ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

_ขอเล่าฝันดว้ยคน พึ่งฝันเมื่อคืน จำได้ติดใจ ฝันว่ามีการแข่งขันกันมีทีมรว่มแข่งขันมากมาย และมีคนเชียร์เป็นหมื่นๆ แบ่งเป็นกลุ่มๆละสามคน แต่ละกลุ่มตกหมด มาถึงกลุ่มของเราซึ่งก็มีสามคน มีใครบา้งอันนี้ไม่รู้จักมารว่มได้อยา่งไรก็ไม่รู้ _และเราสามคนดันชนะ และได้รับการปรบมือให้อย่างกึกกอ้ง..และเราผู้ชนะก็ได้ยืนอยู่ที่สูงๆ และมองเห็นคนเชียได้หมด ซึ่งก็เยอะจริงๆ..และเกมส์ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่หลีกเลี่ยงการถูกข้วา้งปาสี ..และถ้าหนึ่งในสามถูกเขี้ยงก็แพ้ บังเอิจทีมเราไม่มีใครถูกเขี้ยงโดนเลยสักคน เลยได้รับชัยชนะ..ชนะได้งัยยังงงอยู่..เพราะโลกแห่งความจริงเป็นคนซุ่มซ่ามมาก ..แต่โลกแห่งความฝันอะไรก็เป็นได้เนอะ..และมีใครบ้า้งในที่นี้รู้บ้า้งว่า โพชชง ๗มีอะไรบ้าง ถามผู้รู้ชว่ยกรุณาตอบให้หน่อย เพราะรู้สึกว่าเหลี่ยมมุม ที่ต้องจูนปรับอยู่ในนั้น ขอบคุณพระคุณลว่งหน้า สำหรับการตอบ ..เราไม่เก่งคอม..แค่โพสตัวกาตูนย์ได้ก็รอ้ง ไชโยลั่นบ้า้นแล้ว...ฉันทำได้ๆๆ..(deejai)

 

http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/370/1370/images/Siamtewa1.jpg


http://palungjit.org/attachments/a.666000/


บทเพลง โพชฌังคปริต ล้านนาบารมี
กัญญนัทธ์ ศิริ / ประพันธ์ทำนอง / ขับร้อง



โพชฌังคปริตร

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
( โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ )

วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
( วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ )

สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
( สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ )

สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
( 7ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบ
แล้ว )

ภาวิตา พะหุลีกะตา
( อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว )

สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
( ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
( ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ
และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก )

โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
( จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง )

เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
( ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม )

โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
( โรคก็หายได้ในบัดดล )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
( ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก )

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
( รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ )

สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
( ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ )

ปะ******นา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
( ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก )

มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
( ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา )

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
( ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ )

โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
( ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ. )


โพชฌังคปริตร ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้วสามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้
ที่เชื่ออย่างนี้เพราะมีเรื่องในพระไตรปิฎกเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจา้ได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะที่อาพาธ
พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ พบว่าพระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้
อีกครั้งหนึ่งพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้น พบว่า พระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้
ในที่สุด เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ จึงตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่าพระพุทธเจ้าก็หายประชวร

พุทธศาสนิกชนจึงพากันเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น สวดแล้วช่วยให้หายโรคได้ ซึ่งในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นธรรมเกี่ยวกับ

ปัญญา เป็นธรรมชั้นสูง ซึ่งเป็นความจริงในเรื่องการทำใจให้สว่าง สะอาดผ่องใส ซึ่งสามารถช่วยรักษาใจ เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับ

ร่างกาย เนื่องจากกายกับใจเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน จึงทำให้หายจากโรคได้



http://palungjit.org/media/p.29900/full

ในยุคนี้ ได้เกิดมี โรคระบาด

ผู้คนเจ็บป่วยล้มตาย

ข้าเจ้า รู้สึกเวทนาผู้ที่ได้รับความทุกข์จากความเจ็บป่วย ยิ่งนัก

จึงได้ระลึกถึงบทสวดมนต์ บทหนึ่งคือ โพชฌังคปริต

และได้อธิฐานจิต ขออนุญาติเป็นผู้ประกาศ โพชฌังคปริต

นำบทสวดมนต์ร้อยเรียงด้วยการใส่ทำนอง ผสมกับ ดนตรี จากล้านนา

เมื่อผู้ใดสดับรับฟัง และเกิดศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์

