จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 74 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 62 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
Wittayapon, ภูทยานฌาน2, Survival, watjojoj, urairatvi, newwave1959, tom tana, Dhammanee, บัวบุษกร, พีรวิชช์

โอ๊ะ โอ.... มายังไงเนี่ย
เสือซุ่มเพียบเลย

ซุ่มๆไป จะได้อะไรหรือ
เดินออกมา มาหาธรรม

ธรรมอยู่อย่างนั้น รอเพียงเราเดินเข้าไปหา
วิธีเข้าถึงธรรมมีหลากหลาย
ถ้ามั่นใจว่าอยากได้ธรรม ต้องทำเลยนะ ...อย่ารอ
เพราะคุณ อาจจะไม่มีโอกาสทำ ...

จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

อบรมครั้งต่อไป ... ถึงคิวครูปลื้มแล้วละครับ เตรียมตัวได้เลยครับ
สัมมนานอกสถานที่นั้น ทำได้ครับ ถ้าผมไม่ติดอะไร ผมไปสนับสนุนได้ครับ บอกกล่าวกันมาได้เลย
กลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ จะให้ผมไปช่วย ไม่ต้องเกรงใจนะครับ
ถ้าไม่ติดอะไร ผมไปได้ครับ พร้อมครับ...

เรือลำนี้มันบ้าครับ บ้าทำ เพื่อให้คนเห็นธรรม
เพื่อท่านพ่อ ลูกพร้อม .....

จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 89 คน ( เป็นสมาชิก 11 คน และ บุคคลทั่วไป 78 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
ภูทยานฌาน2, Survival, watjojoj, urairatvi, newwave1959, tom tana, Dhammanee, บัวบุษกร, พีรวิชช์

ใครไปเรียกท่านมาน่ะนั่น
เอ๊า เดินทางกันต่อไป ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ
พวกเขาเดินเฉียดไป เฉียดมา ช่างไม่รู้เลยนะว่า ที่นี่ คือ ที่ไหน
จะมีสักกี่คนที่ปรารถนาพระนิพพาน
ขอเชิญทางนี้เด้อ
เรือครูวิทย์ยังรับไม่อั้น!

 

เป็นเหมือนเค้า....

ท่านเคยมองเห็นคนอื่นใช่ไหม ที่เค้าเป็นอะไรต่างๆนาๆ
แล้วท่านก้อเอามานั่งนึกคิดว่า .... ไอ้นี่มันบ้า ไอ้นี่มันโง่ ไอ้นี้มันปัญญาอ่อน ไอ้นี่มันต๊องส์ ไอ้นี่ .....
มากมายที่จะไปดู ไปคิดถึงเค้า

เราอยากจะบอกว่า ที่เราไปดูเค้า .... สุดท้าย ท่านก้อไม่ต่างจากเค้า
เพราะท่านส่งจิตไปอยู่กับเค้า ...

จิตนะ ออกไปทำไม ส่ายไปทำไม
ออกไป ส่ายไป แล้วได้อะไรขึ้นมา ... ไม่มีอะไรเลยสินะ

สติ นะ สติ ...

สติกับจิต ต้องทำงานร่วมกันนะครับ
จิต เกาะพระไปให้เกิดฌาณ ทำให้ได้ตลอดเวลา
สติ คอยประคองจิต คอยตรวจสอบว่าหลุดจากพระหรือยัง จะได้ดึงจิตกลับมาหาพระ
หรือคอยตรวจสอบสิ่งหระทบที่วิ่งมาหาเรา เพื่อไม่ให้จิตหลงไปกับสิ่งเหล่านั้น จะได้อยู่กับพระตลอดเวลา

ส่วนกายนั้น ปล่อยเค้าไป มันจะยุ่ง จะวุ่นวาย ก้อปล่อยเค้าตรงนั้นไป

จิตเราอยู่กับพระเป็นพอนะครับ


ยิ่งจิตทรงฌาณสูงมากเท่าใด ย่อมมีสภาวะธรรมเกิดขึ้นให้เราได้ทดสอบเสมอว่าเราก้าวหน้าหรือไม่ ...
ยิ่งสูงยิ่งต้องโง่นะ ... อย่าไปฉลาดวิ่งหาคำตอบ ไปหลงกับมัน
มันไม่เที่ยงนะ อย่าไปวิ่งตามมัน ยิ่งสูงยิ่งต้องมีสตินะครับ
โง่ ที่จะอยู่กับพระ ไม่ต้องสงสัย ไม่อยาก .... ทำอย่างเดียว จิตอยู่กับพระเท่านั้น

