คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ ศาลศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ลพบุรี
    [​IMG]ละโว้ หรือ ลวปุระ เป็นเมืองโบราณที่มีผู้คนอยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์กลางความเจริญของทวารวดี ขอม อู่ทอง กรุงศรีอยุธยา เรื่อยมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนมาเรียกเป็น "ลพบุรี" หรือ "เมืองของพระลพ" ตามพระนามพระโอรสของพระราม ใน "มหากาพย์รามายณะ" ด้วยเป็นเมืองที่ผ่านอารยธรรมมาหลายยุคหลายสมัย ทำให้เมืองลพบุรีมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่นับเป็นมรดกอันล้ำค่าและมีความ สำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอยู่มากมาย หนึ่งในทั้งหมดที่นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่ครั้งโบราณ ได้รับความเคารพจากชาวไทยทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อไปถึงจะต้องแวะกราบไหว้สักการะก็คือ "ศาลพระกาฬ"
    กลางเมืองละโว้ หรือ ลพบุรี จะปรากฏเทวสถานตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันออกของทางรถไฟปัจจุบัน เยื้องกับพระปรางค์สามยอด เป็นสถาปัตยกรรมขอมยุคปลาย Angkor Period อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 ลักษณะเป็นองค์ปรางค์เดี่ยวขนาดใหญ่ มีมุขยื่นด้านหน้า ปรากฏซากบันไดทางขึ้น 4 ด้าน ประกอบเป็นผังจักรวาลวิทยาที่มีเขาพระสุเมรุเป็นแกนกลาง เมื่อก่อนชาวเมืองเรียกว่า "ศาลสูง" เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป "เจ้าพ่อพระกาฬ" ทำจากศิลาทราย ศิลปะลพบุรี ยังมีร่องรอยพระกร 4 ข้างปรากฏอยู่คล้ายเป็นเทวรูปพระวิษณุ หรือพระโพธิสัตว์ในคติมหายานที่เผยแพร่เข้ามายังละโว้ในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 7
    [​IMG]ปัจจุบัน องค์เรือนธาตุปรางค์ประธานเดิมปรักหักพังเกือบหมด แต่พบทับหลังสลักเป็นรูป "วิษณุอนันตศายินปัทมะนาภ" หรือ "นารายณ์บรรทมสินธุ์" ทำจากศิลาทราย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 และพบจารึกหลายหลักส่วนใหญ่เป็นอักษรขอม เทวสถานแห่งนี้คงจะได้รับการปฏิ สังขรณ์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้บูรณะ ขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนฐานเดิม

    บริเวณศาลพระกาฬในอดีต จะมีต้นกร่างขนาดใหญ่จำนวนมาก ทำให้ฝูงลิงเข้ามาอยู่อาศัยมากมายจนกลายเป็นลูกศิษย์เจ้าพ่อพระกาฬเรื่อยมา แม้บ้านเมืองจะเจริญขึ้น ต้นไม้ใหญ่หายไปเหลือเพียงต้นมะขามเทศ แต่เนื่องจากผู้คนพากันมาสักการะองค์เจ้าพ่อพระกาฬ และนำของกินมาฝากเป็นประจำทำให้ฝูงลิงไม่ไปไหนอาศัยอยู่เข้ากับชาวเมืองมาจนบัดนี้
    "เจ้าพ่อพระกาฬ" ถือเป็นเทพอารักษ์ประจำเมือง ในคัมภีร์และจารึกโบราณปรากฏนาม "องค์พระกาฬไชยศรี" ซึ่งเป็นเทพที่ปกปักรักษาบ้านเมืองทำนองเดียวกับพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง นอกจากนี้ ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพสามารถให้คุณให้โทษ และปรากฏบทบาทเป็นเทพแห่งความตาย ดังนั้น จึงมีผู้คนเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง การได้เดินทางมาบูชาสักการะองค์เจ้าพ่อพระกาฬ ถือว่าเป็นการสร้างความเป็นสิริมงคลให้เกิดกับตนและทำให้ศัตรูยำเกรงไม่กล้าทำอันตรายอีกด้วย


    ขอบคุณที่มาข้อมูลบทความอย่างสุงครับ



    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    เหรียญเจ้าพ่อศาลพระกาฬ ลพบุรี รุ่น๑ แต่ไม่น่าใช้รุ่นแรก



    [​IMG] [​IMG]
     
  2. boonmobile

    boonmobile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +419
    พี่มีเหรียญหมูขวาง ของหลวงพ่อสุรินทร์ไหมครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    ไม่มีครับท่าน

    มีเหรียญหลวงปูู่มั่นมีเหรียญนี้ครับที่ท่านสอบถามเหรียญนั้นมีผู้จองบูชาแล้วครับ

    แต่บล็อคเขยื้อน ตำหนิพิมพ์ทรงถูกต้องหมด ขอบตัดเหรียญตัวเดียวกันครับ



    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    [FONT=Tahoma,]<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360" align="left"><tbody><tr><td bgcolor="#E0E0E0" valign="top" align="center">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>"พระ ครูพิเศษเขมาจาร" หรือ "หลวงพ่อท้วม เขมจาโร" เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งสุราษฎร์ธานี มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของภาคใต้

    บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่ายปฏิปทางด งาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น

    ปัจจุบัน สิริอายุ 89 พรรษา 62 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

    อัต โนประวัติ มีนามเดิมว่า เขียม อักษรสม เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2465 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ ที่บ้านสมอทอง หมู่ 2 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเชื่อม และ นางทา อักษรสม มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน

    พี่ชายคนโตของท่าน คือ พระราชวีรมุนี (สีหนาทภิกขุ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดเลย พระนักเทศน์นักเขียนชื่อดัง ปัจจุบันมรณภาพแล้ว

    ใน ช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปี พ.ศ.2479 เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารได้สมัครใจเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการ ท่านมาเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลอยู่ระยะหนึ่ง

    หลัง จากนั้น ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2492 ณ วัดศรีสุวรรณ โดยมีพระครูประสงค์สารการ (หลวงพ่อเทศน์ โยธารักษ์) วัดวิชิตดิตถาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูฮอด หิรัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระวีรญาณมุนี วัดศรีบุญเรือง จ.เลย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมจาโร อันหมายถึง ผู้มีความประพฤติเรียบร้อยดีงาม

