ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students

(Nov 14) IMF กล่าวเตือนรัฐบาลอิตาลีถึงแผนงบประมาณและความยั่งยืนของระดับหนี้สาธารณะของอิตาลี : IMF กล่าวในแถลงการณ์สรุปผลการจัดทำรายงานวิเคราะห์และประเมินภาวะเศรษฐกิจ Article IV ของประเทศอิตาลี ประจำปี 2018 เตือนรัฐบาลอิตาลีถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐทั้งในเรื่องการเพิ่มสวัสดิการ ปรับลดอายุเกษียณ หรือลดอัตราภาษี ว่ามีความเสี่ยงที่ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะถูกหักล้างจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ทำให้ไม่ได้ผลตามที่คาดการณ์ไว้

IMF ประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอิตาลีในปี 2019-2020 ที่ประมาณร้อยละ 1 ต่ำกว่าที่รัฐบาลอิตาลีประเมินไว้ในการทำงบประมาณที่ร้อยละ 1.5 ส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ร้อยละ 2.66 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สูงกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.4 ของ GDP และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.8 และ 2.9 ของ GDP ในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ

การออกมาเตือนของ IMF ในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่นาย Luis de Guindos รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมากล่าวแสดงความกังวลต่อแผนงบประมาณของรัฐบาลอิตาลีและความยั่งยืนของระดับหนี้สาธารณะในทิศทางทางเดียวกันเมื่อวานนี้

Source: BOTSS

- Italy May Risk Recession If Faced With Modest Shocks, IMF Says: https://www.bloomberg.com/news/arti...mnWnZXhRk2R9jRkbnqR5UtgxWLCyJeSWRNPsIip2fFv1A

 

Setiawan







แคลิฟอร์เนียไฟป่า 10 พ. ค. 2018
12 วินาทีจากการเริ่มวิดีโอ!

 

Thanong Fanclub

1. "เจ้านาย มันจบแล้วครับ"

เมื่อจักรวรรดิมาถึงยุคเสื่อม การถูกพันธมิตร หรือบริวารประเทศตีจากเป็นเรื่องธรรมดา

จำคำพูดของนักการเมืองจากภาคอีสานได้หรือไม่ ที่พูดกับนายใหญ่ที่กำลังหมดอำนาจวาสนาลงว่า "เจ้านาย มันจบแล้วครับ" ก่อนที่เขาจะลงเรือเล็กพายหนีตีจากไปเพื่อเอาตัวรอด

การเดินทางไปเยือนปารีสของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงวันที่10-11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมพิธีรำลึกการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่1เมื่อ100ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเสื่อมของจักรวรรดิอเมริกาอย่างชัดเจน

ทรัมป์ไม่ได้มีมาดผู้นำโลกที่ ผู้นำโลกคนอื่นๆรู้สึกเกรงใจหรือเกรงขาม เหมือนที่ผ่านมา ที่ผู้นำของจักรวรรดิต้องได้รับการยกย่องเหนือผู้ใด

ทุกอย่างติดขัดไปหมดสำหรับทรัมป์ ฝนตกหนักทำให้เขามีข้ออ้างไม่ไปสุสานฝังศพทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามโลกคร้ังที่1 เจ้าภาพเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสสกัดไม่ให้ทรัมป์และประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประชุมซัมมิทที่ปารีส เพราะว่าจะเป็นการขโมยซีนของเขาไป ในขณะที่มาครงต้องการสร้างภาพว่าเขากำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของยุโรปที่ต้องการเกิดใหม่ หรือรีเฟรชตัวเอง ทรัมป์จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับปูตินในได้แต่จับมือกันอย่างพอเป็นพิธีในงานพิธีรำลึก ที่สำคัญ มาครงตอกย้ำความริเริ่มของเขาว่า ได้เวลาแล้วที่ยุโรปจะต้องมีกองทัพเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะปกป้องยุโรปจากภัยทางทหาร หรือความมั่นคงจากรัสเซีย จีน หรือแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา

ท่าทีของมาครงเหมือนกับนักการเมืองภาคอีสานบ้านเรา ที่ส่งสัญญานไปยังทรัมป์ว่า "นายจ๋า มันหมดเวลาแล้วครับ"

ยุโรปต้องการเป็นตัวของตัวเองในด้านการทหาร และความมั่นคงจะได้มีอิสระภาพ หรืออำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงในการกำหนดนโยบายของตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะต้องมาฟังคำสั่งของจักรวรรดิที่อยู่อีกฟากของมหาสมุทรแอตแลนติคอีกต่อหนึ่ง

ถือว่ามาครงกำลังตบหน้าจักรวรรดิ เพราะว่าเขากำลังส่งสัญญานว่า ยุโรปไม่ต้องการอยู่ร่วมกับสหรัฐอีกต่อไปภายใต้กรอบของสนธิสัญญานาโต้

ที่ผ่านมาทรัมป์เล่นลูกบลัฟฟ์มาตลอด เพราะรู้ดีว่าจักรวรรดิเข้าสู่ยุคเสื่อม อำนาจการต่อรองเริ่มง่อนแง่น เวลาใครบลัฟฟ์มากๆ คนอื่นจะดูออก ว่ามันแสดงออกถึงความอ่อนแอ กฎของการบลัฟฟ์คือทำได้เพียงครั้ง หรือ2ครั้งเท่านั้น ถ้าทำมากไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ หรือคนอื่นจะจับไต๋ได้ เพราะว่าเป็นการเผยธาตุแท้ หรือความอ่อนแอของตัวเองออกมา

ทรัมป์บอกว่า การที่มาครงต้องการให้ยุโรปสร้างกองทัพเป็นของตัวเองเป็นท่าทีที่เหยียดหยามกันเกินไป ก่อนที่จะบลัฟฟ์มาครงว่า ก่อนอื่นขอให้ประเทศในยุโรปที่เป็นสมาชิกของนาโต้ลงขันงบประมาณด้านการทหารเทียบเท่า2%ของจีดีพีให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน อย่าได้ซ่าส์มากนัก เพราะว่าอเมริกาเป็นเจ้ามือจ่ายงบประมาณทางทหารเพื่อดูแลความมั่นคงให้ยุโรป

ในปี2017 จักรวรรดิใช้งบทางทหารเกือบ$700,000ล้าน หรือมากกว่าประเทศสมาชิกนาโต้ที่เหลือ27ประเทศรวมกัน ที่ผ่านมามีเพียง5ประเทศในนาโต้ที่ใช้จ่ายงบประมาณด้านการทหารเกิน2%ต่อจีดีพีคือ สหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ เอสโตเนีย กรีซ ส่วนฝรั่งเศสใช้จ่ายเพียง1.78%ต่อจีดีพี และเยอรมันนีเพียง1.19%

สหรัฐสร้างนาโต้เพื่อที่จะสกัดอิทธิพลของโซเวียต หรือพูดในอีกด้านหนึ่งเพื่อที่จะปิดล้อมโซเวียต และเพื่อทำลายโซเวียตในที่สุด เพราะว่าจักรวรรดิโซเวียตเข้มแข็งมากที่สุด อยู่ในฐานะที่จะเป็นใหญ่ในยูเรเซียในอนาคต จ้าวโลกต่อไปในศตวรรษที่21ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือยูเรเซียที่เป็นผืนแผ่นดินใหญ่ของโลกใบนี้