ขอให้อาการเจ็บป่วยนั้น บรรเทาเบาบางลง ด้วยเทอญ


กัญญนัทธ์ ศิริ

เจ้าของผลงาน / ประพันธ์ทำนอง / ขับร้อง

อาจารย์ นิรุตน์ แก้วหล้า ภาควิชาดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่/ ดนตรี




ขณะฟังบทเพลงโพชฌังคปริต ขอให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ นิ่ง

ให้ผ่อนคลายทั้งกายและใจ..น้อมจิตเข้าหาพระพุทธองค์

ระลึกถึง คุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ระลึกถึงคุณความดีที่เราได้เคยทำ

ด้วยอนิสงนี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ






บทเพลง โพชฌังคปริต ล้านนาบารมี

เผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน


สงวนสิทธ์ ในการนำไปใช้ในการประกอบผลทางธุรกิจ หรือหาผลประโยชนส่วนตน



................................................................................

เพลงนี้เวลานั่งสมาธิผมฟังอยู่บ่อยๆ
ดีมากๆครับ สงบเยือกเย็น แต่มีพลังครับ

http://palungjit.org/attachments/a.666000/

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.666000/[/MUSIC]
...................................................................................

 

ค่ะ คุณ krittima โลกแห่งความฝันอะไรก็เป็นได้ อยากฝันสนุกอย่างนี้บ้างเหมือนกัน
ตอนเด็กๆฝันว่าเหาะได้ แล้วก็สนุกเหาะเหิรไปสูงๆ ตัวเองไม่ได้ฝัน
สนุกๆอย่างนี้มานานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาฝันแต่ว่า อยู่ในสถานะการณ์ห้อง
เรียน หรือออฟฟิซ แล้วนิสัยตัวเองในฝันก็เหมือนกับตัวเองจริงๆ เหมือน
กับตัวเองแก้ปมไม่หลุด ความฝันพาไปให้แก้ แต่พอเผชิญกับตัวเองในฝัน
ก็ใช้วิธีการเดิมๆที่ไม่ได้ผลในการแก้ไขซ้ำอยู่อย่างเดิม ตอนนี้เวลามีเรื่องราว
เก่าๆ แว๊บมา ก็แอบใช้วิชาที่ได้จากเพื่อนๆในพลังจิต โดยจินตนาการ การ
แก้ใขว่า เราได้ใช้วิธีอื่น-ได้ใช้ความรักความไม่ถือสาใครๆในการแก้ใขสิ่งนั้นแล้ว
พูดแล้วนึกเห็นตัวเองขึ้นมาตอนนี้ ว่าตัวเองเป็นคนถือสาอะไรๆมากเกิน
เห็นคำพูดทุกคำเป็นเรื่องใหญ่ จริงจังเกินเหตุ ให้ความสำคัญกับคำพูดเกิน
เหตุ ฝันคราวหน้า ขอให้ฝันว่าตัวเองได้แก้ใขปัญหาทุกอย่างด้วยความรักและ
ความเข้าใจ .. ถ้าทำได้นะคะ sleeping_rb

ขอบคุณ คุณ Chayutt สำหรับโพชฌงค์คาถาเพราะๆ ค่ะ ช่วงนี้กำลัง
สวดบทนี้พอดี

ขอบคุณ คุณ Mead นะคะ น้ำท่วมแต่ก็ยังอุตส่าห์แปลสาระดีๆมาให้เพื่อนๆ
ได้อ่านกัน .. ซึ้งใจนะ ;aa21

 

ขอบคุณมากๆค่ะคุณ Chayutt วารู้สึกสนใจมากๆค่ะ กำลังค่อยอ่าน มาทีละหน้าอ่ะค่ะ

 

กำลังแปลข้อความArchangel Michaelอยู่จ้า
ใครอยากสื่อสารกับArchangel Michaelบ้าง ยกมือขึ้น

ข้อความนี้ ผู้รับการสื่อสารMeredith Murphy เธอบอกว่า
ได้รับมาในขณะที่มีการตระเตรียมเพื่อรับพลังงานอิควิน็อกอยู่
เป็นข้อความที่สำคัญมาก วิธีการนั้นมีอยู่ในบทความ

....................................................................

อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า พลังงานต่างๆทำงานอยู่ตลอดเวลา
แต่อยู่ที่เราจะจดจ่อกับมันอย่างไร จัดการอย่างไรกับพลังงานเหล่านี้
และอีกปัจจัยหนึงคือ การเลือกเวลาที่เหมาะสมและเลือกพิกัด
เพราะมันจะมีตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง ที่เรียกว่า alignment

จักรวาลมีการจัดวางตำแหน่งทางพลังงานอยู่ในรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ
ที่เรารู้จักกันในนามของ Metatronic
สิ่งที่เราต้องทำก็คือการวางตำแหน่งตัวเองให้อยู่ในทิศทางของการจัดวางเหล่านี้

การติดต่อสื่อสารกับท่านเทพไมเคิลตามข้อความนี้
เป็นการระบุวิถีการจดจ่อ และการจัดวางตนเองให้เข้าไปอยู่ในตำแหน่ง
ที่ align with กับเจตจำนงของพลังงานที่ถูกนิยามว่าเป็นตำแหน่งของArchangel Michael เท่านั้น

จริงๆแล้วพลังงานนั้นจะไม่มีการระบุว่าเป็นของผู้ใด และมาจากไหน
แต่ การระบุชื่อ เป็นการระบุพิกัด จัดวางตำแหน่ง เลือกวิถีการจดจ่อ
เพื่อที่จะทำให้เราเข้าไปอยู่ในแนวทางของคลื่นความถี่ชนิดนั้นๆ

เราไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในตำแหน่งเหล่านั้นในทางกายภาพก็ได้
แต่ใช้จิตเดินทาง แทนได้
ซึ่งการเดินทางด้วยวิธีนี้ ไปได้ทั่วและข้ามพ้นระนาบต่างๆได้อย่างทะลุทะลวง
โดยผ่านการทำสมาธิและความฝัน

เดี๋ยวลองมาอ่านและทำความเข้าใจกันดูนะคะ
และหากท่านใดทดลองทำแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

เหลือเรียบเรียงอีกนิดหน่อย
ถ้าไม่มีปัญหาอะไรคืนนี้จะโพสต์ให้ได้อ่านกันนะคะ

 

ขอบคุณมากน่ะครับสำหรับความรู้ต่างๆที่นำมามอบให้ครับ ^^
น่าตื่นเต้นมากเลยครับ

 

คุณ kindred ค่ะ

ยกมือสูงๆ ว่าอยากอ่านมากที่สุดค่ะ
rabbit_jump

 

_ขอบคุณชยุตมากๆ เลยค่ะ เหลี่ียมแห่งความรู้ของคุณมุนไปอย่างรอบด้านจริงๆ แค่จัดวางให้เหมาะสมและลงตัว ทุกอย่างก็เข้าที่และลงตัว รู้สึกแค่นั้นจริงๆ _(f)

 

ยังอ่านไม่ครบ130 หน้าค่ะ แต่ว่าพยายามอ่านมาตั้งแต่ หน้า 100 มาก่อนเลย ได้ความรู้หลายเรื่อง ตัววาเอง ไม่ค่อยสันทัด ในเรื่องแบบนี้อ่ะค่ะ แต่ก็อยากลองทำดู และก็สนใจในเรื่อง เพื่อนต่างมิติด้วย มีความฝันที่อยากจะเล่าให้ฟัง บ้างนะคะ
ที่ผ่านมา จะเป็นที่ชอบฝันเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ 1. เห็นเพื่อนเก่าสมัยเรียน 2.ฝันว่าตัวเองเหาะได้ ไม่ใช่เชิงเหาะได้แต่ลักษณะจะเป็นแบบว่า เหยียบปลายไม้ แล้วถลาไปเรื่อยๆ คล้ายๆเหาะได้ อ่ะค่ะ ยิ่งล่าสุด ฝันเห็นเพื่อนสมัยเรีนปริญญาตรีปี สุดท้าย แทบจะทุกๆคน นั่งรวมกันที่ ห้องห้องนึง ในที่ทำงานวาเอง

เคยมีงวดนึง ฝันเห็นตัวเลข (แล้วเอามาซื้อหวย) 112 ค่า ปรกฏว่า งวดนั้น ออก 112 พอดี งวด 30/12/53 เรื่องตัวเลขก็ฝันมาเรื่อยๆนะค แต่ยังไม่ตรงๆซักที่ มีแต่เฉียดไปเฉียดมา

