ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. yaya12

    yaya12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +182
    เมื่อเช้า 10:10 เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจเจอ 21:21
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2121.JPG
      2121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 KB
      เปิดดู:
      836
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425


    ส่งข่าว : เกมภาคพื้นดิน ที่ใกล้จะแตกหัก....?



    เกมเข้าทางโอบามาหมดแล้ว

    "เราอยู่ในระบบการเงินที่เปราะบางมากๆในตอนนี้ รัฐบาตะวันตกกำลังซื้อพันธบัตรของตัวเอง นี้เป็นความบ้าทางการเงิน เรามีดอกเบี้ย0% ซึ่งก็เป็นการเงินที่บ้ามาก แม้ว่าจะทำแบบนี้ เศรษฐกิจก็ไม่ได้ฟื้นอะไร เราจะเห็นรัฐบาลเหล่านี้ เป็นเหมือนแบบดีทร้อยท์ที่ล้มละลาย มันปั้นออกมาเป็นหินให้เราได้เห็นแล้ว แต่น่าฉงนมากที่พวกเราต่างพากันเพิกเฉย"

    คงพอจะเห็นภาพนะครับว่าถ้าระบบการเงินของโลกตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯจะเดินหน้าต่อไปได้ ต้องมีการรีเซ็ทระบบใหม่ หรือbail inถ้าจะเตะกระป๋องไปตามถนนเรื่อยๆ เวลามันพังจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ถ้าต้องbail in ก่อนอาจจะผ่อนหนักเป็นเบา แต่แน่นอนทุกคนต้องเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีทรัพย์สินในรูปการเงิน หรือเงินฝาก จะเป็นเป็าหลัก เพราะรัฐบาลออกexecutive orderทีเดียว ยึดไปได้เลย

    ถ้าโอบามาใช้วิถีทางรัฐสภาหรือประชาธิปไตยปกติ จะแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะพวกนักการเงินแอบอยู่ข้างหลังพวกนักประชาธิปไตย วิธีเดียวที่จะจัดการได้ คือต้องรวบอำนาจ มีกองกำลังทหารอยู่ในมือ และมี executive order ในมือ พร้อมที่จะลุย ทำแล้วจะมีคนเกลียดคนชังไปทั่ว เพราะทุกๆคน ยกเว้นคนจน จะเสียผลประโยชน์ ไม่มีใครอยากเห็นเงินฝาก หรือเงินลงทุนในกองทุนต่างๆ โดนรัฐบาลหักไป30%-50% บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ อาจจะต้องมีการปราบปราม เพราะกลุ่มเสียผลประโยชน์จะไม่ยอมเจ้งหมดตัว

    แต่ถ้ามองในมุมส่วนรวม วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาประเทศ เพื่อกันไม่ให้ระบบล้มครืนลงมาแบบไม่มีใครตั้งตัวได้ เหมือนซิมบับเว้ แบ่งกันเจ็บ แต่ประเทศจะฟื้นฟูได้ในระยะต่อไป โดยที่ทุกคนต้องเรียนรู้ว่าระบบการเงินตลกfunny moneyที่เฟดเอามาขูดรีดประเทศและโลกต้องไม่ให้เอามาใช้อีก เพราะเฟดจะทำQEต่อไปได้อีกไม่กี่น้ำ ระบบการเงินโลกกำลังเปลี่ยนไปยังบูรพาวิถี เฟดพิมพ์เงินจะกลายเป็นตัวตลกไม่มีใครยอมรับ จีนประกาศชัดว่าถึงเวลาที่โลกจะต้องออกจากอิทธิพลของอเมริกาได้แล้ว de-Americanized และต้องมีเงินสกุลโลกใหม่มาแทน หรือมาแข่งดอลล่าร์กระดาษที่ไร้ค่า

    โอบามาจะเป็นจูเลียส ซีซ่าร์ หรือว่าจะเป็นประธานาธิบดีเป็ดง่อย เดี๋ยวได้เห็นกัน และไม่ต้องผิดหวังมากว่า ข้างหน้าอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด เพราะเหตุการณ์ยังจะหักมุมได้อีก แต่สกิ๊ปหลักไม่น่าจะหลุดจากเหตุปัจจัยที่เล่ามาทั้งหมด แต่อย่างว่าโลกเราอะไรๆมันก็ไม่แน่นอนครับ

    จบจริงๆครับสำหรับซีรี่ส์นี้ เพื่อเป็นการปูทางให้เราเห็นภาพของการต่อสู้เพดานหนี้ในวันที่17ตุลาคม เวลาแห่งความระทึกใจกำลังจะมา

    thanong
    15/10/2013

    Eric Sprott: "All The Paperwork Has Been Laid Out---For Bail-Ins As The Solution In The West" | Bull Market Thinking

    https://www.facebook.com/ThanongFanclub?fref=ts
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีข้อความสั้นๆ แต่รับประทานใจมาก มาฝากครับ
    เพราะว่ามันตรงกับสถานการณ์ของตัวเองพอดีเลย
    และก็..อาจจะตรงกับสถานการณ์ของคนอื่นๆด้วยนะครับ
    ที่เวลาแรกรักหละก็ อะไรก็หอมหวาน สวยสดงดงามไปหมด
    แต่พอผ่านไปนานๆแล้ว อะไรๆก็มีตำหนิ และมีข้อบกพร่องไปซะหมด

    ดังนั้น ต้องมาอ่านข้อความนี้ครับ..รับรองโดนแน่
    .................................................................

    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพ Gabriel
    ประจำวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2013


    ผู้รับสาส์น: Shelley Young
    ที่มา: Daily Message ~ Monday October 14, 2013 | Trinity Esoterics


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    พวกคุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า ในตอนที่สัมพันธภาพรักของพวกคุณเริ่มต้นผลิบานขึ้นมาครั้งแรกนั้น
    มันทำให้พวกคุณมีความสุขมากเพียงใด เพราะว่ามันจะไหลบ่าท่วมท้นขึ้นมา
    มันจะมีแต่การยอมรับในตัวซึ่งกันและกัน และพวกคุณก็จะทึ่งและอัศจรรย์ใจในกันและกันอย่างมาก
    และหัวใจของพวกคุณก็จะพองโตและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อกันและกันอย่างสุดซึ้ง

    แต่แล้ว..สิ่งที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอๆก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป กลีบกุหลาบแห่งความรักของพวกคุณก็เริ่มร่วงโรย
    แล้วพวกคุณก็จะเริ่มโต้เถียงกัน และเริ่มมองเห็นข้อบกพร่องของกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ

    มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกคุณถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนั้นได้ จากตอนแรกที่มองเห็นแต่
    ความสมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายหนึ่งล้วนๆ แล้วทำไมตอนหลัง ถึงได้กลับกลายเป็นว่า
    พวกคุณแทบจะทนไม่ได้ ที่จะอยู่ใกล้ๆกันเสียด้วยซ้ำไป?