นาโต้มีสมาชิก28ประเทศ โดยที่สหรัฐเป็นประเทศเดียวที่อยู่นอกทวีปยุโรป ที่เหลือเป็นประเทศในยุโรปทั้งหมด ยุโรปเป็นสมรภูมิของสงครามโลกครั้งที่1และ 2มาแล้ว และคงจะไม่โง่ที่จะให้กลายเป็นสมรภูมิของสงครามอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับรัสเซียตามที่จักรวรรดิต้องการ

ด้วยเหตุนี้ มาครงจึงเสนอให้ยุโรปดีดตัวเองจากอิทธิพลทางทหารและความมั่นคงของสหรัฐเพื่อสร้างกองทัพเป็นของตัวเอง เมื่อมีกองทัพยุโรปแล้ว นาโต้คงอาจจะต้องเป็นหมันไป เพราะว่าโครงสร้างจะทับซ้อนกัน จักรวรรดิจะถูกโดดเดี่ยวให้อยู่ภายนอกภายใต้กรอบของโครงสร้างความมั่นคงใหม่ของยุโรป เมื่อคุมยุโรปไม่ได้ จักรวรรดิจะยืนอยู่ได้อย่างอย่างไร อาการฟาดงวงฟาดงาของทรัมป์จึงมีสาเหตุด้วยประการฉะนี้

thanong
13/11/2018

 

Thanong Fanclub

2. "เจ้านาย มันจบแล้วครับ"

ประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นหมาหัวเน่าในงานรำลึกครบรอบ100ปีของการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1ที่กรุงปารีสในวันที่ 11พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ถูกโดดเดี่ยวจากผู้นำโลกคนอื่นๆที่เห็นพ้องต้องกันว่านโยบายAmerica First หรืออเมริกาต้องมาก่อนของทรัมป์เป็นนโยบายที่เห็นแก่ตัว โดยไม่แยแสความรุ้สึกหรือผลประโยชน์ของผู้อื่น

ยิ่งทรัมป์ออกมาตอกย้ำว่า เขาเป็นนักชาตินิยม (Nationalist) เพราะว่าเขาต้องการแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตของอเมริกาที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เขากลายเป็นเป้าใหญ่เป็นที่รังเกียจของผู้นำดลกคนอื่นๆ คุณเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว แล้วคนอื่นไม่ต้องได้อะไรหรือไง ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงเลยถือโอกาสใช้เวทีปารีสในการสร้างภาพให้เขาเป็นผู้นำคนใหม่ของยุโรป ถ้าไม่ใช่โลกโลกตะวันตกทั้งมวลที่พร้อมที่จะอ้าแขนรับระบบโลกที่เปิด ไม่ใช่กลับไปใช้รูปแบบทวิภาคี และการโดดเดี่ยวตัวเองแบบทรัมป์

ทรัมป์โดนเชือดนิ่มๆที่ปารีส โดนมาครงสอนมวยอย่างไม่เป็นท่า โดยบอกว่า ปีศาจร้ายในอดีตที่เป็นต้นเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 1 และทำให้คนตายหลายล้านคนกำลังกลับมาหลอกหลอนเราอีกครั้ง โดยนัยแล้ว มาครงน่าจะหมายถึงนโยบายหักโค่นความร่วมมือระหว่างประเทศในรูปแบบพหุภาคีของทรัมป์ว่าจะนำไปสู่วิกฤติและผลร้ายของโลกใบนี้

มาครงกล่าวทับถมทรัมป์ว่า “ลัทธิการรักชาติเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับลัทธิชาตินิยม ลัทธิชาตินิยมเป็นการทรยศต่อการรักชาติ และเมื่อประเทศใดเอาผลประโยชน์ของตัวเองมาก่อน และไม่แคร์ต่อผลประโยชน์ของผู้อื่น ประเทศเหล่านั้นจะลบสิ่งที่มีค่ามากที่สุดที่พวกเขาพถึงจะมีคือ ค่านิยมทางจริยธรรม"

โดนมาครงสอนมวยอย่างนี้ ทรัมป์ได้แต่เชื่องซึม พูดอะไรไม่ออก ปารีสไม่ใช่บ้านตัวเอง จะลุกขึ้นมาแหกปากร้องกระเฌอก็ไม่ได้ ทรัมป์ไม่น่าจะลืมประสบการณ์ที่กลายเป็นฝันร้ายที่นี่ได้ ทรัมป์เกือบลืมนึกไปว่าปารีสไม่ใช่นิวยอร์คที่เขาจะใช้วาจาโอหัง หรือแสดงท่าทีอะไรที่ไม่สมควรได้ตามใจ เพราะว่าเขาเป็นประธานาธิบดีของอเมริกา แต่ที่ปารีส เขาเป็นเพียงหนึ่งในหลายผู้นำโลกที่เป็นแขกของมาครงที่ได้รับเชิญมาในงานรำลึกครบรอบ100ปีของวันสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปีที่แล้ว ทรัมป์เป็นคนถอนสหรัฐให้ออกจากข้อตกลงปารีสในการดูแลภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำโลกคนอื่นๆไม่ให้อภัยทรัมป์ง่ายๆที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของภาคธุรกิจ เพราะว่าเกรงว่าภาคธุรกิจต้องแบกภาระมากขึ้นในการทำตามข้อตกลงภาวะโลกร้อน

ในแง่ตัวบุคคล ทรัมป์ถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกที่เวที่ปารีส หรือจะมองให้ลึกลงไปในระดับของประเทศก็จะเห็นว่าสหรัฐกำลังถูกโดดเดี่ยวด้วยเหมือนกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่จักรวรรดิถึงวาระของความเสื่อมจะมีผู้นำผู้ปลุกปั่น (demagogue)เกิดขึ้นมา เพื่อสร้างภาพเพื่อบลัฟฟ์คนอื่น เพื่อปกปิดความเสื่อมในไส้ในของตัวเอง เมื่อจักรวรรดิถึงความเสื่อม พันธมิตร หรือบริวารประเทศจะเริ่มตีจาก หรือแสดงความไม่เกรงใจกันอีกต่อไป

ถ้าสหรัฐเข้มแข็งจริงทรัมป์ก็คงจะไม่เกิด จะไม่มีนโยบายAmerica Firstที่เห็นแก่ตัวอย่างน่าเกลียดที่สุด สหรัฐเป็นมหาอำนาจ เป็นจักรวรรดิที่ครองโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กอบโกยทรัพยากระรรมชาติไปไม่รู้เท่าไหร่ ทำลายสิ่งแวดล้อมในโลกนี้ไปไม่รู้เท่าไหร่ เพื่อกอบโกยความร่ำรวย สร้างความมั่งคั่งให้กับคนอเมริกันหมู่น้อย แต่เวลานี้ จักรวรรดิกลับโวยวายว่า ถูกเอาเปรียบ ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม จะหันหลังให้ข้อตกลงเดิมทุกอย่าง ทั้งๆที่ตอนมีข้อตกลง สหรัฐบีบไข่ประเทศอื่นให้เซ็นทั้งนั้น แต่มาวันนี้ มาถึงจุดเสื่อม ต้องการล้มโต๊ะ เพราะว่าไม่ได้ค้าขายร่ำรวยเหมือนจีน เทคโนโลยี่เอไอต่อไปสู้จีนไม่ได้ สหรัฐไม่ได้ผลิตอาวุธที่ทรงพลังด้วยแสนยานุภาพอย่างรัสเซีย มีแต่หนี้ และภาพลวงตาของความยิ่งใหญ่ในอดีต จึงทำให้พันธมิตรและประเทศต่างๆดูออกว่า ถ้าจะฝากฝีฝากไข้กับจักรวรรดิอีกต่อไปคงลำบาก จึงหาทางตีจาก แม้แต่ซาอุดิ อาราเบียยังไม่เอาเจ้านายแล้ว

