ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ช่างชิต, 21 ตุลาคม 2013.

  1. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    เครครับแล้วเจอกัน
     
  2. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    พรุ่งนี้จะเป็นวันมงคลใหญ่ของชาติเราแล้ว ช่างชิตก็อยากจะมีสภาพจิตใจที่ดีๆกับวันดีๆก่อนไปรับเสด็จท่านที่สนามหลวง แต่มาเห็น คลิป ข่าว ภาพ ที่คนบางกลุ่มด่าว่าในหลวงท่านแล้วก็อด หดหู่ใจไม่ได้ สมกับที่มีเพื่อนออนไลน์หนึ่งได้กล่าวไว้น่าสนใจว่า

    เคยเจอคนที่เกลียดๆในหลวงก็ลองถามไปว่า "ทำไมถึงเกลียด ทำไมถึงเชื่อว่าท่านไม่ดีแบบนั้น" คำตอบคือ "ฟังเขาเล่ามาอีกที" พอถามต่อว่า "แล้วทำไมถึงเชื่อเขาล่ะ เขามีหลักฐานอะไร" คำตอบน่าเจ็บช้ำยิ่งกว่าอีก คือ "ก็เชื่อแหละ เขาไม่มาโกหกหรอกน่า เขาไม่มีเหตุผลอะไรต้องมาโกหกเรื่องแค่นี้"

    เออ... ดีว่ะ คนๆนึงทำงานทั้งชีวิตเพื่อแบกรับชีวิตคนอีกทั้งประเทศ ครองตัวอยู่ในความดีมาตลอด แต่กลับได้รับความเชื่อถือน้อยยิ่งกว่าคนๆนึงที่พูดจาใส่ร้ายคนอืนแบบไม่มีหลักฐานว่ะเฮ้ย

    สิ่งที่ท่านทำทั้งหมดตลอดพระชนม์ชีพ ไม่มีค่าพอให้คนบางคนมันเชื่อถือใดๆเลย เพราะเพียงแค่คำจากปากคนบางคนที่บอกว่าท่านไม่ดี แค่นี้มันก็เชื่อกันหมดใจแล้ว

    ก็ดี... กูจะได้รู้ไว้ว่าสมัยนี้ความดีมันคงไม่มีค่าอีกต่อไปแล้วจริงๆ สงสารพระองค์ท่านมากๆที่อุตส่าห์ทนทำทุกอย่างมาตลอดเพราะความหวังดี แต่สุดท้ายไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด คิดแล้วมันรู้สึกแย่จริงๆ....


    #มิตรสหายร่วมโลกท่านหนึ่งได้กล่าวไว้แต่ตรงใจที่สุด


    และช่างชิตเองก็ไม่ได้ รักท่านเพราะแฟชั่นหรือถูกปลูกฝังว่า "ต้องรัก" เพราะในหลวงท่านก็คือ มนูษย์คนหนึ่ง ท่านไม่สามารถทำให้คนรักชอบหรือพอใจได้ทั้งหมดหรอก แต่ในสถานะ พระมหากษัตริย์ ที่ท่านทรงรับผิดชอบ ท่านทำมาขนาดนี้จะไม่ให้ช่างชิตรักท่านได้ยังไง
    ที่สำคัญครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณธรรม ทรงอภิญญา มากมายหลายรูป ทั้งสายธรรมยุตและมหานิกาย ต่างพูดยอมรับในตัวของพระองค์ท่าน พระระดับนี้ที่ท่านมีประวัติในการปฏิบัติเอาชีวิตเข้าแลกกว่าจะออกมาเป็นครูบาอาจารย์สอนคนสอนลูกศิษย์ลูกหา มีบารมีคนกราบไหว้เต็มบ้านเต็มเมือง ท่านคงไม่พูดปดหรือต้องการประจบสร้างภาพให้ใครทั้งนั้นรวมทั้งในหลวงด้วย ฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดออกมาล้วนเป็นสิ่งที่ พระอริยเจ้าทรงเห็นแล้วว่าเป็นตามนั้นจริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    เสียดายปีนี้ไม่ได้ไปร่วมรับเสด็จกับพี่ช่างชิต เพราะต้องไป ตจว. พรุ่งนี้แต่เช้า ผมขอส่งใจไปร่วมรับเสด็จพระองค์ท่านแทนนะครับพี่ชิต :cool::cool::cool:
     