    ระหว่างอุปสมบทเดินทาง ไปปฏิบัติธรรมและศึกษาพระธรรมวินัยในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน ก่อนกลับมาจำพรรษาที่วัดศรีสุวรรณ พ.ศ.2499 ได้ศึกษาพระธรรมจนจบชั้นนักธรรมเอก และดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ

    สำหรับตำแหน่งหน้าที่และสมณศักดิ์มีลำดับ ดังนี้

    พ.ศ.2502 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ จนถึงปัจจุบัน

    พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามพระครูพิเศษเขมาจาร

    พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2524 ได้เป็นพระอุปัชฌาย์

    หลวง พ่อท้วม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เมื่อได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าท่านจะย่างอายุเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย

    อีกทั้ง เมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ มีหลายครั้งที่ต้องไปรอเจ้าภาพของงานก็มี

    ใน แต่ละวันจะมีชาวบ้านที่ศรัทธา มากราบขอพรขอความเมตตาให้ท่านเจิมรถ จารแผ่นชนวนเสกวัตถุมงคล ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ

    ด้าน การศึกษา ท่านก็ให้ความสำคัญและเอาใจใส่เป็นพิเศษ ด้วยท่านมีความผูกพันกับการเรียนการสอนมาตั้งแต่ก่อนจะอุปสมบท ปัจจุบันท่านยังเป็นกรรมการสถานศึกษาถึงสองแห่ง คือ โรงเรียนวัดศรีสุวรรณและโรงเรียนบ้านคลองสงค์ โดยให้การอุปถัมภ์นักเรียนด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กที่เรียนดี แต่ขาด แคลนทุนทรัพย์เสมอมา

    ส่วนงานกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุ มงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้องเดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้นจะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ท่านก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถทัดทานได้

    หลวงพ่อท้วม เคยกล่าวว่า "เมื่อเขาพร้อมเราก็พร้อม ฤกษ์ดีอยู่ที่สะดวก ในเมื่อเขาตั้งใจมาหาเพื่อให้เราช่วยแล้ว เราก็ต้องทำให้ทันทีด้วยความเต็มใจ"

    ส่วนวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ท่านได้สร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบ การณ์เล่าขาน แม้นค่านิยมทางด้านราคายังไม่สูงมากนัก แต่ด้วยพลังแห่งพุทธคุณที่ปรากฏครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นด้านความคงกระพันชาตรี โชคลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัว

    ทั้งนี้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อท้วมหลายรุ่นจะมีสัญลักษณ์รูปสมอเรือ อาทิ รุ่นมหาลาภ 89 ซึ่งท่านได้เขียนอักขระยันต์ด้วยลายมือท่านเองลงในวัตถุมงคล โดยมีดำริว่า ต้อง การให้มีสัญลักษณ์สมอเรือใส่ไว้ด้านหลังของเหรียญรุ่นนี้ เป็นยันต์สมอเกี่ยวทรัพย์ พร้อมพระคาถา "อิติเมตตา สมอเทวะนัมพา สัพเพชะนา พหูชะนา สิริโภคานะมาสะโย" และล้อมรอบด้วยยันต์โภคทรัพย์อีกชั้น "นะมะพะทะ อุอากะสะ นะมะอะอุ จะภะกะสะ" และยันต์หัวใจพระสีวลี นะชาลีติ ซึ่งหลวงพ่อท้วมได้เขียนด้วยลายมือท่านเอง เพื่อเป็นต้นแบบในการแกะพิมพ์

    ท่าน ได้บอกเล่าถึงตำนานเกี่ยวกับชื่อสมอทอง ว่า "เนื่องจากในอดีตบริเวณที่แห่งนี้ เดิมทีเป็นท้องทะเล มีเรือสำเภาจีนขนาดใหญ่ได้เจอพายุถูกคลื่นยักษ์ซัดเข้ามา กัปตันเรือไม่สามารถบังคับเรือได้จึงสั่งให้ลูกเรือทอดสมอลงทะเลเพื่อหลบ พายุ แต่ไม่สามารถทำให้เรือจอดได้ จึงได้สั่งลูกเรือให้ทอดสมออีกครั้งโดยครั้งนี้ได้สั่งให้ทอดสมอพร้อมกัน คราวเดียวถึง 7 ตัว

    แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเรือสำเภาก็ไม่หยุดนิ่ง ยังคงลอยไร้ทิศทางมาจนถึงบริเวณที่ตั้งบ้านสมอทองปัจจุบัน กัปตันได้สั่งให้ลูกเรือเอาสมอเรือทอดลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างกว่าครั้งก่อนๆ เพราะว่าสมอที่ใช้ทอดนั้นเป็นสมอทอง ปรากฏว่าครั้งนี้สามารถทำให้เรือสำเภาจอดนิ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

    เมื่อ พายุคลื่นลมสงบเรือสำเภาจะออกเดินทางต่อ แต่ไม่สามารถถอนสมอทองกลับคืนมาได้ เวลาล่วงมาถึงยุคปัจจุบัน สถานที่ทอดสมอเรือทั้ง 7 ตัว ชาวบ้านจึงมีชื่อเรียกกันว่า "บ้านสมอเจ็ด" บริเวณที่ทอดสมอทองมีชื่อเรียกว่า "บ้านสมอทอง" ซึ่งปัจจุบัน สถานที่ในตำนานดังกล่าว คือ ต.สมอทอง อันเป็นที่ตั้งของวัดศรีสุวรรณ

    สิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้หลวงพ่อท้วม มีความนิยมชมชอบรูปสมอเรือเป็นอย่างยิ่ง

    กว่ากึ่งศตวรรษแห่งการครองสมณเพศ เป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส เพราะเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม รวมทั้งพุทธาคม

    ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปหนึ่งของภาคใต้

    ขอขอบคุณอย่างสูงที่มาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด


    [/FONT]เหรียญหลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ สุราฎษ์ธานี รุ่นแรก บล็อคนิยม ๘ แตก

    ให้บูชา 800 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG]

    [​IMG]
    [FONT=Tahoma,]
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2012
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    พระกริ่งพิทักษ์โรคา หลวงพ่อมนัส วัดทุ่งจันคำ จันทบุรี