มาครงเป็นผู้นำโลกคนแรกที่ออกมาบอกชาวโลกว่า ทรัมป์บ่มีไก๊ จักรพรรดิไม่ได้ใส่เสื้อผ้า (The emperor has no clothes)

thanong
13/11/2018

 

Thanong Fanclub

3. เจ้านาย มันจบแล้วครับ

ทรัมป์แค้นหนักที่ถูกมาครงหักหน้าที่กรุงปารีสโดยไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย พอกลับถึงทำเนียบขาวในวันจันทร์ ทรัมป์เดินหน้ารัวทวิทเตอร์เข้าใส่มาครง งานถนัดเขาหล่ะ

ทรัมป์เขียนว่า มาครงต้องการสร้างกองทัพยุโรปเพื่อป้องกันภัยจากสหรัฐ รัสเซียและจีน แต่เยอรมันเป็นต้นเหตุในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แล้วฝรั่งเศสจะว่าอย่างไร พวกฝรั่งเศสกำลังจะเริ่มเรียนภาษาเยอรมันในกรุงปารีส ก่อนที่สหรัฐจะมาช่วย

แสบเลยทีเดียว

เป็นการส่งสัญญานของทรัมป์ว่า ฝรั่งเศสแพ้เยอรมันในสงครามโลก2ครั้ง และยุโรปต้องการสหรัฐให้ช่วยปกป้อง

จะจ่ายเงินให้นาโต้ หรือไม่จ่าย?

ทรัมป์ทวงเงินฝรั่งเศสหน้าตาเฉยเลย รวมทั้งประเทศนาโต้อื่นๆอีกที่สมทบงบประมาณกลาโหมไม่ถึง2%ต่อจีดีพี

มาครงได้เสนอนโยบายให้ยุโรปมีกองทัพเป็นของตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐอีกต่อไป เท่ากับว่า มาครงต้องการล้มสนธิสัญญานาโต้ที่สหรัฐเป็นหัวหอก และเป็นสมาชิกประเทศเพียงประเทศเดียวที่ไม่อยู่ในยุโรป

นอกจากนี้ มาครงยังบอกว่า ลัทธิชาตินิยมของทรัมป์อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งและสงครามในยุโรปเหมือนกับในช่วงสงครามโลกครั้งที่1

มาครงให้การต้อนรับนางเมอร์เกิ่้ลเป็นพิเศษ ทั้งคู่ถ่ายรูปอี๋อ๋อกันอย่างชื่นมื่น ในขณะที่ทรัมป์ถูกลอยแพให้โดดเดี่ยว

เยอรมันเห็นด้วยกับการสร้างกองทัพยุโรป โดยไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐอีกต่อไป

เมื่อ2เสาหลักของสหภาพยุโรป คือเยอรมันและฝรั่งเศสบอกว่า เจ้านาย มันจบแล้วครับ แต่เจ้านายฟังไม่รู้เรื่อง ยอมรับความจริงไม่ได้

ถ้าหากว่าสหรัฐขาดฐานที่ยุโรป ก็จะทำให้ตัวเองถูกโดดเดี่ยวทันทีทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ แผนการปิดล้อมรัสเซีย จีนและอิหร่าน รวมทั้่งเกาหลีเหนือของจักรวรรดิจะเป็นง่อย

ในตะวันออกกลาง ซาอุดิ อาราเบียก็กำลังตีจาก เพราะว่าทนซื้ออาวุธเศษเหล็ก Scud ที่สกัดอะไรไม่ได้ รวมทั้งแพทรีออดที่จอดสนิท สู้S-400ของรัสเซียไม่ได้ พอซาอุไม่ยอมซื้ออาวุธ ก็หาเรื่องตีซาอุเรื่องการตายของนายจามาล คาซอคกี้

ตุรกียิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะว่าbye-byeนายใหญ่ไปตั้งนานแล้ว

ที่เวทีนาโต้ในกรุงบรัสเซลล์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ต่อว่าเยอรมันนีที่ใช้จ่ายงบกลาโหมเพียง1.2%ต่อจีดีพี ทำให้สหรัฐต้องดูแลงบนาโต้ส่วนใหญ่ ทรัมป์บอกว่าเยอรมันนีถูกรัสเซียจับเป็นเชลย เพราะว่าต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

นอกจากจะทวิทด่ามาครงเป็นชุดแล้ว ทรัมป์ยังสั่งให้ลูกน้องที่ทำเนียบขาวเตรียมเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ของยุโรป เป็นการตอบโต้ เป็นที่ทราบกันดีว่ารถยนต์ยุโรปที่ส่งเข้ามาขายตลาดอเมริกันเป็นรถยนต์ค่ายเยอรมันนีทั้งนั้น ถ้ารถยนต์ยุโรปโดนกำแพงภาษีของทรัมป์ รถยนต์ค่ายจีเอ็มก็ต้องโดนตอบโต้ด้วยเหมือนกัน

ทรัมป์โมโหที่เมอร์เกิ้ลไม่ยอมยกเลิกโครงสร้างท่อก๊าซNord Stream2กับรัสเซีย เพราะว่าต้องการให้เยอรมันนีและยุโรปหันมาซื้อก๊าซจากสหรัฐแทน

เจ้านาย ก๊าซเจ้านายมันแพงกว่านะ ค่าขนส่งบานเบอะข้ามทวีปอย่างนั้น แต่เจ้านายไม่ฟังเสียง

อเมริกาเฟิร์สของทรัมป์เริ่มจะทำให้ทรัมป์บ้าหนัก เพราะว่ามันใช้ได้กับประเทศเพื่อนบ้านรองบ่อนอย่างแคนาดากับเม็กซิโก พอออกนอกทวีปอเมริกาเหนือ อำนาจต่อรองของสหรัฐเริ่มถดถอยลงในยุคของความเสื่อมของจักรวรรดิ ทำให้ทรัมป์ออกอาการจิตหงุดเงี้ยว

thanong
13/11/2018

 

Thanong Fanclub

4. "เจ้านาย มันจบแล้วครับ"

แองเกล่า เมอร์เกิ้ล นายกรัฐมตรีของเยอรมันแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนความริเริ่มของมาครงที่จะให้ยุโรปสร้างกองทัพของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐอีกต่อไป

เริ่มสนุกแล้ว ที่ฝรั่งเศสกับเยอรมันนีจับมือกันดัดหลังสหรัฐ เพราะว่าได้เวลาจะปลดแอกยุโรปจากอิทธิพลทางทหารของสหรัฐเสียที สหรัฐครอบงำยุโรปด้านการทหารและความมั่นคงผ่านสนธิสัญญานาโต้ที่มีทั้งหมด28สมาชิกประเทศในเวลานี้ โดยมีสหรัฐเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่เป็นข้าวนอกนา คือไม่ได้เป็นประเทศยุโรป