    ที่รักทั้งหลาย คำตอบมันง่ายมากๆเลย ซึ่งก็คือ เพราะว่าพวกคุณหมดรักแล้ว
    เพราะว่าพวกคุณหมดความรู้สึกซาบซึ้งใจที่มีต่อกันและกันแล้วนั่นเอง

    แต่ถ้าพวกคุณตั้งใจหวนระลึกถึงสิ่งที่ดีงามทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวของคนที่พวกคุณรัก
    และเลือกที่จะจดจ่ออยู่กับมัน และเลือกที่จะแสดงออกซึ่งความรู้สึกซาบซึ้งใจ
    สำหรับคุณสมบัติที่ดีงามเหล่านั้น ที่ได้เคยทำให้พวกคุณตกหลุมรักซึ่งกันและกันในครั้งแรกได้หละก็
    พวกคุณก็จะพบว่าตัวเองจะกลับไปตกหลุมรักซึ่งกันและกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง
    แล้วพวกคุณก็จะใช้พลังงานอันนี้ เพื่อช่วยให้สัมพันธภาพรักของพวกคุณเบ่งบานต่อไป
    และเจริญเติบโตต่อไปได้

    พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า “แต่ว่า..เขา/เธอผู้นั้น ไม่เห็นคุณค่าของ ผม/ดิฉัน อีกต่อไปแล้ว!
    ผม/ดิฉันจะรู้สึกขอบพระคุณมาก ถ้าเขา/เธอผู้นั้น เริ่มมองเห็นคุณค่าของผมขึ้นมาบ้างสักนิด”
    ซึ่งถ้าพวกคุณคนใดกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่หละก็ นั่นก็แสดงว่าพวกคุณยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์แล้วหละ

    เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงามจริงๆที่จะรู้สึกซาบซึ้งใจในคนอื่น และพวกเราก็ขอสนับสนุน
    ให้พวกคุณแบ่งปันมันให้กับคนอื่นๆต่อไปด้วย เพราะว่ามันจะทำให้ทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
    รู้สึกดีๆตามไปด้วย

    มันคือเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่พวกคุณจะสามารถใช้
    เพื่อทำให้จักรวาลตอบสนองกลับมา
    ในแบบที่พวกคุณต้องการได้

    มันไม่ใช่เรื่องของของขวัญที่พวกคุณมอบให้แก่คนอื่นๆเลย
    มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังอำนาจของพวกคุณเอง
    ที่พลังงานอันนี้ของมัน จะไปช่วยป่าวประกาศให้จักรวาลได้ทราบ
    ถึงสิ่งที่พวกคุณต้องการ และจะไปสร้างสรรค์
    สิ่งที่พวกคุณต้องการขึ้นมาให้กับพวกคุณ มากขึ้นไปอีกได้

    เพราะว่ามันคือการเลือกระดับพลังงานของพวกคุณ
    ว่าพวกคุณปราถนาที่จะมีชีวิตอยู่กับระดับพลังงานนี้แหละ
    และว่าพวกคุณอยากจะมีประสบการณ์กับพลังงานนี้แหละนั่นเอง

    ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะเลือกแทนพวกคุณได้

    ดังนั้น เมื่อพวกคุณมีชีวิตอยู่ในความรู้สึกชื่นชมยินดี (grateful) แล้ว
    พวกคุณก็จะไปดึงดูดเอาความรู้สึกซาบซึ้งใจ (gratitude)
    ที่พวกคุณโหยหา ให้เข้ามาหาพวกคุณได้

    ซึ่งก็เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ
    ที่การเปลี่ยนระดับของพลังงาน จะต้องมาจาก “ข้างใน” เท่านั้น
    เพื่อที่จะทำให้มันสามารถส่งผลกระทบขั้นลึกซึ้งและขั้นสุดท้าย
    ตามที่พวกคุณปราถนา แก่พวกคุณได้

    ดังนั้น ที่รักทั้งหลาย จงเฉลิมฉลองให้กับพรอันประเสริฐทั้งหลาย
    ที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณอยู่ในขณะนี้เถิด
    เพราะว่ามันคือวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะนำพาสิ่งที่พวกคุณปราถนา
    ให้ไหลย้อนกลับมาสู่ส่วนต่างๆของชีวิตของพวกคุณได้


    Archangel Gabriel.

    Channeled by Shelley Young

    Daily Message ~ Monday October 14, 2013 | Trinity Esoterics

    .........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lovers.jpg
      lovers.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.3 KB
      เปิดดู:
      3,453
  4. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    ขอบคุณ คร้าบบบบบ ^___^

    เพิ่งจะจบไปเอง...
    และอิสระต่อความรักเป็นแบบนี้เองนะเออ...
    เบา ๆ โล่ง ๆ แปลก ๆ ... แต่ก็สดใสดีนะเออ...
    555555
     
  5. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    "...People say ´´l love you´´ all the time, and it doesn´t mean anything."

    ข้อความนี้อยู่ในภาพยนต์เรื่อง Ghost
    นำแสดงโดย Patrick Swayze และ Demi Moore.ในปี 1990 ...
    ซึ่งเป็นคำพูดที่พระเอกบอกนางเอก...
    และเราก็ได้นำข้อความนี้มาส่งต่อผู้คนจนถึงทุกวันนี้...เพราะ "จริง"...

    [​IMG]
     
  6. elmaun

    elmaun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +149

    น่าเสียดายที่ผมได้อ่านมันช้าไป ทุกอย่างหมดความอดทนแล้วผมเลยกลายเป็นอิสระอีกครั้งนึง แต่ก็อย่างที่คุณชยุตว่าแหละ มันรับประทานหัวใจเสียเหลือเกิน ข้อความอย่างกะตาเห็นครับ555555
     
  7. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    แบบว่าอ่านแล้วก็ งั้นๆ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ หุหุหุ ^^
     
  8. Number 1

    Number 1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +81
    มีเรื่องมาเล่าครับ เมื่อกี้นี้เลยผมกำลังนอนอยู่แต่มันนอนไม่หลับครับ แล้วจู่ๆผมก็หาวแล้วช่วงที่หาวนั้นหูเหมือนได้ยินคลื่นความถี่จำนวนมากเลย เหมือนเสียงคลื่นในวิทยุที่ติดๆขัดๆอะครับ แต่ผมแปลไม่ออก มันดังอยู่ในหัวผมเสียงดังมาก ผมก็คิดว่าเอาแล้วอ่านมาตั้งนานเริ่มเห็นผลแล้วเว้ย แล้วมันก็ดังอยู่อย่างนั้นแหละไอ้คลื่นนี้ จนผมไม่นอนละกะจะไปหาไรกินซะหน่อยเดินลงมาเจอแม่ตัวเอง แล้วแม่ก็พูดไรไม่รู้แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงดังมากๆ อธิบายไม่ถูกว่าเสียงอะไร จนทำให้ผมตื่นนั่นแหละครับ ฮ่าๆ ผมตกใจเลยทั้งๆที่ผมมั่นใจแล้วว่าตอนนั้นผมรู้สึกตัวอยู่ แถมยังคิดถึงเรื่องคลื่นความถี่อีก ไม่รู้ว่าหมกมุ่นจนเก็บไปฝันหรือว่าเขามีอะไรจะบอกเรา ขอบคุณครับนี่ประสบการณ์ครั้งแรกเลย
     
  9. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    Let's talk about love.
    เรามาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของ ความรัก
    How does love rewire the brain?
    ความรัก เชื่อมโยงกับ สมอง ได้อย่างไร

    When we meet somebody new and exciting,
    เมื่อเราพบใครบางคนที่ทั้งใหม่และเร้าใจ,
    they invade our synapses like a virus,
    พวกเขาจะทะลวงเข้ามาในเส้นประสาทของเราเหมือนไวรัส,
    triggering neurochemicals that feed into attraction, arousal, even obsession.
    สารเคมีในประสาทจะ กระตุ้น เราให้เข้าไปสู่ แรงดึงดูด, ความเร้าอารมณ์
    หรือแม้กระทั่งการครอบงำจิตใจได้
    We get distracted.
    เราจะว้าวุ่น
    We think about that special someone all the time,
    เราจะเฝ้าคิดถึง ใครบางคนที่พิเศษ ตลอดเวลา

    But we're not just thinking about them.
    เราไม่ได้เพียงแค่ คิดถึง พวกเขาเท่านั้น
    We're building an internal model...A simulation that helps us predict
    แต่เรายังได้สร้าง รูปแบบจากภายใน ... แบบจำลอง ที่ช่วยให้เราคาดการณ์ล่วงหน้า
    what they'll think or how they'll feel.
    ว่า เขาจะคิดอย่างไร หรือ เขาจะรู้สึกอย่างไร
    Of course, relationships get into trouble when the simulation meets reality.
    แน่นอน...ความสัมพันธ์นี้จะเป็นปัญหา..เมื่อ..แบบจำลองนั้น มาพบกับ...ความจริง

    Which begs the question... do we ever really fall in love with another person,
    แล้วก็มาถึงคำถามที่ร่ำร้อง...ว่า...เรานั้น..ตกหลุมรัก..เขาคนนั้นจริง ๆ
    or just with our idea of who they are?
    หรือ..เราแค่..ติด..อยู่กับความคิดของเราที่ว่า..เขาเป็นใคร?