ครูชี้ทาง ... ต้องฟังครู
ผมยังไม่เคยเห็นแม้สักคนเดียวที่ฟังครูแล้วไม่สำเร็จ
ผู้ฝึกคือคนไขกุญแจ ไม่ใช่ครู เพราะฉะนั้นต้องทำนะ ไม่ทำก้อไม่ได้
คนกินก้อคือคนอิ่ม ไม่มีใครอิ่มแทนใคร
ขอเอาใจช่วยผู้ฝึกทุกท่านครับ
อยากกลับบ้านจริงไหม .... ถ้าอยากอ่านข้างล่างนี้นะ
ผมเคยได้ยินเรื่องเล่านานมาแล้วนะ ... มีครอบครัวนึง ไม่อยากเลี้ยงสุนัขแล้ว
เค้าจึงนำมันไปปล่อยไกลออกไปจากบ้านมากๆ เค้าคิดว่ามันกลับไม่ถูกหรอก
แต่สุดท้าย มันก้อกลับมาอีกครั้งด้วยกายที่สะบักสะบอม ผอมโซ มันทำทุกวิถีทางที่ต้องกลับบ้านให้ได้ ใจมันสู้ เจ้บแค่ไหน หิวแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหน มันสู้ เพราะใจมันเอา ...

เราจะยอมแพ้มันไหม ...

ธรรมจริง มีให้คนทำจริงๆ
อยู่ภายในท่านนั่นแหละ หาให้เจอนะ
ไม่ได้อยู่ข้างนอกเลย ... อยากรู้ก้อเริ่มทำได้แล้วนะ

จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

เข้ามาลงชื่อร่วมงาน 1 คนค่ะ

ปล.จะได้เจอพี่ปลื้มแล้ว ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ

 

เข้ามาอ่านทุกเช้าไม่ผิดหวังเลย...สงสัย อยากรู้อะไร พี่ภูอธิบายให้หมด

(อยู่ที่เราว่าจะทำได้กันแค่ใหน..ให้สมกับเมตตากรุณาของครู)

ต้องมอบเพลงนี้ให้พี่ภู...พี่ คนนี้ พี่มีแต่ให้..ฯลฯ...

 

แป่ววววว
เราทักนิดเดียว หายหมดเลยครับพี่ภู ....
ต๊กใจหมดเลยใช่ป่ะ 5555 ไม่ต้องหาย มาอ่าน มาหาธรรมกันได้ตามสบายครับ ที่นี่ไม่มีหวง มีแต่ให้
แต่อยากได้แบบไหน อยู่ที่ท่านเลือกเอาเอง ไม่มีใครสามารถบังคับท่านได้


แต่ถ้าอยากได้แก่น แต่หาครู ... แล้วเดินมรรคไป ให้สุดทาง
อยากได้เอาไปเป็นความรู้ ก้อตามสบาย ไม่มีปัญหา

ทุกสิ่งอย่างล้วนมีอยู่แล้ว
มีเพียงท่านเท่านั้นจะทำให้เป็นแบบใด ... สุดแต่ใจจะไขว่คว้า


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

เจออย่างเดียวมิได้นะครับ
เดี๋ยวจัดให้จิตบุญ2พี่น้องขึ้นเทศน์ด้วยนะ โทษฐานตัดสินใจช้า 55555555555555

จิตบุญหล่อๆก้อมีเลี้ยววว (ครุลูกพลัง ครูวัฒโจโจ)
จิตบุญจ๋วย ก้อจะได้สู้เค้ามั่ง .. นำโดยครูแนทสุดสวย ครูบัว ครูปลื้ม ...