ทรัมป์แค้นสุมทรวงที่โดนมาครงสอนมวยที่ปารีส กลับถึงทำเนียบขาวรีบรัวทวิทเตอร์โจมตีมาครงว่า อย่าได้บังอาจคิดแยกตัวออกจากนาโต้ เพราะว่าสหรัฐ รัสเซีย และจีนไม่ได้เป็นภัยกับฝรั่งเศส แต่เยอรมันต่างหากที่ซัดฝรั่งเศสในทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และ2 ทรัมป์ตบท้ายด้วยการทวงตังค์บอกว่า ฝรั่งเศส และเยอรมันจ่ายงบกลาโหมให้นาโต้ให้ครบ เพราะว่าทั้งคู่ใช้งบกลาโหมน้อยกว่า2%ต่อจีดีพีตามที่ตกลงกัน

เมอร์เกิ้ลเดินทางไปร่วมประชุมสภายุโรปที่เมืองสตราสบวร์ค ประเทศฝรั่งเศส เพื่อใช้เวลา25นาทีในการแสดงจุดยืนของเยอรมันในเรื่องความร่วมมือในอียูด้านกลาโหม อิมมิเกรชั่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการต่อต้านการก่อการร้าย

“ช่วงเวลาที่เราต้องพึ่งพาคนอื่นได้ผ่านไปแล้ว" เมอร์เกิ้ลกล่าวท่ามกลางเสียงสนับสนุน และเสียงบูคัดค้านในสภายุโรปจากบรรดาตัวแทนทั้งหลายในกลุ่มประเทศอียู "เราต้องมองไปยังวิสัยทัศน์ข้างหน้าว่าวันหนึ่งจะต้องสร้างกองทัพยุโรปที่แท้จริง"

เมอร์เกิ้ลยังคงสงวนท่าที โดยบอกว่ากองทัพยุโรปจะเสริมนาโต้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ความคิดริเริ่มนี้จะเป็นจริงเมื่อใด

นายNigel Farage ผู้แทนจากอังกฤษ ผู้นำกลุ่มที่คัดค้านสหภาพยุโรปในสภายุโรป บอกว่า คำพูดของเมอร์เกิ้ลสะท้อนให้เห็นว่า ยุโรปต้องการเป็นจักวรรดิ โดยกำลังเริ่มก่อสงครามเย็นกับสหรัฐ ด้วยเหตุนี้ เบร็กซิทจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นหลังจากนี้

อังกฤษเป็นนกรู้ อ่านเกมออกก่อนหน้่านี้แล้วว่า ยังไงเสียยุโรปต้องหาทางปลดแอกจากสหรัฐจึงมีแคมเปญBrexitขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการตีชิ่งออกตัวไปก่อน เพราะขืนอยู่ในอียู จะโดนเยอรมันนีและฝรั่งเศสไล่บี้เอาคืน เพราะว่าอังกฤษก่อสงครามโลกครั้งที่ 1 และ2เพื่อสกัดพร้อมทำลายเยอรมันไม่ให้ผงาด โดยมีสหรัฐแอบช่วยอยู่เงียบๆ แต่ประวัติศาสตร์เขียนกลับข้างให้เยอรมันเป็นผู้ร้าย แล้วให้สหรัฐเป็นฮีโร่เข้ามาปิดเกมสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการถล่มเยอรมันนีอย่างยับเยิน พร้อมกับแถมระเบิดปรมาณู2ลูกให้ญี่ปุ่นชิมเล่น เพื่อเป็นการทดสอบอาวุธในสนามรบจริง

เมอร์เกิ้ลตีบทเศร้าว่า เสียใจมากที่อังกฤษก่อหวอดBrexit ขอออกจากอียู ทั้งๆที่กำลังอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น มันเป็นความผิดพลาดนะที่อังกฤษคิดอย่างนี้ แต่ในใจแล้วเมอร์เกิ้ลต้องคิดคำรามว่า เออดีแล้วที่ออกไป รำคาญ เพราะว่าเรามีบัญชีที่ต้องสะสางกันในที่สุด แต่ตอนนี้ เยอรมันกระดิกตัวอะไรไม่ได้มาก เพราะว่าถูกสหรัฐครอบงำหลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐใช้เยอรมันเป็นฐานทัพใหญ่สำหรับองค์กรนาโต้ มีการขนอาวุธนิวเคลียร์เข้าไปเยอรมันนี เพื่อขู่รัสเซีย โดยเยอรมันนีพูดไม่ออก ต้องเล่นตามเกม

ถ้าฝรั่งเศสและเยอรมันจับมือกันสร้างกองทัพอียูได้ อังกฤษจะอยู่นอกวง สนธิสัญญานาโต้จะเป็นหมันไปโดยปริยาย ความจริงนาโต้ควรที่จะยุบตัวเองด้วยซ้ำหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี1991 โดยรัสเซียมีการยกเลิกสนธิสัญญาWarsaw Pactที่เป็นองค์กรทางทหารแดนสังคมนิยมนำโดยรัสเซียที่เผชิญหน้ากับนาโต้ ไม่มีภัยคอมมิวนิสต์อีกต่อไป รัสเซียอ่อนแอจนเกือบจะสิ้นชาติ ยอมให้สหภาพโซเวียตแตกออกเป็น15ประเทศ โดยมิไค โกบาชอฟตกลงกับโรนัลด์ เรแกนว่าเรายอมยุบจักรวรรดิโซเวียต แต่มีเงื่อนไขว่านาโต้ต้องไม่เอาประเทศสังคมนิยมตะวันออกไปเป็นพวก เพื่อที่จะรุกคืบเข้ามาคุกคามรัสเซีย เรแกนตอบโอเค เพราะว่าสหรัฐชนะสงครามเย็นอย่างสมบูรณ์ จีนในตอนนั้นยังคงเป็นวุ้นทางเศรษฐกิจและทหารอยู่

แต่ที่ไหนได้ สหรัฐไม่รักษาสัจจะวาจา กลับเพิ่มบทบาทของนาโต้และรับสมาชิกใหม่เพืิ่มเรื่อยๆจนมีสมาชอก28ประเทศ จนนาโต้มาตั้งกองทัพปิดล้อมรัสเซียเพียบอยู่ในเวลานี้ ทั้งโปแลนด์ เอสโตเนีย ลัดเวีย ลิทัวเนีย โรมาเนีย เป็นพันธะมิตรนาโต้ไปหมด มีการติดตั้งขีปนาวุธในโรมาเนีย โปแลนด์เตรียมให้สหรัฐเข้ามาตั้งฐานทัพเพื่อคุกคามรัสเซีย เป้าหมายของนาโต้คือการปิดล้อมรัสเซียทางทหาร

คำถามคือแล้วเยอรมัน และฝรั่งเศสจะเล่นเกมนาโต้ต่อไปหรือเพื่อเผชิญหน้ากับพี่ปูติน ในเมื่อยุโรปเป็นสมรภูมิในทั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 และ2 โดยสหรัฐได้ประโยชน์จากสงครามโลก แบบชนิดที่แทบจะไม่ระคายผิว