    เมื่อวานได้มีโอกาสดูซีรี่ย์เรื่อง Perception...
    ทุกอย่างตรง...กับสิ่งที่อยู่ในใจเรา...

    เอ่อว่ะ...จริง ๆ แล้ว
    ฉัน "รัก"...
    หรือเป็นเพียง...ภาพลวง...ของสารเคมีที่หลั่งในสมองของเรากันแน่นะ...


    555555555555555
    สมองคนเรานี่ม หัด สะ จอ รอ หัน การันต์บนยอยักษ์ เลยเนอะ...
    ขำ ๆ
     
  10. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    อ้าวนี่...
    ที่ผ่านมาข้าพเจ้าก็แค่ตกเป็นทาส..ภาพลวง...ของสารเคมีที่หลั่งในสมองเท่านั้นเองดอกหรือ ?


    ^ ^
     
  11. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ภาพลวงตาทั้งนั้นล่ะจร๊าา อิๆ.
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตแจ้งข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์ในสหรัฐฯก่อนนะครับ

    .............................................................................

    ไม่มีเพดานหนี้ อย่างน้อยถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์

    ที่มา:https://www.facebook.com/ThanongFanclub?ref=stream&hc_location=stream

    ตอนนี้สหรัฐฯไม่มีเพดานหนี้แล้ว เพราะว่ากฎหมายที่คอนเกรซผ่านในวันเส้นตาย
    ที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา และโอบามาเซ็นรับรองเป็นกฎหมายที่ให้เปิดรัฐบาลชั่วคราว
    ถึงวันที่ 15 มกราคม และหยุดเพดานหนี้ไว้ชั่วคราวจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์
    คือไม่มีเพดานหนี้นั่นเอง

    เพราะฉะนั้นจากนี้ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ไม่มีใครรู้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะเพิ่มหนี้ขึ้นไปอีกเท่าใด
    เป็นการตีเช็คเปล่าให้รัฐบาลก่อหนี้ได้ไม่จำกัดจำนวนนั่นเอง จนกว่าถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์
    แล้วค่อยมาว่ากันอีกที

    เดิมทีเคยมีคนเสนอว่าให้เพิ่มหนี้ไปถึง $25 ล้านล้านไปเลยจาก $16.7 ล้านล้าน
    รัฐบาลจะได้ไม่ต้องกังวลใจเรื่องนี้อีก แต่อดีต รมว.คลังอย่าง Timothy Geithner
    ต้องการยกเลิกกฎหมายเพดานหนี้ไปเลย อเมริกาจะได้ก่อหนี้ได้ไม่มีที่สิ้นสุด
    เพราะอเมริกาไม่มีวันผิดชำระหนี้ พิมพ์เงินมาใช้หนี้ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
    เขาคิดของเขาอย่างนี้

    อย่างไรก็ดีเพราะความที่ต้องรีบเร่งกลัวว่าเส้นตายจะผ่านวันที่ 17 ตุลา
    ทำให้ประเทศต้องผิดชำระหนี้ คอนเกรซเลยออกกฎหมายหยุดเพดานหนี้ชั่วคราว
    จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พูดง่ายๆ ปล่อยผีรัฐบาล แล้วขอตั้งหลักก่อน
    ขอฉลองวันคริสต์มาสให้มีความสุขก่อน แล้วค่อยมาเจรจางัดข้อขัดแข้งขัดขากัน
    ให้เป็นที่สำราญใจอีกครั้ง คราวนี้รีพับรีกันเสียท่าโอบามาไปแล้ว คราวหน้าคอยดู จะเอาคืนให้ได้

    thanong
    18/10/2013

    There's no actual debt ceiling right now | The Daily Caller

    .......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2013
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ช่วงนี้ชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางพายุอารมณ์ครับ
    ไม่รู้ว่ามีใครกำลังเป็นแบบนี้อยู่ด้วยเหมือนกันหรือเปล่านะ?

    อารมณ์ที่ว่านี้ก็คืออารมณ์หดหู่ซึมเซาครับ จนแทบไม่อยากทำอะไรเลย
    จนบางทีก็เลยพอจะนึกเข้าใจแล้วหละว่า ทำไมถึงมีคนฆ่าตัวตาย
    เพราะโรคหดหู่ซึมเซานี้..

    มันจะค่อยๆย่องเข้ามาช้าๆ..แล้วมันก็จะอาศัยช่วงที่เราเผลอ
    ค่อยๆครอบงำเรา แล้วก็จะกัดกร่อนใจเรา ลึกลงไปจนถึงข้างใน
    อาการมันจะทั้งเจ็บปวด แต่ก็ออกแสบๆเสียวๆปนอยู่ด้วย
    มันทรมานได้ใจจริงๆครับ

    อาการแบบนี้ผมจะเป็นๆหายๆอยู่บ่อยๆ แทบจะวันเว้นวันเลยหละครับ
    จนต้องเตือนตัวเองว่า ให้ "ตื่นตัว" เพื่อรับมือกับมันอยู่เสมอ

    ช่วงนี้ต่างมิติทั้งหลายบอกว่า พวกเรากำลังอยู่ในช่วง
    ที่โลกมีระดับพลังงานสูงขึ้นเป็นพิเศษอีกแล้ว คือตั้งแต่หลังเดือนกันยายนมานี่
    พลังงานของ Equinox ก็ได้ัทำให้โลกเราเข้าสู่เฟสใหม่อีกเฟสหนึ่งแล้ว
    และประกอบกับมันจะมีปรากฎการณ์สุริยุปราคา หรือ จันทรุปราคานี่แหละ
    ผมก็จำไม่ค่อยได้นัก อีกราวๆ 2 ครั้ง ในช่วงเร็วๆนี้ด้วย
    ดังนั้น มันก็จะยิ่งทำให้ "กระบวนการชำระล้าง" ของพวกเรา เข้มข้่นมากขึ้น

    ที่ผมเกริ่นเรื่องการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆของตัวเองให้ฟัง
    ก็เพราะว่า ผมเชื่อตามที่ต่างมิติบอกว่า
    มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชำระล้างหนะนะครับ
    เพราะว่า มันเป็นบ่อยๆ จนเดี๋ยวนี้ เริ่มสังเกตเห็นมันชัดมากขึ้นแล้วหละครับ
    ว่า..บางครั้งนั้น..มันไม่ใช่อารมณ์ของเราเองเลย..เพราะอยู่ๆมันก็โผล่มาเอง
    ในขณะที่เรากำลังมีอารมณ์ดีๆอยู่ หรือปกติดีอยู่..
    นี่ถึงบอกว่าเริ่มจับทางมันได้แล้วไงหละครับ

    ชาว Arcturian อธิบายกลไกของกระบวนการชำระล้างเอาไว้คร่าวๆว่า
    เวลาที่มีพลังงาน และ แสงสว่างที่มีระดับคลื่นความถี่สูงกว่า จากมิติที่สูงกว่า
    รวมถึงจากดวงอาทิตย์ของเรา ที่ได้รับพลังงานจาก
    ดวงอาทิตย์ใจกลางกาแลกซี่อีกต่อหนึ่งด้วย เข้ามาสู่โลกของเรา
    พลังงานเหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อโลกของเรา และตัวเราด้วย
    โดยมันจะเข้ามาในสนามพลังงานของโลก และสนามพลังออร่าของเราตามลำดับ

    แล้วจากนั้น กายแห่งพลังชีวิต หรือ Etheric body ของเรา
    ซึ่งเป็นกายที่เชื่อมประสานอยู่ระหว่างกายทิพย์กับกายเนื้อของเรา
    ก็จะดูดซับเอามันเข้ามา แล้วถ่ายทอดเข้าไปสู่กายเนื้อของเรา
    ผ่านทางช่องเปิดสำหรับรับ-ส่งพลังงานของเรา ที่เรียกว่า "ระบบจักระ"

