คลิปการเสวนาเรื่อง ..คาดการพิบัติภัยไทยกับการเตือนภัยและสร้างที่หลบภัยครั้งสุดท้าย

รายงานภัยพิบัติประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2555

เหตุการณ์วันนี้

15:30 ตำแหน่งและขนาดพายุเขตร้อนทั้ง 5 ลูกในโลกเวลานี้

• 06:50 ฝนตกเขตทวีวัฒนา บางแค หนองแขม บางบอน ภาษีเจริญ จอมทอง บางขุนเทียน ทุ่งครุ พระสมุทรเจดีย์
• 06:30 พายุดีเปรสชัน 23W ทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อน ได้ชื่อเรียกว่า มาเรีย ทิศทางการเคลื่อนที่แทบจะขนานกับไต้ฝุ่นพระพิรุณ ซึ่งล่าสุดลดกำลังลงมาเป็นไต้ฝุ่นระดับ CAT1 ความเร็วลมเหลือ 65 น็อต

• 05:30 ฝนหนักสมุทรสาคร นครปฐม
• 01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุ แสดงความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมา ทางแปซิฟิคมีพายุคู่คือพระพิรุณและมาเรีย ทิศทาง

มุ่งไปทิศเหนือ

• 00:30 ไซโคลนอานาอิส ทวีความเร็วลมขึ้นเป็นไซโคลน CAT3

แผ่นดินไหวในไทยและใกล้เคียง (จาก TMD)

• ไม่มี

แผ่นดินไหวทั่วโลก ยกเว้นในไทยและใกล้เคียง (จาก USGS)

• เมื่อ 23.35 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 บริเวณ จังหวัดปาปัว ประเทศอินโดนีเซีย ที่ความลึก 68.90 กม.
  
  
  
• เมื่อ 23.05 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 บริเวณ ทิศใต้ของ เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ความลึก 19.50 กม.
  
  
  
• เมื่อ 21.00 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ หมู่เกาะเวอร์จิน ที่ความลึก 7.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 20.43 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ คาบสมุทรแคนาย อลาสกา ที่ความลึก 25.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 20.33 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.6 บริเวณ ทิศเหนือของ หมู่เกาะเวอร์จิน ที่ความลึก 35.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 19.44 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 บริเวณ ทางเหนือของ แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 2.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 16.55 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ หมู่เกาะเวอร์จิน ที่ความลึก 51.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 14.49 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 บริเวณ ประเทศวานูอาตู ที่ความลึก 45.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 12.23 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.5 บริเวณ ตอนกลางของ แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 7.30 กม.
  
  
  
• เมื่อ 11.02 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 8.90 กม.
  
  
  
• เมื่อ 10.45 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 10.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 10.22 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.5 บริเวณ Yellowstone National Park Idaho ที่ความลึก 15.60 กม.
  
  
  
• เมื่อ 10.20 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 7.10 กม.
  
  
  
• เมื่อ 10.05 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.5 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 16.90 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.54 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 12.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.52 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 11.70 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.46 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณ สาธารนรัฐโดมินิกัน ที่ความลึก 61.30 กม.
  
  
  
• เมื่อ 08.19 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 บริเวณ นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของ คาบสมุทรกัมชัตกา ประเทศรัสเซีย ที่ความลึก 21.80 กม.
• เมื่อ 07.05 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ เกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ ที่ความลึก 155.20 กม.
• เมื่อ 06.07 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ Yunnan ประเทศจีน ที่ความลึก 10.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 05.40 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 บริเวณ นอกชายฝั่ง เอล ซาวาดอ ที่ความลึก 66.50 กม.
  
  
  
• เมื่อ 02.36 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของ คาบสมุทรกัมชัตกา ประเทศรัสเซีย ที่ความลึก 83.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 02.34 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 บริเวณ เปอร์โตริโก ที่ความลึก 11.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.43 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 บริเวณ รัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก ที่ความลึก 22.70 กม.
  
  
  

<!-- .entry-content -->

ที่มา เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

ที่อยูธยาในตัวจังหวัดฝนตกมาตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00น. ตอนออกจาก 04.35 น.ฝนยังตกอยู่ ลมแรงทำให้ผ้าคลุมรถ เชือกสะบัดขาดเลย แต่พอมาถึงทางแยกเข้าทางด่วนบางปะอินฝนก็หยุดตก หรือฝนตกไม่ทั่วฟ้า 555

 

ผมก็เจอเหมือท่าน marine24 อยู่บ่อยๆ บางครั้งขับรถออกนอกเมือง ฝนตกฟ้าครึ้มถนนเปียกเจิ่งนอง ออกไปได้ไม่กี่กิโล กลายเป็นคนละเรื่อง ถนนแห้งและไม่มีเค้าฝนตกมาก่อนเลย..เจอบ่อยๆ จะเกี่ยวกับภูมิอากาศแปรปรวนผิดปกติหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ..ครับ

 

กทม ใกล้ทะเลครับ อากาศแปรปรวน เพราะตัวแปรคือลมทะเล

 

รายงานภัยพิบัติประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2555

เหตุการณ์วันนี้

15:30 ไต้ฝุ่นพระพิรุณหมดแรง กลายเป็นพายุโซนร้อนแล้วในขณะนี้ ทิศทางยังคงไปทางตะวันออกของญี่ปุ่น



10:58 ภาพจาก CCTV แสดงระดับน้ำที่จุดวัดน้ำ C35 บางบาล อยุธยาเวลานี้ จะเห็นระดับน้าลดลงไปอยู่ในเขตสีเหลืองแล้ว

• 09:00 เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่โลกมีพายุหมุนเขตร้อนครบทุกชื่อเรียก นั่นคือ เฮอริเคนราฟาเอลและพอล ไซโคลนอานาอิส และไต้ฝุ่นพระพิรุณ แถมโซนร้อนมาเรียกอีก 1 ลูก

• 06:00 ระดับน้ำในเขื่อนทั่วไทยจากกรมชลฯ

• 05:00 ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยาต่ำ ความเร็วลมสุริยะ 392 km/sec สนามแม่เหล็กโลกอยู่ในเกณฑ์ปกติ
• 01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุฯ

• เหลือน้ำท่วม 7 จว. พิจิตร, พิษณุโลก ,อยุธยา, สุพรรณบุรี, ฉะเชิงเทรา, ปราจีนบุรี, นครปฐม เดือดร้อน 94,270 ครัวเรือน 278,402 คน

แผ่นดินไหวในไทยและใกล้เคียง (จาก TMD)



แผ่นดินไหวทั่วโลก ยกเว้นในไทยและใกล้เคียง (จาก USGS)

• เมื่อ 09.03 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.4 บริเวณ หมู่เกาะไอซุ ประเทศญี่ปุ่น ที่ความลึก 102.60 กม.
  October 16, 2012 02:03:29 GMT
  
  
  
• 
  เมื่อ 08.16 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณ ตอนกลางของ ประเทศตุรกี ที่ความลึก 5.10 กม.
  
  
  
• เมื่อ 07.16 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 บริเวณ Mid-ประเทศอินเดียn Ridge ที่ความลึก 9.80 กม.
  