คนเราโง่ได้1ครั้งให้อภัย โง่ซ้ำ2ยังพอจะให้อภัย แต่ถ้าโง่ซ้ำ3ไม่รู้จะด่าอย่างไร

เมอร์เกิ้ลกำลังวางเกมไม่ให้เยอรมันนีโง่ซ้ำ3
่
thanong
14/11/2018
https://www.theguardian.com/world/2018/nov/13/merkel-joins-macron-in-calling-for-a-real-true-european-army

 

Thanong Fanclub

5. "เจ้านาย มันจบแล้วครับ"

ประธานาธิบดีวราดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีรำลึกวันครบรอบ100ปีของการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 1ที่กรุงปารีสด้วยในวันที่11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เดิมทีมีกำหนดที่ปูตินจะได้พบปะกับทรัมป์เพื่อหารือความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐที่กำลังออกอ่าวขึ้นทุกวัน เพราะว่าการเมืองภายในสหรัฐมองว่า การเจรจาพูดคุยใดๆระหว่างทรัมป์กับรัสเซียจะเป็นการแสดงออกของความอ่อนแอ ต้องมึนตึงเข้าไว้ ยิ่งเครียดยิ่งดี เพราะว่ารัสเซียเป็นศัตรูเบอร์1ที่มีจุดประสงค์ร้ายต้องการทำลายประชาธิปไตยอเมริกัน หรือวืถีเสรีของคนอเมริกัน ว่ากันอย่างนั้น

แต่มาครงไม่ต้องการให้ทรัมป์กับปูตินแย่งซีนไป เพราะว่าเขาต้องการเป็นพระเอกคนเดียวในฐานะเจ้าภาพ โดยไม่มีผลของการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับปูตินมาแย่งเนื้อที่ของพื้นที่ข่าว ที่สำคัญมาครงต้องการให้ข้อความที่เขาต้องการสื่อออกไปชัดเจนว่า ได้เวลาที่ยุโรปจะต้องปลดแอกจากสหรัฐแล้ว ด้วยการสร้างกองทัพยุโรปของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพากองทัพสหรัฐ และลัทธิAmerica First ของทรัมป์เป็นภัยต่อโลก เพราะว่าอาจจะสร้างความขัดแย้งไปสู่สงครามโลกได้เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา

ปูตินได้เพียงแต่จับมือกับทรัมป์ในงานพิธี และทักทายกันธรรมดา ปูตินยกนิ้วโป้ให้ทรัมป์ด้วย

ต่อคำถามว่าปูตินมีความเห็นอย่างไรกับแนวคิดที่ยุโรปจะสร้างกองทัพของตัวเอง ปูตินตอบว่าแนวคิดนี้เป็นที่เข้าใจกันได้ และเป็นผลบวกต่อโลกที่มีมหาอำนาจหลายขั้ว

“ยุโรปเป็นประชาคมร่วมทางเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพล และมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่พวกเขาต้องการมีอิสระภาพ และอำนาจอธิปไตยในเรื่องการทหารและความมั่นคง" ปูตินให้สัมภาษณ์กับสื่อRTของรัสเซีย พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างกองทัพยุโรปเป็นขบวนการในเชิงบวกที่จะสร้างความเข้มแข็งให้โลกที่จะมีมหาอำนาจหลายขั้ว นอกจากนี้แล้ว นโยบายของรัสเซียและฝรั่งเศสก็ไปได้ด้วยกันดีในเรื่องนี้

ปูตินคงสะใจ หัวเราะหึๆในลำคอ เพราะว่าการแตกคอระหว่างยุโรปกับสหรัฐทางด้านการทหารและความมั่นคงเข้าทางรัสเซียพอดี คำพูดของปูตินฟังดูแล้วสุภาพ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าตีึความลึกๆแล้วจะเห็นว่า ปูตินตอกย้ำให้ชาวยุโรปและชาวโลกได้รับทราบว่า ยุโรปที่ว่าแน่ แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงลูกไล่ของสหรัฐทางด้านการทหารและความมั่นคง ไม่ได้มีอิสระภาพ หรืออำนาจอธิปไตยที่แท้จริงในการดำเนินนโยบายทางด้านต่างประเทศ ทหารและความมั่นคงที่ต้องไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน ก็ดีนิ ที่ได้เวลาที่ยุโรปจะคิดเป็น กล้าลุกขึ้นมาปลดแอกจากอังเคิ้ลแซม

เมื่อยุโรปแตกคอกับสหรัฐ นาโต้ที่มีฐานทัพหลักในยุโรปจะอ่อนกำลังลง ภัยคุกคามรัสเซียก็จะเบาบางลงไปด้วย

ปูตินได้ทีปล่อยแนวความคิดว่า โลกเราไม่ควรที่จะถูกผูกขาดโดยมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง แต่ควรที่จะมีมหาอำนาจหลายๆขั้วเพื่อคานกัน หรือเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับโลกใบนี้อย่างแท้จริง มิเช่นนั้นแล้วมหาอำนาจขั้วเดียวจะมือเติบ ดำเนินนโยบายเอาเปรียบชาวบ้านเพื่อครองโลก และกอบโกยผลประโยชน์ต่างๆแต่เจ้าเดียว

ในขณะที่ปูตินพูดจาสุภาพในการสนับสนุนให้ยุโรปมีกองทัพของตัวเองเพื่อสร้างความสมดุลในโลกใหม่ที่จะมีมหาอำนาจหลายขั้ว แต่ทรัมป์กลับโจมตีแนวความคิดนี้ โดยบอกว่าข้อเสนอของมาครงที่จะให้ยุโรปมีกองทัพของตัวเองถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามสหรัฐ แถมทวงตังค์ฝรั่งเศสกับเยอรมันในเรื่องงบประมาณด้านการทหารเพื่อสมทบให้นาโต้ ไม่ใช้ให้อังเคิ้ลแซมควักกระเป๋าหนักแต่ผู้เดียว

โลกเรากำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่าย จากมหาอำนาจฝ่ายเดียว (unipolar world) ไปสู่มหาอำนาจหลายขั้ว(multipolar world) มันเป็นขบวนการที่เกิดขึ้นได้ เพราะว่าจักรวรรดิสหรัฐเสื่อมอำนาจลง และในขณะเดียวกันมหาอำนาจใหม่อย่างรัสเซียและจีนมีความเข้มแข็งขึ้น ทำให้ยุโรปที่อยู่ตรงกลางเหมือนไส้กรอกที่โดนขนมปังประกบต้องรีบเปลี่ยนท่าที และจุดยืนเพื่อปรับตัวเองให้เข้ากับความเป็นจริงของโลกใหม่ ที่สหรัฐไม่สามารถบงการชี้ไม้เป็นนกชี้นกเป็นไม้ได้อีกต่อไป

thanong
14/11/2018
https://www.rt.com/news/443677-putin-macron-army-europe-trump/

 

Sismologia Mundial








ผลเสียต่อการเกษตรเนื่องจากพายุลูกเห็บใน codegua ภูมิภาคของ o " ฮิกกินส์, ชิลี
รูปภาพที่ถูกจับในคอมมูนของ codegua ภาคที่เสียใจด้วยลูกเห็บที่ส่งผลกระทบต่อการเกษตรอย่างจริงจัง ชื่นชมสินค้าผลไม้บนพื้นค่ะ

