ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

หลายหมู่บ้านริมแม่น้ำสายบุรียังมีน้ำท่วม


หลายหมู่บ้านริมแม่น้ำสายบุรี อ.รามัน จ.ยะลา ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขัง การสัญจรถนนภายในหมู่บ้านต้องใช้เรือเล็กเป็นพาหนะ

วันนี้ ( 28 ก.พ.) จากการที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดยะลาและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้น้ำในแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรี ซึ่งไหลผ่านอำเภอเมืองยะลา และ อำเภอรามัน ของจังหวัดยะลาสูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอรามัน น้ำในแม่น้ำสายบุรีสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม เย็นวานนี้ และ ในวันนี้ ถึงแม้ว่าในพื้นที่ จ.ยะลา ฝนจะหยุดตกแล้ว น้ำในแม่น้ำลดระดับลงบ้าง แต่ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี ก็ยังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ โดยเฉพาะ บ้านสะแตเซ็ง หมู่ที่ 3 ต.บาลอ บ้านปายอยือนิ หมู่ที่ 6 ต.กายูบอเกาะ บ้านกำปงบาโง บ้านปายอแง บ้านบูเกะซืองอ (บ้านย่อยบ้านสะโต) หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง น้ำท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้านมีระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร บ้านพรุ และ บ้านจารังตาดง ต.ท่าธง บ้านเกะรอ ต.เกะรอ เช่นเดียวกับบ้านฮูยงปาเซ หมู่ที่ 1 ต.ตะโล๊ะหะลอ ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยเรือเล็กเป็นพาหนะ และได้นำสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะวัว และ แพะ แกะ นำมาเลี้ยงไว้บนถนนหลวง เพื่อความปลอดภัย

นายสมเกียรติ ศีรษะเนตร นายอำเภอรามัน ได้แจ้งเตือนไปยัง อบต.ในพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วม ให้มีการติดตาม และ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้เน้นอย่าให้มีการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านเป็นอันขาด หากต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ สามารถแจ้งทางอำเภอรามัน ได้ 24 ชม.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันที่ 2 มีนาคม 2556 ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่งในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน

ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน และให้ระวัง

ลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 2-5 มีนาคมนี้ไว้ด้วย สำหรับ ในระยะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนกระจาย


ประกาศ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา





โปรด สังเกตุ หย่อมความกดอากาศต่ำถูกล้อมด้วยหย่อมความกดอากาศสูง น่ากลัวตามกรมอุตุแจ้งเตือน

 

ปัตตานีประกาศ เตือน 4 อำเภอ ระวังน้ำท่วม

<iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=64246" ></iframe>

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ หลายจังหวัดยังประสบภาวะน้ำท่วมจากภาวะฝนตกหนัก โดยจังหวัดปัตตานี ออกประกาศแจ้งเตือน น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อนชลประทาน 4 อำเภอวันนี้(28ก.พ.) หลังน้ำเหนือจากพื้นที่จังหวัดยะลา เอ่อล้นสปริงเวย์สูงกว่า 3 เซนติเมตร

คุณเขมินท์ เกื้อกูล ผู้สื่อข่าววีรีพอร์ต จังหวัดปัตตานี รายงานว่า นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี สังการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปัตตานี ออกประกาศแจ้งเตือนหมู่บ้าน ชุมชน ตลอดจนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในที่ลุ่มติด 2 ฝั่ง แม่น้ำปัตตานี และเป็นพื้นที่ท้ายเขื่อนชลประทานปัตตานี 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่ลาน อำเภอยะรัง อำเภอหนองจิก และ อำเภอเมืองปัตตานี รับน้ำท่วมในวันนี้ เนื่องจากน้ำเหนือก้อนแรกที่เกิดจากฝนตกหนักให้ช่วง 2 – 3 วันที่ผ่าน จากพื้นที่ จังหวัดยะลา กำลังไหลระบายลงสู่เขื่อนชลประทานปัตตานี จนเอ่อล้นสปริงเวย์สูงกว่า 3 เซนติเมตร และได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เทือกสวนไร่นาและสวนยางพารา ที่อยู่ในที่ลุ่มท้ายเขื่อนแล้ว โดยคาดว่าในวันนี้มวลน้ำทั้งหมดจะไหลบ่า เข้าท่วมพื้นที่ลาบลุ่มตลอด 2 ฝั่ง แม่น้ำปัตตานี และจะเกิดน้ำเข้าท่วมในหลายหมู่บ้านเพิ่ม