  
  
• เมื่อ 07.02 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.4 บริเวณ ตอนกลางของ อลาสกา ที่ความลึก 16.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 06.43 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 บริเวณ แถบเทือกเขาฮินดู คุช ประเทศอัฟกานิสถาน ที่ความลึก 112.20 กม.
• เมื่อ 05.45 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 บริเวณ นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของ คาบสมุทรกัมชัตกา ประเทศรัสเซีย ที่ความลึก 43.50 กม.
• เมื่อ 04.47 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.7 บริเวณ ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของ เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ที่ความลึก 66.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 04.04 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 บริเวณ นอกชายฝั่ง Coquimbo ประเทศชิลี ที่ความลึก 19.90 กม.
  
  
  
• เมื่อ 03.19 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 บริเวณ ประเทศฟิจิ ที่ความลึก 544.50 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.52 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 บริเวณ ประเทศกัวเตมาลา ที่ความลึก 76.50 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.23 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.5 บริเวณ เกาะฮาวาย รัฐฮาวาย ที่ความลึก 3.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.19 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 บริเวณ ตอนกลางของ แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 3.00 กม.
  
  
  

<!-- .entry-content -->ที่มา เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

https://www.facebook.com/KongpopUyen (ข้อมูลจาก Fb ดร.ก้องภพ อยู่เย็น)



เรามาทดลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงของโลกเราเมื่อถูกกระตุ้นจากปฏิกริยาดวงอาทิตย์กันอีกครั้งครับ

โดยวันที่ 14 ตุลาคม เวลาประมาณ 8:45 UT พบว่าเกิดพายุสุริยะเป็นมุมกว้าง (ในมุมมองจากโลก

CACTus Diagostics และจาก http:...//spaceweather.com/images2012/14oct12/cme_anim.gif)


แต่ทิศทางหลักออกไปทางด้านหลังที่ไม่โดนโลก นอกจากนั้นยังพบการขยายตัวของปริมาณจุดดับอย่างฉับพลัน

(ซึ่งดูได้จากการเลือกเมนู HMI Intensitygram จากเวป SDO - Solar Dynamics Observatory )


จากโมเดลการแพร่กระจายของอนุภาคพบว่าพลังงานจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 17 ตุลาคม เวลาประมาณ

12 UT +/- 7 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 18 ตุลาคม ครับ

http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=458666186

 

รายงานภัยพิบัติประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2555

เหตุการณ์วันนี้ (ณ เวลา 17.00)

• 13:20 ทุ่นสึนามิ 53406 ทิศใต้ของอินโดนีเซีย แสดงระดับน้ำผิดปกติ อาจเป็นความขัดข้องของทุ่น

• 13:04 ภาพจาก CCTV ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักฯ นาทีนี้ (ขอบดำคือระดับสูงสุดปีก่อน)

• 13:00 ภาพดาวเทียมจากเว็บ JTWC แสดงตำแหน่งและหน้าตาล่าสุดของพายุโซนร้อนพระพิรุณและมาเรีย

• 11:50 พายุโซนร้อนพระพิรุลดความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเหลือ 50 น็อต
• 06:00 ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆขณะนี้

• 06:30 ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยาต่ำ ความเร็วลมสุริยะ 326 km/sec สนามแม่เหล็กโลกอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับความปั่นป่วนของสนามแม่เหล็กโลกกลับสู่สภาพปกติ

• 04:00 พายุโซนร้อนพระพิรุณและมาเรีย ลดความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเหลือ 55 น็อตทั้งคู่

• 01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุฯ

• ระดับน้ำเขื่อนวชิราฯและเขื่อนศรฯีนั้น สังเกตว่าใช้หลักคงความชันกราฟเท่าปี 49 ถึงมีน้ำ 90% ก็ไม่น่าห่วง

แผ่นดินไหวในไทยและใกล้เคียง (จาก TMD)

• ไม่มี

แผ่นดินไหวทั่วโลก ยกเว้นในไทยและใกล้เคียง (จาก USGS)

• เมื่อ 11.42 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 บริเวณ โอกลาโฮมา ที่ความลึก 5.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 11.42 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 บริเวณ Celebes Sea ที่ความลึก 337.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 10.30 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.7 บริเวณ สาธารนรัฐโดมินิกัน ที่ความลึก 12.70 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.57 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 บริเวณ ทางเหนือของ Texas ที่ความลึก 12.10 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.55 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 บริเวณ นอกชายฝั่ง เอล ซาวาดอ ที่ความลึก 35.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.50 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.4 บริเวณ Mona Passage สาธารนรัฐโดมินิกัน ที่ความลึก 90.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 09.12 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ เปอร์โตริโก ที่ความลึก 23.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 08.26 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณ ประเทศกัวเตมาลา ที่ความลึก 62.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 08.19 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.4 บริเวณ สาธารนรัฐโดมินิกัน ที่ความลึก 137.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 07.44 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 บริเวณ ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของ เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ที่ความลึก 54.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 07.36 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 บริเวณ ทางเหนือของ อลาสกา ที่ความลึก 17.10 กม.
• เมื่อ 06.42 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 บริเวณ เกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ ที่ความลึก 109.60 กม.
• เมื่อ 06.12 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 บริเวณ Maine ที่ความลึก 5.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 04.31 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.9 บริเวณ เปอร์โตริโก ที่ความลึก 55.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 02.19 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 บริเวณ แถบเทือกเขาฮินดู คุช ประเทศอัฟกานิสถาน ที่ความลึก 172.70 กม.
  
  
  
• เมื่อ 02.03 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.2 บริเวณ Guadeloupe Leeward Islands ที่ความลึก 174.40 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.51 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 บริเวณ ทางตะวันออกของ เกาะนิวกินี ประเทศปาปัวนิวกินี ที่ความลึก 225.60 กม.
  
  
  

<!-- .entry-content -->ที่มา เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

<TABLE cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TH align=center>UTC </TH><TH align=center>Mag</TH><TH align=center>Latitude
degrees

