ก็ผมสงสัย ที่เค้าบรรลุธรรม เห็นธรรม เค้าเห็นอะไร เกิดดับเหรอ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เสขะ บุคคล, 20 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตามคุณ Sriaraya5 เลยครับ..จิตตัวรู้นี้หละครับ..คือตัวรู้ไม่จริง..
    เพราะมันยังเป็นตัวที่ถูกอุปโลกขึ้นมาตัวหนึ่งอยู่นั่นเองครับ
    ..ต้องตัดตัวนี้ให้ได้ก่อนในเบื้องต้นครับ..
    ไม่ว่า ระลึกได้ คิดได้ รู้สึกได้ ก็ต้องตัดหมดครับ.
    และไม่ว่า ตบะ ฌาณ ญาน อะไร ฯลฯ ก็ต้องวางหมดเช่นกัน
    ถึงเวลาจะใช้ค่อย.อุปโลกขึ้นมาใช้ ส่วนใช้แล้วก็แล้วไป.
    และใช้เฉพาะที่มีประโยชน์ด้วยครับ..
    .
    โมทนาด้วยครับ..
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2015
  3. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ไม่น่าเรียกว่ารู้ไม่จริงนะ

    ผมว่าน่าจะเรียกว่ารู้ไม่หมด

    แต่ละดวงก็คงจะรุ้ตามเส้นทางที่ตัวเองผ่านมา ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมจนกว่าบารมีเต็มมั้ง

    อย่างของผม จิตแทบไม่รู้เรื่องวิปัสสนาเลย มาทาง สมถ ล้วนๆ

    ถามเรื่องวิปัสสนา ไม่ค่อยมีคำตอบ
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    วิปัสสนา ไม่ยาก ที่ยากเพราะไปเอา ความลังเล มาเป็น ปัญญา

    วิปัสสนา นั้นไม่ยาก แค่ รู้ไปตามที่ปรากฏอย่าง ซื่อๆ

    เช่น ในโพสนี้คุณ กล่าวสัจจว่า "ถามเรื่องวิปัสสนา ไม่ค่อยมีคำตอบ"

    คุณ ยกสิ่งนี้เป็น สภาวะธรรมตัวหนื่ง ธรรมหนึ่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ได้ทันที
    แล้วกำหนดรู้

    " รู้ว่าไม่มีญาณวิปัสสนา " รู้เข้ามาหนึ่งขณะ คุณคร้าบ คุณ เดินวิปัสสนา
    เรียบร้อยแล้ว

    เว้นแต่ จะเสียท่าให้กับ เวทนาขันธ์ คือ พอเห็นแล้ว ก็แฉลบออกไป ยินดี ยินร้าย
    หรือ แสร้งทำเป็นรู้ก็ไม่ใช่ไม่รู้ก็ไม่ใช่( เหมือนที่เป็นอยู่ )

    ถ้าไม่โดน เวทนาขันธ์ มันขยับจิตให้เคลื่อนจากการเห็นว่า " ไม่มีวิปัสสนาญาณ "
    คุณจะทราบเลยว่า วิปัสสนาญาณเกิดแล้ว ทันทีที่ไม่โดน เวทนาสับขาหลอก
    ให้ยินดี ยินร้าย กับสิ่งที่ล่วงดับไปต่อหน้าต่อตา
     
  5. SAURON

    SAURON สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ในขณะมีสติสัมปชัญญะ มีอารมณ์แนบแน่น ร่างกายรู้สึกแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวเสมือนมีแหมารัดร่างกาย เหมือนมีศูนย์บัญชาการที่รู้เห็นทั้งอายนะภายใน
    ในขณะสภาวะนี้ได้รู้เห็นความเป็นจริง รู้เห็นสภาวธรรม รู้เห็นธรรมชาติ
    ธรรมชาติที่ว่าสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง ธรรมชาติเป็นของมันอยู่อย่างนี้
    ในขณะสภาวะนี้ได้รู้เห็นความเป็นจริง กาย เวทนา จิต ธรรม มันไม่เที่ยง
    หรือรูป-นาม ไม่เที่ยง หรือขันธ์ไม่เที่ยง หรือธาตุไม่เที่ยง

    ปฏิบัติให้มีอารมณ์แนบแน่นในสติสัมปชัญญะ แล้วเจริญกายคตานุสสติกรรมฐานให้มากในสภาวะนี้ อาจใช้กรรมฐานทั้ง5หรือป่าช้า9ในการเจริญเจริญกายคตานุสสติ
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015



    เมื่อผมฝึกภาวนาวิปัสสนาใหม่ๆ
    ผมลองฝึกเข้าสมาธิ แล้วก็
    คอยจับอาการปวด ที่เกิดขึ้นในกายนี้
    ตอนที่ญานต่ำ แล้วก็ภาวนา
    ตอนที่ปวดว่า ปวดหนอๆๆๆๆๆๆๆ อย่างนี้เรื่อยๆ
    พอถึงตอนที่ความปวดหายไปก็ภาวนาว่า ดับหนอๆๆๆๆๆๆ


    เมื่อทำบ่อยๆ ก็จะรู้ว่า
    เวทนามันเกิด แล้วก็ดับ อย่างนี้
    ทำให้ชิน อันนี้คือ การฝึกดู
    เกิดดับของเวทนา ที่เรียกว่า เวทนานุปัสสนา
    หรือ เวทนาในเวทนา
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เสขะ บุคคล อ่านข้อความ
    โอเคครับ คงเกินภูมิที่ผมจะเข้าใจ ใครมีภูมิธรรมช่วยหน่อย ช่วยอธิบายด้วยครับ...อยากรู้จริงๆ ดับหมด ดับไม่เหลือ เน้น ๆ เลยว่าดับไม่เหลือ เป็นยังไง
    .....ผมสงสัยหนักกว่าเดิมเลย