นายบรรพต ไชยบุตร เจ้าหน้าที่จัดส่งน้ำเขื่อนชลประทานปัตตานี กล่าวว่าสถานการณ์น้ำเหนือจากพื้นที่ จังหวดัยะลา ที่มาถึงเขื่อนชลประทานขณะนี้กำลังเพิ่มขึ้น จนล้นสปริงเวย์กว่า 3 เซนติเมตรและมีแนวโน้มจะยิ่งเพิ่มขึ้น จึงแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนและอยู่ติดแม่น้ำให้มีความระวัดระวังและขนย้ายสิ่งของ ซึ่งจากข้อมูลที่จัดเก็บพบว่าเฉพาะในคืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกจากพื้นที่ท้ายเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ประกอบด้วย อำเภอบันนังสตา อำเภอกรงปินัง อำเภอกาบัง อำเภอยะหา อำเภอรามัน และ อำเภอเมืองยะลา จะไหลเข้ามาสมทบกับปริมาณน้ำในเขื่อนและท้ายเขื่อน

ที่มาจาก VOICE TV

 

อากาศจีนเป็นพิษหนักเจอทั้งหมอกควัน-พายุทราย


เทศบาลกรุงปักกิ่งออกประกาศ ขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมหน้ากากกันฝุ่นละอองเมื่อออกนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่นอกเคหะสถานเป็นเวลานาน หลังระดับมลพิษในอากาศเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง บวกกับอิทธิพลของพายุทรายที่พัดเข้าปกคลุมทั่วทั้งเมืองหลวงของประเทศ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ว่า เทศบาลกรุงปักกิ่งออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมหน้ากากกันฝุ่นละอองเมื่อออกนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่นอกเคหะสถานเป็นเวลานาน หลังระดับมลพิษในอากาศเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง บวกกับอิทธิพลของพายุทรายที่พัดเข้าปกคลุมทั่วทั้งเมืองหลวงของประเทศ

สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ( ซีซีทีวี ) รายงานโดยอ้างอิงดัชนีวัดระดับมลพิษในอากาศของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง ว่าอยู่ที่ระดับ 516 เมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ซึ่งถือว่าเกินระดับ “อันตรายสูงสุด” ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 168 เมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย )

นอกจากระดับมลพิษที่สูงเกินกว่ามาตรฐานจนน่าเป็นห่วงแล้ว ชาวกรุงปักกิ่งยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายที่เกิดจากพายุที่พัดพาทั้งฝุ่นละอองและทรายปริมาณมหาศาลมาปกคลุมจนทั่วท้องฟ้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสันนิษฐานว่า พายุลูกดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวมาจากมองโกเลีย

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พบ 'หลุมดำ' หมุนจี๋ เกือบเท่าความเร็วแสง



นักดาราศาสตร์วัดอัตราความเร็วในการหมุนเป็นครั้งแรก พบมวลสารที่แผ่นจานรอบหลุมดำเคลื่อนที่เร็วเกือบเท่าแสง

กุยโด ริซาลิตี แห่งศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียน บอกในวารสาร Nature ว่า หลุมดำอภิมหายักษ์ในใจกลางของกาแล็กซี เอ็นจีซี 1365 มีแผ่นจานสะสมสารห้อมล้อมโดยรอบ มีรัศมีกว่า 3.2 ล้านก.ม.

แผ่นจานซึ่งมีความกว้างเป็น 8 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์นี้ มีการหมุนด้วยความเร็วอย่างน้อย 84% ของความเร็วแสง

"นับเป็นครั้งแรกที่มีการวัดอัตราการหมุนของอภิมหาหลุมดำ" ริซาลิติ ซึ่งทำงานประจำที่หอสังเกตการณ์ฟิสิกดาราศาสตร์อาร์เซทรี ในเมืองฟลอเรนซ์ พูดถึงการวัดที่ใช้ข้อมูลจากกล้องนิวสตาร์ (NuSTAR-Nuclear Spectroscopic Telescope Array) และดาวเทียมรังสีเอ็กซ์ เอ็กซ์เอ็มเอ็ม-นิวตัน ขององค์การอวกาศยุโรป

