) ก็คือ Iron_Dome พิสัยกลางและพิสัยไกลก็คือ ระบบ David’s Sling (หนังสติ๊กเดวิด) และระบบ Arrow

    รัฐบาลคุยโวว่าจากนี้ไปอิสราเอลอยู่ภายใต้โดมเหล็กที่ป้องกันภัยจากจรวดทุกชนิด ดุลอำนาจใหลเข้าเท้าอิสราเอล กร่างได้เต็มที่

    การโจมตีครั้งก่อนๆ ที่ระบบไอรอนโดมสกัดได้นั้น เป็นเพราะฮามาสยิงทีละไม่กี่ลูก สบายไอรอนโดม!

    แต่อานิจจา คราวนี้ฮามาสยิงชุดละเป็นร้อยลูก รวมทั้งหมดที่ยิงประมาณวันถึงสองวัน รวมได้ 470 ลูก

    อกอีแป้นยิวจะแตกก็ตรงที่ระบบไอร่อนโดมที่คุยนักคุยหนา ทางการอิสราเอลออกมายอมรับเองว่า สกัดได้เพียงแค่ 100 ลูกเท่านั้น!!!

    แล้วอีก 370 ลูกล่ะครับท่าน?!?

    ก็ลงเป้าตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองอัสกาลานที่ค่อนข้างห่างออกไปไงครับ

    สรุปก็คือ อิสราเอลเจอโรค ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เรียบร้อยโรงเรียนยิว!!!

    นักมวยที่คู่ต่อสู้ทราบว่ามีจุดอ่อนตรงใหน ต่อยไปก็เสี่ยงเปล่าๆ

    ด้วยประการฉะนี้ อิสราเอลจึงยอมแตก ครม. แต่ไม่กล้าทำสงครามกาซ่าครั้งใหม่ครับ

    https://www.publicpostonline.net/19214
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Gossipสาสุข


    เมื่อ รพ.เอกชนนำรายได้เข้าประเทศมหาศาล แต่ รพ.รัฐไม่มีอนาคต





    “บริการสุขภาพ” นับเป็นหนึ่งในบริการที่คิดกำไร-ขาดทุน ได้ยากมาก เนื่องจากไม่อาจหาต้นทุนที่แท้จริงได้ มีปัจจัย และมีตัวแปรสลับซับซ้อน



    อย่างไรก็ตาม หนึ่งในความเชื่อที่อยู่ในระบบสุขภาพไทย และจำต้องหาข้อเท็จจริงก็คือ “โรงพยาบาลรัฐ” ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นั้น “ขาดทุน” และไม่สามารถมีรายรับเพื่อเลี้ยงตัวเองได้



    ทั้งจากงบประมาณที่ สธ.จัดสรรให้ และงบประมาณที่กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จ่ายให้ในแต่ละปี



    กระนั้นเอง ในเวลาเดียวกับที่โรงพาบาลรัฐ “โอดครวญ” เกี่ยวกับการขาดทุน ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน กลับเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ



    ผลการดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชนและสถานพยาบาลเอกชน 347 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2559 พบว่า โรงพยาบาลเอกชนและสถานพยาบาลเอกชน สร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจถึง 99,427 ล้านบาท และมีมูลค่ารายรับจากการดำเนินกิจการถึง 2.34 แสนล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วย 61 ล้านราย



    ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ยังมีเส้นทางสดใส เครือโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลรามคำแหง ซื้อกิจการโรงพยาบาลเอกชนขนาดกลาง โรงพยาบาลเอกชน ขนาดเล็ก ทั้งในกรุงเทพฯ - ในต่างจังหวัด จนมีกำไรมหาศาลในแต่ละปี



    อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลที่รัฐบริหาร กลับมีสถานะต่างกันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ



    ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) วิเคราะห์ไว้ว่า สธ.รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง และขาดระบบ “ข้อมูลสารสนเทศ” เพื่อจัดการกำลังคนที่ดี ทำให้บางพื้นที่ มีตำแหน่งข้าราชการกระจุก และบางพื้นที่ขาดแคลนข้าราชการ ทำให้ไม่สามารถจัดสรรตำแหน่ง-ขอบรรจุข้าราชการ ได้ดีพอ



