ชมภาพและความรู้อิทธิพลังของโป่งข่าม-หินแก้วกายสิทธิ์

<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลักการดู และ เลือกแก้วโป่งข่าม

สำหรับผู้ที่จะซื้อแก้ว ๓ ประการ

๑. พิจารณาแก้ว
๒. พิจารณาดูสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว
๓. พิจารณาดูศิลปลวดลาย

การพิจารณาแก้ว
พิจารณาตั้งแต่หน้าแก้ว(บนแก้ว) ในแก้ว(กลางแก้ว) และพื้นแก้ว(ก้นแก้ว) ว่าโดยลักษณะน้ำแก้ว เป็นชนิดดีมาก? ดีปานกลาง? หรือว่าไม่สู้ดี?

ดูว่ามีตำหนิหรือไม่ ถ้ามีรอยประกายแซกอยู่ ลองหมุนดูรอบๆ
หากเป็นประกายรุ้ง ๗ สี มีวาว ขาวๆดำๆ เหลือบกันในขณะหมุนดูรอบๆ ก็แสดงว่าเป็นแก้วร้าว

แก้วที่ใสบริสุทธิ์ เรียกว่าแก้วน้ำหาย
วิธีทดลอง โดยการนำแช่ลงในน้ำใส จะเห็นแต่ขอบแก้ว
น้ำแก้วและน้ำใสจะเป็นอันเดียวกัน แก้วน้ำหายมีคุณสมบัติเช่น
เลนส์กล้องถ่ายรูป เพราะเป็นสิ่งที่นำไปทำเลนสได้ เวลานำมาส่อง
จนทะลุ จะเห็นเงาหัวกลับ แทนแว่นขยายได้ มีความแข็งกว่าแก้วกระจก
คือกรีดกระจกได้ (หินแก้วแข็ง ๗ กระจกธรรมดา แข็ง ๓.๕-๕.๕)

แก้วดีมีตำหนิ อาจจะมีราคาสู้แก้วปานกลางแต่ไม่มีตำหนิไม่ได้
หากแก้วมีตำหนิ โดยส่วนมีตำหนินั้นอยู่ในแก้ว ไม่ทะลุออกมาถึงหน้าแก้ว ก็จัดว่าดีกว่าแก้วที่มีตำหนิทะลุขึ้นมาหน้าแก้ว

<!-- / message --><!-- sig -->

 

การพิจารณาสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว

พิจารณาดูว่า สิ่งที่มีอยู่ในแก้ว มีอะไรบ้าง
มีกี่อย่าง เช่นพวกปวก กาบ ใย สลัก ช่อ หรือเส้นต่างๆ
ลวดลายของแก้ว หรือลวดลายอันเกิดจากแร่สหชาติ
ถ้าเป็นแก้วเข้าแก้ว พิจารณาว่าเป็นแก้วชนิดใดบ้าง
แก้วหน่อเง่า หรือแก้วโตน ซึ่งมีราคาผิดกัน

ปวกก็ดี กาบก็ดี ใยต่างๆก็ดี หรือพวกเส้นต่างๆก็ดี
เป็นธรรมชาติของแร่ชนิดต่างๆ ที่เข้าไปผลึกอยู่ภายใน
พวกกาบที่สวยที่สุดคือ พวกกาบที่ตกผลึกเป็นรูปดอกไม้
พวกเส้นต่างๆ นิยมกันทั้งแบบเส้นพุ่มและกอตั้ง หลักเงินหลักทองต่างๆ
ตลอดจนลวดลายเปลวและแพรต่างๆ ตลอดจนลายเส้น
ถ้ามีลักษณะเป็นสี แสดงว่าเป็นแก้วสหชาติกับแร่ต่างสกุล
หากเป็นวาวสะท้อนแบบเส้นแก้ว อาจจะเป็นลายแก้วธรรมดา
หรือสีเหลืองๆ เป็นทางเป็นเส้น คงรสังเกตดูว่า คือตะไคร่อันอยู่ในเส้นแก้วที่เกิดช่องโพรงขึ้นกับเนื้อแก้วหรือไม่


พิจารณาดูศิลปลวดลายประกอบ

แก้วโป่งข่ามบางแก้ว อาจจะมีสิ่งที่มีอยู่ในแก้ว
หลายอย่าง เช่นแก้วสามกษัตริย์ แต่ตำแหน่งและจุดเด่นของสิ่งประกอบต่างๆไม่สู้ดี แม้นว่าจะได้แก้วเนื้อดี สิ่งประกอบดี แต่สิ่งแวดล้อม คือศิลปลวดลายที่ธรรมชาติสร้างให้ ประกอบกับกรรมวิธีตัดเจียระไน
ขาดช่างที่มีศิลปในการพิจารณาเลือกจุดเด่นเข้าไว้ ก็อาจเป็นแก้วที่น่าเสียดายยิ่ง

แก้วบางแก้ว ช่างเจียระไนเข้าใจสรรค์จุดเด่นของสิ่งประกอบในแก้ว เช่นพวกปวกต่างๆ หาทางเจียระไนให้หน้าแก้ว ครอบตามลักษณะจุดเด่น ของปวก กาบ และสลักต่างๆ

