จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ธรรมะสวัสดี

========================================

วนเวียนไปในโลกกว้างนานแสนนาน
ได้พบพาน"จิตเกาะพระ" เกือบจะสาย
จะมุ่งทําแต่ความดีทั้ง"ใจ"กาย
แหล่งสุดท้ายขอเข้าถึงซึ่ง"นิพพาน"

กราบcatt1ท่านอาจารย์ภูค่ะ ขอน้อมรับด้วย"ใจ"

@เอ ทําไมเขียนส่งไปแต่ข้อความไปอยู่ที่หน้าอื่น?

 

Something wrong with the web ! everything I wrote it went to page238

 

ไม่ใช่อะไรคุณวัฒ ที่เหลื่อเราสองคน เพราะว่ากระทู้เราหายอ่ะดิ ไม่รู้มีใครซ่อนไว้รึเปล่า บอกข่าวต่อกันด้วยน่ะ ให้เข้าทางกูลเกิล พิมพ์ชื่อกระทู้เข้าไปน่ะ

ส่วนเรื่องลูกศิลย์หาย เป็นเพราะเค้าไม่ใช่คนจิรงอ่ะดิ จะบอกไรให้ นี้เป็นการกรองและคัดลูกศิลย์อีกด่านหนึ่งเท่านั้น พวกเราจะสอนคนที่จิตพร้อมเท่านั้น ไม่งั้นเสียเวลาทั้งสองฝ่าย จะไปกลัวไร มีอีกหลายคนที่จะเข้ามาให้พวกเราสอน คุณเตรียมลับมืีด เอ๊ย..ลับปัญญาไว้รอเถอะ อิๆๆ:boo::boo:

 

อ่ะนั่นสิครับ เห้นบอกกันว่ากระทู้หาย พอดีไปคุยที่บอร์ดน้องหว้า แต่ไหงผมเข้าได้ตลอดหว่า มีอะไรแปลกมาเรื่อยๆเนาะ ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่แน่นอนจริงๆ

 

เย้..กระทู้กลับมาแย้วววว....พอโพสต์เสร็จก็เลยออกไปเช็คดู ปรากฎว่าโผล่ออกมาแล้ว เฮ้อ..โล่งอก 555

 

ก็คุณเปิดหน้าจอค้างทิ้งไว้ใช่มั้ยหล่ะ??? เลยไม่รู้เรื่องอะไรกับเค้าเล๊ย..ตกข่าว อิๆๆ:boo:

 

สวัสดีค่ะคุณครูเกษ คุณครูวัฒน์ และคุณครูจิตบุญทุกท่าน เอ๋เป็นคนนึงที่เปิดหน้าจอค้างไว้ค่ะ.
เอ๋เข้ามาโพสแต่เช้า ปรากฎข้อความไปขึ้นโน่นค่ะ หน้า 238 งงเลยค่ะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็ดีค่ะได้กลับไปอ่านธรรมมะย้อนหลังไม่ต้องไปไล่อ่านทีละหน้าค่ะ
เอ๋ว่าสมาชิกคงเป็นแบบเอ๋หลายคนแน่ๆค่ะ

 

พี่อยู่ด้วยคน ครูเกษ ดุเหรอ ?พี่ปลื้มจ้า

 

พี่อยู่ด้วยคนนะจ้ะ ครูเกษ ดุเหรอ?

 

ถึงครูทุกท่าน พี่ๆ น้องๆ จิตบุญทุกๆท่าน รู้สึกว่ากระทู้พวกเราจะโดนซ่อนนะครับ ผมเข้าหาทางหมวด ภัยพิบัติเตรียมการและน้ำท่วมไม่เห็นเลยน่ะครับ ไม่รู้ว่าคนอื่นป็นเหมือนกันไหมครับ

 

ตอนนี้ครูเกษได้ติดต่อมาแ้ล้วครับ...อยู่ในระหว่างช่วงแนะนำตัวครับ ส่วนเรื่องการฝึก ยังไม่ได้ให้แบบฝึกหัดครับผม

