ตำนานโศกนาฏกรรมโกธิค

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 25 กรกฎาคม 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เล่าต่อจากหน้าที่แล้ว

    [​IMG]


    หลังจากการล้อมเมือง ชาริเต เซอร์ ลัวร์ (Siège de La Charité) ในเดือนพฤศจิกายน
    และเดือนธันวาคมแล้ว โจนน์ก็เดินทัพต่อไปยังคองเพียญน์
    (Compiègne) ในเดือนเมษายนต่อมาเพื่อป้องกันจากการ
    ถูกล้อมเมือง (Siège de Compiègne) โดยฝ่ายอังกฤษ
    และเบอร์กันดี แต่การต่อสู้เป็นไปอย่างประปรายจนกระทั้งเมื่อวันที่ 23
    พฤษภาคม ค.ศ. 1430 โจนก็โดนฝ่ายอังกฤษจับตัวไว้ได้
    เมื่อมีคำสั่งให้ถอยโจนน์ก็ปฏิบัติตัวอย่างผู้นำโดยเป็นบุคคลสุด
    ท้ายที่ทิ้งสนามรบ คราวนี้โจนน์เป็นฝ่ายเพรี่ยงพร้ำ
    เพราะคนในกองทัพเหลือน้อยเพียงหยิบมือ
    เพราะขาดการเต็มทหารกองหนุนจากกษัตริย์
    ฝ่ายเบอร์กันดีเข้าล้อมกองหลัง โจนน์
    ต้องลงจากหลังม้าเพราะถูกโจมตีโดยกองขมังธนูและตอน
    แรกก็มิได้ยอมจำนนทันที เธอโดนจับไปพร้อมกับ ออร์ลอน
    ชายหนุ่มที่ได้กลายมาเป็นสหาย
    (ผู้มีศักดิ์เป็นท่านลอร์ดในเวลาต่อมา) ซึ่งถูกตั้งให้เป็นบอร์ดี้การ์ด
    ประจำตัว สาวพรหมจรรย์โดย สภา, และ อัศวินบางคนกับ
    พวกทหารกองหลังที่จงรักภักดีต่อโจนน์ รวมทั้ง หลวงพ่อ
    ฌอง พาสเคลว์ พระประจำกองทัพที่ถูกส่งมาทำงานร่วมกับโจนน์



    [​IMG]

    ตามธรรมเนียมของสมัยกลางการจับกุมเชลยสงคราม
    (prisonnier de guerre) เป็นการจับกุมแบบเรียกค่าไถ่
    แต่ครอบครัวของโจนน์เป็นครอบครัวที่ยากจนจึงไม่สามารถ
    หาเงินมาไถ่ตัวโจนน์จากที่คุมขังได้ นักประวัติหลายคน
    ประณามพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 ที่ไม่ทรงเข้ายุ่งเกี่ยวกับการ
    ช่วยเหลือโจนน์ในกรณีนี้
    เป็นที่เข้าใจได้ว่าเหคุใดกษัตริย์ ชาล์ลส์มิทรงยื่นมือเข้า
    มาช่วยเหลือโจนน์ เพราะประการแรก โจนน์นั้นโดนจับ
    เพราะเธอทำงานเกินคำสั่ง และบุกเข้าไปนเขตเบอร์กันดีซึ่ง
    กษัตรย์ก็ได้ทรงตรัสแล้วว่า ห้ามทำ และให้ยุติสงครามได้แล้ว
    ดังนั้นการที่นางโดนจับก็อยู่นอกขอบเขตหน้าที่มอบหมายที่
    ไม่เกี่ยวกับพระองค์
    อีกประการที่สอง พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7ทรงได้รับการ
    สนับสนุนเป่าหูจากที่ปรึกษาของพระองค์ว่า กษัตริย์นั้นอยู่สูง
    ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปช่วยบุคคลที่ต่ำกว่า เช่นเด็กสาว
    ชาวบ้านคนนึง ซึ่ง การที่โจนน์โดนจับตัวไปในครัังนี้ ข้อหา
    เดียวที่พวกอังกฤษจะต้องยัดก็คือโทษฐานแม่มด ดังนั้น
    การช่วยเหลือโจนน์ นั้นจะเป็นการลดพระเกียรติ และคน
    จะมองว่า ทรงกระตือลือล้นที่จะช่วยเหลือ นางแม่มด
    ผู้ช่วยเหลือพระองค์ในการได้สวมมงกุฏกษัตริย์
    และตำแหน่งของพระองค์นั้นได้มาจากฝีมือของแม่มด
    ดังนั้นพระองค์ควรจะทำเฉย นิ่งเงียบเป็นไม่รู้ไม่เห็นไว้ดีที่สุด



    [​IMG]


    เมื่อคราวติดคุกเป็นเชลยในเขตพวกเบอร์กันดี
    โจนน์เองพยายามหลบหนีหลายครั้ง ในครั้งหนึ่งโดยการ
    กระโดดจากหอที่สูงจากพื้นดินราว 21 ที่แวร์ม็องดัว
    ลงไปบนดินที่หยุ่นของคูเมืองแต่ไม่สำเร็จ หลังจากนั้น
    ก็ถูกย้ายตัวไปเมืองอาร์ราส (Arras) ในเบอร์กันดี
    และในที่สุดรัฐบาลอังกฤษก็ขอซื้อตัวโจนน์จากฟิลลิป
    เดอะกูด โดยมีปีแยร์ โคชง (Pierre Cauchon)
    บิชอปแห่งโบเวส์ (Beauvais) พระผู้เป็นผู้ฝักฝ่ายฝ่าย
    อังกฤษตั้งตนเป็นผู้มีบทบาทในการเจรจาต่อรองซื้อ
    ตัวและต่อมาในการพิจารณาคดีของโจนน์


    [​IMG]


    ในขณะที่ เพื่อนร่วมรบของโจนน์ได้รับการประกันตัว
    ออกไป เช่น ออร์ลอน บอดี้บอดี้การ์ดของเธอ
    ในระหว่างกระบวนการพิจารณาในขั้นใดขั้นนึงว่า
    มีความผิดน้อยกว่าและได้รับการปล่อยตัว