สิ่งที่มีอยู่ในแก้วบางอย่าง เป็นแร่ที่มีความแข็งต่ำกว่าหินแก้ว เมื่อพิจารณาดูที่ก้นแก้ว อาจจะเห็นมีรอยอยู่ตามลักษณะผลต่าง และบางทีก็จำต้องมีรอยครั่ง ซึ่งผ่านกรรมวิธีเข้าครั่งเพื่อการเจียระไน
ครั่งดังกล่าวอาจติดกับพวกกาบ พวกปวกต่างๆที่ก้นแก้ว คนเจียระไนไม่กล้าขูดเอาครั่งออกจนเกลี้ยง เพราะเกรงว่าจะทำให้เนื้อแร่ที่ประดับหลุดออกมา เจ้าของแก้วบางรายซื้อไปแล้ว ลองเอาเหล็กเขี่ยๆดู
เห็นแร่ประดับที่มีเนื้ออ่อนกว่าเนื้อแก้ว มักจะหลุดออกเป็นขุยๆ ทำให้เสียของดีไป

ศิลปลวดลายและริ้วสลักต่างๆ อันเกิดแต่ธรรมชาติ ย่อมถือเป็นสิ่งมีค่าสูง เช่นแก้วรุ้ง ๗ สี บางแก้วที่มีลักษณะลวดลายเหมือนจิตรกรรม

<!-- / message --><!-- sig -->

<!-- / message --><!-- sig -->

 

หินแก้ว(บ้านเราเรียกโป่งข่าม) จับเลี่ยมขอบเงิน ประกายปวกทองสะท้อนจนดูเหมือนเลี่ยมทอง

 

กระทู้นี้ของพี่เม้ายืนยงคงกระพันจริงๆครับ ๒ ปีกว่าในการ post สะสมของผู้รักชอบหินสีอัญมณี ทั้งบอกแหล่งที่จะหาได้ ถูก หรือแพงอยู่ที่ความชอบใจของแต่ละคน ผมมีความเห็นว่าพี่เม้าใจดีสุดๆแล้วที่เผยแหล่งที่มา เพื่อนๆหาหิน แต่อย่าคิดว่าหินไม่ได้หาเพื่อน มีซักชิ้นที่ถูกใจ จะวางไม่ลง และติดตัวไปเหมือนเพื่อนที่รู้ใจ..

ผมอยากมอบของมงคลชิ้นหนึ่งให้พี่เม้าในฐานะที่รักชอบหินสีอัญมณีเหมือนกัน และมีเจตนาตั้งใจถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆเป็นวิทยาทาน วัสดุที่ใช้ทำวัตถุมงคลชิ้นนี้เป็นกึ่งหิน กึ่งหยก ที่เซียนรักษาไว้ พี่เม้าช่วยส่ง PM ที่อยู่ให้ผมด้วยนะครับ และช่วยบอกผมด้วยนะครับว่า แรงหรือเปล่า....อิ...อิ...

 

ขออนุโมทนาในความเป็นผู้มีน้ำใจอันดีงามของคุณเพชร ด้วยครับ
ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็ยินดีน้อมรับสิ่งที่คุณเพชร จะมอบให้
เดี๋ยว PM ไปบอกนะครับ

ขอขอบคุณล่วงหน้า มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

เเก้วเเต่ละเม็ดเรียกว่า เเก้วอะไรครับ
เเละเเต่ละชนิด มีพลังทางด้านไหนบ้าง

 

ขอเสริมนิดคะ ตามหลักทางเคมีแล้ว Alabaster ไม่น่าเป็นหยกนะคะ เพราะหยกจริงๆ จะมีแค่ 2 ประเภท คือ Jadeite และ Nephrite ค่ะ ซึ่ง Jadeite จะแพงกว่า

เจไดต์ (Jadeite) จะมีองค์ประกอบทางเคมี คือ โซเดียมอะลูมิเนียมซิลิเกต (NaAl(SiO3)2)
เนฟไฟรต์ (Nephrite) มีองค์ประกอบทางเคมี คือ แคลเซียมแมกนีเซียมซิลิเกต (Calcium magnesium silicate)

แต่ Alabaster ซึ่งนิยมมากใน อียิปต์ สมัยฟาโรห์ ซึ่งน่าจะเป็นแบบเดียวกับของพม่า จะมีองค์ประกอบทางเคมีเป็น หินปูนชนิดหนึ่ง คือเป็น ยิปซิม (CaSO4.2H2O) และ Calcite (CaCO3)

 

ขอถามคุณพี่เม้า ได้ไม๊คะว่า ใน กทม จะหาซื้อ เศษพลอยได้ไม๊คะ และ แพงไม๊คะ

 

ขอบคุณ คุณdragonlord เป็นอย่างยิ่งครับ ที่มาให้ความรู้ในองค์ประกอบทางเคมี นับว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจและกำลังศึกษาไม่น้อย

สำหรับเศษพลอย ผมเคยซื้อมาจากตลาดนัดจตุจักร นานมาแล้วครับ
หากมีเวลาลองไปหาดูนะครับ หรือจะโทรสอบถามคุณนพฤทธิ์ ก็ได้
ราคาเศษพลอยไม่แพงครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นซื้อขายเท่าไหร่เพราะสิบกว่าปีแล้วครับ

 

คุณmr.surin ลองกลับไปดูที่กระทู้หน้าแรกๆ จะมีระบุชนิดหินแก้ว และคุณสมบัติ ทั้งหมดครับ

 

หินธรรมชาติ ขัดผิวให้เห็นด้านใน

 

ขยายใกล้ๆเพื่อให้เห็นชัดๆ

 

หยกพม่าเข้าแหวนแล้วสวยสดงดงามมาก