    ดับไม่เหลือ เป็นคำของพระอรหันต์ ครับ
    ที่ท่านอธิบายถึง ความอยาก หรือ
    ความโลภของท่านเอง ที่มันหมดลงแล้ว
    จาก สังโยชน์สิบ


    ถ้าหากว่า ผู้อ่านท่านใจ เข้าใจว่า
    ตนเองบรรลุอรหันต์แล้ว
    อยากทดสอบตนเอง
    ว่าจริงหรือไม่ ก็ให้ยก
    สังโยชน์ ขี้นมาแล้วลองถาม
    ตนเองดูทีละข้อนะครับว่า
    ข้อที่หนึ่ง เราตัดได้หรือยัง
    ถ้าจิตบอกว่าได้แล้ว ให้ตรองดูหน่อย
    ว่าเรายังมีความอยากในข้อหนี่งอยู่ไหม
    ถ้าหมดแล้วก็ให้ยกข้อต่อมาพิจารณาต่อ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มีนาคม 2015
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ใช่ เวทนามันเกิด แล้วก็ดับอย่างนั้นเอง
    ส่วนผู้รู้เวทนาเกิดเวทนาดับ ยังดูอยู่ ยังมีกู
    อันนั้นแหละ เรียกว่า ยังเห็นไม่รอบ
    คือยังไม่รู้จักตัวกูของกู
    ผู้สร้างโลกนี้อันตระการตาดุจราชรถดีพอนั่นเอง
    ก็ทำการบ้านต่อ มีแค่นั้นเอง... และ

    อย่าไปอยากรู้อยากเห็น มันจะไม่พ้น อวิชชาพาสร้างภพ
    เพราะส่วนที่เกิดเป็นผล ไม่ใช่เหตุ ควรขยันหมั่นประกอบในเหตุ
    รู้เท่าทันตามความเป็นจริง แล้วผลจะปรากฏเองเมื่อถึงกาลถึงเวลา
    ปรากฏการณ์เช่นนี้มีอยู่จริง อย่าไปประมาทเสียก่อนก็พอ
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424


    ถ้าไม่ถึงกระแสความดับไม่เหลือ
    จะรู้จักนิพพานที่แท้จริงได้อย่างไร
    อย่างน้อย ๆ ก็ได้เห็นแหล่งซ่องโจรจริง ๆ
    เห็นที่ตั้งของอวิชชา พาให้เกิดสักกายทิฏฐิ

    ทีนี้ก็ให้รู้ทันความหวั่นไหว หลงยินดียินร้าย
    อันเป็นเหตุให้วิญญาณมีที่ตั้งอาศัยอยู่ได้
    ถ้าวิญญาณหาที่ตั้งอาศัยไม่ได้ ภพชาติจะเกิดไม่ได้
    ที่เกิดแล้วย่อมไม่เจริญงอกงามไพบูลย์
    ความหลุดพ้นจึงมีได้โดยลำดับดังนี้เอง

    ค่อย ๆ เรียนรู้ไป อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธก็ได้..
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    การรอบรู้ในกองสังขารนั่น ระดับ อนาคามี ถึงอรหันต์..พี่ศรี
    การข้ามตัวรู้..เขาก็รู้กันมานานแล้ว มีแต่หนอนตำราเดากัน-ตั้งแต่เกิดสงครามดูจิตในพันทิพโน่น ตัวศาสดายังไปไม่รอดเลย.. ใครอ่านลุงหวีด-หลวงตา เขาก็รู้หมดครับ ..อย่าโม้ครับ พี่ศรี:boo:
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    อ่านคำถามพี่เสขะ..แล้วแสดงว่ายังไม่ได้ไปเปิดฟังเลยที่แนะนำไป utube..นะ
    มาใช้คำถามเปิดกะโหลกเปิดกะลาเปิดฟ้า..กับคนที่ภูมิไม่ถึง(ผมด้วย)..
    ก็ลอง อ่าน-ฟัง ดูตำราก่อนซิ เขาบรรยายว่าไว้ยังไงจะได้เกิด "หลักการ-แผนที่" ตัวอย่าง ยังงี้ครับ(แผ่นที่2)
    ..การที่จะทำลายวงจรปฏิจจสมุปบาทนั้น(เกิด-ดับด้วย) ต้องรู้จักก่อนว่า วงจรปฏิจจฯลแยกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆในห่วงโซ่ทั้ง12 คือ
    1.กิเลสวัฏฏ์.
    2.กรรมวัฏฏ์.
    3.วิบากวัฏฏ์..จะเกิดจะดับ วงจรก็ต้องเลือกปฏิบัติให้ถูก ไปเปิดฟังเอาเองครับ การจะดับรูป-นาม ได้..มรรคญาณ..ต้องเกิดแล้วครับ(มรรคมีองค์8นั่นเอง) กริยา จริยวัตร เราถึงขั้นรึยังครับ ทาน ศิล ความรู้ในสัจจะ ในกองขันธ์5 ..เป็นไงครับ สาธุคงได้ความรู็จากตำราที่ผมยกมามั่งนะครับ รอก่อน รอก่อน :cool:
     
  12. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    ทำมัยไม่ไปถามครูบาอาจารย์ ที่ท่านบรรลุแล้วล่ะ น่าจะพอทราบนะเมืองไทยมีหลายองค์ที่ยังทรงธาตุขันธ์อยู่

    รึคิดตั้งกระทู้เล่นสนุกไปวันๆ ก็รู้อยู่ว่าที่จะมาตอบน่ะส่วนใหญ่ปถุชนทั้งนั้น หรือทั้งหมดก็อาจเป็นไปได้

    เอาธรรมมาล้อเล่น นรกจะกินกะบาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...