    วัตถุมงคลท่านศิษย์กำลังตามเก็บบูชาครับ ทั้งมหาอุตย์ คงกระพันแคล้วคลาด มีการนำไป

    ทดลองยิง มีประสบการณ์มาก ในพื้นที่ครับ

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ(ปิดรายการครับ)



    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2012
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    พระกริ่งวิสุทธาจารคุณหลวงพ่อเกตุวัดเกาะหลัก ปลุกเสกไตรมาส ใต้ฐานจารยันต์โดยหลวงพ่อทุกองค์

    เนื้อโลหะเต็มสูตร เสกเดี่ยวนานถึง ไตรมาส ปีและยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกด้วย สภาพเก่าเก็บองค์พระสวยเดิมๆ สร้า้งมากว่า 24 ปี พระประสบการณ์สายหลวงศิษย์ท่านครับ
    อ่านรายละเีอียดในใบฝอยเดิมๆจากทางวัดดูครับ น่าบูชาอย่างยิ่ง




    ให้บูชา 1500 บาทครับ

    (ปิดรายการครับ) [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2012
  7. ฉันทปาโล

    ฉันทปาโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +677
    ขอจองรายการนี้ครับ


     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    รูปหล่อโบราณ หลวงพ่อทับ วัดสลุด

    หลวงพ่อทับเป็นศิษย์หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว และเป็นอาจารย์หลวงพ่อเณร วัด ทุ่งเศรษฐีอีก

    องค์ด้วยครับ..........ไม่ค่อยพบเห็นนานๆเจอครับ

    ปิดรายการ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อยก วัดบางเขียด สงขลา ประสบการณ์ด้านคงกระพันแคล้ว

    คลาด ครับ

    ให้บูชา 700 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG][​IMG]
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    เหรียญทองแดงลงยาสีน้ำเงินหลวงปู่ศุข วัดสะพาน ชัยนาท

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    หลวงพ่ออาคมวัดดาวนิมิตร เพชรบูรณ์

    เชิญอ่านประวัติปฎิปทาและเรื่องราวหลวงพ่อครับ


    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%88-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C.269014/

    พระกริ่งมหาอาคมเนื้อนวะ ก้นดาว เลี่ยมพลาสติคกันน้ำอย่างดี

    (ปิดรายการ)

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2012
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    [​IMG]


    หลวงปู่พวง วัดสหกรณ์รังสรรค์ สระบุรี

    เหรียญรุ่นแรกบล็อคแรกเส้นหน้าผากจม ไม่ค่อยพบเห็นส่วนมากจะบล็อคเสริม

    เลี่ยมพลาสติคกันนำ้อย่างดีเดิมที่เจ้าของเดิมจะนำไปเลี่ยมอัดกรอบเงิน เลยตัดห่วงห้อยออก

    ครูบาอาจารย์ที่มีอายุยืนนับ 100 ปี หลวงปู่เป็นพระที่เมตตามากครับ ยุคหนึ่งถนนที่ชื่อว่า

    สายขลังและนักแสวงโชค วิ่งไปเส้นทางวัดหลวงปู่กันอย่างมากครับ

    เชิญอ่านประวัติท่านได้ในเวปนี้ครับ ขอบคุณอย่างสูงครับ

    www.oknation.net/blog/print.php?id=225626

    ให้บูชา 1500 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ




    [​IMG] [​IMG]
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    เหรียญหลวงปู่พวง วัดสหกรณ์รังสรรค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2014
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    [​IMG]

    ขุนแผนทรงพล หลวงพ่อฑูรย์

    วัดโพธิ์นิมิตร ตลาดพลูด ธนบุรี

    (ปิดรายการ)

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    เหรียญสิทธัตโถ ปี 2512


    มหาพิธีสิทธัตโถ ปี 2512 มหาพิธีทำขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2512 ที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ

    เหรียญ พระกริ่งสิทธัตโถ หลังสมเด็จพระสังฆราช (อยู่) ญาโณทัย จัดสร้างปี พ.ศ.2512 ต่อไปจะเป็นรายละเอียดของพระกริ่งสิทธัตโถ เหตุแห่งการจัดสร้าง เมื่อสมัยครั้งสมเด็จพระสังฆราชญาโณทัย วัดสระเกศ ทรงประชวรหนักใกล้สิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงปรารภกับพระครูสังฆบริรักษ์(วีรญาโณ มโนรมย์) วัดบรมนิวาส ว่า "ในชีวิตของพระองค์ทรงเคยตั้งพระทัยไว้ประการหนึ่งว่า อยากจะทรงสร้างพระกริ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ต้องมาประชวรลงเสียก่อน ทรงปรารภลอย ๆ ไม่ได้หวังอะไร" พระครูสังฆรักษ์ได้นำเรื่องนี้มาปรึกษากับคุณมนตรี เหล่าวิสุทธิชัย บอกว่าอยากจะสนองพระราชปรารภขององค์พระสังฆราช แต่ไม่มีทุน คุณมนตรีบอกว่า ไม่ยาก รับปากพระองค์ท่านไปเลย ทุนสร้างจะหาให้เอง ความเป็นจริงของพระกริ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้มีอันหวังได้ว่าจะมีเกิด ขึ้นทันที เหมือนเค้าฝนที่ตั้งทมึนพร้อมจะตก คุณมนตรีซึ่งในชีวิตดูเหมือนจะไม่เคยสร้างพระทำนองนี้มาก่อนก็โดดลงมาเต็ม ตัว ลงมาสู่สถานภาพแห่งประธานหาทุน และได้จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นประธานอุปถัมภ์ ฝนนี้จึงเป็นฝนใหญ่เค้าใหญ่ในเวลานั้นทันควัน ขนาดและสัดส่วนขององค์พระกริ่งถูกำหนดขึ้นปฏิมากรลงมือปั้น ให้หุ่นสำเร็จเป็นองค์จริงสูง 2 เมตร 30 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 1 เมตร 85 เซนติเมตร สร้างเสร็จแล้วอาราธนาพระกริ่งใหญ่องค์นี้ไปประดิษฐานที่ถ้ำปากเพียง เมืองเชียงใหม่ ถ้ำปากเพียงอยู่ใกล้ ๆ ถ้ำเชียงดาว ซึ่งหลวงปู่สิม พุทธาจาโร พำนักอยู่ประจำจนวันมรณภาพ ดังนั้น มหาพิธีมังคลาภิเษกพระกริ่งสิทธัตโถองค์ใหญ่จึงได้หลวงปู่สิมเป็นเจ้าพิธี มหาพิธีทำขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2512 ที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ พร้อมพิธีนี้คณะกรรมการได้จัดสร้างเหรียญขึ้นเป็นที่ระลึก 11 พิมพ์ และพระกริ่งขนาดห้อยคออีก 1 พิมพ์ รวมเป็น 12 พิมพ์ ไม่นับพระกริ่งขนาดบูชาหน้าตัก 3 นิ้ว 5 นิ้ว และ 12 นิ้ว ตามลำดับ และพระบูชาประจำวันอีก 1 ชุด คณาจารย์ที่รับอาราธนาเข้าร่วมพิธีมหาพุทธภิเษกพระกริ่งสิทธัตโถ และเหรียญที่ระลึกทั้งหมดนั้น อาจบันทึกได้ไม่ครบถ้วนทุกรูป แต่สามารถบอกได้ดังนี้