    ซึ่งยิ่งสิ่งมีชีวิตชนิดไหน หรือตัวตนไหน มีสติสัมปชัญญะ
    รับรู้ความเป็นตัวตนของตัวเองมากเท่าใด พลังงาน "ปราณ" นี้
    ก็จะยิ่งสามารถหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายเนื้อของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ได้มากเท่านั้นด้วย
    และก็จะยิ่งทำให้จักระหมุนเร็วขึ้นตามไปด้วย
    และยิ่งจักระหมุนเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ ระบบร่างกายของเรา
    ก็จะยิ่งสามารถดูดซับเอาพลังปราณเข้ามาได้มากขึ้นตามไปด้วย

    ในความเข้าใจของผม คำว่า มีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงความเป็นตัวตนของตัวเองนี่
    ผมเข้าใจว่า มันรวมไปถึงสภาวะที่ทำให้เราเป็นแบบนั้นด้วยนะครับ
    เช่น คนๆเดียวกัน แต่อยู่ในสภาวะที่แตกต่างกัน
    ความสามารถในการดูดซับพลังปราณ ก็จะแตกต่างกันตามไปด้วย

    กล่าวคือ ถ้าในขณะใด ที่เรามีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงกายและจิตของเราดี
    เช่น ในขณะที่เราทำสมาธิ, วิปัสนา หรืออะไรก็ตาม ทำนองนี้
    ที่ทำให้คลื่นสมองของเราอยู่ในระดับแอลฟ่าขึ้นไปแล้วหละก็
    ความสามารถในการดูดซับพลังปราณของเรา ก็จะมากกว่าในตอนที่เรา
    มีระดับคลื่นสมองอยู่ในระดับเบต้า ซึ่งเป็นสภาวะที่เรากำลังวุ่นวายอยู่กับ
    กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรานั่นเองครับ

    แล้วจากนั้น พลังปราณที่มีคลื่นความถี่ที่สูงกว่านี้
    ก็จะไหลแทรกซึมไปทั่วร่างกายของเรา ลึกลงไปจนถึงระดับ DNA ของเรา
    และความสั่นสะเทือนของมัน ก็จะไปทำให้เซลทุกๆเซลในร่างกายของเรา
    รวมถึง DNA ของเราด้วย เกิดการสั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่สูงขึ้นตามไปด้วย
    และเพราะฉะนั้น สิ่งใดก็ตาม ที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่า
    ซึ่งไม่สามารถเข้ากันได้กับคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าเหล่านี้
    ก็จะถูกผลัก หรือ ดัน ให้ค่อยๆหลุดออกมาจากที่ๆมันฝังตัวอยู่
    หรือกบดานอยู่ มาสู่ "ระดับพื้นผิว"

    ซึ่งคำว่าระดับพื้นผิวนี้ ก็หมายถึง มาสู่ระดับที่เราจะสามารถรับรู้ และรู้สึกได้
    เพื่อที่จะถูก "บำบัดรักษา" และ "ปลดปล่อยออกไป" ต่อไป

    ดังนั้น ต่างมิติก็เลยบอกให้เราเฝ้าติดตามตรวจสอบ
    อารมณ์ความรู้สึกของเราเองให้ดี เพราะว่า มันสำคัญมาก
    ที่เราจะต้องมีสติรับรู้ว่า ตอนนี้เรากำลังมีอารมณ์แบบไหนอยู่
    เพื่อที่จะได้ปฏิบัติการกับตัวเองได้ถูกต้องไงครับ

    เพราะว่าบางที "อารมณ์" ที่เรากำลังมี/เป็นอยู่นั้น
    มันอาจจะไม่ใช่ของๆเราเอง ณ.ขณะนั้นๆ ก็ได้ เพราะมันอาจจะมาจาก
    "สิ่งที่ผุดขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกของเรา ตั้งแต่อดีตชาติ" ก็ได้

    อย่างที่ต่างมิติบอกไว้ว่า ตอนนี้พลังงานเหล่านี้
    กำลังไปเขย่าเอาสิ่งอุดตันด้านพลังงานทั้งหลาย
    ที่สะสมอยู่ในหน่วยความทรงจำของ DNA ของเรา
    ซึ่งก็คือในระดับจิตใต้สำนึกของเรา ตั้งแต่อดีตชาติ หลายชาติมาแล้ว
    ให้หลุดลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิว เพื่อที่เราจะได้ชำระสะสางพวกมันออกไปให้หมด
    ในภพชาตินี้

    ฟังดูก็เป็นงานช้างอยู่ใช่ไหมหละครับ แต่ว่า..พวกเขาบอกแบบนี้จริงๆ
    ซึ่งเดี๋ยวถ้าผมมีกำลังใจดีๆเมื่อไหร่ ผมจะแปลข้อความที่ว่านี้ให้อ่านนะครับ

    ดังนั้น มันจึงสำคัญมาก ที่เราควรจะรู้ไว้ก่อนว่า
    อารมณ์ที่เรากำลังประสบอยู่ ณ.ขณะนั้นๆ มันเป็นของเรา ณ.ขณะนั้นๆหรือเปล่า
    หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ค่อยๆผุดขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ ที่อยู่ลึกลงไปในตัวเราเอง
    หรือว่ามันมาจากคนอื่น หรือว่า ฯลฯ

    และเมื่อเรารู้ทันมันแล้ว เราก็จะได้ปฏิบัติตัวถูกไงครับ
    เช่น พอเรารู้ว่ามันอยู่ๆก็ผุดขึ้นมาเอง แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
    เราก็จะพออนุมานเอาได้ว่า มันอาจจะเป็น "ของเก่า" ของเราเองก็ได้

    ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ ในภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า
    "ทนรับกรรมเก่าของตัวเอง" ไป อะไรแบบนั้นหนะครับ
    คือทนให้มันปรากฎขึ้นมาสู่อารมณ์ ความรู้สึก หรืออาการทางกายใดๆของเราเองก็ตาม
    โดยไม่บ่ายเบี่ยง โดยไม่หลบเลี่ยง แต่ก็ต้องโดยไม่หวาดกลัว หรือหวั่นเกรงใดๆด้วยนะครับ

    คือ..ก็..ค่อยๆเฝ้าดูมันไป มันจะออกเจ็บๆ ปวดๆ คันๆ แสบๆ หรือร้าวไปทั้งใจก็ช่างมัน
    อย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่นี่แหละครับ แหม..มันยากที่จะอธิบายนะ อิอิ..

    แล้วจากนั้น ก็ค่อยๆหาโอกาสเข้าใจมัน ให้อภัยมัน
    และนึกสงสารมันด้วยความเห็นอกเห็นใจจริงๆ จากใจจริงจริงๆ
    แล้วพอเราเข้าสมาธิ หรืออยู่ในคลื่นสมองระดับแอลฟ่าขึ้นไปได้แล้ว
    เราก็นึกโอบกอดมันด้วยความรักและแสงสว่างครับ แล้วก็ปลดปล่อยมันไป

    ผมเคยจับมันได้คาหนังคาเขาอยู่ครั้งหนึ่ง ในขณะที่เพิ่งนั่งสมาธิเสร็จมาหมาดๆ
    พออีกแป๊บเดียว "เพื่อนเก่า" ของผมก็โผล่มาจากไหนไม่รู้
    ทำให้ผมหดหู่ซึมเซาขึ้นมาจนผิดสังเกต จนผมงง
    และเฝ้าถามตัวเองกลับไปกลับมาอยู่ว่า เอ..ทำไมอยู่ๆเราก็เศร้าขึ้นมาเฉยๆนะ
    เป็นคนคนๆนั้นหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะอันโน้นหรือเปล่า เรื่องนี้หรือเปล่า

    แล้วก็ มีอยู่จังหวะหนึ่ง ที่พออาการมันสร่างๆไปบ้างแล้ว
    มันก็มีความคิดโผล่ขึ้นมาว่า

    "มันไม่ใช่เลย มันไม่ได้มีใครที่มาทำให้เรารู้สึกแบบนี้เลย
    มันเป็นอาการที่ผุดขึ้นมาจากตัวเราเองล้วนๆเลย"

