จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    โอ่ย วันนี้จิตมันออกมายังไงเนี่ย ทำไมพลังมันเยอะจัง แต่ 2 วันที่ผ่านมาเหมือนคนใกล้ตาย ฮุ_ฮุ
     
  2. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    เอ่ยชื่ออ.สาทิศ ก็เห็นข่าวท่านสิ้นลมไป ก็ขอให้ท่านจงไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ ขอไว้อาลัยกับท่านด้วยนะครับ
     
  3. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขอให้ท่านจงไปสู่สุขคติเถิด อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้แต่ อ.ก็ยังไม่เที่ยง แล้วศิษย์จะเที่ยงรึ? ถามเองตอบเองนะ.
     
  4. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    ใช่ค่ะพี่วัฒ นกเพิ่งจะทราบข่าวว่าท่านเพิ่งจะเสียชีวิตวันนี้ค่ะ ลูกขออาราธนาพระบารมีของพระรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้ดวงจิตของอาจารย์สาทิส ไปสู่ภพภูมิที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปเทอญ สาธุ

    ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอินทรกำแหงด้วยค่ะ

     
  5. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    เมื่อวานอ่านเจอเรื่องประโยชน์ของโซดา ในหนังสือ
    ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑๓
    รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน

    วันนี้มาเจอคุณนกหญิง post เรื่องนี้ เลยมาร่วมด้วยช่วยเพิ่มค่ะ


    ประโยชน์ของโซดาจืด
    หลวงปู่วัยท่านเมตตาสอนไว้ดังนี้


    ก. โซดาจืดช่วยล้างสารเคมี ที่ตกค้างให้ออกจากกระแสเลือดได้เร็วขึ้น แต่อย่าดื่มพร้อมอาหารจะไม่ได้ผล เพราะจะไปผสมกับอาหารเสียหมด ท่านแนะนำให้ดื่มตอนท้องว่าง สำหรับพระก็ระหว่าง 15.00-18.00น. แต่ห้ามดื่มหลัง 18.00น. กรดโซดาจะกัดกระเพาะอาหาร เพราะตอนนั้นกระเพาะว่างจากอาหารหนัก หากใช้ถูกเวลาจะช่วยล้างสารเคมีที่ตกค้างได้เหมือนกรดกัดสนิมเหล็ก ที่เกาะอยู่ในท่อให้หลุดออกมา แล้วขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ เพียง 2-3 วันก็รู้ผล


    ข. โซดาจืดช่วยทำให้หายสะอึกได้ ช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แต่อย่ากินบ่อยจะเป็นโทษ ถ้าใช้เป็นช่วยได้หลายอย่าง ช่วยล้างปอด-ตับ-ไต ได้ด้วยในปริมาณที่พอสมควร อย่ากินติดต่อกันหลายวัน แค่ 7 วันก็ควรจะเลิกได้

    ps น้ำมะนาวและโซดา มีฤทธิ์เป็นกรด กัดกร่อนฟัน อาจเสียวฟันได้ ถ้าดื่มติดต่อกัน แนะนำให้ใช้หลอดดูด ดูดแล้วกลืนเลย จะได้โดนฟันน้อยที่สุดค่ะ แต่ถ้าท่านใดอยากดูเวทนาจากการเสียวฟัน ก็ดื่มจากแก้วก็ได้ค่ะ อมไว้แล้วค่อยกลืน แล้วจะรู้ว่าเวทนาจากเสียวฟันเป็นจั๋งใด อิอิ (พูดเล่นนะ อย่าไปทำจริง เจ้ากรรมนายเวร อิฉันเยอะอยู่แล้ว ยังไม่อยากเพิ่มปริมาณค่ะ)(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  6. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ขันธ์ป่วยพิจารณาอย่างไร

