ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    นึกว่าไม่มาซะแล้ว ฝากความคิดถึงคุณกุ้งฯ ด้วยครับ อย่าลืม pm.ชื่อสกุลและที่อยู่มาเพื่อขอบันทึกข้อมูลด้วยครับ
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    เสาร์-อาทิตย์นี้ใส่บาตรพระ พี่ใหญ่สอนไว้ อย่าลืมตั้งใจและโน้มใจว่าเรากำลังจะใส่บาตรต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยหยุดใจหรือกำหนดไว้นิดนึงที่ลิ้นปี ยกขันข้าวขึ้นเหนือหัว ข้าพเจ้าขอถวายข้าวในขันนี้แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอบุญนี้จงเกิดแด่บิดามารญาติพี่น้องบุตรภริยาปู่ย่าตายายและครูอาจารย์ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า และขอให้ผู้ที่ข้าพเจ้าได้นึกถึงนี้แล้วนั้นได้รับกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ถวายข้าวนี้โดยถ้วนทั่วด้วยกันเทอญ สาธุ...และขอให้พระที่เรานับถือ ไม่ว่าจะเป็นท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ท่านหลวงปู่ทวด ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หรือพระท่านอื่นให้เป็นพยานบุญและโมทนาบุญให้เราด้วย เท่านี้ล่ะ ลองดูจะมีปิติบ้างไหม ดีกว่ายกขันขึ้นมาและตักข้าวใส่เลย นี่ละความสุขที่เกิดจากทานที่ใส่บาตรพระล่ะ (ไม่ต้องนึกถึงกิริยาอาการของท่านว่าเป็นอย่างไร ไม่ต้องถือศีล ภาวนาอื่นอีก ทุกอย่างอยู่ตรงที่ใจหยุดนิ่งน่ะล่ะ เรียกสั้นๆ ว่า "ใจพุทธะ" ไงล่ะ)
     
  3. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    [​IMG]

    หลวงปู่อ่อนศรี พระอริยะสงฆ์ศิษย์พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐาน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกหนึ่งที่เราควรหาเวลาไปกราบไหว้ฟังธรรมจากท่าน อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ท่านอยู่ถ้ำประทุน เขาไม้แก้ว ชลบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Pic_809_1.jpg
      Pic_809_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      3,302
  4. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105

    ได้มีโอกาสตื่นมาโมทนาบุญให้แต่เช้าในวันเสาร์ นับว่าวันนี้ไม่เสียดายในวันคืนที่ผ่านไปจริงๆ

    สัตบุรุษ ย่อมมีสหาย ที่คล้ายกัน....
     
  5. พรหมฤทธิ์

    พรหมฤทธิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +67
    สัตบุรุษ ย่อมมีสหาย ที่คล้ายกัน.... นับว่าสหายธรรม หากละม้ายแม้นเพียงเจตนารมย์ที่ใกล้เคียงย่อมบรรลุถึงวัตถุประสงค์แห่งธรรม อันพึงประสงค์และดำรงมั่นด้วยความดีไม่เคลื่อนคลาย สหายธรรมที่ดีต้องแสดงความเป็นน้ำมิตรที่ดีต่อกัน นับว่าเป็นที่สุดแล้วแห่งกัลยาณมิตร ขอเอาใจช่วยและคารวะท่านด้วยธรรมเช่นกัน
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอร่วมเป็น"กำลังใจ"มายัง"ผู้ร่วมก่อตั้งทุนนิธิ"ทุกท่าน และขอนำบทความเรื่อง"พระราชสมาธิในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"ของ"พลตำรวจเอกวสิษฐ์ เดชกุญชร" อดีตนายตำรวจประจำราชสำนักมาไว้ ณ ที่นี้เพื่อเป็นกำลังใจกับทุกท่านด้วยครับ...