 

“...พระพุทธเจ้าหรือสาวกทั้งหลายก็ดี ท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์มาก่อน ท่านเคยเป็นชาวไร่ชาวนา ขี้เหล้าเมายาเป็นนังเลง เป็นคนลักเล็กขโมยน้อยมาเหมือนกัน

คือยังไม่รู้จักบาป บุญ คุณ โทษ คนไม่รู้จักก็ทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่เมื่อรู้แล้วท่านก็เลิก ท่านก็ละ ถอนออกมาได้ ฟังธรรมแล้วเข้าใจ รู้นั่นรู้นี่ ตรัสรู้ธรรมะได้

เรื่องตรัสรู้ธรรมะ เราได้ยินว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมะ ก็นึกว่าเป็นเรื่องของท่านทุกอย่าง ไม่ใช่นะ เป็นเรื่องของเราทุกคนก็ได้ อันไหนรู้แล้ว ละ นั่นแหละเป็นเครื่องหมายของเรา

เหมือนเราเคี้ยวกินอะไรบางอย่าง รู้สึกคัน รู้แล้วก็คายทิ้ง ความรู้ชนิดนี้แหละ ปุถุชนเราควรรู้ เหมือนหัวกลอย เมื่อรู้ว่ามันคัน กินไม่ได้ เรายังจะกินอยู่หรือก็มีแต่จะทิ้งเท่านั้น มันรู้อย่างนี้แหละ...”

หลวงพ่อชา สุภัทโท

 

ตา ยาย สองคน คุยกันข้ามประเทศ .... อิอิอิ
น่ารักจิงเชียว กิ้วววววๆๆๆๆๆ

 

สวัสดีค่ะคุณ aezaamak ปฏิบัติครั้งแรกครูจะยังไม่ให้แบบฝึหัดหรอกค่ะ ไม่ทราบว่าคุณน้องได้อ่าน หน้านี้หรือยังคะ?หน้า...295..แบบของครูบัวท่านก็ดีค่ะ เข้าใจง่าย รายงานอารมณ์ให้ครูผู้สอน ว่าอารมณ์เป็นอย่างไร จับภาพพระได้ถี่มั้ย พระท่านมีสีอะไร?...สติจดจ่ออยู่ที่จิตหรือ มีคิดฟุ้งไปนอกเรื่องหรือไม่ วันนี้มีกิเลสตัวใดเกิดขึ้นบ้าง เป็นต้นว่า รัก เกลียด โมโห หมั่นไส้ อิจฉา อยากได้ ฯลฯ:d
จุ๋ม จบ.๘๔

 

หรืออ่านหน้านี้ของครูลูกพลังนะคะ
จุ๋ม จบ.๘๔

 

เทคนิคการจับภาพองค์พระ

เมื่อเราเห็นรูปภาพของพระหรือพระพุทธรูปองค์ไหนก็แล้วแต่ เคยสังเกตุอารมณ์ของตนเองไหม? กราบแล้วจิตเบิกบาน (ก็ดูจิตไว้) ดูทันมั้ย? ดูทันก็ต้องใช้สติ (ระลึกได้) เห็นจิตเกิดเป็นกุศล
(สบายอกสบายใจ) ก็ให้รู้ (มีสติ) ว่าเป็นสุข เป็นธรรม นี้คือ ธรรม มีความเพียร วิริยะ ทำจิตไม่ให้กิด
นั่นคือละจิตทีเป็นอกุศลที่เกิดขึ้น และระวังอกุศลจะเกิดอีก สร้างจิตที่เป็นกุศลใหม่ และรักษาไว้ให้ได้ (ใชวิริยะที่จิต)