    จากที่ป่วยมา ถ้าเรายอมรับกฏของธรรมดาว่า
    ขันธ์นี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
    เราก็จะรับ ความจริงเกี่ยวกับการป่วย ของขันธ์ได้พอสมควร คือมีสติอยู่
    จะรักษาอย่างไรก็ทำตามสมควร

    แต่ไม่ใช่ทอดธุระไม่รักษาหรือปล่อยไปตามยถากรรม
    ไม่ต้องไปตี่นเต้น ตกใจ
    ทุกอย่างที่เกิด มีเหตุมีปัจจัยของมัน เป็นไปตามกฏแห่งกรรม
    คงหลบเลี่ยงไม่ได้ คงทำได้แค่
    ขออโหสิกรรมอย่างจริงใจกับเจ้ากรรมนายเวร
    ให้สิ่งที่ต้องรับเบาลงหน่อย 55

    ถ้าเป็นจิตบุญก็คงไม่ยากที่จะแยกกายแยกจิต
    ถ้าต้องผ่านการรักษาที่มีความเสี่่ยงสูงที่จะไปได้ทุกเวลา
    เช่น การผ่าตัดใหญ่
    ก็เตรียมตัวกับตั๋วของท่านให้พร้อม
    ตั๋วคือ ฝึกกำลังใจในการทิ้งขันธ์ ไม่ต้องห่วง อาลัยอะไรในโลกนี้แล้ว
    ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ถึงห่วงไปก็ไม่ได้ทำให้ไม่ตาย ถ้าหมดอายุขัยจริงๆ
    ทิ้งทุกอย่างบนโลกนี้ แม้แต่ขันธ์ของตัวเอง ให้ได้จริงๆ
    แล้วจะรู้สึกว่าง

    พยายาม ทรงอารมณ์พระนิพพาน ให้หมดสติไปพร้อมกับอารมณ์พระนิพพาน
    (กรณีดมยา ผ่าตัดใหญ่)
    จะรู้สึกเป็นสุข สงบ
    ทีนี้มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน

    ที่ว่ามานี้ก็ตามประสบการณ์ของตัวเอง
    ท่านใดมีข้อชี้แนะก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  7. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ช้าก่อนท่านพี่ใหญ่ ... จะกล่าวเช่นนั้นมิได้
    เราสามคนเคยกล่าวร่วมกันไว้ ... จะหนีไปคนเดียวได้อย่างไร เรามิยอม 5555

    พี่ภูเนี่ย แก๊ง เกิ้ง อะไรครับ ... เดี๋ยว DSI จับผมไปสอบในฐานะหัวหน้าแก๊ง ผมซวยเลยนะก้าบบบ

    บอกแล้ว ขอเป็นครูน้อยๆๆ ... คอยรับใช้ท่านพ่อก้อพอเพียงแล้วสำหรับชีวิตที่เหลือครับ


    We will never walk alone...


    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  8. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233

    อิอิ .. อันนี้พี่ภูกล่าวชอบแล้ว 555 ...
    จบ.๑๐๑ และ ๑๑๑ วิทย์ ช๊อบ ชอบ 5555


    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
  9. tuk187

    tuk187 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +1,068
    กลัวฆ้อนของคุณครูเพ็ญ กลัวไม้ตะพดของคุณครูภูค่ะ วันนี้ส่งการบ้านแล้วนะคะ คุณครูยังไม่เช็ดการบ้านให้เลยค่ะ ผิดถูกยังไงบอกลูกศิษย์ด้วยนะคะ เปลี่ยนเสาสัญญานแล้วดีขึ้นมากเลยค่ะ
     
  10. tuk187

    tuk187 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2011
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +1,068
    อ้าว...ทำไมพวกคุณครูป่วยกันเยอะจังคะ หรือเครียดที่ลูกศิษย์ไม่ส่งการบ้านคะ รักษาสุขภาพนะคะ ขอให้คุณครูทุกๆท่านหายไวๆๆค่ะ ลูกศิษย์คนนี้ส่งการบ้านแล้วนะคะ เดี๋ยวจะมีการบ้านส่งตามกันมาอีกค่ะ
     