    การปฏิบัติธรรม ของ ในหลวง

    <!-- Main -->
    การปฏิบัติธรรม ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    พลตำรวจเอกวสิษฐ์ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจประจำราชสำนัก ได้เล่าให้ฟังว่า เวลามีโอกาสเข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงรับสั่งเรื่องสมาธิกับพวกท่านเสมอ และเวลามีโอกาสก็จะพระราชทานคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกครั้ง ซึ่งท่านก็ยังจำได้และนำวิธีฝึกสมาธิของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาฝึกปฏิบัติอยู่อย่างสม่ำเสมอ

    พระราชจริยาวัตร ในการปฏิบัติ สมาธิภาวนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะทรงปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังทรงให้ความสนใจศึกษาตลอดเวลา จะเห็นว่าเวลาเสด็จพระราชดำเนินไปไหนก็ตาม มักจะเสด็จเข้าไปในวัด ไปรับสั่งกับพระผู้ใหญ่เป็นเวลานาน ๆ อย่างเช่นกับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลางเพล ในสมัยที่ หลวงปู่ ทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ อย่างนี้เป็นต้น เป็นเรื่องที่ทรงศึกษาทั้งสิ้น

    การศึกษาสมาธิของพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงศึกษาอย่างละเอียดลออจริง ๆ เท่าที่ท่านจำได้ในสมัยโน้น พระผู้ใหญ่ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา พระองค์จะทรงนิมนต์ให้เข้าไปในวัง ที่เรียกว่า ถวายกรรมฐาน นอกจากที่รู้ ๆ กันอยู่ ก็มีท่าน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมญาณ) พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นต้น

    คำสอนคำถวายกรรมฐานของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พระองค์จะทรงบันทึกเทปไว้ ถ้าคำเทศน์คำสอนใดที่ทรงเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับผู้ที่หัดใหม่ทั้งหลาย พระองค์ท่านมักจะพระราชทานมาให้ ซึ่งข้าราชการบริพารที่ใกล้ชิด มักจะได้รับพระราชทานเทปจากในหลวงเสมอ ท่านจำได้ว่า ที่ได้รับพระราชทานมา ก็มีของ สมเด็จพระสังฆราช ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ของ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นต้น และก็ในทำนองเดียวกัน เวลาพวก พล.ต.อ.วสิษฐ์ฯไปไหนก็มักจะหิ้วเทปไปด้วย ได้พบพระอาจารย์องค์ไหนก็ตาม ต้องขอธรรมะจากท่าน เมื่อท่านสอนก็บันทึกเอาไว้ แล้วก็มาคัดกันดูว่า ม้วนไหน องค์ใดควรถวายพล.ต.อ.วสิษฐ์ฯก็จัดถวาย พล.ต.อ.วสิษฐ์ฯยังจำได้ในสมัยนั้น ท่านอาจารย์ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง ยังไม่อาพาธ ครั้งหนึ่งพล.ต.อ.วสิษฐ์ฯ เดินทางกลับจากภูพานลงมาทางอุบลฯ ได้แวะไปกราบท่านพระอาจารย์ชาฯ แล้วก็ได้เทปท่านมา ยาวถึง 40
     
  7. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    918
    ค่าพลัง:
    +4,293
    "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร"

    ต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงและมหาโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ช่วยให้ทุนนิธินี้เกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

    สิ่งต่างๆที่กระทำมาแล้วและจะกระทำต่อไปขอยืนยันตามที่ได้แจ้งไว้ตอนที่จัดตั้งทุนนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลงแน่นอน

    เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทุกท่านได้บริจาคมาจะถูกนำไปใช้ตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งทุนนิธิอย่างแน่นอน

    ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นขอยืนยันว่า

    "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร"

    จะต้องอยู่ต่อไปตราบชั่วลูกหลานเพื่อเป็นการบูชาพระคุณครูบาอาจารย์ของเรา
     
  8. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    โมฆะบุรุษ

    วันนี้จึงอยากเขียนถึงเรื่องโมฆะอีกเรื่องหนึ่งคือ
     
  9. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    เมื่อเช้าตื่นไปใส่บาตรและถวายปัจจัยให้กับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่รับนิมนต์มาที่วัดพุทธบูชาประมาณ19รูปโดยมีหลวงปู่ท่อนเป็นประธานสงฆ์ และมีกล่องให้ร่วมทำบุญประเภทต่างๆมากมายโดยผมทำบุญได้ทั้งใส่บาตร ผ้าป่าสร้างเจดีย์ ซื้อที่ดินวัด ชำระหนี้สงฆ์ อื่นๆจนจำไม่หมด ใช้จ่ายไปไม่ถึงห้าร้อยบาท ทำแล้วจิตใจเบาสบายจึงอยากให้พี่ๆน้องๆถ้าไม่มีที่ใส่บาตรแนะนำมาที่วัดพุทธบูชาครับ

    http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=1018
     
  10. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    918
    ค่าพลัง:
    +4,293
    พระสมเด็จกรุบางน้ำชน (ปีระกาป่วงใหญ่) พิมพ์ปรกโพธิ์เม็ด