และเคยฝันเห็นเหมือน(ในความคิดตัวเอง) เอเลี่ยน อ่ะค่ะ ตัวสีขาวๆ หูยาวตั้งเหมือนกระต่าย สองข้าง มีหางยาวๆด้วยนะคะเหมือนกับสู้กับอะไรซักอย่าง ในน้ำ บริเวณที่สู้กัน คล้ายๆทะเลสาบ มี น้ำเยอะมากๆ

สิ่งเหล่านี้ ตัววาเองไม่ทราบนะคะว่าคือออะไร เพราะว่าเป็นคนไม่ได้นั่งสมาธิ แต่ว่า ชอบใส่บาตร สวดมนต์ตอนเช้าที่ทำงาน ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นผลมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง

แต่เมื่อมาเจอกระทู้แล้ว จะพยายามศึกษาไปเรื่อยนะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูล จากทุกๆท่าน โชคดีจริงๆที่ได้มาเจอกระทู้นี้ เพิ่งเจอกระทู้นี้ วันนี้วันที่ 2 เองค่ะ

 

ตามอ่านอยู่นะคะ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ช่วยกันแปลและโพสต์ข้อความดีๆค่ะ..

เมื่อคืนฝันแปลกเช่นกันค่ะปกติเป็นคนจำความฝันไม่ได้ แต่เมื่อคืนฝันว่า...เห็นยูเอฟโอจำนวนมากบนฟ้าเราก็หลบแอบดูอยู่ มีลำนึงตรงมาที่เราหลบและยิงแสงอะไรไม่รู้มาที่หัวเลยค่ะ จำความรู้สึกได้ว่าเหมือนมีการดาวโหลดข้อมูลลงมาในหัวเราเลย..ใช้เวลาดาวน์โหลดประมาณนึงหลังจากนั้นก็รู้สึกว่า เวลารอบตัวมันเดินช้าลงมากๆ ในความฝันคนรอบข้างก็แก่กันไปหมดเลย...และรู้สึกว่าเราอายุเป็นร้อย ๆ ปีเลยค่ะ

จำได้แค่นี้ค่ะ...

 

ค่อยๆอ่านนะฮะ..คุณวา..ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ 55+ ผมก็เพิ่งเข้ามาเป็นแฟนคลับของพี่ชยุต วันนี้เหมือนกันครับ.. แต่ซุ่มเป็นกำลังใจให้พี่เค้ามานานแล้วล่ะครับ.. ทึ่งในความสามารถของทีมงานทุกๆท่าน.. โดยเฉพาะคุณ"แสงสว่าง" น่ารักที่สุดเลยครับ.. เราทุกคนล้วนมาจากที่เดียวกัน..ก็เลยมาเจอกันในนี้ไงล่ะฮะ?

 

ขออนุญาตนั่งฟังเพลงซักครู่นะฮะ...(ผมชอบกระทู้นี้มาตั้งนานแร่ะ แต่ไม่แสดงออก 55+)ผมชอบตามอ่านของหลายๆท่าน.. ผมชอบศึกษามนุษย์น่ะครับ...ผมว่ามนุษย์เรานี่..ช่างปาฎิหาริย์ซ่ะจริงๆ ทำอะไรได้ตั้งหลายๆอย่าง ต่างคนต่างรูปแบบ ความสามารถที่มีในตัวมนุษย์เสมือนหนึ่งว่ามีบางอย่างประทานมาให้ ท่านเคยนึกสงสัยกันบ้างมั้ยล่ะครับ..

ผมคงต้องใช้เวลาในการตามอ่านหลายวันทีเดียว เนื้อหาเยอะมากๆ ขอบคุณทีมงานทุกท่านด้วยนะครับบ..

 

ยินดีต้อนรับคุณ BEIS และคุณ krittima helga และท่านอื่นๆที่ผมอาจไม่ได้กล่าวถึงด้วยนะครับ
พวกเรามาเป็นนักเรียนในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยแห่งชีวิต ที่ชื่อว่าโลกนี้ด้วยกันครับ..