งานนี้ใครไม่มี น่าเสียลายเจงๆ อิอิ


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

ปล.ท่านครูWatt Chan ไม่มาเหรอครับ อิอิ

 

เห็นด้วยกับพี่อภิชัยครับ

แต่ .....
อ่านสักแต่ว่าอ่าน
ทำสักแต่ว่าทำ

ไม่อ่านด้วยใจ
ทำไม่ถึงจิตถึงใจ
สุดท้ายก้อไม่ได้อะไร
ได้เพียงตัวหนังสือผ่านตา ไม่บังเกิดประโยชน์อันใดเลย

ตรองดูเถิดว่าตอนนี้ท่านทำแบบใด
รู้แล้วปรับ ดีกว่ารู้แล้วหลับตาไม่รู้ไม่ชี้

หลอกใครหลอกได้ แต่สุดท้ายหลอกตัวเองไม่ได้สักที ... เฮ้อออ คนหนอคน


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

ประวัติและการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

สมเด็จองค์ปฐม ท่านเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก ทรงพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขี เนื่องจากพระพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้แล้วมากมายนับได้แสนองค์ ฉะนั้นพระนามของพระองค์จึงซ
้ำกัน โดยเฉพาะพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขี มีด้วยกัน ๕ พระองค์ จึงได้ขนานนามของสมเด็จองค์ปฐมว่า สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ ๑ จึงนับได้ว่า พระพุทธองค์ทรงเป็น สมเด็จองค์ปฐมบรมครู อย่างแท้จริง

สมัยที่พระพุทธองค์ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นคนมีอายุขัยประมาณ ๘ หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี หลังจากผนวชได้ ๒ หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ ๒ หมื่นปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน

พระพุทธองค์ ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษ ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง ทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อ บรรลุพระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษ


● การพบสมเด็จองค์ปฐมครั้งแรก
ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๑ คืนหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนปรากฏขึ้น คือ เห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานทรงยืนสองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้วก็พนมมือ

พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยก้มศีรษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือนเล็ก ๆ หลังคาตํ่า ๆ หากพระพุทธองค์เสด็จเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้นเอง แต่เวลานี้เห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างหน้า หลวงปู่ปาน ท่านบอกว่า

“คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา”

อีกประมาณ ๕ นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าอีกองค์ รูปร่างท่านใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูปของปางพระนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ก้มศีรษะแสดงความเคารพ พอพระองค์เดินไปถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทรงตรัสว่า

“ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า… ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน”

พระพุทธองค์ ก็เลยนั่งบนหัวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แล้วทรงตรัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า

“นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนพระกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมก็ดี บอกฉันก่อน ฉันจะให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น”

เป็นอันว่าเมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์ก็ดี สอนพระกรรมฐานก็ดี สอนธรรมก็ดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่เคยได้พูดตามใจคิดเลย เป็นเพราะพระพุทธองค์ท่านดลใจให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด และแนะนำธรรม ซึ่งบางครั้ง อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน เพราะพระพุทธองค์ ท่านอาจจี้จุดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่บางคนอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็คิดว่า เมื่อพระพุทธองค์ท่านมีบุญคุณอย่างนี้ จึงคิดที่จะหล่อรูปของท่าน

ต่อมาเมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนาสมเด็จองค์ปฐม ขอพบ พระพุทธองค์ท่านก็ปรากฏให้เห็น ทรวดทรงสวยงามมาก หน้าของท่านอิ่ม เหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ทรงยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากไม่บุ๋ม ไม่เหมือนพระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน จะพบว่าช่างเขาปั้นแก้มตรงปากจะบุ๋มลงไป

แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่างสมัยเป็นมนุษย์ และก็เปลี่ยนมาเป็นปางพระนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์ จะให้ปั้นแบบไหน จะให้ปั้นปางพระนิพพานหรือมนุษย์

พระพุทธองค์บอกว่า ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน พระพุทธองค์ทรงแสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับพระพุทธรูป และมีเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้น ไม่เหมือนกับรูปจริงของท่าน แต่พระองค์ท่านต้องการให้ปั้นแบบที่ท่านต้องการ

พระพุทธองค์ได้มาแสดงภาพ ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อดูถึง ๓ วัน ติด ๆ กัน วันละประมาณ ๑ ชั่วโมง พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ได้ดูอย่างละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่างเขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน จึงได้ขอบารมีพระองค์ท่าน เวลาช่างปั้น ขอได้โปรดดลใจ ให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์ พระองค์ท่านก็ยอมรับ