    [​IMG]

    พระพิมพ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ "สมเด็จปีระกา" ,"สมเด็จปีระกาป่วงใหญ่"
    "สมเด็จเขียว" , "สมเด็จกรุบางน้ำชน" เป็นพระสมเด็จที่สร้างขึ้นที่วัดบวรสถานสุทธาวาส(วัดพระแก้ววังหน้า)และทันท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต)และที่ถือว่าเป็นรุ่นพี่สมเด็จกรุบางขุนพรหมเพราะสร้างก่อนเมื่อเกิดโรคป่วงหรืออหิวาห์ตกโรคขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2416 หลังจากที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต)ถึงแก่ชีพิตักษัย(มรณะภาพ)เมื่อปี พ.ศ.2415แล้วโรคป่วงหรืออหิวาห์ตกโรคได้คร่าชีวิตผุ้คนไปจำนวนมากมายเป็นหมื่นคนโรคนี้ระบาดอยู่ถึง 30 วัน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต)ได้มาเข้าฝันชาวบ้านให้เอาพระพิมพ์ของท่านทำน้ำมนต์ดื่มกินเพื่อแก้โรคร้ายซึ่งน่าแปลกว่าโรคร้ายนี้ก็สงบลงภายใน 7 วัน เป็นพระพิมพ์ ร.5 ท่านพระราชทานให้ราษฎรและเจ้านายเชื้อพระวงศ์ข้าราชบริพารเพื่อเอาไว้ทำน้ำมนต์ตามที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ(โต)ได้มาเข้าฝันข้างต้น พระพิมพ์ที่ทรงพระราชทานส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์เม็ดและพิมพ์ปรกใบ แต่พิมพ์อื่นๆก้มีแต่น้อยกว่า 2 พิมพ์นี้ ท่านอาจารย์ประถม ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าพระพิมพ์กรุนี้ใช้แทนสมเด็จกรุบางขุนพรหมได้เลย อิทธิคุณเสมอกัน
    ปัจจุบันพระพิมพ์กรุนี้มีพบเห็นในสนามพระบ้างส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ที่
    มีลักษณะแบบพิมพ์สมเด็จบางขุนพรหม ส่วนพิมพ์ปรกโพธิ์เม็ดและพิมพ์ปรกใบ ค่อนข้างหาได้ยากมากๆนานๆจะพบสักองค์ สำหรับผู้ที่อยากศึกษาข้อมูลโดยละเอียดให้ไปดูที่หนังสือวิเคราะหืพระสมเด็จฯ เล่มสีน้ำเงิน หน้า 58-61
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    918
    ค่าพลัง:
    +4,293
    พระสมเด็จปูนสอ เป็นชื่อเรียกพระในสกุลนี้ทั่วๆไป แต่ถ้ามีเส้นสายฟาผ่าพาดอยุ่ในองค์พระ ก็จะเรียกชื่อเฉพาะว่า "สมเด็จอัศนี"
    ดังตัวอย่าง แต่ต้องขออภัยไม่มีกล้องถ่ายรูปเลยใช้สแกนเอาภาพจากองค์จริงอาจไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร รายละเอียดมีอยู่ในหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p22.jpg
      p22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.7 KB
      เปิดดู:
      11,978
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ขอบคุณเพชรมากที่ให้ข้อคิดเรื่องสมาธิ พี่ใหญ่เคยให้ภาวนา "อิติปิโสฯ" ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนที่นึกถึงเห็นจริงเลยตามนี้ แถมท้ายด้วยสติแตกจิตตื่นไป 2 วัน จนพี่ใหญ่ให้แก้ด้วยการถอยจิตลงมายังความว่างถึงพักสงบหลับเป็นตาย แต่พอผ่านจุดนี้แล้ว วันต่อมานั่งดิ่งสงบประณีตมากเลย
    ส่วนสมเด็จเขียว หรือปีระกา กับสมเด็จปูนสอ ของคุณสติที่นำมาลงเป็นวิทยาทานใจผมคิดว่าเก่งพอกันกระแสท่านคมจี๊ดจริงๆ แสดงให้เห็นถึงอภิญญาจิตของผู้อธิษฐานจิต คือท่านเจ้าประคุณฯ ว่ามีความสามารถทางอภิจิตขนาดไหน แต่สมเด็จเขียวหรือปีระกาดูจะหาง่ายกว่าราคาไม่แพง ผมจึงนิมนต์จากคุณสติ 5 องค์ แจกให้ประธานผ้าป่าของผมที่จะไปทอดสิ้นปีนี้ พรึบเดียวหมด ไม่ต้องคุยให้มากของคุณสติมีเยอะ เป็นพระนอกพิมพ์มาตรฐานประเภทเซียนบอก "ยี้" แต่โทษที ถ้าได้กำหนดตรวจท่านแล้วจะวางท่านไม่ลงจริงๆ สงสัยเรื่องพระสมเด็จเขียวหรือปีระกานี้ เนื้อเรื่องและประวัติคงต้องให้คุณสติซึ่งได้รับปากไว้แล้วมาลงให้ศึกษากันเต็มๆ สักที ทั้งนั้ เพื่อที่ให้ผุ้ที่เข้ามาดูในกระทู้นี้ได้มีความรู้เรื่องพระนอกพิมพ์เพิ่มเติมจากพระพิมพ์หลัก 3 วัด และเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณแห่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ สืบต่อไปด้วย รวมถึงเนื้อเรื่องในกรุอื่นๆ เช่นกรุวัดประยูรฯ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2007
  13. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระนาคปรกหลวงปู่แหวนที่ทางเราจะแจกให้กับทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิท่านใดต้องการก็pmชื่อที่อยู่มาที่ผมจะจัดส่งให้ครับ
    และถ้าพี่พันวฤทธิ์เห็นด้วยอาจจะส่งรวมกับพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ที่ได้รับการเชิญบารมีเพิ่มจนหลายท่านที่ลงมาทำให้บอกว่าเต็มแล้วไม่ต้องทำแล้วเสกไม่เข้าแล้ว
    มาดูรูปตัวอย่างพระนาคปรกและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าที่จะแจกให้ครับ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เป็นภาพตัวอย่างพระของนายสตินะครับองค์ที่ส่งให้จริงอาจต่างๆกันไปตามพิมพ์ข้อมูลอาจมีคำที่ผิดพลาดจากจริงไปบ้างเล็กน้อยก็ต้องขมาท่านที่ลงมาเสกให้ณที่นี้ด้วย