    นั่นจึงทำให้เกิดปัญหาอย่างการใช้คนไม่ตรงกับงานพันกันยุ่งเหยิง มีการโยกย้ายคนโดยอัตรากำลังเต็มหรือไม่มีในหลายพื้นที่ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา



    ขณะเดียวกัน ก็ยังมีปัญหาการไม่ยอมปรับตัว หรือปรับตัวไม่ทันตามสภาพปัญหาสาธารณสุข/ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว



    ยกตัวอย่างเช่นบางจังหวัด มีอัตราการเกิดของประชากรต่ำ หรือมีอัตราการเกิดของประชากรลดลง แต่จำนวนสูตินรีแพทย์ กุมารแพทย์ และบุคลากรเดิมยังคงอยู่ในจังหวัดนั้นๆ ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันกับสถานการณ์จริงที่เปลี่ยนไป



    ทำให้บุคลากรล้นในจังหวัดที่มีการเกิดน้อย และบุคลากรขาดในเขตเมืองใหญ่ ที่มีอัตราการเกิดมาก ขณะเดียวกัน การเกิดขึ้นของเทคโนโลยี อุปกรณ์ทางการแพทย์สมัยใหม่ ก็ยังทำให้แพทย์-การรักษา ในบางสาขา ใช้บุคลากรน้อยลง แต่อัตราที่มี และอัตรากำลังที่ขอเพิ่ม ยังเท่าเดิม



    โรงพยาบาลแต่ละแห่ง ยังบริหารตามระบบราชการ ทำให้มีค่าใช้จ่ายประจำ ที่ไม่มีการวิเคราะห์อย่างจริงจัง ว่าส่วนใดสามารถปรับลดลงได้ หรือไม่สามารถปรับลดลงได้ ทำให้ผู้บริหารโรงพยาบาลน้อยใหญ่ มุ่งแต่ดูรายรับว่าไม่เพียงพอต้องได้รับเพิ่ม



    และความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้ระบบปฐมภูมิ รวมถึงโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอำเภอ ยังไม่สามารถลดภาระของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ที่มีต้นทุนการบริการสูงกว่าในโรคแบบเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องไปรับบริการแออัดยัดเยียดในโรงพยาบาล



    อย่างไรก็ตาม วิธีการแก้ปัญหาของ สธ. ยังคงเป็นไปในรูปแบบโบราณ คือ ต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกันในแต่ละเขตสุขภาพ หรือในส่วนกลาง ซึ่งปัญหาในแต่ละพื้นที่ ก็มีความซับซ้อน แตกต่างกันออกไป



    เอาเข้าจริง เรื่องการบริหารจัดการโรงพยาบาลของ สธ. ให้มีสถานะ “ไม่ขาดทุน” มีงบดุลที่เหมาะสม มีเตียง และจำนวนบุคลากรที่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย ก็น่าเห็นใจผู้บริหาร ซึ่งทั้งหมดเป็นหมอ ไม่ได้มีต้นทุนในเรื่อง “การบริหารจัดการ” เท่ากับ “ซีอีโอมืออาชีพ” หากแต่จบการศึกษาด้านแพทยศาสตร์เป็นหลัก และยังต้องแบกรับความกดดันจากทั้งบุคลากรน้อยใหญ่ และอยู่ภายใต้โครงสร้างที่ผู้ป่วยล้นเกินจำนวนบุคลากร



    นอกจากนี้ งบประมาณที่ลงมายังโรงพยาบาล ก็ไม่ได้มากนัก เมื่อเทียบกับงานที่โรงพยาบาลต้องดูแล