มันยังมีอะไรที่เราจะต้องเรียนรู้อยู่อีกมากมายครับ
เพราะว่าสิ่งที่เรายังไม่รู้ (ในบทบาทที่เป็นมนุษย์นี้) ยังมีอีกมากมาย

แต่ในบทบาทของจิตวิญญาณของเราแล้ว พวกเรารู้แทบทุกอย่างดีอยู่แล้วหละครับ
เพียงแต่ว่า การที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ ในมิตินี้ เพื่อมาเรียนรู้บทเรียนต่างๆนั้น
พวกเราก็เลยต้อง "ลืม" มันไปก่อนเท่านั้นเองครับ

เพราะฉะนั้น โจทย์ข้อใหญ่ที่พวกเราต้องแก้กัน ก็เลยไม่ใช่อะไรอื่นไกลเลย
นั่นก็คือ

"ต้องจำให้ได้ ว่าแท้ที่จริงแล้ว เราเป็นใคร
และต้องจำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วให้ได้" เท่านั้นเองครับ

........................................................

 

เพราะฉะนั้น โจทย์ข้อใหญ่ที่พวกเราต้องแก้กัน ก็เลยไม่ใช่อะไรอื่นไกลเลย
นั่นก็คือ

"ต้องจำให้ได้ ว่าแท้ที่จริงแล้ว เราเป็นใคร
และต้องจำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วให้ได้" เท่านั้นเองครับ

........................................................<!-- google_ad_section_end -->
คุณชยุตคะ...

ที่ว่า "ต้องจำให้ได้ ว่าแท้ที่จริงแล้ว เราเป็นใคร
และต้องจำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วให้ได้"

ขอคำอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้มั๊ยคะ
ว่ามันมีขอบเขตหรืออะไรมั๊ย
ว่าประมาณไหน...
ต้องรู้เรื่องขนาดนับเนื่องไปถึงอดีตชาติเลยรึเปล่าคะ

เพราะกำลังสับสนตัวเองอยู่เหมือนกัน
คือ... กำลังรู้สึกว่า .... อยากจะช่วยทบทวนความทรงจำให้กับใครซักคน
ที่เรามีความรู้สึกว่า... เราเคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติแล้ว
คือ... มันอาจเป็นเรื่องที่เข้าใจยากนิดนึง...
แต่มันก็เป็นแบบนั้นไปแล้ว
ไม่รู้จะพูดยังงัย...
ของแบบนี้มันแกล้งทำก็ไม่ได้ซะด้วยสิ

ก็สับสนว่า... เราแค่คิดไปเอง
หรือว่า...
นี่คือ... สัญญาเดิมที่ให้เรารู้ เพื่อจะทำอะไรบางอย่าง
คล้าย ๆ ว่าเป็นหน้าที่ แต่ที่จริงแล้ว... ตัวเราเองก็สมัครใจที่จะทำด้วยน่ะค่ะ
เหตุผล... ก็คือว่า... เรารู้สึกคุ้นเคยในความผูกพัน...
แต่มันก็ไม่มีอะไรเป็นสิ่งยืนยันหรือรองรับหรอกนะคะ
มีเพียงสัญญาณเดียว... แค่นั้น
คือ....
.... เสียงของหัวใจ น่ะค่ะ ...

เอ่อ... แล้วมันจะเพียงพอมั๊ยเนี่ย ;k04
เพลงนี้เข้ากับชีวิตมาก ๆ เลย ...

 

แวะมาทักทายทุกๆท่าน คร่า ค่อยๆย้อนกลับไปอ่านที่ละนิดๆ อยู่อ่ะค่ะ

 

คำถามคุณ Vking น่าสนใจมากค่ะ ช่วงเรอคุณพี่ชยุตมาตอบ
ขออนุญาติโพสต์ข้อความของท่านไมเคิลไปก่อนนะคะ

คุณฐนาที่รัก...ยกมือได้สูงมาก เห็นชัดเชียว

 

แวะมาทักทายเพื่อนสมาชิกใหม่ทุกท่านครับ
ค่อยๆอ่านไปนะครับ แล้วชีวิตจะกลายเป็นความมหัศจรรย์..
อย่างที่หลายๆคนบอกว่ารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เบิกบาน สดใส
และเต็มไปด้วยความรักที่แผ่ขยายออกรอบๆข้าง ซึ่งมันเกิดขึ้นได้จริงๆครับ

และขอช่วยตอบคำถามให้คุณ Vking ด้วยน่ะครับ
การระลึกรู้ว่าเราเป็นใคร หมายถึงรู้จักที่มาของตนเองและเข้าใจความเป็นจริงในการมาเกิด
รวมทั้งมาทำภาระกิจสำคัญ คือการเพิ่มความถี่ในสั่นสะเทือนของโลกด้วยกันน่ะครับ