  11. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    เตรียมตัวก่อนตายเพื่อพระนิ<WBR>พพาน
    ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

    ขอให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใ<WBR>จไว้ว่า เวลาที่เราป่วยไข้ไม่สบาย อย่าลืมกำหนดลมหายใจเข้าออก<WBR> (อานาปานุสสติ) จิตจะคลายจากความเจ็บปวดทุก<WBR>ข์เวทนาได้ ยามปกติจิตอย่าทิ้งอย่าห่าง<WBR>พระนิพพาน (อุปสมานุสสติกรรมฐาน)


    สิ่งที่จะทำให้อารมณ์คลายจา<WBR>กความเจ็บปวดทรมานกายได้อย่<WBR>างวิเศษมี ๓ อย่างคือ
    ๑. กำลังสมาธิ จิตจับลมหายใจเข้าออก ตั้งมั่นในอานาปานุสสติ
    ๒. จิตระลึกถึงพระนิพพานเป็นสุ<WBR>ขอย่างยิ่ง เป็นกำลังตัดความหลง
    ๓. กำลังจิตนึกถึงพระคุณของพระ<WBR>ผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพลังพระพุทธานุภาพ เป็นบุญกุศลใหญ่ โรคภัยหายรวดเร็วไม่ทรมานก่<WBR>อนตาย ถึงเวลาป่วยจริง ๆ ทุกขเวทนามันจะน้อย

    ก็จำไว้ว่าร่างกายมีสภาพไม่<WBR>ดี มันเป็นทุกข์ตลอดเวลา สมบัติที่เราจะได้จากร่างกา<WBR>ยมี


    ๑. ความแก่มาหาเราทุกเวลา
    ๒. อาการหิว เจ็บป่วย ไม่สบายกายใจมีเป็นปกติ
    ๓. ความปรารถนาไม่ค่อยจะสมหวัง<WBR>มีเป็นปกติ
    ๔. ความตายเข้ามาถึงทุกวัน

    ทั้ง ๔ ข้อนี้ถือไว้แต่ตอนต้น ว่ามันเป็นธรรมดาของเรา เมื่อเกิดมาแล้วสิ่งทั้ง ๔ ก็ต้องมีเป็นธรรมดา มันจะพังสลายตายเมื่อไรก็เชิ<WBR>ญพัง พังเมื่อไรฉันขอให้พระนิพพา<WBR>นเมื่อนั้น ถ้าตั้งใจแบบนี้ความเจ็บปวด<WBR>ทุกข์เวทนามันจะน้อย ตั้งใจขึ้นมาอีกหน่อยหนึ่งว่<WBR>า ขึ้นชื่อว่าร่างกายเลว ๆ ไม่ดีอย่างนี้ เราไม่ต้องการมัน จุดที่เราต้องการ คือพระนิพพาน
     
  12. mooda

    mooda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +461
    "ธรรมชาติของจิต เค้าชอบเที่ยว เค้าชอบคิด แล้วเค้าก็หลงด้วย
    หลงขันธ์ห้า หลงความไม่รู้ นี่แหละร้ายกาจที่สุด"

    วาทะธรรม..หลวงพ่อกล้วย
     
  13. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ว่ากันว่าป็นยาผีบอก คัดมาจากตำราของหลวงพ่อจรัญ...