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0680.jpg
      DSCN0680.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.2 KB
      เปิดดู:
      3,201
    • DSCN0682.jpg
      DSCN0682.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152.4 KB
      เปิดดู:
      2,995
    • DSCN0622.jpga.jpg
      DSCN0622.jpga.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.8 KB
      เปิดดู:
      3,126
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    มีข้อธรรม สำหรับฆราวาสอย่างเราๆ ท่านๆ มาฝากครับ อ่านไว้ไม่เสียหลายดีกว่าอ่านนิยายประเภทน้ำตาไหลนอง แต่ขาดแก่นสาร และไม่สามารถนำมาขัดเกลา ความเป็นเปลือก เป็นกระพี้ เพื่อที่จะทะลุถึงแก่นกลางอันปภัสสรได้ ขอฝากไว้สำหรับเช้าวันอาทิตย์ก่อนใส่บาตรครับ



    ธรรมของฆราวาส 4 ประการ

    <O:p</O:p
    สัจจะมีความซื่อสัตย์สุจริต
    ทมะการรู้จักข่มใจของตนเอง
    ฐีติทำตัวของตนให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรม
    จาคะให้รู้จักสละ จาคะ ทั้งวัตถุภายนอกและสิ่งภายใน<O:p
    <O:p
    ข้อที่ 1 สัจจะคือความซื่อสัตย์สุจริต
    เป็นของมีคุณค่ามหาศาล คนเราอยู่ด้วยกันในโลกนี้
    ถ้าหากว่าขาดสัจจะเสียอย่างเดียวแล้ว
    จะเป็นทุกข์เดือดร้อน หาความสุขความสบายไม่ได้เลย

    ผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์เรียกว่า พูดปดพูดหลอกลวง
    เมื่อหลอกลวงแล้วก็ต้องมีมายาสาไถย มันตามกันมา
    เพราะหลอกลวงแล้วก็ต้องมีมายาหลบหลีก
    ไม่ให้เขารู้จักความชั่วของตน
    พระพูดปด พูดโกหกเรียกว่าพระไม่มีสาระ พระขี้แกลบ
    คือเปลือกข้าวนั่นเอง ข้าวสารไม่มี
    โดยที่ว่าไปแล้ว คนใดที่เป็นคนพูดโกหก พูดไม่จริง
    ไม่มีใครเชื่อถือ ก็เหมือนกับขี้แกลบ ไม่มีแก่น ไม่มีข้าวสารก็ไม่มีค่าอะไร

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าคนผู้พูดปด พูดไม่จริงแล้วนั้น
    บาปกรรมอื่นซึ่งจะไม่ทำ ไม่มี
    ลองคิดดูซี คนที่พูดโกหกได้ ก็หมายความถึงเรื่องความละอายต่อบาป เกรงกลัวต่อบาปไม่มี
    เป็นคนไม่อายต่อบาป เมื่อไม่เกรงกลัวไม่อายต่อบาปแล้ว
    ก็ทำได้ทุกอย่าง บรรดาเรื่องความชั่วทั้งปวงหมด<O:p</O:p
    <O:p
    ข้อที่ 2 ทมะคือการข่มใจของตน
    คนเราต้องมีทิฐิมานะอยู่ด้วยกันทุกคน
    ต่างคนต่างถือตัวถือตนไม่ค่อยจะยอมใครง่ายๆ
    บางครั้งบางคราว ทั้งๆที่รู้สึกตนผิด ตนไม่ดี
    แต่หากถูกคนอื่นตักเตือนว่ากล่าวเข้า
    ก็ไม่ค่อยจะยอมง่ายๆ มีแต่แข็งกระด้างดื้อดันร่ำไป
    เอาชนะเขาร่ำไป อันนี้เรียกว่าไม่ได้ข่มใจของตน ไม่มีทมะ

    ทมะก็คือ ความข่มใจของตน ความอดกลั้นนั่นเอง
    ถ้าหากเรารู้จักอดกลั้น ฟังเหตุฟังผล พิเคราะห์พิจารณาว่าผิดถูกดีชั่ว
    ด้วยประการใดเสียก่อน แล้วเราจึงค่อยแก้ไขปรับปรุงตนเอง นี่เรียกว่ามี ทมะ<O:p
    <O:p
    ข้อที่ 3 ฐีติคือ ให้มีธรรมะมั่นประจำใจของตน
    จะหยิบยกธรรมะข้อใดข้อหนึ่งมาตั้งไว้ในใจของตนก็ได้
    ยกเอาธรรมะข้อที่ถูกกับจริตนิสัยของตน ขอให้เอามาปฏิบัติให้มันได้
    เช่น เราชอบพูดปด พูดไม่จริง ทีนี้เราไม่อยากเอาการพูดปด
    จะยกเอาธรรมะข้อสัจจะความซื่อสัตย์ มาระงับ
    เพราะการพูดปดมันไม่ดี มันสกปรก เราอยากจะชำระมัน
    แล้วก็ตั้งใจปฏิบัติให้มั่นคง ตั้งมั่นอยู่ในเรื่องนั้นจริงๆ ทำให้ได้ตลอดรอดฝั่ง<O:p
    <O:p
    ข้อที่ 4 จาคะคือให้รู้จักสละ คนเราอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้
    อยู่คนเดียวแล้วไม่ทราบว่าจะกลุ้มใจถึงขนาดไหน
    เห็นหน้าเห็นตาสักคนสองคน พอได้พูดจายิ้มแย้มต่อกันพอค่อยยังชั่ว
    ถึงไม่ได้พูดอยู่กับคนใบ้ก็เอาเถิด ก็ยังอุ่นใจ
    ใครก็ตามจะอยู่คนเดียวไม่ได้ เมื่ออยู่คนเดียวไม่ได้
    อยู่กันหลายคน ก็ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
    มีอะไรก็รู้จักสละ จาคะ แบ่งสันปันส่วน ให้ซึ่งกันและกันตามสมควร
    เมื่อสละจาคะแล้ว เราผู้สละจาคะก็สบายใจ
    ผุ้ที่ได้รับก็เบิกบานใจ