    การพิจารณาคดีในข้อหานอกรีต (hérésie) ของโจนน์
    มีมูลมาจากการเมือง จอห์นแห่งแลงคาสเตอร์ ดยุกแห่ง
    เบดฟอร์ดที่ 1 ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในนาม
    ของพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ผู้เป็นหลาน เห็นว่าเมื่อโจนน์เป็น
    ผู้มีความรับผิดชอบต่อการการราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์
    ที่ 7 การลงโทษโจนน์จึงเท่ากับเป็นการบ่อนทำลายอำนาจ
    อันถูกต้องตามกฎหมายของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 โดยตรง
    การดำเนินการทางกฎหมายเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม
    ค.ศ. 1431 ที่รูอองซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลผู้ยึดครอง
    ฝรั่งเศสของอังกฤษในขณะนั้น กระบวนการมีความลักลั่น
    ในหลายประเด็น



    [​IMG]

    ปัญหาใหญ่ๆ ที่พอสรุปได้ก็ได้แก่ อำนาจทางศาลของ
    ผู้พิพากษาปีแยร์ โคชงไม่ใช่อำนาจที่แท้จริงแต่เป็นอำนาจ
    ที่คิดค้นขึ้น ปีแยร์ โคชงได้รับแต่งตั้งเพราะเป็นผู้สนับสนุน
    รัฐบาลอังกฤษและเป็นผู้ที่รับผิดชอบในค้าใช้จ่ายในการ
    พิจารณาคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้น และพนักงานศาลนิโคลัส
    เบลลีย์ (Nicolas Bailly) ก็ได้รับจ้างให้รวบรวมคำ
    ให้การที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโจนน์ แต่ไม่พบหลักฐานใดที่
    จะเอาผิดได้ ถ้าไม่มีหลักฐานดังกล่าว ศาลก็ไม่มีหลักฐาน
    เพียงพอในการสนับสนุนข้อกล่าวหาสำหรับการพิจารณา
    คดี นอกจากนั้นศาลก็ยังละเมิดกฎหมายศาสนจักรที่ปฏิเสธ
    ไม่ให้โจนน์มีที่ปรึกษาทางกฎหมาย เมื่อเปิดการสอบสวน
    เป็นการสารธารณะเป็นครั้งแรกโจนน์ก็ประท้วงว่าผู้ที่ปรากฏ
    ตัวในศาลทั้งหมดเป็นฝ่ายตรงข้ามและขอให้ศาลเชิญ
    “ผู้แทนทางศาสนาของฝรั่งเศส” มาร่วมในการพิจารณคดีด้วย



    [​IMG]

    บันทึกการพิจารณาคดีแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มีปัญญา
    อันเฉียบแหลมของโจนน์ สำเนาบันทึกข้อคำโต้ตอบของ
    เธอในศาลอย่างสุขุมเป็นไปอย่างมีปฏิภาณ
    เมื่อถูกถามว่า
    "เธอทราบไหม ว่าเธออยู่ภายใต้การพิทักษ์
    ของพระเจ้า, ซึ่งโจนน์ก็ให้ตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้ามิได้,
    ก็ขอให้พระองค์ทรงทำเช่นนั้น, แต่ถ้าข้าพเจ้าได้,
    ก็ขอให้พระองค์ทรงรักษาไว้เช่นนั้น”

    คำถามนี้เป็นคำถามลวง กฎของคริสตจักรระบุว่าไม่มี
    ผู้ใดที่สามารถทราบได้แน่นอนว่าอยู่ภายใต้การพิทักษ์
    ของพระเจ้า ถ้าโจนน์ตอบรับก็เท่ากับเป็นการให้การที่
    เป็นโทษต่อตนเองในข้อหาว่านอกรีต (hérésie chrétienne)
    แต่ถ้าตอบปฏิเสธก็เท่ากับเป็นการสารภาพความผิด
    ของตนเอง ผู้บันทึกคำให้การ Boisguillaume
    ให้การต่อมาว่าคำตอบดังกล่าวของโจนน์ทำให้ผู้สืบสวน
    ในศาลต่างตกตลึงไปตามๆ




    [​IMG]

    ผู้เป็นฝ่ายศาลหลายคนต่อมาให้การในการพิจารณาคดี
    ครั้งต่อมาว่าสำเนาคำให้การได้รับการประดิษฐ์เปลี่ยน
    แปลง เพื่อทำให้เห็นว่าโจนน์มีความผิดตามข้อกล่าวหา
    นักบวชหลายคนอ้างว่าต้องทำหน้าที่เพราะถูกบังคับที่
    รวมทั้งผู้ไต่สวนฌอง เลแมเตร (Jean LeMaitre)
    และบางคนอ้างว่าถึงกับได้รับการขู่ว่าจะถูกฆ่าจาก
    ฝ่ายอังกฤษ ภายใต้ข้อแนะนำในการไต่สวน โจนน์ควร
    จะถูกจำขังในที่จำขังสำหรับนักโทษที่ถูกกล่าวหาใน
    ข้อหาที่เกี่ยวกับศาสนาเท่านั้นและควรจะมีผู้คุมเป็น
    สตรี (เช่นแม่ชี) แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้นโจนน์กลับ
    ถูกจำขังร่วมกับนักโทษในข้อหาทางฆราวาสและคุม
    โดยทหารด้วยกัน ปีแยร์ โคชงปฏิเสธคำร้องของ
    โจนน์ต่อสภาบาทหลวงแห่งบาเซิล
    และพระสันตะปาปาซึ่งถ้าทำได้ก็เท่ากับเป็นการยุติ
    การดำเนินการพิจารณาคดีของศาล




    [​IMG]

    ข้อหาสิบสองข้อที่สรุปโดยศาลขัดกับบันทึกของ
    ศาลเองที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง จำเลยผู้ไม่มีการ
    ศึกษายอมลงชื่อในเอกสารการบอกสละโดยสาบาน
    โดยปราศจากความเข้าใจถึงเนื้อหาและความหมาย
    ภายใต้การขู่เข็ญว่าจะถูกประหารชีวิต นอกจากนั้น
    ศาลก็ยังได้สลับเอกสารการบอกสละโดยสาบาน
    ฉบับอื่นกับเอกสารที่ใช้อย่างเป็นทางการ



    [​IMG]