    ซ้ำโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ ยังต้องแข่งกับ “โรงพยาบาลเอกชน” โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ ที่ขยันดูดบุคลากรในเงินเดือนที่สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ 3-4 เท่า ทำให้เกิดภาวะสมองไหล โดยเฉพาะแพทย์-พยาบาล ระดับหัวหน้างาน ที่มีประสบการณ์การบริหาร รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่กลายเป็น “จุดขาย” ของโรงพยาบาลเอกชน นั้นๆ ไปโดยปริยาย



    สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของบุคลากรด้านสาธารณสุขก็คือ อุดมการณ์ การทำงานเพื่อมวลชน ซึ่งการอยู่ใต้ระบบที่มีปัญหา ก็ทำให้นับวัน อุดมการณ์ จะดำรงอยู่ยากมากขึ้นทุกที



    หาก สธ.ยังไม่ปรับตัว ปรับนโยบาย เพื่อรวบรวมข้อมูลกำลังคนอย่างเป็นระบบ และกระจายอำนาจลงไปยังโรงพยาบาลแต่ละแห่ง เพื่อให้โรงพยาบาลเป็นอิสระ กำหนดนโยบายของตัวเองได้ และหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างมั่นคงขึ้น ปัญหาเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่ และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ



    นี่คือลักษณะเฉพาะของหน่วยบริการสังกัด สธ. ที่ไม่ง่ายเหมือนการบริหารส่วนราชการอื่นๆ แต่ต้องปรับตัว ยืดหยุ่น และยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายใน-ภายนอก



    หากปรับตัวไม่ทัน นอกจากโรงพยาบาลจะเดือดร้อนแล้ว ประชาชนชาวไทย ที่หวังจะได้รับการบริการสุขภาพที่ดีตามนโยบายรัฐ ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยเช่นกัน


    #โรงพยาบาลเอกชน #โรงพยาบาลรัฐ


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Gossipสาสุข


    สสส.ทำงานอย่างอิสระจริงหรือ? การจัดสรรงบหนุน “กลไกภาครัฐ VS กลไกภาคประชาสังคม”





    - หนึ่งในแนวคิดให้สลายกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็คือการพยายามอธิบายว่า สสส. ใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีประสิทธิภาพ และงานที่ทำก็ล่องลอยในอากาศ ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม



    - อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงก็คือ ในงบประมาณปี 2560 ซึ่ง สสส.ได้รับจากภาษีเหล้า-บุหรี่ จำนวน 4,400 ล้านบาทนั้น ถูกกระจายลงไปยังหน่วยงานรัฐ เช่น กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐ มหาวิทยาลัย มากกว่า 44%



    - ที่น่าสนใจก็คือ ปี 2559 สัดส่วนของงบประมาณที่กระจายให้กับหน่วยงานรัฐมีเพียง 33% เท่านั้น แต่เพียงปีเดียว งบประมาณที่กระจายให้หน่วยงานรัฐ ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 11%



    - ขณะเดียวกัน ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี 2559 – 2560 ก็เป็นช่วงเดียวกับที่ สสส.ถูกตรวจสอบจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างหนัก จนมีการใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ปลดคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไป 7 คน เพราะเห็นว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานที่รัฐทุน



    - ทุนที่เคยให้ภาคประชาสังคม องค์กรเอกชน มูลนิธิ จึงถูกนำไปสร้างความเข้มแข็งให้ระบบรัฐราชการแทน เพราะตลอดเวลาที่ตั้งกองทุนมา 18 ปี หน่วยงานราชการ ก็รู้สึกไม่พอใจ สสส. อยู่ลึกๆ เพราะคิดว่า เงินที่มาจากภาษีบาปแม้จะใช้ไปแค่ 2% แต่ก็เป็นจำนวนสูงกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี ไม่ควรนำไปจ่ายให้ “เอ็นจีโอ” ทำกิจกรรม



    - หากเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ก็เป็นไปได้ว่า งบประมาณที่กองทุน สสส. จ่ายให้หน่วยงานรัฐ อาจเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10%จนกลายเป็น 100% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า



    - เพราะระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่เคยเห็นประชาชนเป็นใหญ่ และคิดว่าการเอาเงินไปสร้างความเข้มแข็งให้ภาคประชาชน ก็ไม่ต่างกับการสร้างความวุ่นวาย ทำให้เกิดการทุจริต และชาวบ้านธรรมดา ต้องเป็นคน “โง่ จน เจ็บ” อยู่เสมอ



    - ด้วยเหตุนี้ ตัดทอนกำลังได้มากเท่าไหร่ ยิ่งดี จึงนำมาซึ่งแผนแก้ พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินทั้งหมด ให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ “เห็นชอบ” ระเบียบกองทุนแทน



    - กระบวนการแก้กฎหมาย ก็เป็นไปอย่างรวบรัด มีการรับฟังความคิดเห็นแบบเงียบๆ และบอกว่าเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว ผ่านเว็บไซต์ www.lawamendment.go.th แต่กลบไม่มีการประชาสัมพันธ์ เป็นนัยว่า ยิ่งชาวบ้านแสดงความคิดเห็นน้อย ก็ยิ่งดี



    - คำถามก็คือ เมื่ออำนาจการจัดสรรเงิน ตกไปอยู่ในมือกระทรวงการคลังแล้ว กองทุนจะถูกปู้ยี่ปู้ยำอย่างไรบ้าง และกระทรวงการคลังจะทำหน้าที่ดีไปกว่าสำนักงานซึ่งมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากส่วนอื่นมาทำหน้าที่พิจารณาในการอนุมัติเงินได้อย่างไร



    - ยิ่งกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันชัดเจนอย่าง “การยาสูบแห่งประเทศไทย” แล้ว จะเชื่อมั่นได้หรือไม่ว่า สสส.จะไม่ถูกตัดกำลัง และลดทอนอำนาจไปให้เจ้าของกิจการบุหรี่ ซึ่งมีหน้าที่ “ทำเงิน” มากกว่า สสส. ที่มีหน้าที่ “ใช้เงิน”



    - อีกหนึ่ง “ทุนใหญ่” ที่มีอำนาจอิทธิพลเหนือรัฐบาลชุดนี้เสมอมา หนีไม่พ้นธุรกิจ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ซึ่งต้องเสียภาษีสมทบกองทุน สสส. ค่อนข้างมาก



    - รู้กันดีว่าในไทย มี “ขาใหญ่” ในธุรกิจเหล้า-เบียร์-ไวน์ อยู่ไม่มาก และขาใหญ่ที่กินรวบ ผูกขาด ตลาดนั้น ก็ไม่เคยสะทกสะท้านอะไร หากมีการประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์



    - แม้ธุรกิจน้ำเมาในไทยจะมีไลน์การผลิตเครื่องดื่มที่หลากหลาย แต่สินค้าที่ทำรายได้มากที่สุดก็ยังหนีไม่พ้น เหล้า-เบียร์



    - นอกจาก “เจ้าสัว” จะเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของ “ทุนประชารัฐ” แล้ว ตั้งแต่ สสส.ก่อตั้งมา ก็มีความคับข้องใจอยู่ไม่น้อย ที่ต้องหักรายได้ไปจ่ายเงินให้กองทุน สสส. ปีละนับพันล้านบาท



    - มิหนำซ้ำ สสส. ยังทำแคมเปญ “ให้เหล้า = แช่ง” หรือ “งดเหล้าเข้าพรรษา” จนทำให้อัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากกลุ่มคนเดิมที่ดื่มประจำ (1 ครั้งต่อสัปดาห์) ในอัตรา 44.38% ในปี 2552 เหลือเพียง39.91% หรือเฉลี่ยลด 1% ต่อปี



    - เมื่อ “เจ้าสัว” มีอำนาจเหนือรัฐบาล คสช. ผ่านชื่อโครงการสวยๆ ว่า “ประชารัฐ” จึงได้เวลาจัดกระบวนท่าใหม่ ให้ “รัฐ” ใหญ่กว่า “ประชา” ชัดเจน โดยรัฐ ก็ไม่ลืมที่จะเอาหลังพิงบรรษัทยักษ์ใหญ่ และทุนใหญ่ เพื่อให้ตัวรัฐเอง มีความมั่นคง เหนือทุนการเมืองทุนอื่น



