จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. A-colyte

    A-colyte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +630
    ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับน้องฟูจิ จิตบุญดวงที่ ๖๓ และครูพี่วิทย์ ด้วยนะครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ สาธุ
     
  2. จารุณี22

    จารุณี22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +1,403
    โมทนาสาธุการกับน้องฟูจิ จิตบุญดวงที่ 63
    จิตบุญดวงน้อยที่ ใส สะอาด บริสุทธิ์
    ขอให้น้องฟูจิมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นคะ

    ยินดียิ่งและโมทนาบุญกับครูวิทย์และครอบครัวด้วยคะ
    ไม่มีอะไรที่จะทำให้พ่อแม่สุขใจเท่าได้เห็นลูกเป็นคนดีมีความสุขความเจริญ

    ยิ่งเจริญทางธรรม โดยสามารถถึงที่สุดแห่งธรรมได้นั้นถือว่าสุดยอดจริงๆ
     
  3. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    โดนเต็มๆเลยคะ กระแทกดังปั้งเลย วันนี้ไปพบเพื่อนคุยกันตามประสา คุยเรื่องสั่งของทางnetกัน ดู prada. รุ่นไหน สีไหนดี balenciaga อันไหน. กลับมาถามตัวเอง
    สนใจสั่งด้วยดีไหม จิตตื่นเต้นไหม หลงกับมันไหม ตอบว่าไม่แล้ว ยังยำ้ตัวเองอีก จริงๆเหรอ
    หรือแค่ข่มจิตไว้ ตอบว่ามั่นใจ ฉันหลุดแล้ว เสียเงินกับมันเยอะแล้ว พอแล้ว หยุดแล้ว
    แถมเพื่อนตบท้าย ออกพรรษามาดื่มไวน์กันนะ เราไม่ตอบเพราะเดี๋ยวยาว
    กลัวโดนไม้เรียวครูดัชคะ
    ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำตักเตือนที่ดีๆเสมอ
     
  4. tom tana

    tom tana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +833
    ขอบคุณค่ะครูเพ็ญ. จะนำไปใช้กับลูกคนเล็กก่อนค่ะ. ค่อยๆทีละคนก่อน. ส่วนที่เป็นวัยรุ่นน่าจะยากหน่อย. จะค่อยๆทำไปค่ะ
     
  5. watta chan

    watta chan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +586
    ขอให้ชาวจิตบุญทั้งหลาย ช่วยกันอธิษฐานจิต
    ขอให้ผู้ที่มีเนื้อนาบุญต่อกัน ได้มาพบกันในกระทู้นี้ด้วยครับ
     
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ฮ่าๆลุงภูขอโมทนาบุญกับน้องฟูจิและคุณพ่อวิทย์สักล้านๆครั้งด้วยนะครับ
    อ๊าวนึกว่าจิตบุญใหม่ ดวงน้อยๆใสๆนี้เป็นของใครซะอีก 555..surprise! surprise!
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ครูเพ็ญงานจะเข้าอีกแล้ว..ฮ่าๆ
    นี่แสดงว่าท่านพี่รู้ไม่จริง ไม่ต้องไปห่วงเรื่องนั้นนะครับ เพราะตอนนี้ลูกหลานของท่านพ่อและสายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกำลังส่งมาให้ครับ แต่ส่งผู้ที่กำลังใจพร้อมก่อนนะครับ เพราะกำลังกำลังตามเก็บดวงจิตลูกหลานของท่านอยู่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง เตรียมถ้ามาพร้อมกัน ครูใหญ่(ครูเพ็ญ)จะตายซะก่อน ตกลงคุณพี่จะรับลูกศิษยกี่คน สำหรับจิตบุญกรุณาแจ้งรายชื่อด้วยหากต้องการสอนหรือผู้ช่วยสอนก่อนไปด้วย และไม่ต้องกลัวว่าครูที่นี่จะทอดทิ้งนะ เพราะท่านสอนแบบหางว่าว คุณพี่ก็็ทราบดี

    พวกเราไม่ต้องประกาศตามหาให้เมื่อยหรอก เพราะถ้าดวงจิตพร้อมหรือกำลังใจพร้อมเมื่อไหร่ พระท่านจะจัดสรรให้กับบุคคลเหล่านั้นเอง
    และพวกเราไม่จำเป็นจะต้องวิ่งไปหาลูกศิษย์ด้วย เพราะเดี๋ยวจะมีคนพร้อมค่อยๆทยอยมาเรียนจิตเกาะพระ และจะรู้จักมากกว่านี้อีกไม่กี่ปีข้างหน้า โปรดคอยชม แต่อย่าเพิ่งเชื่อผมนะ...
     