ส่วนเรื่องอดีตชาตินี่ มันเป็นเพียงความเกี่ยวพันที่ซับซ้อนของระบบตัวตนรวมน่ะครับ
ซึ่งจริงๆแล้ว ณ.ตรงนั้น มันไม่ได้มีภพชาติอยู่อย่างแท้จริง..
มันเป็นเพียงมายาการที่สะท้อนบุคลิกภาพเท่านั้นเองครับ
ไม่ต้องไปยึดติด กับวงจรอดีต-อนาคตเหล่านี้ มากเกินไปกว่าความเป็น"ปัจจุบัน"นะครับ

ภพชาติเนี่ย ตามความเข้าใจส่วนตัวนะครับ
เมื่อมนุษย์ตายไปแล้ว ดวงวิญญาณที่แยกจากร่างกายจะถูกส่งกลับไปยังเมทริกซ์
เพราะแต่ละจิตวิญญาณ ก็ยังมีการสั่นสะเทือนแบบส่วนบุคคลอยู่

ในจักรวาลไม่มีสิ่งที่เรียกกันว่า "ดีหรือเลว" "ผิดหรือถูก"
จะมีแต่เรื่องความถี่และแรงสั่นสะเทือนระดับ สูง/ต่ำ และความสมดุล-ความเหมาะสม
ซึ่งจะมีการตรวจสอบคัดแยกคลื่นความถี่ซะก่อน
ถ้าหากจิตวิญญาณดวงนี้ มีความถี่สูง ก็จะก้าวไปในมิติที่สูงขึ้นไป
และถ้ามีความถี่ต่ำ ก็กลับลงไปทำภาระกิจที่วนเวียนในมิติเดิมๆหรือต่ำกว่าได้

เป็นเรื่องความสอดคล้องของระดับเมทริกซ์ น่ะครับ
แต่ถ้าหากจิตวิญญาณการพัฒนาสูงขึ้นไป ความถี่ของเขาจะสูงกว่าบนโลก
เขาจะไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่บนโลกได้อีก

การจะออกจากวงจรทวิภาวะหรือความเป็นชาติภพนี้ได้
ก็มีทางเดียว คือต้องไปหา"เสื้อคลุมแห่งแสงสว่าง" มาใส่
และเสื้อนั้น ก็หาซื้อได้ที่เซเว่น อ้อไม่ไช่สิ ต้องเป็นร้านค้าสีขาวๆ..สว่างๆ น่ะครับ

หวังว่าจะช่วยให้มองภาพกว้างๆได้ชัดเจนขึ้น
เดี๋ยวเรารอฟัง มาสเตอร์ชยุตมาตอบด้วยกันนะครับ

โพสเลยครับคุณมะเดรด...ศรี... <<< (ชื่อนี้คุณเซลล์เค้าตั้งให้ น่ารักดี)

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล(Archangel Michael )

วันที่ 17 กันยายน 2011
ผู้รับการสื่อสาร
Meredith Murphy

ที่มา Emissaries to Earth: Bring Forth Your Light > Expect Wonderful

ตอนที่ 1



โดมแสงสว่างสีทองที่เป็นสตาร์เกตหลากมิติ
ของพวกคุณกำลังเปิดออนไลน์

มันหมายถึงว่า พวกคุณทุกๆคนได้เข้าถึงขีดความสามารถที่ขยายกำลังเพิ่มขึ้น
ของความสอดคล้องต้องกันที่อยู่ภายในตัวพวกคุณเอง

นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะมันคือความสอดคล้องของพวกคุณเอง
ที่มีการส่งออกไปและดึงดูดกันข้ามมิติ ระหว่างมิติต่างๆที่สั่นสะเทือนต้องกันกับพวกคุณ

มันคือวิธีที่พวกคุณสร้างประสบการณ์ผ่านการเนรมิต
ที่เป็นการมาบรรจบกันในทางกายภาพแห่ประสบการณ์ของพวกคุณ
ที่มาจากความปรารถนาในหัวใจของพวกคุณ

การขยายขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นของวิหารแห่งแสงสว่างภายในของพวกคุณ

ฉันขอเชิญชวนให้พวกคุณเชื่อมโยงกับระบบพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์
ที่เป็นดั่งวิหารภายในของพวกคุณ

เพราะพวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง
(One with All-That-Is)
เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
เป็นหนึ่งเดียวกับแหล่งกำเนิดการสร้างสรรค์อันศักดิ์สิทธิ์