  4. chaythoung

    chaythoung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2008
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +2,665
    สวัสดีครับ..อัฟหน่อย เจ้าบ้านไม่อยู่
     
  5. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    ไม่ได้เข้ามาหลายวัน กระทู้ดูเงียบๆ ช่างชิตไปไหนหนอ
     
  6. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    กลับมาแว้วววววครับบบบบ พอดีพักยาวไปหน่อย ต้องขออภัยทุกท่านด้วยเดี้ยวจะมาอัพเดต ข่าวหลวงตาล่าสุดกัน ดึกๆคืนนี้นะจ๊ะ ทำงานแป๊ป
     
  7. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    เก็บตกนิดหน่อยหลังจากคืนวันที่ 4 ช่างชิตเดินทางไป โรงพยาบาลศิริราชเพื่อรอถวายพระพรในหลวงเช้าวันที่ 5 แต่ก็อย่างที่รู้ๆในข่าวครับ แพทย์ทรงห้ามพระองค์เสด็จ แต่กระนั้นพระองค์ท่านก็ยังทรงโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนชาวไทยที่ริมหน้าต่างห้องบรรทมของท่าน บรรยากาศต้องบอกว่าประชาชนชาวไทยที่ไปรับเสด็จล้วนมีความสุขมากๆครับ แม้ไม่ได้เห็นพระองค์ท่านแต่ขากลับ ช่างชิตก็ยังมีบุญวาสนาได้เห็น พระเทพ แบบใกล้ชิด เติมเต็มความสุขใจเข้าไปอีก ขอเอาภาพ ตอนช่างชิตเผลอหลับแล้วเพื่อนแอบถ่ายมาให้ดูว่าหมดสภาพขนาดไหน ไม่ได้นอนมาทั้งคืน 55555 ทำให้หนีพักยาวจนทั้งวันที่ 11 ถึงกลับเข้าไซร์มาทำงาน จนผู้รับเหมานึกว่าลาออกไปละ 555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    ส่วนข่าวหลวงตา ล่าสุด โทรหา พี่อ็อดคนขับรถหลวงตา
    หลังจากกลับจากอินเดีย หลวงตาก็ยังไม่ได้หยุดพัก เดินทางโปรดญาติโยมทั่วสารทิศ
    พอมาจากอินเดียก็ลงไปนครศรีธรรมราช เสร็จก็ยิงตรงกลับอีสานแล้วตีขึ้นมากรุงเทพ จะลงไปภูเก็ตอีกแล้วเป็นอาทิตย์ ก่อนจะกลับมากรุงเทพอีกครั้งประมาณวันที่ 19 หลวงตาน่าจะมาพักที่ บ้านรับรองแถวสายไหม ยังไงช่างชิตจะอัพเดตข่าวใกล้ๆวันอีกครั้งนะครับ บางทีก็นึกสงสารหลวงตา ห่วงธาตุขันต์ของท่าน แต่ก็ได้แต่ทำใจเพราะหลวงตาท่านก็เคยบอกช่างชิตเองว่า "ตอนนี้ยังช่วยเขาได้ก็ต้องช่วย" ปิดท้าย เอาภาพหลวงตา
    ตอนอยู่ที่ สนามบินอุดรธานีกำลังจะเดินทางไปกรุงเทพและหลวงตาได้เมตตาให้เหรียญแก่..รปภ.ที่สนามบิน เมตตาหลวงตานั้นมากล้นจริงๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาภาพพ่อแม่ครูอาจารย์และหลวงตา ที่ไปร่วมงานทำบุญวัดหลวงปู่เทศ ณ.จังหวัดภูเก็ต....เอามาให้อนุโมทนาสาธุบุญด้วยกันครับ..สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    เมื่อช่วงเช้าวันนี้ พ่อแม่พี่น้องศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย
    ต่างมีโอกาสเป็นมงคลอย่างยิ่งที่ได้เข้ากราบถวายจตุปัจจัยแด่....

