งานของกลุ่ม "พลังจิต พิชิตภัยพิบัติ"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 25 ธันวาคม 2006.

  1. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    ภาพเพิ่มเติมครับ
    [​IMG]
    รอยพระพุทธบาท (ที่นี่มีสองรอยนะครับ ข้างซ้ายและขวาครับ)

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    เหนื่อยหน่อยครับกว่าจะเดินขึ้นไปถึง
     
  2. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    วันที่28 พย.2552
    วางลูกแก้วจักรพรรดิ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    ที่วัดเกตุคีรี อ.เมืองนครสวรรค์
    อธิฐานขอให้เกิดความสงบสุขร่มเย็น

    ขอนำภาพมาลงไว้นะครับ

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  3. นมล

    นมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +195
    วันนี้เอาพระบรมสารีริกธาตุ ประมาณ 2 ถุงบิ๊กซีใหญ่ไปให้คุณณัฏฐกรณ์ไปร่วมงานหล่อหลวงพ่อองค์แสนที่วัดท่าซุง ค่ะ ร่วมอนุโมทนานะคะ
     
  4. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    วันที่ ๕ ธันวาคม พศ.๒๕๕๒

    ณ บ้านอนุสาวรีย์(หลวงพี่เล็ก)

    ได้รวบรวมแผ่นทองร่วมหล่อพระเจ้าองค์แสน

    ปัจจัยทั้งหมดน้อมถวายหลวงพี่เล็กทุกประการ

    ขอท่านอนุโมทนา ยินดี
     
  5. SPARTANS

    SPARTANS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,380
    ค่าพลัง:
    +2,987
    ๖ มกราคม ๒๕๕๓
    กระผมได้มอบพระบรมสารีริกธาตุไห้แด่ท่านอาจารย์และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาและเพื่อนๆอันเป็นที่รักทุกท่านเนื่องในโอกาสงานทำบุญเลี้ยงพระขึ้นปีใหม่ประจำปี ๒๕๕๓ ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวนร้อยกว่าชุดครับ

    ขอขอบพระคุณคุณ Kanannun และคุณพี่ตุ๊ก(ตุ๊กตาแก้ว) มา ณ โอกาสนี้ครับ

    ขอกราบอนุโมทนาในบุญกุศลกับทุกๆท่านครับ
     
  6. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    สวัสดีค่ะคุณยายแอ
    ที่พัทยามีสมาชิกด้วยค่ะ ไม่ทราบว่าที่พัทยามีสถานที่หลบภัยที่ไหน อย่างไรคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
    และดิฉันอยากสมัครเป็นสมาชิกเตือนภัยที่พัทยาด้วยคนค่ะ ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้างคะ
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ตอนนี้ งานของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัตินั้น เป็น รูปเป็นร่างที่เป็นนามธรรมมากขึ้นเรื่อยๆครับ

    เพียงแต่เน้นหนักไปที่ งานส่วนรวม ไม่ใช่ งานส่วนตัวหรือเพื่อกลุ่มตนเอง อย่างใด อย่างหนึ่ง

    ซึ่งผู้ผู้มีจิตเป็นธรรมอันประกอบไปด้วยกุศล ปราศจาก อคติทั้งปวง มาบดบัง ย่อมมองออก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครูบาอาจารย์พระอริยะเจ้า พระอริยะสงฆ์และพระโพธิสัตว์ผุ้ทรงบารมีทั้งสามสิบทัศน์ ท่านมองออก หลอกท่านไม่ได้

    และท่านก็เมตตาสงเคราะห์ให้กำลังใจ สนับสนุน ตามเหตุ ตามวาระ เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด

    และอย่างที่ผมเองเคยโพสต์มาหลายปีแล้ว

    ว่า กำลังใจ และความคิดของคนที่เข้ามาทำ เข้ามาสนใจเรื่องภัยพิบัตินั้น จำแนกแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ทำให้มีผลกับทัศนคติ และกิจกรรมที่เข้ามาอ่าน มาร่วมกับทางเวบพลังจิตของเราทุกๆคน

    -บางท่าน ก็คิดว่าในโลกไซเบอร์นั้น ใครไม่รู้จักเรา อยากทำอะไรก็ทำ จะป่วน จะกวน จะระบายสำรอกสิ่งใดออกมาในการโพสต์ก็ได้ ไม่มีความผิด ไม่มีหิริโอตัปปะอย่างสิ้นเชิง พอเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงปรากฏทั่วโลก ก็เงียบๆไป ประเภทนี้ เป็นโมฆะอาภัพบุคคล ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อโลก

    ยามเกิดภัยพิบัติจริง บ้านเมืองไร้ขื่อแปพวกนี้ก็พร้อมจะระเบิดสันดานดิบ ออกมา ความโหดร้ายทารุณก็ทำไปได้โดยปราศจากจิตสำนึก

    ครั้นตายไป ก็มีทุกขคติภูมิเป็นที่ไป ยิ่งไปละเมิดผู้มีความดีสูงมากๆ ก็ยิ่งลงลึก

    น่าสงสาร และเป็นประเภทที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า หากไม่ถึงวาระจะโปรดจะช่วยให้กลับใจก็รอเอาไว้หลังสุด


    -บางท่านเข้ามาอ่าน และหาข้อมูล เพราะมีความกลัวเข้าครอบงำจิตใจ ต้องการรอดชีวิต

    กำลังใจคือต้องการช่วยชีวิตตนเอง เป็นอันดับแรก ครอบครัว และคนใกล้เคียงก็รองลงมา

    ประเภทนี้ หลวงพี่อนันต์ท่านเคยเตือนว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้ บอกหรือเตือนเรื่องภัยพิบัติ อย่างไร โดยไม่ให้คนตกใจ หรือหวาดกลัว (เพราะเมื่อเกิดความกลัว จะทำให้จิตเศร้าหมอง กังวลและ จิตเศร้าหมองย่อมเป็นเหตุแห่งการจุติในอบายภูมิ)

    ประเภทนี้ กำลังใจ ยังเป็นไปเพื่อตนเอง การเตรียมตัวเตรียมใจจะเน้นเรื่อง ที่หลบภัย เสบียงอาหาร และวัตถุเป็นสำคัญ ไม่คาดหวังจะพึ่งใครและไม่คาดหวังว่าจะช่วยเหลือคนอื่นอย่างเกินกำลัง ไปจนถึงไม่ช่วยเลย ปิด เงียบ

    กลุ่มนี้หากฝึกจิตโดยการกำหนดสติไม่ให้ลนลาน กลัว หรือมีหลักของใจคือไตรสรณะคมม์ได้ก็พอที่จะเป็นเครื่องรอดพ้นได้ในระดับพอสมควร

    แต่หากไม่ฝึกจิต สมาธิหรือปฏิบัติธรรมบ้างเสียเลย ย่อมมีสิทธิ์ที่จะบิดเพี้ยนออกไปจากทำนองคลองธรรมได้เพื่อความอยู่รอด อันเป็นข้ออ้างหาเหตุผลเข้าข้างกิเลสตนเอง

    ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ การที่จิตมารแทรกบ้าง หรือพวกขายวิญญานให้ฝ่ายมืดก็ถูกชักจูงในลักษณะนี้ "ถ้ามีคนเสนอในสิ่งที่เขาปรารถนา มอบอำนาจวิเศษให้ มอบความเป็นอมตะให้ มอบทางรอดให้ "ท้ายที่สุดกว่าจะรู้ตัวก็ถลำลึกไปแล้ว


    ไปไกลมาก ไปไกลจากไตรสรณะคมม์ บางครั้งเห็นในนิมิตรว่า พระพุทธเจ้าท่านหันหลังให้เสียแล้ว จากความคิด วิธีคิดและกำลังใจแบบนี้ เห็นแล้วหนาวใจแทน

    รอเวลา รอวาระที่พอช่วยได้ เพราะหากตีโจทย์ไม่แตกว่า เกณฑ์ของคนที่อยู่รอดภัยหลังภัยพิบัติครั้งใหญ่กวาดล้างนั้น เขาล้างคนชั่ว คนที่มีจิตหยาบช้า คนที่ทำร้ายทำลายโลกและผู้อื่น

    ดังนั้นการเตรียมตัวเรื่องภัยพิบัติ ต้องเตรียมทั้ง รุปธรรม นามธรรม จัดเตรียมทางวัตถุและฝึกฝนขัดเกลาร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย

    จิตที่คิดอกุศล คิดไม่ดี คิดลบ คิดแต่หาทางทำชั่ว โดนล้างแน่นอน

    จิตที่กลางๆ ไม่เบียดเบียนใคร แต่ก็ไม่คิดช่วยเหลือผู้อื่น ถึงปฏิบัติธรรมก็ยังจัดว่า ขาดเมตตา ยังมีโอกาศถูกล้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอกุศลเข้าส่งผล


    จิตที่คิดบวก ทรงเมตตาพรหมวิหาร คิดดี พูดดี ทำดี รังสรรค์แต่คุณประโยชน์ต่อโลกใบนี้ มีจิตกุศลคิดเพื่อส่วนรวมเสมอเป็นปกติ พวกนี้คือกลุ่มที่จะอยู่รอดจากภัยพิบัติไปได้

    เหตุนี้ งานของกลุ่มพวกเรา จึงเน้น สร้างคุณธรรม สร้างเมตตาสมาธิ จิตตานุภาพให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างคนกลุ่มนี้


    ดังนั้น หาก ท่านที่ตั้งใจที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ก็ขอให้ ยกกำลังใจของท่านให้ เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาจิตคิดเพื่อส่วนรวมเป็นสำคัญ รักษาใจเราทุกคนให้อยู่ในกุศล ในบุญในความดีให้เป็นปกติ

    -กลุ่มที่ทำเพื่อส่วนรวม มีอะไรช่วยกัน คิดถึงส่วนรวมก่อน การเตรียมตัว ไม่คิดถึงตนเองก่อนคิดเพื่อส่วนรวมเป็นสำคัญ คนเหล่านี้ 1 คนอาจช่วยเหลือ คนอื่นได้ 10 คนบ้าง 100คนบ้าง 1000คนบ้าง ตามกำลังบารมีและการรวมตัวกัน

    ดังนั้นหากสร้างคนในกลุ่มนี้ได้มาก โอกาสที่จะช่วยชีวิตคนอื่นก็จะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

    และยิ่งช่วยเหลือคนอื่นมากเท่าไร คนเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของตนเองตามไปด้วย จุดสำคัญก็คือต้องเป็นเมตตาที่ออกมาจากหัวใจของ เขาอย่างแท้จริง

    ดังนั้นยิ่งเขาได้ สัมมาทิฐิ ต่อให้เกิดภาวะไร้ขื่อแป ก็ไม่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงจากความดีงามในใจได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

    ยิ่งได้ไตรสรณะคมม์ ก็ยิ่งไม่แปรเปลี่ยน เพี้ยนผิดไปรับลัทธิอื่นมาทำลายพระพุทธศาสนาไปได้

    ยิ่งได้ฌานยิ่งมีพลังจิตตั้งมั่น

    ยิ่งได้ญาณทัศนะ ยิ่งมีปัญญาบารมีในการช่วยเหลือผู้คนได้มากยิ่งขึ้น

    ยิ่งได้บารมี ยิ่งมีกำลังใจเต็มเปี่ยมในการสงเคราะห์ผู้คนได้อย่างทวีคูณขึ้น

    ยิ่งช่วยคนมาก ก็ยิ่งเกิดจิตตานุภาพบารมีรวมตัวจนเกิดอภิญญาสมาบัติบ้าง วาจาสิทธิ์บ้าง ก็ยิ่งยังศรัทธา ช่วยคนได้มากขึ้นไปอีก

    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ เดินงานแบบนี้ ผมก็ทำตามพระบอก ไม่ดื้อกับพระท่าน

    ที่จริงผมไม่มีความรู้มาก ไม่เก่ง แต่เพียงผม "เชื่อพระ" ทำตามพระบอก พระท่านให้ตั้งกำลังใจก่อนทำงานอย่างไร เราทำ

    พระท่านให้ไปดูอะไร เราดู ไม่ไปอยากดูเอง ไปดูโดยกิเลสไม่เอา สิ่งใดเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอดู ขอรู้ ขอทราบ สิ่งที่รู้ก็เป็นปัญญาล้วนๆ

    สิ่งที่กล่าวมาคือเรื่องใจ เรื่องวิธีคิด ซึ่งแผนงานทางโลก กับทางธรรมย่อมต่างกัน

    ทางโลก เอาความสามารถทางเปลือกมาวัด ในหนัง 2012 สื่อว่า คนรวยมีเงินซื้อตั๋ว หมื่นล้านยูโรถึงจะรอด

    ทางธรรม ท่านเน้นภูมิธรรม บารมี ระดับกำลังใจเป็นเครื่องชี้วัดศักยภาพ และเป็นเครื่องจำแนกกรรมของเหล่าสัตว์ว่า บุญกุศลเพียงพอให้รอดหรือไม่

    เมื่อเข้่าใจจะได้ปรับจิตใจ ยกระดับจิตใจให้ผ่านพ้นภัยพิบัติไปได้กันทุกคน

    และยังได้ ยังให้เกิดคุณประโยชน์ต่อชาติ พระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไปในอนาคตอีกด้วย

    วันนี้เอาเรื่องความสำคัญของการสร้างคนดีมีเมตตา ด้วยการฝึกจิตสมาธิและการตั้งกำลังใจก่อน
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ชอบข้อความนี้มากๆ ขออนุโมทนาด้วยครับ คุณวิมาณทิพย<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->ญาณพระพุทธเจ้า ดั่งเเสงอาทิตย์
    ญาณพระปัจเจกฯ ดั่งเเสงจันทร์
    ญาณพระอรหันต์ ดั่งเเสงเทียน

