ติดตามสถานะการณ์

China Xinhua News

สะพรึง! พบหนอนยักษ์ 8 เมตรในทะเลนิวซีแลนด์





ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ เมื่อนักดำน้ำสองคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่บริเวณนอกชายฝั่งเกาะไวท์ (Whakaari) ประเทศนิวซีแลนด์ พบหนอนทะเลยาว 8 เมตร (26 ฟุต) และสามารถบันทึกภาพดังกล่าวไว้ได้ พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับขนาดที่ใหญ่โตของมัน ทำให้พวกเขาดูราวกับเป็นคนแคระไปเลย

 

China Xinhua News



น่าผิดหวัง! นิวซีแลนด์เรียกร้องญี่ปุ่นหยุดเดินหน้า “ล่าวาฬ” มหาสมุทรใต้
.
หลังจากกรมประมงของญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ย.) ว่ากองเรือประมงสัญชาติญี่ปุ่นได้เดินทางออกจากเกาะญี่ปุ่นและมุ่งหน้าสู่มหาสมุทรใต้ (Southern Ocean) หรือมหาสมุทรแอนตาร์กติก เพื่อเริ่มต้นการล่าวาฬรอบใหม่
.
วานนี้ (13 พ.ย.) นายวินสตัน ปีเตอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของนิวซีแลนด์แสดงความเห็นว่าการเดินหน้าล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ของญี่ปุ่นขัดแย้งกับคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์และการปกป้องระบบนิเวศของมหาสมุทร
.
“นิวซีแลนด์รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีคำแนะนำทางวิทยาศาสตร์มากมายต่อต้านโครงการอันไร้ความจำเป็นและล้าสมัยนี้” ปีเตอร์สกล่าว
.
“ปัจจุบันเป็นเวลาของการเสริมกำลังปกป้องระบบนิเวศแอนตาร์กติกดั้งเดิม และด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์แล้วเราต้องหยุดการสังหารวาฬ”

 

China Xinhua News
โรงงานโลหะจีนระเบิดลูกไฟ คนงานหนีตายอลหม่าน เจ็บ 9 ราย

ชมภาพเหตุการณ์โรงงานแปรรูปโลหะแห่งหนึ่งของเมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงทางจีนตอนใต้ เกิดระเบิดพ่นเปลวไฟออกมาอย่างรุนแรง เมื่อวันพุธ (7 พ.ย.) ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 9 ราย
.
คลิปวีดีโอเผยวินาทีระเบิดลูกไฟปะทุพวยพ่นออกจากข้างในโรงงาน เผาไหม้กลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าจนเกิดควันโชย ก่อนจะมีกลุ่มคนวิ่งหนีตายออกมาเพิ่มด้วยสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่นหลุดรุ่ย
.
ทั้งนี้ ทางการท้องถิ่นนครเซินเจิ้นกำลังดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวในปัจจุบัน

 

China Xinhua News

ปักกิ่งประกาศเตือนภัย หลังเจอหมอกพิษปกคลุมทั่วเขตเมือง





วันนี้ (14 พ.ย.) มหานครของจีนต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่จากหมอกควันมลพิษที่เข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของเมือง ส่งผลให้ทัศนวิสัยต่ำ
.
โดยเมื่อวานนี้ปักกิ่งได้ประกาศเตือนภัยมลพิษระดับสีเหลืองซึ่งเป็นระดับต่ำ และค่าฝุ่นพิษ PM2.5 สูงสุดแต่ที่ 276 นับเป็นครั้งแรกของการประกาศเตือนภัยสีเหลือง หลังปักกิ่งได้ออกมาตรการฉบับใหม่เพื่อรับมือกับมลพิษทางอากาศอย่างเร่งด่วน
.
อย่างไรก็ดีหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของปักกิ่งคาดการณ์ว่า สภาพอากาศจะค่อยๆ ดีขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

 

China Xinhua News

อาวุธลับที่อาจช่วยให้มหานครอย่างกรุงเทพรอดพ้นจากการจมบาดาล
.
#มหานครอย่างกรุงเทพฯกำลังจมน้ำด้วยความเร็วที่น่าตกใจ









ท่ามกลางการพัฒนาเมืองที่ดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ มหานครที่รองรับผู้คนจำนวน 12 ล้านคนอย่างกรุงเทพฯ กำลังค่อยๆ จมลงประมาณ 2 เซนติเมตรต่อปี ในขณะที่น้ำทะเลในอ่าวไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นราว 4 มิลลิเมตรต่อปี
.
เหตุการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในประเทศไทยเมื่อปี 2011 หรือเมื่อ 7 ปีก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 รายและมีผู้คนอีก 13 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
.
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น หลายชุมชนในทั่วโลกต่างก็กำลังมองหาวิธีรับมือกับภัยพิบัติเช่นนี้
.
กรุงเทพฯ ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลเพียงเมตรครึ่ง มีการสูบน้ำออกจากพื้นดินเพื่อเอื้อแก่การพัฒนาเมือง และน้ำหนักของอาคารก่อสร้างที่ผุดขึ้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นครหลวงแห่งนี้กำลังจมทะเล เคยมีคนคาดการณ์ไว้ว่า กรุงเทพฯ อาจกลายเป็นเมืองบาดาลในช่วงกลางศตวรรษ
.
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้วงการสถาปนิกกรุงเทพได้คิดค้นแนวทางหนึ่งที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ (CU Centenary Park) ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีหญ้าและต้นไม้ แต่คุณลักษณะที่พิเศษของที่นี่ยังคงซ่อนเอาไว้อยู่ภายใน นั่นก็คืออ่างเก็บน้ำใต้ดินที่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ถึงล้านแกลลอน
.
กชกร วรอาคม สถาปนิกผู้สร้างอุทยานแห่งนี้กล่าวว่า "ความคิดนี้เกิดขึ้นจากการมองภาพรวมของเมืองใหญ่ ทุกคนรู้ดีว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่เสี่ยงต่อการจมน้ำ “การออกแบบพื้นที่สาธารณะนี้คือการอาศัยอยู่ร่วมกันกับน้ำ แทนที่จะกำจัดมันออกไป"
.
สวนสาธารณะถูกสร้างให้มีความลาดเอียง เพื่อระบายน้ำฝนลงลงสู่อ่างใต้ดิน และน้ำจะถูกเก็บอยู่ที่นั่นจนกว่าปริมาณน้ำที่ท่วมขังจะลดลง
.
กชกรกล่าวว่าเธอได้รับแรงบันดาลใจในการแออกแบบมาจากแนวคิดของโครงการแก้มลิง โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีพระราชดำริถึงลิงที่อมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มได้คราวละมากๆ พระองค์จึงส่งเสริมแผนการป้องกันน้ำท่วมโดยการใช้ที่ดินแบบเปิดเพื่อเก็บน้ำชั่วคราว
.
#ปัญหาใหญ่ของกรุงเทพฯคือการก่อสร้าง
.
อาคารจำนวนมากที่ผุดขึ้นแทบจะไม่มีพื้นที่เปิดเหลือไว้สำหรับการระบายน้ำฝน ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบปีก่อนพื้นที่ร้อยละ 40 ของกรุงเทพฯยังเป็นที่โล่ง ในขณะที่ปัจจุบันมีพื้นที่ส่วนนี้เหลือเพียงไม่ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น
.
กชกรกล่าวว่าสวนสาธารณะแห่งนี้มีประโยชน์สองประการคือ หนึ่งคือเป็นพื้นที่เปิดสาธารณะ และสองสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม
.
“กรุงเทพฯ เป็นประเทศที่มีพื้นที่สาธารณะต่อหัวประชาชนน้อยที่สุดในบรรดาเมืองหลวงในเอเชีย" เธอกล่าว "เราจำเป็นต้องมีพื้นที่สาธารณะมากขึ้น และถ้าหากสามารถช่วยรับมือกับสภาพภูมิอากาศได้ด้วยก็จะยิ่งดี สิ่งทั้งสองนี้ทำควบคู่กันได้"
.
"เรากำลังอาศัยอยู่ในเมืองที่เป็นสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ อุทกภัยจึงเป็นส่วนหนึ่งของภัยธรรมชาติที่เราต้องเจอ เราจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดของเราว่าจะอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ไปพร้อมกับน้ำอย่างไร" เธอกล่าวเสริม