 

Clima Extremo 24

แม็กซิโก

คาราวานต่างด้าวของ hondurans มาถึงชายหาด tijuana baja แคลิฟอร์เนีย

 

วันนี้วันที่ 13 พฤศจิกายนจำแผ่นดินไหวของ kaikoura เกิดขึ้นวันที่ 13/11/2016 เวลา 11:02 utc (14 พ. ย. 00:02 น. ท้องถิ่น) บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ (kaikoura, ภูมิภาคแคนเตอร์เบอรี่)
มันมีแม็กนิจูด (mw) ของ 7.8 (ความเข้ม ix) เสียชีวิต 2 คนประมาณ 60 คนที่ได้รับบาดเจ็บ พิกัดแผ่นดินไหวแผ่นดินไหว 180 กม. ทางเหนือของ christchurch ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว 8 แผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่ไกลจากศูนย์ของ kaikoura นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจำนวนเหยื่อถึงได้น้อย

 

Sismologia Mundial

บนชายหาดใน #มาลิบู, usa a spectator ถ่ายภาพต่อไปของนกฮูกในแซนด์ดูวิธีการที่ไฟกินที่อยู่อาศัยของมัน .

 

Setiawan





เมื่อมนุษย์ & สัตว์อยากมีชีวิตรอด

ริยาดซาอุดีอาระเบีย -

 

Noticias 507 y el mundo

รัสเซีย

พายุหิมะในค่ำคืนของวันนี้ใน krasnoyarsk, รัสเซีย 13 พ. ย.

 

Extreme Weather



ฉากแห่งการทำลายล้างเกิดจากไฟป่าในแคลิฟอร์เนียจากเบื้องบน...

 

KTLA 5 News

Breaking: sky5 เป็นเปลวไฟที่รุนแรงและมีขนาดของควันใหญ่ใ นทะเลสาบเชอร์วู้ด พื้นที่ของ ventura county ขณะที่ไฟล์วู้ดเบิร์นเข้าไปในคืนที่หกของ Http://on.ktla.com/prhjR

 

Breaking: ผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้ ที่เสียหายในแคลิฟอร์เนียเหนือ้ ถึง 48 ราย.

https://ktla.com/2018/11/13/camp-fi..._M3UyouUB4CplRbOQj6VEXfaQeCQaFqeuiktQcpKRMtmI

 

ทรัมป์เซ็งสื่อประโคมข่าวเกาหลีเหนือซุกฐานยิงขีปนาวุธ ชี้'ไม่มีอะไรใหม่' เผยแพร่: 14 พ.ย. 2561 02:35 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพถ่ายฐานยิงขีปนาวุธที่ CSIS กล่าวอ้าง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามเขตภูเขาในชนบทห่างไกลทั่วเกาหลีเหนือ โดย CSIS เชื่อว่ามันอาจเป็นสถานที่ซุกซ่อนขีปนาวุธหลายรุ่น ซึ่งรุ่นที่ใหญ่ที่สุดนั้นเชื่อว่าสามารถส่งหัวรบไปโจมตีเป้าหมายได้ทุกแห่งในสหรัฐฯ
รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันอังคาร(13พ.ย.) วิพากษ์วิจารณ์รายงานข่าวที่ระบุว่าเกาหลีเหนือซุกซ่อนฐานยิงขีปนาวุธที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่ ระบุเป็นรายงานที่ไม่ถูกต้องและไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากปกติ

"เรารู้เต็มเปี่ยมเกียวกับฐานยิงที่มีการพูดถึงกัน ไม่มีอะไรใหม่และไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากปกติ" ทรัมป์เขียนนบทวิตเตอร์ โดยอ้างถึงรายงานข่าวของนิวยอร์กไทม์สเมื่อวันจันทร์(12พ.ย.) "ผมจะเป็นคนแรกที่บอกให้พวกคุณรู้ หากว่าสิ่งต่างๆเริ่มแย่!"

เกาหลีเหนือเคยประกาศว่ากองกำลังนิวเคลียร์ของตนได้รับการพัฒนาจนเข้าขั้น “สมบูรณ์แบบ” แล้ว และยอมระงับการทดสอบทั้งขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์มาตั้งแต่ต้นปีนี้ ทว่าผู้แทนเจรจาฝ่ายสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ก็ยังไม่สามารถโน้มน้าวให้เปียงยางยอมเปิดเผยขนาดหรือขอบเขตที่แท้จริงของโครงการอาวุธ รวมถึงให้สัญญาว่าจะไม่นำคลังแสงที่มีอยู่ออกมาใช้

ในรายงานของนิวยอร์กไทม์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(12พ.ย.) ได้พาดพิงถึงผลการค้นพบของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง นั่นคือศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา (Center for Strategic and International Study - CSIS) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่เน้นว่ามีฐานยิงขีปนาวุธลับอีก 16 แห่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การหารือกันระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ

รายงานของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษาระบุว่าเกาหลีเหนือยังคงซ่อมแซมและปรับปรุงฐานยิงขีปนาวุธบางแห่ง แม้จะอยู่ระหว่างเจรจาปลดนิวเคลียร์กับสหรัฐฯก็ตาม

วอชิงตันเคยบอกว่าจะเดินหน้าผลักดันปลดอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป แต่เกาหลีเหนือไม่เคยยอมรับเกี่ยวกับฐานยิงขีปนาวุธเหล่านั้น และพวกนักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดเผยรายละเอียดแสนยานุภาพทางอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อข้อตกลงใดๆ

รัฐบาลโสมแดงยืนยันว่าได้ปิดสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ปุงกเย-รี (Punggye-ri) และศูนย์ทดสอบเครื่องยนต์จรวดโซแฮ (Sohae) ไปแล้ว และอาจจะยอมทำลายศูนย์ทดสอบอื่นๆ รวมถึงอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้าไปตรวจสอบได้ หากว่าสหรัฐฯ “มีมาตรการต่างตอบแทน” ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งว่า ฐานขีปนาวุธที่ถูกซุกซ่อนไว้เหล่านี้ขัดต่อสปิริตของการประชุมซัมมิต คิม-ทรัมป์ หรือไม่ และโสมแดงจะต้องทำลายสถานที่เหล่านี้หรือเปล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้นี้ตอบว่า ทรัมป์ ได้ประกาศชัดเจนไปแล้วว่า “หากประธาน คิม ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ซึ่งรวมถึงการปลดนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แบบและล้มเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธ เกาหลีเหนือและพลเมืองก็จะมีอนาคตที่สดใสยิ่งกว่ารออยู่ข้างหน้า”



ภาพถ่ายฐานยิงขีปนาวุธที่ CSIS กล่าวอ้าง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามเขตภูเขาในชนบทห่างไกลทั่วเกาหลีเหนือ โดย CSIS เชื่อว่ามันอาจเป็นสถานที่ซุกซ่อนขีปนาวุธหลายรุ่น ซึ่งรุ่นที่ใหญ่ที่สุดนั้นเชื่อว่าสามารถส่งหัวรบไปโจมตีเป้าหมายได้ทุกแห่งในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามความเห็นล่าสุดของประธานาธิบดีทรัมป์ดูจะขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายดังกล่าว