นักดาราศาสตร์บอกว่า การได้รู้มวลและอัตราความเร็วในการหมุนของหลุมดำ ช่วยให้เข้าใจถึงความเป็นมาของหลุมดำ และวิวัฒนาการของกาแล็กซีเจ้าบ้าน



แม้หลุมดำในเอ็นจีซี 1365 มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราหลายล้านเท่า แต่มันไม่ได้ใหญ่มาตั้งแต่เกิด หากแต่ได้ขยายขนาดขึ้นตลอดเวลาหลายพันล้านปี ด้วยการดึงดูดเอาก๊าซและบรรดาดาวฤกษ์ต่างๆเข้าไป

มวลสารจะสะสมอยู่ในแผ่นจานที่หมุนวนรอบหลุมดำ แล้วเกิดความร้อนจัด จนปล่อยรังสีเอ็กซ์ออกมา

หลุมดำอภิมหายักษ์มีอยู่ในใจกลางทุกกาแล็กซี รวมทั้งทางช้างเผือกด้วย หลุมดำเกิดจากการระเบิดทำลายตนเองเมื่อสิ้นอายุขัยของดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์หลายพันล้านเท่า

กาแล็กซีรูปกังหัน เอ็นจีซี 1365 มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 200,000 ปีแสง เห็นได้ในทิศทางที่มองไปยังกลุ่มดาวเตาหลอม.

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/RmJ_C2lka4Q" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มาจาก VOICE TV

 

01-03-2013

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันที่ 2 มีนาคม 2556 ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน และให้ระวังลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 2-5 มีนาคมนี้ไว้ด้วย
สำหรับ ในระยะนี้หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ

ประกาศ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 21.30 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 01 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง
ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน และให้ระวัง ลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 2-5 มีนาคมนี้ไว้ด้วย
สำหรับ ในวันนี้ (1 มี.ค.56) ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่งๆ

ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 17-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 01 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมา ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


พายุฤดูร้อนจ่อถล่มเหนือ-อีสาน


กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน และลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 2-5 มี.ค.นี้ เนื่องจากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง ที่กำลังจะแผ่เข้ามาปกคลุม

วันนี้ (1 มี.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวัน ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 5-7องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน และให้ระวัง ลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 2-5 มีนาคมนี้ไว้ด้วย สำหรับ ในวันนี้ (1 มี.ค.56) ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่งๆ

 

พายุหิมะซ้ำเติมปัญหาหมอกควันในจีน

<iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=64319" ></iframe>

พายุหิมะและลมหนาว ได้พัดเข้าสู่พื้นที่ทางภาคเหนือของจีน ซ้ำเติมสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองในจีนให้เลวร้ายลงไปอีก พร้อมกันนี้ ยังทำให้อุณหภูมิลดลงอีก 5-10 องศาเซลเซียส

กรมอุตุนิยมวิทยาของจีน รายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยเฉพาะในมณฑลจี๋หลิน และมณฑลเหลียวหนิงของจีน กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ มีหิมะตกอย่างหนัก ประกอบกับมีพายุลมหนาวในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้อุณภูมิลดลง 5-10 องศาเซลเซียส ทั้งยังมีฝุ่นละอองจากพายุทะเลทรายเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์เหล่านี้ ได้ส่งผลให้ทางการต้องงดให้บริการทางยกระดับ ทางด่วน และสนามบิน เช่นเดียวกับรถโดยสารที่ต้องให้บริการล่าช้าไป 43 เที่ยว ทำให้มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบกว่า 1,200 คน นอกจากนี้ ยังทำลายผลผลิตทางการเกษตร และเหมืองในแถบมองโกเลียด้วย

สำหรับพายุหิมะที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ได้ซ้ำเติมสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองในกรุงปักกิ่ง และอีกหลายมณฑลของจีน เนื่องจากพายุได้พัดเอาฝุ่นละออง และทรายจากพื้นที่อื่นเข้ามาในพื้นที่เหล่านี้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากบริการสาธารณะหลายอย่างต้องหยุดให้บริการ และยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะสั้น และระยะยาวด้วย

ที่มาจาก VOICE TV

 

สหรัฐฯเตรียมส่งหุ่นสำรวจบริวารดาวอังคาร

<iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=64320" ></iframe>

องค์การนาซาของสหรัฐฯ เปิดตัวหุ่นยนต์สำรวจอวกาศตัวใหม่ เพื่อใช้สำรวจดวงจันทร์โฟโบ ซึ่งเป็นบริวารของดาวอังคาร