#กรุงเทพฯตระหนักว่าต้องแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างจริงจัง
.
กรุงเทพฯ ได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม เช่น การสร้างคันกั้นน้ำและอุโมงค์ยักษ์ การขุดลอกและขยายคูคลอง และกำลังวางแผนที่จะกักน้ำไว้ในทุ่งนานอกตัวเมืองเพื่อปกป้องเมืองหลวง นอกจากนี้ ตอนนี้กรุงเทพฯ ยังได้เริ่มการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งที่สองเพื่อการรับมือกับอุทกภัยซึ่งมีถังเก็บน้ำที่ใหญ่กว่าเดิมแล้วอีกด้วย

 

China Xinhua News

ยามเหมันต์...เปลี่ยนทุ่งนาเขียวขจีเป็นพรมขาวโพลน







ชมภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อเร็วๆนี้ ของทุ่งนาขั้นบันไดในเขตหย่งจิ้ง มณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว จนดูราวกับพรมสีขาวเงินเนื้อดีที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากธรรมชาติเลยทีเดียว

 

China Xinhua News
บ.ญี่ปุ่นออกกฎใหม่ พนักงานที่นอนครบ 6 ชม. จะได้รับรางวัลพิเศษ

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา มีบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่ต้องการให้พนักงานในบริษัทพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ จึงออกนโยบายให้รางวัลพิเศษกับพนักงานที่นอนเกิน 6 ชั่วโมง
.
โดยรางวัลที่ว่านี้จะให้เป็นคะแนน 100 คะแนนสำหรับการนอนครบ 6 ชั่วโมงในหนึ่งคืน และสามารถนำไปแลกเป็นคูปองเงินสดสำหรับใช้ซื้อของในร้านกาแฟในบริษัทได้ วิธีการคือพนักงานเพียงแค่ใช้แอพในสมาร์ทโฟนจับเวลาการนอนของตนเพื่อเป็นหลักฐานมายืนยันว่าตนได้นอนอย่างเต็มอิ่ม
.
บริษัทให้เหตุผลว่า การทำเช่นนี้จะทำให้พนักงานได้พักผ่อนมากขึ้นโดยที่ไม่กระทบกับปริมาณการทำงานตามปกติ แถมยังทำให้พนักงานมีความกระตือรือร้นมากขึ้นอีกด้วย
.
บริษัทกล่าวว่า ในอนาคตอาจจะปรับให้คะแนนตรงนี้สามารถกลายเป็นเงินสดได้ โดยจะรวมเข้าไปในเงินเดือนที่จ่ายให้พนักงานเป็นรายเดือนเลย

 

China Xinhua News

ทุบสถิติจีน！กัมพูชาสร้างสถิติกินเนสส์บุ๊ค “เรือมังกรที่ยาวที่สุดในโลก”





วานนี้ (12 พ.ย.) เรือไม้ที่มีความยาว 87.3 เมตรของกัมพูชาถูกบันทึกลงในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ หรือ 'Guinness World Record' ว่าเป็นเรือมังกรที่ยาวที่สุดในโลก นับเป็นการทำลายสถิติของแชมป์เก่าอย่างจีนที่เคยสร้างสถิติไว้ก่อนหน้านี้
.
เรือไม้ที่มีความยาว 87.3 เมตรและกว้าง 1.94 เมตรของกัมพูชาได้รับการรังสรรค์ขึ้นโดยสหพันธ์เยาวชนแห่งกัมพูชา (UYFC) ในจังหวัดเปรยเวง ใช้เวลานานกว่า 6 เดือน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 60,000 เหรียญสหรัฐ สามารถรองรับฝีพายได้ถึง 179 คน ซึ่งผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการต่อเรือก็คือหน่วยงานบริหารของจังหวัดเปรยเวง
.
Pravin Patel ผู้ตัดสินจากหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ประกาศต่อหน้าผู้คนนับพันที่มาเข้าร่วมการแข่งขันที่แม่น้ำโขงในจังหวัดเปรยเวงว่าจีนเคยได้สร้างเรือมังกรที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งมีความยาว 77.8 เมตรเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ปี 2016
.
รองประธานสหพันธ์เยาวชนแห่งกัมพูชา Sar Sokha กล่าวว่าเรือลำนี้จะถูกนำไปจัดแสดงที่งาน Water Festival ในกรุงพนมเปญในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะถูกส่งกลับมายังเปรยเวง
.
เขากล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการสร้างเรือมังกรที่ยาวที่สุดในโลกคือการระลึกถึงประวัติศาสตร์การผลิตและการใช้เรือมังกรที่มียาวนานของชาวเขมรในสมัยโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นการระลึกถึงกษัตริย์กัมพูชาในยุคเก่าที่เคยใช้เรือมังกรเป็นพาหนะในการปกป้องดินแดน
.
"นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมจิตวิญญาณของความรักและความสามัคคีในหมู่คณะเยาวชนในการอนุรักษ์มรดกที่บรรพบุรุษของเราได้ทิ้งไว้ให้" เขากล่าวเสริม

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว รับกระแสในไทยไปอีก!! เมื่อล่าสุด สื่อของแอฟริกาใต้ตั้งคำถามปนสนเท่ห์#ทำไมผู้บริหารมหาวิทยาลัยถึงร่ำรวย สวนทางกับกรณีที่รัฐบาลตัดงบประมาณด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แฉอีก ผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารในหลายสถาบันได้รับการขึ้นเงินเดือนแถมเงินโบนัส #เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลตรวจสอบข้อเท็จจริง

รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยสเตลเลนบอช เป็นผู้ที่ได้รับเงินตอบแทนสูงสุดในช่วงปีที่ผ่านมา ได้รับรายได้รวมในปีที่ผ่านมากว่า 4.5 ล้านแรนด์ หรือประมาณ 10.35 ล้านบาท และเงินโบนัสอีก 30,000 แรนด์ (ประมาณ 69,000 บาท)

Source : voicetv - https://bit.ly/2RTCaWb

โดยเรื่องนี้ เว็บไซต์ Times Live รายงานว่า ผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย 19 แห่ง (ทั้งของรัฐและเอกชน) จากจำนวนทั้งหมด 26 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศเปิดเผยรายได้ช่วงปีการศึกษาที่ผ่านมา #พบว่าผู้บริหารเกือบทั้งหมดได้เงินตอบแทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงได้รับเงินโบนัสท้ายปี ในขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสั่งตัดงบประมาณด้านการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะพิจารณาปฏิรูประบบการศึกษาและผลักดันให้เกิดนโยบายเรียนฟรีในอนาคต