    ให้เอากล้วยน้ำว้าดิบทั้งเปลือก ฝานบางๆ ตากแดดให้แห้งสนิท แล้วป่นให้เป็นแป้ง เวลากินตักครั้งละ ๑ ช้อนคาว ใส่น้ำสุกอุ่นๆ แล้วดื่ม ให้ดื่มบ่อยครั้งที่สุดในแต่ละวัน
     
  14. mooda

    mooda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +461
    เมื่อถึงเวลาร่างกายนี้ก็จะแตกดับ
    แต่จิตดวงนี้ก็จะวนเวียนไปเกิดอีก
    เราทำอย่างไรถึงจะไม่ให้จิตได้ไปเกิดอีก
    วิธีทาง..หนทางพระพุทธองค์ตรัสบอกไว้หมดแล้ว
    ให้เพียรทำกันเอา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 ตุลาคม 2012
  15. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    จุ๋มว่าสูตรที่พวกเราทำกันอยู่นี่แหละค่ะ (จิตเกาะพระ) ดีท๊อกซ์จิต สูตรแท้และดั้งเดิมของสมเด็จพ่อเลยนะคะ:VO
     
  16. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    ยาเทวดารักษาโรคลำไส้เน่า...(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    ...ยาเทวดารักษาโรคลำไส้เน่า...(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

    กรรมฐานนี่ละเอียดอ่อนมาก ถ้าคนมีโรคนะ อาจช่วยให้ทุเลาเบาบางหรืออาจหายได้ อาตมาขอเจริญพรด้วยใจจริง

    เมื่อสมัยก่อนอาตมาป่วยเรื่อย ๓ วันดี ๔ วันไข้ ต้องเข้าโรงพยาบาลไม่พัก ไม่มีความสุขเลยโยมเอ๋ย ตั้งแต่บวชใหม่ ๆ พรรษาแรก เป็นลมหน้ามืดยิ่งกว่าคนแก่อีก

    เดี๋ยวนี้อายุมากแล้ว สบายมาก โรคกายก็ไม่มี โรคใจก็ไม่มีด้วย โรคกายที่มีอยู่เดิมก็หายไปเหมือนปลิดทิ้ง ออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่หลังคอหักมา ๑๕ ปีแล้ว ไม่เคยเข้าไปอีกเลย ปวดหัวตัวร้อนเป็นนิดหน่อยเดี๋ยวก็หาย ตั้งสติสัมปชัญญะไว้มันก็หายไปเอง อาตมาหายได้ด้วยกรรมฐาน

    [​IMG]

    อาตมา เป็นโรคลำไส้ ไปโรงพยาบาลศิริราช หมอบอกว่าพรุ่งนี้ผ่าตัด เขาบอกว่าไส้เน่าไปหลายฟุตแล้ว องค์นี้อยู่ได้อย่างไร ต้องตายแน่ ๆ หมอเขาปรึกษากันที่หน้าห้อง แต่อาตมาได้ยิน

    เอ๊ะ! เราจะตายเสียแล้วหรือ ไหน ๆ จะตายไปตายที่วัดดีกว่า อย่าอยู่ที่โรงพยาบาลเลย

    แหม! โยมเอ๋ย ฉันน้ำเข้าไปหยดเดียวก็ไม่ได้ ตกถึงทิ้งดิ้นเลย ปวดจริง ๆ นะ ปวดท้องอย่างสุดซึ้ง

    ตอนนั้นอาตมานั่งกรรมฐานยังไม่เข้าขั้น พอเป็นพอไป พอมีกิจกรรมกรรมฐานบ้าง ยังไม่หนักแน่นเหมือนสมัยนี้

    เอ! เราจะมาตาย ญาติโยมจะไม่เห็นหน้าเราแล้ว ได้ยินหมอเขาบอกว่าประมาณ ๙.๐๐ น. จะต้องผ่าตัด เราจะต้องหนีออกจากโรงพยาบาลไปตายที่วัด

    ตอนเช้า ๖.๐๐ น. อาตมาตั้งดำรงสติให้ดี

    พอหมด พยาบาลเผลอ เราก็เดินไปเดินมา เขาก็คงจะลืมไปแล้ว เลยขึ้นรถสามล้อตุ๊ก ๆ ไปลงเรือกลับวัด มานอนปวดอยู่ที่วัดต่อไป