    " พระอริยสงฆ์ผู้เป็นดั่งพี่ชายใหญ่ แห่งวัดป่าบ้านตาด "

    " พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่บุญมี ปริปุณฺโณ "

    แห่งวัดป่านาคูณ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี

    หลวงปู่บุญมี ท่านถือกำเนิด เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๙
    ตรงกับแรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาล ณ บ้านหนองแสง ต.สิงห์
    อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น อ.เมือง จ.ยโสธร)

    ท่านอุปสมบท เมื่อวันปวารณาออกพรรษา ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๙
    เวลา ๑๓.๓๕ น. ณ วัดสร่างโศก อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี
    (ปัจจุบันคือ วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร)
    โดยมี พระครูพิศาลศีลคุณ(พระอาจารย์โฮม วิสาโท) เป็นพระอุปัชฌาย์
    ได้รับฉายาว่า “ปริปุณโณ” แปลว่า “ผู้เปี่ยมด้วยบุญ”

    ในพรรษาที่ ๓ (ปี พ.ศ.๒๔๙๒) หลวงปู่บุญมี ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองโดก
    (วัดป่าโสตถิผล) จ.สกลนคร และได้เข้ารับการอบรมธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จนหลวงปู่มั่น ท่านละสังขารลงในปีนั้น
    หลวงปู่บุญมี ท่านมีเพื่อนสหธรรมมิกที่สนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็ก
    และได้มีโอกาสออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมร่วมกันคือ หลวงปู่เพียร วิริโย แห่งวัดป่าหนองกอง จ.อุดรธานี

    ในพรรษาที่ ๕ (ปีพ.ศ.๒๔๙๔) หลวงปู่บุญมี ได้กลับไปอยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    และในพรรษาที่ ๖ (ปี พ.ศ.๒๔๙๕) หลวงปู่บุญมี ได้ไปอยู่ศึกษาธรรมกับ
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
    จากนั้นจึงติดตามหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มาสร้างวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    ตั้งแต่พรรษาที่ ๑๑ (ปี พ.ศ.๒๕๐๐) และอยู่อบรมกรรมฐานกับพระหลวงตามหาบัว
    เรื่อยมาจนถึงพรรษาที่ ๓๐ (ปี พ.ศ.๒๕๑๙)

    สมัยที่อยู่ที่วัดป่าบ้านตาด หลวงปู่บุญมี ท่านจะมีเมตตาโอบอ้อมอารีกับพระภิกษุรุ่นน้อง
    คอยให้คำแนะนำเรื่องธรรมวินัย บางครั้งเมื่อหลวงตาท่านดุ และไล่พระที่ทำผิดออกจากวัด
    หลวงปู่บุญมี ก็จะออกรับแทนพระผู้น้อยขอโอกาสให้กับภิกษุนั้นๆ ความอนุเคราะห์เหล่านี้
    หลวงปู่บุญมี ท่านจึงเปรียบเหมือนพี่ชายใหญ่แห่งวัดป่าบ้านตาด
    กอปรกับท่านเป็นพระที่มีจริยาวัตรงดงาม ดังคำที่หลวงตามหาบัวเคยกล่าวไว้

    “..ท่านเพียร-ท่านบุญมี เรียบร้อยเหมือนกันหมด ไม่มีด่างพร้อย
    เรียบร้อยในการปฏิบัติธรรมของท่าน ท่านเพียร ท่านบุญมี
    ท่านปฏิบัติเอาจริงเอาจังเหมือนกัน..”


    จากนั้นหลวงปู่บุญมี ได้มาอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำยานาโพธิ์(ภูลังกา)อ.บ้านแพง จ.นครพนม
    ตั้งแต่พรรษาที่ ๓๒-๔๒ (ปี พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๓๑) จากนั้นท่านจึงมาสร้าง
    วัดป่านาคูณ บ้านนาคูณ ต.บ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี อยู่ตั้งแต่พรรษาที่ ๔๔ (ปี พ.ศ.๒๕๓๓)
    จนถึงปัจจุบัน หลวงปู่บุญมี ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่านาคูณเรื่อยมา
    และในวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ที่ผ่านมานี้ หลวงปู่บุญมี ท่านมีอายุครบ ๘๘ ปีบริบูรณ์