ด้าน เว็บไซต์ Capetalk ระบุว่า มหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันด้านหลักสูตรและการดึงดูดนักศึกษาเข้าสู่สถาบันเนื่องจากที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยในแอฟริกาใต้เป็นแหล่งรวมนักศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศในภูมิภาคแอฟริกา #ทำให้ผู้บริหารต้องรักษาระดับความเป็นเลิศของสถาบันเอาไว้ #ส่งผลให้เกิดความเครียดสูงจึงสมควรได้รับค่าตอบแทนสูงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยในแอฟริกาใต้หลายแห่งติดกลุ่มสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก 500 อันดับแรก โดยมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ติดอันดับที่ 241 มหาวิทยาลัยวิทวอเทอร์สแรนด์ติดอันดับ 321 และมหาวิทยาลัยสเตลเลนบอชติดอยู่ในอันดับ 415 ของโลก อีกทั้งส่วนใหญ่ก็เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่ก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี

#มหาวิทยาลัยเก่าแก่ในหลายประเทศทั่วโลกไม่ได้ดำเนินกิจการด้านการศึกษาเพียงอย่างเดียวเพราะสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่หลายร้อยปีมักจะได้รับสิทธิถือครองทรัพย์สินและที่ดินจำนวนมากทั้งที่ได้รับบริจาคจากเศรษฐีหรือศิษย์เก่า ทำให้การบริหารจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดรายได้จำนวนมหาศาลในแต่ละปี.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว การบินไทยวิกฤต!!! อื้อฉาวต่อเนื่องแบบจัดเต็มจริงๆ สำหรับกรณีของ#การบินไทย เจ้าของสโลแกนติดปาก "รักคุณเท่าฟ้า" ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด (?!!) ไม่ยอมหยุด ก่อนนี้ก็ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง (5 ปี เจ๊ง 3 หมื่นล้าน) เร่งรัดเข็มขัดควบคุมค่าใช้จ่าย-บริหารสภาพคล่องรัวๆ ล่าสุด #นักบินแห่ลาออกย้ายซบสายการบินคู่แข่งที่รายได้ดีกว่าเป็นจำนวนมาก แจกเหตุ #ปัญหาระบบการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ อย่างเบี้ยเลี้ยงบินต่างประเทศและค่าทำงานล่วงเวลา (โอที) ยังไม่เป็นธรรม ทำให้นักบินลาออกก่อนครบสัญญาว่าจ้าง หลายคนยอมให้บริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหาย ต้องจ่ายค่าปรับถึงคนละ 5-6 ล้านบาทเลยทีเดียว!!

Source : https://www.dailynews.co.th/economic/676862

โดยเรื่องนี้ เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ขณะนี้นักบินของการบินไทยที่ปัจจุบันมีประมาณ 1,200 ราย#ทยอยลาออกอย่างต่อเนื่องจากค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าสายการบินอื่น โดยในปีนี้ (2561) จะมีนักบินลาออกไปประมาณ 50 คน และในปี 2562 มีแผนจะทยอยลาออกเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง #เพื่อไปทำงานกับสายการบินที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่า โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ที่มีการขยายเส้นทางจัดซื้อเครื่องบินใหม่จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม พบว่านักบินการบินไทยเริ่มทยอยลาออกมาตั้งแต่ปี 2553 #รวม8ปีมีนักบินออกไปกว่า400รายแล้ว โดยเฉพาะช่วงปี 2559-2560 ที่ลาออกมากถึง 130 คน เพราะมีปัญหาระบบการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ อาทิ #เบี้ยเลี้ยงบินต่างประเทศและค่าทำงานล่วงเวลายังไม่เป็นธรรม ทำให้นักบินลาออกก่อนครบสัญญาว่าจ้าง หลายคนยอมให้บริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหาย ต้องจ่ายค่าปรับถึงคนละ 5-6 ล้านบาท (มีนักบินกว่า 100 ราย ใช้วิธีการประนอมหนี้กับการบินไทย)

อนึ่ง รายงานข่าวจากการบินไทยแจ้งอีกว่า ล่าสุด นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว #เบื้องต้นสั่งการปรับระบบการจ่ายเบี้ยเลี้ยงและค่าโอทีใหม่ทั้งหมด ด้วยการนำระบบจ่ายเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า 'pay per box' มาใช้ #เพื่อให้นักบินได้รับรายได้ที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับการทำงานจริงมากยิ่งขึ้นคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562#เชื่อว่าจะช่วยชะลอการลาออกของนักบินได้

ทั้งนี้ สำหรับระบบ pay per box จะมีการนำเงินเบี้ยเลี้ยงในการบินเที่ยวบินต่างประเทศ ไม่ว่าจะบินใกล้หรือบินไกล และค่าโอทีของนักบินทุกคนมารวมเป็นก้อนเดียวกัน จากนั้นจึงจะนำเงินจากก้อนนี้ไปจัดสรรจ่ายให้นักบินตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงานจริง#บินมากก็ได้มากบินน้อยได้น้อย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ารายได้จะเป็นธรรมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมารายได้มีความเหลื่อมล้ำกันมาก เนื่องจากคนที่บินไกลโซนยุโรปได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 4,000 บาท บินในเอเชียได้วันละ 3,000 บาท ส่วนบินในประเทศได้วันละ 2,000 บาท

ขณะที่อัตราเงินเดือนของนักบินการบินไทย (ไม่รวมเบี้ยเลี้ยงและโอที) จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
▪️กลุ่มผู้ช่วยนักบิน เงินเดือนเริ่มต้น 100,000-150,000 ปรับเพิ่มขึ้นตามอายุงาน
▪️นักบินทั่วไป เงินเดือนเริ่มต้น 250,000-350,000 บาท ซึ่งนักบินบริหารรายได้จะสูงกว่านี้

อย่างไรก็ตาม #เมื่อเทียบกับสายการบินคู่แข่งยังถือว่าไม่มาก เช่น สายการบินนกแอร์ได้เดือนละ 379,000 บาท, ไทยสมายล์เดือนละ 400,000 บาท, แอร์เอเชียได้เดือนละ 460,000 บาท, ไลอ้อนแอร์เดือนละ 476,000 บาท และบางกอกแอร์เวย์สได้เดือนละ 490,000 บาท.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว หลังทะเลเสื่อมโทรม-นักท่องเที่ยวซาตาจนใจหาย #ภูเก็ต #ไข่มุกอันดามันประกาศเจตนารมย์เด็ดขาด!!! #ลดการใช้โฟมและถุงพลาสติกในจังหวัดอย่างจริงจัง พร้อมวางแผนจัดทำแผนแม่บทการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยกำหนดแนวทางและกรอบเวลาในการสรรหาความร่วมมือจากภาคราชการ องค์การส่วนท่องถิ่น และภาคเอกชน #เพื่อขับเคลื่อนแผนแม่บทไปสู่แผนปฏิบัติการณ์ร่วมกัน

