ติดตามสถานะการณ์

Disaster Warning: “ดร.สนธิ” ชี้ “การตัดไม้ทำลายป่า” สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มในภาคเหนือ เพราะไม่มีพื้นที่ซับน้ำ พร้อมชูข้อกฎหมายการทำเกษตรกรรมบนภูเขา หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?
.
จากภาพดาวเทียมของ Google Earth ที่บันทึกภาพมุมสูงของจ.เชียงราย บริเวณพื้นที่อ.เวียงป่าเป้า และ อ.แม่สาย เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างปี พ.ศ.2527 และ พ.ศ.2564 (ภาพดาวเทียมล่าสุด) จะเห็นว่าพื้นที่ป่า หายไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ หลายพื้นที่ทางภาคเหนือ เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง เพราะไม่มีพื้นที่ป่าช่วยดูดซับน้ำ สอดคลองกับที่ “ดร.สนธิ คชวัฒน์” ที่ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว
.
โดย ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสเกี่ยวกับสาเหตุน้ำท่วมใหญ่ในภาคเหนือปีนี้ โดยระบุว่า “การตัดไม้ทำลายป่า” เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่ม
.
ดร.สนธิ ระบุว่า ภาคเหนือ มีพื้นที่ป่าไม้ในปี 2566 ประมาณ 37,976,519.37 ไร่ หรือ 63.24% ของพื้นที่ภูมิภาค ลดลงจากปี 2565 ถึง 171,143.04 ไร่ โดยการตัดไม้ทำลายป่าเปลี่ยนภูเขามาเป็นพื้นที่เกษตรกรรมปีละเกือบสองแสนไร่ สาเหตุสำคัญของอุทกภัยและดินถล่มครั้งใหญ่ของ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา ในปี 2567 สาเหตุฝนตกหนักกว่าเดิมแต่พื้นที่ซับน้ำไม่มี ฝีมือมนุษย์ทั้งนั้น
.
นอกจากนี้ยังระบุเกี่ยวกับการปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้
.
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 % ขึ้นไป เป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่ 1 ธ.ค. 2497 หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1
.
นอกจากนี้กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ14 (2) กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ 40 เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ดิน( ได้มาก่อน 1 ธ.ค. 2497)
.
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2538 กำหนดนิยามของ “เขา”หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35 และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35

ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ โดยมีบทลงโทษ คือ จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท
.
จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุกรุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร? สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้น ในปี 2567 เพราะทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย

ที่มา: Sonthi Kotchawat
ภาพ: Google Earth

_____
#TNNEARTH #ตัดไม้ทำลายป่า #น้ำท่วมภาคเหนือ #น้ำท่วม #อุทกภัย #ดินถล่ม #สาเหตุน้ำท่วม
_____
ติดตามข่าวสภาพอากาศ และเช็คจุดฝนตกน้ำท่วมถนนรถติดผ่าน TNN EARTH
Website: https://bit.ly/3MXvq5I
Youtube: https://bit.ly/3MZUVmK
TikTok: https://bit.ly/3naJL4p
Facebook: https://bit.ly/3bxVMy0
Line: https://lin.ee/rPHmFpD
Instagram: https://bit.ly/3PDLpuJ

https://www.facebook.com/share/p/Dq4zchQ4xXYhRZD4/?mibextid=oFDknk

 