    ก่อนอื่นต้องกราบขอขมาทุกๆท่านที่อยู่ในห้องนี้เเละเจ้าของกระทู้
    การทำงานอย่างหนึ่งมันก็เหมือนเหรียญมีอยู่สองด้าน มีข้อดีเเละข้อเสียทุกครั้งเสมอไป
    ขึ้นอยู่กับ ปัญญา มุมมอง ทัศนคติ ความกว้างไกล ประโยชน์ส่วนตัวส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
    ถ้าเรารู้เหตุการณ์ที่จะเกิดกับคนที่เรารักเราห่วง เเต่เราไม่บอกเขาก่อนถ้าเขารู้ตอนหลังที่เกิด
    เหตุเเล้วถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าคุณจะโกรธมั้ย
    การที่ได้รับรู้เหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต(ของจริงไม่ใช่อุปทาน )เเล้วจิตตกเป็นธรรมดาของโลก ของคนที่ยังประมาทอยู่ เพราะทุกคนต้องรักษาประโยชน์ของตัวเอง เเละ
    คิดถึงคนที่เรารักเราห่วง เหตุนี้เป็นปัจจัยให้เข้าสู่ธรรม เพื่อที่ตัวเองเเละคนที่เรารักเราห่วงจะ
    ได้รอดพ้นจากภัยพิบัติ
    ในการทำงานของกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เพื่อทนุบำรุงพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี เเละเผย
    แพร่พระศาสนาให้กว้างไกลเเละเจริญรุ่งเรือง เเละช่วยเหลือผู้คนให้เข้าถึงธรรมของพระพุทธ
    เจ้า เพื่อที่จะได้เป็นกำลังในพระศาสนาต่อไป
    ในทางกาย ทางกลุ่มมีเป้าหมายที่จะทำให้ทุกจุดทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเป็นพื้นที่
    ปลอดภัยทั้งหมด เเละค่อยๆกระจายไปทั่วโลก เวลาที่เกิดภัยพิบัติพวกเราจะได้รับผลกระทบ
    น้อยที่สุด เเทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนเเปลงเลย คุณคิดว่าดีมั้ย(ตอนนี้กำลังต้องการอาสาสมัคร
    เพื่อส่วนรวมในเเต่ละจังหวัด เเต่ละภาคอย่างมาก เพื่อที่จะได้ทำงานตามเป้าหมายที่วางไว้)
    ในทางใจ ทำให้คนตั้งมั่นอยุ่ในสัมมาทิฐิ ได้เข้าถึงธรรมของพระพุทธเจ้า เพื่อที่จะช่วยเหลือ
    ตัวเองเเละผู้อื่น และเป็นกำลังหลักในการเผยเเพร่ ทนุบำรุงพระศาสนาต่อไป
    ในการทำงานครั้งนี้ทุกคนได้ใช่ทั้งกาย ทั้งใจ สติปัญญา ชีวิตทั้งชีวิตถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อ
    พระศาสนา เเละสัตว์โลกทั้งหลาย
    การทำงานเพื่อส่วนรวมต้องละความยึดมั่น ถือมั่น ทั้งหมด เเละต้องเจริญพรหมวิหาร4 บาง
    ครั้งอาจจะไม่เข้าใจกันเป็นของธรรมดา เรียน ป.1 ก็เจอข้อสอบป.1 เเต่ถ้าไปเจอข้อสอบป.4
    ก็จบ ทุกคนมีบุญบารมี จริต ภูมิจิตภูมิธรรมที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญเเละสร้างสมที่ต่างกัน
    ขอให้รับฟังความคิดเห็นที่เเตกต่างกัน เเละมีความรักให้กันเเละกันก็พอเเล้วจิตก็เป็นสุข ทุกคนเกิดเเก่เจ็บตายเหมือนกันหมด จะชิงดีชิงเด่น ยึดมั่นถือมั่นกันไปทำมัย

    สุดท้ายลูกต้องขอกราบขมาพระรัตนตรัย และท่านทั่งหลายที่ได้อ่านขอความนี้


    จากคุณวิมานทิพย ครับ
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ดังนั้น หากมีหนทางใดที่จะผลักดันศักยภาพทั้งทางธรรม ทางสมาธิจิต ไม่ว่าจะเป็นญาณ ฌาน อภิญญา ผมยินดีที่จะแบ่งปันถ่ายทอดให้ทุกๆคนที่เป็นสัมมาทิฐิและตั้งใจนำความสามารถนั้นไปเพื่อคุณประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง


    ด้านทางโลก เนื่องจาก งานที่เราทำเป็นงานที่เป็นงานภาพรวมดังนั้น ความจำเป็นทางโลก ย่อมมี

    หากมีผลงานที่ เกิดขึ้นจนเป็นทีี่ยอมรับของสังคม ก็ขอให้ตั้งกำลังใจว่า ให้ทุกๆคนได้รับผลอานิสงค์แห่งความดีนี้ด้วยกัน แบ่งความดีกัน

    แต่ในด้านทางโลก ก็ขอให้ใช้วาระนี้ ในการสร้างความยอมรับ เพื่อทำให้การทำงานเพื่อส่วนรวมนั้น เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

    จากที่ทราบมา มีทีมงานของเราท่านหนึ่ง ท่านเจ้าคณะจังหวัด ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลสมเด็จพระสังฆราช ให้ทำหนังสือ เกียรติบัตรในฐานะที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาผ่านในงานพระบรมสารีริกธาตุ

    ซึ่งจะโดยฐานะส่วนตัว หรือของกลุ่มนั้นไม่สำคัญ

    สำคัญตรงจุดที่สร้างความร่วมมือต่องาน ให้งานที่เราทำถวายพระพุทธศาสนาก้าวไกลขึ้น

    เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ท่านอื่นได้โมทนาบุญและมีแรงใจ กำลังใจ จากผลแห่งความดีที่ทุกคนได้ทำร่วมกัน

    ซึ่งต่อไป เมื่อคนดีมากขึ้น ผู้มีจิตอันประกอบไปด้วยความเป็นสัมมาทิฐิมากขึ้น ผู้มีจิตคิดเสียสละต่อส่วนรวมโดยปราศจากอคติทั้งปวง เหล่านี้ จะมาช่วยทำคุณประโยชน์ให้กับ ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ได้อีกมากมาย

    ขอให้จิตใจที่ดีงามทุกดวงจงตื่นเถิด เพื่อยังแสงสว่างแห่งความดีให้โลกใบนี้
     
  10. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>-- อิลูมินาติ / Reptilian /new world order จะมีสักกี่คนที่รู้เรื่องพวกนี้ ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">กลับมาแก้ไขหัวกระทู้ใหม่นะครับ หลังจากที่ได้หาข้อมูลและมาโพสเรื่อยๆแล้ว
    ยิ่งอ่านยิ่งค้นไป จะพบว่าทุกอย่างมัน ค่อยๆเผยปมมาเป็นเรื่องเดียวกันมากขึ้น กระแส 2012 อิลูมิเนติ
    new world order การจัดระเบียบโลกใหม่ ของอเมริกาที่ตั้งเรื่องนี้ไว้เป็นร้อยปีแล้ว ล่าสุดชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ บุช ยันโอบาม่าฯลฯ

    ทุกเรื่องคือเรื่องเดียวกันหมด ขอให้ท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ค่อยๆ เปิดใจอ่านข้อมูลไปทีละส่วนๆ แล้วมาประมวลผล
    ด้วยตัวเอง อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งปักใจ อย่าเพิ่งเมินหนี ว่ามันเรื่องอะไรหว่า

    ลองอ่านดูไปเรื่อยๆจะพบว่ามันมีมูลครับ วิทยาศาสตร์นะครับ ไม่ใช่สิ่งลึกลับ
    ที่ผมหามาโพสในห้องทไวไลท์ นี้ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไสยศาสตร์นะครับ แต่เป็นวิทยาศาสตร์และวงการนักวิทยาศาสตร์
    ทั่วโลกเค้ากำลังศึกษาอยู่เพียงแต่ เราอาจจะดูว่ามันเหลือเชื่อเกินไป

    สิ่งมหัศจรรย์ หรือสิ่งเหลือเชื่อนั้น ไม่เชื่อคุณลองนึกว่า คุณเอาเมาส์คอมพิวเตอร์ไปให้คนโบราณซัก ร้อยปีที่แล้ว
    เค้าก็คงไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรหรอกครับ ดังนั้น มันอยู่ที่ยุค และสมัย
    แต่สิ่งที่อยู่ในกระทู้นี้ มันจะย้อนอดีตไปไกล และล้ำมาสู่อนาคตอันใกล้ในปีสองปีนี้
    มันมีข้อมูล วัตถุดิบมากมาย ขอให้เปิดใจ

    ถึงอย่างไร หากไม่คิดอะไรมาก ก็คิดว่าเป็นแค่นิยาย อ่านเอามันส์ละกันครับ

    ----------------------------------------------------

    ILLUMINATI คือใคร พวกเค้าสำคัญอย่างไร กับโลกใบนี้ และกำลังทำอะไรอยู่??

    ถ้าใครได้ดูดาวินชีโคด จะเห็นได้ว่า มีพวกอิลูมินาติ illuminati
    แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ (ผมก็ไม่เข้าใจ) แต่มีผู้กล้า เปิดเผยเรื่องราว
    ค่อนข้างช๊อคพอสมควรหลังจากรู้ว่าแท้จริงแล้ว illuminati เป็นใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นกะโลกใบนี้

    ค่อยๆดูไปทีละ ตอนนะครับ อยากให้ดูให้ครบจริงๆ

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/UiOYMsUTNfY&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>
    กลับมาแก้ไขหัวกระทู้ใหม่นะครับ หลังจากที่ได้หาข้อมูลและมาโพสเรื่อยๆแล้ว
    ยิ่งอ่านยิ่งค้นไป จะพบว่าทุกอย่างมัน ค่อยๆเผยปมมาเป็นเรื่องเดียวกันมากขึ้น กระแส 2012 อิลูมิเนติ
    new world order การจัดระเบียบโลกใหม่ ของอเมริกาที่ตั้งเรื่องนี้ไว้เป็นร้อยปีแล้ว ล่าสุดชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ บุช ยันโอบาม่าฯลฯ

    ทุกเรื่องคือเรื่องเดียวกันหมด ขอให้ท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ค่อยๆ เปิดใจอ่านข้อมูลไปทีละส่วนๆ แล้วมาประมวลผล
    ด้วยตัวเอง อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งปักใจ อย่าเพิ่งเมินหนี ว่ามันเรื่องอะไรหว่า

    ลองอ่านดูไปเรื่อยๆจะพบว่ามันมีมูลครับ วิทยาศาสตร์นะครับ ไม่ใช่สิ่งลึกลับ
    ที่ผมหามาโพสในห้องทไวไลท์ นี้ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไสยศาสตร์นะครับ แต่เป็นวิทยาศาสตร์และวงการนักวิทยาศาสตร์
    ทั่วโลกเค้ากำลังศึกษาอยู่เพียงแต่ เราอาจจะดูว่ามันเหลือเชื่อเกินไป

    สิ่งมหัศจรรย์ หรือสิ่งเหลือเชื่อนั้น ไม่เชื่อคุณลองนึกว่า คุณเอาเมาส์คอมพิวเตอร์ไปให้คนโบราณซัก ร้อยปีที่แล้ว
    เค้าก็คงไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรหรอกครับ ดังนั้น มันอยู่ที่ยุค และสมัย
    แต่สิ่งที่อยู่ในกระทู้นี้ มันจะย้อนอดีตไปไกล และล้ำมาสู่อนาคตอันใกล้ในปีสองปีนี้
    มันมีข้อมูล วัตถุดิบมากมาย ขอให้เปิดใจ

    ถึงอย่างไร หากไม่คิดอะไรมาก ก็คิดว่าเป็นแค่นิยาย อ่านเอามันส์ละกันครับ

    ----------------------------------------------------

    ILLUMINATI คือใคร พวกเค้าสำคัญอย่างไร กับโลกใบนี้ และกำลังทำอะไรอยู่??

    ถ้าใครได้ดูดาวินชีโคด จะเห็นได้ว่า มีพวกอิลูมินาติ illuminati
    แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ (ผมก็ไม่เข้าใจ) แต่มีผู้กล้า เปิดเผยเรื่องราว
    ค่อนข้างช๊อคพอสมควรหลังจากรู้ว่าแท้จริงแล้ว illuminati เป็นใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นกะโลกใบนี้

    ค่อยๆดูไปทีละ ตอนนะครับ อยากให้ดูให้ครบจริงๆ

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/UiOYMsUTNfY&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/gx0jQAh0aaw&hl=en&fs=1& AllowScriptAccess="never" quality="high" loop="true" play="true"><NOEMBED></NOEMBED>

    ประเด็นหลักๆนี่ดูเหมือนว่า...พวกอิลลูมินาติตัวจริงจะเป็นพวก Reptilians.....????
    แล้วมนุษย์ต่างดาวพวกนี้สามารถเข้ามาอยู่ในร่างมนุษย์ได้ด้วยรึ. ......... น่าคิดมากทีเดียว......
    แล้วมันก็มีเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะจินตนาการได้.


    ลองค้นใน wikipedia

    อิลลูมินาติ
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    อิลลูมินาติ (อังกฤษ: Illuminati) เป็นชื่อที่อ้างอิงถึงกลุ่มหลาย ๆ กลุ่ม ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ในความเป็นจริงและในเรื่องแต่ง ในอดีตนั้นใช้อ้างถึงบาวาเรียนอิลลูมินาติ ซึ่งเป็นสมาคมลับในยุคเรืองปัญญาที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2319 สำหรับในปัจจุบันจะใช้อ้างถึงองค์กรสมคบคิดที่ถูกอ้างว่า เป็นกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังอำนาจอย่างลับๆ โดยการควบคุมเหตุการณ์ในโลกทุกวันนี้ผ่านทางรัฐบาลและกลุ่มบุคคลอื่นๆ คล้ายกับว่าเป็นการฟื้นคืนชีพหรือการสืบทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องของบาวาเรียนอิลลูมินาติ โดยในบริบทนี้คำว่า อิลลูมินาติ มักจะถูกใช้อ้างถึง New World Order (NWO) นักทฤษฎีสมคบคิด จำนวนมากเชื่อว่าอิลลูมินาติอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การสถาปนาลัทธิดังกล่าว และข้อเท็จจริงที่สร้างความสับสนมากขึ้นไปอีกก็คือ ปัจจุบันมีกลุ่มภราดรหลายกลุ่มที่มีคำว่า "อิลลูมินาติ" อยู่ในชื่อกลุ่มด้วย

    องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2319 ในเมืองอินกอลสตาดท์ (บาวาเรียตอนบน) โดย Adam Weishaupt[1] ผู้เลื่อมใสในคณะเยซูอิต และเป็นศาสตราจารย์ด้านประมวลกฎหมายโรมันเกี่ยวกับศาสนาที่เป็นฆราวาสคนแรกที่มหาวิทยาลัยอินกอลสตาดท์[2] องค์กรนี้ก่อตัวขึ้นจากนักคิดเสรีในฐานะเป็นผลพวงจากยุคเรืองปัญญา[3] ซึ่งนักเขียนร่วมสมัยบางคนอย่างเช่น Seth Payson เชื่อว่าเป็นการสมคบคิดเพื่อแทรกซึมและโค่นล้มรัฐบาลของหลายๆรัฐในยุโรป[4] ขณะที่นักเขียนบางคนอย่าง Augusting Barruel และ John Robison ได้กล่าวอ้างว่าอิลลูมินาติอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส
     
  11. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ผมไม่ได้ดูละเอียดนัก หากใครเก่งภาษา ช่วยสรุปอีกที
    เอาเป็นว่า พวกอิลูมินาติ เค้าว่ากันว่าเป็นพวก เอเลี่ยน ที่แฝงตัวมาในคราบมนุษย์
    เอเลี่ยนที่ รูปร่างเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน หรือเผ่าเลื้อยคลาน
    Lacerta ลองเซิร์ทคำนี้ดูนะครับ


    (ว่ากันว่า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ หาใช่เผ่าพันธ์เดียวที่มีอารยธรรมไม่ lacerta เผ่าเลื้อยคลาน คือสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่อาศัยอยู่ใต้ดิน
    เป็นพวกเลื้อยคลาน กิ้งก่า หรือถ้าไทยๆหน่อยก็ นาค หรือพญานาค มั้งครับ แต่ยังไม่แน่ชัดนักเรื่อง นาค อย่าเพิ่งด่วนสรุป อาจจะคนละพวกกันก็ได้ )


    ทีนี้ พวก เลื้อยคลาน หรือจะเป็นอะไรก็ตาม เช่นมนุษย์ต่างดาว หรือ พวก illuminati หรือพวกแอนตี้ไครส์
    สุดแล้วแต่จะเรียก(อาจจะเป็นพวกเดียวกันก็ได้)
    อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นพวกไม่หวังดีต่อโลก จะแฝงเข้ามา เพื่อดำเนินกิจกรรมบางอย่าง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ยากจะคาดเดา

    มีข้อสันนิฐานว่า สังเกตุคนที่ถูกแฝงตัวเข้ามา จะมีตาแบบสัตว์เลื้อยคลาน คือไม่เหมือนมนุษย์
    คือเป็นตา ลักษณะแนวตั้ง ไม่กลมเหมือนคนทั่วไป และ พวกนี้มักเป็นคนที่มีบทบาทต่อสังคมสูง
    เป็นใหญ๋เป็นโต เป็นประธานาธิบดี ดูวีดีโอนี้จะต้องอึ้ง ทึ่งกันไปตามๆ ว่าใครกันบ้างที่เป็นนะครับ



    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/ksPtnQmq2dc&hl=en&fs=1& play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never"><NOEMBED></NOEMBED>

    ในตัววิดีโออันนี้เขาเอาแววตามาเปรียบเทียบกับคนปกติ. .....คือคนทั่วไปต้องเป็นแววตา
    วงกลมนัยน์ตาต้องกลม....