Source : https://greennews.agency/?p=18139

โดยเรื่องนี้ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าฯภูเก็ต ระบุว่า ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล การทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจนั้น ความสะดวก-สบาย-ปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก จึงต้องช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนให้กลับมาใหม่ ควบคู่ไปกับการดูแลโลกใบนี้ด้วยการรณรงค์ให้ภูเก็ตปลอดโฟมและพลาสติกอย่างยั่งยืน

อนึ่ง แผนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนี้ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ #SCG คือ
▪️S คือ Safe & Smart
▪️C คือ Clean & Convenience
▪️G คือ Green & Global Standard

"โดยสิ่งที่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนในปัจจุบันคือ Clean & Green ซึ่งเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก" นายภัคพงศ์ ระบุ

ด้าน นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า #ที่ผ่านมาทะเลไทยสามารถหารายได้ให้กับประชาชนและประเทศชาติจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจว่าขณะนี้ทะเลไทยชำรุดทรุดโทรมไปมากเพียงใด จึงเป็นเวลาอันสมควรที่ทุกคนจะกลับมาร่วมกันรักษาทะเลให้สวยงามดังเดิม

สำหรับมาตรการในการลด-งดการใช้โฟมและถุงพลาสติกในจังหวัดภูเก็ต มีการวางแผนการดำเนินงานไว้ ดังนี้

มาตรการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
▪️พิจารณาออกระเบียบ มาตรการ หรือข้อกำหนดท้องถิ่น #ให้ร้านค้าและประชาชนร่วมกันงดใช้โฟมบรรจุอาหารอย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
▪️พิจารณาออกระเบียบ มาตรการ หรือข้อกำหนดท้องถิ่น ให้ร้านค้าและประชาชนงดใช้ถุงพลาสติก#รณรงค์ให้ร้านค้าและประชาชนใช้ถุงผ้าหรือถุงกระดาษ โดยให้มีผลในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป

แผนการดำเนินงานของภาคธุรกิจค้าปลีก
▪️งดใช้โฟมบรรจุอาหาร และในบรรจุภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
▪️งดให้บริการถุงพลาสติกแก่ลูกค้า โดยจะเปลี่ยนมาเป็นถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกย่อยสลายได้#คิดมูลค่าจากลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป
▪️งดใช้หลอดพลาสติค โดยจะเปลี่ยนวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุทดแทนที่ไม่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป

แผนการดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
▪️งดใช้โฟมบรรจุอาหารและในบรรจุภัณฑ์ที่จัดจำหน่าย #ไม่สนับสนุนคู่ค้าที่ใช้โฟมในผลิตภัณฑ์ด้านอาหารทุกประเภทโดยเด็ดขาด มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
▪️งดให้บริการถุงพลาสติกแก่ลูกค้า โดยจะเปลี่ยนเป็นถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกย่อยสลายได้ #โดยจะคิดมูลค่าจากลูกค้า และไม่สนับสนุนคู่ค้าที่ใช้ถุงพลาสติกโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป
▪️งดให้บริการหลอดพลาสติก โดยจะเปลี่ยนเป็นวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุทดแทนที่ไม่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว หลายประเทศทั่วโลกยังคงถกเถียงกันรัวๆ เรื่อง #บุหรี่ไฟฟ้า (ไม่เว้นแม้แต่ที่ไทยที่ดันกันรัวๆ) โดยล่าสุด สหรัฐฯสั่งคุมเข้ม 'บุหรี่ไฟฟ้ารสลูกอมและรสผลไม้' เตรียมห้ามขายในร้านสะดวกซื้อและปั้มน้ำมัน #เพื่อแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น

องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ชี้ว่า วัยรุ่นอเมริกันสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 75 ตั้งแต่ปีที่แล้ว ระบุอีกว่า #ปัญหานี้เกิดขึ้นในระดับที่ถือได้ว่าเป็นการแพร่ระบาด!!

Source : https://www.voathai.com/a/us-e-cigarettes-restriction-tk/4654427.html

คำสั่งห้ามนี้จะมีผลให้ร้านสะดวกซื้อและปั้มน้ำมันขายได้เฉพาะบุหรี่ธรรมดา บุหรี่รสมิ้นท์ และบุหรี่รสเมนทอลเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อบริษัท Juul Labs ผู้นำในตลาดบุหรี่ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโกเป็นอย่างมาก นอกจากนี้#FDAจะควบคุมเข้มงวดการสั่งซื้อบุหรี่ผ่านทางออนไลน์อีกด้วย ผู้ซื้อต้องระบุระดับอายุก่อนสั่งซื้อ

โดยเรื่องนี้ Scott Gottlieb ผู้อำนวยการ FDA กล่าวว่า ปัญหาการใช้บุหรี่ในกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ#นำไปสู่การเสพติดบุหรี่ตามมา ซึ่งจะละเลยไม่ได้และต้องได้รับการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา FDA ได้สั่งการให้บริษัท Juul Labs ยักษ์ใหญ่ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าสหรัฐฯและผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ายอดนิยมอีก 4 ยี่ห้อ #ดำเนินมาตรการป้องกันวัยรุ่นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ฯ ให้ได้ภายใน 60 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป

แผนสั่งห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่งรสลูกอมและผลไม้ในร้านสะดวกซื้อที่มีขึ้นหลังจากเส้นตาย 60 วันสิ้นสุดลง จะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท Juul ซึ่งขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีทั้งรสมะม่วง รสมิ้นท์ รสผลไม้ และครีม

FDA รายงานว่า ความนิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เกิดในช่วงเดียวกับที่ยอดขายอุปกรณ์บุหรี่ไอน้ำของบริษัท Juul ขยายตัวจาก 2 ล้าน 2 แสนชิ้นในปี ค.ศ.2016 เป็น 16 ล้าน 2 แสนชิ้นเมื่อปีที่แล้ว

ด้านบริษัท Juul ได้เคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทต้องการมีส่วนร่วมในการป้องกันไม่ให้บุหรี่ e-cigarettes ตกไปอยู่ในมือของวัยรุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็กล่าวว่า #บุหรี่ไอระเหยแต่งรสมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักสูบวัยผู้ใหญ่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน

E-cigarettes #เป็นประเด็นที่สร้างความคิดเห็นที่แตกแยกในวงการสาธารณสุข บางคนมองมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้ผู้สูบบุหรี่เลือกสูบผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีอันตรายน้อยลง ในขณะที่หลายคนกลัวว่า E-cigarettes จะดึงดูดให้คนรุ่นใหม่นิยมสูบบุหรี่เเละเกิดการเสพติดบุหรี่ตามมา.