ระบบพลังงานของพวกคุณ
คือแหล่งพำนักแห่งจิตสำนึกของพวกคุณ

การตื่นรู้ของพวกคุณและวิธีการต่างๆ
ที่จะทำให้พวกคุณสามารถที่จะอยู่ในระบบพลังงานหลากมิติ
ที่สามารถเชื่อมประสานกันได้ทั้งแบบต้องมีตำแหน่งที่ตั้งและไม่ต้องมีตำแหน่งที่ตั้งได้

มันหมายถึงการเชื่อมประสานกับรูปธรรม
ที่มีอยู่มากมายไพศาลทั้งปวงได้อีกด้วย

การเพิ่มกำลังการขยายของวิหารแห่งแสงสว่างภายในของพวกคุณ
ทำให้พวกคุณปล่อยให้การกระทำต่างๆเกิดขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ง่ายนักต่อความเข้าใจที่ผ่านมาของพวกคุณในอดีต

มันเปิดทางให้สำหรับการสร้างสรรค์ในทิศทางแบบใหม่เท่านั้น
วันนี้ฉันอยากจะวิเคราะห์ถึงกลไกนี้อีกซักหน่อย
และจะสร้างความเข้าใจที่มากขึ้นให้กับพวกคุณ
เพื่อการนำพาตนเองไปสู่ประตูแห่งแสงสว่างนี้ได้

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล(Archangel Michael )

วันที่ 17 กันยายน 2011
ผู้รับการสื่อสาร
Meredith Murphy

ที่มา Emissaries to Earth: Bring Forth Your Light > Expect Wonderful

ตอนที่ 2

พวกเราเรียกสิ่งนี้ว่า ประตูแสงสำหรับแสงสว่าง
ที่เป็นพลังงานและอยู่ในประสบการณ์ของพวกคุณ



ความสามารถที่จะผลิตและถ่ายทอดแสงสว่างที่มีความเข้มข้นขึ้นและมีความถี่มากขึ้นนี้
จะทำให้เกิดการตื่นรู้ขึ้นและยกระดับประสบการณ์ให้กับพวกคุณได้

มันมีช่องทางไปสู่แสงสว่างที่มากขึ้นนี้อยู่ช่องทางหนึ่ง
ที่จะทำให้พวกคุณผสานเข้ากับกระแสแห่งความมีชีวิตชีวา
ที่พวกคุณเคยมีประสบการณ์อยู่แล้วได้อย่างเต็มเปี่ยมมากขึ้น
และมันก็กำลังตะโกนเรียกพวกคุณอยู่ !

มันคือระลอกคลื่นแห่งแสงสว่างที่กำลังใกล้เข้ามานี้
และความสามารถของพวกคุณในการประสานรวมและสั่นสะเทือนเข้ากับพวกมันได้นี้จะเพิ่มขึ้น

ซึ่งจะทำให้พวกคุณสามารถขับเคลื่อนพลังงานในการเลื่อนระดับ
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน vector ที่เป็นหนึ่งเดียวกับพลังงานนี้ได้
มากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่การมีประสบการณ์กับพลังงานนี้
หรือเป็นแค่พลังงานที่มีความหนาแน่นมากขึ้น
หรือเป็นระบบพลังงานที่ตายตัว ที่แบ่งแยกตัวมันเองออกมา

และจงรู้ว่าพลังงานเหล่านี้อยู่ในทิศทาง
ที่จะก่อให้เกิดความท้าทายอันยิ่งใหญ่
และอาจสร้างความไม่สบายอันใหญ่หลวงให้เกิดขึ้นได้

สิ่งที่ถูกกักเก็บไว้ใน DNA ของพวกคุณคือ
ส่วนประกอบของอารยะธรรมและวัฒนธรรมต่างๆ
ที่ผ่านมาในอดีตของพวกคุณ

พวกเราเตือนพวกคุณอยู่ซ้ำๆถึงการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้
และพวกมันจะเชื่อมผสานกันในเวลาที่เหมาะสมที่สุด

ในจักรวาลทุกจักรวาล(Omni-verse) เวลาที่เหมาะสมที่สุด
หมายถึงการจัดวางตำแหน่งของรูปทรงเรขาคณิต กาแล็คซี่ เอกภพ ให้มาอยู่ในทิศทางเดียวกัน