หุ่นยนต์ที่มีหนามคล้ายกับเม่นตัวนี้ กำลังถูกพัฒนาให้เป็นหุ่นยนต์สำรวจอวกาศตัวใหม่ ซึ่งหนามของมันออกแบบมาเป็นกรณีพิเศษ สำหรับการสำรวจดวงจันทร์"โฟโบ"หนึ่งในดวงจันทร์บริวารของดาวอังคาร

นายอิสซา เนสนาส วิศวกรหุ่นยนต์ขององค์การนาซา และหนึ่งในนักวิจัยของโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวใหม่นี้เล่าว่า ปัจจุบันนาซาให้ความสนใจดวงจันทร์โฟโบเป็นอย่างมาก และด้วยวงโคจรที่ใกล้กับดาวอังคารของมัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ดาวดวงนี้อาจช่วยไขความลับเกี่ยวกับที่มาของระบบสุริยะจักรวาลได้ดียิ่งขึ้น

โดยหุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์โฟโบตัวนี้ ประกอบด้วยเครื่องจับเซ็นเซอร์ ที่จะเก็บข้อมูลพื้นผิวของดาวดวงดังกล่าว จากนั้น มันจะส่งข้อมูลที่ได้ไปยังยานแม่ ซึ่งเป็นดาวเทียมที่โคจรรอบดาวอังคาร ก่อนที่ดาวเทียมดวงดังกล่าวจะส่งข้อมูลกลับมายังโลก

ทั้งนี้ เนื่องจากดวงจันทร์โฟโบ มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าดาวอังคาร รวมทั้งดวงจันทร์ของโลกอยู่มาก ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จึงกังวลว่า ด้วยแรงโน้มถ่วงที่น้อยของโฟโบ อาจไม่สามารถยึดหุ่นยนต์สำรวจอวกาศ ที่ติดล้ออย่างคิวริออซิตีได้ ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้หุ่นยนต์สามารถยึดติดพื้นผิวของดวงจันทร์โฟโบ ก็คือการติดแท่งโลหะขนาดเล็กรอบตัวมัน เพื่อให้มันสามารถกลิ้งไปบนพื้นผิวดวงจันทร์โฟโบได้โดยไม่หลุดออกจากชั้นบรรยากาศ

หลังจากนี้ ทีมนักวิจัยจะทดสอบหุ่นยนต์ตัวนี้ กับห้องไร้แรงโน้มถ่วง ที่ใช้ทดสอบกับนักบินอวกาศ เพื่อให้มั่นใจว่า หนามที่ยึดเกาะหุ่นยนต์ตัวนี้ จะสามารถเคลื่อนที่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง หรือสภาพที่มีแรงโน้มถ่วงน้อย โดยไม่หลุดออกจากพื้นผิวจำลองได้หรือไม่

ที่มาจาก VOICE TV

 

ปัตตานี-น้ำท่วม 2 ตำบลยังสูง ต้องใช้เรือเดินทาง



น้ำยังท่วมสูงใน 2 ตำบล ปะกาฮารัง-บาราเฮาะ อำเภอเมืองปัตตานี เดือดร้อนกว่า 600 หลังคาเรือน ผู้ปกครองต้องพายเรือส่งบุตร-หลานไปเรียนหนังสือ

หลังน้ำเหนือจากจังหวัดยะลาได้ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีจนเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บ่ายวานนี้ ส่งผลให้แม่น้ำลำคลองที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี สูงล้นคลองตามไปด้วย โดยเฉพาะคลองบ้านปะกาฮารัง อำเภอเมือง ทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ม.2 บ.ยือโม๊ะ และ ม .2 บ.จางา ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อวานนี้

ล่าสุด วันนี้ ( 1 มี.ค.) ระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ซม.รถยนต์ไม่สามารถเข้าออกได้ ส่วนภายในหมู่บ้านระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทาง เข้าออกหมู่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงเช้า ผู้ปกครองต้องใช้เรือพายรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ส่วนผู้ปกครองที่ไม่มีเรือ เด็กนักเรียนก็ต้องหยุดเรียนโดยปริยาย