    1. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    2.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ อยุธยา
    3. หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    4. เจ้าคุณวรพรตปัญญาจารย์ (แก้ว) วัดป่าอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    5. หลวงปู่เคน วัดเขาอีโต้ ปราจีนบุรี
    6. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลยไลย์ สุพรรณบุรี
    7. หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่ หนองพะอง
    8. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    9. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    10. หลวงพ่อเขียน วัดพิชัยสงคราม สมุทรปราการ
    11. หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี
    12. หลวงพ่อเจริญ วัดอโศการาม (ปัจจุบันอยู่ถ้ำปากเพียง)
    13. หลวงพ่อเมตตาหลวง (ขณะนั้นคือเจ้าคุณสุนทรธรรมภาณ วัดป่าชัยวัน ขอนแก่น)
    14. พระราชปัญญาโสภณ (สุข) วัดราชนัดดา
    15. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา
    16. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    17. หลวงพ่อเฉลา วัดคีรีภาวนาราม ระยอง
    18. หลวงพ่อแฟ้ม วัดป่าอรัญญิกาวาส ชลบุรี (ขณะนั้นอยู่วัดตรีรัตนาราม ระยอง)
    19. หลวงพ่ออำนวย ถาวโร วัดเสาธงกลาง สมุทรปราการ
    20. หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
    21. หลวงพ่อคำสิงห์ วัดล่ามช้าง เชียงใหม่
    22. หลวงพ่อเจียง วัดป่าสันติธรรม เชียงใหม่
    23. หลวงปู่ตื้อ อจลธมโม วัดป่าอรัญญวิเวก นครพนม (ขณะนั้นท่านอยู่เมืองเชียงใหม่)
    24. หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง (ขณะนั้นท่านอยู่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร)
    25. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    26. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    27 หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว กทม.
    28. หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิต
    29. พระธรรมดิลก วัดบรมนิวาส
    30. หลวงพ่อหอม วัดท่าอิฐ อ่างทอง
    31. หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิ กทม.
    32. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ (ท่านเป็นเจ้าพิธี)


    เหรียญสิทธัตโถ สภาพผ่านการบูชา พิธีใหญ่ ทั้งสายกรรมฐานหลวงปู่มั่นพระป่าและครูบา

    อาจรย์อภิญญา

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS 50
    บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    กฎการรับประกันตามหลักสากลครับ
    1 วัตถุมงคลที่บูชาจากผมไปถ้าเก๊และพิสูจน์ได้ตามหลักสากล คืนเงินท่านทันทีครับ

    2รับประกันความพอใจภายใน 7 วัน ไม่ชอบใจส่งวัตถุมงคลคืนส่งเงินคืนเช่นกันครับ หัก 50 บาท

    รับประกันนอกเหนือจากสากลวงการพระเครื่องแบบที่เขาไม่ทำกันแต่ผมจะทำให้

    1 จับไม่มีพลัง พลังอ่อน สินแซ่ จิตสัมผัส สัมผัสกรรมแสกนกรรม ถ่ายออร่าแล้วไม่มีแสง ทรงเจ้าเข้าผีดิบ หมอผีไทย หมอผีีจีน หมอผีเขมร หมอผีแขก หมอผีฝรั่ง หมอผีอียิปค์ไอยคุปย์ หมอผีแอฟริกา(ไม่นับหมอนวด) หรือจะให้บาทหลวง แม่ชี อะไรก็ได้ ถ้าไม่มีพลังรับคืนภายใน3วันหลังจากได้รับพระไป หัก 100 บาทถ้าตรวจสอบพลังหลังจากที่ได้รับพระเกิน 3 วันผมไม่คืนและแนะนำให้ผู้ที่ตรวจสอบไปตรวจระบบประสาทเพิ่มเติมครับ
    ในกรณีที่พิมพ์ทรงถูกต้องแต่ไม่มีพลังงานเท่านั้นสำหรับท่านที่กลัวของเสริมแต่ถ้าพิมพ์ทรงไม่ใช้ก็เข้ากฎคืนเต็มอยู่แล้วครับ

    **หมายเหตุ**

    ทุกกรณี
    ขอให้วัตถุมงคลอยู่ในสภาพเดิมไม่ล้างผิว ขัดผิว ถูผิวให้วัตถุมงคลเปลี่ยนสภาพหรือแตกหัก คืนแน่นอนครับ
    ไม่มีปัญหามั่นใจได้ครับ

    ท่านที่จะบูชาพิจรารูปภาพวัตถุมงคลและตรวจสอบให้ดีด้วยตนเองก่อนครับผมถ่าย รูปให้ชัดเจน และเมื่อบูชาแล้วควร save รูปภาพเก็บไว้ด้วยครับเพื่อผลประโยชน์ของท่านเองครับในรูปจะมีลายเซ้นต์ชื่อ ผมไว้จะได้ยืนยันหลักฐานได้ครับในกรณีที่วัตถุมงคลไม่แท้ ท่านสามารถนำรูปนั้นจัดการตรวจสอบยืนยันกับผมได้ครับ
    ผมไม่ใช้ผู้รู้ทุกสายเมื่อผิดพลาดพร้อมรับผิดชอบไม่มีเจตนาคดโกง
    ติดต่อ 081...70...4...72...64
    _____________
     