    แต่นักการเมืองที่ถูกสิง...มันกลับมีนัยน์ตาแบบเดียวกับพวกงู. .....

    มันถูกสิงร่าง....ฟันธง.......!!!
     
  12. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ที่มาของข้อความเครดิต คุณ QUARK
    http://sameskyboard.com/index.php?showtopic=34464&st=0

    เอาละเข้าเรื่องครับ

    - ทำไม Alex Collier ได้ถูกเผ่าพันธ์ Andromedans เป็นเผ่าพันธ์ที่เป็นมิตรกับ เผ่าพันธ์เรา จับตัวไปเมื่อตอนเด็ก อายุประมาณ 6-7 ขวบ
    แต่ตอนนั้นมีความทรงจำบางส่วนที่ถูกลบไป (เพราะเค้ายังเด็กเกิน)แต่พอ อายุ 14 ก็ถูกจับตัวไปอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ Alex บอกว่าเค้าไม่รู้สึกกลัวไดๆเลย
    และ Andromedans ขอความร่วมมือจากเค้า ที่จะติดต่ดผ่านและหาข้อมูลให้ Alex ตอบตกลง และก็มีการติดต่อกันอีกหลายครั้งโดยAndromedans
    ได้ให้เครื่องมือสื่อสารชนิดพิเศษ

    ทีนี้เอาแบบพอกว้างๆนะครับ

    ในจักวาลนี้ มีมากมายหลาย planet หลาย galaxy มีเผ่า พันธ์ หลายเผ่าพันธ์ โลกเรานั้น มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์ที่ถูุกสร้างให้เชื่อมโยงกับโลก
    และเป็นเผ่าพันธ์ดั้งเดิมอาศัยอยู่ที่นี่
    เพราะโลกใบนี้จริงๆแล้วมีชีวิต มนุษย์มีพลังงานที่เชื่อมโยงกับโลกทำให้โลกมีชีวิตอยู่ได้ และทำให้จักวาลขับเคลื่อน
    (ผู้สร้างที่หลายศาสนาเรียกว่าพระเจ้าเป็นพลังงานเริ่มต้นสร้างทุกเผ่าพันธ์ทุก planet ทุกgalaxy )
    และในจักวาลนั้นมีระบบระเบียบ (ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี) เอาแบบเข้าใจง่ายๆนะ ก็เหมือนประเทศเราที่มี ประมุข ของประเทศ และหลากหลายระดับ และโลกนี้เป็น planet ที่สามารถไปได้หลาย dimension เปรียบเทียบเหมือนกับเมืองหลวงของประเทศอะครับ
    เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่หมายตาของ เผ่าพันธ์ Reptilian
    หลายล้านล้านปีก่อนที่มนุษย์ถูกสร้างนั้น มีหลายเผ่าพันธ์เข้ามาเยือนโลก แต่ไม่ได้มาอาศัยอยู่
    Reptilian เป็นเผ่าพันธ์แรกที่นำโลกใบนี้เข้าสู่แผนที่จักวาล และถือยึดครอง (คล้ายกับโคลัมบัสอ่ะครับ)
    ย้อนไปอีกนิด Reptilian นั้นมาจากดาว Dragonis และทำสงครามยึดครองดาวดวงอื่น เช่น Orionซึ่ง Graysอาศัยอยู่

    และ Grays เผ่าพันธ์ที่ อ่อนแอ จึงแพ้สงคราม จึงโดน พวก Reptilian เปลียน ยีนส์ ทำให้ไม่สามารถสืบเผ่าพันธ์ได้
    และบางส่วนก็อนำไปใช้แรงงาน
    เพราะฉนั้นเอง Grays ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้จึงต้องการ รักษาเผ่าพันธ์ของตัวเองไว้โดยการสต๊อคยีนส์ ไว้ผสมข้ามเผ่าพันธ์
    พวกนี้อาศัยอยู่ได้โดยดูดพลังงานจากมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็ทำงานให้กับ Reptilian แต่บางที Grays ก็ช่วยอะไรบางอย่างกับ
    มนุษย์เหมือนกันแต่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนเสมอ
    มาถึง Reptilian ที่ยังไม่ผสมDNA ก็อยู่ไต้ดิน ในน้ำ (โลก) พวกนี้มีชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยเลือดจากสิ่งมีชีวิตในโลกนี้
    บางส่วนที่ผสมแล้วก็ยังดื่มเลือดอยู่
    และ anunaki ก็เป็นเผ่าพันธ์Reptilian เหมือนกันตามภาพครับ
    Reptilian เป็นเผ่าพันธ์ระดับ 3 (เทคโนโลยีสุงแต่spiritualหรือพลังงานต่ำกว่ามาก)จะต่ำกว่า Andromedas (เทคโนโลยีสุงเท่ากับ spiritualหรือพลังงาน)
    ส่วนลักษณะ Andromedas นั้นไม่มีน้ำหนัก พูดตรงๆคือจับต้องไม่ได้ แต่เป็นรูปร่างของพลังงาน

    และ ก่อนหน้าAndromedas ก็มีอีกเผ่าพันธ์ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว เดี๋ยวค่อยหามาตอบ เคยเข้ามาเฝ้าาดูเผ่าพันธ์เราเหมือนกันแต่ไม่ได้ช่วย
    จนกระทั่งระบอบจักวาลเกิดสดุด จึงเป็นสาเหตุให้Andromedas ต้องยื่นมือมาช่วย
    และAndromedas พูดถึงเผ่าพันธ์มนุษย์ว่า เป็นเผ่าพันธ์ที่ถูกสร้างมาพิเศษมากเพราะมีการรวมเอายีนส์ DNA ของเผ่าพันธ์humanoid ทั้งหมด
    20กว่าสายพันธ์ (อันนี้ไม่แน่ใจจำนวนเดี๋ยวกลับไปฟังวิดิโออีกที) Andromedas บอกว่าพลังงานที่อยู่ในมนุษย์นั้นเป็นพลังงานเดียวกันกับพลังงานต้นแบบ(ผู้สร้าง)
    (ยกตัวอย่างเช่นน้ำทะเลหยดเดียวกับน้ำทะเลทั้ง ocean นั้นมีโมเลกุลเหมือนกัน)

    นี่เป็นอีกสาเหตุนึงที่ Reptilians ต้องการผสมDNA กับมนุษย์ มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มีการรวบยีนส์DNA ได้สมบูรณ์แบบ

    และพวกนี้หลอกใช้มนุษย์บางส่วนที่เห็นแก่ได้โดยแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี กับเผ่าพันธ์ของตัวเอง (โดยการทำลายเผ่าพันธ์ของตัวเอง ผ่าน สงคราม โรคระบาด และอื่นๆอีกมากมาย)และกุมความลับไว้จากสายตาของเผ่าพันธ์ตัวเอง มนุษย์ส่วนนี้ ต้องการย้ายถิ่นฐานไปดาวดวงอื่น(เพราะไม่ต้องการอยู่ไต้การควบคุมของReptilians ) เช่นดวงจันทร์หรือ ดาวอังคาร แต่หารู้ไม่ว่า ที่ดวงจันทร์และดาวอังคาร
    ก็มีพวกReptilians เหมือนกัน

    ณ ตอนนี้ NASA จึงยกเลิกความคิดที่จะย้ายไปดาวดวงอื่นโดย การยึดขั้วโลกเหนือไว้เป็นอณานิคม โดยการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดไต้ผิวโลกทำให้แกนโลกเอียง
    เพื่อจะให้ขั้วโลกหนืออุ่นขึ้น

    ผมแปลจากที่ Alex พูดไว้ และรายละเอียดนั้นยังมีอีกมากมาย จากเวบDavid Icke Website - Research Archive ก้อมี ที่อธิบายว่าอาหาร และ ยา
    บางชนิดทำให้
    ยีนส์ของมนุษย์เปลี่ยนไป ไม่สามารถมีลูกได้(เป็นหมัน) ก็เป็นการลด กำจัดเผ่าพันธ์มนุษย์อีกทางหนึ่ง

    0 ส่วนใครจะเชื่อหรือไ่ม่นั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล ผมก็ไม่ได้บังคับใครให้เชื่อเอาเป็นว่า เปิดสมองรับสิ่งไหม่ๆแล้วกันนะครับ

     
  13. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">มีคำอธิบายที่ชัดเจนมากเกี่ยวดาวNibiru ยุค Sumarian และอธิบายว่า Reptilians เข้ามาในโลกได้ยังไง
    อาศัยอยู่ที่ไหนของโลก และ Illuminati history

    ( Nibiru2012, Illuminati history )
    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/Iempod2GaAg&hl=en&fs=1& play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never"><NOEMBED></NOEMBED>

    The Anunnaki & the Myth of a 12th Planet
    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/fpN_KD7b0NQ&hl=en&fs=1 play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never"><NOEMBED></NOEMBED>

    และNASAปิดบังข้อมูลอะไรบ้าง แล้วที่จริงดวงจันร์ดวงนี้ว่าที่จริงไม่ใช่ดวงจันทร์ แต่เป็นยาน
    (หรืออะไรก้อตามที่เคลื่อนที่เข้าใกล้โลก โดย Reptilian)

    http://www.youtube.c...feature=related


    ที่จริงดวงจันทร์นั้นมีแต่ไม่ใช่ดวงนี้ แต่อยู่ห่างออกไป
     
  14. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">จากคุณ wincha บอร์ดฟ้าเดียวกัน



    ภาพพวกReptilian ครับ
    [​IMG]

    [​IMG]


    มีเรื่องของเกรย์ในอีกมุมนึง
    แปลโดย คุณ jesdath

    ---การลักพาตัว จะเกิดมากที่สุดในอเมริกา เพราะการยินยอมจากรัฐบาล
    เหตุผล เพื่อการวิจัยยีนส์ และการผสมข้ามพันธุ์--ว่ากันว่า ชาวเกรย์ ให้ทุนสถาบันในอเมริกา 10 แห่ง เพื่อการวิจัยโตลนนิ่งอย่างเดียว--เพราะพวกเขาต้องพึ่งการสืบพันธุ์แบบนี้ --แต่มีข้อเสียคือรุ่นหลังจะอ่อนแอลง
    ชื่อของพวกเขา มาจากสีผิวที่เราจะเห็นเป็นสีเทา--แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. มาจากกลุ่มดาว โอเรี่ยน เป็นโอเรียนเกรย์ชนิดที่ 1

    2. โอเรียนเกรย์ชนิดที่ 2

    3. เกรย์สปีชี่ย่อย
    นอกจากนี้จะมีพวก เกรย์สปีชี่ย่อยลงไปอีก 22 แบบ จากดาว ริเกล -Rigel,
    เออร์ซ่า เมเจอร์-Ursa Major ,ดราโคนิส- Draconis และ ซีต้า เร็ตติคิวลั่ม-Zeta Reticulum

    --เราต้องพยายามเข้าใจพวกเขา เพราะพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อเข้าครอบครองโลก โดยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว-โลภ
    เกรย์ จากโอเรี่ยน มี 2 แบบ แบบตัวใหญ่ และอีกแบบตัวเล็ก ตัวเล็กจะถูกโคลนนิ่งจากพวกตัวใหญ่ ซึ่งเรามองดูจะเหมือนกันราวกับตุ๊กตา-หรือปั๊มออกมาเป็นล็อตๆ

    --เกรย์ จะมีจุดอ่อนในระบบทางเดินอาหาร และมีจิตสำนึกร่วมกัน ต่างกันกับพวกเราที่มีจิตสำนึกเดี่ยวเฉพาะบุคคล

    --ศาสนาของเกรย์ คือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ทางจิตวิญญาณ

    --โครงส้างทางสังคม คือการเคารพเชื่อฟัง และทำหน้าที่

    --การยึดโลก จะใช้การควบคุมจิตมนุษย์มากกว่าใช้กำลัง- -ตามความเห็น
    ของผม ใรอเมริกา น่าจะเกิน 80เปอร์เว็นต์ที่เขาควบคุมได้--บางประเทศแถบฝรั่งเศส ถึง 100 เปอร์เซนต์-ที่มีอุปกรณ์ฝังอยู่ในตัวคน

    ---ตาม ข้อมูลล่าสุด เค้าได้ขายประเทศให้กับเกรย์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในภาวะจำยอม เนื่องจากเทคโนโลยี่ทางอาวุธ ยังห่างชั้นจากเกรย์มากนัก ประมาณว่า ดร.กับเด็กอนุบาล

    ---ในโครงการก รัดจ์ ได้เกิดการวิวาทกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นพวกเกรย์เอาคนไปผ่าทำเป็น มนุษย์แมงมุมหกขา อะไรต่างๆ(จะมองมนุษย์เหมือนคนใจบาปมองดูเป็ดไก่ เตรียมชำแหละ) จนหน่วยเอ็มเจ-12 ได้เข้ามาเคลียร์ อาวุธทุกชนิด ทำอันตรายพวกเขาไม่ได้ หน่วยเอ็มเจ 60คน เสียชีวิตทั้งหมด--องค์การลับได้สั่งหยุดการทดลองร่วมทันที- -นักวิทยาศาสตร์ ได้กลับบ้าน และแอบเอาเอกสารลับออกมา บอกญาติว่าถ้าพวกเขาถูกฆ่าตายให้แฉเอกสารทันที

    ---นี่คือที่มาของการรั่วไหลของข่าวจาก แอเรีย 51 และที่อื่นๆ

    --โดย ที่อเมริกามีกฏหมายใหม่ ให้คนทั่วไปสามารถขอดูเอกสารของทางการได้แต่เอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ จะถูกลบด้วยหมึกสีดำ ดูได้ที่เวป The black Vault แต่ก็พอมีเค้าเงื่อนให้ติดตามได้ ว่ามีจานบิน และเอเลี่ยนอยู่จริง