    " . . . คนเราทุกวันนี้ ถ้าเป็นคนที่มีธรรม จะคิด จะพูด จะทำอะไรก็เป็นธรรม
    แต่ถ้าเป็นคนไม่มีธรรม เอาเรื่องโลกมาคิด มาพูด มาทำ ก็มีแต่โลกทั้งนั้น
    ให้เราทั้งหลายช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เห็นการกระทำอะไรที่ไม่ดี
    ให้ช่วยกันบอกสอนแก้ไขให้ถูกให้ควร อย่าปล่อยให้คนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่อาตมาพูดว่าดี ว่าถูก ว่าควรแล้ว ให้นำไปไตร่ตรองดูเสียก่อน
    หากพิจารณาว่าดี ว่าถูก ว่าควร แล้วจึงค่อยเชื่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้
    พ่อแม่ครูจารย์ก็เคยเตือนให้พึง ระวังเรื่องอายตนะ 6 กาย ใจ ตา หู จมูก และลิ้น
    ไม่ให้นำสิ่งไม่ดีเข้ามา ให้คะลำ ภาษาอีสาน คะลำ หมายถึง หลีกเลี่ยง
    อย่าเอาสิ่งไม่ดีเข้ามาในตัว หากรู้ว่าไม่ดีให้หลีกหนีให้ไกล . . . "


    คติธรรมใน...พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่บุญมี ปริปุณฺโณ

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก ; วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    แก้ไขข้อมูลนับอายุปัจจุปันเป็น พ.ศ.๒๕๕๗ ครับผม


    [​IMG]
     
  11. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    วันนี้หลวงปู่ไม และหลวงตาสมหมาย หลวงตาสาทและพ่อแม่ครูอาจารย์ได้รับนิมนต์ฉันเช้าที่บ้านญาติของคุณพรชัย..ณ.จังหวัดภูเก็ต...โดยมีองค์หลวงปู่ไมเป็นประธานสงฆ์..ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพด้วยครับ..สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/y2eoVfdz4YAEy4QU" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e90/OwwTY3.jpg" /></a>
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/y2eoXn5EMrRGe51I" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/4fd/iY2fUk.jpg" /></a>​

    สาธุ สาธุ สาธุ กราบพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ไม หลวงตาสมหมาย หลวงตาสาท และพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกรูปเหนือเศียรเกล้าครับ กราบ กราบ กราบ :cool::cool::cool:
     
  13. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    สวัสดีครับ ทุกท่าน หลังจากเชียร์บอลไทยมาแบบสนุกสุดยอด มีความสุขมากมายแล้ว
    วันนี้ช่างชิตเอาภาพ พระธาตุของ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของ หลวงตาสมหมาย มาให้ชมกันครับ หลวงตานั้นเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิหลวงปู่บุญจันทร์และได้รับการอบรมสั่งสอนการภาวนาจากองค์หลวงตามหาบัวด้วย ซึ่งหลวงตามหาบัวท่านก็ไปมาหาสู่กับองค์หลวงปู่บุญจันทร์ ใกล้ชิดสนิทกันเป็นอย่างมากด้วยครับ(ท่านทั้งสองเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น เหมือนกัน)
    ภาพแรก พระธาตุหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล พี่ที่เป็นลูกศิษย์หลวงตารู้จักกันถ่ายไว้ที่ วัดปาสันติกาวาส วัดของหลวงปู่ เมื่อวันสองวันมานี้ครับ