※ คัดย่อจาก หนังสือ มรดกของพ่อ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดจันทาราม(วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี
Photo: ● ประวัติและการสร้างสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง) สมเด็จองค์ปฐม ท่านเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก ทรงพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขี เนื่องจากพระพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้แล้วมากมายนับได้แสนองค์ ฉะนั้นพระนามของพระองค์จึงซ้ำกัน โดยเฉพาะพระนาม สมเด็จพระพุทธสิกขี มีด้วยกัน ๕ พระองค์ จึงได้ขนานนามของสมเด็จองค์ปฐมว่า สมเด็จพระพุทธสิกขีที่ ๑ จึงนับได้ว่า พระพุทธองค์ทรงเป็น สมเด็จองค์ปฐมบรมครู อย่างแท้จริง สมัยที่พระพุทธองค์ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นคนมีอายุขัยประมาณ ๘ หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี หลังจากผนวชได้ ๒ หมื่นปี จึงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงโปรดเวไนยสัตว์ ประมาณ ๒ หมื่นปี จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธองค์ ทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษ ในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง ทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษ ● การพบสมเด็จองค์ปฐมครั้งแรก ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๑ คืนหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนปรากฏขึ้น คือ เห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานทรงยืนสองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้วก็พนมมือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยก้มศีรษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือนเล็ก ๆ หลังคาตํ่า ๆ หากพระพุทธองค์เสด็จเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้นเอง แต่เวลานี้เห็นพระพุทธเจ้ายืนพนมมือ เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างหน้า หลวงปู่ปาน ท่านบอกว่า “คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา” อีกประมาณ ๕ นาที ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าอีกองค์ รูปร่างท่านใหญ่โตมาก สูงมาก มาในรูปของปางพระนิพพาน เดินมาระหว่างช่องกลาง พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ก้มศีรษะแสดงความเคารพ พอพระองค์เดินไปถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทรงตรัสว่า “ข้าจะนั่งที่ไหนหว่า… ในเมื่อไม่มีที่นั่ง ข้าก็เอาหัวแกเป็นแท่นก็แล้วกัน” พระพุทธองค์ ก็เลยนั่งบนหัวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แล้วทรงตรัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า “นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก่อนที่แกจะสอนพระกรรมฐานก็ดี จะพูดธรรมก็ดี บอกฉันก่อน ฉันจะให้พูดตอนไหน จะให้เทศน์ตอนไหน ให้ว่าตามนั้น” เป็นอันว่าเมื่อใดก็ตาม ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเทศน์ก็ดี สอนพระกรรมฐานก็ดี สอนธรรมก็ดี พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไม่เคยได้พูดตามใจคิดเลย เป็นเพราะพระพุทธองค์ท่านดลใจให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูด และแนะนำธรรม ซึ่งบางครั้ง อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน เพราะพระพุทธองค์ ท่านอาจจี้จุดเฉพาะคนใดคนหนึ่ง แต่บางคนอาจจะไม่ถูกใจก็ได้ นี่เป็นเรื่องธรรมดา พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็คิดว่า เมื่อพระพุทธองค์ท่านมีบุญคุณอย่างนี้ จึงคิดที่จะหล่อรูปของท่าน ต่อมาเมื่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เจริญพระกรรมฐานแล้ว จึงได้อาราธนาสมเด็จองค์ปฐม ขอพบ พระพุทธองค์ท่านก็ปรากฏให้เห็น ทรวดทรงสวยงามมาก หน้าของท่านอิ่ม เหมือนรูปไข่ แก้มอิ่ม ทรงยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากไม่บุ๋ม ไม่เหมือนพระพุทธเจ้าที่เขาปั้นกัน จะพบว่าช่างเขาปั้นแก้มตรงปากจะบุ๋มลงไป แล้วสมเด็จองค์ปฐม ก็แสดงรูปร่างสมัยเป็นมนุษย์ และก็เปลี่ยนมาเป็นปางพระนิพพาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ก็ถามว่า ถ้าจะปั้นรูปของพระองค์ จะให้ปั้นแบบไหน จะให้ปั้นปางพระนิพพานหรือมนุษย์ พระพุทธองค์บอกว่า ให้ปั้นแบบนี้ก็แล้วกัน พระพุทธองค์ทรงแสดงภาพให้ดู เป็นเหมือนกับพระพุทธรูป และมีเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราช รูปที่ทรงให้ปั้น ไม่เหมือนกับรูปจริงของท่าน แต่พระองค์ท่านต้องการให้ปั้นแบบที่ท่านต้องการ พระพุทธองค์ได้มาแสดงภาพ ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อดูถึง ๓ วัน ติด ๆ กัน วันละประมาณ ๑ ชั่วโมง พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ได้ดูอย่างละเอียด แต่ก็คิดในใจว่า ช่างเขาปั้น แต่เขาไม่เห็นภาพ เขาจะปั้นได้ไม่เหมือน จึงได้ขอบารมีพระองค์ท่าน เวลาช่างปั้น ขอได้โปรดดลใจ ให้เป็นไปตามพระพุทธประสงค์ พระองค์ท่านก็ยอมรับ ※ คัดย่อจาก หนังสือ มรดกของพ่อ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี

 

Updateรายชื่อ 6พย55 ครับ ...

การสัมมนา จิตเกาะพระสัญจร(รุ่นพิเศษ)
และ รวมรุ่น จิตบุญสัมพันธ์ ครั้งที่1


วันที่อบรม 17 พย 2555
สถานที่ โรงแรม เอเชีย ปทุมวัน (ห้องกิ่งเพชร ชั้น3 มีทางเชื่อมต่อจากอาคารจอดรถ)
เวลา ตั้งแต่ 9.30 - 18.00 น.

9.30 .. ลงทะเบียน เข้างาน พร้อม รับ Coffee
10.00... เริ่มสัมมนา
12.00... พักทานอาหารกลางวัน
13.30.. สัมมนาภาคบ่าย
15.30... Coffee Break
15.50 ...สัมมนาภาคบ่าย (ต่อ)
17.00 ...จบการสัมมนา
18.00.... คุยกันฉันท์ พี่น้อง
ปิดการสัมมนา

Confirm :
1.จิตบุญครูแนท UK
2.จิตบุญคุณแม่สุมาลี
3.จิตบุญครูลูกพลัง
4.จิตบุญครูนิวเวฟ
5.จิตบุญครูน้องหนู
6.จิตบุญครูเมิล
7.จิตบุญท่านก้องเกียรติ
8/9. จิตบุญครูวัฒโจโจ+คนรู้จิต(ว่าที่ห่วง)
10/11/12. จิตบุญครูหนุ่ม+จิตบุญครูจุ๋ม+จิตบุญน้องนิว
13/14. จิตบุญแป้ง+เพื่อนแป้ง
15/16/17/18.จิตบุญพี่ศรี/จิตบุญพี่ไก่/เพื่อน2คน
19/20/21.จิตบุญพี่พอใจ/ลูกชาย/ลูกสาว
22.จิตบุญเมธญา
23/24/25/26. จิตบุญพี่วันดี/จิตเกาะพระป๋อมแป๋ม/สมาชิกใหม่2ท่าน
27/28/29.จิตบุญ๑๐๑ พี่อภิชัย + คุณพ่ออุดร+คุณแมภิรมย์(พ่อแม่พี่อภิชัย)
30.จิตบุญพี่ตรี จบ.๙๗
31/32/33/34.จิตบุญครูปลื้ม+ลูกสาว+ลูกชาย+เพื่อนลูกชาย
35/36/37/38.จิตบุญคุณผึ้ง/สามี/ลูก2คน
39/40.จิตบุญพี่พิม/สามี
41/42.จิตบุญพี่แสงจันทร/ลูก1คน
43.จิตบุญครูบัว
44.จิตบุญครู Watt chan
45.จิตเกาะพระพี่น้อง
46/47/48.คุณกุ้ง และลูกๆอีกสอง
49.คุณแตน ระยอง(สายแม่ต้อย)
50/51.จิตเกาะพระน้องแหม่ม(ใหม่กิ๊ก)+เพื่อน
52.จิตเกาะพระพี่เปิ้ล(สายครูปุ๋ม)
53.คุณอ้อม(สายครูลินดา)
54/55.คุณตุ้ม/คุณเล็ก(สายครูหนุ่ม)
56.คุณจ๋าย(สายครูเพ็ญ,ครูนกชาย,ครูนอร์ท)
57/58.ลูกศิษย์พระอาจารย์ชัชวาล
59.คุณสุชาดา(สายครูเพ็ญ/ครูอุษาวดี/ครูบุษย์/ครูนอร์ท)
60.คุณเซ้ง
61.คุณโป้ง(สายครูป้อม)
62.คุณปุ๊
63.คุณฐิติมา
64.คุณVietnam(สายครูวัฒโจโจ)
65/66/67/68.สายบุญของครูพี่แนท

