จิตหลอกลวง

ผมก็มี นะ ผี พรายในโรงแรม คนต่างศาสนาส่งมาด้วย

 

อะ เล่าก่อนเลยครับ เด็กๆรอฟังกัน ผมไม่เล่าบะ

 

ซาตาน เอาใหม่นะ ซาตานเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ...จขกท เขานั่งคุยกะเพื่อนๆ เขา ปวีก้อเป็นเพื่อนเขา อยุ่ๆ ซาตานเดินมาด่าเขา เขาไม่ได้ทำไร ...แล้วตามสันดานซาตานเนี่ยะ ผญ ถ้าเขาไม่ผิดมันก็ไม่สน แถมยกปวีไปเทียบตัวเองว่าอย่างเดียวกัน...แต่คือคนละโหมด แถมนี่ยกพระไตรมา ...ยกมาเพื่อ? ซาตานทำได้ป่ะตามพระไตร อ่อ ไม่...อันนี้เข้าใจที่ปวีพอจะสื่อยัง ผช.อ่ะไปด่าเขาก็ต้องขอโทษ ...แล้วปวีเพื่อนเขา ก้อปกป้องเขา มันโหมดเดียวกะซาตานยังไงหรอ ...เมาตล๊อดๆ

 

คือผมนับถือในความอดทนนะครับและผมไม่รู้หรอกว่าเจ็บขนาดไหน แต่คือผู้ชายไม่เคยมีใครคลอดลูกดังนั้นเขาเดานะฮับ แต่ผมยอมรับว่าผู้หญิงอดทนเก่งจริงครับ

ส่วนเพลงคือเพลงครับ

 

นอนเถอะ นอนสมาธิหรืออะไรก็ทำเถอะ นอกจากพระศาสดาแล้วมีเพียงพระขีณาสพที่ทรงอภิญญาญาณที่ทราบ พระอริยะบุคคลต่ำกว่านั้น ยังไม่มีใครกระทำได้ อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน

อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

1.อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
2.ทิพพโสต มีหูทิพย์
3.เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4.ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5.ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6.อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป
อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอริยบุคคล
ถ้าพบผู้แสดงฤทธิ์ได้ อย่าพึ่งหมายว่าผู้นั้นจะเป็นอริยบุคคล

 

ซาตานมาด่าเขาก่อน เข้าใจยัง เหมือนโพสข้างบน วนแผ่นตลอด

 

ก๊อปเขามาจ้า ของคุณทรงกลด บนกระดานสนทนาวัดบางพระ นะครับ

 

คือผมถามว่าใช่หรือไม่ตามพระไตร ทำไมมายกตัวอย่างว่าไม่เหมือนเพราะ "เป็นเพื่อน" ผมถามว่าใช่ตามพระไตรไหมนะฮับ "แล้วมายกว่าเป็นผู้ชายไปด่าเขาต้องขอโทษ" สำหรับผมคนผิดต้องขอโทษไม่เกี่ยวกับคำว่าผู้ชายเลย "ซึ่งคุณพยายามเลี่ยงให้โดยใช้คำว่าผู้ชาย" "และหากคุณอ่านจริงๆคือประโยคขอโทษที่ไปด่าก่อนนั้นผมได้ขอโทษไปแล้ว" ซึ่งมันเป็นเพราะ "คุณไม่อยากขอโทษผมนั่นแหละ" ผมคุณกลัว และคุณอาย ถ้าไม่ใช่คุณก็ลองขอโทษผมดูครับ

 

ใช่ผมก็บอกแล้วว่าก้อปมาแต่แรกแล้วครับ

 

เชย เขามีแต่ไม่นอน

 

มา ฟังผีในม่านรูด ตอนที่หนึ่ง
วันหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาไปเที่ยวกับแฟน แล้วไปม่านรูดกันต่อ เว็ปธรรมะ เล่าได้ป่าวครับ มันค่อนข้าง......

 

จะให้ผมแคปให้ใหมว่าใครวนแผ่น พอแคปหลักฐานมาก็อ้างว่าดึงโพสท์ น่าอนาถนะครับปวี

 

ว๊าย ปวีต้องขอโทษซาตานเรื่องไร ปวีมาปกป้องเพื่อน ถ้าไม่ปกป้อง จขกท ก็โดนเละดิ แล้วพระไตรยกมาไม ใช่ไม่ใช่ แล้วทำได้ป่ะ

แล้วคำพูดขอโทษ จขกท เอาชัดๆ เลย มาด่าเขาอ่ะ

 

ผมขอโทษที่ความหล่อของผมทำให้พี่ซาตานโมโห

 

วนอีกแระ มรึงเดินหน้าได้ยังวะ มรึงแคปมามึงก็วนอีกนั่นแหล่ะ อายุเท่าไรแล้ววะ

 

น้องปวี พี่ซาตานเขาคงเหงาแบบหาเรื่องมาเพื่อจะสนทนากับน้องปวีก็ได้ พี่สงสัยอีกข้อนะ

 

สันดานมันแบบนี้แหล่ะพี่ เห็นใจในความพยามมัน

 

รู้ได้ไงว่าโดนเละ ผมแทบไม่ได้ตอบเพื่อนคุณเลย มโนนะปวี

ผมขอโทษชัดๆเลยครับถ้าคุณขอโทษผมครับ

 

โห มหากาพย์เลย

 

ข้อความบางตอนจาก อรณวิภังคสูตร

[๖๖๐] ก็ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ไม่พึงกล่าววาทะลับหลัง ไม่พึงกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้า นั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในประการแรกนั้น พึงรู้วาทะลับหลังใด ไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่พึงกล่าววาทะลับหลังนั้นเป็นอันขาด

แม้รู้วาทะลับหลังใดจริงแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ก็พึงสำเหนียกเพื่อจะไม่กล่าววาทะลับหลังนั้น

และรู้วาทะลับหลังใด จริง แท้ ประกอบด้วยประโยชน์ ในเรื่องนั้นพึงเป็นผู้รู้จักกาล เพื่อจะกล่าววาทะลับหลังนั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในประการหลังนั้น พึงรู้คำล่วงเกินต่อหน้าใด ไม่เป็นจริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่พึงกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้านั้นเป็นอันขาด

แม้รู้คำล่วงเกินต่อหน้าใด จริง แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ก็พึงสำเหนียกเพื่อจะไม่กล่าวคำล่วงเกินต่อหน้านั้น

และรู้คำล่วงเกินต่อหน้าใด จริง แท้ ประกอบด้วยประโยชน์ ในเรื่องนั้น พึงเป็นผู้รู้จักกาลเพื่อจะกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้านั้น ข้อที่กล่าวดังนี้ว่า ไม่พึงกล่าววาทะลับหลัง ไม่พึงกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้า นั่น เราอาศัยเนื้อความนี้ กล่าวแล้ว