    และก่อนหน้านั้นหลายวัน ผมก็เคยฝันถึงข้อความทำนองเดียวกันนี้ด้วยนะครับ
    คือช่วงก่อนที่ผมจะตื่นขึ้น มีเสียงพูดอยู่ในหัวเป็นภาษาอังกฤษว่า

    "The griefs from the past lives"

    ซึ่งแปลว่า "ความโศกเศร้าเสียใจ จากอดีตชาติ"
    แต่ในตอนนั้นผมนึกไม่ออกว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผมอย่างไร
    จน "บังเอิญ" ได้มาอ่านข้อความจากต่างมิติชุดที่ว่านั้น
    และ "บังเอิญ" มีความคิดที่ว่านั้น ผุดขึ้นมาในหัวนั่นแหละครับ ถึงได้นึกออกครับ
    (ความบังเอิญแบบเหลือเชื่อ หรือ synchronicity
    มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาครับ และเกิดกับผมเป็นประจำครับ)

    และดังนั้น ผมเลยนึกถึงข้อความจากต่างมิติชุดนั้น ที่บอกว่า
    มันเป็น "ของเก่า" ของเราเอง ที่ถูกเขย่าให้ผุดขึ้นมา ได้ไงหละครับ
    ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังนี่แหละครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆบ้าง

    แต่ก็อย่าเพิ่งคาดหวังว่า โอ้..รอบนี้ฉันทำได้แล้ว ฉันทำสำเร็จแล้ว
    มันจะไม่มีอีกแล้ว อะไรแบบนั้นนะครับ เพราะว่า มันอาจจะยังมีอยู่อีก
    นับร้อยนับพันก็ได้นะครับ..เพราะว่ามนุษย์เราชอบหลบเลี่ยง
    ชอบหลบหลีกอารมณ์พวกนี้อยู่ด้วยสิ ดังนั้น มันจึงไปไหนไม่ได้
    เพราะว่ามันกำลังรอคอยให้พวกเราตั้งใจปลดปล่อยมันไปอยู่

    ดังนั้น เวลามันโผล่ขึ้นมา ก็อย่าไปหลบมันนะครับ ให้รับมัน ให้รับฟังมัน
    หรือก็คือ ให้ทนให้มันแสดงอาการของมันออกมาอย่างเต็มที่นั่นแหละครับ
    แล้วก็อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วว่า..ให้รักมัน เข้าใจมัน อภัยให้มัน แล้วปล่อยมันไป
    มันถึงจะไปได้ ไม่งั้นมันก็จะผลุบๆโผล่อยู่นั่นแหละ
    ตัวใหม่ก็เลยไม่ได้ขึ้นมาเพื่อรับการชำระล้างไปซะที อิอิ..

    เฮ้อ..เหนื่อยครับ..แต่ยังพอไหว..สู้ต่อไปไอ้หมาน้อย!

    [​IMG]

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
    .........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • flower-5.jpg
      flower-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      1,590
    • tied dog.jpg
      tied dog.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.4 KB
      เปิดดู:
      3,173
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2013
  14. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เข้ามาเจอข้อความพี่ชยุต อ่านแล้วโดนพลั่กๆๆๆๆ 555+++
    ปล.ช่วงนี้สถานกาณ์โดยรอบดูอึมครึม ได้ข่าวว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทั่วโลก(เพื่อนกระซิบบอก อิๆ)
     
  15. Number 1

    Number 1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +81
    ช่วงนี้มีความสุขดี ไม่มีความเศร้าเลย จำไม่ได้ละว่าเศร้าครั้งล่าสุดตอนไหน ดีจริงๆ ขอบคุณข้อความล่าสุดมากครับ
     
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เพราะว่า สิ่งที่อุดตันอยู่ หรือสะสมอยู่ ลึกๆข้างใน
    ของมนุษย์แต่ละคน ไม่มีใครเหมือนกัน หรือ เท่ากันเลยหนะครับ
    ดังนั้น แต่ละคน ก็เลยจะประสบกับอาการชำระล้างที่แตกต่างกันไปด้วย


    .......................................
     
  17. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    คิดเหมือนกันเลยค่ะ
    เวลาที่ตัวเองรู้สึกลำบากมาก ๆๆๆๆ มักจะนึกว่า
    มิน่าล่ะ... คนถึงอยากฆ่าตัวตาย
    ช่วงนี้ตัวเองก็เป็นบ่อยเหมือนกัน ในช่วงหลังเลิกงานไปจนกระทั่งก่อนนอน
    เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะรับไหว หลั่งมายังกับพายุแบบเดียวกับที่คุณชยุตเล่า
    ตัวเองก็มักจะหาวิธีการหลบเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไปตลอด (หนีตลอด) :)
    ด้วยการหาอะไรทำฆ่าเวลาจนกระทั่งเหนื่อย ง่วงและหลับไปเอง
    จนสุดท้าย... เจอไฟท์บังคับหลบหนีไปไหนไม่ได้
    จึงต้องยอมอยู่กับสิ่งเหล่านั้น...
    ด้วยการฟังธรรมและเผชิญหน้าอยู่ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้น
    โอว... ช่างเป็นช่วงเวลาที่ทรมาณจริง ๆ
    ต่อมาเมื่อคืนนี้... ที่จริงก็ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจออีก
    มันมหัศจรรย์มาก ๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    จะว่าดีใจก็ไม่ใช่นะ แต่ก็รู้สึกโล่ง ๆ น่ะ (เฮ๊อ... ผ่านไปได้ซะที)
    ก็เลยนึกถึงที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยกล่าวไว้ว่า...
    วิบากกรรมแต่ละอย่างของแต่ละรูปแต่ละนามมีระยะเวลาที่ให้ผล และหมดเป็นเหมือนกัน...
    ไม่ใช่ว่าจะไม่เจออะไรอีกต่อไปหรอกนะ...
    เพียงแต่ว่า... จิตใจก็มีความเข้มแข็งเพิ่มพูนขึ้นอีกนิดนึง ... ประมาณนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2013
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    บางส่วนของข้อความจากต่างมิติถึงนาง Blossom Goodchild
    เรื่องเกี่ยวกับ: ยานอวกาศของมิติที่สูงกว่า


    วันที่: 19 กันยายน 2013
    ที่มา:
    Blossom Goodchild - September 19, 2013
    Blossom Goodchild - September 19, 2013




    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ...

    ต่างมิติ: ขอต้อนรับคุณเข้ามาใน “ปริภูมิ” (space) ของพวกเรา

    Blossom: ดิฉันก็หวังเช่นนั้นหละค่ะ

    ต่างมิติ: ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปได้ก็เถอะ แต่ว่า “ปริภูมิ” ของพวกเราที่ว่านี้
    มันก็เป็นแค่ “สภาวะทางจิต” (State of Mind) สภาวะหนึ่งเท่านั้นเอง
    มันเป็นสภาวะจิตที่แทบจะไม่มีสิ่งใด สามารถที่จะมาทำให้ “ความเป็นตัวตน” ของพวกเรา
    ไขว้เขวไปจากความตั้งใจที่จะมอบความรักของพวกเราออกมาได้เลย

    Blossom: พวกคุณพูดว่า “แทบจะไม่” เหรอคะ ดิฉันคิดว่า น่าจะ “ไม่มีสิ่งใด”
    มาทำให้พวกคุณไขว้เขวไปได้ซะอีก?