    ---อำนาจ และเทคโนโลยี่เป็นสิ่งจำเป็น ในที่สุดองค์กรลับ ที่ชื่อเหมือนสีทาบ้าน ก็ยอมกลับไปทำงานกับพวกเกรย์อีก ทิ้งช่วงไป 2 ปี

    --ใต้ ดินแถวแอเรีย 50 มีฐานใต้ดิน 7 ชั้น มีชาวต่างดาวกว่าหมื่นคน ทำงานวิจัยร่วมกับมนุษย์ เช่นการส้ร้างเครื่องบินเร็วกว่าเสียง 8 เท่า วิศวพันธุกรรม
    อะไรต่างๆ โดยมีงบลับ ที่ถ้ารู้ตัวเลขแล้วจะสลบ มะกันทุ่มสุดตัว--เพราะอยากเป็นเจ้าโลก-ทั้งงบที่มาจากกลุ่มเศรษฐียุโรป เงินที่ได้จากการขายยาเสพติด--ให้กับคนในชาติของตัวเอง
    --นักวิทยาศาสตร์ ที่เคยทำงานในนั้นถึงกับบอกว่า หมดหวังกับอนาคตของโลกแล้ว เพราะพวกนี้เข้าคุมทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินทอง-ไอเอ็มเอฟ แม้กระทั่งรายได้จากเว็ปโป๊-ที่มากมายมหาศาล

    --เด็กผู้หญิงคนหนึ่งออกมา โวยวายบอกว่า เพื่อนหล่อนทั้ง 7 คน น่าจะเป็นตัวโคลนนิ่งทั้งหมด--อีกคนเคยทำงานองค์กรลับ บอกว่า พ่อเค้าก็เป็นตัวโคลนนิ่งเหมือนกัน

    --จานบินตกที่รอสเวลล์ เป็นการจัดฉาก เพื่อจะอ่อยเหยื่อให้องค์การลับ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และก็สมใจ เกรย์สยายปีกไปทั่วโลกแล้ว

    --เกรย์ได้ติดต่อลับๆกับรัฐบาลของมหาอำนาจประมาณ 5 ชาติ เพื้อแลกเปลี่ยนในแบบเดียวกัน--- เทคโนโลยี่กับชีวิตมนุษย์ตาดำๆ

    --การกินอาหารของเกรย์ จะใช้เครื่องชูรส และต่อมต่างๆ ที่มีฮอร์โมน ได้จากการสกัดจากอวัยวะมนุษย์ และสัตว์ โดยจะอมไว้ใต้ลิ้น
    บางข่าวบอกว่าเกรย์จะลงอาบในสารละลายที่ว่านี้ เพื่อให้ซึมเข้าในตัว

    --เดิม ทีเกรย์ก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่เนื่องจากการรบกันเอง โดนรังสีโดยตรง และตกค้างหลายพันปี จนยีนส์เสื่อม--นอกจากนั้น อะตอมที่
    รับ รังสีอย่างแรงนานๆ ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของเวลา-อวกาศ ทำให้ดวงดาวของพวกเขาเหมือนยานอวกาศที่สามรถวาร์ปผ่านรูหนอนเข้ามาใกล้โลก มากขึ้น--เนื่องจากการแบ่งแยกอัตตา ทำให้เกิดสงคราม พวกเขาจึงสร้างจิตสำนึกร่วม
    โดยใส่ไว้ในยีนส์--รวมทั้งเกรย์บางพวกก็ใส่ ยีนส์ของพืชเข้ามาด้วย--จึงกินอาหารน้อยมาก ใช้พลังงานน้อยแบบพืช--มีแร่ในหินแถบเนวาด้า ที่เป็นพวกเหล็ก ที่เขาต้องใช้เป็นอาหาร จึงนับว่า เหมาะสม ที่อยู่แถบนั้น

    --เกรย์คิดว่า รักร่วมเพศแบบโฮโมเซ็กชวล-ชายรักชาย ไว้ประโยชน์ จึงร่วมกับองค์กร์ คิดเชื้อโรคเอดส์ขึ้นมาสำเร็จ และทดลองในเขต
    -สงวนของอืนเดียน 4 จุดนอก นั้นส่งให้เป็นวัคซีนของ องค์การอนามัยโลก---จนแพร่มากในแถบอัฟริกา- -ซึ่งไม่ได้มีสังคมมั่วเพศ--จนคน ที่นั่นสังเกตว่า คนที่ไปหาหมอ ถูกฉีดยามา จะเป็นเอดส์ทุกคน--และอเมริกาก็ขายยาต้านเอดส์แพงๆอีก- --จริงๆแล้ว-เอดส์หาย ได้โยไม่ต้องใช้ยา--ใช้สนามไฟฟ้าแรงสูง ความถี่สูงหลายจิกะเฮิทซ์ วันละ 2ชั่วโมง ประมาณ 10 ครั้ง เอดส์จะหายไปเอง--ข้อมูลจากเว็ปอังกฤษ เกี่ยวกับ เอเลี่ยนเบส--บอกไว้ละเอียดว่า ไรส์ไทม์ ฟอลล์ไทม์เท่าไหร่ --ข้อมูลที่ผมหายไปแล้ว

    ---แล้วไวรัส หวัดนก หวัดหมู ซาร์ โรคสมองฝ่อ --ซึ่งมนุษญ์เรายังไม่มีเทคโนโลยีดัดแปลงไว้รัสได้- -จุดประสงค์คือทำลาย มนุษย์และแหล่งอาหาร คือ เนื้อวัว เนื้อไก่--ให้พวกเราอดตาย

    ---มี เทคโนโลยีการถอดวิญญาณของมนุษย์ออกมาขังไว้ เก็บข้อมูลความทรงจำและดีเอ็นเอ ไว้ในเครื่องคล้ายๆคอมพิวเตอร์ -สร้างตัวโคลนนิ่งได้ ใน 3 ชั่วโมง แล้วอัดความจำและวิญญาณกลับไป โดยจะฝังพวกชิป และฉีดยาบล็อคสมองไว้ (การฝังมี 2 แบบ ฝังเป็นวัตถุ และ ไม่มีวัตถุ เป็นก้อนพลังงาน)ร่างเดิมเอาไว้ทดลองต่อไปได้อีก- -รีไซเคิ่ล

    เกรย์ชั่วร้าย ก็ร้ายจริงๆ แต่เป็นเพียง 5 เปอร์เซนต์ของชาวต่างดาวที่เราได้พบนะครับ- -บางพวกอยู่ในโลกมาเป็นแสนปี --โดยอยู่ใต้ทะเล เป็นเมือง มีประชากรเป็นแสนๆ--คนที่ได้พบมนุษย์ต่างดาว จะถูกข่มขู่ โดยชายชุดดำ บางพวกก็มีนามบัตรของ ทางนาซ่า หรือเอ็นเอสเอ

    --แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่อยู่ใต้ทะเล พวกนี้จะโหดเห้มมาก
    พวกที่มาจากดาวพลีอิดเดี้ยนจะดี เป็นผู้หญิงก็จะสวยน่ารัก อายุยืนราว 400กว่าปี

    --เดิมที ในสมัยของทรูแมน ได้พวบยานบินตกที่เมกซิโก แต่ทางการอเมริกาได้ขอเอาซากยานและศพมาดื้อๆ พบว่า เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง และพบว่าไม่มีความรู้พอที่จะวิเคราะห์ระบบขับเคลื่อนของยานได้

    --ต่อมา ได้พบยานตกอีก มีสิ่งมีชีวิตรอดตายมา 1 ตัว พบว่าไม่ค่อยกินอาหาร ใช้พลังงานน้อย ได้พา ดร.ด้านสัตว์ไปวิเคราะห์ ปรากฏว่า งง ครับ
    ดร.ว่า ระบบเหมือนพืช จึงให้ ดร.ทางพืชเข้าไปดู พบว่า โอเค เหมือนพืชมาก
    ปี แรกๆ พยายามสื่อสาร แต่เขาจะพูดไปอีกทาง หรือหลบเลี่ยง ปีที่ 2 พูดมากขึ้น ตั้งชื่อว่า EBE(extra-terrestrial biological entities)

    -- สิ่งมีชีวิตทางชีววีทยา จากต่างดาว ซึ่งก็คือ เกรย์ตัวแรกนั่นเอง ปีที่ 3 EBE ตายเรียบร้อย
    อาจจะทดลองกะเค้ามากมาก เฉามือตายเลย
    เวปเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว พลีอิดเดี้ยน http://www.pleiadianlight.net/ เสิชหาคำว่า pleiadian
    คนกับเกรย์สมานฉันท์ ทำงานร่วมกัน

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/xXIWKQOu-k8&hl=en&fs=1& play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never"><NOEMBED></NOEMBED>
    human worked with aliens-area51

    [​IMG]

    [​IMG]

    แปลโดยคุณ jesdath

    Dr. Joshua David จบทางจิตวิทยา ได้ค้นคว้าเรื่องลี้ลับต่างๆทางศาสนา องค์กรลับทางศาสนา
    และเรื่องต่างดาว ได้พบกับคนทรง แบบแชนเนิลลิ่ง โดย วิญญาณชื่อ Vynnamus ได้พูดภึงภารกิจที่ชั่วร้ายของเกรย์เช่นกัน

    ---ชาวพลีอิเดี้ยนได้กล่าว ถึงการแกล้งทำจานบินตกที่รอสเวลเช่นกัน เป็นการยืมดาบฆ่าคนของชาวเกรย์
    ใช้องค์กร์ลับปั่นป่วนไปทั่วโลก สร้างสงครามกลางเมือง เพื่อขายอาวุธ เข้ายึดแหล่งทรัพยากร เชื่นเหมืองทอง เหมืองเพชร น้ำมัน

    -- สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เป็นกายเนื่อ มองเห็นได้ มีเป็นบางส่วน บางส่วนเป็นพวกกายทิพย์ บางทีจะเห็นเป็นเงาๆ
    หรือจะเห็นได้ในรูปถ่าย เนื่องจากพวกเกรย์ หรือพวกอื่นมีอุปกรณ์ที่สามรถสลายร่างให้เป็นพลังงานได้ แต่ก็อาจเห็นได้จากกล้องถ่ายรูป ตาเรามองไม่เห็น

    ปี1989-1973 จากรายงานของ MJ-12 มีการลักพาตัวประมาณหลายพันรายแล้ว

    -ปี 1979 หน่วยเดลต้าฟอร์ซพยายามจะลงไปปล่อยคนที่ถูกจับมาทดลอง
    บางรายเป็นเด็กถูกฆ่าเอาอวัยวะเป็นอาหารของเกรย์ ทหาร 66 ถูกฆ่าตายทั้งหมด ไม่เหลือรอดสักคน

    --1984หน่วย MJ-12 ส่งสครืปท์เรื่อ อีที และ Close Encounter of the third kindพร้อมช่วยโปรโมทอย่างลับๆ เพื่อสร้างภาพ ให้ชาวต่างดาว ดูน่ารักสำหรับมนุษย์และการแลกเปลี่ยนประชากรตามหนังเรื่องที่2 ก็เกิดขึ้นจริงๆ

    ---ภาพยนต์ ดิเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนใหญ่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง--ล่าสุด Taken
    จาก ผสปิลเบริก ผู้สร้างเรื่อง อีที ก็สับแหลก การกระทำของเกรย์ และองครฺกรลับที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง มีทั้งกองทัพสามเหล่า ,หน่วยความนั่นคง, หน่วยราชการลับ--องค์กร อิลลูมิเนตติ -ไตรเลทเทอราล และ พวก บิลเดอร์เบอร์เกอร์(บิลเกตต์และเชื้อพระวงศ์ยุโรปก็เป็นพวกนี้- กุมบังเหียน โลก-สำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิส)---อันนี้เพิ่มเติมจากผมเองครับ

    ขอแก้ข่าวเรื่องรอสเวลล์ ในยานลำนั้นมีเกรย์ 4 ตัวครับ ตายทันที 1 ตัว และช่วง 1984 MJ-12 ก็เตรียมจะแถลงความจริงเรื่อง EBE สู่สาธารชนเช่นกัน และยังมี นายมัวร์ ได้เขียนเรื่อองจานบินตกที่รอสเวลล์ไว้อย่างละเอียด จึงได้เชิญนาย มัวร์ มาอัดวีดิโอไว้ด้วย มีการอ้างถึงพระเยซูคริสต์ EBE ก็รับมุขทันที โดยอ้างว่าพวกตนนี่แหละได้ทำการการสร้างพระคริสต์ขึ้นมา โยวิธีทางพันธุกรรม และมีการฉาย
    วีดิโอโฮโกรมสามมิติ ตั้งแต่กำเนิดของโลก จนกระทั่งการถูกตรึงการเขน แต่ภาพไม่ได้ชัดเจนนัก เพราะระบบของภาพยนต์ไม่เข้ากันทางความเร็ว แต่ผลกระทบนี้ มีมากมายมาหาศาลต่อชาวโลก เพราะความเชื่อทางศาสนาที่มีมานับพันปีจะถูกสั่นคลอน และถอนออกไปจากจิตใจมนุษย์ ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างว่างเปล่า-- ทำไมพระเจ้าจึงกลายเป็นชาวต่างดาวไปได้เล่าหลังจากพวกนักวิชาการได้วิเคราะห์แล้ว จึงงดการเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

    จากการสำรวจของทางกองทัพอเมริกัน แยกเกรย์เป็น 3 แบบ
    1. เกรย์ ชนิดที่ 1 สูง 3ฟุตครึ่ง หัวโต ตาโต หัวตาเฉียงลง เก่งและเคารพเทคโนโลยีเป็นศาสนา ไม่คิดร้ายต่อมนุษย์
    2. ชนิดที่สอง นิ้วมือมีรูปแบบต่างออกไป หน้าตาต่างออกไปเล็กน้อย จะมีความซับซ้อนทางจิตใจ ใช้สามัญสำนึกเป็น และไม่ต้องการสารจากอวัยวะสัตว์ก็อยู่ได้
    3.เกรย์ชนิดที่ 3 ปากจะบางกว่า และเชื่อฟังคำสั่งของ สองพวกแรกเป็นอย่างดี

    --พวกอื่น เรียกว่า พวกผมบลอนด์ ชาวสวิส หรือ นอร์ดิกส์ เหมือนมนุษย์เรา
    แต่ ไม่ค่อยปรากฏตัว หรือจุ้นจ้านกับมนุษย์ เพราะถือกฏสมาพันธ์กาแลคติก
    คือการไม่แทรกแซงสังคมมนุษย์ ยกเว้น เมื่อการกระทำของเกย์ส่งผลร้ายต่อสังคมมนุษย์อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน

    --มนุษย์หลากหลายมิติ--สามรถมาในรูปร่างต่างๆ นิสัยรักสงบ

    --คนแคระ สูง 4 ฟุต หนัก 35 ปอนด์ มีหนวดเครา ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตที่ฉลาด