 

MOREMOVE

#ซาวเสียงกันหน่อย เห็นด้วยไหมอ่ะ!!?? หากไทยเอาอย่างอินโดนีเซีย #ด้วยการให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรี #เพียงนำขยะพลาสติกมาแลกเป็นตั๋วโดยสารจ่ายแทนเงินสด เชื่อช่วยลดปริมาณขยะไม่ให้พอกพูนอยู่ในบ้าน แถมช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สาธารณชนในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับขยะพลาสติก

คุณคิดว่าคนไทยจะตระหนักรู้และมีจิตสำนึกเรื่องการทิ้งขยะพลาสติกจากนโยบายดังกล่าวไหมคะ!!??? จงอภิปรายอย่างกว้างขวาง

Source : https://www.voathai.com/a/indonesia-bus-tickets-plastic-trash/4639055.html

นโยบายดังกล่าวมีขึ้นที่เมืองสุราบายา เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย โดยพวกเขาตั้งกติกาวิธีการนำขยะพลาสติกมาแลกกับตั๋วรถโดยสารไว้ว่า ถ้วยพลาสติก 10 ถ้วยหรือขวดพลาสติก 5 ขวดสามารถแลกตั๋วที่นั่งรถโดยสารได้นาน 2 ชั่วโมง

อนึ่ง #ขยะพลาสติกที่ได้มาจะถูกนำไปคัดแยกประเภทและประมูลขายให้แก่บรรดาบริษัทรีไซเคิลซึ่งการแลกขยะพลาสติกกับตั๋วรถโดยสารประจำทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Zero Waste Indonesia 2020

โดยเรื่องนี้ Irvan Wahyu Drajad หัวหน้าหน่วยงานขนส่งของเมืองสุราบายากล่าวว่า #อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในผู้สร้างขยะพลาสติกมากที่สุดในโลก และหวังว่าวิธีนี้จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สาธารณะชนในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับขยะพลาสติกได้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการทิ้งขยะลงมหาสมุทรมากเป็นอันดับ 6 ของโลก.

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว มาแรงจริงๆ!!! เป็นที่ถกเถียงกันในสังคมไทยรัวๆ ต่อกรณีกรรมการสภามหาวิทยาลัยต่างๆ เตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง #เหตุไม่พอใจ ประกาศ ปปช.ที่ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน โดยล่าสุด 'องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ' ชี้ชัด #สาเหตุที่ระดับคุณภาพการศึกษาของไทยต่ำที่สุดในอาเซียนเพราะการคอร์รัปชั่น

รายงานของ สกอ.ระบุว่า #ปัญหาคอร์รัปชันมีผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของไทย เริ่มตั้งแต่การซื้อขายตำแหน่ง ข้าราชการ-อาจารย์ที่อยากได้ตำแหน่งทางวิชาการต้องวิ่งเต้นเส้นสาย ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอยากได้โครงการทางสภามหาวิทยาลัยก็อนุมัติ พอสภามหาวิทยาลัยอยากได้งบประมาณหรือไปดูงานต่างประเทศทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็อนุมัติให้เช่นกัน เรียกได้ว่า #ผลัดกันเกาหลัง ประกาศของ ปปช.ชุดนี้จึงเป็นสิ่งที่ ปปช.ต้องทำ #และได้ทำอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น #คงต้องมาพิจารณาถึงข้อกังวลของแต่ละคนว่าคืออะไร ที่ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินได้!!??

Source : https://prachatai.com/journal/2018/11/79559

โดยเรื่องนี้ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยอมรับกรรมการสภามหาวิทยาลัยล้วนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ เก่ง และเป็นคนดี แต่อย่างไรก็ตาม จากที่ปรากฏในข่าวบ่อยครั้งว่า#บางมหาวิทยาลัยมีการทุจริต เกื้อหนุนเกื้อกูลระหว่างผู้บริหารในมหาวิทยาลัยร่วมกับกรรมการสภามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะตัวนายกสภามหาวิทยาลัย#สร้างปัญหาให้ระบบการศึกษาและงบประมาณของประเทศ ตรงนี้เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่าการคอร์รัปชันเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างภาระให้กับคนไทยทุกคน #ทำให้รัฐบาลนี้ต้องออกกฎหมายสร้างมาตรการมากมายมาควบคุม ส่งผลให้คนดีได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

อนึ่ง เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเป็นสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศสมาชิกพึงกระทำ #ในเรื่องจริยธรรมของข้าราชการที่ต้องมีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินเพื่อให้มีการตรวจสอบได้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญและแผนการปฏิรูปประเทศด้านการต่อต้านคอร์รัปชันก็ระบุไว้ด้วย เพราะฉะนั้นใน พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่อยากให้ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายดังกล่าว#เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชันของประเทศ

“ความพยายามในการต่อต้านคอร์รัปชันที่กำหนดมาตรการ เรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน-ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ทำกันมาตลอดในช่วงหลายปีก็จะสูญเปล่า ประชาชนจะเริ่มคิดว่า ชนชั้นสูง-คนมีอำนาจ-คนร่ำรวยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อออกกติกาแล้วก็ได้ #เพราะพอถึงเวลาถ้าไม่ชอบก็จะไม่ยอมทำ #แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไปให้ความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันได้ยังไง อันนี้เป็นสิ่งที่เรากลัว และสิ่งที่จะตามมาก็คือ คนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาติก็จะเลือกทำในสิ่งที่เขาคิด เลือกทำในสิ่งที่มีโอกาส ตรงนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ย้ำ.

 

ไบโอไทพบ 8 คำขอ “สิทธิบัตรกัญชา” มาจาก บ.แห่งเดียว-กรมทรัพย์สินฯ ไม่ยกเลิกเสี่ยงผิดกม. เขียนวันที่ วันพุธ ที่ 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา 12:29 น.เขียนโดย Thaireform

ภาคประชาสังคมยันกรมทรัพย์สินฯ มีอำนาจเต็มยกเลิกคำขอ "สิทธิบัตรกัญชา" ตั้งเเต่ขั้นตอนเเรก หากขัด กม. เป็นสารสกัดธรรมชาติ เผยพบ 8 คำขอมาจากกลุ่มเดียว "จี ดับบลิว ฟาร์มา"



กรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รมว.พาณิชย์) และนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2561 ยืนยันกระบวนการยื่นคำขอสิทธิบัตรกัญชาทำได้ แต่จดสิทธิบัตรไม่ได้ในกรณีที่เป็นสารสกัดกัญชา เพราะผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมฯ ไม่มีอำนาจปฏิเสธยื่นคำขอ แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อยื่นคำขอแล้ว จะได้รับสิทธิบัตร

(อ่านประกอบ:พณ.ยันจดสิทธิบัตร “สารสกัดกัญชา” ไม่ได้ เหตุขัด กม.)

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 14 พ.ย. 2561 เครือข่ายภาคประชาสังคม จัดแถลงข่าว เรื่อง ภาคประชาสังคมจับโกหกกรมทรัพย์สินทางปัญญา ด้อยประสิทธิภาพ ตรวจสอบคำขอสิทธิบัตรกัญชาทำคนทั้งชาติเสียหาย” ณ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี(ไบโอไท) เปิดเผยข้อมูลจากการตรวจสอบขององค์การเภสัชกรรมและเครือข่ายภาคประชาสังคม พบว่า ปัจจุบันมีการยื่นคำขอรับการคุ้มครองสิทธิบัตร 11 คำขอสิทธิบัตร มี 7 คำขอสิทธิบัตร อยู่ในชั้นประกาศโฆษณาแล้ว แสดงว่าได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะออกสิทธิบัตรรับจดทะเบียนต่อไป ทั้งนี้ พบว่า มีหลายคำขอขัดต่อพ.ร.บ.สิทธิบัตร มาตรา 9 (1) ระบุว่า “จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช” เป็นการประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง

“หากมีคำท้วงติงคำขอสิทธิบัตรที่ผ่านมาขัดต่อมาตรา 9 แสดงว่า ขณะนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาละเมิดกฎหมายเสียเอง ที่ไม่ได้ยกคำขอเรื่องนี้”