    ภาพสอง พระธาตุหลวงตามหาบัว น้องที่เคยเจอกันกับช่างชิตตอนไปกราบหลวงปู่ไม ถ่ายไว้ครับ น้องเขาถ่ายที่วัดมหาไชย น้องเห็นตั้งแต่แรกๆประมาณสองสามปีกว่าๆ แรกๆเอามาไว้ยังเป็นเถ้าอังคารอยู่เลย น้องไปวัดคราใดก็กราบไหว้บูชามาตลอด แล้วปัจจุบัน ก็แปรสภาพตามที่เห็นละครับ
    น้องยังบ่นเสียดายไม่มีรูปภาพเมื่อสามปีก่อน ไม่งั้นจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน จากภาพสองภาพที่มาจากบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับช่างชิต ก็พอจะยืนยันนอนยันได้ว่า ครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนหลวงตามานั้น ล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น ฉะนั้นจากที่ช่างชิตสัมผัสใกล้ชิดหลวงตามาเป็น 10 ปี ช่างชิตมั่นใจว่าหลวงตาดำเนินรอยตามคำสอนของหลวงปู่ครูบาอาจารย์โดยเคร่งครัดมาโดยตลอด ฝากคนที่พึ่งเข้ามาอ่านใหม่ถ้าว่างก็อยากให้ลองย้อนกลับไปอ่าน บทความเก่าๆที่ช่างชิตเขียนไว้จากประสบการณ์ตรงและคนรู้จักที่จับต้องได้ดูนะครับ ท่านจะได้รู้ว่ายังมี พระสงฆ์สาวกที่ดำเนินตามแนวทางของพระพุทธเจ้าที่กราบไหว้ได้สนิทใจอีกองค์หนึ่งในยุคนี้อยู่แน่นอนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2014
  14. Arnna

    Arnna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +724
    ติดตามอ่านบทความมาเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณคะที่นำเรื่องราวของพระอริยเจ้าในยุคปัจจุบันมาเผยแพร่ให้ทราบ ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่าในยุคปัจจุบันยังมีท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบใหัเราได้กราบไห้วอย่างสนิทใจ
     
  15. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    ขอบพระคุณมากครับที่ติดตามอ่านกระทู้ๆเล็กของผม

    แจ้งข่าวนะครับหลวงตาท่านจะมากรุงเทพมาพักที่ บ้านพักรับรอง แถวสายไหม
    ซอยที่ 30 วันที่ 20 กลับ 21 ใครว่างก็เชิญไปกราบท่านได้นะครับ
     
  16. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    สาธุ ครับ ขอบคุณพี่ช่างชิตมากครับที่แจ้งข่าว ว่าแต่เจ้าของกระทู้มาหรือป่าวครับเผื่อได้เจอกัน อิอิ :cool::cool::cool:
     
  17. ช่างชิต

    ช่างชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +6,109
    พี่ไปครับ เดี้ยวไลน์บอกนะ หลวงตาลงเครื่องก็ติดกิจนิมนต์ตลอดน่าจะว่างตอนช่วงบ่ายๆของวันที่ 21 แต่คงไม่นาน เพราะหลวงตาเดินทางกลับเครื่องรอบห้าโมง ยังไงจะไลน์บอกอีกทีประมาณเที่ยงวันที่ 21 ครับผม
     