</TH><TH align=center>Longitude
degrees

</TH><TH align=center>Depth
km

</TH><TH align=center>A
M

</TH><TH></TH><TH align=left>Flinn-Engdahl Region Name</TH></TR><TR class=bigevt><TD align=left>2012-10-17 04:42:31</TD><TD class=mag>5.8</TD><TD align=right>4.25°N</TD><TD align=right>124.60°E</TD><TD class=depth>333</TD><TD>A</TD><TD></TD><TD align=left>Celebes Sea</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-17 03:30:52</TD><TD class=mag>4.9</TD><TD align=right>18.70°N</TD><TD align=right>70.89°W</TD><TD class=depth>10</TD><TD>A</TD><TD></TD><TD align=left>Dominican Republic Region</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-17 02:25:57</TD><TD class=mag>4.9</TD><TD align=right>13.49°S</TD><TD align=right>70.30°W</TD><TD class=depth>10</TD><TD>A</TD><TD></TD><TD align=left>Central Peru</TD></TR><TR class=bigevt><TD align=left>2012-10-16 23:42:55</TD><TD class=mag>5.5</TD><TD align=right>38.76°S</TD><TD align=right>176.15°E</TD><TD class=depth>93</TD><TD>A</TD><TD></TD><TD align=left>North Island, New Zealand</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-16 15:11:00</TD><TD class=mag>4.8</TD><TD align=right>39.74°N</TD><TD align=right>15.61°E</TD><TD class=depth>268</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Southern Italy</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-16 13:50:01</TD><TD class=mag>4.5</TD><TD align=right>16.29°N</TD><TD align=right>93.98°W</TD><TD class=depth>98</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Chiapas, Mexico</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-16 13:39:26</TD><TD class=mag>5.2</TD><TD align=right>31.22°N</TD><TD align=right>130.32°E</TD><TD class=depth>174</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Kyushu, Japan</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-16 13:07:14</TD><TD class=mag>4.7</TD><TD align=right>48.28°N</TD><TD align=right>154.62°E</TD><TD class=depth>57</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Kuril Islands</TD></TR><TR class=bigevt><TD align=left>2012-10-16 12:41:25</TD><TD class=mag>5.5</TD><TD align=right>49.59°N</TD><TD align=right>156.57°E</TD><TD class=depth>78</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Kuril Islands</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-16 12:31:06</TD><TD class=mag>5.0</TD><TD align=right>32.87°N</TD><TD align=right>141.39°E</TD><TD class=depth>37</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Southeast of Honshu, Japan</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-16 10:25:05</TD><TD class=mag>4.4</TD><TD align=right>37.26°N</TD><TD align=right>37.23°E</TD><TD class=depth>10</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Turkey</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-16 04:15:35</TD><TD class=mag>4.2</TD><TD align=right>38.31°N</TD><TD align=right>46.98°E</TD><TD class=depth>10</TD><TD>C</TD><TD></TD><TD align=left>Armenia-Azerbaijan-Iran Border Reg.</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-16 02:03:29</TD><TD class=mag>5.2</TD><TD align=right>31.29°N</TD><TD align=right>140.36°E</TD><TD class=depth>104</TD><TD>C</TD><TD></TD><TD align=left>Southeast of Honshu, Japan</TD></TR><TR class=oddrow><TD align=left>2012-10-16 01:16:04</TD><TD class=mag>4.5</TD><TD align=right>37.27°N</TD><TD align=right>37.12°E</TD><TD class=depth>10</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Turkey</TD></TR><TR class=evnrow><TD align=left>2012-10-16 00:16:43</TD><TD class=mag>4.7</TD><TD align=right>36.88°S</TD><TD align=right>78.47°E</TD><TD class=depth>10</TD><TD>M</TD><TD></TD><TD align=left>Mid Indian Ridge</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อวานและวันนี้ มีแต่ตัวอ้วนๆทั้งนั้นส่วนใหญ่ เกิน 4 ริชเตอร์ ไป 5 แก่ๆ...ต้องจับตาดูไว้ครับ..

 

รายงานภัยพิบัติประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2555




เหตุการณ์วันนี้ (13.15)

• 11:38 เกิดทอร์นาโดในมิซซิสซิปปี ต้นไม้หักล้มในหลายเมือง รถยนต์ในเมือง Myrtle เสียหายหลายคัน บ้านพัง ไฟฟ้าดับ
• 07.00 น.ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา วัดที่ปากคลองตลาดเวลานี้ 1.59 ม.รทก. ต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ 1.21 ม.รทก.
• 06:30 กรุงเทพ 26°C กระบี่ 25°C ระยอง 25°C พะเยา 22°C ขอนแก่น 22°C เชียงราย 22°C ลำปาง 22°C

• 06:00 ระดับน้ำในเขื่อนต่างๆ

• 03:00 พายุโซนร้อนอานาอิส ลดกำลังอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะสลายตัวใน 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ (พายุลูกนี้เกิดผิดฤดู และกลายเป็นไซโคลนในเวลาไม่กี่วัน)

• 01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุ แสดงหย่อมความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

• 00:10 พายุโซนร้อนพระพิรุณและมาเรีย ลดความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางเหลือ 45 น็อตทั้งคู่

แผ่นดินไหวในไทยและใกล้เคียง (จาก TMD)

• ไม่มี

แผ่นดินไหวทั่วโลก ยกเว้นในไทยและใกล้เคียง (จาก USGS)

• เมื่อ 04.21 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ คาบสมุทรแคนาย อลาสกา ที่ความลึก 32.20 กม.
  
  
  
• เมื่อ 03.50 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 บริเวณ ทางเหนือของ อลาสกา ที่ความลึก 9.80 กม.
  
  
  
• เมื่อ 02.38 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.0 บริเวณ Nias ประเทศอินโดนีเซีย ที่ความลึก 35.20 กม.
• เมื่อ 01.40 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 บริเวณ ตอนกลางของ อลาสกา ที่ความลึก 15.20 กม.
• เมื่อ 01.23 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.9 บริเวณ หมู่เกาะเวอร์จิน ที่ความลึก 36.00 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.42 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 บริเวณ กลุ่มเกาะแอนเดรียน หมู่เกาะอะลูเชียน , อลาสกา ที่ความลึก 31.90 กม.
  
  
  
• เมื่อ 00.23 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 บริเวณ ประเทศตองกา ที่ความลึก 29.80 กม.
  
  
  

<!-- .entry-content -->ที่มา เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com | แจ้งเตือน กู้ภัย ให้ความรู้ สู้ข่าวลือ – อีกช่องทางๆทวิตเตอร์ @Paipibat และ @MrVop

(คงจะไม่ได้เข้ามาอัพเดทข้อมูลอีกแล้วครับ จะเอาเวลาไปพัฒนาจิต..ท่านที่อยากตามข้อมูล ก็ดูได้จาก ที่มา ที่อ้างไว้นะครับ
เวลามีไม่มากแล้ว เตรียมกาย เตรียมใจกันให้พร้อม กายอาจเสียหายแตกดับได้ แต่อย่าให้ใจเสียหาย.......ขอให้โชดดีครับ)

 

เราก็อยู่ OKLAHOMA น่ะ ไม่รุเรื่องเลย ตายเลยแบบนี้

 

​

ทำไมต้องจิตเกาะพระ..