    ถ้าให้โดยไม่ต้องการประโยชน์ตอบแทน
    เป็นการให้ด้วยน้ำใสใจจริง เป็นจาคะอย่างแท้จริง เป็นกุศลอย่างยิ่ง

    จาคะ ภายในคือของที่มีอยู่แล้ว เราคิดสละ
    ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความอิจฉาริษยา
    ที่เรามีภายในใจอยู่มากมายกองใหญ่กองโตเบ้อเร่อ
    จาคะไปเถิด จาคะวันละรถสองรถก็ไม่หมด

    คนเรานั้นได้ชื่อว่าเป็นคนรวยด้วยสมบัติอันเป็นทุกข์
    เราจาคะ ความโลภ ความโกรธ ความหลงได้
    เราสบายเบากายเบาใจ นั่นเป็นบุญใหญ่บุญมาก จากการจาคะภายใน<O:p


    ขอยืมมาจาก http://www.taladhoon.com/taladhoon/yabbse/index.php?board=3;action=printpage;threadid=570
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    พระท่าดอกแก้วที่ อ.ประถม อาจสาครสร้าง ให้หลวงปู่สนธ์ วัดท่าดอกแก้วเสก ใช้ผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่ศรีทัตต์ ลูกศิษย์สำเร็จลุนแห่งจำปาศักดิ์มาทำเป็นองค์พระเท่าปลายนิ้วก้อย แต่มีอานุภาพอันเกรียงไกร ที่มาแห่งทำไมต้องเป็นทุนนิธิ อาจารย์ประถม อาจสาคร
    จากตำนานแห่งลุ่มแม่น้ำโขง สู่ครูผู้เฒ่าแห่งชลบุรี ผู้มีคติ "ชาติเสือ จับเนื้อได้ ไม่ต้องง้อใครกิน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2007
  16. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันบ้างนะครับ
    สุขภาพทางกายหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว

    สุขภาพทางใจ สิ่งใดที่เป็นทุกข์รู้จักมันแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปอย่านำมาติดที่จิต ความสุข ความทุกข์อยู่ที่เรากำหนด

    ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็ต้องค่อยๆคุยกัน ฟังความเห็นกันนิดหนึ่ง จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างบุญ ก็เหมือนการออกเดินทางไปเชียงใหม่ไปได้ต้องหลายทาง แต่วิธีการไหนละดีที่สุด ประสบการณ์ทำงานบุญนั้นสำคัญนั้นต้องมีเพราะเราต้องหาวิธีที่โปร่งใสที่สุดจัดทำเป็น แนวทางและวิธีการไม่ให้ใครมาว่าทีหลังได้

    จงช่วยกันมองพิจารณา และคิดถึงความรู้สึกท่านอาจารย์ปู่หน่อยนะครับ

    บทความที่นำมาลงให้อ่านดีมากครับถ้าปฎิบัติตามก็ขออนุโมทนาด้วยครับ แต่ถ้าเพียงหยิบมาไม่ปฎิบัติตามก็เปรียบเหมือนดั่งเถรกวาด
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    มี link แนะนำครับ เป็นสมุดภาพประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น่าสนใจ และน่าศึกษา


    http://www.singburi.police.go.th/data/budda.htm

    (good)
     