  18. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    สวัสดีครับพี่ๆ สมาชิกทุกท่าน
    อย่างที่หลายๆ ท่านทราบข่าวจากพี่ช่างชิตว่าหลวงตาสมหมายท่านเดินทางมากิจนิมนต์ที่กรุงเทพฯ วันที่ 20-21 ที่ผ่านมา ผมเองก็ได้ติดต่อคุยกับพี่ช่างชิตไว้ว่าจะต้องไปกราบทำบุญกับหลวงตาให้ได้ เพราะอยากกราบท่านมานานแล้ว แต่ก็ต้องมีเหตุที่เกือบจะทำให้ไม่ได้ไปกราบท่านครับ คือเมื่อวานต้องพาพ่อตาไปหาหมอที่ศูนย์แพทย์ช่วงเวลา 12.00-15.00 น. ระหว่างที่รอก็ติดต่อกับพี่ช่างชิตตลอดว่าหลวงปู่ท่านจะเดินทางกลับกี่โมง เพราะท่านต้องเดินทางกลับอุดรธานีด้วยเครื่องบินตอน 5 โมงเย็น แต่ต้องออกจากบ้านพักรับรองไปเช็คอินที่สนามบินประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง ผมก็บอกกับพี่ช่างชิตว่าผมจะอธิษฐานขอให้พ่อตาตรวจเสร็จเร็วๆ เพื่อจะได้ไปกราบหลวงตาให้ได้ แต่เมื่อวานคนที่โรงพยาบาลเยอะมากครับ รอคิวกันยาวเลยพ่อตาตรวจเสร็จประมาณ ประมาณ 14.40 น. ผมก็เกรงว่าจะไม่ทันแน่ๆ เลยบึ่งรถออกจากโรงพยาบาลศูนย์แพทย์ฯ แถวๆ พระรามเก้า ขึ้นทางด่วนไปลง ถ.สุขาภิบาล 5 เพื่อที่จะไปสายไหมให้ทันเวลาได้กราบหลวงตา (รถติดนิดหน่อยตามจังหวะไฟแดงครับ) ใจผมนี่ส่งตรงไปก่อนเลยครับอธิษฐานขอให้ได้กราบหลวงตาด้วยเถิด ผมไปถึงบ้านพักรับรองประมาณ 3 โมงนิดๆ วิ่งเลยบ้านไปในซอยต้องกลับรถมาเสียเวลานิดหน่อย โทรหาชายหนุ่มรูปงามเพื่อถามหาบ้านที่หลวงตาพักอยู่ไหนครับ กลับรถมาเห็นชายหนุ่มรูปงามจิตใจดียืนโบกมือบอกว่าบ้านอยู่หลังนี้ครับ 555 รีบจอดรถหน้าบ้านแล้วพาพ่อตาและคุณภรรยาไปกราบขอพรจากหลวงตาครับ หลวงตาเมตตาถามไถ่ว่าเคยมากราบท่านหรือยัง และถามไถ่อาการของพ่อตาว่าไปหาหมอมาว่าเป็นอะไร พ่อตาบอกว่าไปหาหมอตามาหมอบอกเป็นต้อ หลวงตาท่านก็เมตตาพูดคุยแบบเป็นกันเอง และเล่าเรื่องราวของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เป็นโรคตาต้อนี้ให้ฟังครับ มีองค์หลวงตามหาบัว และหลวงปู่บุญจันทร์ครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ..........ช่วงเวลาประมาณ 30 นาที ได้ธรรมะกับหลวงตาเยอะมากครับ (พี่ชิตมาช่วยน้องเล่าด้วยเด้อ จำได้ไม่หมด555)

    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/y2YYCEOKd9hrCnPV" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/efa/FFRn6V.jpg" /></a>
    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/y2YYE4Jtlpq1pYTL" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/7d1/MeRNY5.jpg" /></a>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2014
  19. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    ต่อนะครับ.... หลวงตาท่านได้เล่าเรื่องราวของพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่บุญจันทร์ และหลวงตามหาบัวให้ฟังว่า... หลวงตามหาบัวตาดวงตาของท่านก็เป็นต้อกระจกเหมือนกันแต่ลูกศิษย์ที่เป็นหมอตรวจพบและได้ถวายการรักษาเปลี่ยนเลนส์ให้หลวงตามหาบัวทำให้สายตาของหลวงตามหาบัวมีความคมชัดแม้จะอายุ 90 กว่าก็ไม่ต้องใส่แว่นตาสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ส่วนหลวงปู่บุญจันทร์ท่านก็ตาเป็นต้อเหมือนกันแต่รู้สึกว่าจะเป็นต้อหิน ซึ่งในตอนที่หลวงปู่บุญจันทร์มีอาการท่านก็ได้ให้หมอตรวจดูแต่หมอกลับวินิจฉัยว่าเป็นพระหลวงปู่ท่านฉันยารักษาโรค.....(โรคอะไรสักอย่างจำไม่ได้ครับ) เป็นเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้สายตาหลวงปู่บุญจันทร์มีอาการมองเห็นเป็นภาพสีต่างๆ จึงไม่ได้รับการรักษาดวงตา จนกระทั้งท่านเสียดวงตาหลังจากนั้น หลวงตาสมหมายบอกว่าทั้งๆที่ตอนตรวจนั้นท่านตรวจที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีหมอเก่งๆ หลายคน หลวงตาสมหมายได้เมตตาเล่าต่อให้ฟังว่า หลวงปู่บุญจันทร์เคยได้เล่าให้ฟังว่าท่านนิมิตเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับกรรมเก่าของท่านว่า ในอดีตหลวงปู่บุญจันทร์เคยไปดูเค้าชนไก่ที่สนามไก่ชน เหมือนกับไปร่วมเชียร์กับเค้าด้วย ไก่ก็ชนกันไปเรื่อยจนถึงจังหวะที่ไก่อีกตัวถูกคู่ต่อสู้ตีเข้าที่ตา ทำให้ตาแตก ในจังหวะนั้นหลวงปู่บุญจันทร์ท่านบอกว่าไก่ที่ถูกตีตาได้จ้องมองมาที่ท่านด้วยสายตาที่เจ็บปวดเหมือนแค้นด้วย แต่จิตของท่านในขณะนั้นคือมีความยินดีกับไก่อีกข้างที่กำลังจะชนะ (ท่านว่าเป็นอารมณ์จิตที่มีความยินดีไปกะเค้า) จึงทำให้ภาพชาตินี้ท่านได้ชดใช้กรรมอันนั้นไปคือดวงตาของท่านเสียหนึ่งข้าง ทั้งๆ ที่ก่อนดวงตาของจะเสียท่านอยู่กับหมอ แต่ด้วยเหตุแห่งกรรมนั้นทำให้หมอวินิจฉัยไม่เจออาการ และไม่สามารถรักษาได้ เป็นเพราะกรรมบังตาไม่ให้หมอพบเห็นอาการของหลวงปู่บุญจันทร์ (เรื่องราวของกรรมเก่าประมาณนี้ครับ)
     