ส่วนที่กำลังลุ้น
1.ครูลูกหว้า
2.จิตบุญน้องฝน


คุณครูท่านใดจะส่งลูกศิษย์ขอให้แจ้งมาที่ผมนะครับ

ฟรีนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

..อิทธิพลของสมาธิ...(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)

ขณะใดที่เราภาวนา แล้วจิตของเราสงบ นิ่ง สว่าง
หรือไปรู้สึกนิ่งแจ่มๆ อยู่ในจิตในใจก็ตาม

นั่นแสดงว่า จิตใต้สำนึกของเรากำลังเริ่มตื่นขึ้นแล้ว
ทีนี้เมื่อเราฝึกต่อเนื่องกันทุกวัน จนคล่องชำนิชำนาญ
เราสามารถทำจิตให้สงบได้ ตามที่เราต้องการ

เมื่อจิตสงบลงนิดหน่อย
เราจะน้อมไปใช้ประโยชน์ในทางไหนก็ได้

อยากจะเป็นหมอรักษาคนไข้
ก็สำรวมจิต อธิษฐานแผ่เมตตาให้คนไข้
แม้เพื่อนฝูงของเราเจ็บไข้ อยู่ในที่ห่างไกล
เรานั่งสมาธิสำรวมจิต แล้วอธิษฐานจิตแผ่เมตตา
ให้เพื่อนของเราที่กำลังป่วยไข้ ก็สามารถที่จะหายได้

 

วิธีพิสูจน์จิต (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

การฝึกหัดเบื้องต้นโดยมากก็มักถูกกับกรรมฐาน บทอานาปานสติ คือ กำหนดลมหายใจเข้าออก

โดยมีสติกำกับรักษาจิตอย่าให้เผลอในขณะที่ทำ ทำใจให้รู้อยู่กับลมเข้าลมออกเท่านั้น ไม่คาดหมายผลที่จะพึงได้รับมีความสงบเป็นต้น ทำความรู้สึกอยู่กับลมเข้า ลมออกธรรมดา

อย่าเกร็งตัวเกร็งใจจนเกินไป จะเป็นการกระเทือนสุขภาพทางกายให้รู้สึกเจ็บนั้นปวดนี้ โดยหาสาเหตุไม่เจอ ซึ่งความจริงสาเหตุก็คือการเกร็งตัวเกร็งใจจนเกินไปนั่นเอง

ควรมีสติรับรู้อยู่ธรรมดา ใจเมื่อได้รับการรักษาด้วยสติจะค่อยๆ สงบลง ลมก็ค่อยละเอียดไปตามใจที่สงบตัวลง ยิ่งกว่านั้นใจก็สงบจริงๆ ลมหายใจขณะที่จิตละเอียดจะปรากฏว่าละเอียดอ่อนที่สุด จนบางครั้งปรากฏว่าลมหายไป คือลมไม่มีในความรู้สึกเลย ตอนนี้จะทำให้นักภาวนาตกใจกลัวจะตายเพราะลมหายใจไม่มี

เพื่อแก้ความกลัวนั้น ควรทำความรู้สึกว่า แม้ลมจะหายไปก็ตาม เมื่อจิตคือผู้รู้ยังครองร่างอยู่ ถึงอย่างไรจะไม่ตายแน่นอน ไม่ต้องกลัว อันเป็นเหตุเขย่าใจตัวเองให้ถอนขึ้นจากความละเอียดมาเป็นจิตธรรมดา ลมหายใจธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความเสียใจในภายหลัง

ถ้ากำหนดเฉพาะลมหายใจเป็นอารมณ์อย่างเดียวไม่สนิทใจ จะตามด้วยการบริกรรมพุทโธ ก็ได้ไม่ผิด ผู้ชอบบริกรรมเฉพาะธรรมบทใดบทหนึ่ง เช่น พุทโธ ก็ได้ตามอัธยาศัยชอบไม่ขัดแย้งกัน สำคัญที่ให้เหมาะกับจริต และขณะภาวนาขอให้มีสติรักษา อย่าปล่อยให้ใจส่งไปตามอารมณ์ต่างๆ ก็เป็นอันถูกต้องในการภาวนา

คำว่า จิตใจ มโน หรือผู้รู้เป็นอันเดียวกัน คือเป็นไวพจน์ของกันและกัน ใช้แทนกันได้ เช่น กิน-รับประทานเป็นต้น เป็นความหมายอันเดียวกันใช้แทนกันได้ ตามปกติใจเป็นสิ่งละเอียดมากยากจะจับตัวจริงได้ ใจเป็นประเภทหนึ่งต่างหากจากร่างกายทุกส่วน

แม้อาศัยกันอยู่ก็มิได้เป็นอันเดียวกัน ร่างกายที่ตั้งอยู่ได้ย่อมขึ้นอยู่กับใจเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าใจออกจากร่างไปเมื่อใดร่างกายก็หมดความหมายลงทันที โลกเรียกว่าตาย แต่ความรู้คือใจนี้ต้องไม่ตายไปด้วยร่างกายที่สลายตัวไป

เมื่ออยากทราบความจริงจากใจ จำต้องมีเครื่องมือพิสูจน์ เครื่องมือพิสูจน์ใจได้แก่ธรรมเท่านั้น นอกนั้นไม่มีสิ่งใดจะสามารถพิสูจน์ได้ การภาวนาเป็นการพิสูจน์ใจโดยตรง ผู้มีสติดีมีความเพียรมาก มีทางพิสูจน์ความจริงของใจให้เห็นชัดเจนได้เร็วยิ่งขึ้นผิดธรรมดา

คำว่าเครื่องมือคือธรรมนั้น โปรดทราบว่า ส่วนใหญ่คือสติปัฏฐาน ๔ และสัจธรรม ๔ เป็นต้น ส่วนย่อยแต่จำเป็นทั้งในขั้นเริ่มแรกและขั้นต่อไป ได้แก่อานาปานสติ หรือพุทโธ เป็นต้น เป็นบทๆ ไป ที่ผู้ภาวนานำมากำกับใจแต่ละบทละบาท เรียกว่าเครื่องมือพิสูจน์ใจทั้งสิ้น

เมื่อใจพร้อมกับเครื่องมือคือธรรมบทต่างๆ ได้รวมกันเข้าเป็นคำภาวนา มีสติเป็นผู้ควบคุมให้ระลึกรู้อยู่กับลมหายใจ หรือธรรมบทใดก็ตามโดยสม่ำเสมอ ไม่ให้จิตเผลอออกไปสู่อารมณ์ภายนอก

ไม่นานกระแสของใจที่เคยสร้างอยู่กับอารมณ์ต่างๆ จะค่อยรวมตัวเข้ามาสู่จุดเดียว คือที่กำลังทำงานโดยเฉพาะได้แก่คำภาวนา ความรู้จะค่อยๆ เด่นขึ้นในจุดนั้น และแสดงผลเป็นความสงบสุขขึ้นมาให้รู้เห็นได้อย่างชัดเจน

 