  17. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,322
    ค่าพลัง:
    +13,243
    ท่าน Jumbo A มีพระหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียงบ้างไหมครับ อยากได้ ช่วยหาให้หน่อย (พระบ้านเราเอง 555) สมัยก่อนไม่ได้เก็บไว้เลยยยยยย
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    [​IMG]เหรียญรุ่น 2 หลวงปู่ พิชัย ฐิติลาโภวัดเขาหงษ์


    ยันต์ประดิษฐ์ของหลวงปู่เองไม่มีสำนักใดเหมือน โดยหลวงปู่ให้เป็นปฐมยันต์ของสำนักเขาหงษ์ โดยถือคติว่าสัญชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน ยันต์นี้ดีทางเมตตามหานิยมเป็นหลัก คือเด่นทางค้าขาย รองลงมาคือมหาอุตม์ตามตำหรับบูรพาจารย์หลวงปู่ปลื้มแห่งวัดปากครองมะขามเฒ่า ยันต์นี้หลวงปู่เรียกว่า ยันต์กอบทรัพย์ 5 ยอด ลักษณะเหมือนเอามือมาประกบกันโดยให้สันมือติดกันแต่ฝ่ามือกางออกเหมือนการก อบ เหรียญรุ่นแรกนี้สร้างโดยอาจารย์จั๊ว จอมขมังเวทแห่งเยาวราช สร้างบูชาคุณหลวงปู่ที่ถ่ายทอดวิชาเดินทอง(เป่าทอง)เข้าตัวให้ และยันต์ที่อยู่ในเหรียญรุ่น2 นั้นเรียกว่ากอบทรัพย์ 3 ยอดครับเขียนโดยยึดเฑาะห์เป็นหลักครับ ส่วนรุ่น 1 เป็น นะ โม พุท ธา ยะ ครับหรียญรุ่น 2 สร้างราวๆ ปี 2545 จัดสร้างทั้งหมด เนื้อครับผม

    1.เนื้อทองคำรันหมายเลข สร้างจำนวน 9 เหรียญ

    2.เนื้อเงินรันหมายเลข สร้างจำนวน 500 เหรียญ

    3.เนื้อทองแดงรันเลข สร้างจำนวน 1000 เหรียญ

    4.เนื้ออัลปาก้า สร้างจำนวน 3000 เหรียญ
    พระอาจารย์เขาหงส์
    (หลวงปู่ พิชัย ฐิติลาโภ อายุ ๑๐๘ ปี) โดย ณ เขาหงส์



    บทนำ พระอาจารย์เขาหงส์
    หลวง ปู่พิชัย ฐิติลาโภ แห่งสำนักสงฆ์เขาหงส์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ชื่อนี้น้อยคนนักที่จะรู้จัก หลวงปู่ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา อารมณ์ดี แจ่มใสอยู่เสมอ และมีอายุยืนยาวถึง ๑๐๘ ปี โดยที่สุขภาพท่านยังแข็งแรง ลุกเดินได้อย่างปกติ พูดจาคล่องแคล่ว ความจำเยี่ยม ทุกคนที่พบท่านต่างพูดเหมือนกันว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าท่านจะมีอายุถึง ๑๐๘ ปี ส่วนใหญ่ต่างคิดว่าน่าจะอยู่ราว ๗๐ ปี จนบ่อยครั้งเข้าหลวงปู่จึงต้องนำหลักฐานยืนยันวันเดือนปีเกิดมาให้ดูกัน และติดอยู่ที่วัดจนถึงทุกวันนี้ และหลวงปู่ท่านยังมีชื่อที่เรียกหากันอีกมาก ดังเช่น

    หลวงตาฮาวาร์ด
    ชื่อ นี้เป็นที่รู้จักกันมาก เนื่องจากได้มีหนังสือพิมพ์ วารสารหลายฉบับ จนถึงรายการโทรทัศน์ได้นำไปเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักกันมากในเรื่องของการใช้ ยาทั้งสมุนไพรโบราณ ทั้งแผนปัจจุบัน ที่หลวงปู่นำมาประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทุกวันนี้มีผู้คนทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งฝรั่ง ยุโรป อเมริกา จีน สิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง มาหาหลวงปู่มากมาย ซึ่งท่านก็พูดคุยได้รู้เรื่องทุกคน เนื่องจากหลวงปู่พูดได้หลายภาษา โดยท่านศึกษามาตั้งแต่ตอนเป็นฆราวาสจนเป็นดอกเตอร์จบจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด จึงเป็นเหตุที่มาของฉายานี้ ซึ่งในภายหลังท่านบอกให้ปลี่ยนเป็น “หลวงตาฮาวัด” แทน

    พระอาจารย์ในดง
    ชื่อนี้ลูกศิษย์ลูกหาหลายคน ใช้เรียกมาเป็นเวลาหลายสิบปี และเคยมีการเขียนถึงในหนังสือหลายเล่มจนเป็นที่กล่าวกันว่า ผู้ใดพบพระอาจารย์ในดง ผู้นั้นได้พบขุมวิชาแห่งสำนักวัดมะขามเฒ่า ซึ่งผู้ที่จะพบได้นั้นต้องมีมานะพากเพียร ธุดงค์เข้าป่าไปด้วยความตั้งใจเท่านั้น จึงจะได้พบซึ่งจะได้รวบรวมเรื่องราวทั้งหลายนี้มาเผยแพร่ในตอนต่อๆไป

    อาจารย์ดำ หลวงปู่ดำ
    เนื่อง จากหลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปงานพิธีต่างๆ และพุทธาภิเษกอยู่บ่อยครั้งซึ่งท่านจะบอกลูกศิษย์ทั้งหลายว่าไม่ต้องมาดูแล ท่านจะไปเอง กลับเอง ไม่ต้องเป็นภาระกับใคร ดังนั้นเองเมื่อท่านไปถึงงานจึงไม่มีใครรู้จักซึ่งท่านก็จะหลบพักผ่อนอยู่ ตามลำพังจนถึงเวลาปลุกเสกท่านจึงจะเข้าไปนั่งปรกจนเสร็จแล้วลุกกลับออกจาก งานทันที จะไม่นั่งอยู่จนจบพิธี ดังนั้นเอง ผู้จัดงานทั้งหลายและโฆษกงานก็ดีจึงไม่รู้จักท่าน ไม่รู้ว่ามายังไง เมื่อไร และชื่ออะไร จึงต่างก็เรียกท่านตามรูปพรรณสัณฐานว่า อาจารย์ดำ หลวงปู่ดำ บางครั้งเรียก หลวงพ่อใหญ่ ก็มี