    สำหรับกฏหมายในสมัยนั้น หากใครเคยทำผิด
    กฏหมายนอกรีต เป็นครั้งที่ สอง
    ก็จะมีโทษถึงตาย พวกอังกฤษประสงค์จะให้โจนน์
    ต้องถูกประหาร จึงกลั่นแกล้งเธอ โดยส่งโจนน์เข้า
    ไปอยู่นคุกรวมกับนักโทษชายข้อหาฆารวาส
    ผลปรากฏก็คือ โดนรุมข่มขืนในคุก และโดนขโมย
    เสื้อผ้าไปหมด พวกอังกฤษได้กลับมาหาเธอที่คุก
    และโยนชุดเสื้อผ้าผู้ชายมาให้ โจนน์ซึ่งนั่งขดๆอยู่มุมห้อง
    ก็จำเป็นต้องใส่ชุดผู้ชาย ทั้งที่ กฏหมายนอกรีต
    สามารถเอาผิดเธอได้ฐานเป็นผู้ผิดเพศ

    และวันถัดมา พวกอังกฤษก็เอาเธอขึ้นศาลอีก
    ครั้งกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกนอกรีต เป็นสตรีแต่
    ไปใส่ชุดผู้ชายอยู่เสมอ

    เรื่องยาวยังไม่ถึงเรื่อง กิลล์ เดอ เรย์ เลย










    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2013
  2. เวิ้นเว้อ

    เวิ้นเว้อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    มาต่อไวไวน๊าาาา
     
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เนื้อเพลง

    [​IMG]


    ก่อนจะมาเล่าต่อ ขอพูดถึงเพลง เมททอล ผสม โอเปร่า
    ที่เปิดอยู่ในหน้านี้ เป็นของแบรนน์ ในประเทศที่ดิฉันอาศัย
    อยู่ ซึ่งอย่างที่บอกไปเนื้อหาเพลงแนวนี้จะเป็น
    โศกนาฏกรรมความตาย ความเศร้า สิ่งลี้ลับ มีเนื้อ
    หาเกี่ยวกับ สมัยโบราณ ประวัติศาสตร์ เทพนิยายหรือ ภูติผี



    มาดูเนื้อเพลง


    Promise


    On behalf of her love
    ในนามของความรักของเธอ
    She no longer sleeps
    กลางคืนเธอหลับไม่ลง
    Life had no longer meaning
    ชีวิตไม่มีความหมายอีกต่อไป
    Nothing to make her stay
    ไม่มีสิ่งใดสามารถยั้งเธอได้
    She sold her soul away
    เธออุทิศวิญญาณของเธอไปกับสิ่งนั้น



    I held you tight to me
    ฉันศรัทธาคุณมั่นคง
    You slipped away
    แต่คุณก็หลุดลอยจากฉันไป
    You promised to return to me
    คุณสัญญาว่าจะกลับมาหาฉัน
    And I believed, I believed
    และฉันเชื่อเช่นนั้นๆ



    After the night he died
    หลังจากคืนที่เขาตาย
    I wept my tears until they dried
    ฉันปาดน้ำตาตัวเองจนมันแห้ง
    But the pain stayed the same
    แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
    I didn't want him to die all in vain
    ฉันไม่ต้องการให้เขาตายแต่มันก็ป่วยการที่จะคิด
    I made a promise to revenge his soul in time
    ฉันขอสาบานว่าจะอาฆาตดวงวิญญาณของเขา
    I'll make them bleed down at my feet
    ฉันจะทำให้พวกคนที่ฆ่าเขาต้องมาหลั่งเลือดที่ใต้เท้าของฉัน


    Sometimes I wonder
    บางครั้งฉันสงสัยว่า
    Could I have known about their true intentions?
    ฉันสามารถจะรู้ถึงความตั้งใจที่แท้จริงที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดนี้
    As the pain stayed the same
    แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
    I'm going to haunt them down all the way
    ฉันจะตามหลอกหลอนรังควานพวกเขาต่อไป
    I made a promise to revenge his soul in time
    ฉันขอสาบานว่าจะอาฆาตดวงวิญญาณของเขา
    One by one they were surprised
    ทีละคนทีละคน พวกเขาจะต้องประหลาดใจ





    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2013
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เล่าต่อ

    [​IMG]



    ขอย้อนหลังเรื่องราวไปก่อนหน้าที่โจนน์จะโดนชำเราในคุก
    ครั้นเมื่อมาเป็นเฉลยในอาณัติของอังกฤษครั้งแรก
    ตามความเชื่อของคริตจักรสมัยโบราณนั้นกล่าวว่า ผู้เป็นบุรุษหรือสตรี
    พรหมจรรย์จะไม่มีวัน ทำสัญญาขายวิญญาณหรือเป็นพันธมิตร
    กับซาตาน
    (A virgin by dint of their purity could not make
    a pact with the devil.)
    ซึ่งนั้นมีความหมายว่าใครก็ตามที่เป็นสาวพรหมจรรย์จะไม่มีวัน
    โดนประหารหรือโดนทรมานในข้อหานอกรีตหรือแม่มด นั่นเอง

    โจนน์ถูกส่งไปตรวจความเป็นบุคคลพรหมจรรย์ อีกครั้งโดย
    ดัชเชส แห่ง เบรดฟอร์ด และสตรีในราชสำนักของอังกฤษ
    เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างของเธอ ซึ่งก็เป็นจริงตามคำให้การของเธอ

    การที่จะจับโจนน์ ออฟ อาร์ค เผาไฟข้อหาแม่มดแล้ว
    มีวิธีเดียวคือต้องทำให้เธอกลายเป็นผู้ไม่พรหมจรรย์เสียก่อน
    ครึ่งหนึ่งในการขึ้นศาลโจนน์เองก็ได้เอาข้ออ้างการเป็นพรหมจรรย์
    มาแถลงในศาลเพื่อให้เธอหลุดพ้นจากข้อกล่าวหานอกรีต

    "Alas! Am I so horribly and cruelly used, that my clean body, never yet defiled,
    must this day be burnt and turn to ashes! I
    would rather be beheaded seven times than suffer burning."