นอกจากนี้น้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.8 บ.ปากาลีมาปูโระ และ ม.8 บ.บลีดอ ตำบลบาราเฮาะ อำเภอเมืองปัตตานี ตั้งแต่คืนวานนี้ ทำให้ทั้ง 2 ตำบล มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 600 หลังคาเรือนแล้ว

ที่มาจาก ครอบครัวข่าว 3

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 01 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมา ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

แม่น้ำสายบุรีลดลงแล้วน้ำท่วมเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา แม่นำสายบุรีเริ่มลดลงมากแล้ว จนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ

จากสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของ อ.รามัน จ.ยะลา โดยเฉพาะในพื้นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำสายบุรี ตั้งแต่ต.บาลอ เรื่อยมาจนถึงต.ท่าธง อ.รามัน โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บาลอ ต.กายูบอเกาะ ต.ตะโละหะลอ ต.อาซ่อง ต.เกะรอ ต.ท่าธง รวม 6 ตำบล ถูกน้ำท่วมเส้นทางคมนาคมภายในหมู่บ้าน สวนยางพารา ชาวบ้านต้องอพยพสัตว์เลี่ยง มาเลี้ยงไว้บนถนนหลวง ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พบว่าสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี เริ่มลดระดับลงเหลือประมาณ 80 เซนติเมตร สภาพน้ำท่วมขัง เส้นทาง และ บ้านเรือน เกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีเพียงบ้านเรือนบางส่วนที่อยู่ในที่ลุ่ม ใกล้กับแม่น้ำสายบุรียังมีน้ำท่วมขัง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถเข้าไปกรีดยางได้ตามปกติ.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ปภ. เตือน50จว.รับมือพายุฤดูร้อน2-4 มี.ค.



ปภ.เตือน 50 จังหวัด เหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันออก-กลาง รับมือพายุฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 2 - 4 มี.ค. 56

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับ บริเวณดังกล่าวถูกปกคลุมด้วยความร้อน ทำให้พื้นที่ 50 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ได้แก่ อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู บึงกาฬ ปราจีนบุรี สระแก้ว ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และ ตาก เกิดพายุฤดูร้อนในระหว่างวันที่ 2 - 4 มีนาคม 2556 ซึ่งจะมีลักษณะอากาศของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก

ทีมาจาก INN

 

02-03-2013

ในเดือนนี้มีวันเกิดปรากฎการพิเศษคือ วันที่ 20 มีนาคม 2556 เป็นวันวสันต์วิษุวัต โลกตั้งฉากดวงอาทิตย์ครั้งที่ 1 ของปี กลางวันกลางคืนที่เส้นศูนย์สูตรยาวเท่ากัน

และพบการรวมตัวของกลุ่มพยัคภูเพ็กใน "ปฏิบัติการสุริยันจันทรา และอาถรรพ์ดาวหางแพนสตาร์" วันที่ 20 - 21 มีนาคม 2556



ความคืบหน้าเราจะนำมาเสนอต่อไป

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 02 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้วคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 0500 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณน่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 02 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามแล้วคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (2 มี.ค.56) ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรก
ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพ จากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 1100 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

หวั่นดาวหางชนดาวอังคาร ทำลายรถหุ่นยนต์



พบดาวหางจ่อเฉียดผ่านดาวอังคารในปีหน้า หวั่นเส้นทางโคจรเปลี่ยน บ่ายหน้าชนดาวเคราะห์สีแดง ทำให้บรรดายานโคจรและรถหุ่นยนต์จากโลกเสียหาย

ฟิล เพลต นักดาราศาสตร์ผู้เขียนบล็อก Bad Astronomy แห่งนิตยสาร Slate คำนวณว่า ดาวหาง C/2013 A1 (Siding Spring) จะเข้าใกล้ดาวอังคารในระยะห่าง 37,000 กิโลเมตร แต่เมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ก๊าซและฝุ่นที่ถูกปล่อยขึ้นจากพื้นผิวกลายเป็นหางยาว อาจทำให้มันเบี่ยงเส้นทางได้


@ ผลคำนวณเส้นทางโคจร (เส้นสีน้ำเงิน) บ่งบอกว่า ซี/2013 เอ1
จะเฉียดผ่านดาวอังคารในเดือนตุลาคม ปีหน้า