    ต่างมิติ: พวกเราอยากจะบอกว่า หลายๆครั้ง พฤติกรรมของมนุษย์โลก
    ก็สามารถที่จะทำให้พวกเราช็อกไปถึงแก่นแท้ได้เหมือนกัน

    Blossom: ใช่ค่ะ เพราะว่ามีครั้งหนึ่งที่ดิฉันก็อยู่ร่วมในเหตุการณ์กับพวกคุณด้วย
    พวกคุณเห็นไหมคะว่า สำหรับพวกเราที่อยู่ข้างล่างนี้แล้ว มันมีอะไรมากมายหลายอย่างเหลือเกิน
    ที่จะสามารถทำให้พวกเราช็อกได้ และอัดอั้นตันใจ และหดหู่ซึมเซาได้

    และโดยส่วนตัวดิฉันเองแล้ว ดิฉันยังไม่พบวิธีที่จะทำให้ตัวเอง
    คงอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนแห่งความรัก ที่ดิฉันรู้ว่าดิฉันเป็น และที่พวกเราทุกๆคนเป็น
    ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ แต่สำหรับพวกคุณแล้ว มันน่าจะง่ายกว่าใช่ไหมคะ
    เพราะว่าพวกคุณอยู่ที่นั่น?

    ต่างมิติ: พวกเราอยากจะบอกว่า มันไม่ใช่เพราะว่าการที่พวกเราอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งหรอกนะ
    เพราะว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในที่ไหนๆเลย แต่ว่ามันเป็นเพราะว่า
    พวกเราอยู่ในตัวตนของพวกเราเองมากกว่า

    เพราะว่าที่รักทั้งหลาย นั่นแหละคือทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่มันมีอยู่และเป็นอยู่หละ
    เพราะว่ามันไม่มีโลกแห่งความเป็นจริงที่ไหนอื่นอีกเลย
    นอกเหนือจาก “ตัวตนของพวกคุณเอง” (Your Being)

    Blossom: ดังนั้น โดยสมมุติฐานนี้แล้ว ถ้าสมมุติว่าดิฉันมีสิทธิพิเศษมากเพียงพอ
    ที่จะได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมที่ๆพวกคุณอยู่ได้ แล้วที่ๆว่านี้ มันควรจะเป็นที่ไหนหละคะ?


    ต่างมิติ: เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก..
    และคำตอบก็คือ..พวกเราอยู่ในทุกๆที่
    พลังงานของพวกเราอยู่ในทุกหนทุกแห่ง

    Blossom: พวกคุณกำลังบอกว่า พวกเราทั้งหมด ล้วนคือพลังงาน
    และพวกเราทั้งหมด ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
    ดังนั้น พวกเราทั้งหมด จึงอยู่ในทุกหนทุกแห่ง อย่างนั้นใช่ไหมคะ?


    ต่างมิติ: ในระดับหนึ่งแล้ว มันก็เป็นแบบนั้นแหละ มันเป็นธรรมชาติ และใครๆก็จะต้องรู้เรื่องนี้ด้วย

    แต่ว่า..ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ในวาระอื่น
    จากมุมมองที่มีสติสัมปชัญญะมากกว่านี้ ว่าพวกคุณก็ไปเยี่ยมพวกเราเป็นปกติอยู่แล้ว
    และพวกเราก็มาเยี่ยมพวกคุณอยู่เสมอด้วย พวกคุณมากมายหลายคนเลยหละ

    Blossom: แล้วทำไมพวกเราถึงจำอะไรไม่ได้เลยหละคะ?

    ต่างมิติ: นั่นก็เพราะว่า ความหนาแน่นทึบตันของโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันนี้ของพวกคุณ
    แต่พวกเราก็อยากจะพยากรณ์เอาไว้ด้วยว่า เมื่อใดที่ชั่วขณะแห่ง “การรู้แจ้งสัจธรรม”
    (Reality of Truth) ปรากฎขึ้นแก่พวกคุณแล้ว พวกคุณก็จะสามารถจดจำทุกๆการเยี่ยมเยือน
    จดจำทุกๆอย่างที่พวกคุณเคยรู้มา ได้ทั้งหมดเลย

    Blossom: แล้วถ้าอย่างนั้น เวลาที่พวกเราไปเยี่ยมพวกคุณ
    พวกเราจะอยู่ในที่ๆไม่มีตำแหน่งแห่งหนเช่นเดียวกันกับพวกคุณไหมคะ
    ซึ่งมันก็จะตรงข้ามกับการขึ้นไปเยี่ยมบนยานอวกาศ อะไรแบบนั้น?


    ต่างมิติ: ถ้าพวกคุณจะมาเยี่ยมพวกเราเป็นการเฉพาะจริงๆหละก็
    ถ้างั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน พวกเราก็อาจจะปรากฎกายให้พวกคุณเห็น
    บางทีก็อาจจะอยู่บนยานอวกาศซักลำหนึ่ง อะไรแบบนั้น เพื่อทำให้พวกคุณรู้สึกว่า
    มันเป็นโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถเข้าใจได้
    และการสนทนาอย่างมีสติสัมปชัญญะกับพวกเรา ก็จะเกิดขึ้นอย่างง่ายๆ

    เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเราคือแสงสว่าง
    และ เพราะฉะนั้น พวกเราจึงเป็นแบบนี้เอง


    แต่ในทางกลับกัน มันก็ยังมีโลกแห่งความเป็นจริงแบบอื่นอยู่อีก
    ที่พวกคุณจะสามารถถูกเชิญให้ขึ้นไปเยี่ยมเยือนบนยานอวกาศของสหพันธ์ฯได้
    ซึ่งยานอวกาศที่ว่านี้ มันก็จะเป็นอะไรที่มากกว่าที่มนุษย์โลกอย่างพวกคุณ
    จะเรียกมันว่ายานอวกาศจริงๆซะด้วยซ้ำไป
    เพราะว่าพวกมันจะมีรูปร่างและรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย
    และบนนั้นก็จะมีรูปธรรมชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ จากหลากหลายดวงดาวอยู่บนนั้นด้วย

    และพวกเรายังอยากจะบอกเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
    ยานอวกาศเหล่านี้บางลำ จริงๆแล้ว
    น่าจะถูกจัดให้อยู่ในประเภท “ดาวเคราะห์” เสียด้วยซ้ำไป
    เพราะว่าขนาดของพวกมันใหญ่โตมโหฬารมากๆ

    และอันที่จริงแล้ว มีใครจะพูดไหมว่า
    ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    ไม่ใช่ยานพาหนะขนาดใหญ่ลำหนึ่ง
    ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากมายด้วย?


    Blossom: พวกคุณจะกรุณาขยายความเพิ่มเติมอีกหน่อยได้ไหมคะ?

    ต่างมิติ: แน่เหรอ ที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับมุมมองของพวกคุณ?
    แน่เหรอ ที่มันไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณเลือกที่จะเชื่อ?

    เพราะว่าพวกเราสามารถบอกได้เลยว่า
    ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    ก็เป็นยานอวกาศลำหนึ่งด้วย
    พวกเราสามารถบอกได้เลยว่า
    ดาวเคราะห์แม่โลกของพวกคุณดวงนี้
    เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างจริงแท้แน่นอน
    พวกเราสามารถบอกได้เลยว่า
    ยานพาหนะใดๆก็ตาม ที่สามารถเดินทาง
    จากโซนหนึ่งของกาแลกซี่ไปยังอีกโซนหนึ่งได้นั้น
    ก็คือ “แสงสว่างที่มีชีวิต” (Living Light) นั่นเอง

    เพราะว่าพวกเรากำลังจะบอกว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชีวิต ก็คือแสงสว่าง
    และแท้ที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นแสงสว่าง
    ก็คือสิ่งมีชีวิตนั่นเอง

    (ALL THAT IS LIFE IS LIGHT
    AND INDEED ALL THAT IS LIGHT IS LIFE)

    ในทำนองเดียวกัน พวกเราสามารถบอกได้เลยว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความรัก ก็คือพระเจ้า
    และแท้ที่จริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นพระเจ้า
    ก็คือความรักนั่นเอง

    (ALL THAT IS LOVE IS GOD
    AND INDEED ALL THAT IS GOD IS LOVE)

    เพราะว่าพวกมันเป็นหนึ่งเดียวกัน และคือสิ่งเดียวกัน

    Blossom: ดังนั้น พวกคุณก็เลยจะบอกว่า ถ้ายานอวกาศของพวกคุณคือแสงสว่าง
    และคือสิ่งมีชีวิตแล้ว พวกมันก็เลยไม่ต้องถูกตั้งโปแกรมให้ไปที่โน่นที่นี่ ใช่ไหมคะ
    ดิฉันหมายความว่าพวกมันก็จะไปเรื่อยๆของมันเองใช่ไหมคะ?