    ท่านเจ้าคุณ พระสุนทรธรรมรส
    ใคร จะคิดว่า หลวงตาแก่ๆ รูปหนึ่งจะเคยมีศักดิ์เป็นถึงท่านเจ้าคุณ รองเจ้าคณะ 1 แห่งวัดสุทัศน์เทพวราราม วัดใหญ่กลางกรุงนี่เอง แต่ในสายวัดสุทัศน์แล้วมีพระผู้ใหญ่หลายรูปเดินทางไปกราบพบหลวงปู่อยู่บ่อย ครั้ง เนื่องจากในสมัยที่ท่านเป็นพระสุนทรธรรมรสนั้น ก็ได้ชื่อว่า เป็นพระนักเทศน์ นักธรรม เป็นปราชญ์แห่งธรรม ซึ่งนั่นก็ลุล่วงมาร่วม 50 ปีแล้ว (ท่านจำพรรษาอยู่วัดสุทัศน์ตั้งแต่ พ.ศ. 2493-2511ทั้งสิ้น 18 พรรษา) ก่อนออกธุดงค์ไป จนกล่าวได้ว่า หลวงปู่เป็นปรมาจารย์ผู้อาวุโสสูงสุดที่ยังมีชีวิตอยู่ในสายสำนักวัดสุทัศน์ และได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกครั้งสำคัญๆ ในสมัยนั้นด้วย
    แต่เมื่อถามหลวง ปู่ว่าชื่อฉายาที่มากมายนี้ท่านชอบให้ลูกศิษย์เรียกชื่อไหนท่านจะยิ้มและตอบ ว่า เรียกพระอาจารย์เขาหงส์สิดี และนั่นจึงเป็นที่มาของฉายา “พระอาจารย์เขาหงส์”





    ให้บูชา 550 บาทครับค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ



    [​IMG] [​IMG]
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    หลวงพ่อชื้น วัดเขาพลอง ชัยนาท

    [​IMG]

    เต็มอิ่มประวัติที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนของเทพเจ้าแห่งเขาพลอง หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม
    ทายาทธรรมปรมาจารย์กสิณไฟ สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) วัดเขาสาริกา และศิษย์น้อง หลวงพ่อโอภาสี บางมด
    อัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุด โดย หมู มหาเวทย์