    - อย่างไรก็ตาม แม้ สสส.จะเคลมตัวเองว่ามีผลงานมาก และมีหลักฐานเชิงประจักษ์อยู่พอสมควร ว่าสามารถใช้แคมเปญการตลาด เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็มีผู้ตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของเงินภาษีบาป ที่จ่ายให้องค์กรปีละมากกว่า 4,400 ล้านบาท อยู่ไม่น้อย



    - หลายคนมองว่าเป็น “ขั้วอำนาจ” หนึ่งในแวดวงสาธารณสุข ขณะที่หลายคน ก็มองว่าเป็น “ท่อน้ำเลี้ยง” ให้เอ็นจีโอ และเครือข่าย ไม่ได้มีจุดยืนชัดเจนเพื่อรณรงค์ และเสริมสร้าง “สุขภาวะ” ให้คนไทยแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ด้วยโรคเรื้อรัง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงจริง



    - การต่อสู้กับรัฐบาล การต่อสู้กับทุนประชารัฐ และการต่อสู้กับ “เจ้าสัว” จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น หาก สสส.เป็นองค์กรของประชาชน และมีภารกิจเพื่อประชาชนจริง ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เท่านั้น



    - นี่จึงเป็นโจทย์ใหญ่ ที่องค์กร สสส. พนักงาน สสส. และภาคีของ สสส. ต้องคิดว่า ทำอย่างไร ให้องค์กรมีลักษณะเป็นของประชาชน มากกว่านี้ เพื่อทำให้น้ำหนักการ “ยึดคืน” กลับไปสู่ภาครัฐลดน้อยลง



    - หากยังนิ่งนอนใจ ปล่อยให้ภาคประชาชนสู้กันตามลำพัง ก็มีโอกาสสูง ที่นายทุนเหล้า นายทุนบุหรี่ จะ “ชนะ” เพราะในประวัติศาสตร์ไทย คนมีเงิน กับคนมีอำนาจ มักจะคว้าชัยชนะเสมอ...

    #สสส. #ภาษีเหล้าบุหรี่


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fuck Devil V2


    สาธรณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน 2018///


    เมื่อเดือนที่แล้วรัฐสภาอิหร่านได้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าด้วยการ "ประมวลกฎหมายอาญาอิสลาม" ซึ่งจะกำหนดโทษประหารชีวิตให้แก่ชายชาวอิหร่านที่ออกจากศาสนาอิสลาม ส่วนผู้หญิงจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ลงมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 196ต่อ7เสียง...


    ///สำนักข่าวTelagraph


    https://www.telegraph.co.uk/news/wo...465/Hanged-for-being-a-Christian-in-Iran.html


    #แอดมินนบี


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Nov 15) ปธ.เฟดเชื่อเศรษฐกิจสหรัฐยังส่งสัญญาณดี แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว : นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มดี แม้มีปัจจัยที่น่าวิตกกังวลบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยจากต่างประเทศ


    ประธานเฟด ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ และเชื่อว่าจะเติบโตได้อีก


    อย่างไรก็ดี ประธานเฟดมองว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐดูมีแนวโน้มสดใสในตัวเอง แต่เมื่อประเมินจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกแล้ว สิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศ ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่น่ากังวล


    ขณะเดียวกัน ประธานเฟดยังคงดูมีท่าทีมั่นคงต่อแนวทางในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป


    นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีโอกาสมากกว่า 90% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยจากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา


    - Powell Says Fed Deserves Credit for Economic Growth:

    https://www.nytimes.com/2018/11/14/business/federal-reserve-powell-economy.html
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo




    น้ำท่วมวิกฤติในคูเวตอีกครั้ง

    (ตะวันออกกลาง)

    14.11.2018
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo

    5BBFD41B-7624-4A6F-AE17-2D189CE48FAB-245-0000000FD762F8CA.jpeg IMG_4901.JPG IMG_4902.JPG
    ไฟไหม้ป่าครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์....