    ปวดแสนจะปวด นี่โรคลำไส้โรคกระเพาะอีก เพราะเราฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาก ความวัวยังไม่ทันหาย ความความเข้ามาแทรก ทรมานอย่างที่สุด

    ตอนนั้นเพิ่งมาอยู่ที่วัดอัมพวันใหม่ ๆ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมาเยี่ยม ท่านบอกว่าไหน ๆ จะตายแล้ว ผมจะทำยาถวาย เป็นยาเทวดา

    ท่านผู้พิพากษาเป็นมหาเปรียญเก่าได้เจริญกรรมฐานมาบ้าง เป็นลูกศิษย์เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุ อาตมาเคยแนะแนวปฏิบัติแก่ท่านพอสมควร ชื่อ มหาเทียบ นองบุญนาค เปรียญธรรม ๖ ประโยค เป็นหัวหน้าศาลจังหวัดสิงห์บุรี เดี๋ยวนี้ตายไปแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๐

    ยาเทวดา ใครอยากจำก็จำเอาไป ท่านไปซื้อหม้อดิน เอาเกลือมา ๓ กำ ให้อาตมาจับเกลือกลั้นใจหยิบ ๓ จับไม่ได้หายใจ แล้วเทใส่หม้อ ท่านสอนให้ท่องว่า พุทธัง ปัจจักขามิ ๑ กำ ธัมมัง ปัจจักขามิ อีก ๑ กำ สังฆัง ปัจจักขามิ อีก ๑ กำ แล้วก็ใส่หม้อ แล้วท่านก็บอกว่าผสมกับไข่ขาวไข่ไก่ ๕ ฟอง ไข่แดงไม่เอา ท่านสตุเกลือเรียบร้อยจนละเอียดไปหมดแล้ว ปลงลงมาก็เอาไข่ขาวใส่แล้วก็คนให้เข้ากันท่องคาถา พุทธัง ปัจจักขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ เท่านั้นเอง

    เสร็จเรียบร้อยก็นำมาให้อาตมาฉัน ๑ ช้อนคาว เป็นเหลือป่นสตุ แก้โรคลำไส้เน่า จะตายอยู่แล้ว

    พอใส่ปาก หัวหน้าศาลรีบหนีขึ้นรถจี๊ปบึ่งไปเลย

    โอ้โฮ! โยมเอ๋ย ปวดดิ้นอยู่ในโบสถ์ สลบไป ๓ ชั่วโมง

    พอฟื้นขึ้นมาอาศัยจิตเข้มแข็งจากกรรมฐาน รู้สึกโล่งใจเริ่มฉันน้ำได้บ้าง

    รุ่งเช้าท่านผู้พิพากษามาฟังข่าว บอกว่าที่ผมรีบหนีไปไม่ได้นมัสการลา เพราะกลัวหม้อจะปลิวมาโดนผม

    อย่าลืมเชียวนะชีวิตที่เกิดมาไม่มีอะไรปวดเท่านี้ แต่อาศัยกรรมฐานสู้ไว้ ตั้งแต่นั้นหายวันหายคืนเรื่อยมาจนบัดนี้

    ต่อมาหมอจากศิริราชมีจดหมายมา ถามว่าพระองค์นี้ ชื่อนี้ ตายไปหรือยัง ทำศพไปหรือยัง

    อาตมาก็ตอบไปว่า หายแล้ว หายด้วยยาเทวดา หมอมาถึงที่วัดเลย ขอจดยาไป พอดีแม่ยายหมอเป็นเสียด้วย เลยแม่ยายหมอหายไปอีก ๑ คน ถ้าใครมีกุศลก็จำไป นี่อาตมานึกได้ก็พูดให้โยมฟัง