    ต่างมิติ: มันมีอะไรที่สลับซับซ้อนมากกว่านั้นอีกนิดหน่อย!

    แต่ว่าในมุมมองของพวกเราแล้ว มันก็เป็นแค่เรื่องง่ายๆเท่านั้นเอง
    และแน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่เคลื่อนที่ได้ที่ว่านั้นแหละ

    พวกเราอยากจะบอกว่า พวกเราตั้งโปรแกรมให้กับมัน
    โดยใช้กระแสความคิดของพวกเราเอง
    นั่นแหละคือสิ่งเพียงสิ่งเดียว
    ที่ยานพาหนะที่ล้ำยุคมากๆต้องการหละ

    มันจะเป็นเหมือนกับว่า ยานอวกาศแห่งแสงสว่างที่ว่านั้น
    กับ สิ่งมีชีวิตแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
    ที่อาศัยอยู่ภายในยานอวกาศล้ำนั้น
    ล้วนอยู่ในกระแสความคิดเดียวกันทั้งสิ้น


    และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้ว ที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

    Blossom: พวกคุณจะกรุณาอธิบายต่อได้ไหมคะ เพราะว่าดิฉันมั่นใจว่า
    น่าจะมีคนอีกหลายคน ที่เห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆเหมือนกับดิฉันด้วย?

    แล้วถ้าอย่างงั้น กัปตันก็จะต้องเป็นผู้ส่งกระแสความคิดออกไปใช่ไหมคะ?
    เพราะว่าดิฉันรู้สึกอยู่เสมอๆว่า และเคยรู้สึกว่า The Federation of Light
    คือ “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้” อย่างหนึ่ง ไม่ใช่เป็นบุคคลตัวตนใดๆเลย


    ต่างมิติ: นี่แหละคือจุดที่พวกเราติดขัดอยู่ เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายด้วยของภาษาของมนุษย์อย่างไรดี
    แต่ก็ใช่ พวกเราคือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้อย่างหนึ่ง แต่ว่า...

    Blossom: โอ..พวกคุณเพิ่งทำให้ดิฉันเห็นภาพนิมิตรของฝูงมดใช่ไหมคะ?

    ต่างมิติ:

    ...เพื่อพยายามที่จะอธิบายให้คุณเข้าใจ..แต่ว่าภาพนิมิตรอันนั้น
    ก็ไม่ใช่แบบจำลองที่สมบูรณ์แบบของสิ่งที่อยากจะอธิบายจริงๆหรอกนะ

    มีพวกเราจำนวนมากมาย..หรือแสงสว่างจำนวนมากมาย..
    ที่ “อาศัย” อยู่ด้วยกัน แต่ว่า..ก็ยังสามารถ
    มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ด้วย ถ้าจำเป็น..

    ซึ่งตัวอย่างของกลุ่มของพวกเราที่ว่านี้ ก็มีไว้เพื่อ ตั้ง “สภา”(council)
    หรือเพื่อความสุขใจ หรือเพื่อส่งข้อความสื่อสาร มาในฐานะข้อความสื่อสารจากตัวตนเดี่ยวๆ เป็นต้น

    Blossom: เอ่อ..ถ้าเช่นนั้น ดิฉันก็อยากจะเสนอว่า
    พวกคุณจะลองทำให้ดิฉันเห็นภาพอันนั้นก็ได้นะคะ
    แล้วดิฉันก็จะเอามันมาอธิบายด้วยคำพูดของดิฉันเอง


    ต่างมิติ: แต่พวกเราก็ยังอยากจะบอกคุณว่า ถ้าทำเช่นนั้นจริงๆ
    มันก็จะทำให้ร่างกายเนื้อของคุณระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆได้
    แต่ถ้าพวกเราจะทำมันในรูปแบบที่ไม่ใช่ทางกายภาพแล้วหละก็
    คุณก็จะไม่สามารถอธิบายมันออกมาเป็นคำพูดได้อยู่ดี

    Blossom: ลองดูหน่อยไหมคะ!

    แต่ดิฉันก็เข้าใจอยู่ว่า ถ้าเรื่องนี้มันควรจะเป็นแบบนี้ มันก็จะต้องเป็นแบบนี้
    ดิฉันเข้าใจค่ะ ดังนั้น เรากลับไปที่เรื่อง “การเดินทาง” กันต่อเถอะค่ะ


    ต่างมิติ: เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว พวกเราก็จะ “เปลี่ยนเกียร์” กันหล่ะนะ และบางทีพวกเรา
    ก็อาจจะ “เคลื่อนที่ลงไปข้างล่าง” (move down) อีกซักเล็กน้อยด้วยก็ได้..

    ในนั้น..ซึ่งหมายถึงพวกเราเอง แม้ว่าการใช้คำพูดแบบนี้กล่าวถึงพวกเราเอง
    อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงสักเท่าไหร่ก็ตาม เพราะว่ามันเป็นอะไรที่เกินกว่าจะสามารถ
    บรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ และเมื่อพวกเราใช้คำพูดว่า “เคลื่อนที่ลงไปข้างล่าง” นั้น
    พวกเราหมายถึงการลดระดับความสั่นสะเทือนลง และอาจจะง่ายกว่า ถ้าจะพูดว่า
    “การท่องเที่ยวไป” จากยานพาหนะหนึ่ง ไปสู่อีกยานพาหนะหนึ่ง
    ที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน

    Blossom: ตอนที่พวกคุณพูดว่า “แตกต่างกัน” พวกคุณหมายถึง “ต่ำกว่า” ใช่ไหมคะ?

    ต่างมิติ: ไม่จำเป็นที่จะต้องหมายความแบบนั้นเสมอไป แต่ว่าในกรณีนี้.. ใช่

    Blossom: ดังนั้น ดิฉันจะขอสรุปให้ชัดเจนลงไปเลยได้ไหมคะว่า
    ดิฉันกำลังรับรู้ว่า มันมีระดับความสั่นสะเทือนอยู่มากมายหลายระดับ
    แต่ว่าในแต่ละระดับนั้น ก็จะประกอบด้วยความสั่นสะเทือนเดียวกันอยู่อีกมากมาย
    ดิฉันพูดถูกไหมคะ?


    ต่างมิติ: ถูกต้อง..คุณพูดถูกต้องแล้ว เพราะว่า ตัวอย่างเช่น ในระดับคลื่นความสั่นสะเทือน B
    มันก็จะมีความสั่นสะเทือน A – Z อยู่ในนั้นอีก 26 ความสั่นสะเทือน
    และอีกครั้งหนึ่ง ภายในคลื่นความสั่นสะเทือน C ที่อยู่ภายในคลื่นความสั่นสะเทือน B นี้
    มันก็ยังจะสามารถมีคลื่นความสั่นสะเทือนย่อยๆอยู่ได้อีก 26 ระดับด้วยกัน

    Blossom: แล้วประเด็นที่พูดถึงเรื่องนี้ต่ออีก เพื่ออะไรคะ?

    ต่างมิติ: เพราะว่ามันทำให้คุณเข้าใจยังไงหละ หรือว่าไม่ใช่?

    ....