    น่าสมเพช ข้าพเจ้าถูกปฏิบัติอย่างย่ำแย้โหดร้าย ทั้งๆที่ร่างกาย
    ของข้าพเจ้านั้นสะอาดบริสุทธิ์ และไม่เคยมีมนทิน แต่วันนี้จะให้
    ต้องมาถูกเผาเป็นขี้เถ้า ข้ายินดีถูกตัดหัวสัก 7 ครั้งแต่ไม่ใช่ด้วย
    วิธีการถูกเผา...... (เพราะในสมัยนั้นโทษประหารถูกเผานั้นหมายถึง
    การใช้ไฟล้างให้บริสุทธิ์ ในนักโทษคดีแม่มดพ่อมด ซึ่งจะเป็นพวก
    ที่ทำผิดในโทษต่ำช้า ต่างๆเช่นทำสัญญากับปีศาจ, เล่นคุณไสย์
    ต่างๆ หรือ ประพฤติผิดศิลธรรมกับปีศาจ/มีความสัมพันธ์กับปีศาจ
    ระหว่างอยู่ในคุกโจนน์โดนขืนใจโดยพวกผู้คุมและก็ตามด้วย
    ลอร์ดชาวอังกฤษ


    [​IMG]


    เป็นอันว่าเหตุนี้ทำให้พวกอังกฤษสามารถลากโจนน์ขึ้นศาลข้อหาแม่มดได้
    ในวันที่ชะตาชีวิตของเธอโดนพิพากษาให้ถูกเผาไฟ โจนน์ก็ถึงกับปล่อย
    โหร้องไห้ออกมาเป็นครั้แรก อย่างหัวใจแตกสลาย แต่ก็ควบคุมสติ
    อารมย์ได้อีกครั้ง และกล่าวกับบรรดาผู้พิพากษาที่ตัดสินความ
    อย่างไม่เป็ธรรมว่า ข้าให้อภัยพวกท่านทุกคน ขอให้พระเจ้า
    คุ้มครองทุกคน

    ในระหว่างที่ได้ยินข่าวการโดนจับตัวเป็นเฉลยและบทลงทัณ
    ประหารของโจนน์ บรรดา สหายที่รอดไปก่อนหน้านั้น เช่น
    ดยุค แห่ง อาล็องชอง ก็รีบเดินทางเพื่อจะมาให้ปากคำช่วย
    เหลือโจนน์ออกจากคุกแต่ก็สายเกินไป เขาช่วยเธอไม่ทันหนำ
    ซ้ำหลังจากการให้ปากคำเข้าข้างโจนน์ ท่าน ดยุค ก็พลอยติด
    ร่างแหในคดีไปด้วย โดยการโดนคุมขังใน เวลาต่อมา แต่
    ดยุค อาล็องชอง นั้นยังนับว่าโชคดีกว่าโจนน์เพราะ เป็นถึง
    ดยุคจึงรอดพ้นการประหาร (เกล็ดความรู้ : ดยุค เป็นตำแหน่งเจ้าชายที่ไม่ได้ขึ้น
    ครองราชย์ เช่น สมมุติ กษัตริย์ทรงมี ลูกชายสององค์ องค์
    ที่ ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์ ลูกก็ออกมาเป็นเจ้าหญิง,
    เจ้าชาย ส่วน ลูกคนรอง ที่ไม่ได้เป็น กษัตริย์ ลูก ที่ออกมา
    ถ้าเป็น ชาย จะเรียก ดยุ๊ค ถ้า เป็นหญิงเรียก
    ดัชเชส, ซึ่งจะถูกส่งไปครองแคว้นต่างๆต่อไป )




    [​IMG]




    พยานผู้เห็นเหตุการณ์บรรยายการประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็นเมื่อวันที่
    30 พฤษภาคม ค.ศ. 1431 ว่า ทั้งสองบาทหลวงมาร์แต็ง ลาด์เวนู
    และ บาทหลวง อิแซงบาร์ต เด ลา ปิแยร์ วิ่งตามขบวนเกวียน
    ที่แห่นักโทษประหารโจนน์ พลางร้องไห้เสียใจในความรู้สึกผิด
    และขอโทษที่ช่วยเธอไม่สำเร็จ
    โจนน์ถูกมัดกับเสาสูงหน้าตลาดเก่าในรูอ็อง โจนน์ขอให้บาท
    หลวงมาร์แต็ง ลาด์เวนู และ บาทหลวง อิแซงบาร์ต เด ลา ปิแยร์
    ถือกางเขนไว้ตรงหน้า ผู้ที่อูยู่ในเหตุการณ์เล่ากันว่าสิ่งเดียว
    ที่เธอตะโกนกรีดร้องขณะโดนเผา คือ พระนามของพระเจ้า



    [​IMG]


    หลังจากที่โจนน์เสียชีวิตไปแล้วฝ่ายอังกฤษกวาดถ่านหิน
    ออกจนเห็นร่างที่ถูกเผาไหม้เพื่อให้เป็นที่ทราบกันว่าโจนน์
    เสียชีวิตจริงและมิได้หลบหนี เสร็จแล้วก็เผาร่างที่เหลืออีก
    สองครั้งเพื่อไม่ให้เหลือสิ่งใดที่สามารถเก็บไปเป็นพระธาตุได้
    หลังจากนั้นก็โยนสิ่งที่เหลือลงไปในแม่น้ำแซน เพชฌฆาต
    เจฟฟรัว เตราช (Geoffroy Therage) เขากลัวการทำ
    บาปครั้งนี้เหลือเกิน และผู้คนจะต่างสาปแช่งทุกคนที่สังหารโจนน์

    แม้แต่พวกผู้พิพากษาก็ยังกล่าวว่า นี้เป็นการผิดพลาด
    ครั้งยิ่งใหญ่ ที่พวกเราได้เผา นักบุญ


    [​IMG]