ผอ.มูลนิธิชีววิถี ยังระบุว่า ในจำนวนที่มีการยื่นคำขอ 11 สิทธิบัตร มี 8 คำขอสิทธิบัตร มาจากกลุ่มเดียวกัน คือ “จี ดับบลิว ฟาร์มา” สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ ดำเนินกิจกรรมในประเทศสหรัฐฯ บริษัทแห่งนี้มีผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชาจำหน่ายทั่วโลก 30 ประเทศ และเป็นบริษัทที่กระตือรือร้นมากที่สุดในโลกในเรื่องสิทธิบัตรกัญชา ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบคำขอในสหรัฐฯ บริษัทนี้แห่งเดียวมีคำขอสิทธิบัตรทั้งหมด 52 คำขอ

ขณะนี้กรณีประเทศไทย บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด เป็นบริษัทผลิตยาและอาหาร มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีความร่วมมือกับตลาดสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินการมาแล้ว และเป็นไปอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นจำเป็นต้องเพิกถอนหรือยกคำขอสิทธิบัตรตั้งแต่ขั้นตอนก่อนประกาศโฆษณาด้วยซ้ำไป เพราะขัดมาตรา 5 และมาตรา 9 อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงสามารถยกคำขอได้ตั้งแต่ต้น และไม่มีข้ออ้างอื่นใดเลยว่าทำไม่ได้

“สิ่งที่อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาแถลงต่อสื่อมวลชนจึงขัดต่อกฎหมาย และหากหน่วยงานหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องผู้รับผลกระทบจะฟ้องร้องสามารถยกกฎหมายข้อดังกล่าวขึ้นมาได้”



นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า กรณีประกาศโฆษณาแล้ว 7 คำขอสิทธิบัตร กฎหมายยังระบุหากไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตรา 5 และมาตรา 9 อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยกคำขอสิทธิบัตรได้ทันที โดยให้พนักงานทำจดหมายแจ้ง จะเห็นได้ว่า อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามีอำนาจในการจัดการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อกระบวนการยกเลิกไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ในแง่บังคับบัญชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐบาลต้องรับผิดชอบ แต่วันนี้ยังไม่เห็นการรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว

ด้าน น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือเอฟ ที เอ ว็อทซ์กล่าวเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการยื่นคำขอรับสิทธิบัตร ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ทางเคมี ยื่นคำขอ จากนั้นต้องขอตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งขั้นตอนนี้กฎหมายระบุว่า สิ่งประดิษฐ์ต้องไม่ขัดต่อมาตรา 9 มิฉะนั้นจะต้องถูกยกเลิกคำขอ ซึ่งกฎกระทรวงพาณิชย์ ฉบับ 22 พ.ศ. 2542 บัญญัติกรณีที่พบว่าผิดตามมาตรา 9 และอื่นๆ ให้แจ้งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปรษณีย์ถึงผู้ยื่นคำขอ แต่ปรากฎว่า อธิบดีฯ ไม่ได้ทำ ซึ่งกำลังทำผิดกฎหมายของตนเอง แล้วปล่อยให้มีคำขอออกมา จนกระทั่งประกาศโฆษณา

“ตอนนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา บอกว่า การประกาศโฆษณาไม่ได้แสดงว่า ผู้ขอจะได้รับสิทธิบัตร แต่อย่าลืมว่า การขอรับสิทธิบัตร ถ้าเมื่อใดก็ตามได้รับสิทธิบัตรแล้ว การคุ้มครองจะย้อนหลังมาตั้งแต่วันแรกที่ยื่นคำขอ”

รองประธาน เอฟ ที เอ ว็อทซ์ กล่าวต่อว่า คงจำกันได้ คนที่ทำเรื่องยา ตอนที่ยื่นคำขอในลักษณะนี้ แม้ขั้นตอนการตรวจสอบจะค้าง 4-5 ปี ช่วงนี้ผู้ขอสามารถทำหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้อื่นที่คิดว่าจะละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพราะคิดว่าจะได้ในอนาคต ว่ากำลังละเมิดสิทธิบัตรที่กำลังขอเรื่องนี้อยู่ ฉะนั้นหากวันใดวันหนึ่งได้สิทธิบัตรเมื่อไหร่ จะต้องจ่ายค่าชดเชยย้อนหลังให้ ดังนั้น สิ่งที่อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่า การประกาศโฆษณา ไม่ได้แสดงว่าจะได้รับสิทธิบัตร ซึ่งความเป็นจริง ผู้ยื่นคำขอนำขาข้างหนึ่งไปอยู่ในสิทธิบัตรแล้ว และสามารถใช้ขาไปเตะใครก็ได้ ฉะนั้น การกล่าวว่า ยังไม่ได้สิทธิบัตรจึงเป็นเรื่องโกหก .

ภาพประกอบ:เว็บไซต์เอ็มไทย


https://www.isranews.org/isranews/7...NW0S7c8SA9wZ24C8ihXcxdNu6fBkO4RfUqguCWu9-acuE

 

องค์การเภสัชกรรม

ทำไมประเทศไทยจึงต้องวิจัยกัญชาทางการแพทย์ ?

1.วิจัย เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ ซึ่งงานวิจัยเดิมหรืองานวิจัยอื่นๆทำการศึกษาในบริบทและปรากฏการณ์ที่แตกต่างกัน

2. วิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลปริมาณการใช้ให้เหมาะกับโรคและเป็นข้อมูล เพื่อรองรับการใช้ในคนไข้อย่างปลอดภัย

3.วิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลประสิทธิภาพของยาต่อการรักษาได้ตรงจุดมุ่งหมาย

4.วิจัยเพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาด้วยยาที่มีคุณภาพเทียบเท่าสากล

5.วิจัยเพื่อความปลอดภัยในการใช้และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยไทย

6.วิจัยเพื่อให้ประเทศพึ่งพาตนเองได้ ลดการเข้ายาจากต่างประเทศ

#สารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ #องค์การเภสัชกรรม #GPO

 

ครม.ปลดล็อค กัญชาเพื่อการแพทย์แล้ว คาด กม.ใหม่มีผลบังคับใช้ไม่เกินสิ้นปี
เขียนวันที่ วันอังคาร ที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14:10 น.เขียนโดย isranews

ครม. ปลดล็อคกัญชาแล้ว ชี้ ปชช. ใช้ยาเสพติดประเภท 5 เพื่อการแพทย์ไม่เป็นความผิด คาดอาทิตย์หน้า ส่ง สนช.ตรากม. ก่อนมีผลบังคับใช้ไม่เกินสิ้นปี



สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ครม.เห็นชอบในหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่...) พ.ศ. โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และให้ตราเป็น พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ในรายละเอียดในส่วนของยาเสพติดประเภทที่ 5 (กัญชา กระท่อม)ดังต่อไปนี้

(1) เพิ่มเติมบทบัญญัติ ห้ามมิให้ผลิต นําเข้า หรือส่งออกยาเสพติดประเภท 5 เว้นแต่ได้รับ ใบอนุญาตจากผู้อนุญาตเฉพาะกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

(2) เพิ่มเติมบทบัญญัติ ห้ามมิให้ผู้ใดจําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต และกําหนดให้การมียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไว้ในครอบครอง คํานวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่สิบกิโลกรัมขึ้นไป ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อ จําหน่าย