เดิมผมก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วๆไป กิน เล่น เที่ยว ครบทุกอย่าง มากบ้างน้อยบ้างตามความรับผิดชอบในแต่ละขณะ..จนมาถึงจุดที่ผันเปลี่ยนพลิกชีวิต คนเราจะระลึกได้ก็ต่อเมื่อทุกข์หนักที่สุดในชีวิต และก็มีอยู่สองทางเลือก คือจะสู้ชีวิตต่อไป หรือหนีปัญหาไปตลอดกาล...ผมยังมีบุญอยู่บ้างอาจจะเนื่องจากบุญบารมีเคยทำมา ทำให้เลือกทางที่ถูกต้อง คือเข้าหาธรรมะศึกษาธรรมะ ใจลึกๆบอกว่าทางนี้แหละที่จะบรรเทาได้..ได้มาเริ่มสวดมนต์(บทใหญ่)บทแรกคือ บทชินบัญชร สวดไปได้ไม่นาน ก็ได้เจอธรรมะของพระอาจารย์ที่สอนวิปัสสนาดูจิต ศึกษาทางอินเตอร์เนตทำให้เห็นจิตกับกายนี้แยกเป็นคนละส่วนกันได้ โดยมีสติเป็นผู้รู้ผู้ดู แต่ก็เห็นได้เป็นบางครั้งไม่ต่อเนื่องยาวนาน เพราะขาดความต่อเนื่อง เพราะงานที่เราทำและภาระหน้าที่ต่างๆมันบีบรัดทำให้การปฏิบัติภาวนาเป็นไปได้ยาก แม้จะตั้งใจปฏิบัติสักเพียงใดก็ตาม ก็ทำได้เพียงแค่ระดับหนึ่ง ซึ่งผมก็ทราบปัญหาดีเพราะขาดกำลังจากสมาธิมาช่วยเสริม แต่ถ้าจะให้ฝึกสมาธิให้ได้ผลดี ก็ต้องทิ้งทางโลกไปปฏิบัติกันอย่างจริงๆจังๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้

และต่อมาผมได้มีโอกาสศึกษาศาสตร์ของหลวงปู่ดู่ ซึ่งเป็นหลวงปู่ที่ผมเคารพรักมาก นึกถึงภาพท่านที่ไหร่ผมมีความสุขทุกครั้ง เพียงแค่อธิษฐานท่านก็ช่วยเราได้ในทุกๆเรื่อง(ในเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม) ผมระลึกถึงท่านอยู่เกือบตลอดเวลา เมื่อประมาณเดือนหนึ่งที่ผ่านมาผมอธิษฐานทุกวันทั้งเช้าเย็น ขอนิพพานในชาตินี้..เดิมเคยตั้งจิตอธิษฐานในใจอยู่ก่อนแล้ว(ไม่กล้าพูดออกมากลัวใครเขาจะว่าไม่เจียม..แต่จากการปฏิบัติต่อเนื่องมาเรื่อยๆ บารมีสะสมมาจนเรากล้าที่จะเอ่ยออกมา..เพราะถ้าไม่ตั้งใจจริง ก็จะไม่ได้ของจริง)

หลวงปู่ท่านดลใจให้เข้ามาดูในกระทู้ ”จิตเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ” เพราะเดิมก็เห็นกระทู้นี้อยู่ทุกวัน (ผมชอบเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติบางครั้งก็มาโพสบ้าง) ผมก็ยังเชื่อว่าคงจะคล้ายๆกับที่ผมเคยปฏิบัติมาแล้ว ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก(แต่ก็อนุโมทนาด้วย)..วันนั้นในใจร้อนรน อยากจะเข้ามาดูมาอ่านให้ได้ จึงได้เข้าไปในกระทู้ เข้ามาอ่านเพื่อจับสาระว่าคืออะไร ทำกันอย่างไร และจิตบุญเจ็ดสิบกว่าคน(ในขณะนั้น)คืออะไรทำอย่างไรจึงจะเป็นจิตบุญ..และก็พบว่ามีการฝึกเจริญสติ และการระลึกถึงภาพพระพุทธเจ้า หรือพระอริยสงฆ์ที่เรานับถือ ..เอ๊ะ.. เราก็มีพร้อมอยู่แล้ว ก็เคยฝึกการเจริญสติมาก่อนแล้ว(แม้จะดับบ้าง ดีบ้างก็ตาม) และเราก็ระลึกถึงภาพหลวงปู่อยู่บ่อยๆ ทำแบบเขาดูไม่น่าจะยากและไม่เปลี่ยนแนวที่เราปฏิบัติมาด้วย เพราะการปฏิบัติใดก็ตามถ้ามีการเจริญสติประกอบอยู่ด้วย ถูกทางแน่นอน และในกระทู้ท่านบอกว่าจะได้ฌานเป็นของแถมด้วย ..ยิ่งถูกใจไปใหญ่ เลยสมัครเข้าฝึกเข้าปฏิบัติ

และต้องยอมรับกันตรงๆ ผมไม่เคยเชื่อหรือศรัทธาอะไรเต็มร้อย ผมต้องพิสูจน์ดูให้ชัดให้เห็นด้วยตนเองผมจึงจะเชื่อและศรัทธาเต็มร้อย นี้คือนิสัยของผม ...แต่ในการพิสูจน์หรือการฝึกของผม ผมได้ทำตามครูทุกอย่าง และวางของเก่าหมด วางความลังเลสงสัยลง(ความลังเลสงสัยยังมี แต่วางลงก่อน)และทำด้วยความต่อเนื่อง หมั่นเพียรทำตามที่ครูบอกครูสอนทุกอย่าง ไม่กี่วันผมก็มีอาการชาตามใบหน้า หูเริ่มอื้อ ซึ่งคืออาการทรงฌาน..ผมเริ่มเห็นผลได้บ้างแล้ว และใช้เวลาฝึกอย่างต่อเนื่อง รวม 16 วัน ผมเปลี่ยนไปมากมายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ..พระพุทธองค์ท่านสอนไว้ให้ใช้หลักกาลามสูตร ก่อนที่จะเชื่อหรือศรัทธาสิ่งใด การพิสูจน์ของผมเสร็จสิ้นแล้ว ผมมีความเชื่อและศรัทธาเต็มร้อย เพราะผลการปฏิบัติเป็นปัจจัตตังที่เกิดกับตัวผม ตอนนี้ผมทรงฌานอยู่เกือบตลอดเวลา จิตก็เดินวิปัสนาอยู่เรื่อยๆตามกำลังของฌาน

ศาสตร์จิตเกาะพระ ใช้พุทธานุสติกรรมฐานเป็นกองหลักในการปฏิบัติภาวนา (อยู่ในกรรมฐาน 40 กอง) จึงไม่ใช่สิ่งที่คิดค้นขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด แต่มีเทคนิควิธีเป็นการเฉพาะแตกต่างจากกรรมฐานกองอื่นๆ ทำได้เร็ว ได้สมาธิและฌานอย่างรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ(ผมใช้เวลา 16 วัน เริ่มปฏิบัติวันที่ 14 ต.ค.นี้) และสามารถเดินฌานเพื่อวิปัสสนาได้อย่างต่อเนื่อง (ทำได้แม้กระทั้งตอนลืมตา ยืน เดิน นั่ง นอน ฯลฯ) ...