  8. puk777

    puk777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +492
    กราบสวัสดีค่ะพี่ภู คุณครูเพ็ญ คุณครูลูกพลัง และคุณครูทุกท่าน คุณครูลูกพลังคะเมลล์ของหนูค่ะ " chutimapuk@gmail.com " กราบขอบพระคุณมากคะ
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ของฝาก.. "จิตบุญ"

    เรื่องการแยกกาย แยกจิตนั้น โดยเฉพาะจิตบุญจะต้องทำความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและสามารถอธิบายตนเองและผู้อื่นได้ด้วย เรื่องนี้อธิบายให้คนทั่วๆไปให้เข้าใจยาก เพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง นอกจากจิตบุญเท่านั้นถึงจะพอเข้าใจ
    สำหรับผู้ที่กำลังปฎิบัติจิตเกาะพระใหม่ ขอให้ครูแนะการแยกกาย แยกจิตแต่เนินๆและอธิบายพอให้เข้าใจในเบื้องต้น เดี๋ยวผู้ปฎิบัติจะค่อยๆเข้าใจชัดเจนไปเองตามความละเอียดของจิตตน เช่น กายทำหน้าที่ตามปกติกับทางโลกของเขาไป ส่วนจิตจะต้องอยู่กับพระพุทธเจ้าไป(ฝากดวงจิตไว้กับพระพุทธเจ้า) หรือทำจิตเกาะพระไป หรือกายอยู่ส่วนกาย จิตอยู่ส่วนจิต อย่านำมาปะปนกัน เหมือนคนที่ไม่ได้ฝึกจิต อาจจะแลดูวุ่นวายยิ่งนัก ก็เพราะว่าไม่รู้จักบริหารกายและจิตของตนเอง คือนำมาปะปน ผสมผสานกันมั่วไปหมด ก็เลยดูวุ่นวาย

    การแยกกาย แยกจิตนั้น จะมีแต่เพียงสติเท่านั้นที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างกายกับจิต
    สติจึงเปรียบเสมือนเป็นสวิตช์(switch)ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเปิด(turn on)หรือปิด(turn off)วงจรไฟฟ้า แต่ตำแหน่งสวิตช์ปิดในที่นี้จะหมายถึง ด้านมืด(อวิชชา) หรือทางด้านกาย(ดูกาย ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความสกปรกโสโครกและความไม่เที่ยง) ส่วนในตำแหน่งสวิตช์เปิด หมายถึง ด้านสว่าง(ปัญญา) หรือทางด้านจิต(ดูจิต ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความสงบสุขและความความจริง)
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คำถามฮิตจิตบุญใหม่

    ได้แก่ "ไหนบอกว่าเมื่อจิตยกหรือจิตบุญแล้ว ต่อไปจะได้เห็นพระตถาคต"
    เห็นจิตบุญใหม่สงสัย แต่ไม่กล้าถามกัน (คำถามมันวิ่งมาชนหูพี่ภูพอดี)
    คำตอบ...ใช่ จิตบุญเห็นแน่ แต่จิตเป็นตัวเห็นนะไม่ใช่ตาเนื้อ(ตาเปล่า)เห็น เห็นในนิมิตแต่จะเห็นท่านในลักษณะเป็นกายทิพย์ เพราะท่านได้ดับขันธปรินิพพานไปตั้งนานแล้ว คือประมาณ 2500 กว่าปีแล้ว แต่ต้องทรงฌานลึกและจิตเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมะทั้งหมด หรือจิตเป็นพุทธะ(จิตถึงธรรม) หรืออินทรีย์แก่กล้า(สติปัญญา)

    ดั่งพุทธวจนะ...

    ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม
    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต
    ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กันยายน 2012
  11. PlaiifarPP

    PlaiifarPP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +1,194

    โอ้โห โมทนาบุญกับน้องฟูจิ จิตบุญในร่างน้อยๆ และพี่วิทย์ด้วยนะคะ
    คุณพ่อสอนลูกน่ารักจริงๆ
    พี่ขอบารมีท่านพ่อ ยกบุญบารมีทั้งหมดทั้งมวลให้กับน้องฟูจินะคะ
    ขอให้น้องฟูจิเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม มีกำลังกาย กำลังใจที่แข็งแรง
    มาช่วยงานกันต่อไปนะ
     
  12. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ กับจิตบุญตัวน้อยๆ ดวงที่ 63 จ้าาาา น้องฟูจิ ลูกครูวิทย์นี้เอง ป้าเกษ ขออนุโมทนาบุญด้วยล้านล้านครั้งเลยนะค่ะ สาธุ๊
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เธอได้ครูตรงจริตแล้ว จิตไวต้องเจอครูลูกพลังถึงจะเหมาะสมกันดี โมทนาสาธุทั้งครูทั้งศิษย์ ขอให้เธอขยันรับสื่อท่านพ่อบ่อยๆนะ ใครบ้าช่างเขา บ้าแล้วไปพระนิพพานจะเอากันไหม๊หล่ะ! นั่นไงคนดีแต่ศีลพร่อง ท่านพ่อไม่นิยม ไม่เอาด้วยหรอกนะจะบอกให้ ที่นี่ จิตจะต้องเข้มแข็งในฝ่ายดี คือผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ และอย่าได้ดูถูกผลของการปฎิบัติของตนเองด้วย แต่ถ้าใครดูถูกจะถือว่าปรามาสท่านพ่อไปด้วย เพราะที่นี่ไม่เคยประพฤติ ปฎิบัติเกินเลยไปกว่า คำว่า อริยมรรค ที่นี่เน้นแก่น(จิตแก่น จิตแท้ และจิตทรงภูมิปัญญาในธรรม) ที่นี่เน้นเดินทางตรงเข้าสู่มรรคผลนิพพาน แต่ถ้าผู้ปฎิบัติมีกำลังเยาะแยะหรือปฎิบัติไม่จริงจัง ไม่แน่ใจ หรือติดสงสัยมาก ติดของเก่ามาก วาง(ชั่วคราว)ไม่เป็น หรือคิดว่าตนเองเก่งแล้ว รู้มากแล้ว อวดตัวอวดตนเองว่าเป็นผู้รู้มาก ก็ขอเชิญป้ายหน้าก่อนนะครับ
    เพราะที่นี่รับเฉพาะผู้ที่ต้องการจะเดินตรงอริยมรรค โดยเฉพาะต้องการไปพระนิพพาน ที่นี่ต้องการผู้ที่มีกำลังใจมากๆ บุญใกล้จะเต็ม ศีล๕ต้องครบบริบูรณ์(วัดตัวที่เจตนาเป็นหลัก) แต่เมื่อวานศีลกระจุย หรือชั่วร้ายสุดๆ ที่นี่ไม่สนใจ แต่จะสนใจผู้ที่ศีลครบบริบูรณ์วันนี้ เดี๋ยวนี้ หรือศีลปัจจุบันนี้เท่านั้น อดีตไม่สนใจ หรือท่านเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนไม่สนใจ แต่ถ้าอยากได้ความรู้จากที่นี่ กรุณาวางให้หมด เหมือนท่านถอดรองเท้าเข้าวัดยังไงยังงั้นเลย ให้เกียรติครู ให้เกียรติสถานที่ เป็นผู้อ่อนน้อมว่านอนาอนง่าย โดยเฉพาะผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระ จักต้องให้ความเคารพต่อพระพุทธเจ้าด้วยเหนือเศียรเหนือเกล้าตนเองด้วย ไม่ใช่ว่าอยากไปพระนิพพาน อยากทำจิตเกาะพระ ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้ากันเฉยๆ โดยไม่ได้มีปิติหรือรู้สึกใดๆ ผมว่าพวกเรามาผิดที่แล้ว ที่นี่เน้นมรรคผลนิพพาน โดยเฉพาะเน้นที่จะไปนิพพาน เบื่อทุกข์ เบื่อเกิดแล้ว พี่ภูขอร้องให้ผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระทุกท่าน ได้โปรดกรุณาระลึกถึงพระ ไม่ใช่แค่ส่งจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าท่านเฉยๆ ระวังนะผู้ที่ทำแบบไม่มีปัญญา คือแค่นึกถึงภาพพระเหมือนคนที่ไม่อยากได้ไม่อยากดี คนประเภทนี้ยังใช้ไม่ได้ ผู้ปฎิบัติจะต้องระลึกถึงพระพุทธเจ้าแบบผู้มีปัญญา ก็คือในขณะกำหนดจิต(ตอนทำใหม่ๆนะ)ระลึกถึงถึงพระอยู่นั้น ผู้ปฎิบัติใหม่ๆจะต้องระลึกถึงพระและให้ระลึกถึงคุณงามความดี มองดูท่านมีพระเมตตาแก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ที่ท่านมีพระธรรมมาให้กับพวกเราได้ปฎิบัติตามจนหลุดพ้นจากกองทุกข์ หรือหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด สรุปแล้วต้องมองแบบลึกซึ้งกินใจเหมือนงานวันแม่ กราบแม่กันจนน้ำตาไหน ทำจิตเกาะพระก็เหมือน แต่ถ้าใครมองพระแล้วน้ำตาไม่ไหล แสดงว่าปิติก็จะไม่เกิดขึ้นกับคนนั้น และถ้าจิตใครไม่ผ่านปิติ จิตก็จำภาพพระไม่แนบแน่น และจุดนี้จึงเป็นจุดสำคัญของการปฎิบัติจิตเกาะพระ ความปิตินั้นหมายถึงจิตเริ่มเข้าอุปจารสมาธิ(เฉียดฌาน) แต่ถ้าผ่านตรงนี้ไปแล้ว จิตจะเข้าอัปปนาสมาธิ(องค์ฌานทั้ง๕) ขอให้ครูทุกท่านช่วยเน้นตรงนี้ใหห้มากๆ แต่ถ้าผู้ปฎิบัติรู้ว่าตนเองทำไม่ได้แล้ว ผู้ปฎิบัติจะค่อยๆหมดกำลังใจและก็เลิกปฎิบัติไปในที่สุด แต่ถ้าท่านเจอแบบครูวิทย์ก็ดีไป เพราะท่านตามตื้อลูกศิษย์เก่ง แต่ถ้าครูไม่เป็นแบบนั้นหล่ะ ท่านก็จะหมดโอกาสทันที