    ถ้าอยากเล่าแล้วเดี๋ยวจะมาเล่าเรื่อง กิล เดอ เรย์ ต่อ


    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2013
  5. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    โหยย นี่หรือคือการตอบแทนทำดีแทบตายสุดท้ายโดนเผา โดนใส่ความ แต่น่านับถือจิตใจแม้จะโดนกระทำอย่างโหดร้ายยังให้อภัยคนเหล่านั้นได้ เฮ้อเหมือนเรื่องทำนองแบบนี้ยังวนเวียนอยู่เรื่อยๆจนถึงปัจจุบันและไม่หายไปจากโลกนี้ค่ะ TwT Y^Y
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ด้วยเหตุนี้ละคะ คุณ puk ที่ ดิฉันว่าประวัติของ โจนน์ ออฟ อาร์ค เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และควรได้รับการตีแผ่ เพราะนางอายุแค่ 18-19 เท่านั้น แต่มีจิตใจที่เข้มแข็งมากเกินคนธรรมดา และทำทุกอย่างโดยไม่คิดถูกตัวเองเลย นอกจากนี้ยังอดทน และมีรสนิยมผิดผู้หญิงธรรมดา ลืมเล่าไปว่าตอนเธอรบชนะครั้งแรก ก็ได้รับพระราชทาน ชุดกระโปรงสวยๆทำจากผ้าไหมเป็นของกำนัน แต่เธอก็ไม่ใส่ และไม่สน สิ่งเดียวที่โจนน์สนใจคือ การปลดปล่อยประชาชนชาวฝรั่งเศสทั้งประเทศจากการกดขี่ของพวกอังกฤษ........เดี๋ยวว่างๆดิฉันจะมาเล่าเรื่อง กิลล์ เดอ เรย์ ต่อเชื่อว่าน้อยคนรู้จักเรื่องนี้ ค่อนข้างสนุก เป็นเรื่องของ มาควิส ที่ร่วมรบกับ โจนน์ ออฟ อาร์ค แต่ ความป่าเถื่อนของสงครามทำให้เขาวิปลาศ กลายเป็น เคาเตส อลิซาเบธ บาโธรี่ เวอร์ชั่น ผู้ชาย เอาความรักที่ไม่สมหวังไปปะสม กับ ความโหดร้ายที่พบในสงคราม และลงเอยเป็น ฆาตรกรโรคจิต จับเด็กผู้ชายมาทรมาน ทางไสยเวทย์ และชำเราเด็กผู้ชายด้วย
    จากวีรบุรุษกลายเป็นพ่อมดโรคประสาท
     
  7. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เข็มแข็ง อดทน เอื่อเฝื่อ ทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง

    คล้ายๆจะเป็นลักษณะของ ผู้ปราถนา พุทธภูมิ เลยนะครับ
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันทึ่งคะว่าใจคนพวกนี้เขาช่างแตกต่างจากพวกเราคนธรรมดานัก อย่าง พระเยซู โจนน์ ออฟ อาร์ค เซนต์ แคทเธอลีนแห่ง อเล็กซานเดรีย ฯลฯ พวกนี้ เนี้ยวีรกรรมเหมือนพระโพธิสัตว์เลยนะคะ ที่ไม่กลัวความเจ็บ ความทรมาน
    อย่างดิฉันหมอที่ต่างประเทศเวลาเราจะขอเป็นสมาชิกหมอประจำตัว เขาจะเอาประวัติและเลือดไปตรวจทุกคน เอาแค่ เจาะเลือดนี้ดิฉันก็กลัวมากแล้วคะ เลยไม่เคยไปหาหมอ แต่นึกไม่ออกว่าคนที่ยอมตายอย่างทรมาน อย่าง โจน ออฟ ฟ อาร์ค นี้ทำด้วยอะไร




    ป.ล ท่าน hastin ยังไปฝึกมโณยิทธิอยู่หรึเปล่าคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2013
  9. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เรารู้ตัวดีว่าเป็นผู้ปราถนา สาวกภูมิ

    แต่คิดว่า เมตตาไม่มีประมาณ นี่ก็ยอมแล้ว กำลังใจไม่ถึง


    --ไม่ได้ไปครับ จะไปเฉพาะเวลาพาเพื่อนที่อยากฝึกใหม่ไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2013
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    บทบาทของ โจนน์ ออฟ อาร์ค ในสังคมโลก

    [​IMG]



    หลังจากการตายของ โจนน์ ออฟ อาร์ค โดยการเผาทั้งเป็น
    ในปี ค.ศ. 1452 ระหว่างการสืบสวนที่เกี่ยวกับการ
    ประหารชีวิตของ โจนน์ หลังสงครามร้อยปี ทางคริสตจักร
    ก็ประกาศบทละครที่แสดงเพื่อเป็นเกียรติแก่ โจนน์
    ที่แสดงที่ออร์เลอองส์ถือว่าเป็นกุศล (pélerinage)
    ที่มีค่าในการไถ่บาปได้ โจนน์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของ
    สันนิบาตคาทอลิกฝรั่งเศส (Sainte Ligue catholique)



    [​IMG]


    ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 ระหว่างปี ค.ศ. 1849
    ถึง ค.ศ. 1878 เฟลีส์ ดูปองลูพ์ บิชอป แห่ง ออร์เลอ็อง
    ก็เป็นผู้นำในการเรียกร้องให้แต่งตั้ง ให้โจนน์ เป็นนักบุญ
    โจนน์กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองของฝรั่งเศสมา
    ตั้งแต่สมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ฝ่ายลิเบอรัล
    (libéralisme classique) ได้นำวีรสตรีในสมัยยุคกลาง
    คือ โจนน์ ออฟ อาร์ค ขึ้นมาเป็นอุดมการของชนชั้นล่าง
    ที่ช่วยปลดแอก จักรรรดิฝรั่งเศษ จากราชวงค์ของ
    พระนางมารีอังตัวเนตอันฟุ้งเฟื้อ




    [​IMG]


    ซึ่งเวลาต่อมาพวก ฝ่ายอนุรักษนิยม (conservatisme)
    เมื่อเริ่มแรกเน้น เรื่องความจงรักภักดีของโจนน์ที่มีต่อ
    สถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ต่อมาก็หันไปเน้นความ
    เป็นชาตินิยม ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองทั้งฝ่าย
    วิชีฝรั่งเศสและฝ่ายขบวนการฝรั่งเศสเสรี ต่างก็ใช้โจนน์
    เป็นสัญลักษณ์: ฝ่ายวิชีใช้การโฆษณาชวนเชื่อของ
    การรณรงค์ของโจนน์ ในการต่อต้านอังกฤษโดยใช้
    โปสเตอร์ที่เป็นภาพของเรือบินอังกฤษทิ้งลูก
    ระเบิดที่รูออง และคำโฆษณา
    “They Always Return to the Scene of Their Crimes.”