    --พวกตัวสูง สูง 7-8 ฟุต ผมบลอนด์
    --ตัวคล้ายมนุษย์ อาจจะเป็นลูกผสม หรือแอนดรอย์ เป็นลูกมือของเกรย์
    --ชายชุดดำ ใส่หมวก ใส่แว่นดำ ผิวซีด ไวต่อแสง ไม่ชอบแสงสว่าง
    บางทีก็เป็นภาพลวงสามมิติ(โฮโลแกรม)
    --บาง ทีก็เดินหลบพวกเดียวกันไม่ได้ ต้องบอกให้คน ช่วยย้ายออกไป-และมีสายไฟโผล่มาจากรองเท้า- -อาจเป็นหุ่นยนต์ หรือตัวโคลนนิ่ง--ผมเคยอ่านมาน่ะครับ


    อืม ลืมบอกไป นอกจากพวกที่อาศัย ใต้ดิน ใต้ทะเลแล้ว มีอีกพวกที่อยู่ ใจกลางโลกเลย
    พวกนี้มีหลายเผ่า พลังจิตสูงมาก มีผู้เข้าไป และถ่ายภาพยนต์ไว้ แต่ทางการสหรัฐพยายามปิดข่าว
    และโต้แย้ง แบบร้อนตัว ---ทุกวันนี้ ลูกหลานของนายพลที่ถ่ายหนังไว้ ก็สืบทอดเจตนารมร์อยู่ครับ
    เขากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐต้องรู้เรื่องพวกนี้ดี และรู้มานานแล้วด้วย

    --มนุษย์หลายมิติ พวกเขาบอกว่า โลกของก้อนหิน-ไม่มีชีวิต ถือเป็นมิติที่ 1
    สำหรับเขา พวกพืชก็เป็นมิติที่สอง พวกสัตว์ มนุษย์ ก็เป็นมิติที่สาม
    บาง ครั้ง พวกเขาก็ติดต่อไปยังมิติที่หนึ่งเหมือนกัน ถ้าไม่นับมิติกาลเวลาเป็นมิติที่ 4 ให้แยกออกมาเสีย
    มนุษญืกำลังก้าวเข้ามิติที่ 4 หรือความหนาแน่นที่ 4 โดยพวกเขาจะทำการล้ายโลกบางส่วน และ ดวงอาทิตย์ไปด้วย
    พวกเขาบอกว่า โดยทำการกลับสปินของอะตอม ไป 90องศา ก็จะเกิดสิ่งใหม่ คือเราจะเข้าสู่กาล-อวกาสใหม่ของมิติอื่น
    พวกเขาบอกว่า สามารถย้าย สสารและมนุษย์ได้โดยวิธีนี้ ส่วนใหญ่จะพาไปที่ใต้ทะเล
    เพื่อตรวจสอบ แล้วส่งกลับมาแบบเดิม มิติที่พวกเขาอยู่ จะมีความเร็วของอะตอมมากกว่าของเรา 17 เท่า
    และมีความเล็กละอียดมากกว่า รวมทั้งแสงในมิตินั้นก็เร็วประมาณ 17เท่าของมิติเรา

    ---ปัจจุบันการ คำนวณทางทฤษฎีสตริง พบว่า มี มิติ ที่ 10 11 และมีถึง 26 มิติ จากการคำนวณ แต่ในทางการมองเห็น
    หรือความเข้าใจ เราไม่อาจเข้าใจได้ เช่น เราวางกระดาษบางมาก บนโต๊ะ มองลงไป ก็จะเห็นแผ่นกระดาษ เป็นสองมิติ กว้าง-ยาว
    แต่มองขนานกับขอบโต๊ะ ก็จะไม่เห็นกระดาษ เพราะเรามองดูมิติที่ 3 ซึ่งกระดาษมีแค่สอง เมือเข้าสู่มิติสูงๆ ประมาณ 7 เราก็จะเห็นสิ่งรอบตัวหายไป เพราะกาล-อวกาศ(ที่ว่าง)-time-space ม้วนตัวกลับสู่จุดกำเนิด ทั้งจักรวาลกลายเป็นจุดสามมิติเล็กนิดเดียว หรือหายไปเลย

    --ลองค้นในยูทิวบ์ก็มีครับ วัสดุ 4 -5 มิติ และ คลิป 10 มิติ

    <EMBED height=300 type=application/x-shockwave-flash width=400 src=http://www.youtube.com/v/wRbj9dCmTAY&hl=en&fs=1& play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never"><NOEMBED></NOEMBED>

    หา ในยูทิวบ์สิครับ เยอะมาก แล้วที่เดินตัวเป็นเป็นๆ เค้าถ่ายคลิปมาได้จะให้เรียกว่าอะไรครับ มนุษย์พิการหรือ
    ความจริงที่ Mr.Terran เขียนไว้ยังแปลกกว่านี้อีกนะครับ เช่น จานบินแบบต่างๆ หน่วย MJ-12 ยังได้การตอบรับที่ดีกว่านี้มาก
    หรือว่า เราจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ ก็โยนโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งไปเถอะครับ

    เพราะการใช้ความถี่ต่างๆนี่ พวกเกรย์คิดเอาไว้ให้ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟด้วยครับ--
    บางท่านยังภูมิใจกับการยึดสนามบิน เอ๊ย การยึดครองโลกอย่างเงียบๆ ของเกรย์ หรือชาว ซีต้า ก็ตามใจพวกท่นเถอะ ไม่มีใครบังคับ

    --เจ้าลัทธิ ฟาหลุนกง กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ มนุษย์ต่างดาวคิดทำไว้ให้ พวกนี้จริงๆ หน้าตาเหมือนผี และปลอมตัวอยู่ปะปนกับพวกเรา

    ---แล้วเอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอ กองพะเนินเทินทึก จะอธิบายว่าอย่างไร แม้แต่คู่มือของหน่วย MJ-12 ก็บ่งบอกถึงการทำงานกับพวกมนุษย์ต่างดาวไว้อย่างชัดเจน ผมเคยมีภาพแบบแปลนของจานบิน เป็นภาษาเยอรมัน เพราะนาซีก็ได้สร้างจานบินไว้หลายแบบ

    --สิ่งเหล่านี้รอพวกท่านค้นพบอยู่ ครับ เพราะท่านก็มีสิทธิที่จะรู้ และมีเน็ต มีเครื่องที่เร็วกว่าของผมอีกครับ รู้เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่สนใจก็คิดว่าเป็นนิยายก็แล้วกันครับ

    เกรย์จากดาว ริเกล-Rigel คือพวกที่ติดต่ออย่างลับๆ กับรัฐบาลอเมริกา
    พวกนี้จะมีผิวสีเหลืองแกมเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีเทา เมื่อป่วย หรือตายเท่านั้น

    -วิธี ตรวจสอบ โดยใช้สามัญสำนึกเบื้องต้นนะครับ --ทำไม รบ.อเมริกัน จึงสามรถแซกแซง เข้าโจมตี ทำลายทุกประเทศ
    ที่สงสัยว่าจะมีการซ่องสุม วางกำลังเพื่อจะทำร้ายประเทศของตน โดยที่ประเทศอื่นมีการคัดค้านน้อยมาก
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหประชาชาติ พี่ใหญ่ของเรา กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่-ทำหลับตาอุเบกขาซะได้ บางประเทศ
    เช่น อินโดนีเซีย กับการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทำอย่างโหดเห้ม สหประชาชาติได้จัดการนำกองกำลังร่วมเข้าไปหย่าศึกโดยทันที
    มันจะต้องมีการเมืองลับๆ อยู่เบื้องหลังการกระทำของชาติต่างๆ รวมทั้งการโจมตีค่าเงินบาท ค่าเงินสกุลต่างๆ ตามด้วยไอเอ็มเอฟ
    ว่ากันว่า ก็คือแผนยึดประเทศต่างๆให้เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจนะครับ เดิมทีไทยก็เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาทางการต่อต้านยาเสพติด
    แต่หลายสิบปีนี้ไม่ได้เลย เพราะทางอเมริกาไม่นิยมเสพยาบ้า--องค์กรลับนี้ได้มีกองเรือติดอาวุธ และการค้าฝิ่นในลาว ผ่านในรูปของ บ.แอร์อเมริกา ก็มีมานานแล้ว-พูดมากไปก็อันตรายต่อตัวผมเอง

    ---พี่สาวผมดูจะไม่ค่อย เชื่อเรื่องชาวต่างดาว แต่ในฐานะที่เธอก็อยู่ในประเทศเมกามาหลายปี เธอบอกว่า มันน่าแปลกใจ ที่สมัย 100-200ปีก่อน ไทยกับอเมริกาเจริญเท่ากัน มีปืนสั้น ปืนยาว ปืนใหญ่ แต่ ในช่วงหลัง อเมริกาเจริญในด้านเทคโนโลยีอย่างผิดสังเกต พวกเค้าเอาความรู้ต่างๆมาจากไหน รู้ด้วยว่าเทคโนโลยี่จะเติบโตไปในทิศทางใด ซึ่งถ้าไม่มีแนวทาง ลองผิดลองถูก ก็ยังไปได้ช้า--เรียกว่าจากสมัยทรูแมน มาถึงปัจจุบัน การเติบโต เป็นไปอย่างก้าวกระโดดจากเครื่องคิดเลขเอามือโยก กลายเป็นคอมพิวเตอร์ จากโทรเลข กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ

    --ส่วนนี้เรา สามารถมองได้จากทางฝั่งยุโรปอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของยุโรป-เชื้อพระวงศ์ยุโรปบางประเทศ ได้เป็นสมาชิกกลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเราสามราถค้นย้อนหลังไปได้ว่ามีการประชุมมากี่ครั้งแล้ว จัดขึ้นในยุโรปบ่อยมาก-สื่อต่างๆก็พยายามติดตามอยู่ จริงๆแล้วพวกนี้ไม่ง้อเทคโนโลยี่จากกลุ่มของเกรย์ก็ได้ เพราะคิดต่ออยู่ประมาณ 35ดวงดาว ตลอดเวลา-เหล่านี้แหละคือกลุ่มชั่วของจักรวาล เรียกว่า กลุ่มภราดรภาพดำ ก็ได้--และกลุ่มภราดรภาพขาว-White Bratherhood ก็มี ซึ่งคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของพวกนี้อยู่ รวมถึงสมาพันธ์กาแลกติก พลีอิเดี้ยน,อาร์คทอเรี่ยน ดาวอังคาร ,กลุ่มดาวพิณ-Lyra อีกมากมาย


    เกรย์จาก Zeta Retticulum มีความสามารถทางโทรจิต สามารถขยายสนามพลังจิตเพื่อให้ควบคุมจิตใจมนุษย์ได้ กลุ่มของพวกเกรย์ทั้งหมด
    ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันนัก เพียงแต่คบหากันอย่างหลวมๆ โดยจุดประสงค์ร่วมกัน คือการยึดครองโลก โดยจะมองโลกในฐานะแหล่งเพาะมนุษย์-สัตว์
    เพื่อใช้เป็นอาหาร ตลอดจนยังอาศัยเทคโนโลยี่บางออย่างที่มนุษย์ทำไว้เยอะมากในราคาถูกๆ เช่น RFID --ชิปขนาดจิ๋วที่รับ-ส่งข้อมูลวิทยุได้
    ปัจจุบันมักใช้ในฉลากเสื้อผ้า ตามห้างใหญ่ๆ หรือตั๋วคอนเสริท ตั๋วทางด่วน -พวกเขาเอามาฝังในร่างกายมนุษย์ เพื่อ ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ
    ภาวะของเลือด--ต่างๆส่วนหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ของมนุษย์นั้นยังอ่อนด้อยในทางเทคโนโลยี่-

    -พวก เขาแนะนำว่า การเขียนโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานนั้น มันไม่สามารถทำให้ถึงจุดที่มีสติปัญญาเทียมได้หรอก
    เพราะถ้าเขียนสักหมื่นบรรทัดเราก็งง และล้าแล้ว--การคอมไพล์ การรัน มันก็มีข้อจำกัด พวกเขายกตัวอย่างเช่น
    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ มีขนาดเท่าซองบุหรี่ ในขณะที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของเราขนาดเกือบเท่าสนามฟุตบอล
    และของเขาไม่ได้ใช้สารกึ่งตัวนำพวกซิลิกอน- -แต่เป็นพวกสารอินทรีย์ ซึ่งเดิมพวกเขาก็ใช้ได้ดี แต่ตอนหลังๆ
    มีชาวต่างดาวฝ่ายตรงข้ามสามรถทำการแฮก เจาะข้อมูลได้แล้ว จึงต้องมีการระวัง ควบคุมข้อมูลรั่วไหล

    คนที่เก่งมากๆ เช่นโปรแกรมเมอร์ระดับๆ อาจจะมียีนส์จากต่างดาวก็ได้ครับ
    เรียก ว่า Starseed ทับศัพท์เดี๋ยวจะเป็นเรื่องทะลึ่งไป พวกนี้มักฝันเห็นนรก หรือสวรรค์ รู้เหตุการร์ล่วงหน้า
    มีความคิดสร้างสรรค่อนข้างสูงกว่าปกติด แต่มักปวดหัวบ่อย ไม่ทนต่อดินฟ้าอากาศในโลกนัก ในหนังสือของ
    ดร.โจเซฟ บอกไว้เยอะมาก ของไทยก็มีนะคิดว่าผ่านตา ผมเคยอ่านแล้ว--ถ้าสนใจก็บอกเอาไว้ก็แล้วกันครับ

    ----ลืมไปอีกอย่างคือ ในฐานทัพใต้ดิน แถวแอเรีย51--ปัจจุบันคงย้ายมาแถว Groom Lake แถวๆนั้น มีชาวต่างดาวอีกกลุ่มคือพวก เรปติเลียน-Reptilian
    (ผมชอบเรียกเป็นแบบ ฉพาะตัวว่า มนุษย์กิ้งก่า)อยู่ด้วยกัน ทั้งสองพวกนี้ใช้ตัวอักษรเหมือนกัน--เป็นพวกอักษรภาพ หรือ เฮียโรกริฟฟิก--แต่ในเอกสารของทางการสหรัฐบางชุด กับในหนังสือ เล่มนี้ไม่ได้ระบุเอาไว้ คาดว่าคงไม่สำคัญเท่าพวกเกรย์--(บางกระแสก็บอกว่า เป็นภาษาเดียวกันกับภาษาดั้งเดิมภาษาแรกของมนษย์ที่ได้สาบสูญไปแล้ว- ชื่อว่า ภาษากูโบส -ใครชอบทางเจ้าเข้าทรงก็ลองไปสอบถามดู ถ้าเป็นเทพจริงจะต้องรู้ภาษากูโบสชั้นสูง เพราะ ภาษากูโบสมี 5 ระดับ 300 กว่าแม่ภาษา)
    ในฐานใต้ดิน 7 ชั้นมีอุโมงต์ วิ่งไปหากันได้ทั่วประเทศสู่ฐานใต้ดินต่างๆ
    จำ ได้ว่าใช้ระบบลม และสูญญากาศ ทำให้กระสวยวิ่งไปได้เร็วมาก--(บ.ที่รับจ้างขุด ชื่อ แรนด์คอร์เปอเรชั่น) และลิฟท์ที่ใช้ จะไม่มีสายลวดสลิงให้รำคาญ แต่ใช้ระบบของแม่เหล็กไฟฟ้าที่ชาวต่างดาวออกแบบแบบไว้