  18. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    ผมประทับใจในธรรมะของท่านพระอาจารย์อัครเดช แห่งวัดบุญญาวาส ชลบุรี ครั้งที่ไปทำสังฆทานกับท่านแล้วพวกเราเรียนถามเรื่องการปฏิบัติธรรมว่าการนั่งสมาธิจำเป็นไหมว่าการเห็นนิมิตรแสงสว่างโอภาสหรือรูปต่างๆคือการทำสมาธิที่สำเร็จไปหนึ่งขั้น ท่านตอบได้เข้าใจง่ายว่าถ้าต้องการเห็นรูปเห็นแสงสีไปดูที่กรุงเทพมีเยอะกว่าไม่ต้องมาปิดตาดูและท่านกล่าวต่อว่าจุดหมายการภาวนาคือการลดละกิเลสที่อยู่ภายในจิตใจเราโดยการตัดต้นตอของความหลงก่อนคือ ร่างกาย ตัดตัวนี้ได้เป็นได้ตั้งแต่ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี ส่วนอรหันต์ท่านบอกว่าตัดกิเลสส่วนนามธรรมที่ละเอียดอีกก็หมดกัน
    วันนี้จึงขออนุญาติเจ้าของภาพนำรูปท่านอิเกสาโรที่มาในลักษณะโครงกระดูกให้เราท่านพิจารณากายว่าไม่เที่ยงครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ธันวาคม 2007
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    ตอนที่เป็นประธานชมรมพุทธที่บริษัท ไปนิมนต์ท่านเจ้าคุณพระเทพดิลก แห่งวัดบวรฯ มาเทศน์ให้กลุ่มพนักงานกลุ่มเล็กๆ ฟัง ปรารภกับท่านถึงกลุ่มบุญที่มีอยู่ 5 คนให้ฟัง เพราะกลัวท่านจะน้อยใจ ท่านอ่านความคิดเราออก ท่านบอกว่า "คุณโยม ฟังน๊ะ พระพุทธเจ้าท่านสอนธรรมครั้งแรกให้ใคร เราบอกว่า ปัญจวัคคี ท่านบอก ปัญจแปลว่าอะไร เราบอกว่า 5 ครับ ท่านบอกว่านั่นละ ศาสนาของเราก็เริ่มต้นจากศิษย์ 5 คน จนบัดนี้เป็นเท่าไรแล้ว นับประสาอะไรกับการเทศน์วันนี้ ถึงแม้จะมีแค่พวกเธอแค่ 5 คน อาตมาก็ไม่ขาดทุน" อุทาหรณ์สำหรับเรื่องนี้ก็คือ โครงการนี้แม้จะมีคนแค่ไม่กี่คน อาสาสมัครมาทั้งนั้น แต่ก็ทำด้วยความจริงใจ และเต็มใจ แม้วันใด เดือนใด ไม่มีผู้สมทบ ก็จะต้องเดินหน้า ไม่มีวันถอยหลัง แม้จะสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างไร ก็เช่นเดิม ให้มันรู้ไป ว่าคนไทยใส่บาตรพระตอนเช้าเพราะอยากได้พระเครื่องมากกว่าได้บุญ แถมบุญที่จะได้ จะได้รับการโมทนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วย ยิ่งสบายใจจริงๆ.....ยิ่งทำจิตให้ใส ยิ่งเห็นสิ่งที่หมักดองอยู่ในจิตเยอะ ร่นภพร่นชาติมาอีก หมดเวรหมดกรรมเร็วอีก ภาษานักเลงในปัจจุบันเขาเรียกพวก Proactive หรือ Positive Thinking คือคิดแต่ในแง่บวก แง่สร้างสรรค์ ทำอะไรก็ได้ให้มวลมนุษยชาติมีความสุข เราก็สุขด้วย โครงการบริจาคเพื่อสงฆ์อาพาธนี้ แม้จะไม่ได้เห็นท่านว่าท่านจะใช้เงินบริจาคจากเรามั๊ย หรือท่านจะหายหรือไม่ ถ้าวันนั้นเราผ่านไป รพ.สงฆ์เห็นพระท่านออกมาจาก รพ.เพื่อกลับวัด เราก็พอจะสุขใจได้บ้างว่า เราและคณะรวมถึงผู้บริจาคท่านอื่นก็อาจมีส่วนช่วยทำให้ท่านหายจากอาการอาพาธจนกลับวัดได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาแค่สั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้ล่ะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับพระอาพาธก็มีแค่นี้จริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2007
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,790
    ค่าพลัง:
    +16,105
    วันนี้ประชุมคณะทำงานที่ยังไม่ใช่กรรมการเสร็จสิ้นแบ่งแยกหน้าที่ทำงานเสร็จ ได้ประธานที่ปรึกษามา 2 ท่าน ท่านแรกคือท่าน อ.ประถมฯ ซึ่งคงต้องไปเรียนท่านให้ทราบอีกครั้ง ส่วนท่านที่ 2 คือพี่ใหญ่ที่นับถือคือคุณดิเรก ศรีเจริญ ที่เป็นเหมือนพี่ เหมือนครูอีกคนหนึ่ง ประธานฯ สั่งโครงการนี้ให้เดินหน้าต่อไป และจากประมาณการที่มีผู้แจ้งบริจาคเข้ามาเมื่อรวมกับทุนก่อตั้ง รวมแล้วได้ราว 9,500.-บาท ซึ่งยังไม่ได้เช็คจากบุ๊คแบงค์ มีสรุปโครงการที่จะต้องดำเนินการในช่วงแรกคือ
    1.ถวายให้ รพ.สงฆ์เพื่อช่วยสงฆ์อาพาธ 4,000.-และถวายภัตตาหารเช้าเป็นข้าวกล่อง 40 กล่องเป็นเงิน 1,000.-
    2.บริจาคช่วยพระสมรักษ์ที่เป็นโครงการเร่งด่วน 2,000.-บาท
    3.ให้คงเหลือติดบัญชีไว้ 2,500.-บาท