ผมไม่ได้พูดให้ท่านเชื่อ แต่จงมาลองดูเถิด มาพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ใช้เวลาไม่นาน ท่านจะประจักษ์แก่ตัวของท่านเอง...คุณสมบัติสำคัญ คือท่านต้องมีศีลห้า เคารพเชื่อฟังครูอาจารย์ และวางของเก่าลงเสียก่อน(วางเฉพาะในช่วงที่ฝึก) และก็ทำอย่างเต็มที่..ช้า เร็ว อยู่ที่ท่าน

ขอให้รีบพากันมา...เวลาเหลือน้อยแล้ว...

http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-399

 

ขออนุโมทนา ในธรรมทาน ของท่าน Survival ด้วยนะครับ
ท่านครูบาฯ ได้กล่าวสอนไว้อยู่เสมอว่า ยามที่เกิดภัยอันตรายใด ๆ
ให้พึงมีสติระลึกถึงองค์พระรัตนตรัยอยู่ทุกขณะจิต
เพราะว่า จิตที่ยกขึ้นสูงแล้ว ย่อมคลาดแคล้วจากภัยเวร

ขอธรรมทั้งหลายทั้งปวง จงรักษาคุ้มครองให้ท่านทั้งหลาย... ปลอดภัย

 

นำมาจากบางส่วนในกระทู้ "จิตเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ"

"ขอให้มีสติ และอย่าได้นำสติไปนำจิต ขอให้สติตนเองแค่ตามดูห่างๆ แค่ให้สติตามรายงานจิตของแต่ละวันเท่านั้นก็พอ สมมุติว่า เมื่อวานนี้จิตมันเฉย ขอให้สติรายงานกับเราว่า จิตมันเฉย แค่นี้เองนะ อย่าไปแตะกับจิตเด็ดขาด แต่พอมาวันนี้ ดูอาการหรือดูอารมณ์ของจิตมันเป็นอย่างไร จิตมันสุขก็ให้รู้โดยสติของเราเป็นผู้รายงาน เพราะจิตเป็นนาม มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าจิตกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหนนั้น เราจะต้องเอานามเหมือนกันตามเข้าไปดู ไปรู้ได้ นั่นก็คือ สติของเรานี่เอง เพราะฉะนั้นแล้วผู้ปฎิบัติจึงจำเป็นที่จะต้องมีสติให้มากๆ จึงจะเห็นดวงจิต เหตุที่เห็นดวงจิตของตนเองได้ ก็เพราะว่าจิตของท่านพอจะนิ่งแล้ว ตราบใดที่จิตยังไม่นิ่งพอ ก็เป็นเพราะสติของเรามีน้อยเกินไป ตามปรกติสติของคนเรานั้นก็มีอยู่ด้วยกันทุกๆคน แต่ถ้าเรามาฝึกดูจิตหรือมาปฎิบัติธรรมนั้น เราจำเป็นจะต้องสร้างสติเพิ่มมากขึ้นกว่าเพราะ สติมากนั้นจะทำให้จิตคนเรานิ่ง เมื่อจิตนิ่งนานๆ จิตเขาก็จะทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ขอให้ทำใจเป็นกลาง สบายๆในขณะที่นึกถึงพระ แต่ถ้าเวลานึกถึงพระแล้ว แต่ถ้าจิตมันเบื่อก็ให้รู้ว่าเบื่อ อย่าไปบังคับให้จิตต้องนึกถึงพระให้ได้ในตอนนั้นนะครับ ปล่อยไปเลย ไปฟังเพลง ไปนอน หรือไปทำกิจกรรมอย่างแทนก่อน หรือเปลี่ยนมาดูที่ลมหายใจแทนก็ได้นะ ตามใจแต่จิตเขา แต่ห้ามไปบังคับ ขู่เข็นจิตเด็ดขาด ห้ามนำจิต สติแค่ตามจิตหรืออย่างมาก ก็แค่สติกับจิตจะต้องไปด้วยกันทุกครั้งไป แต่มิให้สตินำจิตนะ เพราะการปฎิบัติธรรมทั่วๆไป เขาก็ให้กระทำกันแค่ ๓ อย่างเท่านั้น ก็คือ

1..สติตามดูจิต (เห็นจิต หรือเห็นพระบ้าง ไม่เห็นบ้าง ก็แค่นี้เท่านั้น เมื่อจิตไม่เห็นพระ หรือสติไม่เห็นจิต คุณอย่าไปเค้นมันนะ)

2.สติตามรู้จิต (รู้แค่สุขหรือทุกข์เท่านั้น ห้ามไปช่วยจิตปรุงแต่งต่อ เช่น เห็นก็สักแต่เห็น)

3. ทำใจตนเองให้เป็นกลาง (เสมือนกำลังดูหนัง ดูละคร)

แต่ถ้าคุณสังเกตให้ดีๆว่า ทั้งสติ ทั้งจิตก็ไม่เที่ยง บางวันสติเกิดมาก บางวันสติน้อย บางวันจิตทุกข์ บางวันจิตสุข บางวันจิตร่าเริง เป็นต้น แต่ถ้าจิตคุณนิ่งมาก หรือฌาน คุณก็จะเห็นธรรมได้เด่นชัดกว่านี้ ตราบใดที่จิตยังไม่นิ่งพอ เราก็จะไม่มีทางรู้เท่าทันจิต หรือจิตรู้ไม่เท่าทันการเกิดกิเลส หรือจิตรู้ไม่เท่าทันการเกิด-ดับของธรรมเหล่านั้น

เมื่อจิตนิ่งดีแล้ว เราก็เป็นสุขเมื่อนั้น และเราก็รู้เมื่อนั้น จิตผู้ใดนิ่งมาก หรือจิตทรงฌานสูงมาก ก็จะทำให้ผู้นั้นมีปัญญามากเท่านั้น หรือมีภูมิธรรม ภูมิปัญญามากเท่านั้น

จิตของผู้ปฎิบัติที่เข้าถึงธรรมนั้น จิตจะมีเมตตานำ เยือกเย็น และสงบสงัด เป็นสุขมากกว่าทุกข์ หรือไม่มีทุกข์ปรากฎที่ใจของผู้ปฎิบัติ

ขอให้นักปฏบัติหมั่นสร้างสติตนเองให้มาก โดยการนึกถึงพระให้บ่อย ให้ถี่อย่างต่อเนื่อง เพราะจิตจะนิ่งได้ก็เพราะสติ และถ้าจิตจะทรงฌานได้ ก็ต้องอาศัยความนิ่งของจิตนานๆ หรือขยันสร้างสติบ่อยๆถี่ๆ แต่คอยดูที่จิตของตนเองเป็นหลักด้วยว่า ในขณะนึกถึงพระอยู่นั้น จิตตนเองนั้นร่าเริงดีไหม๊ ถ้าจิตเบื่อ จิตตึง ขอให้พักเบรคก่อน อย่าไปอัด เดี๋ยวจิตจะเกิดความท้อแท้

ขอให้ทำแค่สามอย่างข้างต้นนั้น แต่อย่าลืม อย่าไปตั้งใจเกิน ไปคาดหวังกัลผลการปฎิบัติของตนเองมากนัก

การปฎิบัติมัชฌิมาปฎิปทานี้ เราจะต้องนำจิตเดินสายกลางให้จงได้ อย่าได้เดินซ้ายที ขวาที ตัวสติของเราก็จะเป็นพี่เลี้ยงให้จิตเดินให้ตรงทางนั่นเอง