UPDATE: ปภ. รายงานน้ำท่วม 19 จังหวัด ประชาชน 26,250 ครัวเรือนยังเดือดร้อน ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเร่งฟื้นฟูสู่สภาพปกติโดยเร็ว
.
วันนี้ (26 กันยายน) เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 26 กันยายน 2567 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 36 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, ตาก, พะเยา, น่าน, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, นครสวรรค์, เพชรบูรณ์, เลย, อุดรธานี, หนองคาย, นครพนม, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุบลราชธานี, ปราจีนบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, ระยอง, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, ยะลา, นครศรีธรรมราช, พังงา, ตรัง และสตูล รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 193 อำเภอ 845 ตำบล รวม 4,355 หมู่บ้าน และ 170,780 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 49 คน และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน
.
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, น่าน, ลำปาง, ลำพูน, แพร่, ตาก, เพชรบูรณ์, พิษณุโลก, สุโขทัย, เลย, หนองคาย, อุดรธานี, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, อุบลราชธานี, ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 72 อำเภอ 268 ตำบล รวม 1,132 หมู่บ้าน และ 26,250 ครัวเรือน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
.
1. จังหวัดเชียงราย น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย, แม่สาย และเวียงป่าเป้า รวม 10 ตำบล 35 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,501 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
2. จังหวัดเชียงใหม่ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ริมและอำเภอเมืองเชียงใหม่ รวม 7 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,027 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
3. จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปาย รวม 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
.
4. จังหวัดน่าน น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาน้อย, นาหมื่น และเวียงสา รวม 9 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 96 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
5. จังหวัดลำปาง น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง, งาว, เกาะคา, ห้างฉัตร, แม่พริก, สบปราบ, เถิน, แม่เมาะ, วังเหนือ, แม่ทะ และแจ้ห่ม รวม 42 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,024 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
6. จังหวัดลำพูน น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน, ป่าซาง, บ้านธิ, ทุ่งหัวช้าง และแม่ทา รวม 21 ตำบล 100 หมู่บ้าน ระดับน้ำทรงตัว
.
7. จังหวัดแพร่ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลอง, วังชิ้น และสูงเม่น รวม 11 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 819 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
8. จังหวัดตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามเงาและบ้านตาก รวม 4 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
9. จังหวัดเพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชนแดน, ศรีเทพ, หล่มเก่า และหนองไผ่ รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 26 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
10. จังหวัดพิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก, พรหมพิราม, บางระกำ, บางกระทุ่ม และวังทอง รวม 15 ตำบล 45 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,057 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
11. จังหวัดสุโขทัย น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสวรรคโลกและศรีสำโรง รวม 7 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 563 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
12. จังหวัดเลย น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเลย รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 109 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
13. จังหวัดหนองคาย น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีเชียงใหม่, ท่าบ่อ, เมืองหนองคาย และโพนพิสัย รวม 26 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,717 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
14. จังหวัดอุดรธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุดรธานีและสร้างคอม รวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 270 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
15. จังหวัดขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านไผ่, แวงน้อย และแวงใหญ่ รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 330 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
16. จังหวัดชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคอนสวรรค์, เมืองชัยภูมิ, บ้านแท่น, ภูเขียว และแก้งคร้อ รวม 15 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 82 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
17. จังหวัดอุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขมราฐ, โพธิ์ไทร, นาตาล, โขงเจียม และเมืองอุบลราชธานี รวม 11 ตำบล 90 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 340 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
18. จังหวัดปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอประจันตคาม, นาดี, กบินทร์บุรี และศรีมหาโพธิ รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 240 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
19. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบาล, ผักไห่, เสนา, พระนครศรีอยุธยา, บางปะอิน และบางไทร รวม 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,917 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
.
ทั้งนี้ ปภ. ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย เช่น เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32, เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล, เครื่องสูบน้ำ, รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย, รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว, รถผลิตน้ำดื่ม, รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA, รถบรรทุกเล็ก, รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว, เรือท้องแบน และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ จากศูนย์ ปภ. เขตในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง
.
รวมถึงศูนย์ ปภ. เขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัยเข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทางและอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
.
แฟ้มภาพ: ฐานิส สุดโต
.
#น้ำท่วม
#TheStandardNews

https://www.facebook.com/share/p/qvFybYCdMaVHPsJU/?mibextid=oFDknk

 

‘ไนท์บาซาร์ เชียงใหม่’ น้ำท่วมหนัก กระทบประชาชน-เศรษฐกิจ-การสัญจร
.
วันนี้ (26 กันยายน) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่เก็บภาพน้ำท่วมบริเวณย่านไนท์บาซาร์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณถนนเจริญประเทศและถนนศรีดอนไชย ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสำคัญระหว่างย่านธุรกิจ โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยว จากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในคลองแม่ข่าและแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง
.
ทั้งนี้หลังจากน้ำท่วมขยายตัวเป็นวงกว้าง ส่งผลให้การจราจรติดขัด รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร จึงมีการปิดการจราจรในบางเส้นทางและใช้เรือยางในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเนื่องจากน้ำท่วมสูง พระในวัดต่างๆ เช่น วัดศรีดอนไชย และวัดชัยมงคล ต้องนำสัตว์เลี้ยงและขนของให้พ้นจากน้ำ อีกทั้งยังต้องอาศัยเรือไปรับอาหารบริเวณด้านนอกวัด

นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณที่น้ำท่วมสูง และยังมีนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมอีกด้วย
.
ธุรกิจในย่านไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ร้านค้าและโรงแรมหลายแห่งต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากน้ำท่วมขังภายในอาคาร ทั้งนี้บริเวณถนนเจริญประเทศซึ่งเป็นแหล่งรวมโรงแรมและธุรกิจการค้าขนาดใหญ่ต่างๆ ก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก ร้านค้าในพื้นที่ต้องเร่งย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังพบว่าย่านเวียงกุมกามมีระดับน้ำท่วมสูงเช่นกัน
.
เรื่องและภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ
.
#น้ำท่วม
#TheStandardNews
#TheStandardPhoto
#พงศ์มนัสทาศิริ

https://www.facebook.com/share/p/wJfgsUamfFCoioND/?mibextid=oFDknk

 

Sep 26, 2024 ต้องขนาดนี้! ในรอบ 16 ปี จีนอัดฉีดเงินเข้าธนาคารใหญ่ของรัฐเป็นครั้งแรก ทุ่มเกือบ 5 ล้านล้านบาท ใส่เงินเข้าธนาคารรัฐตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกปี 2008

ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC เปิดเผยว่า กำลังพิจารณาที่จะใช้มาตรการขายพันธบัตรของรัฐบาลจีนเพื่อนำเงินดังกล่าวนำไปเติมให้กับธนาคารสังกัดของรัฐบาลจีนที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเม็ดเงิน 1 ล้านล้านหยวน หรือ 142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.83 ล้านล้านบาท ส่งผลให้กลายเป็นการเพิ่มเงินทุนให้กับธนาคารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจการเงินทั่วโลกในปี 2008 หรือที่รู้จักกันดีว่าวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐอเมริกาเป็นต้นมา

สำหรับในรายละเอียดของการใช้มาตรการดังกล่าวนั้น ยังไม่เป็นที่เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน เนื่องจากว่ายังอาจจะมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบางส่วน ก่อนที่จะมีการประกาศใช้มาตรการอย่างเป็นทางการภายในเร็วๆ นี้ สำหรับสถานะของธนาคารรัฐวิสาหกิจในจีนนั้นปรากฏว่าการแข่งขันที่รุนแรงและสภาวะตลาดสินเชื่อที่ชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่ส่งผลให้ธนาคารรัฐวิสาหกิจของจีนมีกำไรลดลงถึงขั้นอาจจะมีแนวโน้มขาดทุนในขณะเดียวกันมีภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจของลูกค้าธนาคาร

ในขณะที่การรวบรวมผลกำไรในภาพรวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดในประเทศจีน พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 นี้ กำไรในภาพรวมทั้งหมดของระบบธนาคารพาณิชย์ในจีนเพิ่มขึ้นอย่างเบาบางเพียง 0.4% ส่งผลให้เป็นอัตรากำไรของธนาคารพาณิชย์ในจีนที่เพิ่มขึ้นต่ำที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 หรือตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในจีน

ธนาคารกลางจีนมีความพยายามที่จะเพิ่มเติมเงินทุนให้กับสถาบันการเงินโดยเฉพาะธนาคารรัฐวิสาหกิจ ถึงแม้ว่า 6 ธนาคารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีนนั้นจะมีอัตราเงินทุนตั้งสำรองไว้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และสูงกว่าตัวชี้วัดอย่างมากก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันกำหนดไว้ที่ระดับ 8.5% ในปัจจุบันมีธนาคารรัฐวิสาหกิจ 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า และธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า กำลังเผชิญกับความสามารถในการดำเนินกิจการที่มีอัตราการทำกำไรลดต่ำลงมาก ส่งผลกระทบต่อผลกำไรตกต่ำลงและมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น แต่มาตรการดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการภาพรวมของการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

#ธนาคาร #ธนาคารรัฐ #จีน #วิกฤตเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจ #BTimes

https://www.facebook.com/share/gV8huFug68GFZWrm/?mibextid=oFDknk

 

Sep 26, 2024 แห่เทขาย! น้ำมันดิบโลกปิดร่วงเกือบ 3% หลุด 68 ดอลลาร์ ฉุดลง 2 วันติดหายเกือบ 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซาอุดิอาระเบียจ่อยกเลิกราคาเป้าหมาย 100 ดอลลาร์ กลุ่มโอเปกพลัสส่อเพิ่มผลิตเดือนธันวาคมนี้ ราคาน้ำมันในไทยทรงตัวมา 8 วันติดกัน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 67.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.90% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -3.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.51% ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -5.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.17%

ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 71.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.53% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -3.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.80% ขณะที่เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 ที่ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบดังกล่าวด้วย ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -6.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.57%

ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันายายนผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่มิถุนายน 2023 หรือในรอบ 1 ปี 2 เดือนกว่า สอดรับกับ ราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2021 หรือในรอบ 2 ปี 8 เดือนกว่า

สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสเตรียมกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนธันวาคมนี้ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปกพลัส เตรียมยกเลิกเป้าหมายราคาน้ำมันดิบไม่เป็นทางการที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล รับการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตในธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นวันละ 180,000 บาร์เรล

ลิเบียสามารถผลิตและกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้เกือบเป็นภาวะปกติหลังจากวิกฤตการเมืองภายในประเทศลิเบียเริ่มผ่อนคลายลง นักลงทุนได้วิเคราะห์แล้วมองว่า รัฐบาลจีนยังจะต้องใช้มาตรการด้านการคลังเข้ามาสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีนที่ได้ประกาศไปเมื่อสองวันผ่านมา จึงจะทำให้ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี ฟื้นเศรษฐกิจจีนได้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง -40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการขึ้นราคาน้ำมันครั้งแรกใน 11 วันผ่านมา และหยุดการลดราคาถึง 10 ครั้งต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคมมาถึงวันที่ 10 กันยายน ซึ่งรวมลดลงสะสม -3.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่สูงสุดในรอบ 11 วันหรือตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนผ่านมา

#น้ำมันดิบ #สหรัฐ #อังกฤษ #เศรษฐกิจ #ราคาน้ำมันวันนี้ #BTimes

https://www.facebook.com/share/p/6DaftyfsMFqpUDkc/?mibextid=oFDknk

 

เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ จมน้ำ ทำผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 200 ราย เดือดร้อนหนัก ทั้งขาดรายได้และข้าวของเสียหาย งงหน่วยงานรู้ทั้งรู้ว่านะท่วม แต่กลับไร้การเตรียมการช่วยเหลือป้องกัน ปล่อยให้ดิ้นรนกันเอง หวังหลังน้ำลดมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยา ขณะที่สถานีรถไฟไม่รอดโดนด้วยน้ำท่วมด้วยเหมือนกัน ด้านชลประทานคาดพรุ่งนี้เริ่มระบายน้ำกลับลงไปในแม่น้ำปิงได้ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาซ้ำ

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000090819

#News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

https://www.facebook.com/share/p/Jhwaes3SJ9ggKN6V/?mibextid=oFDknk

 

8 วิธีดู ทองแท้ VS ทองปลอม เช็คเบื้องต้น ไม่ให้โดนหลอก
.
กระแสโดนหลอกขายทองปลอมกำลังมาในช่วงนี้ สำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์ควรรู้เทคนิคเบื้องต้นกันไว้ก่อน เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
.
#ใช้แม่เหล็ก

หากใช้แม่เหล็กดูดทองนั้นแล้วดูดติดในทันที ทองเส้นนั้นคือทองปลอมเพราะมีการใส่เหล็กปริมาณมาก ทองคำแท้ๆ แม่เหล็กดูดไม่ติด
.
#โยนลงบนกระจก

ทองคำแท้เมื่อโยนลงไปบนกระจกจะได้ยินเสียงกระทบนุ่มๆ ไม่มีเสียงแหลม ดัง เพราะทองคำแท้เป็นโลหะที่มีเนื้อนุ่ม แต่ถ้าทองปลอมเนื้อมันจะแข็งเมื่อโยนลงไปบนกระจกเสียงมันจะดังแก๊ง ๆ ชัดเจนเลยว่าปลอม
.
#ดูที่ตราหรือโลโกร้านควรชัดไม่เบลอ

โดยใช้แว่นขยายส่องดูตามข้อหรือห่วงของทอง ทองแท้จะมีการตีตราร้านไว้ชัดเจน บอกแหล่งที่มา หรือมีการตอกตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทอง เช่น 14k 18k 22k 24k ถ้าตราเบลอๆ ระวังไว้ว่าอาจเป็นของปลอม
.
อ่านเพิ่มเติมทั้งหมด: 8 วิธีเช็คเบื้องต้น ทองแท้-ทองปลอม
>> https://mono29.com/life/493524.html

https://www.facebook.com/share/p/tgkCmcUveqqdrsN9/?mibextid=oFDknk