    ต่างมิติ: ดังนั้น ยานพาหนะสำหรับเดินทางของมิติที่สูงกว่า
    จะเดินทางด้วยความเร็วแสง และจะใช้พลังงานจากแสงสว่างด้วย

    ในบางระดับของการเดินทาง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อยู่ภายในยานลำนั้น
    จะต้องเปลี่ยนสภาพตัวเอง ให้มีระดับความสั่นสะเทือนและความเร็วของแสงสว่าง
    เท่ากับระดับความสั่นสะเทือนและความเร็วของแสงสว่างของยานลำนั้นด้วย
    และเพราะฉะนั้น มันจึงสามารถที่จะถูกขนส่งไปในฐานะของพลังงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันได้
    ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่ถูกตั้งเอาไว้เป็นอย่างมาก
    และขึ้นอยู่กับความไกลของเส้นทางเป็นอย่างมากด้วย

    และแน่นอนว่า หลายครั้งยานก็จะอยู่ในโหมดบินแบบช้าๆ (cruise mode) ด้วยก็มี

    Blossom: เมื่อหลายปีก่อน ในการพบกับ White Cloud ครั้งหนึ่งของดิฉัน
    พวกเราเคยมีผู้ที่พวกเราเรียกว่า The Friendships มาเยี่ยมพวกเรา
    และพวกเขาก็ได้พูดถึงรูปธรรมชีวิตที่มาจากดาวดวงหนึ่งให้พวกเราฟัง
    ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สีแดง

    และพวกเขาก็ได้ทำให้พวกเรามองเห็นผลึกคริสตัลสีแดงขนาดใหญ่มหึมา
    ที่อยู่ภายในโลกของพวกเขาด้วย ที่แผ่คลื่นพลังงานออกมาเป็นจังหวะๆ
    คล้ายกับจังหวะการเต้นของหัวใจของพวกเขา เพื่อเกื้อหนุนให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    ที่อยู่บนดาวดวงนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้

    และพวกเขาก็ยังบอกอีกว่า พลังงานเชื้อเพลิงของยานอวกาศของพวกเขา
    ก็คือแท่งคริสตัลขนาดใหญ่ที่บริสุทธิ์แท่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นพวกเขาได้ทำให้ดิฉันมองเห็น
    แท่งคริสตัลขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของยานอวกาศลำนั้นของพวกเขาด้วย
    ซึ่งทะลุเข้าไปในแต่ละชั้นของยานลำนั้น

    ต่างมิติ: จริงๆแล้ว มันก็มีแรงขับเคลื่อนจำนวนมาก
    ที่ได้มาจากพลังงานของแท่งคริสตัลบางชนิดอยู่ด้วย


    เพราะว่าโดยธรรมชาติแล้ว พวกเราจะสันนิษฐานในเรื่องที่พวกคุณที่อยู่บนโลกอาจจะไม่สันนิษฐานกัน
    ว่า..พวกเราใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานชนิดเดียวกันกับที่พวกคุณใช้กันอยู่
    บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณใช่ไหม.. ซึ่งนั่นหนะ เป็นวิธีการที่ยิ่งกว่าหยาบเกินไป
    และด้อยพัฒนาเกินไปซะอีก

    แท่งคริสตัลที่อยู่บนยานอวกาศเหล่านี้
    คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และควรแก่การเคารพบูชา
    เพราะว่าโดยแก่นแท้ของธรรมชาติของพวกมันแล้ว
    พวกมัน “คือ” พลังงานที่มีคุณค่ามหาศาลมาก
    และพวกมันก็ถูกปกป้องจากสิ่งที่ไม่เชื่อมต่อ
    (disconnection) ทุกๆประเภทด้วย


    Blossom: ไม่เชื่อมต่อกับอะไรหรือกับใครคะ?

    ต่างมิติ: นี่ก็อีกนั่นแหละ..ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้..

    ไม่เชื่อมต่อกับ “แหล่งกำเนิดของพลังงาน”..
    ไม่เชื่อมต่อกับตัวพลังงานเอง

    ดังนั้น พวกมันจึงจำเป็นจะต้องถูกชำระล้างให้สะอาดอยู่เสมอๆ
    ก่อนที่พวกมันจะถูกนำมาใช้งานได้

    คริสตัลทั้งหลาย จะทำหน้าที่สำคัญอย่างมากบนยานอวกาศ
    ซึ่งจริงๆแล้ว รวมถึงบนดาวเคราะห์จำนวนมากมายอีกด้วย

    แต่น่าเสียดายที่บนโลกของพวกคุณ พวกมันถูกขุดเจาะและทำลายลงไป

    Blossom: นั่นเป็นคำที่มีความหมายสองนัยที่พวกคุณตั้งใจใช้ใช่ไหมคะ?

    ต่างมิติ: ถูกต้องแล้ว แต่มันก็น่าสงสัยเหมือนกันนะ เพราะว่าลึกลงไปภายใต้หุบเหวของพวกคุณ
    ลึกลงไปภายใต้มหาสมุทรของพวกคุณ มันยังคงมีแท่งคริสตัลจำนวนหนึ่ง
    ที่แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังคงทำหน้าที่รับใช้พวกคุณอยู่

    แต่ถ้าพวกมันถูกคนที่มีเจตนาไม่ดีค้นพบเข้าสักวันหละ
    ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ก็อาจจะเกิดขึ้นกับดาวเคราะห์โลกของพวกคุณได้

    Blossom: ดิฉันรู้สึกว่า พวกคุณจะพูดว่าแท่งคริสตัลพวกนี้
    จะต้องถูกตั้งโปรแกรมซะก่อนใช่ไหมคะ ความคิดนี้มันมาจากพวกคุณหรือเปล่าคะ?


    ต่างมิติ: แน่นอน..และเมื่อถึงเวลานั้น “ขุมทรัพย์” เหล่านี้
    ก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เพราะว่ามีแท่งคริสตัลจำนวนมากมาย
    ที่อยู่ในสภาพจำศีลหรือหลับไหลขั้นลึก (hibernation) ด้วยความตั้งใจ

    Blossom: แล้วถ้าถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นคะ?

    ต่างมิติ: มันก็จะเกิดการ “กลับคืนสู่สภาพเดิม” (Restoration)
    ของหลายสิ่งหลายอย่างบนโลกของพวกคุณ
    อันเนื่องมาจากพลังงานที่กระเพื่อมเป็นจังหวะของพวกมัน
    ที่จะถ่ายทอดไปสู่ดาวเคราะห์โลกอีกครั้งหนึ่ง


    Blossom: โอ้ว..ดิฉันถึงกับน้ำตาร่วงเลยนะคะเนี่ย!

    ต่างมิติ: นั่นเป็นเพราะว่า “ความรู้สึก” ที่พวกเราถ่ายทอดไปสู่คุณ
    แต่ก็แค่เศษเสี้ยวหนึ่งของมันเท่านั้นนะ เพราะว่าถ้าพวกเราถ่ายทอดไปสู่คุณมากเกินไป
    ..ก็อย่างที่พวกเราพูดไปแล้วนั่นแหละว่า..มันจะทำให้ตัวคุณระเบิดได้

    แต่ในช่วงเวลานี้ที่พวกเราให้คำมั่นสัญญากับคุณไว้
    ช่วงเวลานี้ที่โลกใหม่ของพวกคุณจะปรากฎต่อสายตาของพวกคุณ
    และจะทำให้พวกคุณสามารถรู้สึกถึงมันได้นี้
    “งานต่างๆ” ที่จะต้องทำกับแท่งคริสตัลทั้งหลาย ที่มีขนาดใหญ่แบบนี้
    และมีความสวยงามแบบนี้ และมีหน้าที่แบบนี้ด้วย ก็จะถูกดำเนินการไป
    พร้อมๆกับงานด้านอื่นๆที่ตอนนี้ยัง “อยู่ในหีบห่ออยู่”

    มันคือกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นครั้งมโหฬารที่พวกคุณตั้งตารอคอยกันอยู่

    Blossom: แต่ว่า บางครั้งก็รู้สึกว่า มันเหมือนเป็นเทพนิยายยังไงไม่รู้นะคะ!

    ต่างมิติ: แต่ว่า..เทพนิยายทุกๆเรื่องก็มีตอนจบแบบ happy ending ไม่ใช่เหรอ?

    ....

    Psychic-Blossom Goodchild Sunshine Coast, Direct Voice Channel Psychic Medium
    ……………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2013
  19. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เล็ตสะโก เด้อ อิอิอิ
     
  20. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368

    ผมก็ฟังนะ แต่ระวังไข้ขึ้น ส่วนผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อร่างกายยังไม่เคยเจอ บางคนอาจมีอาการไม่เหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...