ในที่สุดจะเกิด ปิติ(อิ่มใจ) นึกถึงบุญกุศลที่เราได้ทำมา นึกปลื้มปิติจนน้ำหูน้ำตาไหลพรากยิ่งดี..(เอ่อ! น้ำตาอย่างเดียวน่าจะพอ)..จากนั้นจิตจะนิ่ง แบบปล่อยวางไม่ใช่นิ่งแบบตอไม้นะจิตก็สงบ ปัสสัทธิ สงบจนเป็นสมาธิ สมาธิ
ทำให้สงบ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ดีดนิวรณ์๕ให้กระเด็นไป จิตสงบๆๆๆ รับรู้แต่ไม่ร่วมวงด้วย
อะไรเกิดขึ้นรู้ ปล่อย ให้สติทำงานแทนจิต ในที่สุดจิตสงบจนกลายเป็นอุเบกขาที่จิต อุเบกขาที่จต ไม่ใช่ที่สมองนะ คือจิตนิ่งๆ ว่างๆ รับรู้ แต่ไม่ผูกพัน ไม่ติดกัน มีสติมาทำงานแทนจิต ฟ้าแลบให้เห็นหนทางตกลงสู่กระแสแห่งธรรม หรือไม่กลับมาอีก จิตไม่เกิดก็ไม่ต้องมาเกิดอีก

 

อนุโมทนา สาธุกับคุณหมอด้วยค่ะ

 

อนุโมทนา สาธุธรรมทุกประการทั้งปวงค่ะ

 

ให้มีสติคุมดวงจิต

ให้มีสติคุมดวงจิต

หลวงปู่ขาว อนาลโย

อาตมาบอกไว้เท่านั้นว่า ให้มีสติคุมดวงจิต
สัตว์นรกก็แม่นจิต สัตว์อเวจีก็แม่นจิต
พระอินทร์พระพรหมก็แม่นจิต
ที่เข้าพระนิพพานก็แม่นจิต ไม่ใช่ใคร
จิตไม่มีตนมีตัว จิตเหมือนวอก (ลิง) นี่แหละ
แล้วแต่มันจะไป บังคับบัญชามันไม่ได้
แล้วแต่มันจะปรุงจะแต่ง บอกไม่ได้ ไหว้ไม่ฟัง
เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าให้วางมันเสีย อย่าไปยึดถือมัน
ก็จิตนั่นแหละมันถือว่าตัวกู อยู่เดี๋ยวนี้ก็ดี
เราถือว่าเราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง
ก็แม่นจิตนั่นแหละเป็นผู้ว่า มันไม่มีตนมีตัวดอก
แล้วพระพุทธเจ้าว่าให้วางเสีย ให้ดับวิญญาณเสีย
ครั้นดับวิญญาณแล้ว ไม่ไปก่อภพก่อชาติอีก
ก็นั่นแหละพระนิพพานแหละ แน่ะ
พระพุทธเจ้าบอกอย่างนั้น มันไม่อยู่ที่อื่น
นรกมันก็อยู่นี่ พระนิพพานก็อยู่นี่ อย่าไปค้นที่อื่น
อย่าไปพิจารณาที่อื่น ให้ค้นที่สกนธ์กายของตน
ให้มันเห็นเป็นอสุภะอสุภัง ให้เห็นเป็นของปฏิกูล
ให้เกิดนิพพิทาความเบื่อหน่ายมันนั่นแหละ
แต่กี้มันเห็นว่าเป็นของสวยของงามของดี
ดวงจิตนั่นเมื่อมีสติควบคุม มีสัมปชัญญะ
ค้นหาเหตุผล ใคร่ครวญอยู่
มันเลยรู้เห็นว่า อัตตภาพร่างกายนี้เป็นของปฏิกูล ของเน่าเปื่อยผุพัง
แล้วมันจะเกิดนิพพิทาความเบื่อหน่าย จิตนั่นแหละเบื่อหน่าย
จิตเบื่อหน่าย จิตไม่ยึดมั่นแล้ว เรียกว่า จิตหลุดพ้น ถึงวิมุตติ
วิมุตติ คือความหลุดพ้นจากความยึดถือ
หลุดพ้นจากอุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น พ้นจากภพจากชาติ ตั้งใจทำเอา


ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี

 

โมทนาสาธุจ๊า
บารมีถึงพร้อมแล้วนะคะ
สาธุ