จิตจะเดินตรงทางแรก ก็คือ จิตเกิดปิติ (อุปจารสมาธิ) และจุดตรงนี้นี่เอง ที่จิตเริ่มเกาะพระติดแล้ว ขอให้ผู้ปฎิบัติหมั่นสร้างสติบ่อยๆ ทำให้ต่อเนื่อง อย่าหยุด จิตจะพัฒนาได้ไวนั้น จะต้องป้อนสติให้ได้ต่อเนื่อง เหมือนรถที่วิ่งก็เพราะมีน้ำมัน แต่ถ้าตราบใดน้ำมันหมด รถก็จะหยุดวิ่งทันที เพราะฉะนั้นจิตก็เหมือนกับรถ แต่จิตต้องการอาหารหรือเชื้อเพลิง นั่นก็คือ สติ

สรุปอย่างหยาบแบบจิตเกาะพระ ก็คือ

1. จิตเกิดปิติสุขก่อน

2. ก่อนจิตจะเข้าสู่ฌานสูงขึ้นไปตามลำดับ

3. เมื่อจิตสามารถทรงฌาน ทั้งวันทั้งคืนได้ จิตก็จะเข้าเส้นตรงสู่การวิปัสสนา

จิตจะเข้าสู่การวิปัสสนาไดจะต้องอาศัยกำลังฌานสูงอย่างต่อเนื่อง จิตจึงจะมีกำลังสอบผ่านวิปัสสนาญาณไปได้ และเมื่อจิตสอบผ่าน (จิต)ก็จะปล่อยวางกับที่เราเรียกกันว่า สิ่งสมมุติทั้งปวงได้มาก จนอาสวะสิ่งทั้งปวงนั้น ผู้ที่ปราศจากกิเลสทั้งปวงกันได้นี้ จะต้องนำจิตผ่านมรรคมีองค์ 8 ทั้งสิ้น ทางอื่นที่จะดับทุกข์ได้นั้นไม่มี จิตก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้วผู้ปฎิบัติจะต้องไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ฝืนจิตใจตนเอง เพราะมันทำได้แค่ ชั่วคราวเท่านั้น"......(บทความคุณภูทยานฌาน2)

http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-402

*************************************************************************************

 

"การปฎิบัติจิตเกาะพระ พวกเรามอง/จับ/จ้อง/เพ่ง/เกาะ/นึก/ระลึกถึงพระกัน อย่างไร?

ขอแนะนำผู้มาใหม่/ปฎิบัติใหม่พร้อมกันไปด้วย คือ

1.เมื่อเราเลือกภาพพระที่เรารัก ที่เราชอบได้แล้ว

2.สำหรับผู้มาใหม่/ทำใหม่ๆ ให้มองภาพพระด้วยตาเปล่า มองแบบสบายๆ อย่าไปเพ่งมาก แล้วก็หันหน้าไปทางอื่น แล้วลองหลับตาดู และกำหนดจิตดูว่า เป็นอย่างไร พอจะจำภาพพระกันได้ไหม แต่ถ้ายังก็ทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนกว่าภาพพระนั้นจะเปลี่ยนไป คือเมื่อจิตเป็นสมาธิ หรือจิตทรงฌานสูงไปตามลำดับ ภาพพระก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความละเอียดจิตของผู้ปฎิบัติ เช่น ถ้าจิตทรงฌาน1-2 ภาพพระจะเปลี่ยนไป หรือจิตเขาอาจจะเปลี่ยนภาพพระใหม่ไปเลยก็มี แต่ขอให้เราตามใจจิตตนเองนะ

เราก็ไปตามหาภาพพระ ที่จิตเขาจับมาได้นั้น แล้วให้เรากำหนดจิตดูภาพนั้น ที่จิตเขาเลือก ส่วนจิตจะเลือกดูส่วนไหนของภาพพระก็ต้องตามใจจิตตนเองอีก เราแค่มีสติตามดูเฉยๆ อย่านำสติไปขัดขวางจิตเขา ตามดู ตามรู้จิตเท่านั้น อย่างอื่นไม่ต้องทำอะไร จิตทรงฌาน3 ภาพพระจะเปลี่ยนสีใสเหมือนแก้ว อันนี้จิตคุณเป็นคนเห็น ไม่ใช่ตาเปล่าของคุณแล้ว ตอนนี้ภาพพระจะปรากฎขึ้นเองบ้างแล้ว เป็นระยะๆ

เรามีแค่สติเท่านั้น ใครถึงช่วงนี้ให้เร่งสร้างสติให้มาก โดยให้เราระลึกถึงภาพพระบ่อยๆ พอสติมากขึ้นภาพพระก็จะเป็นเป็นสีรุ้ง หรือประกายพรึก นี่จิตทรงฌาน4 แล้ว และขอให้เราประคองอารมณ์จิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ กระทำทั้งหลับตาและก็ลืมตานะ ทำจิตเกาะพระไม่ทำเฉพาะตอนนอน หรือหลับตา

3.สำหรับลักษณะการมอง หรือระลึกถึงพระนั้น เป็นอย่างไร ข้อนี้สำคัญมากที่สุด ขอให้พวกเรามองพระด้วยปัญญา(วิปัสสนา) มิใช่มองแบบเฉยๆ(สมถะ)
คือในขณะที่เราจ้องมองภาพพระอยู่นั้น ให้ตาเนื้อมองไปที่ภาพพระ แล้วให้จิตของเรา ระลึกไปถึงพระพุทธเจ้าจริงๆ และก็ให้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์ท่านด้วย แต่ถ้าใครจ้องมองพระแถมน้ำตาไหลนองหน้า อันนี้คุณทำถูกต้องมากที่สุด

เพราะการจ้องมองภาพพระนี้ เราจะต้องให้เกิดปิติให้ได้ พอเลยปิติไปเล็กน้อย
จิตจะเข้าสมาธิมากไปจนถึงจิตทรงฌาน แต่จะต้องระวังสำหรับผู้ที่เกิดปิติมาก คือน้ำตาจะไหลออกมามากเกินไป ขอให้เรามีสติมาก หรือให้นึกถึงลมหายใจ เดี๋ยวน้ำตาค่อยๆหายไปเองมองพระต้องมองให้ลึกซึ้งแบบนี้ ไม่ใช่ให้มองก็มองไปแบบเม่อลอย อันนี้ไม่ถูก อันผู้เขียนจะเจาะลึก ลงรายละเอียดให้มากกว่านี้ เผื่อคนหลังไม่ค่อยเข้าใจ คือมองดูภาพพระตั้งนานแล้ว ทำไมจิตไม่รวม ไม่เป็นสมาธิ ไม่เข้าถึงฌานสักที

4.ผู้เขียนขอผ่านเข้ามาข้อสุดท้ายเลย ก็คือ หลังจากจิตทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามที่สติเราเกิดมาก และต่อเนื่อง จิตก็จะยิ่งนิ่งมาก จิตก็จะละเอียดมากไปตามลำดับ พอจิตฟักตัว(จิตทรงฌานสูงต่อเนื่อง)ได้สักระยะนึง จิตเขาจะเข้าสู่วิปัสสนาเอง อันนี้สำคัญระยะตอนปลาย หรือก่อนที่จิตจะยก แต่ถ้าจิตติดสุขจากฌาน แต่ถ้าสติผู้ปฎิบัติมีน้อยเกินไป จิตก็จะติดฌานอยู่นานมาก คือทำไมจิตเราถึงไม่ยกสักที อย่ากังวล แก้ง่ายนิดเดียว ก็คือ เร่งสติให้เกิดมากๆ จิตจะได้นิ่งนาน พอจิตนิ่งนาน จิตก็จะทรงฌานนานตามไปด้วย ในขณะที่จิตทรงฌานสูงขึ้นไปเรื่อยนี้ จิตเขาจะทำวิปัสสนา โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบ

อย่าลืมนะว่า เราเคยอยู่กับร่างกาย(กายหยาบ)มานาน เรานึกว่าเรามีเราคนเดียวในร่างกายคุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เหมือนเรามีสองคนในร่างเดียวกัน บางคนยิ่งมากมากกว่าสองคนในร่างเดียวกัน อันนี้ไม่ต้องไปสงสัย ผู้เขียนจะเฉลยให้ฟังว่า

คนนึงก็คือ ตัวคุณ(สติ) คนที่สองที่ว่านี้ก็คือ จิตของคุณเอง

ส่วนคนที่สามนั้นก็คือ จิตที่แยกตัวออกมา(จิตเกิด-ดับ) ก็คือ เจตสิก หรือตัวจิตไปคิดฟุ้งซ่าน แต่สำหรับจิตที่ฝึกมาดี หรือจิตพระอรหันต์ ท่านจะเหลือดวงเดียว คือ สติรวมกับจิตเป็นหนึ่งเดียวกัน(จิตพุทธะ หรือจิตเข้าถึงสภาวะแห่งธรรมชาติ) และตัวจิตจะไม่เกิด-ดับ เพราะจิตปราศจากอาสวะกิเลส สำหรับผู้ที่ยกจิตใหม่ๆจะงงมาก เหตุที่งงก็คือ จิตตนเองยกแบบไม่รู้ตัว และตรงนี้นี่ไง ขนาดคนที่จิตยกไปแล้ว ก็ยังรู้สึกงงๆ เพราะจิตยกเหนือขันธ์5ตนเอง ก็ยังไม่รู้ตัว เพราะเราคือสติ สติก็คือเรา ต่อมาเมื่อสติรวมกับจิต เราถึงจะเห็นจิตตนเองได้

ต่อไปเมื่อสติ+จิต= ก็จะรู้สึกตัวมากขึ้น นี่คือตัวเราหรือนี่

สำหรับจิตที่ยกแล้ว อาการ อารมณ์ของสติ+จิต=ตัวเรา จะเปลี่ยนไป คือจะยอมทำใจยอมรับสภาพ ยอมรับทุกข์ เข้าใจทุกข์ ไปจนถึง ละ ปล่อย วาง กับคำว่า สิ่งสมมุติมากขึ้น โดยที่ตนเองก็ยังงงๆต่อไป อีกสักพักหนึ่งเมื่อเรา หรือร่างกายเราปรับตัวได้ง่ายขึ้น

เวลาเราปฎิบัติธรรม เราจะต้องเอาสติเข้าไปให้ถึงจิตตนเอง ตอนนี้สำหรับผู้ที่จิตยังไม่ยกนั้น คุณก็ลองถามตนเองดูกันสิว่า จิตของคุณนั้น อยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่? ผู้เขียนท้าเลยว่า ตอบไม่ได้กันสักคนเดียว เพราะอะไร

ก็เพราะว่าคนที่จะเห็นจิตตนเองได้นั้น จะต้องผ่านการฝึกดูจิตมาอย่างช่ำชองแต่ถ้าฝึกดูจิตแล้ว ฝึกแบบสติน้อยกันนะ ชาตินี้ก็ไม่ได้เห็นจิตของตนเอง ทำจนตายก็ไม่เห็นจิต เพราะขาดความเพียร+ความต่อเนื่อง นั่นเอง แต่ถ้าคุณไม่สามารถมองเห็นจิตประภัสสรของคุณได้นะ ชาตินี้ก็จะไม่ได้ดวงตาเห็นธรรม บางคนถามว่า แล้วดวงจิตเดิมแท้ของตนเองอยู่ที่ไหน อันนี้คนถามหนักเข้าไปอีก แค่จิตธรรมดาๆ ก็ยังมองไม่เห็นกัน นี่จะมาดู มารู้จิตดวงเดิม หรือจิตประภัสสรกัน ไม่มีทาง

ถ้าพวกเราอยากรู้ว่าจิตตนเองนั้นอยู่ที่ไหน ทำอะไร พวกเราจะต้องมีสติมากๆ คือสร้างสติให้มากที่สุดกันก่อนเพราะสติเกิดมาก จิตก็เริ่มนิ่ง สติก็จะเริ่มมองเห็นจิต ที่แท้ตัวสตินี่เอง คอยไปรับอาสา รับหน้าที่เป็นผู้รายงานเรื่องจิตให้กับเรา เพราะจิตเป็นนาม เราจะเอาตาเปล่าไปมอง ก็มองไม่เห็นเพราะฉะนั้น เราจะต้องเอานามไปดูนาม เราจึงจะมองเห็น นั่นก็คือ สติตนเองใครอยากได้บุญใหญ่กัน ก็หัดสร้างสติกันมากเข้าสิ!" ....(บทความ คุณภูทยานฌาน2)

**********************************************************************************
ขอความสุขสวัสดี จงมีแต่พุทธบริษัททั้งหลาย


สำหรับผู้มาใหม่

ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นำจิต(นึกถึง)เกาะพระไปอย่างเดียว เท่านั้น จนกว่าจิตจะเกิดปิติ โน้นแหล่ะ จึงจะนับหนึ่ง คำว่า จิตเริ่มเกาะพระติดอัตโนมัติ หมายถึง ภาพพระจะปรากฎขึ้นอยู่ภายในจิตตนเอง โดยที่เราไม่ต้องนึก
(ขั้นตอนนี้ เรียกว่า จิตกำลังสร้างสติ หรือให้จิตทรงศีล)

สำหรับจิตบำเพ็ญ

ให้คอยหมั่นทรงฌานไปเนื่อง แต่ถ้าฌานหลุด(ตกฌาน ไม่ใช่โดนถีบตกนอกชานนะ คนละเรื่อง ฮ่าๆ) ให้ท่านนึกถึงพระใหม่ก็แค่นี้เอง ทรงฌานจนกว่าอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งจิตเขาสามารถทรงฌานได้ทั้งวันทั้งคืน แม้นกระทั่งยามกายพักผ่อน จิตเขาก็ไม่เลิกทรงฌาน จิตทรงฌานจนกว่าจิตจะเข้าสู่ความว่างได้เอง สติเราไม่สามารถไปบังคับให้จิตทำวิปัสสนาเองได้ สติขั้นตอนนี้ก็แค่ เป็นพี่เลี้ยง หรือตามดู ตามรู้จิตเท่านั้น แล้วคอยรายงานให้เราและเราก็นำอาการหรืออารมณ์ของจิตตรงนี้ นำไปบอกเล่าอย่างละเอียดให้ครูตนเองรับทราบ ยิ่งเราเล่าละเอียดมากเท่าใด ก็จะเป็นประโยชน์กับตนเองมากเท่านั้น คือจิตจะยกไว