    ที่นี่รับเฉพาะว่านอนสอนง่าย จะรู้มากที่สุดในประเทศอันนั้นดีแต่เก็บไว้ก่อนแบกไว้ก่อนนะ หรือจะโง่แสนโง่ แต่สติต้องเหมือนคนธรรมดาสามัญทั่วๆไป ไม่ใช่นำคนสติไม่ครบ หรือว่าคนบ้าบอมาให้สอนนะ เพราะอยากจะช่วยนะ เมตตาทุกคนนะ แต่ที่นี่เขามีปัญญากันทุกคน ช่วยคนก็ต้องดูเหมือนกัน ขนาดพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงเลือกโปรดคนเลยเห็นไหม๊ เลือกสอนกับผู้ที่สอนได้ แต่ถ้าสอนไม่ได้ก็ให้วางใจเป็นกลางหรือเข้าอุเบกขาญาณไปซะ
    อย่าไปคิดมาก และขอให้จิตบุญ ได้โปรดนำจิตตนเองเข้าเขตบุญกุศลกันซะ ก็คือฌาน อย่าได้ปล่อยจิตตนเองออกมาข้างนอก ออกมาเผ่นผ่านกับกิเลสกับกระแสโลก แต่ถ้าผู้ใดทำแบบนั้นก็เท่ากับ เป็นพวกเดียวกัน ไม่รักพระพุทธเจ้ากันจริงๆ เพราะถ้ารักพระพุทธเจ้ากันจริงๆ จะไม่ประพฤติ ปฎิบัติตนเฉกเช่นนั้น หรือปากพร่ำบอกว่าหนู/ผมรักบูชา เทอดทูลบูชาพระพุทธเจ้ามั๊กมาก ได้แต่กราบไหว้เฉยๆอย่างเดียว แต่ไม่ประพฤติ ไม่ปฎิบัติตามตาม หรือไม่ยอมปฎิบัติธรรมก็ใช้ไม่ได้ เป็นพุทธบุตรหรือลูกเป็นหลานของพระพุทธเจ้า ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น เพราะฉะนั้นรักพระพุทธเจ้าจริงๆ นอกจากมีความศรัทธากราบไหว้พระองค์ท่านแล้ว พวกเราจะต้องประพฤติ ปฎิบัติธรรมหรือคำสั่งสอนของท่านให้ได้ด้วย มิใช่แค่เป็นพุทธบริษัทกันแค่ทะเบียนบ้าน อันนั้นยังใช้ไม่ได้ อ๊าวมาพร่ำกับคุณปุ๊กทำไมเนี๊ย ไม่เข้าใจ ไปๆแยกย้ายไปปฎิบัติ ก้มหน้าก้มตาทำไปๆ และไม่ต้องมาอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่จิตเราจะยก แต่ถ้าผู้ปฎิบัติพูดเมื่อไหร่ หรือนึกเมื่อไหร่ ผู้ปฎิบัติก็จะช้าเมื่อนั้น จำไว้!