ดาวหางดวงนี้มีขนาด 14.5 ก.ม.เป็นอย่างน้อย ถ้าชนดาวอังคาร แรงระเบิดที่เกิดขึ้นจะเท่ากับ 1,000 ล้านเมกะตัน หรือมีพลังงานมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยทดสอบบนโลกถึง 25 ล้านเท่า


@ ภาพถ่ายดาวหาง C/2013 A1 ซึ่งเริ่มปรากฏโคมาให้เห็น

เวลานี้ ดาวหาง ซี/2013 เอ1 ยังอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์กว่า 1,000 ล้าน ก.ม. ซึ่งเลยวงโคจรของดาวพฤหัสบดีออกไป แปลว่าตอนนี้มันยังเย็นตัวอยู่

ดาวหางเป็นก้อนน้ำแข็งผสมฝุ่น เมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ มันจะร้อนขึ้น แล้วปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กับคาร์บอนมอนอกไซด์ออกมา มองเห็นเป็นหางยาว ขณะที่ส่วนแกนกลางหรือนิวเคลียสจะถูกห่อหุ้มด้วยกลุ่มเมฆที่เรียกว่า โคมา ซึ่งอาจมีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายแสนกิโลเมตร


@ ภาพจำลองดาวหางขณะเข้าใกล้ดาวอังคาร

สะเก็ดจากโคมาอาจผ่านเข้าไปในบรรยากาศของดาวอังคาร แล้วกลายเป็นฝนดาวตก แต่ถ้านิวเคลียสชนเข้ากับดาวเคราะห์ดวงนี้ ก็จะเกิดความพินาศอย่างใหญ่หลวง

คาดว่า แกนกลางของดาวหางมีขนาดราว 15-50 ก.ม. และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 193,000 ก.ม./ช.ม. ถ้าชนจริงก็จะเกิดหลุมขนาดกว้างหลายร้อยกิโลเมตร


@ ภาพถ่าย รถหุ่นยนต์ มาร์ส คิวริออซิตี

ที่โชคร้ายสำหรับโลกก็คือ บรรดายานที่กำลังโคจรรอบดาวอังคาร และรถหุ่นยนต์บนพื้นผิว จะพังเสียหาย

ดาวหางดวงนี้ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ผลคำนวณเส้นทางโคจรบ่งบอกว่า มันจะเข้าใกล้ดาวอังคารมากที่สุดในเดือนตุลาคมปีหน้า.

ที่มาจาก VOICE TV

 

น้ำท่วมนราฯเริ่มคลี่คลาย

ทหารส่งชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาผู้ประสบภัย หลัง ป่วยจากผลพวงน้ำท่วม

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดฝนที่เคยตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ได้หยุดตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้ว ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของราษฏรที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม 7 อำเภอ คือ สุไหงโก-ลก ศรีสาคร รือเสาะ แว้ง สุคิริน ตากใบและสุไหงปาดี มีปริมาณลดลงตามลำดับ ซึ่งบางพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นบ้านเรือนของราษฏรที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก 6 ชุมชน คือ ชุมชนหัวสะพาน ท่าโรงเลื่อย ท่ากอไผ่ ท่าชมพู่ ท่าบือเร็งและท่าเจ๊ะกาเซ็ง ซึ่งวิกฤติหนักที่สุดของ จ.นราธิวาส โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ในระดับ 40-50 ซ.ม. ซึ่งราษฏรที่อาศัยอยู่ใน 6 ชุมชน ยังคงอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4 จำนวน 151 คน และคาดว่าในอีก 2-3 วันหากฝนหยุดตกต่อเนื่อง พื้นที่ 6 ชุมชนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และจากผลพวงของสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้มีผลกระทบต่อราษฏรที่อาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพ เนื่องจากหญิงชราและเด็กเริ่มป่วยมีไข้สูงจากสภาพแวดล้อมที่ต้องนอนกับพื้นเป็นเวลาหลายวันแถมยังมีอากาศหนาวเย็น

ล่าสุด พ.ท.วุทธยา จันทมาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกหน่วยให้บริการรักษาราษฏรกลุ่มดังกล่าวแล้วพร้อมทั้งได้จัดยารักษาโรคเพื่อป้องกันโรคติดต่อที่มากับน้ำ อาทิ โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนัง โรคฉี่หนู โรคตาแดง ไข้หวัดและการติดเชื้อราแบคทีเรียต่างๆให้กับผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย

ที่มาจาก โพสทูเดย์