    ส่วนฝ่ายขบวนการฝรั่งเศสเสรีเน้นการต่อสู้ของโจนน์
    ในการต่อต้านการยึดครองของชาวต่างชาติและที่มา
    ของโจนน์ที่มาจากลอร์แรนซึ่งเป็นบริเวณที่ยึดครองโดยนาซี




    [​IMG]

    เดี๋ยวจะมาเล่า ดยุ๊ค แห่ง อาล็องชอง กับ บารอน กิลล์เดอ เรย์ ต่อ





    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ฉากจบ ท่าน ดยุ๊ค แห่งอาล็องชอง สหายของ โจนน์ ออฟ อาร์ค

    [​IMG]


    เท้าความเดิมเล็กน้อย หลังจาก ที่โจนน์ ออฟ อาร์ค โดนจับเผาไฟ
    สหายของนางอีกหลายคน ก็โดนจับขึ้นศาลไตร่สวน บางคนรอด
    บางคนก็โดนติดคุกคุมขัง ดยุ๊ค แห่ง อาล็องชอง
    สหายผู้สูงศักดิ์ของของโจนน์ รวมถึง บารอนหนุ่ม
    กิลล์ เดอ เรย์ ชายสูงศักดิ์ผู้หลงรักโจนน์
    ทั้งหมดก็โดนขึ้นศาลให้ปากคำ
    การตายของโจนน์ ทำให้เพื่อนร่วมรบทุกคนเคียดแค้น
    และ เจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งกับความอยุติธรรม ทั้งหมด
    หันหลังและเป็นปรปักษ์ให้กับ พระเจ้าแผ่นดินหนุุ่ม
    ชาล์ลส์ ที่ 7 ผู้มีพระทัยอันโลเล ไม่เฉียบขาด
    และเป็นเหตุให้โจนน์ ถึงแก่ความตาย ทั้งที่พระองค์
    นั้นทรงได้มงกุฏกษัตริย์มาจากความช่วยเหลือของโจนน์



    [​IMG]


    ในขณะที่ ดยุ๊ค แห่ง ออเรอองซ์/ ฌอง ดูนัวร์
    เป็นเพียงผู้เดียวที่ยังคงเข้าข้างพระเจ้าชาล์ลส์ ที่ 7
    อันเนื่องมาจาก เป็น พระญาติฝ่ายใกล้ชิด ทำให้เกิด
    ปากเสียงทะเลาะวิวาทแตกหักกับดยุ๊ค แห่ง อาล็องชอง
    ประกอบกับ ความผิดหวังในสนธิสัญญา เมือง อาราซ
    หลังจากการโดนขึ้นศาลหลังจากที่ โจนน์ ออฟ อาร์ค
    สิ้นชีพ.......ดยุ๊ค แห่ง อาล็องชองก็โดนคุมขังคุก
    ใน Aigues-Mortes โดยคำสั่งของ
    ดยุ๊ค แห่ง ออเรอองซ์ ผู้ยังคงสนับสนุนข้างพระเจ้า
    ชาล์ลส์ ที่ 7 ก่อนจะถูกส่งไปขังต่อที่ ลาโรช,
    ท่าน ดุยุ๊ค ติดคุกยาวอยู่ในคุกเลยไปจนถึงรัชสมัย
    ของพระเจ้าหลุยส์ ที่ 11 กระทั้งในปี 1456 เขา
    ได้รับโทษให้ถูกประหาร แต่ก็ด้วยเพราะมีเชื้อ
    ราชวงศ์ สูงศักดิ์จึงได้รับการผ่อนผันให้รอดชีวิต
    และถูกปล่อยตัวออกจากคุกมาได้ โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 11
    โดยมีเงื่อนไขข้อตกลงในการควบคุมความประพฤติ
    แต่ กระนั้นเขาก็แหกกฏข้อตกลงของกษัตริย์อีกครั้ง
    จึงเข้าไปติดคุกใหม่ และในที่สุดก็ได้รับคำตัดสินให้
    รับโทษประหารอีกครั้ง ที่ดิน และ แคว้นของเขาโดนยึด


    [​IMG]



    แต่ไม่ทันที่ท่านดยุ๊คจะโดนประหาร เขาก็มาป่วยตายใน
    คุกไปเสียก่อน เป็นอันจบเรื่องราวมหากาพ์ ของ
    ท่าน ดยุ๊ค แห่ง อาล็องชอง เพื่อนสนิทของ
    โจนน์ ออฟ อาร์ค เดี๋ยวจะมาเล่า เรื่อง
    วีรบุรุษซาตาน กิลล์ เดอ เรย์ ต่อ




    [​IMG]




    ....


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2816222/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    กิลส์ เดอ เรยส์ วีรบุรุษปีศาจ ตอน 1

    [​IMG]



    มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อว่า วีรบุรุษคนหนึ่งที่เคยร่วมทัพ
    และเป็นสหายสนิท
    ของนักบุญ โจนน์ ออฟ อาร์ค และ ชื่นชมนาง
    ขนาดขอแต่งงานด้วย กลับกลายมาเป็นฆาตรกรโรคจิต
    วิปลาศ หลังจากโจนน์โดนเผาไฟตาย ประวัติศาสตร์สอน
    ให้เรารู้ว่าโลกนี้มันโหดร้ายเสมอ


    กิลล์ กำเนิดในสกุลเจ้าที่ดินสูงศักดิ์ มียศเป็น บารอน
    เขาเกิดในตระกูล มอนโมแรงซี่-ลาวาลว์ เขาเติบโต
    ขึ้นมาภายใต้การปกครองของของคุณตาที่เป็นเสมือนมารดา
    คนนึงของเขา (และมีน้องชายอีกคนหนึ่ง หรือพี่ชายก็ไม่รู้
    ประวัติศาสตร์ที่แปลไม่ได้บอกไว้) คุณตาวางแผนเพื่อโอกาสในอนาคตให้
    แก่กิลล์โดยครั้นเมื่อโตขึ้นก็จับให้สมรสกับ
    เลดี้ แคทเธอลีน ทาววาส แห่ง แคว้น บริตานี
    ซึ่งเป็นธิดาของ ดยุ๊คแห่งบริตานี และ ภรรยาชั้นขุนนาง
    ซึ่งมิใช่จ้าว การแต่งงานก็เป็นไปเพื่อฐานะทางสังคม
    และคลุมถุงชนเท่านั้น กิลล์หาได้พิสมัยภรรยาของเขา
    เท่าใดนัก หลังจากการแต่งงาน ก็่ล่วงเลยไปนานมากกว่า
    จะมีลูกคนหนึ่ง เป็นผู้หญิง ชื่อ มารี ซึ่งก็ตายในวัยเด็ก
    และกิลล์ไม่ได้คิดจะมีลูกอีก....... เพราะวันๆหนึ่ง
    กิลล์เอาแต่คลุกตัวอยู่แต่กับการรบการสงคราม
    อยู่ในสนามรบ หรือไม่ก็ไปสมาคมกับบรรดาสหาย
    อัศวินพวกผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่.......