ด้าน คิม อึยคยอม โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า หน่วยข่าวกรองอเมริกันและโสมขาวใช้ดาวเทียมทหารติดตามความเคลื่อนไหวของฐานยิงขีปนาวุธเหล่านี้อย่างใกล้ชิดตลอดมา และสิ่งที่ CSIS นำมาเปิดเผย “ไม่ใช่เรื่องใหม่”

คิม ยังปฏิเสธแนวคิดที่ว่าเปียงยางจงใจ “หลอกหลวง” สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีข้อตกลงว่าเกาหลีเหนือจะต้องสำแดงการมีอยู่ของสถานที่เหล่านี้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า โซล “รู้จักคุ้นเคย” กับสถานที่ที่ CSIS กล่าวถึง แต่ปฏิเสธที่จะยืนยันความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายในฐานยิงจรวดเหล่านี้

ฐานยิงขีปนาวุธที่ CSIS กล่าวถึงนั้นกระจัดกระจายอยู่ตามเขตภูเขาในชนบทห่างไกลทั่วเกาหลีเหนือ โดยอาจถูกเป็นสถานที่ซุกซ่อนขีปนาวุธหลายรุ่น ซึ่งรุ่นที่ใหญ่ที่สุดนั้นเชื่อว่าสามารถส่งหัวรบไปโจมตีเป้าหมายได้ทุกแห่งในสหรัฐฯ

CSIS ระบุว่า ฐานเหล่านี้ตั้งอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินที่ขุดไว้ตามหุบเขาแคบๆ และถูกออกแบบให้สามารถเคลื่อนย้ายแท่นยิงขีปนาวุธออกจากอุโมงค์เพื่อส่งไปยังจุดประจำการภาคพื้นดินได้อย่างรวดเร็ว

“ขีปนาวุธทุกรุ่นในฐานเหล่านี้สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้หมด” โจเซฟ เบอร์มิวเดซ หนึ่งในผู้เรียบเรียงรายงานชิ้นนี้ ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์

ฐานจรวดเหล่านี้ตั้งอยู่เรียงกันเป็น 3 แถบ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเกาหลีเหนือ โดยฐานสำหรับขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์จะอยู่ลึกเข้าไปทางตอนกลางของประเทศ

ขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีระยะการยิงถึงเป้าหมายในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ทุกแห่งถูกประจำการห่างจากเขตปลอดทหาร (demilitarized zone) ไปทางเหนือราว 90-150 กิโลเมตร ส่วนขีปนาวุธที่พิสัยใกล้กว่าจะประจำการห่างจากเขตปลอดทหารราว 50-90 กิโลเมตรเท่านั้น

CSIS ระบุด้วยว่า ฐานยิงจรวดซัคคันมอล (Sakkanmol) ซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนเกาหลีใต้และกรุงโซลมากที่สุดได้รับการซ่อมบำรุงอย่างดี และดูเหมือนจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

https://mgronline.com/around/detail/9610000113483

 

กลุ่มนักรบปาเลสไตน์เสียงอ่อยยอมหยุดยิงกับอิสราเอล หลังกาซาถูกทิ้งบอมบ์ถล่มยับ เผยแพร่: 14 พ.ย. 2561 01:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สภาพความเสียหายในฉนวนกาซา หลังถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศ
รอยเตอร์ - กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ในฮามาส ในวันอังคาร(13พ.ย.) ตกลงจะระงับเหตุโจมตีข้ามพรมแดนทันทีหากว่าอิสราเอลดำเนินการแบบเดียวกัน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ ตามหลังเหตุปะทะครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามปี 2014

นับตั้งแต่เมื่อวันจันทร์(12พ.ย.) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล คร่าชีวิตฝั่งปาเลสไตน์ไปแล้ว 7 ศพ ในนั้น 5 คนเป็นนักรบ ส่วนจรวดที่ระดมยิงออกไปจากฉนวนกาซา คร่าชีวิต 1 ศพในอิสราเอล

"ทางกลุ่ม(ปาเลสไตน์) เห็นพ้องระงับการยิงบนเงื่อนไขที่ว่าอิสราเอลยอมปฏิบัติตามด้วย" จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์รายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความพยายามหยุดยิงที่นำโดยอียิปต์ ส่วนเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์อีกคน บอกเมื่อถูกถามว่าการหยุดยิงจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ โดยระบุว่า "ทันทีที่อิสราเอลยื่นหมูยื่นแมว"

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอล กล่าวหลังการหารือนาน 6 ชั่วโมง ระบุว่าได้ออกคำสั่งให้กองทัพเดินหน้าโจมตีในกาซาต่อไป "ตามความจำเป็น" บ่งชี้ว่าพวกเขาพร้อมตอบโต้เหตุโจมตีจากฝ่ายปาเลสไตน์

ฮามาสและกลุ่มก๊กติดอาวุธอื่นๆ ระดมยิงจรวดและกระสุนปืนครกข้ามรั้วพรมแดนเข้าใส่อิสราเอลกว่า 400 ลูกตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอังคาร ล้างแค้นที่คอมมานโดยิวบุกข้ามพรมแดน หลังจากเมื่อวันจันทร์(12พ.ย.) ได้ทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธนำร่องเข้าใส่รถบัสคนหนึ่ง ทำให้ทหารอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย




ทั้งนี้ฮามาสบอกว่าพวกเขาโจมตีตอบโต้กรณีหน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมในฉนวนกาซา สังหารผู้บัญชาการของพวกเขานายหนึ่งและมือปืนคนอื่นๆอีก 6 นายเมื่อวันอาทิตย์(11พ.ย.) ขณะที่นายพันอิสราเอลรายหนึ่งเสียชีวิตในปฏิบัติการดังกล่าวด้วย

เสียงไซเรนดังกึกก้องในหลายเมืองทางใต้ของอิสราเอล รวมทั้งท่าเรือแอชเคลอน เพื่อเตือนให้ประชาชนรีบหนีไปยังหลุมหลบภัย หลังจากจรวดของอิสราเอลพุ่งเข้าใส่บ้านเรือนหลายหลังเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(12พ.ย.) ขณะที่กองทัพเผยว่าระบบต่อต้านจรวด "ไอรอนโดม" สามารถสกัดจรวดได้มากกว่า 100 ลูก

อิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายสิบเที่ยว ถล่มอาคารต่างๆเมื่อคืนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงสำนักงานข่าวกรองแห่งหนึ่งของฮามาสและสตูดิโอสถานีโทรทัศน์อัล-อักซอของฮามาส ซึ่งมีการแจ้งเตือนพนักงานให้อพยพออกจากอาคารดังกล่าวล่วงหน้า

นอกเหนือจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในวันอังคาร(13พ.ย.)แล้ว กองทัพอิสราเอลเผยด้วยว่าพวกเขาได้ส่งกำลังพลชุดยิงจรวดไปประจำการบริเวณชายแดน และยิงใส่ชาวปาเลสไตน์หลายคนที่พยายามแทรกซึมเข้ามาผ่านแนวรั้วชายแดนรอบๆกาซา ดินแดนที่ยังอยู่ภายใต้การปิดล้อมของอิสราเอล