    ใช้หนี้ไก่

    หลังจากนั้นต่อมาก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล จึงรู้ว่าเวรกรรมของเรามีเวรกรรมครั้งอดีต เมื่อเป็นเด็กนี่เอง จำได้แน่ชัด กรรมฐานบอกว่า ข้าพเจ้าลำไส้เน่า เป็นเพราะเหตุใดหรือ นิมิตบอก สติบอกว่า

    จำได้ไหม ตอนอยู่ชั้นประถมปีที่ ๔ ท่านไปฆ่าไก่ ไก่ยังไม่ตายแหวะท้องเอาไส้ออกมาผูก เอาไส้มันมาแล้วตัดไส้มัน แล้วเอาเข้าใส่ในพุงและปล่อยไก่ไป ไก่มันวิ่งหัวซุกหัวซุน ตายในที่สุด นี่จำได้ไหม

    อาตมาก็รำลึกเหตุการณ์ครั้งอดีตเมื่อเป็นเด็กชั้นประถมปีที่ ๔ ได้ น้ำตำไหลทันที

    แหม! พิโธ่เอ๋ย เราคิดว่าไม่เป็นเวรเป็นกรรมแต่อย่างใด แต่กรรมกลับมาซัดตัวเราเองอย่างนี้ ต่อไปนี้จะไม่ฉันแกงไก่ต่อไปแล้ว

    ตอนเป็นพระเลิกฉันไก่ เลิกฉันเป็ด ฉันห่าน ไม่เอาแล้ว เราฆ่าสัตว์ไหนจะไม่ฉันสัตว์นั้น

    นึกถึงเหตุการณ์ว่า เอาไส้มันมาแล้วก็รีดตัดไส้มันทิ้ง สนุกดี แหม! เสียใจจนบัดนี้นะ เราก็นึกว่า เออ! แผ่เมตตาให้ไก่ทุกวัน ๆ สำไส้เราก็ดีขึ้นจนบัดนี้

    นี่แหละโรคภัยไข้เจ็บ โยมนั่งกรรมฐานให้ดีเถอะ จะรู้ได้ว่ามันเป็นกรรมอะไร มันจะมาจากไหน สาวหาเหตุ มันจะบอกเหตุการณ์ ทั้ง ๆ ที่มันลืมไปแล้ว เมื่อตอนเป็นเด็กเล็ก ๆ อยู่ชั้นประถมปีที่ ๔

    นี่เวรกรรมตามสนองแน่ ๆ ถ้าเราไปสร้างความดีมากเท่าไร มักตามมาให้เราใช้มัน

    เหมือนพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า ยิ่งขายดิบขายดี เจ้าหนี้ก็มาทวง ถ้าเราขายไม่ได้เลย ไม่มีสตางค์เลย ไม่มีใครมาทวง ไม่มีใครมาขอแน่ ๆ

    นี่ก็สรุปใจความได้ผลออกมาว่า สร้างความดีต้องมีอุปสรรค ท่านทั้งหลายอย่าน้อยเนื้อต่ำใจนะ สร้างความดีมากเท่าไร อุปสรรคมาขัดขวางมากเท่านั้น ต้องสู้ต่อไปเพื่อใช้หนี้เขา

    ข้อเท็จจริงเป็นประการใดขอเจริญพรว่า ถ้าเราเคร่งกรรมฐาน ตั้งสติอารมณ์ไว้ อาจจะทุเลาเบาบางไปได้บ้าง ถึงจำเป็นต้องตาย ให้มันตายเองเถอะ อย่าฆ่าตัวตายเลย

    จำเป็นจะต้องตาย เราตายอย่างสบาย จะไม่มีเวทนา จะได้เดินทางไปลูกต้อง เราจะไม่ไปอบายภูมิ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน

    ฆ่าตัวตายไม่มีดีเลย พระพุทธเจ้าบอกบาปอย่างร้ายแรง ท่านทั้งหลายสอนลูกสอนหลาน อย่าฆ่าตัวตายนะลูกนะหลานนะ ถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว ทุกคนต้องตายทั้งนั้น ไม่ต้องไปฆ่ามันหรอก