แต่จิตผู้ปฎิบัติเมื่อมาถึงตรงนี้กันแล้ว ก็มักจะเริ่มดื้อแล้วนะ พวกครูทั้งหลายอย่าไปดองลูกศิษย์ แต่ถ้าจิตผู้ใดดื้อมาก ให้นำมาฟ้องครูใหญ่ เดี๋ยวถ้าครูใหญ่เตือนแล้วไม่ฟัง สุดท้าย พี่ภูจำเป็นจะต้องลงประกาศนสพ. เอ๊ย ลงกระทู้ เอาให้อายชาวบ้านเลย เพราะผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระที่นี่ จะต้องละกิเลสอันละเอียดให้ได้ อันได้แก่ ติดสุขจากฌาน(สังโยนช์ข้อที่๖-๗) มานะ(สังโยนช์ข้อที่๘) เป็นต้น ครูที่นี่จึงช่วยกันกระทุ้งหรือฆ่าให้ตายให้ได้ เพราะถ้าท่านไม่ยอมฆ่าเอง เดี๋ยวพี่ภูจะฆ่าให้ ง่ายนิดเดียว เพราะถ้าเราไม่สามารถฆ่า จิตก็จะหลงไปยึดกายตนเอง จิตถึงจะยกได้ หรือกว่าจะเป็นจิตบุญ หรือจิตที่จะไปพระนิพพานได้นั้น จิตจะต้องละขันธ์๕ตนเองให้ได้เสียก่อน

ในช่วงนี้ ใครมีของเก่าจะเริ่มออกมาให้เห็น เช่น กรรมเก่า นิมิต อภิญญา เป็นต้น เกิดได้เพราะจิตมันนิ่งสงบมาก
(ขั้นตอนนี้ เรียกว่า จิตเป็นสมาธิหรือฌาน)

สำหรับจิตบุญ

คอยหมั่นทรงฌานให้เป็นวสี(ชิน)
เพราะเมื่อมีสิ่งใดๆ มากระทบจิตตนเอง เราจะไม่รู้สึกทุกข์(มาก) เพราะมาถึงตรงนี้แล้ว ศีลและสมาธิจะเป็นเสมือนเป็นเกราะแก้วคอยไว้กำบังจิตของผู้ปฎิบัติ นี่คือ ธรรมะอันไม่ประมาท แต่ถ้าผู้ปฎิบัติคอยหมั่นทรงฌานเป็นปกติแล้ว จิตจะพัฒนาไปได้อีกไกล เพราะต่อไปนี้ จะเป็นเขตที่เรียกว่า การสร้างบารมี ยิ่งกว่าคำว่าบุญเสียอีก จิตบุญที่ทรงพรหมวิหาร อิทธิบาท ทรงอารมณ์ฌานหรือพระนิพพานเป็นปกตินั้น เป็นนิสัยของพระโพธิสัตว์

คอยสังเกตดูจิตตนเองก็ได้ ได้แก่ คำว่าให้อภัยนั้นง่ายสำหรับพวกเรา เพราะจิตเป็นพรหมวิหาร อารมณ์จิตจะเยือกเย็นและสงบอยู่ภายในมาก และมักมีนิสัยชอบให้มากกว่าเป็นผู้รับ แต่ถ้าผู้ใดปฎิบัติตามที่บอกกล่าวมานี้ ขอให้ดูที่จิตตนเองเป็นหลัก ก็จะเห็นได้ชัดเจนมาก เช่น ลมหายใจเหลือแค่ครึ่งเดียว หายใจแผ่วเบา เพราะสืบเนื่องมาจากจิตชอบทรงฌานอยู่ตลอดเวลา(ฌานคือที่พักจิตอย่างดี)นี่เอง จึงเป็นเหตุทำให้ร่างกายใช้พลังงานน้อยลงกว่าคนปกติหรือผู้ที่ไม่ทรงฌาน เป็นเหตุอายุขัยยืนยาวเข้าไปอีก เพราะบุญกุศลนี้เอง โดยเฉพาะท่านสว.ทั้งหลายจงจำตรงนี้ให้ดี ตอนนี้อายุขัยครูเพ็ญได้ขยายไปอีก๑๐ปี นับตั้งแต่จิตบุญครบ๑๐๐ดวง แล้วค่อยว่ากันใหม่ เห็นจ๊ะๆ เพราะท่านทราบดี ถามว่าอานิสงส์ทุกท่านได้ไหม๊ จิตบุญได้ทุกคน แม้นกระทั่งผู้ที่เฝ้ากระทู้ คอยอนุโมทนาบุญก็ได้ด้วย

สรุปแล้วได้ทั้งผู้ปฎิบัติ ได้ทั้งผู้ได้ยิน ทุกท่านจงมั่นใจในผลของการปฎิบัติตนเองให้ดี เพราะนอกจากตนเองที่รู้แล้ว แต่ยังมีท่านพ่อ หรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านก็รับทราบ แม้นกระทั่งหมู่เหล่าเทวดาหรือเทพทาอารักษ์ พรหมทั้งหลายก็มาร่วมอนุโมนาบุญกับผู้ที่ได้มาปฎิบัติดี ปฎิบัตอชอบดีแล้ว ถูกต้องแล้ว เพราะพี่ภูคอยภาวนาอยู่เป็นเนื่องนิจว่า ถ้าจิตเกาะพระไม่เป็นความจริงหรือขัดต่อพระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ก็ขอให้หยุดยั้งการกระทำของพวกเราเสีย แต่ถ้าจิตเกาะพระเป็นของสมเด็จองค์ปฐมจริง ก็ขอให้มีผู้ปฎิบัติตามกันมากๆ และขอให้มีบ้านจิตเกาะพระเป็นสถานที่ปฎิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อทำภารกิจยกจิตลูกหลานของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หรือครูบาอาจารย์ทุกองค์ของพวกเรา ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ..สาธูๆๆ
(ขั้นตอนนี้ เรียกกว่า สายปัญญา หรือ มีญาณ)

....(บทความ คุณภูทยานฌาน2)


(ที่นำมาให้อ่านคือหลักการ และวิธีปฏิบัติอย่างย่อๆ ไม่สามารถปฏิบัติให้สำเร็จได้ หากไม่มีครูคอยควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด..ขอย้ำ)



http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-402

 

ข้อมูลเยอะดีครับ ขอบคุณมาก

 

นำข้อมูลแผ่นดินไหวมาให้ดูครับ

รู้สึกว่าแผ่นดินไหวเริ่มจะแรงมากขึ้นครับ ปกติจะอยู่ที่ 2-3 เป็นส่วนมากเดวนี้ดูเหมือนจะแรงมากขึ้นโดยทั่วหน้าครับ ดูจากโปรแกรม

 

ขอบคุณท่านที่ขุดกระทู้ผมขึ้นมา...จนลืมไปแล้ว555