อ่านของใครก็ไม่ถูกใจเท่าของคุณวัฒน์ ช่วงนี้ท่านพ่อส่งพลังลงมาเยอะค่ะ เพื่อให้พี่เพ็ญทำหน้าที่นี้ ตะล่อมจิตบุญกลับนิพพาน งงไหม ๆ ตอนนี้ยังไม่เหนื่อยเท่าไร แต่จบกิจแล้วไม่แน่ ฮ่า ๆ แต่ว่าคนที่ไปตั้งคำถามเห็นมีแต่อินทรีย์แก่ทั้งนั้นเลย อินทรีย์อ่อนหายไปไหนหมดเนี่ย สงสัยกลัวครูเพ็ญตีก็เลยไม่กล้าตั้งคำถาม มาเถอะมาให้ครูเพ็ญตีอินทรีย์ก็จะได้แก่ ๆ กันไง หมายถึงอินทรีย์ห้า(ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา)นะ ไม่ใช่อินทรีย์ขันธ์ห้า อินทรีย์ขันธ์ห้าตัวใครตัวมันดูแลกันเองนะจ๊ะ

เมื่อกี้เห็นแว้บๆ พี่ภูบ่นอะไรถึงเราเนี่ย สัญญาดับจำไม่ได้เลี้ยว

อ้อ นึกออกแล้ว จิตบุญอินทรีย์อ่อนบางท่านไม่สะดวกใช้เน็ต ก็ซ้อมจิตซ่อมจิตกันเองไปพลางก่อนนะคะ รอครูวิทย์เปิดอบรมจิตบุญเมื่อไรค่อยมาพบปะกันก็ได้ค่ะ แต่อบรมจิตบุญขอไม่ต่ำกว่า 3 วันนะคะครูวิทย์ พี่เพ็ญเหมารอบคนเดียวเลย 55555555555555

 

วันหนึ่งในชาตินี้ต้องพ้นทุกข์ให้ได้ จึงจะสมเป็นลูกของพระพุทธเจ้า

 

เห็นใครบ่นว่าไม่รู้จักสมเด็จองค์ปฐม(ขออภัยพี่เพ็ญสัญญาดับอ่านจบแล้วก็ดับเลย จริ๊งๆ) ครูวิทย์สำเนาเรื่อง(ก็อบปี้)ที่พี่ต้อยนำมาลงให้ดูไปแจกในงานก็ได้ค่ะ ท่านที่ยังไม่รู้จักก็จะได้ทราบว่าสมเด็จพ่อองค์ปฐมคือใคร อะไร ๆ ก็ครูวิทย์ ครูวิทย์จะให้ใครช่วยอะไรก็บอกกล่าวกันไปนะคะ อย่าไปรับเหมาอยู่คนเดียวนะ เดี๋ยวจะเหนื่อยเกินไป พอถึงวันงานเดี๋ยวไม่มีแรงพร่ำ

 

ครูวิทย์คะพี่เพิ่ม 2ท่านลูกชายและเพื่อนคะ

เรื่องบรรยายขอนั่งชิมลางก่อนนะคะ กลัวยังเจ๊งไม่พอ อิอิ ครูบัวว่าไงพี่ว่าด้วย ดีใจสุดๆจะได้เห็นครูบัว ตัวเป็นๆสักที

ส่วนเรื่องสัมนาครั้งหน้า ยังไงครูวิทย์ต้องเป็นหัวเรือนำอยู่ดีคะ ยกหน้าที่พนักงานต้อนรับและเสริฟนำ้เป็นของพี่ อิอิ ต้องเร่งบ้านน้อยที่เขาใหญ่แล้ว(^o^)

ฝากถึงลูกศิษย์ติดต่อกลับด่วน ครูคิดถึงเหลือเกิน ทราบแล้วเปลี่ยน!!!!!

 

พี่วิทย์ครับ วันที่17 ขอเพิ่มชื่อน้อง Vietnam อีกคนครับ พอดีรู้จักกันจากการไปร่วมบุญกันหลายทริป เลยลองให้น้องมาอ่านดูแล้วน้องเขาสนใจดี ก็เลยชวนมาครับ

 

สวัสดีครับ พอดีได้อ่านเรื่องจิตติดพระของคุณ survival เลยเข้ามาติดตามที่กระทู้นี้ครับ สนใจอยากฝึกบ้าง อยากจะขอคำแนะนำครับ ไม่ทราบว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

 

เริ่มก็หาครูเลยครับ แล้วก็ฝึกโลด (ผมโหวต คุณSurvivalเลย เพราะเป็นผู้นำทางมา 555555 )