    หลวง พ่อชื้น เกิดที่บ้านวัดงิ้ว ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2437 เป็นบุตรคนโตของ คุณพ่อแส และ คุณแม่จันทร์ ธรรมชัย
    หลวงพ่อชื้น มีพี่น้องร่วมท้องรวม 5 คน ได้แก่
    1.หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม (มรณภาพแล้ว)
    2.นายเหว่า (ถึงแก่กรรม)
    3.นายพร้อม (ถึงแก่กรรม)
    4.นางถม (ถึงแก่กรรม)
    5.นางปุย (ถึงแก่กรรม)
    หลวง พ่อชื้น เรียนหนังสือจบชั้น ป.4 จากโรงเรียนวัดงิ้ว ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท และไม่ได้เรียนต่อ ออกมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินจนอายุ 18 ปี ก็สมัครเข้ารับราชการทหารที่มณฑลทหารบกที่ 4 จ.ชัยนาท (สมัยนั้น) เริ่มต้นจากตำแหน่งพลทหารจนเลื่อนยศเป็น สิบตรี สิบโท สิบเอก ตามลำดับ โดยใช้นามสกุลว่า ธรรมชัย หมายถึง ธรรมะนำชัยชนะเหนือสิ่งทั้งปวง
    สมัย รับราชการทหารอยู่นั้น หลวงพ่อชื้น ถูกส่งไปร่วมรบในสงครามอินโดจีนและสงครามโลกครั้งที่ 1 จนสงครามเลิก ก็ลาออกจากราชการหันไปค้าไม้กับเพื่อนร่วมรบในสงครามอินโดจีนด้วยกันประมาณ 2-3 ปี และกลับเข้ารับราชการอีกครั้งติดยศ จ่าสิบตรี และเลื่อนยศตามลำดับจนถึง ร.ท. ก็ลาออกจากราชการมากินบำนาญในปี พ.ศ. 2475 โดยเพื่อนฝูงและคนคุ้นเคยมักชื่อท่านติดปากเรียกว่า ร้อยโทชื้น หรือ หมวดชื้น
    หลังออกจากราชการทหาร ร.ท.ชื้น หันมาสนใจศึกษาธรรมะและแสวงหาความรู้ด้าน วิปัสสนากัมมัฏฐาน อย่างจริงจังดั้นด้นไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนจะเรียกหลวงพ่อกบว่า สมเด็จพระบรมครู หลวงพ่อเขาสาริกา ด้วยอุปนิสัยหลวงพ่อกบไม่ชอบสุงสิงกับใคร พูดน้อย ถือสันโดษ แต่ก็รับไว้เป็นศิษย์ โดยให้ ร.ท.ชื้น ศึกษาธรรมะและศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจาก อาจารย์สาย ยอดสุวรรณ และอาจารย์ชื่น สดศรี ชาว จ.นครสวรรค์ ศิษย์ฆาราวาสของท่าน นั่นหมายถึง ร.ท.ชื้น ก็คือเป็นศิษย์สายเดียวกับมหาชวน หรือหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ฝั่งธนบุรี เกจิชื่อดังในอดีต
    ขณะ ศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ร.ท.ชื้น ได้รับการถ่ายทอดขั้นตอนและการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานจาก อาจารย์สาย ยอดสุวรรณ และอาจารย์ชื่น สดศรี จนเชี่ยวชาญแตกฉานและสามารถสำเร็จธรรมขั้นสูงได้ในเวลาไม่นาน
    รวม ทั้งหากมีเวลาว่าง ร.ท.ชื้น ก็จะพาครอบครัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปสนทนาธรรมและขอวิชาความรู้เพิ่มเติมจาก หลวงพ่อโอภาสี ที่อาศรมบางมดบ่อยครั้ง
    ภาย หลัง หลวงพ่อกบ ชราภาพมากแล้ว ได้สั่งด้วยวาจาให้อาจารย์สาย ยอดสุวรรณมอบหมายให้ ร.ท.ชื้น ทำหน้าที่ "เป็นอาจารย์" ถ่ายทอดการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานให้คณะศิษย์ในสายเดียวกันสืบต่อมา
    เริ่ม แรก ร.ท.ชื้น ได้ไปพำนักที่วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ทำหน้าที่สอนลูกศิษย์และญาติโยมที่ศรัทธาอยู่ที่วัดเขาสาริกาพักหนึ่งก่อน ขยับขยายที่อยู่ ย้ายไปปลูกบ้านเปิดเป็นสำนักสอนปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง ณ บ้านเลขที่ 28 หมู่ 4 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท (ใกล้วัดพระยาตาก ปัจจุบันบ้านหลังรื้อลูกหลานได้รื้อไปแล้ว เนื่องจากทรุดโทรมมาก) ได้รับการเคารพนับถือจากบรรดาศิษย์สายหลวงพ่อกบและสายหลวงพ่อโอภาสีมากมาย ทุกวันจะมีผู้ศรัทธาไปรับคำชี้แนะด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานกันท่วมท้น ท่านก็ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้หมดสิ้นไม่เลือกว่าจะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือชาวบ้าน จนหลวงพ่อกบละสังขารในปี พ.ศ. 2497 และหลวงพ่อโอภาสีละสังขารปี พ.ศ. 2498 ก็ยิ่งทำให้ลูกศิษย์สายนี้หลั่งไหลมาหา ร.ท.ชื้น มากขึ้น
    เมื่อ ผู้คนศรัทธากันมาก ในปี พ.ศ. 2506 ร.ท.ชื้น อุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งแรกในชีวิตที่วัดตะเคียนเลื่อน ต.ตะเคียนเลื่อน อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ อยู่ในเพศบรรพชิตราว 2 ปี จนกระทั่ง พ.ศ. 2508 ก็จำต้องลาสิกขาบทมาเป็นฆาราวาสนุ่งขาวห่มขาว เพราะไม่สะดวกในการสอนศิษย์ปฏิบัติวิปัสสนา อีกทั้งต้องดูแลครอบครัว
    อย่างไรก็ตามขณะ ครองเพศบรรพชิตอยู่นั้น มีข้อมูลด้วยว่า หลวงพ่อชื้น ได้สนใจศึกษาด้านคาถาอาคม การลงอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ โดย หลวงพ่อชื้น มีโอกาสแลกเปลี่ยนวิชาอาคมต่าง ๆ กับ หลวงพ่อแสวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนกลายเป็นสหายธรรมที่สนิทกันมากรูปหนึ่ง รวมทั้งเคยศึกษาวิชาอื่น ๆ เพิ่มเติมจากหลวงพ่อโอภาสีอีกด้วย
    อย่างไรก็ตามขณะดำรงชีวิตเป็นฆราวาส ตั้งแต่วัยหนุ่ม ร.ท.ชื้น ได้แต่งงานอยู่กินกับ นางสำลี ธรรมชัย มีบุตรชาย-หญิงด้วยกัน 3 คน คือ
    1.นางเฉลียง สุนทราคม (ถึงแก่กรรม) แต่งงานกับ ร.ต.แกล้ว สุนทราคม (ถึงแก่กรรม) มีบุตรชาย 2 คน หญิง 1 คน
    2.นางเฉลา เทพกาญจนา (อดีต ข้าราชการครูโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง กทม.) ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ แต่งงานกับ พล.อ.ต.สุพจน์ เทพกาญจนา (ถึงแก่กรรม) พี่ชายของนักการเมืองคนดัง มีบุตรด้วยกันเป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน (บุตรผู้หญิงถึงแก่กรรมแล้ว)
    3.พ.ต.ประโยชน์ ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม) อดีตปลัดอำเภอ หัวหน้ากิ่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย แต่งงานกับ นางยุวดี ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม) มีบุตรชาย ด้วยกัน 1 คน
    นอกจากนี้ ร.ท.ชื้น ยังมีบุตรกับภรรยาชาว จ.อุทัยธานี อีก 1 คนชื่อ นายจรูญ ธรรมชัย (ถึงแก่กรรม)
    ต่อ มาในปี พ.ศ. 2509 ร.ท.ชื้น เห็นว่าที่บ้านคับแคบไม่เพียงพอกับความศรัทธาของคณะศิษย์ จึงหารือกับบรรดาผู้ปฏิบัติธรรมสายหลวงพ่อกบและหลวงพ่อโอภาสี ค้นหาสถานที่เหมาะสม และร่วมกันสร้างวัดที่เขาพลอง ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท หรือชื่อเป็นทางการในเวลาต่อมาว่า วัดปฐมเทศนาอรัญวาสี หรือชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาพลอง พร้อมสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขนาดใหญ่สีทองอร่ามประดิษฐานไว้บนยอดเขาพลองถึงทุกวันนี้
    (สมัย ยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อชื้น เคยบอกว่า ต้องสร้างเจดีย์ไว้บนยอดเขา ถ้ากูตายไปแล้วมันจะวุ่นวาย ขณะนั้นศิษย์หลายคนสงสัยแต่ไม่กล้าถาม จนท่านมรณภาพไปไม่นานนักจึงเข้าใจชัดแจ้ง เนื่องจากหน่วยงานราชการได้ทำการสอบเขตวัด จะออกเอกสารสิทธิให้เฉพาะบริเวณเชิงเขาสถานที่ตั้งศาลา วิหาร กุฏิ เท่านั้น แต่สุดท้ายก็ยอมขยายเขตวัดไปถึงยอดเขาพลอง เพราะมีเจดีย์ใหญ่ที่หลวงพ่อสั่งให้สร้างเอาไว้ประดิษฐานอยู่ : ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากปาก นางเฉลียง สุนทราคม ลูกสาวคนโตของหลวงพ่อชื้น ขณะยังมีชีวิตอยู่ในปี พ.ศ. 2535 บ่งชี้ว่า หลวงพ่อชื้น บรรลุธรรมขั้นสูง มีอภิญญาญาณหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง)
    ปี พ.ศ. 2512 หลังจาก นางสำลี ภรรยาถึงแก่กรรม ร.ท.ชื้น ก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง ณ พัทธสีมาวัดโคกเข็ม อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยมีเจ้าคณะอำเภอสรรพยาสมัยนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า อริยธัมโม หมายถึง ผู้ที่รู้แจ้งในธรรม และสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานให้ผู้ศรัทธาเรื่อยมาจวบจนละสังขารในวันที่ 25 ต.ค. พ.ศ. 2521 รวมอายุ 84 ปี
    ระหว่าง ครองเพศบรรพชิต หลวงพ่อชื้น ได้รวบรวมปัจจัยจากผู้ศรัทธาหาและทุนทรัพย์พัฒนาวัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) อย่างต่อเนื่องจนเจริญรุ่งเรืองสืบมา รวมทั้งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงก่อสร้าง พระพุทธอริยธัมโม พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ศิลปะ สุโขทัยประดิษฐานบนเชิงเขาพลองข้างสวนนกชัยนาท ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเหลียวมองเพราะความงดงามและยกมือไหว้ด้วยความ ศรัทธาทุกคน ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี เสร็จในปี พ.ศ. 2519
    หลวง พ่อชื้น เป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและใจบุญใจกุศล สมัยวัยหนุ่มมักเจียดเงินเดือนขณะรับราชการทหารไปซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ เช่น นกกระจอก นกกระจาบ นกพิราบ สุนัข แมว และแจกทานคนยากจนอยู่เป็นประจำ ใครไม่มีที่อยู่ ท่านก็รับดูแลเสมือนญาติสนิท ถือได้ว่าชั่วชีวิตท่านมีแต่ให้และไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน

    รายนามลูกศิษย์ผู้สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อชื้น (ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่)
    นายเชื้อ สว่างเนตร หรืออาจารย์เชื้อ สว่างเนตร ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อายุมากแล้ว แต่สุขภาพแข็งแรง ดวงตาสว่างสดใส เป็นผู้ที่หลวงพ่อชื้นมอบหมายให้หน้าที่อาจารย์ต่อจากท่าน จะเปิดสอนวิปัสสากัมมัฏฐานให้ผู้ศรัทธาในช่วงวันเพ็ญเดือน 3 วันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 12 ที่วัดเขาสาริกา วัดเขาพลอง และวัดพุทธบูชา อาศรมบางมด ธนบุรี ล่าสุดมีข่าวว่าย้ายไปสอนวิปัสสนาอยู่ที่บ้านซอยอุดมสุข 66
    อาจารย์สิริสิงห์ หรือหมอแขก เป็นพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวเดินทางมาพำนักที่อาศรมหน้าทางขึ้นวัดเขาพลองหลาย ปี ศรัทธามาถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อชื้น ได้รับการสืบทอดวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์ท่านอื่น ๆ แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ จึงไม่สามารถสั่งสอนใครได้ (เป็นข้อห้ามในหมู่ลูกศิษย์สายนี้ หากใครฝ่าฝืนหรือไม่เชื่อฟังจะมีอันเป็นไป ทั้งประสบความวิบัติ เป็นบ้าก็มีมาแล้ว) ภายหลังหมอแขกแต่งงานกับลูกสาวร้านทองใน จ.ชัยนาท ย้ายไปทำกิจการร้านทองที่ จ.แม่ฮ่องสอน กลายเป็นพ่อเลี้ยงเมืองเหนือไปเรียบร้อยแล้ว
    พระอาจารย์พุด หรือพระอธิการพุด ฐิตะสีโล เจ้า อาวาสวัดปฐมเทศนาอรัญวาสี (เขาพลอง) ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท ปัจจุบัน ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อชื้นมาตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร คอยปรนนิบัติและดูแลหลวงพ่อชื้นมาตลอดจวบจนละสังขาร แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน แต่เข้มขลังและได้รับการถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อมาไม่น้อย ท่านเป็นพระที่รักสันโดษและสมถะ จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของญาติโยมมากนัก ยกเว้นศิษย์ในสายเดียวกัน


    เรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อชื้น อริยธัมโม
    ด้วย ความที่ หลวงพ่อชื้น เคยเล่าเรียนคาถา วิธีลงอักขระเลขยันต์ และศึกษาธรรมะมายาวนาน เพื่อรำลึกพระคุณครูอาจารย์ ท่านและคณะศิษย์จึงจัดสร้างวัตถุมงคลไว้เป็นอนุสรณ์หลายแบบ มีทั้งเหรียญรูปทรงต่าง ๆ รูปหล่อบูชาหลวงพ่อกบ หลวงพ่อโอภาสี และตัวท่านเอง รวมทั้งผ้ายันต์ มีทั้งเป็นผ้าและกระดาษ แจกญาติโยมที่มาทำบุญและลูกศิษย์ ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่น หลวงพ่อชื้นจะปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาหรือ 1 ไตรมาส ด้วยตัวท่านเองทุกวัน (ยกเว้นบางรุ่น หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี จะมาร่วมอธิษฐานจิตด้วย) ปัจจุบันวัตถุมงคลทุกประเภทหายาก บางประเภทหายสาบสูญไปเลย ลูกศิษย์ใครใว้จะหวงกันมาก ๆ จึงไม่ค่อยพบหมุนเวียนออกมา เรียกได้ว่า ของดีมีเงินมีทองไช่ว่าจะได้ครอบครองกันง่าย ๆ


    ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณหมูมหาเวทย์อย่างสูงครับ


    พระสมเด็จรูปเหมือนหายากสร้า้งน้อยมาก ให้บูชา 1500 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,467
    ค่าพลัง:
    +21,327
    พระผงคู่ชีวิตล้างอาถรรพ์พิมพ์ใหญ่เนื้อดำ หลังฝั่งตะกรุดพิธีใหญ่มวลสารดี เสกเดี๋ยวหลาย

    องค์

    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...