(3) เพิ่มเติมบทบัญญัติ ในกรณียกเว้นให้มียาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไว้ในครอบครองไม่เกินจํานวนที่จําเป็นสําหรับใช้รักษาโรคเฉพาะตัว หรือสําหรับใช้ประจําในการปฐมพยาบาล หรือ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในเรือ เครื่องบิน หรือยานพาหนะอื่นใดที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ

(4) เพิ่มเติมอํานาจของผู้อนุญาตที่จะอนุญาตให้จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 2 (ฝิ่น มอร์ฟีน) หรือประเภท 5 แก่ผู้ขออนุญาต

(5) เพิ่มเติมให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีอํานาจกําหนดเขตพื้นที่เพื่อทดลองปลูกพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ผลิตและทดสอบยาเสพติด ประเภท 5 หรือกําหนดเขตพื้นที่ให้เสพหรือครอบครองยาเสพติดประเภท 5 ในปริมาณที่ กําหนด โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาและต้องมาตรการควบคุมตรวจสอบ

(6) ตัดยาเสพติดประเภท 5 ออกจากบทบัญญัติห้ามผลิต จําหน่าย นําเข้า ส่งออก และการมีไว้ในครอบครอง รวมถึงการกําหนดปริมาณยาเสพติดประเภท 5 ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อ ครอบครองจําหน่ายออก โดยใช้เนื้อหาเดียวกันนี้ไปกําหนดเพิ่มเติมในมาตราอื่น

สำหรับเหตุผลที่มีการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นเป็นมีการระบุว่า บทบัญญัติบางประการที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ในปัจจุบัน ในส่วนของกัญชานั้นปรากฏผลวิจัยว่าสารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ หลาย ประเทศทั่วโลกได้มีการผ่อนปรนโดยการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย อนุญาตให้ประชาชนใช้พืช กระท่อมและกัญชาทางการแพทย์หรือเพื่อการนันทนาการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่สําหรับประเทศไทย ปัจจุบันพืชกระท่อมและกัญชายังคงเป็นสิ่งเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มีการกําหนดโทษทั้งผู้เสพและผู้ครอบครอง ทั้งที่ในสภาพความเป็นจริงพบว่ามีผู้ป่วยบางส่วนลักลอบใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค มานานหลายปีแล้ว ทั้งผลิตใช้เองและมีผู้ผลิตในเชิงพาณิชย์ เป็นผลให้มีราคาแพงและอาจไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการแพทย์และตํารับยา สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาเสพติด ให้โทษ พ.ศ. 2522 เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนํากัญชาและพืชกระท่อมไปทําการศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนําไปใช้ในการรักษาภายใต้การดูแลและควบคุม ของแพทย์ได้ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า หลังจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบในหลักการให้แก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดแล้ว ก็จะส่ง หลักการให้แก้ไขพ.ร.บ.ยาเสพติดดังกล่าวไปให้กันสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาหลักการและให้ความเห็นชอบและตราเป็น พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับ พ.ศ..... ต่อไปภายในกรอบระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน โดยคาดว่าไม่เกินสิ้นปี 2561 พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ น่าจะมีผลบังคับใช้

https://www.isranews.org/isranews-n...yQS7TFti36kPP_HWPeuWK5FY4UvLRiVSTCyzXA6qGrOAg

 

แมวเกรียมไม่รอด ช่วยจากกองเพลิง ไฟป่าแคลิฟอร์เนียคลอกสัตว์อื้อ
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 - 10:06 น.

แมวเกรียมไม่รอด ช่วยจากกองเพลิง ไฟป่าแคลิฟอร์เนียคลอกสัตว์อื้อ
แมวเกรียมไม่รอด – เดลีเมล์ รายงานผลกระทบจากไฟป่าลุกลามครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ ที่ไม่เพียงคร่าชีวิตมนุษย์ไปแล้วอย่างน้อย 50 ราย เป็นฝั่งเหนือ 48 ราย และฝั่งใต้ 2 ราย ทั้งยังมีผู้สูญหายอยู่ที่หลักร้อย บรรดาสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยก็ถูกไฟคลอกตายไปมากเช่นกัน

อย่างภาพแมวตัวอ้วนที่อยู่ไฟคลอกจนขนและผิวหนังไหม้เกรียม ชื่อ บิลลีเกิร์ล มีผู้ช่วยจากถนนในเมืองพาราไดส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย. และมีภาพแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์พร้อมข้อความให้กำลังใจนั้น สุดท้ายทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว ตายไปอย่างน่าสลด



ภาพแมวบิลลีเกิร์ลกลายเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกชะตากรรมสัตว์หลายพันตัวในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ถูกไฟคลอกจนตายและบาดเจ็บ ตัวที่เป็นสัตว์เลี้ยงพลัดพรากจากเจ้าของ

กลุ่มคนรักสัตว์ในรัฐแคลิฟอร์เนียพยายามช่วยตามหาเจ้านายของสัตว์ที่ไปช่วยเหลือมา โดยใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางสื่อสาร เริ่มจากขึ้นข้อความว่า “คุณคิดถึงแมวน้อยตัวอ้วนจากถนนบิลลีในเมืองพาราไดส์มั้ย” เพื่อดึงให้ผู้คนเข้ามาร่วมกันช่วยเหลือสัตว์


จากนั้นมีผู้แชร์ภาพสัตว์มากมายที่ถูกไฟคลอก ทั้งสัตว์ที่มีผู้เลี้ยงไว้ อย่าง กระต่าย สุนัข ม้า ห่าน ยีราฟ มีบาดแผลไฟไหม้ และบางตัวต้องอยู่ในตู้อบเพื่อช่วยฟื้นฟู ส่วนสัตว์ป่าน่าวิตกอย่างยิ่ง เนื่องจากฝั่งทางเหนือเป็นแหล่งคุ้มครองสัตว์ป่าหายากหลายชนิด ทั้งเสือ กวาง หมี



สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เอพีรายงานว่า ไฟป่าทางภาคเหนือที่เรียกว่า แคมป์ไฟร์ เผาทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 7,700 หลัง ผู้คนกว่า 52,000 คนต้องอพยพย้ายถิ่นที่อยู่ จากจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีสูงเป็นประวัติการณ์และหลายร่างถูกไฟเผาจนเหลือแต่กระดูก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ระบบการตรวจดีเอ็นเอมาช่วยในการพิสูจน์อัตลักษณ์


Cathy Fallon pets her dog Shiloh at their home Friday, Nov. 9, 2018, in Paradise, Calif. Shiloh was burned when a wildfire scorched the property, burning down Fallon’s home. (AP Photo/John Locher)
ส่วนการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกไฟคลอก มีทั้งอาสาสมัคร และมืออาชีพที่ตั้งกลุ่มตระเวนออกช่วยเหลือตามสถานที่ต่างๆ และได้รับเงินบริจาคจำนวนมากจากคนรักสัตว์ ในที่นี้รวมถึงเหล่าดาราหลายคน เช่น แซนดรา บุลล็อก บริจาคให้ 1 แสนดอลลาร์ หรือราว 3.3 ล้านบาท แก่กลุ่ม The Humane Society of Ventura County






















https://www.khaosod.co.th/around-th...w-5A1fFWpK7bX37QegWTy83iR7CynAzkM_iUU1SbzkGC8