สถานการณ์ความรุนแรงคุกรุ่นมาตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์เริ่มทำการประท้วงตามแนวชายแดนรายสัปดาห์เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลคลายการปิดกั้นฉนวนกาซา เรียกร้องสิทธิในการเดินทางกลับไปยังดินแดน ซึ่งสูญเสียไปในสงครามก่อตั้งอิสราเอลปี 1948 ทั้งนี้ทหารอิสราเอลเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์ไปแล้วมากกว่า 220 ตั้งแต่มีการประท้วง

https://mgronline.com/around/detail/9610000113473

 

ผู้นำตุรกีเผย จนท.ข่าวกรองซาอุฯ ช็อค หลังฟัง “บันทึกสังหารคาช็อกกี” เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 16:55 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี ตัยยิป แอร์โดอัน กล่าวว่า บันทึกเหตุการณ์สังหาร จามาล คาช็อกกี ที่ตุรกีแบ่งปันกับกลุ่มพันธิตรตะวันตก “น่าตกใจ” และทำให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอิสราเอลคนหนึ่งที่ฟังมันถึงกับตกตะลึง สื่อตุรกี รายงานในวันนี้ (13)

คาช็อกกี นักวิจารณ์มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ถูกสังหารในสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียในอิสตันบูลเมื่อเดือนที่แล้ว การโจมตีที่แอร์โดอันกล่าวว่ามีคำสั่งมาจาก “ระดับสูงสุด” ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

แอร์โดอันบอกกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินขณะเดินทางกลับจากการเยือนฝรั่งเศสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า เขาคุยเรื่องการสังหารนักข่าวซาอุดีอาระเบียกับผู้นำสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนีในมื้ออาหารค่ำที่กรุงปารีส

“เราเล่นบันทึกเหตุการณ์สังหารให้ทุกคนที่ต้องการมันฟัง องค์กรข่าวกรองของเราไม่ได้ปิดซ่อนอะไรทั้งสิ้น เราเล่นบันทึกให้กับผู้ที่ต้องการมันทั้ง ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐฯ ฝรั่งเศส แคนาดา เยอรมนี อังกฤษ” เขากล่าว

“บันทึกดังกล่าวน่าตกใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุดีอาระเบียคนหนึ่งฟังมัน เขาถึงกับตกตะลึง เขากล่าวว่า “คนๆ นี้ต้องเสพเฮโรอีนแน่ๆ มีแต่คนเสพเฮโรอีนที่จะทำอะไรอย่างนี้”




การสังหารคาช็อกกีเรียกเสียงประณามจากทั่วโลกแต่แทบไม่มีมหาอำนาจรายใดแตะต้องซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้สนับสนุนแผนของวอชิงตันในการยับยั้งอิทธิพลอิหร่านในตะวันออกกลาง

แอร์โดอัน กล่าวว่า มันชัดเจนว่า การฆาตกรรมครั้งนี้มีการวางแผนและคำสั่งมาจากระดับสูงสุดของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แต่ว่า เขาไม่คิดว่าไม่น่าจะใช่สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ผู้ซึ่งเขาให้ความเคารพอย่างถึงที่สุด

“มกุฎราชกุมารตรัสว่า ‘ผมจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ผมจะทำในสิ่งที่จำเป็น’ เรากำลังรออย่างอดทน” แอร์โดอัน กล่าว และเสริมว่า ผู้ก่อเหตุสังหารอยู้ในหมู่ผู้ต้องสงสัย 18 คนที่ถูกคุมขังในซาอุดีอาระเบีย

“ต้องมีการเปิดเผยว่าใครเป็นผู้สั่งให้พวกเขาก่อเหตุฆาตกรรมนี้”

แอร์โดอันไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาของเทป แต่แหล่งข่าวสองรายที่รู้เรื่องนี้ บอกกับรอยเตอร์ว่า ตุรกีมีเทปเสียงหลายอัน

แหล่งข่าว ระบุว่า หนึ่งในนั้นคือบันทึกการสังหารและบทสนทนาก่อนก่อเหตุซึ่งตุรกีเปิดเผยในเวลาต่อมา บันทึกเหล่านี้ทำให้อังการาสรุปในเบื้องต้นว่า การสังหารมีการไตร่ตรองล่วงหน้า ถึงแม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะปฏิเสธรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องในตอนแรกก็ตาม

อัยการของซาอุดีอาระเบีย ซาอุด อัล-โมเจบ กล่าว่า การสังหารคอช็อกกีมีการวางแผนล่วงหน้า ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ซาอุฯ อีกคนหนึ่งจะกล่าวว่า มกุฎราชกุมารไม่ทรงรู้เห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการนี้เลย

https://mgronline.com/around/detail/9610000113325

 

“ผบ.นาโต” แสดงความกังวลเรื่องขีปนาวุธจีน จี้ปักกิ่งเซ็นข้อตกลงควบคุมอาวุธ เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 17:56 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – ผู้บัญชาการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก แสดงความกังวลเกี่ยวกับขีปนาวุธระยะกลางของจีนและรัสเซีย และเรียกร้องให้ปักกิ่งเข้าร่วมสนธิสัญญา

“เราพบว่าจีนกำลังลงทุนอย่างมหาศาลกับอาวุธใหม่และทันสมัยรวมถึงขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆ” สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับสถานีโทรทัศน์สาธารณะของเยอรนี ซีดีเอฟ อ้างจากคำแปลภาษาเยอรมนี

“และครึ่งหนึ่งของขีปนาวุธเหล่านั้นจะละเมิดสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟหากจีนเป็นประเทศภาคี” เขากล่าว โดยอ้างถึงข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ปี 1987 ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะถอนตัว

สโตลเทนเบิร์ก กล่าวเสริมว่า “เราสนับสนุนการขยายสนธิสัญญานี้เพื่อให้จีนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย”

เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์เตือนว่า สหรัฐฯอาจถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate Range Nuclear Forces) เสาหลักของการปลดอาวุธในสงครามเย็น ในการตอบสนองต่อการที่รัสเซียประจำการระบบขีปนาวุธที่วอชิงตันระบุว่า ละเมิดข้อตกลง

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เตือนว่า การละทิ้งข้อตกลงนี้อาจนำไปสู่การแข่งขันด้านอาวุธครั้งใหม่ และประกาศว่าจะตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน หากสหรัฐฯประจำการขีปนาวุธใหม่ใดๆ ก็ตามบนแผ่นดินยุโรป

ในวันนี้ (13) สโตลเทนเบิร์ก กล่าวว่า “นาโตไม่ได้ต้องการแข่งขันด้านอาวุธ แต่เราเป็นกังวลมากเกี่ยวกับขีปนาวุธของรัสเซีย มันเคลื่อนที่ได้ มันมีศักยภาพด้านนิวเคลียร์และมันสามารถไปถึงหลายเมืองในยุโรปอย่างเบอร์ลิน”

“ดังนั้นเราจึงเรียกร้องให้รัสเซียสร้างความมั่นใจว่าพวกเขายังคงยึดมั่นข้อตกลงไอเอ็นเอฟ ข้อตกลงนี้กำลังตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง”

https://mgronline.com/around/detail/9610000113364