    ในหนังสือนี้ยังพุดถึงยีนส์ของมนุษย์ว่า มีส่วนของยีนส์ขยะ ยีนส์จากเชื้อแบคทีเรีย อะไรต่างๆ ซึ่งมีส่วนทำให้เราคิดว่า มนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทตนิควิศวพันธูกรรม-
    -เพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ เคียงกับมนุษย์คือลิง ก็จะไม่มียีนส์แบบนี้อยู่ ยิ่งยีนส์ที่เราเรียกว่ายีนส์ขยะ เหราะไม่แสดงผลต่อรูปร่างลักษณะ หรือความฉลาด
    แต่มันมีประโยชน์ คือเอาไว้เพื่อลักษณะพิเศษ
    เช่นการมีพลังจิต โทรจิต อะไรต่างๆ ซึ่งปกติคนทั่วไปไม่ได้มี คือหายาก เราจึงขาดการทดลองในจุดนี้ไป

    ---จริงๆ แล้วที่เราเคยอ่านบทความทั่วไป เขาจะพูดว่า มนุษย์มียีนส์ของสัตว์แทบทุกอย่าง--แต่ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกับสัตว์อื่น
    ให้เห็นจะๆ ผมก็เพิ่งได้คิดตอนที่เขาเอามาเทียบให้ดู และเราลองนึกดูซิว่า ลิงตามป่าเขา ขาดซึ่งอาหารที่ครบ5 หมู่ ตากแดดตากฝน
    แต่เราไม่เคยเห็นลิงเป็นหวัด หรืออ่อนแอ อะไรทำนองนี้ สุนัขตัวเล็กๆอย่างรอดไวเลอร์ ลากรถ 6 ล้อได้สบายๆ ขณะที่มนุษย์จอไอฝนนิดเดียว
    เป็นหวัดเอาง่ายๆ อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพเมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย อะไรคือต้นเหตุของสิ่งเหล่านี้ นักพันธูวิทยาก็จะบอกว่า พวกสัตว์มียีนส์
    ที่บริสุทธ์กว่านั่นเอง ถ้าจะให้วิเคราะห์พวกเค้าคงบอกว่า เป็นคลิปหลุด เอ๊ยไม่ใช่ ยีนส์หลุดจากห้องแล็บหมาดๆ ยังไม่ผ่านการทดสอบคิวซีเลย-
    -อันนี้ต้องโทษชาวแอนนูนากิ ที่สร้างพวกเรามาไม่ดีพอ

    ---มีหลายอย่างที่ทำไปแล้วไร้คำตอบ เหมือนโครงการฟิลาเดลเฟีย--อืม เรือฟิลาเดลเฟียที่หายไป และปราหฏขึ้นที่เดิมนั้น
    มันได้ย้อนกลับตามกรแสขแงเวลา ไปอยู่ที่โรงงานที่สร้างมันขึ้นมา แต่ผลที่ตามมานั้น มีทหารเรือหลายคนถูกฝังอยู่ในเหล็กกระดูกงูเรื่อ
    และตายทันที บางคนเสียสติ บางคนที่ถูกกักตัวไว้ หายตัวได้เป็นพักๆ--ที่แปลกอีกอย่างคือถูกปลดล็อคเวลา- (Time Lock)
    คือใน 1 เดือน จะแก่ขึ้น 1 ปี และตายอย่างเร็ว เพราะนาฬิกาในตัวถูกตั้งให้เดินเร็วเกินไปดังกล่าว
    ไม่ใช่แต่มนุษย์ พวกต่างดาวที่ใช้จานบิน ก็มีอาการเช่นนี้อยู่เหมือนกัน(ผู้เล่าเป็นน้องชายนายทหารที่ตายในการทดลอง)

    -ขอ ประนาม องค์การ SETI ชื่อย่อนี้มาจากคำว่า ค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาวอะไรทำนองนี้ ตั้งมาหลายสิบปี้ ใช้เงินไปมากมาย แต่ไม่สามราถหาร่องรอย
    มนุษย์ต่างดาวมาได้สักรายเดียว หรือว่า อาจจะมีมากๆแล้วปิดข่าว--แม้กระทั่งทุกวันนี้ เซติก็เรียไรในทุกๆสื่อ
    แต่จะเอาเงินไปทำอะไร ไม่มีทั้งโครงการและผลงาน--เป็นคำถามที่ไร้คำตอบ- -พูดแล้วเซ็งในหัวใจครับ

    --ดู ภาพยนต์อินเดีย เรื่อง มหาภารตะยุทธ์ เพิ่งนึกได้-- เมื่อฤาษีทำนายไว้ว่า ทางฝ่ายเการพ หรืออะไรนี่จะมีพี่น้องเกิด 108 คน จากแม่คนเดียว ถึงเวลาคลอด
    แม่ เค้าคลอดออกมาเป็นก้อนเนื้อครับ แล้วฤาษี ก็นำก้อนเนื่อนี้มาแบ่งใส่ภาชนะ คือหม้อดิน 108ใบ เก็บไว้ 1 ปี ทุบหม้อออกมาก็จะเป็นทารกชายทั้งหมด

    --ถ้าพูดไป อันนี้พวกนักเลงกล้วยไม้ทราบดี ว่าเป็นการเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือกับพืชอื่นๆ เราเรียกว่า ไม้ปั่นตา ถ้าเป็นทางคน-สัตว์ ก็คือการโคลนนิ่งเราดีๆนี่เอง เห็นไหมครับ
    บอกแล้วว่า โคลนนิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่

    --ในคัมภีร์รามายณะกล่าวถึง อาวุธของพระราม คือศรที่ไม่มีสาย แต่มีอำนาจทำลายล้างร้ายแรงเช่นเดียวกับหัวรบนิวเคลียร์-

    -มีนักวิทยาศาสตร์ อินเดีย พยายามถอดคำพูดในคัมภรีที่กล่าวถึงวิมาน ก็ได้ภาพยานบินหลายชนิดหลายขนาด มีตัวกำเนิดพลังงาน เยเนอร์เรเคอร์ มีโลหะหลายชนิดที่ไม่มีในโลกนี้--ผมเคยมีรูป แล้วถ้าหาเจอจะนำมาให้ชมครับ--เรื่องชาวเกรย์จะจบแล้ว แต่ยังมีเรื่องชาวดาวอังคารในทำเนียบขาว 3ปี

    --ชาวมอธแมนไม่มีศรีษะ แต่บินได้ มีตาที่ไหล่ โปนโตสีแดง ชอบอยู่ตามป่าช้าเห็ฯเหตุการณ์ล่วงหน้า จนนำมาสร้างเป็นหนังไปแล้ว ,ชาวแอชตาร์คอมมานด์กับการแทรกแซงสื่อโทรทัศน์- -ชาวอาร์คทอเรียนมาปกป้องโลก ในรูปของวิญญาณกุมารนับร้อย--เออันนี้เข้าห้องศาสนาดีกว่ามั้ง-

    -ท่านสามารถ เข้าถึงเรื่องลึกลับทำนองนี้ได้อีกแบบหนึ่งคือ ถามจากผู้รู้ ผู้เก่งเรื่องสมาธิ ถ้าเก่งจริง
    ท่านจะต้องทราบอย่างแน่นอนครับ เพราะความจริงก็คือความจริง จะมองจากมุมไหน ก็ต้องเห็นวันยังค่ำ

    --ผมเองโชคดีที่มีคนที่เก่งพลังจิตอยู่ใกล้ๆ สอบถามได้ทันที แต่ต้องเลือกเวลาหน่อยไม่งั้นเจอ จานบิน สากครกบิน

    ---กระทู้ นี้อยู่ในเรื่องลี้ลับ-รอการพิสูจน์ ยิ่งค้นก็ยิ่งรู้ครับ บริหารสมอง ยิ่งเรารู้ทันต่างดาวพวกนี้ ก็จะทำให้แผนการของพวกมันเปลี่ยนไป--ผู้อำนวยการคนแรกขององค์กรลับ เมื่อเครียมจะบอกข้อมูลจริง ถูกจับยัดโรงพยาบาลทหาร โดยสงสัยว่าบ้า และถูกแขวนคอลงมาจากหน้าต่าง อำพรางว่าฆ่าตัวตายเอง
    --มีพวกนักวิทยาศาสตร์มากมายถูกฆ่า เช่นฆ่าแล้วเผาในรถยนต์ คนทั่วไปถูกข่มขู่
    กระบวนการรักษาความลับยังดำเนินต่อไป

    --บิล ลี่ เมียร์ เป็นผู้ที่เผยแพร่การติดต่อกับชาวต่างดาว- -พลีอิเดี้ยน ทุกวันนี้ก็ถูกตามฆ่าจากกลุ่มต่างดาวที่เป็นศัตรู ,ชายชุดดำ และหน่วยงานทหารบางประเทศ--นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่มาจาก พร็อกซิมา เซ็นจูรี่ กาแลกซี่ ซึ่งอยูใกล้ๆเรา ห่างไป 55ล้านไมล์ บอกกับชายชาวเยอรมันที่ตั้งแค้มป์ในป่า (สื่อสารกันด้วยภาษาเยอรมัน โดยใช้เครื่องแปลภาษาที่เหน็บไว้ที่เข็มขัด)

    --มีผู้นำศาสนาใหม่ๆ เช่น ภิกษุณีชิงไห่ ตลอดจนผู้รับสาสน์จักรวาลแบบแชลเนลลิ่ง เช่น Kryonเข้าสู่สหประชาชาติ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี มีการให้สัมภาษณ์ ปาฐกถา นับว่าโลกนี้ไม่สิ้นหวังเลยทีเดียว มีขบวนการยุคใหม่ ที่เรียกว่า นิวเอจ พวกนี้จะใช้ผลึกอัญญมณีในการรักษาสุขภาพ ความรู้ทางโยคะ แม้แต่ดนตรีก็ต้องเป็นนิวเอจ ว่ากันว่าคนพวกนี้เคยเกิดในทวีปแอตแลนติส

    ---รู้จัก คำว่า ระเบียบโลกใหม่- New World Oder ไหมครับ คำว่า Globalization หรือ Alternative III ผมว่ามันออกมาจากปาก-หรือเป็นแนวคิดชาวต่างดาวทั้งนั้น มันเป็นองค์ความรู้แบบใหม่ครับท่าน พอๆกับทฤษฎี โกหลาหล Chaos ที่ว่าผีเสือขยับปีกทำให้แผ่นดินไหว เด็ดดอกไม้สะเทิอนถึงดวงดาว

    เกรย์มีความสามารถทางการย้ายสสาร ที่สามรถเปลี่ยนสสารให้เป็นพลังงานแล้วย้ายไปสู่ที่อื่นๆโยอุปการณ์ที่ เหมือนกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว--ที่ผมได้กล่าวอ้างถึงความละเอียดของ อะตอมในมิติของพวกเขาที่มีความเร็วในการสั่นสะเทือนถึง 17 เท่าของโลกเรา พูดง่ายๆ ว่าอาจจะสูงกว่าเราประมาณ 17 มิติ ทำให้พวกเขาเดินทะลุกำแพง หลังคา หรือส่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวไปไก้ ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้านแท้ๆ

    ---อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้ท่านสับสน คือ ที่ว่า มิติที่ 1 คือ พวกก้อนหิน
    มิติ ที่สอง ก็พืช เอาเป็นว่าใช้คำว่าความหนาแน่น(ทางจิตวิญญาณ)ก็แล้วกันครับ และหลายๆแหล่งยืนยันว่า พวกเรากำลังเริ่มเข้าสู่ความหนาแน่นที่ 4
    โยจะ เห็นได้ว่า จะมีคนสนใจเรื่องลี้ลับ ผี เทพ นางฟ้า เรื่องจิตวิญญาณมากขึ้น ส่วนดาวดวงอื่นนะ เขาเข้าสู่ระดับ 4 กันหมดแล้ว รอพวกเราอยู่ครับแหะๆ

    --ตาม ทฤษฎีไกอา ถือว่าทุกๆสิ่งมีความรู้สึก โลก ก็คือสิ่งมีชีวิตแบบหนึ่ง ต้องการจะยกระดับจิตวิญญาณแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่เป็นตัวถ่วงก็คือมนุษย์
    ดัง นั้น โลกจึงพยายามชำระล้างตัวเอง โดยการทำลายชีวิตมนุษย์บางส่วนออกไปบ้าง-

    -อันนี้เป็นคำบอกจากต่างดาวผสมกับ ทฤษฎีไกอา--ไม่ได้อ่านการ์ตูน MMR มากนะนี่ รอบเดียวเอง--และจีโนมโปรเจค-ถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ก็ทำเสร็จแล้วด้วย
    --ชาว อันโดรเมดา หญิงสาวชื่อ ไลอา เข้าพบนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวเม็กซิกัน บอกว่า ผลการตรวจสอบ และคำนวณ คะเนชะตาของโลก นั้นเสร็จแล้ว และบอกว่าชาวโลกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและตัวเอง เช่น การทดลองนิวเคลียร์บ่อยๆ เกิดความร้อนสูงๆ ทำให้พายุหมุนจะมีความเร็วสูง การทำลายล้างที่รุนแรง--(อันนี้ผมกำลังนึกเรื่องโลกร้อนอยู่ เรื่องอัตราการรับและสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อัตราการใช้น้ำมัน ถ่านหิน--แต่จุดนี้ลืมไปเลยจริงๆ--คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกร่วมเลยนะ)- --และตอก ย้ำว่า การทดลองสงครามเคมีของอเมริกาก่อให้เกิดเชื้อโรคเอดส์- -ก็มีส่วนจริง เพราะไวรัสจริงๆเป็นแค่ผลึกโปรตีน ไม่ใช่เซลแบคทีเรีย

    --มนุษย์จะพบพลังงานจากอวกาศ มันมาของมันเอง ไม่ได้เกิดจากอะไร
    (ว่า กันว่า เทสลา ได้ค้นพบแล้ว ทุกหลังคาเรือน มีเสาอากาศ รับพลังงานมาใช้สบายไป--แต่พวกบิลเดอร์เบอร์เกอร์ขัดขวางเอาไว้ เพราะเก็บเงินค่าไฟไม่ได้)

    --2015 จะพบพลังงานที่มาจากเสียง เธอบอกว่าที่ดาวของเธอสามารถใช้เสียง อุ่นให้ทั้งตึกมีความอบอุ่น โดยผู้อาศัยก็ไม่รำคาญเสียงนี้
    (มีข่าวว่าอเมริกาได้ทดลอง ใช้ตลื่นเสียงกำจัดฝุ่นควันในอากาศ โดยไม่แจ้ง
    สาธารณชน และผู้คนพากันพูดว่า อากาศสะอาดขึ้นมากอย่างผิดสังเกต)

    ความสามรถทางสะกดจิตของพวกนี้ ทำให้การเข้าควบคุมประเทศต่างๆ ได้ง่าย เพราะแค่สะกดจูงจิตผู้นำคนเดียวก็เพียงพอแล้ว และยิ่งเมื่อใช้วัตถุ
    ที่ ฝังเข้าในตัว-implants-จะยิ่งง่ายขึ้นอีก เคยอ่านที่เก็นเป็นชิปในโพรงจมูก ตรงต้นคอ-เคยเห็นแท่งแก้วผลึกที่ฝังไว้แถวหน้าแข้ง -บางอย่างเป็น ก้อนพลังงาน แต่ทำหน้าที่ได้เช่นกัน