    แคลิฟอร์เนียกำลังอยู่ในนรก จากรายงาน มีผู้สูญหาย 130 ราย และผู้เสียชีวิต 56 คน


    Fotoa ใหม่


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150



    ในขณะที่อยู่ใน # เม็กซิโกเราบ่นเกี่ยวกับความหนาวเย็น

    เด็ก ๆ เข้าเรียนใน #Yakutia, #Russia ที่อุณหภูมิ -44 องศาเซลเซียส ชั้นเรียนจะไม่ถูกระงับจนกว่า อุณหภูมิจะลดลงไปถึง -50 องศาเซลเซียส
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #คลื่น #หนาว: ในเทศบาลของ #miahuatlán และ #landeroycoss ใน #veracruz, #เม็กซิโกรายงานตกหิมะ (14 พ. ย. 2018)


    ในรัฐอื่นของเม็กซิโกในตอนนี้คือการตกหิมะหรือลูกเห็บ?


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #หิมะตกในหลายเทศบาลของ #veracruz, #เม็กซิโก (14 พ. ย. 2018)


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post


    มาเลเซียยังคงอนุญาตให้มีการ “แต่งงานเด็ก” ต่อไป แต่มีระเบียบเข้มงวดมากขึ้น

    https://www.publicpostonline.net/19196


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Nov 15) นาย Randal Quarles, Federal Reserve's Vice Chair of Supervision ขึ้นกล่าวต่อหน้า House Financial Services Committee ระบุว่าแผนการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลสถาบันการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่เสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าในการเสนอมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลายประเด็น


    ทั้งนี้ นาย Quarles เผยว่า แผนต่อไปที่จะเสนอนั้นเกี่ยวกับ leverage ratio สำหรับ community bank เพื่อวัตถุประสงค์ในการลด compliance burden ของสถาบันการเงินประเภท community bank ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งเกณฑ์ด้านเงินกองทุน และอำนาจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที


    นอกจากนี้ นาย Quarles มองว่ากฎหมาย Dodd-Frank ที่เกิดขึ้นเพื่อปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ภายหลังจาก Financial Crisis นั้น ประสบผลเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ความแข็งแกร่งในภาคสถาบันการเงินในปัจจุบัน สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจ และสินเชื่อ ท่ามกลางจำนวน nonperforming loan น้อยลง ประกอบกับผลประกอบการของสถาบันการเงินที่ออกมาอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี นาย Quarles ระบุถึงประเด็นความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ความเสี่ยงในด้าน cyber


    ด้านนาง Mary Daly, Federal Reserve Bank of San Francisco President (Voter) มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเติบโตเหนือระดับ potential ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ระดับเป้าหมาย และอัตราการว่างงานที่ต่ำกว่า long run level เล็กน้อย ดังนั้น นาง Daly สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป ขณะที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งระบุว่าผลของการดำเนินนโยบายการเงินนั้นมี lag อยู่ที่ระยะเวลา 18-24 เดือน


    ในส่วนของประเด็นด้านระดับของ Fed funds rate ที่ปรับสูงขึ้นนั้น นาง Daly กล่าวว่าเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังจับตาดู อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีสาเหตุมาจากปัจจัยทาง technical ประกอบกับความต้องการถือครอง reserve ของสถาบันการเงินในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงมิได้เป็นกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวมากนัก เนื่องจากมิได้ก่อให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการดำเนินนโยบายทางการเงินแต่อย่างใด พร้อมทั้งเผยว่า อาจมีการทำ technical adjustment อีกครั้งหากระดับของ Fed funds rate ยังคงอยู่ใกล้ upper bound ต่อไป