  20. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    หลังจากฟังเรื่องราวของกรรมที่หลวงตาท่านเล่าให้ฟังแล้ว ผมได้กราบเพื่อขอให้หลวงตาให้พรผมกับครอบครัวด้วยครับ เพราะว่าผมเพิ่งแต่งงานอยากจะให้หลวงตาให้พรหน่อย หลวงตาท่านได้กล่าวว่าธรรมะคือการให้พร ท่านเลยยกเอา "ฆารวาสธรรม 4" คือ ธรรมของผู้ครองเรือน มาแสดงสั่งสอนให้ผมและครอบครัวฟัง หลวงตาท่านสอนให้เราตั้งมั่นอยู่ในธรรมทั้ง 4 คือ 1.ขันติ ให้ตั้งมั่นมีความอดทนต่อกันและกัน เพราะปัจจุบันต้องใช้ชีวิตคู่ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วต้องมีความอดทนต่อกันให้มาก 2. ทมะ ให้รู้จักข่มจิตข่มใจ รักษาจิตใจให้มั่นคงในชีวิตครอบครัว 3.จาคะ คือความเสียสละ ต้องรู้จักเสียสละสิ่งต่างๆ ต่อกันให้เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และข้อสุดท้ายที่หลวงตาท่านเน้นให้ยึดมั่นก็คือ 4. สัจจะ ให้มีสัจจะมีความซื่อสัตย์ต่อกัน และสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหลวงตาท่านบอกให้หมั่นภาวนาให้มาก ให้รู้จักพุทโธ ให้มีสติระลึกถึงภาวนาให้มาก ก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์มาแจ้งหลวงหลวงตารีบออกเดินทางไปสนามบินเพราะว่า เมื่อวานมีขบวนฉลองแชมป์ฟุตบอลที่สนามบินรถติดมาก กลัวว่าหลวงตาจะตกเครื่องเช็คอินไม่ทัน ผมและครอบครัวก็ได้รับพรจากหลวงตาและกราบลาท่าน เพื่อให้ท่านได้เตรียมตัวเพื่อเดินทางกลับอุดรฯ ครับ

    ขอบคุณพี่ช่างชิต "พี่ชายหนุ่มหล่อจิตใจดี" มากๆนะครับ ที่คอยแจ้งสถานการณ์และช่วยลุ้นเอาใจช่วยให้ผมได้ไปกราบหลวงตาให้ทัน สุดท้ายก็สมหวังได้กราบทำบุญกับหลวงตา อิ่มบุญอิ่มใจกันทุกคน เสียดายถ้าเวลาเหมาะสมกว่านี้คงได้รับธรรมะจากท่านมากกว่านี้ครับ โอกาศหน้าพี่ช่างชิตอย่าลืมชวนน้องนะครับ (ขอบอกว่าเฮียแก ฟิตมากๆครับ ปั่นจักรยานไป-กลับเพื่อไปหาหลวงตา น่าจะเกิน 40 กิโลเมตรไหมครับ สุดยอด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...