    --เกรย์ผสมพันธุ์โดยตรงกับมนุษย์ไม่ได้ แต่ทำได้ในแล็บ ดังนั้น จึงมี ลูกผสมต่างดาว--พวกหุ่นกึ่งมนุษย์-android
    -- มีการลักพาตัวผู้หญิงจำนวนมากเรือนหมื่นเรือนแสน และทำให้ท้อง---อย่าคิดลึก--และยังโขมยลูกในท้องอีก การตัดอวัยวะสัตว์-Cattle Mutilation เกิดขึ้นทั่วไป เคยเห็นในยูทิวบ์ว่า วัวทั้งตัวถูกดูดลอยขึ้นไปด้วยลำแสงสีขาว-

    -และบางแหล่งข่าวบอกว่ามีการ ชำแหละมนุษย์--อาจจะที่ WTC ด้วย--มีคลิปยูทิวป์ที่ไฟใหม้โรงแรมในปักกิ่งอย่างรุนแรง แต่ตึกไม่ยุบลงมา ทีเวิลด์เทรด ชึ้นล่างแทบจะเป็นโครงเหล็กทั้งหมด ไฟก็ยังไม่มาก ดันยุบลงมาได้--น่าคิดครับ

    --ถือได้ว่าระดับการแทรกแซงสังคมมนุษย์ของพวกนี้ เข้าสูระดับสูงสุดแล้ว
    --พวก นี้มีฐานทัพอยู่ทั่วโลก มากที่สุดในอเมริกา และมีในส่วนด้านมืดของดวงจันทร์ด้วย---มีข่าวว่านักบินอะพอลโลก็ไปนั่งจิบ กาแฟกันมาแล้ว
    แถมยังไม่ต้องใช้หน้ากากออกซิเจนอะไร ผักก็ปลูกให้เชียวพรืดไปหมด ไม่ต้องกลัวใครเห็น เพราะด้านนี้ไม่เคยหันไปทางโลกเลย

    --เกรย์ ตัวสูง จะมีอำนาจเหนือพวกซีต้า และพวกBeetletrax โดยจะมีฐานใหญ่ที่ใกล้เกาะ Aleutian สิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าด้อยกว่ามนุษย์ ก็คือสืบพันธุ์เองไม่ได้ การโคลนนิ่งก็จะได้ตัวที่เล็อกกว่า อ่อนแอกว่าเดิม

    ---จบ อรรถธิบาย เรื่อง Greys มา ณ ที่นี้--ขอบคุณผู้อ่าน เพราะถ้าไม่มีพวกท่านผมก็ขี้เกียจนั่งแปล และถือโอกาสก็อปใส่บล็อกไว้ เพราะขี้เกียจเขียน
    --สำหรับความเห็นที่ไม่ชอบใจผม ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะท่านไม่ได้จ่ายค่าเน็ตแทนผมอยู่แล้วครับ- -ฮา--ท่านที่อยากอ่านต่อ ต้องบอกว่าอยากอ่านเรื่องอะไร-เพราะผมจบทางไสยศาสตร์บัณฑิตโดยตรงครับ- ไม่ ถนัดทางวิทย์


    ขอบคุณ Lyssa Rayal
    จากหนังสือ Prism of Lyra และ Valdimar Valerian
    จากหนังสือ Matrix I,II,และ III


    [​IMG]
     
  15. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">นอกจาก Cooper แล้ว ยังมีอีกคนที่ทำงานในกลุ่มนี้ และเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกันกะ Cooper เขาคือ James Forrestal

    EBE

    เป็น Alien ที่รอดชีวิตจากยานตก ในปี 1949 เจอที่ Roswell ขณะกำลังเดินอยู่กลางทะเลทราย
    ให้ชื่อว่า EBE ( Extraterrestrial Biological Entity)
    จากการทดลองื่อสารกับ EBE นั้น พบว่า EBE โกหกเก่งมากๆ (tendency to lie)
    ช่วงในปีแรก EBE จะตอบคำถามในสิ่งที่ มนุษย์ชอบฟังและอยากได้ยินเท่านั้น
    แต่หลังจากนั้นในปีที่2 EBE เริ่มเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ที่ทำเอาทางนักวิทยาศาสตร์ช๊อคไปตามกัน ในข้อมูลที่
    EBE ให้มา ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกบันทึกลงใน "Yellow Book." (ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ได้ว่า EBE พูดอะไรบ้าง)

    และในปี 1951EBE เริ่มป่วยลง และไม่มีใครสามารถรักษาได้ เพราะระบบภายในของ EBE นั้นไม่เหมือนมนุษย์
    ระบบภายในของEBE เทียบได้กับพืช (chlorophyll-based ) และเสียชีวิตลงในปี 1952

    ในขณะนั้น มีการพยายามช่วยเหลือ EBE ก็มีการก่อตั้ง Project SIGMA ได้พยายามส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ ไปยัง cosmos
    แต่ก็ไม่มีการตอบกลับมา
    แต่Project นี้ก็ยังมีต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน

    Creation of the NSA
    ในขณะนั้นประธานาธิปดี Truman เป็นประธานาธิปดี สหรัฐอยู่ในตอนนั้น ได้มีคำสั่งให้ก่อตั้ง National Security Agency(NSA)
    ใน November 4,1952 จุดประสงค์หลักคือ สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับมนุษย์ต่างดาว และเรียนรู้สื่อสารภาษาต่างดาว
    และจุดประสงค์รองคือรวบรวมหลักฐานระบบสื่อสารจากทั่วทุกมุมโลก ที่พบว่ามีการสื่อสารจาก Alien และปิดข้อมูลไว้เป็นความลับ
    เพราะในต่อมา Project SIGMA ก้อประสบความสำเร็จมาก

    และในขณะเดียวกัน NSA ก็ได้มีการติดต่อสื่อสารกับ แคมป์ที่อยู่บนดวงจันทร์ด้วยเหมือนกัน(แคมป์นี้เป็นของมนุษย์นะครับ)
    NSA นั้นถูกตั้งมาให้อยู่เหนือกฏหมายทุกอย่าง เป็นคำสั่งของประธานาธิปดีโดยตรงในขณะนั้น
    ฉนั้น NSA จึงเป็นกลุ่มหลัก และเงินสนับสนุน 75% จึงเป็นของกลุ่มนี้

    แต่ CIA นั้นทำหน้าที่เป็นแค่ฉากหน้า

    ประธานาธิปดี Truman มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับโซเวียตและประเเทศอื่นๆหลายประเทศ เพราะไม่แน่ใจในจุดประสงค์การมาของ Alien
    ในหัวข้อหลักคือถ้าเกิดสงครามกับ Alien ควรจะรับมืออย่างไร และในขณะเดียวกันก็หารือกันว่าทำอย่างไรถึงจะปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
    และให้ข้อมูลเท็จอย่างไร และในตอนนี้เอง ก้อมีการก่อตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาคือ the Bilderberger Group. ในปี 1952
    และหลังจากนั้นกลุ่มนี้เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น และควบคุมทุกอย่าง และควบคุมอยู่เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐ เพราะฉนั้น UN
    ก้อเป็นแค่เรื่องตลกลวงโลกเท่านั้น(ระบอบประชาธิปไตยเป็นแค่ภาพลวงตา
     
  16. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">และหลังจากนั้นมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีคนต่อมา ในปี 1953 คือ Dwight David Eisenhower ได้สานต่องาน
    แก้ไขปัญหาเรื่อง Alien จึงเป็นสาเหตุให้มีการก่อตั้งกลุ่ม MJ-12 ขึ้นมา และในขณะนั้นได้ติดต่อ Nelson Rockefeller
    ด้วยเหตุผลที่ว่า ทั้งสองเป็นสมาชิกของ CFR และ Eisenhower เองด้วยความที่ซื่อสัตย์กับกลุ่ม CFR มาก และ ด้วยความเคารพใน
    Rockefeller family จึงได้ร่มกันก่อตั้ง MJ-12 ขึ้นมา
    และหลังจากนั้น Eisenhower ได้เข้าใจอย่างซาบซึ้งว่าเขาตัดสินใจผิดมหันต์ ต่อ ประชากรของโลกใบนี้ และต่อรัฐบาลสหรัฐ

    เป็นการหักเหครั้งใหญ่ เพราะ Nelson Rockefeller ใช้ความรู้วิทยาการณ์ทางดา้นวิทยาศาสตร์และและข้อมูลต่างๆ
    เพื่อจุดประสงค์ของตัวเองด้วยความเห็นแก่ตัวและความโลภ

    ในปี 1953 นั้นเองนักวิทยาศาสตร์ได้เห็นวัตถุ ที่มีขนาดใหญ่มากเคลื่อนที่เข้าใกล้โลกจำนวนหนึ่ง ในตอนแรกคิดว่าเป็นลูกอุกาบาตย์
    แต่เมื่อมันเคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้น และอยู่เหนือน่านฟ้า จึงได้เห็นว่าเป็น UFO ขนาดที่ใหญ่มากจอดเรียงกันบนน่านฟ้า
    และ Project SIGMA และProject PLATO จับสัญญาณการสื่อสาร และแปลโดยคอมพิวเตอร์(the computer binary language)
    และประสบความสำเร็จ จนมีการพบปะเจรจากัน
    (Project PLATO นั้นมีหน้าที่หลักคือ เจรจาสัมพันธ์ทางการทูตกับ ALIEN GRAYS )


    และต่อมาในช่วงเวลานั้นก็มี ALIEN อีกเผ่าพันธ์หนึ่ง มีลักษณะเหมือนมนุษย์ Humanoid ( Andromeda) คือย้อนกลับไปนิดนึงพวกนี้จะมี
    spiritual development ที่สุงในระดับ 4 เทคโนโลยี่เอยู่ในระดับเดียวกับ spiritual
    ส่วนพวกGRAYS และ Reptiliansอยู่ในระดับ3 คือ เทคโนโลยี่สุงแต่ spiritual ต่ำกว่า พวกนี้จะไม่เข้าใจในเรื่อง spiritual
    แต่ก็พยายามที่จะก้าวไปให้ถึงในระดับ4 ระดับ spiritual นั้นมีระดับ12 ระดับหรืออาจมากกว่านั้น ระดับสุงสุดที่เรียกว่าพระเจ้า
    หรือพลังงานfต้นแบบนั้นอยู่นอกเหนือ 12ระดับขึ้นไป อันนี้ต้องไปดูในคลิปของนักฟิสิกส์ที่ชื่อ Michio Kaku
    ในหน้าแรกที่คุณ Piglet แปะไว้
    แต่ที่เค้าพูดเอาไว้นั้นเป็นแค่ระดับ materialแค่นั้นเอง ส่วนมนุษย์เรายังไม่ติดอันดับเลย ทั้งเทคโนโลยี่และspiritual
     
  17. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    <TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width=30>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>Re: -- อิลูมินาติ Reptilian Shapeshifters ---
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">เอาล่ะเข้าเรื่อง Andromeda นั้นมีspiritualที่สุงกว่าพวก GRAYS นั้นในการสื่อสารกับมนุษย์จึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
    (Alex collier บอกว่าพวกนี้สื่อสารโดยใช้โทรจิต) ซึ่งก็ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แปล เหมือนพวกGRAYS

    จุดประสงค์ในการมานั้น Andromeda เพราะอยากช่วยเผ่าพันธ์มนุษย์และโลก ได้ยื่นข้อเสนอให้ทางการสหรัฐ ทำลายขีปณาวุธนิวเคลียร์
    เพราะถ้ามีไว้มันจะเป็นการทำร้ายและทำลายโลก (อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าโลกนี้มีชีวิตและพลังงานของมันก็ริบรี่เต็มที)
    และจะไม่มอบอาวุธใดๆให้อยู่ในมือของมนุษย์เพราะมนุย์จะนำไปใช้ในทางผิดๆ

    แต่ในเงื่อนไขเหล่านี้ Andromeda เสนอจะสอนให้มนุษย์เรียนรู้ทางด้าน spiritual (ซึ่งทรงพลังมากกว่าเทคโนโลยี่)(offered to help us with our spiritual development)

    แต่ด้วยความโลภรัฐบาลสหรัฐ ก้อตอบปฏิเสธไป และด้วยกฏหมายสากลของจักวาลแล้ว Andromeda
    จะเข้าแทรกแทรงอะไรไม่ได้นอกจากมีการเซ็นสนธิสัญญา

    แต่ในปี 1954 รัฐบาลสหรัฐ ได้มีการลงนามในสนธิสัญญากับ GRAYS

    เงื่อนไขในสนธิสัญญา

    -ไม่รบกวนหรือก่อสงครามกับโลก
    -รัฐบาลสหรัฐจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
    -GRAYS ต้องสอบเทคโนโลยีไหม่ๆให้กับรัฐบาลสหรัฐ
    -GRAYS จะต้องไม่ทำสนธิสัญญากับประเทศอื่นนอกจาก สหรัฐอเมริกา
    -เห็นด้วยที่จะมีการแลกเปลี่ยน ประชากรมนุษย์และGRAYS เพื่อการทดลอง ศึกษา แต่มีเงื่อนไขว่า ทุกครั้งที่มีการนำมนุษย์
    ไปจะต้องนำกลับมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และลบความทรงจำออก และรายงานกับรัฐบาลสหรัฐทุกครั้งที่นำมนุษย์ไป
    -ลงความเห็นร่วมกันที่จะให้มี alien ambassador(ชื่อว่า Crill or Krill) ไว้บนโลกและนำ human ambassadorไปเพื่อเป็นการรักษาสนธิสัญญา
    -ทุกครั้งจะมีการแลกเปลี่ยน 16 GRAYS และ 16 human เพื่อการศึกษา ทดลอง
    -รัฐบาลสหรัฐ อณุญาติ ให้มีฐาน บนโลก ได้ ที่โลก มีประมาณ 3-4 ฐาน และใน2 ฐานไต้พื้นผิวโลก นั้นมีการศึกษาทดลองร่วมกัน
    ทั้งมนุษย์และ GRAYS

    Project REDLIGHT ทดสอบการฝึกบิน UFO ซึ่งอยู่ใน Area 51 และอีกที่นึงที่ Dreamland และในที่นี้ก็เป็นที่แลกปลี่ยน
    เทคโนโลยี่ ยุธโธปกรณ์ ต่างๆกับ GRAYS

    ต่อมาในปี 1955 ทางรัฐบาลสหรัฐได้พบว่า GRAYS ได้ละเมิดสนธิสัญญา คือเรื่องการนำมนุษย์และสัตว์ไปศึกษา พบว่เสียชีวิตบ้าง
    พิการบ้าง ผิดปกติบ้าง เพราะมีการพบเจอซากเหล่านี้ทั่วไป และทุกครั้งก็ไม่ได้รับการรายงานแต่อย่างใดจาก GRAYS
    นอกเหนือไปจากนั้น ก็ทราบมาอีกว่า GRAYS ได้ทำสนธิสัญญากับประเทศโซเวียต ด้วย
    และไดมีการติดต่อกับGRAYS ก็ยอมรับว่าละเมิดสัญญาจริง และยังได้มีการทดลองกับ มนุษย์ที่มากไปกว่านั้น
    อีกคือ ใช้เวทมนต์ ศาสนา และการบูชาซาตาน( They stated that they had manipulated the human race through religion, satanism, witchcraft, magic, and the occult. )

    และหลังจากนั้น-Air Force ได้ทำสงครามกับ GRAYS ปรากฎว่าเป็นที่ประจักษ์ว่าอาวุธเราสู้GRAYS ไม่ได้เลย

    จากนั้น จึงมีคิดค้นคว้าอาวุธที่ทันสมัยขึ้นโดย 35 คน จาก CFR

    และหลังจากนั้นอีก ก็พบว่า GRAYS ได้ทำการทดลองเปลี่ยนยีนส์มนุษย์และสัตว์ ต่างๆอีกมากมายเพื่อการรักษาเผ่าพันธ์ของตนเองไว้
    (เพราะGRAYS ไม่สามารถสืบพันธ์ได้ หลังแพ้สงครามกับ Reptilians ก็ได้ถูกพวกนี้เปลี่ยนยีนส์ไป)

    แต่ mj12 ก็ไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของGRAYS มากนัก แต่ก็จำยอมให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป เพราะยังอาศัยเทคโนโลยี่
    จากGRAYS

    และอีกด้านก็ได้มีการร่วมมือกับ โซเวียต และประเทศอื่นๆด้วย จึงเป็นกำเนิดของ Projects JOSHUA and EXCALIBUR.