    Source: BOTSS


    - The Fed wants to loosen regulations even more for community banks: https://www.cnbc.com/2018/11/14/the...egulations-even-more-for-community-banks.html
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_4903.JPG
    (Nov 15) อสังหาฯแห่ออกหุ้นกู้แสนล. : ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาออกหุ้นกู้ พบ 9 เดือน 43 ราย ยอดทะลัก 1 แสนล้านบาท ส่งผลสัดส่วน 12% บอนด์ เหตุอาศัยจังหวะดอกเบี้ยต่ำ ล็อกต้นทุนก่อนเป็นทิศทางขาขึ้น



    หลังเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้สรุปหลักเกณฑ์ออกมาแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน กรณีบ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับการผ่อนหลังที่ 2 โดยหากผ่อนชำระหลังแรกไม่เกิน 3 ปี จะต้องวางเงินดาวน์ 20% หรือหากเกิน 3 ปีต้องวางเงินดาวน์ 10% ส่วนบ้านที่มีราคาเกิน 10 ล้านบาท ต้องวางดาวน์ 20% ตั้งแต่หลังแรก ส่วนที่อยู่อาศัยหลังที่ 3 ขึ้นไปจะต้องวางดาวน์ 30% ในทุกระดับราคา



    อย่างไรก็ตาม หากดูการระดมทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้วยการออกหุ้นกู้ จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 16% ต่อปีมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนของไทย โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าคงค้างของหุ้นกู้ที่ออกโดยกลุ่มอสังหาฯ มีสัดส่วน 11-12% ของมูลค่าคงค้างรวมของตลาดหุ้นกู้ ซึ่งมีมูลค่าคงค้างราว 3.3 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 และช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ กลุ่มอสังหาฯ มียอดออกหุ้นกู้รวมประมาณ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวนผู้ออกเพิ่มจาก 39 ราย เป็น 43 ราย



    นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จะเห็นว่า กลุ่มอสังหาฯมีการออกหุ้นกู้กันมากในปีนี้ ซึ่งบริษัทเองกำลังจะเสนอขายหุ้นกู้เช่น



    เดียวกัน แต่มูลค่าไม่มากนัก ประมาณ 300 ล้านบาท และเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งแรกในรอบ ปี ส่วนหนึ่งเพราะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ก็ไม่ต้องการออกมาก เพราะรอดูความชัดเจนของธปท.ในการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วย เพราะส่งสัญญาณมาเป็นระยะอยู่แล้วที่จะเข้มงวดขึ้น



    "เราระดมทุนเพื่อใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆที่สร้างไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ลงทุนมาก เพราะดอกเบี้ยสูงก็ไม่อยากใช้เยอะ และยังรอดูความชัดเจนจากธปท.ที่เป็นห่วงเรื่องการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบ้านแนวราบไม่ได้น่าเป็นห่วงเรื่องเก็งกำไร เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไปเก็งกำไร"



    ด้านนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การออกหุ้นกู้เป็นแผนระดมทุนที่วางไว้ล่วงหน้าตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียนชั่วคราว ส่วนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) เป็นแผนระดมทุนระยะยาว เพื่อนำเงินบางส่วนมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันแผนการ IPO อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติโดยสำนักงาน ก.ล.ต. และ ตลท.



    "การออกหุ้นกู้เป็นช่องทางหนึ่งในการระดมทุนซึ่งมีต้นทุนที่ใกล้เคียงกับการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการระดมทุนโดยการออกหุ้นเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม ในการประกอบธุรกิจและพัฒนาโครงการใหม่ๆเราต้องใช้เงินทุนส่วนหนึ่งจากIPOเป็นช่องทางหนึ่งในการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดโครงการใหม่และปรับโครงสร้างเงินทุนให้เหมาะสม"


    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,313
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Public Post


    ด่วน! ซาอุฯ จ่อประหาร 5 ผู้ต้องหาโยงฆ่า “คาช็อกจี” ยัน “บินซัลมาน” ไม่เอี่ยว รับวางยา-หั่นศพในกงสุล

    https://www.publicpostonline.net/19218


     

แชร์หน้านี้

Loading...