    ***ปล. อ่านให้จบนะ ข้างในมีประโยชน์มาก(คุณปุ๊กนะคุณปุ๊ก เธอถามมาแค่บรรทัดเดียว พี่ภูพร่ำซะหนำใจ...ฮ่าๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กันยายน 2012
  14. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    โห คุณภู พรํ่า เอ๊ย เขียนมาเยอะๆเลยค่ะ อ่านยังไม่เคยหนำใจเลย อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,291
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ช่วยกันอธิษฐานจิต

    คุณครูเพ็ญกําลังมีลูกศิษย์ทั่วโลกค่ะ เหนื่อยแน่เลย
    ;)
     
  16. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ๊ค่ะ พี่ภู ขออนุญาติก๊อปไปให้ลูกศิลย์อ่านด้วยนะค่ะ อิๆๆ เรามีเครื่องมือการเรียนการสอนแล้วต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ สาธุ
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ช่วงภูธรรมาทาน...

    ในมหาปรินิพพานสูตร อันเป็นพระสูตรสุดท้ายที่พระองค์ทรงตรัสสอนไว้ ก่อนจะเข้าสู่ปรินิพพาน ขอยกเอาแต่บางตอนที่ข้าพเจ้าเห็นว่าควรนำมาเขียนไว้ให้พวกเพื่อนแพทย์ได้รับทราบ

    ๑. หลังจากที่พระองค์ทรงปลงอายุสังขารแล้ว หมายความว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปอีก ๓ เดือน พระองค์จะทรงเข้าสู่การดับขันธ์ปรินิพพาน
    ๒. พระอานนท์วิตกว่า หากพระองค์ไม่อยู่แล้ว ใครจะเป็นผู้ทำนายว่า พระองค์นี้องค์นั้นตายแล้ว จิตเขาจะไปอยู่ที่ไหน ทรงตรัสว่า ให้ใช้สังโยชน์ ๑๐ เป็นเครื่องตัดสิน ผู้ใดตัดสังโยชน์ ๓ ข้อแรกได้ ก็เป็นพระโสดาบัน หรือพระสกิทาคามี (ตัดให้หยาบๆ หรือกลางๆ หรือให้ละเอียด เพราะพระโสดาบันมี ๓ ระดับ ขอไม่เขียนรายละเอียด) หากตัดสังโยชน์ ๕ ข้อแรกได้ ก็เป็นพระอนาคามี หากตัดสังโยชน์ได้หมด ๑๐ ข้อก็เป็นพระอรหันต์
    ๓. ระหว่าง ๓ เดือนนี้ พระพุทธองค์ไม่สอนพระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม แต่สอนอยู่เพียงแค่ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้น ทรงเน้นตัวปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์เท่านั้น (ซึ่งย่อมาจากอริยมรรค ๘)
    ๔. พระอานนท์วิตกว่าหากพระองค์ไม่อยู่แล้ว พระองค์จะตั้งใครเป็นตัวแทน ทรงตรัสว่า พระธรรมจักเป็นศาสดาแทนเรา หมายความว่า ความเป็นพระพุทธเจ้ามิได้อยู่ที่ขันธ์ ๕ หรือร่างกายของพระองค์ แต่อยู่ที่พระธรรมต่างหาก
    ๕. พระองค์ทรงตรัสว่า ตราบใดที่ยังมีบุคคลปฏิบัติตามอริยมรรค ๘ ของตถาคต (ย่อแล้ว คือ ศีล - สมาธิ - ปัญญา) ตราบนั้นโลกนี้จะไม่มีวันว่างเว้นไปจากพระอริยเจ้า จงอย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสสิ่งใดเป็นหนึ่งเสมอ ไม่มีเป็นสอง หมายความว่าตรัสคำใดก็เป็นไปตามนั้นไม่เป็นอื่น ตรัสอย่างใดก็เป็นจริงตามนั้นตลอดไป เพราะทุก ๆ คำที่ตรัสเป็นอริยสัจ ซึ่งแปลว่า ความจริงที่พระพุทธองค์ได้พิสูจน์แล้วหรือตรัสอย่างไรก็ทำได้ตามนั้น