    [​IMG]


    ตลอดชีวิตวัยรุ่นเขาแทบจะไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับ
    คนต่างเพศนอกจากผู้ชายด้วยกัน
    สตรีในสมัยโบราณยุคกลางนั้นดูจะเป็นอะไรที่ไม่ใช่
    รสนิยมสำหรับกิลล์ พวกเธอเคร่งขรึม นิ่งเงียบ อนุรักษ์นิยม
    ท่าทางเหมือนนางชี นุ่งห่มด้วยเสื้อผ้ารุ่มร่าม
    คลุมศีรษะ คลุมเท้า เสมือนถูกห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญ
    เหมือนกับตุ๊กตากระเบื้อง ไม่มีปากมีเสียง ไม่สนิทสนม
    และวันๆพวกผู้หญิงก็เอาแต่เย็บปักถักร้อย และถูกเก็บ
    ไว้ในปราสาทสูงๆไม่ให้ใครเห็น ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจ
    ต่างจากพวกอัศวินผู้ชายหนุ่มๆ สูงยาวเข่าดี
    ที่เป็นสหายยอกล้อกันในโรงเหล้าโรงเบียร์ ก่อน
    จะไปออกสงคราม แต่กระนั้นในเวลานั้น กิลล์ ก็
    เป็นผู้ชายปกติที่ไม่ได้เป็นเกย์ แต่อย่างใด
    เพียงแต่ว่าเขาเป็นทหารที่กรำสงคราม จับดาบ จับอาวุฒิ
    หนักๆมาเยอะ คงจะเป็นการยากที่จะจินตนาการได้ว่า
    เขาจะสามารถเอามือหนักๆที่ฆ่าคนไปแตะ
    เลดี้อันแสนเคร่งขรึม หัวโบราณ ด้วยเหตุนี้เอง
    เขาจึงไม่ค่อยจะสนิทสนมกับ ภรรยาที่แต่งงานกัน
    ไปตามฐานะทางสังคมเท่าใดนัก




    [​IMG]


    ในทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากที่สงครามสืบราช
    บัลลังก์เบรตัน, ฝ่ายพ่ายแพ้นำโดยโอลิเวอร์ เดอ บลัว,
    นับ Penthièvre ยังคงปะทะกับ ดุ๊กของ ตระกูลบ้าน
    มอนต์ฟอท Montfort ฝ่ายบลัว ซึ่งยังคงปฏิเสธ
    ที่จะสละสิทธิเรียกร้องของพวกเขาไป ปกครองบริตตานี
    ได้จับ ดยุค จอห์น ที่ 5 เข้าคุก ในฐานะการละเมิดสนธิ
    สัญญา Guérande (1365) ซึ่งในเวลานั้นกิลล์วัย
    สิบหกปี ได้เข้าข้าง ตระกูล มอนต์ฟอท Montfort
    กิลล์ได้ช่วยเหลือ ท่าน ดยุคให้ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ
    และ ได้รับรางวัล เป็นดินแดน ซึ่งถือเป็นของขวัญตอบแทน.



    [​IMG]



    ในปี 1425, ญาติผู้ใหญ่ของกิลล์ ได้เสนอตัวเขา
    ให้เข้ารับราชการในสำนักของว่าที่มงกุฏกษัตริย์หนุ่มพระเจ้า
    ชาล์ลส์ ที่ 7 ที่โซมูร์ เพื่อเรียนรู้มารยาทสังคม & การศึกษา
    ณ. ที่ราชสำนักของชาล์ส์ ที่ 7 นี้เอง ที่กิลล์ได้มีโอกาสมาพบกับ
    โจนน์ ออฟ อาร์ค, เด็กสาวท่าทาง ประหลาด ซึ่งตอนนั้น
    โจนน์อายุแค่ 16 ปี ส่วน กิลล์ อายุ 24 ปี นิสัยอันประหลาด
    ผิดผู้หญิงทั่วไปของโจนน์ ทำให้กิลล์รู้สึกถูกคอด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    ประกอบกับการที่กิลล์ เป็นคนชอบการสู้รบเอามากๆและ
    คลุกคลีอยู่แต่กะพวกอัศวินผู้ชาย การฆ่าฟัน คู่ต่อสู้และเหยื่อ
    ในสนามรบก็ก็มีแต่ผู้ชาย ทำให้เขาเริ่มมีรสนิยมชอบ
    ผู้หญิงอายุน้อยๆอยู่ระหว่างเด็กกำลังจะไปเป็น
    วัยรุุ่น เพราะรูปร่าง ดูบางๆตรงๆ ทื่อๆเหมือนผู้ชาย




    [​IMG]


    กิลล์ชอบโจนน์มาก ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาอันสดใส
    รูปร่าง โปร่งบอบบาง เหมือน เด็กหนุ่มรุ่นๆ
    และอุปนิสัยอันน่ารัก เป็นคนดีเสียสละแก่
    ผู้อื่นของ โจนน์ .....ตลอดจนการแต่งกายที่ดูธรรมชาติ
    คือ ชุดเกราะ และนุ่งกางเกง ทำให้เห็นรูปร่างเพรียวบาง
    ชัดกว่า พวกผู้หญิงโบราณทึนทึกในเวลานั้นที่
    ใส่ผ้าคลุมร่มร่ามตั้งแต่หัวจรดเท้า
    แต่ความสัมพันธ์ ก็เป็นไปได้แค่เพื่อน
    คนหนึง เพระโจนน์ นั้น ได้รับฉายาว่า เดอะ ลาปูเซลล์
    ซึ่ง เป็นภาษาฝรั่งเศสว่า สาวพรหมจรรย์
    และเธอก็ตรงทื่อ ปราศจากมารยาโดยสิ้นเชิง
    และไม่สนใจเรื่องการครองเรือน


    [​IMG]



    ในระหว่างที่ยังไม่ได้ไปร่วมทัพกับโจนน์ ช่วงที่เพิ่ง
    เข้ามารับราชการในราชสำนักใหม่ๆ กิลล์ได้ทดสอบ
    ลงสนามครั้งแรกในการต่อสู้ที่ Saint-Lo และ
    เลอม็องระหว่าง 1427 และ 1429, Gilles ได้
    รับอนุญาตให้ทำตามใจสัญชาติญาณชอบรสชาติ
    ความรุนแรง การสังหาร ของเขาที่เริ่มสั่งสมมาตั้ง
    แต่บัดนั้น และ ในการต่อสู้ที่ Château of Lude
    เขาไต่บันไดขึ้นบันไดโจมตีและฆ่ากัปตันชาวอังกฤษ,
    แบลกเบิร์น. เขาเป็นหนุ่มหล่อและรวยกับสหาย
    อยู่ในอ้อมแขนของแถบบรรดาคนของเขาที่เป็น
    สหายที่ห้อมล้อมและสังสรรค์กันเสมอ