    เพราะฉะนั้นการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จึงเป็นผลงานของชีวิตนั่นเอง ตัวกำหนดเป็นบทบาท สติปัฏฐานสี่นี่กำหนดไว้

    ขอเจริญพร เดินจงกรมให้ได้ระเบียบ ไม่ต้องไปเอาความคิดอื่นมาใช้ขณะนี้ ต้องตัดปลิโพธกังวลเสีย ตัดกิจกรรมเสีย พอทำได้แล้ว กลับไปบ้านก็กำหนด

    เสียงก็กำหนด เห็นก็กำหนด คิดอะไรก็กำหนด คิดก่อน คิดหนอที่ลิ้นปี่ ตั้งสติเสียให้ดี ทำให้ถูกจุด รับรองคิดถูกต้อง คิดที่ออกมานั้นถูกต้อง คิดที่ผ่านมาครั้งอดีตนั้นผิดหมด มันออกมาอย่างนี้นะ

    นี่แหละเวรกรรมตามสนองอย่างไร กฎแห่งกรรมจะบอกชัด และการเจริญกรรมฐานมันจะแก้ได้ มันจะล้างมลทินได้ ล้างกรรมเก่าที่มีมานานแล้ว จะมีแต่โชคดี มีปัญญา คนที่ไม่เคยอุปถัมภ์ก็จะมาอุปถัมภ์ คนที่เป็นศัตรูกันจะกลับมาเป็นมิตร

    เราก็แผ่เมตตาด้วยความดีของเราจากกรรมฐาน ไม่มีอะไรดีกว่า เป็น ความดีอันดับหนึ่งคือบุญในตัวเอง สร้างบุญให้ตัวเอง คือกรรมฐาน ที่นำเงินไปทำบุญวัดโน้นวัดนี้ นั่นบุญประเภทสอง

    ขอความสวัสดีจงมีแต่ญาติพี่น้องทั้งหลาย และจงงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกประการ

    เคราะห์อันใดที่มีอยู่ ขอให้หายไปด้วยพุทธัง ปัจจักขามิ ธัมมัง ปัจจักขาม สังฆัง ปัจจักขามิ ให้ขาดกระเด็นไป โชคร้ายจงหลุดไป ขอให้โชคดี มีปัญญา สวัสดีมีชัย ประกอบกิจการอันใด ขอให้มั่งมีศรีสุข ในชีวิตของตน งอกงามไพบูลย์ในกิจการและหน้าที่สืบต่อไป


    กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร

    กัมมะโน กัตถาโน กัมมะปัจเจกะพุทโธ พุทธังทั่วจักกะวาฬัง ธัมมังทั่วจักกะวาฬัง สังฆังทั่วจักกะวาฬัง อโหสิกัมมัง

    ข้าพเจ้า ขออุทิศบุญกุศล จากการเจริญภาวนานี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ และโปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้า ด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ


    คัดลอกจาก..กฎแห่งกรรม - ธรรมปฏิบัติ เล่มที่ ๕
    http://jarun.org
     
  17. mooda

    mooda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +461
    ผู้ฝึกจิตเกาะพระทุกท่านทราบแล้วเปลี่ยนนะจ๊ะ มาล้างกิเลสออกจากจิตกันcatt13
     
  18. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านจิตบุญ ที่ ๙๘,๙๙, ๑๐๐. ด้วยค่ะ และคุณครูผู้ฝึกสอนทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ _/\_ _/\_ _/\_
     
  19. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    สวัสดีครับ น้องแหวว เป็นยังไงมั่ง สบายดีไหมครับ พอดีเห็นช่วงนี้จิตบุญโดนโรคภัยรุมเร้าไปตามกัน
     
  20. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,851
    สวัสดีครับ เข้ามาเยี่ยมชม ขอโมทนาในกุศลกรรมด้วยครับ สาธุๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...