    Projects JOSHUA นั้นเป็นเทคโนโลยี่ของ NAZI คือใช้เสียงในการทำลาย ประสิทธิภาพสามารถทำลายเกราะโลหะที่มีความหนา 4 นิ้ว ได้ในระยะ 3 กิโลเมตร และเชื่อว่าอาวุธชนิดนี้สามารถยิง UFOได้

    EXCALIBUR คือ อาวุธนิวเคลียร์ สามารถทำลาย ฐาน ของ alien ไต้ผิวโลกในพื้นผิวที่แข็ง ในระยะทางลึก 1 กิโลเมตรได้


    หลายปีที่มีการติดต่อกับ GRAYS นั้น เทคโนโลยี่ได้พัฒณาขึ้นมาก เช่น antigravity-type craft ซึ่งสามารถเดินทางไป
    the Moon, the planets Mars and Venus, ได้
    รัฐบาลนั้นยังปิดบังโกหกต่อสาธาระณะชน อย่างมากในเรื่องพวกนี้

    เช่นความจริงที่ว่า บนดวงจันทร์ มีต้นไม้และพืช เติบโตที่นั่น และสามารถเปลี่ยนสีได้ตามฟดูกาล
    และมีก้อนเมฆ ด้วย(ด้านมืดของดวงจันทร์)
    และสามารถเดินได้บนดวงจันทร์โดยมีแรงโน้มถ่วงเช่นเดียวกับโลก
     
  18. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ครับวันนี้ผมจะมาพูดถึงโครงการลับของ NASA ผมหวังว่าเรื่องที่น่าทึ่งเหล่านี้ ใครคงไม่คิดว่าเป็นจินตนาการอีกนะครับ

    ผมขอแปลมาจาก ลิ้งนี้นะครับ http://www.bibliotecapleyades.net/sociopolitica/esp_sociopol_mj12_1.htm
    แต่ถ้าจะให้ดีก็เข้าไปอ่านต้นฉบับเอง เพราะอาจแปลตกหล่นไปบ้าง (โดย Milton William Cooper)

    ใครๆหลายคนอาจจะพอทราบบ้างกับ กลุ่ม Majestic 12 (MJ 12) หรือที่มาของ the Bilderberger Group ในปัจุบัน

    ในขณะนั้น William Cooper ได้ัรบคัดเลือกให้เข้ามาทำงานในหน่วยงานสืบราชการลับ(Nevy Intelligence) โดยในหน้าที่นี้เองเขาสามารถ เปิดอ่านเอกสาร ข้อมูล ลับต่างๆได้ (ตั้งแต่ปี 1970-1973)จากงานที่เขาทำเป็นสาเหตุให้เขาเริ่มสืบค้นหาความจริง ในเชิงลึกขึ้น
    และใน July 2,1989 เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดความลับเหล่านี้ใน MUFON Symposium ,in Las Vegas, Nevada


    ก่อนที่จะมีกลุ่มนี้((MJ 12)ในขณะนั้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกา เป็นชาติมหาอำนาจที่และมีเทคโนโลยีที่เรียกไต้ว่าก้าวหน้าสุงสุดตอนนั้น และในขณะเดียวกันก็ทางผู้นำกองทัพ ได้ค้นพบบางสิ่งที่เหลือเชื่อ นั่น คือ Alien ในช่วงJanuary 1947 and December 1952

    อย่างน้อยมี 16 ครั้งที่มี UFO ตก และมี ศพ Alien 65 ศพ และรอดชีวิต 1 แต่ทางรัฐบาลสหรัฐ ปกปิดเป็นความลับ

    แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะมีคนพบเห็น UFO อยู่ทั่วไป

    ฉนั้นเรื่องราวเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของ MJ 12

    Alien-Earth Presence(มีAlien อาศัยอยู่ในโลกนี้หรือไม่)

    พบUFO ตก สองลำ ลำแรกในช่วงFebruary 13, 1948 ที่mesa ใกล้กะ Aztec, New Mexico..
    ลำที่สอง March 25, 1948 ที่ White Sands Proving Ground ทั้งสองลำพบมี Alien รวม 17 ศพ
    แต่สิ่งที่ทำให้ทางกองทัพช๊อคไปมากกว่านั้นคือ มีชิ้นส่วน ศพมนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก
    ซึ่งจากที่เป็นความลับธรรมดาก็เป็นความลับสุดยอดที่ปกปิดเรื่องเหล่านี้จากผู้คน

    และเหตุนี้เอง จึงมีการรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ต่างๆ เข้ามาศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้โดยฉเพาะ
    เรียก โครงการนี้ว่า Project SIGN ในปี 1947 แต่ในปี 1948 เปลี่ยนชื่อมาเป็น Project GRUDGE

    เพราะ Project GRUDGE มีการแยกแขนงออกมาเป็นหลายหน่วยงาน มีหน่วยงานหนึ่ง เรียกว่า "Blue Teams"projectนี้เรียกว่า BLUE BOOK ทำหน้าที่โดยการให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะชน แต่หลังจากนั้น เปลี่ยนมาเป็น Alpha Teams ภายไต้การควบคุมของ Project POUNCE.

    ในระยะเริ่มแรกนั้น Air Force และCIA มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้น CIA ก็ไม่มีบทบาทมากนักเป็นแค่ฉากหน้า

    และหลังจากนั้นNSC( National Security Council ) เข้ามามีหน้าที่แทนโดยตรงโดยติดต่อประสานงานกับประธานาธิปดีสหรัฐ
    และหลังจากนั้นเปลี่ยน ชื่อมาเป็น MJ 12
     
  19. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    เปิดความลับสุดยอดของมนุษย์

    ต่อมไพเนียล(Pineal grand) อยู่ตรงกลางระหว่างสมองส่วนเซรีบรัม (Cereblum) ซ้ายและขวา ผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า เมลาโทนิน (Melatonin)

    melatonin เมลาโธนิน เป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมโพเนียล (pineal gland) ฮอร์โมนนี้มีผลคล้ายยานอนหลับ คนแก่ที่นอนไม่หลับจะหลั่งเมลาโธนินน้อยกว่าคนหนุ่มสาว เมลาโธนินมีความสำคัญดังต่อไปนี้

    -ช่วยให้หลับสนิท

    -ลดอาการสับสนในเรื่องเวลาของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อาการออ่อนเพลียเมื่อเดินทาง

    -เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสื่อมของเซลล์และของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย

    (แต่ศักยภาพมันมีมากกว่านั้นมหาศาล)

    ลักษณะของ Pineal grand คล้ายดวงตา ห่อหุ้มด้วยน้ำ เพียงแต่ไม่มีเลนส์เหมือนดวงตา ฉนั้นเอง จึงเปรียบเสมือนดวงตาดวงที่3 ของมนุษย์

    และมีบางศาสนาที่กล่าวถึงการถอดจิตโดยการนั่งสมาธิ แต่แท้จริงแล้ว Pineal grand นี่เองที่ทำหน้าที่หลังจากที่เราหลับตาลง หรือเวลานอน

    Pineal grand หรือตาดวงที่3 ก็จะเปิดออก และเชื่อมสัญญาณของเราเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง ที่มองเห็นด้วยตาดวงที่ 3 ของเรา





    พวก Raptiod ควบคุม มนุษย์ได้อย่างไร



    1)ควบคุม Pineal grand ของเราโดยทางอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่มีส่วนผสมของFluoride ,aspartame ,และอาหารที่ผ่านกระบวนการ ฟอกสี ขัดเกลา กลั่น สกัด (refine)ที่ส่งผลให้เกิดแคลเซี่ยมเกาะ Pineal grand

    จึงทำให้ตาดวงที่ 3 ของเราบอดสนิท และทำให้มองเห็นโลกในความเป็นจริงไม่ได้

    2) ควบคุมโดยทางความเชื่อ (Manipulation)

    3)ควบคุมโดยใช้สนามพลังงาน (Earth energy grid)โดยการสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในจุดที่มีสนามพลังงานหนาแน่นเหล่านี้เพื่อ ควบคุมเรา

    4)ใช้เสียงที่มีพลังงานด้านลบ โดยผ่านเสียงที่มีความถี่ต่างกัน

    5)ใช้ ภาพสามมิติ {holographic}



    สงคราม(ที่มองไม่เห็น)ต้องมีรู้เขาและรู้เราจึงจะชนะ

    เมื่อเรารู้เขาและอาวุธของเขาแล้วก็มารู้เราบ้างและอาวุธของเราบ้าง



    --รู้เรา--

    -เราเป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาสมบูรณ์แบบมาก และพลังงานที่มีอยู่ในเรานั้นมีศักยภาพมหาศาล

    ใน 100 % เรานำมันมาใช้แค่ มากสุดแค่5% นี่เป็นสิ่งที่

    -พลังงานในมนุษย์เราถูกสร้างจากพลังงานต้นแบบ และพลังงานของมนุษย์ทุกคนมาจากที่เดียวกัน

    เป็น 1เดียวกัน แยกออกจากกันไม่ได้ เป็นเหมือนอนุภาคต่างที่มากจากที่เดียวกันแยกจากกันไม่ได้
     
  20. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    แต่การที่ pineal gland หรือตาดวงที่3 เราเปิดออก ก็ยังไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจหรือใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ได้เลย มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเปิดหน้าต่างในโลกแห่งความเป็นจริงออก แค่นั้นเอง
    นี่แหละจึงเป็นสิ่งที่ Andromeda อยากจะสอนให้เราเข้าใจและใช้พลังงานนี้ เพื่อที่เราจะเป็นอิสระ จากพวก Reptilians หรือGrays

    และพลังงานของมนุษย์นั้นถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานที่เรียกว่าความรัก (เช่นเดียวกับufo ufo ที่ใช้น้ำเป็นตัวขับเคลื่อนในการเดินทางได้หลาย dimension )

    แต่ก็ยังเป็นระดับ physical class ไม่สามารถเดินทางได้ไกลกว่านั้น (ระดับพลังงาน มี12 ระดับหรืออาจมากกว่านั้น) แต่พลังงานที่เรียกว่าความรักนั้น มันมีอยู่ในธรรมชาติของมนุษย์เพียงแต่เราไม่รู้วิธีที่จะใช้มัน
    แต่พวก Reptilians หรือGrays ไม่เข้าใจในพลังงานนี้เลย

    พลังงานความรักนี้ สามารถนำเราให้เดินทางไปถึงในระดับ 12 ได้ แต่ก็ไม่มีทางไปได้ไกลกว่าพลังงานต้นแบบ เพราะมันสิ้นสุดที่นั่น

    แม้แต่ญาติ พี่น้อง ของเราจากดาว Lyrae เองก็ใชพลังงานนี้ในการเดินทางและอยู่ได้ด้วยพลังงานนี้ (นี่แค่ระดับ 4 เองนะครับ) พวกเขายังเรียนรู้ที่จะไปให้ไกลกว่านั้น

    มารู้จักคุณโลก....อันที่จริงโลกเรานั้นมีชีวิต หรือเรียกอีกทีก็เป็นพลังงาน(spiritual) ที่คล้ายกับมนุษย์


    ในยุคโบราณนั้นค้นหาน้ำและแร่ธาตุต่างๆไต้พื้นผิวโลกโดย ใช้สิ่งที่เรียบง่ายมาก คือใช้กิ่ง hazel,rowan ,willow โดยทำเป็นรูปตัว Y ชี้ไปตามจุดที่เรียกว่า earth energy grid
    ถ้ากิ่งไม้สั่นไหวก็แสดงว่าตรงนั้นมีแร่ธาตุหรือน้ำอยู่

    ทำไมคนในยุโบราณถึงเข้าใจในสิ่งนี้ ก็เพราะว่าพลังงานโลกนั้นเชื่อมโยงกับพลังงานที่มีอยู่ในมนุษย์

    space time-lines

    มีหลายประเทศที่พยายามค้นหาพลังงานของโลก ( ley-lines)

    รูปร่างของพลังงานโลก ley-lines ไม่สามารถวัดความยาวของมันได้ เพราะเส้นทางหรือสนามพลังงานของโลกนั้นมีขอบเขตที่ไม่สิ้นสุด ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ
    ในภาพเส้นที่อยู่ตรงกลางถ้าพลิกมองด้านตรงดู จะเห็นว่าเป็นแค่จุด และมีวงจรขั้วบวกและลบวิ่งอยู่เป็นวงกลม ลักษณะเหมือนโดนัท
    แต่ถ้ามองด้านข้างจะเป็นลักษณะเหมือนคลื่นที่วิ่งสลับขั้วบวก- ลบ และจุดตรงกลางที่มันวิ่งมาชนกันจะเท่ากับ 0 หรือสมดุล(Neutral -Zero line)
    จุดที่3เรียกว่าสมดุลนั่นแหละ เป็นจุดที่(Absolute )คงที่
    [​IMG]

    ดังนั้น earth energy grid นั้นสุดท้ายแล้วก็คือสิ่งนี้

    การเคลื่อนที่นั้นเป็นการเปลี่ยนฐานข้อมูลให้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ เป็นการเคลื่อนที่ระหว่างขั้ว+และ- สรุปคือทุกสิ่งที่เรามองเห็นคือสิ่งที่ว่างเปล่า

    มันเป็นเพียงแค่พลังงานเท่านั้น
    เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ ใช้พลังงาน พลักดันร่างกายให้เคลื่อนไหว
    แต่จริงๆแล้วด้วยตัวพลังงาน เองแล้วมันไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน มันยังอยู่ที่นั่น ที่เดิม (เวลาของปัจุบัน )
    In truth, we or our consciousness rather is always in the ETERNAL PRESENT
     

แชร์หน้านี้

Loading...