สิ่งนี้หมายถึงว่า
เมื่อพวกคุณดำรงอยู่ทางพลังงาน ณ ระดับความถี่หนึ่งๆ
และภายในระบบพลังงานที่เข้ากันได้หนึ่งๆ
จากนั้นระดับของการสั่นสะเทือนนี้
ก็จะปลดปล่อยคุณลักษณะต่างๆใน DNA ของพวกคุณ
ที่ถูกกักเก็บไว้ออกมาอย่างเป็นอัตโนมัติ

ที่ในตอนนี้มันก็จะสามารถถูกรับรู้ได้, ถูกเข้าใจได้,
ถูกผสานรวมกัน,ทำงานร่วมกับมันได้,มีชีวิตขึ้นมาได้
มันคือช่วงเวลาในการผลิดอกออกผลของการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ
และพัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้กับตัวพวกคุณเอง

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพไมเคิล(Archangel Michael )

วันที่ 17 กันยายน 2011
ผู้รับการสื่อสาร
Meredith Murphy

ที่มา Emissaries to Earth: Bring Forth Your Light > Expect Wonderful

ตอนที่ 3

มันจะมีทั้งความเบิกบานและความรู้สึกที่ประหวั่นพรั่นพรึง
ที่มากขึ้นในการยกระดับจิตสำนึก

เมื่อใครคนหนึ่งจดจำได้ถึงคุณลักษณะต่างๆที่สำคัญๆของประสบการณ์
เพราะระบบพลังงานจะจำค่าของข้อมูลที่กำลังกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมของมันเองได้โดยธรรมชาติ

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นแบบเรียงลำดับ
แต่มันจะไม่ใช่การเรียงลำดับแบบเส้นตรง
มันเป็นการเรียงลำดับในความหมายของการสั่นสะเทือน
ในความหมายของความถี่
และมันจะเกิดขึ้นในรูปแบบการขยายตัวออกเป็นทรงกลม
(ขยายจากจุดศูนย์กลางออกไปทุกทิศทุกทาง...ผู้แปล)

เพื่อเข้าไปให้ถึงช่องทางเดินของแสงสว่างอันมากมาย
และ ในขณะที่สนามพลังงานของพวกคุณเองมีการหมุนปั่นและรวมตัวเข้าหากัน
สู่การตื่นรู้อันเต็มเปี่ยม และเปิดช่องทางให้กาลเวลาที่ไม่จำกัดแวบผ่านเข้ามาได้

ความท้าทายต่างๆที่พวกคุณเผชิญหน้าจะเพิ่มขึ้นมากในเร็ววันนี้
เพื่อให้พวกคุณได้ตื่นขึ้นอย่างจริงๆจังๆเสียที

ช่องว่างระหว่างพวกคุณทั้งหลายที่อยู่บนหนทางของการปลดปล่อย
ในเบื้องต้นจะมีผู้ที่เริ่มตื่นขึ้น และจะมีตามมาอีกเป็นระลอกอย่างรวดเร็ว

และบรรดาผู้ที่ยังคงไม่ตื่นรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่ตีวงกว้างขึ้น
จะได้รับผลกระทบต่อประสบการณ์และเหตุการณ์ต่างๆบนโลกรอบๆตัวพวกเขา
ซึ่งในตอนนี้ มันค่อนข้างที่เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว

ความท้าทายต่างๆที่มากขึ้น เนื่องมาจากว่าพวกคุณกำลังถูกเรียกร้องมากขึ้น
ให้นำวิถีชีวิตของพวกคุณไปสู่แนวทางที่เข้ากับการสั่นสะเทือนและการรู้ของพวกคุณได้มากขึ้น

พวกคุณทุกคนกำลังพัฒนาความสามารถของพวกคุณเพื่อยืนยันถึงสิ่งที่พวกคุณรู้
และสิ่งนี้จะสร้างสรรค์ความศักดิ์สิทธิ์ให้กับประสบการณ์ของพวกคุณ

พวกคุณจะสำนึกบุญคุณต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้
ก็ด้วยการยอมรับและมีความเชื่อถือ
ต่อโลกแห่งความเป็นจริงในกระบวนการเลื่อนระดับของดาวเคราะห์

และมันจะนำส่วนประกอบที่เป็นความศักดิ์สิทธิ์ ให้เข้ามาสู่ชีวิตของพวกคุณ
และเข้าไปสู่สนามพลังงานของพวกคุณได้