 

ไฟป่าเผาวอดบ้านหรู “ไมลีย์-เลดี กาก้า-เจอราด-โรบิน ธิค” โชคดีเอาชีวิตรอดได้ เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 20:11 ปรับปรุง: 14 พ.ย. 2561 00:47 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นับเป็นอัคคีภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นของสหรัฐฯ เลยทีเดียวกับไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เผาวอดสิ่งปลูกสร้างของเมืองหายไปจนเกลี้ยง รวมถึงบ้านหรูของเหล่าไฮโซย่านมาลิบู หลายหลังคาเรือน ซึ่งบรรดาคนดังต่างหนีตายเอาชีวิตรอดแม้ต้องสูญเสียบ้านไปกับไฟป่าครั้งรุนแรงนี้ก็ตาม

ตามรายงานระบุว่ามีคนดังของฮอลลีวูดไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบ้านพักหรูในย่านมาลิบูไป ซึ่งมีทั้ง เลดี้ กาก้า, กิลเลอร์โม เดลโตโร, โรบิน ธิค, เอพริล เลิฟ เกียรี, เจอราด บัตเลอร์ และ ไมลีย์ ไซรัส ก็ต้องทิ้งบ้านหนีตายเอาชีวิตรอดเช่นกัน

โดยเจอราด บัตเลอร์ นักแสดงวัย 48 ปี ได้เผยสภาพบ้านที่วอดไปกว่าครึ่งหลัง

ส่วนไมลีย์ ไซรัส นักร้องสาววัย 25 ปี ก็ได้ทวีตข้อความเศร้าที่ไฟป่าทำลายล้างชุมชนที่เธออยู่ แต่ก็ยังนับเป็นโชคดีที่เธอ และ เลียม เฮมสเวิร์ธ หนุ่มคนรัก รวมถึงบรรดาสัตว์เลี้ยงต่างหนีตายออกมาได้ พร้อมกล่าวขอบคุณบรรดานักดับเพลิงที่ทำงานอย่างหนักในการสู้กับวิกฤตไฟป่าครั้งนี้

ส่วนทางด้าน แชร์, เลียม เพย์น, อิกกี อาซาเลีย, เคทลีน เจนเนอร์ ต่างก็ทวีตข้อความกลัวต้องสูญเสียบ้านจากเหตุไฟป่าที่มาลิบูเช่นกัน แต่ทั้งหมดก็โชคดีที่บ้านของพวกเขายังคงรอดปลอดภัยจากไฟป่า

ไฟป่าครั้งนี้นับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของแคลิฟอร์เนีย กินพื้นที่กว่า 277,500 ไร่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 คน สูญหายอีกอย่างน้อย 228 คน และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว 3 รายจาก 4,000 รายที่ถูกส่งไปช่วยเหลือ








https://mgronline.com/entertainment...y_2eu9BqpiIh-aueNlfz5dcFaEPXwsuaRRQBvUDJk2yKw

 

รองปธน.สหรัฐฯ จวกเรื่อง "โรฮิงญา" ต่อหน้าซูจี จี้นำตัวคนผิดลงโทษ
เผยแพร่: 14 พ.ย. 2561 15:44 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์กองทัพเมียนมาร์เรื่องการกดขี่ข่มเหงชาวมุสลิมโรฮิงญาในการพบปะกับ อองซาน ซูจี ผู้นำของเมียนมาร์ในวันนี้ (14) และกล่าวว่า เขาต้องการได้ยินว่า ผู้ที่ก่อความรุนแรงเหล่านี้จะถูกลงโทษ

“ความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหงของกองทัพละกลุ่มศาลเตี้ยที่ทำให้ชาวโรฮิงญา 700,000 คนต้องหนีไปบังกลาเทศเป็นเรื่องที่ไม่มีข้อแก้ตัว” เขาบอกกับซูจีในการแถลงข่าวสั้นๆ กับสื่อก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่การพูดคุยส่วนตัวนอกรอบการประชุมซัมมิทเอเชีย-แปซิฟิกในสิงคโปร์

“ผมอยากที่จะยินความคืบหน้าว่า คุณกำลังควบคุมตัวผู้ก่อความรุนแรงที่ทำให้คนหลายแสนต้องพลัดถิ่นและทำให้เกิดความทุกข์ทรมานเช่นนี้ รวมถึงการสูญเสียชีวิต” เขากล่าวเสริม

เขากล่าวว่า วอชิงตันก็อยากที่จะได้ยินความคืบหน้าในการพาชาวโรฮิงญากลับรัฐยะไข่ทางตะวันตกของเมียนมาร์อย่างสมัครใจจากค่ายผู้ลี้ภัยในตอนใต้ของบังกลาเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ในตอนนี้

สหรัฐฯกล่าวหากองทัพว่าทำการกวาดล้างทางเชื้อชาติกับชาวโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยมุสลิมที่ถูกเกลียดชังอย่างกว้างขวางในเมียนมาร์ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ เจ้าหน้าที่สืบสวนของยูเอ็นกล่าวหากองทัพว่าดำเนินการสังหาร ข่มขืน และวางเพลิงด้วย “จุดประสงค์การล้างเผ่าพันธุ์”

เมียนมาร์ ระบุว่า ปฏิบัติการของพวกเขาในยะไข่เป็นการตอบสนองอย่างชอบธรรมต่อการโจมตีกองกำลังความมั่นคงของกลุ่มกบฏโรฮิงญาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

ซูจี ตอบเพนซ์ ว่า “แน่นอนคนเรามีมุมมองแตกต่างกัน แต่ประเด็นคือคุณควรแลกเปลี่ยนมุมมองเหล่านั้นและพยายามทำความเข้าใจกันและกัน”




“เราสามารถพูดได้ว่า เราเข้าใจประเทศของเรามากกว่าประเทศอื่น และดิฉันมั่นใจว่า คุณก็จะพูดอย่างเดียวกันในกรณีประเทศของคุณ คุณรู้จักประเทศของคุณดีมากกว่าใครทั้งสิ้น” เธอ กล่าวเสริม

ในสัปดาห์นี้ แอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลได้ถอดรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนอันทรงเกียรติที่สุดขององค์กรจาก อองซาน ซูจี และกล่าวหาเธอว่าปล่อยให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นต่อไปด้วยการไม่พูดถึงความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา

เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 1991 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องเป็นวีรสตรีในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยถูกถอดรางวัลเกียรติยศระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องจากเรื่องผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา

เพนซ์ยังกล่าวด้วยว่า วอชิงตันต้องการเห็นสื่อที่มีเสรีภาพและประชาธิปไตยในเมียนมาร์ และการจำคุกนักข่าวสองคนเมื่อปีที่แล้วทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนรู้สึกหดหู่อย่างยิ่ง

“ในอเมริกา เราเชื่อในสถาบันและอุดมการณ์ประชาธิปไตยรวมทั้งเสรีภาพสื่อ”

เขาไม่เอ่ยชื่อ วา โลน และจอ โซ อู สองนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกจับกุมในย่างกุ้งเมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 เมื่อเดือนกันยายนพวกเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายความลับทางการและได้รับโทษจำคุก 7 ปี

https://mgronline.com/around/detail/9610000113665