    [​IMG]



    ตั้งแต่ 1427-1435, กิลล์ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการ
    ทหารในกองทัพเด่นในเรื่องการแสดงความกล้าหาญบ้าบิ่น
    ในสนามรบ ในระหว่างการฟื้นฟูจากสงครามร้อยปี.
    ใน 1429 เขาต่อสู้พร้อมกับโจนน์ ออฟ อาร์ ในบางส่วนของ
    แคมเปญร่วมต่อต้านพวกอังกฤษและพันธมิตรของพวก
    เบอร์กันเดี่ยน Burgundian. เขาอยู่กับโจนน์
    เมื่อบุกโจมตี Orleans ออเรอองส์ด้วยกัน



    [​IMG]


    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 1429, กิลล์ รับเลือก
    ให้เป็นหนึ่งในสี่ของขุนนางสำหรับเกียรติของการนำ
    ampulla ศักดิ์สิทธิ์ (ตราพระหากษัตริย์
    โดยสันตะปาปา) จากวัดของ Saint-Remy ไป
    Notre-Dame de Reims สำหรับการถวายของ
    ชาร์ลส์ปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส
    วันเดียวกันนั้นเองเขาถูกแต่งตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
    เป็นจอมพลแห่งฝรั่งเศส

    หลังจากที่ล้อมออเรอองส์, กิลล์ได้รับสิทธิในการเพิ่ม
    ยศ บั้งที่แขน พระราชทาน ตราตระกูล fleur-de-Lys
    บนพื้นสีฟ้า เสมือนจดหมายสิทธิบัตรอำนาจการแสดงว่า
    กิลล์ "สูงและน่ายกย่อง" โดยได้รับฉายาว่า
    "มหันตภัยและอันตราย"


    [​IMG]





    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2013
  13. เวิ้นเว้อ

    เวิ้นเว้อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    ปกติเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือเลย แต่อันนี้อ่านแล้วมันมาก ภาพก็สวย แต่เพลงทำไมมันฟังไม่ได้ก็ไม่รู้ ม้ันไม่มีเสียงเลย เสียดายมาก ต้องขอบคุณคุณดัสเชสมากค่ะ

    ติดตามอยู่นะคะ อยากหานมอุ่นๆ ให้คุณดัสเชสดื่มก่อนนอนจัง คงจะเหนื่อยแย่เลย กว่าจะพิมพ์เสร็จ กว่าจะโพส กว่าจะได้นอน สู้ๆ นะ คะ
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ถ้าเพลงแรกของหน้าสองดิฉันเอาลิ้งค์ออกคะ แต่ใส่เพลงใหม่ตอนสอง น่าจะได้ยินนะคะ เพราะมันโชว์ คนอื่นก็ได้ยิน แต่ถ้าใคร เพลงไม่เล่นแสดงว่าไม่มี มีเดียเพลเยอร์แหง่เลยคะ........เรื่อง กิลล์ เดอ เรย์ ยังไม่จบแล้วจะมาเล่าต่อทีหลัง ดิฉันชอบอ่านประวัติศาสตร์ยุโรปคะเพราะมันสนุกดี เหมือนนิยาย ไม่น่าเบื่อแบบ ประวัติศาสตร์ไทย ที่เอาแต่ปกปิดไม่พูดความจริง อ่านไปก็ไม่สนุก กำกวม ไม่รู้เรื่อง และงง อย่างของฝรั่ง ถ้าพระเจ้าแผ่นดินไม่ดีเขาก็พูดออกมาตามนั้น ไม่ปกปิด เพราะมันเป็นส่วนนึงของวรรณคดี โบราณคดี การปกปิดทำให้ข้อมูลเพี้ยน คนอ่านก็ไม่รู้ความจริงก็ไม่รู้จะอ่านไปทำไม
     
  15. เวิ้นเว้อ

    เวิ้นเว้อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    ปูเสื่อรอ อิอิ
     
  16. Haruka sama

    Haruka sama Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +87
    มาติดตามเหมือนเดิมค่ะ เรื่องโจนส์เคยถามอาจารย์ที่ได้มโนฯ ท่านบอกว่าเธอไม่ใช่พุทธภูมิค่ะ (เล่าให้ฟังเฉยๆ เพื่อความแน่ใจคงต้องถามท่านที่ได้มโนฯท่านอื่นๆด้วย) บางครั้งสาวกภูมิก็สามารถทำอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องของเธอแต่ว่าดันเกี่ยวข้องกับญาติของเราคนนึงที่เป็นพุทธภูมิวิริยาธิกะพิเศษ ตอนนี้โจนส์เป็นนางฟ้า(หรือจะเรียกเธอว่า saint ก็คงได้ ถ้าจำไม่ผิดเธออยู่ดาวดึงส์ ถ้าจำผิดขออภัยนะคะ)
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    จริงๆแล้วดิฉันไม่ได้เห็นด้วยกับโจนน์ ร้อยเปอร์เซนต์ คะ เพราะเธอเป็นคอีโก้สูง ถ้าตอนแรกเธอรอบคอบกว่านี้ก็จะไม่ตายคะ ถ้าว่างแล้วจะมาเล่า เรื่อง กิลล์ ต่อ คะ
     
  18. เวิ้นเว้อ

    เวิ้นเว้อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +52
    มาต่อไวไวนะคะ
     
  19. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ว่าจะมาต่อคะ แต่เรื่องนี้เนื้อหาละเอียดต้องแปลคำต่อคำจากเวปไซต์ เพราะเนื้อเรื่องมันจะแบ่งไล่ตามปี คศ ไป ถึงจะรู้เรื่องราวอย่างละเอียด แต่พอดีทำเวปหาย แต่อ่านเรื่องคร่าวๆดูแล้วคะ เดี๋ยวจะมาต่อไวๆคะ
     
  20. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    เอาแบบมีภาพประกอบหวานๆ นิดๆ นิดๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...