    โดย : พลตำรวจโท นายแพทย์ สมศักดิ์ สืบสงวน
    http://www.tangnipparn.com/page6_b00k1.html
     
  18. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    สวัสดีครับคุณpuk777
    ส่งเมลล์ให้ไปแล้วนะครับ
    ก็ให้เริ่มเลยนะครับ ลุยโร้ดดด..

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี
     
  19. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    อย่าเห็นเรื่องผิดปรกติเป็นเรื่องปรกติ คนเราเคยคิดไหมว่าในตอนแรกเราทำบางอย่างที่รู้ว่าผิด แต่พอทำๆไปมันกลายเป็นเรื่องปรกติไป ซึ่งตรงนั้นถือว่าอันตรายมาก มองเห็นสิ่งที่เลวขัดต่อคุณธรรมและจริยาธรรมว่า เป็นสิ่งดี และต่างก็ร่วมกันยอมรับเป็นแนวทางของการดำเนินชีวิต(ตรงนี้ไปอ่านเจอพอดี) ขอให้ทุกท่านที่กำลังทำผิดอยู่วางกำลังใจเสียใหม่หันกลับมาอยู่ในกรอบของศีลธรรมกันนะครับ

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่า “พวกแกจะทำความดีก็ต้องบ้า และบ้ากว่าปกติหลายเท่าด้วย ไม่อย่างนั้นแกไปไม่รอด เพราะสังคมเดินสวนทางกับแก แล้วเขาก็บอกว่าแกเดินผิดทาง”

    คิดดูว่าเขาเดินลงกันหมด แล้วเราไปตะกายขึ้นเหนื่อยยากอยู่คนเดียว เขาก็ต้องว่าเราผิด เราจะมีความมั่นใจต่อเป้าหมายของเราแค่ไหน ? จึงอยู่ที่สติ สมาธิ และปัญญาของเรา ถ้าเรามีความมั่นใจเราก็ลุยของเราต่อไป แต่ว่าการรักษาศีลปฏิบัติธรรม อานิสงส์ยังคงมีเหมือนเดิมและมีเท่าเดิม เพียงแต่สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  20. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    วิบากกรรมเปรียบเหมือนลูกปืนที่บินมาจากอดีต มาโดนตัวเราทำให้เราบาดเจ็บ ทีนี้ถ้าเราปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา ก็ช่วยให้วิบากกรรมนั้นอ่อนกำลังลงเรียกว่าผ่อนหนักเป็นเบาหรือเป็นอโหสิกรรมไปได้ สมมติว่าเมื่อเรารักษาศีลบริสุทธิ์ เราก็จะลอยตัวขึ้น 50 ซม. วิบากกรรมที่บินมาต่ำ ๆ ก็จะไม่โดนเรา เปรียบเหมือนเป็นอโหสิกรรม ชีวิตเราก็ดีขึ้น ทีนี้ถ้าเราเจริญเมตตาภาวนาจนโลภ โกรธ หลงลดน้อยลง จิตมีเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์มากขึ้น ก็ลอยตัวเพิ่มขึ้นอีก 50 ซม. หมายความว่า วิบากกรรมที่อยู่ระหว่าง 100 ซม. ก็ไม่โดนเรา และที่สุดหากเราเจริญวิปัสสนา ละโลภ โกรธ หลง ชำระจิตให้สะอาดบริสุทธิ์จนไม่มีอุปาทานยึดมั่นในขันธ์ 5 ก็ไม่มีตัวตน ไม่มีทุกข์ จิตก็เป็นโลกุตตระ อยู่เหนือกฎแห่งกรรม จิตก็พ้นทุกข์สิ้นเชิง แต่ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ในวัฏสงสารก็ต้องรับวิบากกรรมทางกายบ้างเป็นธรรมดา เหมือนเช่นองคุลิมาล
    คัดจากหนังสือ "โชคดีที่ได้รู้" โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
     

แชร์หน้านี้

Loading...