    โดยโครงการตามข้อ 1. จะทำในวันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค.นี้ เวลา 6.30 น.นี้ ที่ รพ.สงฆ์ ซึ่งจะได้ถ่ายภาพมาให้ดูในภายหลัง
    โครงการตามข้อ 2.จะดำเนินการให้เร็วที่สุดภายในอาทิตย์นี้

    ส่วนเรื่องปลีกย่อยอื่นเช่น
    1. โครงการความรู้พระกรุบางน้ำชน ได้กรอบแนวคิดการเขียนมาแล้ว คงต้องรอข้อมูลแวดล้อมอื่นๆ และรูปพระกรุบางน้ำชนสวยๆ หลายภาพมาลงให้ดูพร้อมคำอธิบาย เพื่อให้ใช้ศึกษาในภายหลังกัน
    2. เรื่องพระของคุณโสระที่แจกฟรี ตกลงจะแจกพระฟรีไม่มีอั้น พร้อมกับพระสกุลอื่นที่ขอบารมีเสกโดยประธานที่ปรึกษาจน "เสกไม่เข้า" แล้วเช่นกัน ขอมาได้เลย เพียงแจ้งชื่อและที่อยู่มา บอกให้นิดนึง พระที่ขอบารมีเสกนี้พี่ใหญ่บอกว่าพรหมชั้นสุทธาวาสท่านประธานตัว "นะ"ซึ่งมีพลังอิทธิคุณครอบจักรวาลมาให้ เช่นเดียวกับ "นะ" ในผงโสฬสมหาพรหมในพระ"ท่าดอกแก้ว" ซึ่งจะสำเร็จได้เฉพาะเป็นคนๆ ไป (แต่ที่ได้ "นะ"ครบ จะเป็นของหลวงปู่หมุน วัดบ้านจานที่มรณะภาพไปแล้ว ใครไม่มีพระท่านให้เสาะหาเอาไว้) ไม่รวมถึงจากครูบาอาจารย์โบราณที่มีบารมีเกี่ยวพันกันมากับท่านประธานหรือพี่ใหญ่ลงมาอีกจนนับไม่ไหว เช่นหลวงปู่บุญหนัก ซึ่งเป็นพระโบราณ ท่านหลวงปู่ใหญ่ฯ ท่านหลวงปู่ทวด รวมถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ฯลฯ ดังนั้นหากใครขอมาด้วยอยากเอาไว้คุ้มครองตัวเองหรือครอบครัวหรือบุตรหลาน ให้ทยอยขอมาได้เลย ฟรีๆๆๆ

    ส่วนพระพิมพ์อื่นๆ ก็จะทยอยมาให้ผู้ที่มีศรัทธามั่นในการช่วยพระสงฆ์ได้ชม และให้เป็นเจ้าของแบบฟรีๆ เช่นพระพิมพ์ 2408 แบบสีขาว หรือพระพิมพ์อื่นๆ ตามที่มีผู้นำมาให้คณะทำงานนี้ครับ

    บุญทานนี้สำเร็จจากการกระทำ และจิตอันเป็นกุศล ทำอะไรก็สุขใจ พี่ใหญ่สั่งให้ทำก็ทำ ใครทำก็ได้ ใครไม่ทำก็ไม่ได้ ใครขัดขวางก็ซวยใหญ๋ คูณสองไปเลย ไม่เอาด้วยคน คำสั่งสุดท้าย ไม่ต้องไปยุ่งกับใครเดี๋ยวจิตตก รักษาจิตให้มั่น สาธุใครไม่เห็นก็ขอให้เทวดาเห็น ใครไม่โมทนา แต่พรหมสุทธาวาสท่านโมทนา ชั่วไม่ลงจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...