การไถ่ถอนอุปาทานในกาย? นักปฏิบัติทางจิตหลงลืมเหตุที่ทำให้จิตไม่สงบและเสื่อม!?

เล่าปัง สตางค์อยู่ครบ ท่านขุนพล"เทียวเสี้ยม"..ลื้อนี่ได้ข่าวไปรบที่ราชประสงค์แล้ว หนีไปนอนอยู่ที่ระยอง 169 ออกตรงแล้วนา..ทำไมลื้อมีหลายคนว้าาาาาาาอั๊วงง.

 

ท้องผูก อาหารไม่ย่อยมาหลายวัน
สงสัยจะเครียด !

ต้องมีสมาธิขึ้นสูงมาก จะสละได้ ต๋อม !

 

ถ้ามีสติ มีสมาธิอยู่อย่างต่อเนื่อง ได้บ้าง
เพราะความที่ต้องมีภาระ ไม่ใช่นักบวช
ซึ่งมีเวลาให้กับการปฏิบัติเต็มที่

ถ้ามีสติ มีสมาธิอยู่อย่างต่อเนื่องได้บ้าง
ใช้ปัญญาออกพิจารณาได้บ้างเป็นบางคราว
ด้วยความมีสติ สมาธิ

จิตก็จะค่อยไถ่ถอนได้บ้างเป็นลำดับลำดา
จิตจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตนไป ตามกำลัง

นี่สำคัญที่สติ สติต้องสืบเนื่องได้บ้าง
สมาธิก็เกิดได้ ปัญญาก็เกิดได้

แต่จะเป็นสติที่ลอยลมจะไม่ไ้ด้เรื่องได้ราวอะไร
ควรมีที่ยึด เช่น พุทโธ หรือ ลมหายใจ เป็นที่ยึดของสติ
เพราะเราอยู่กับโลกกับคน ไม่มีเวลาเต็มที่เหมือนพระท่าน
พอจิตใจโดนอะไรก็ทบ ยังไงต้องเซต้องเป๋ เป็นธรรมดา
ให้มี พุทโุุธ หรือ ลมหายใจ เป็นที่ยึดของสตินี่ล่ะ
สติจะตั้งได เมื่อสติตั้งได้จิตก็สงบไม่วิ่งวุ่นขุ่นเคือง สมาธิก็เกิด
ปัญญาก็ออกพิจารณาได้

สัญญา ก็เป็น ปัญญา ได้
ด้วยความมีสติ มีสมาธิ

ใครว่า สัญญา ไม่มีดี ไม่มีประโยชน์
ปัญญาก็มาจากสัญญานี่ล่ะ

 

ตั้งสติให้ได้จากบริกรรมนิมิตให้จิตสงบแล้วออกพิจารณาจากสัญญา มีอสุภะสัญญาเป็นต้น แบบนี้รึป่าวครับพี่เตช หรือพิจารณาสัญญาแบบไหนอย่างไร ครับ แนะนำต่อครับรอฟัง...

 

พี่เอกวีร์ ไม่มีอะไรแนะนำเหรอครับ รอฟังอยู่เหมือนกันครับ..

 

มะมี

อาย

ไปเผลอคิดว่าเป็น พวกเว็บนู้นอะจิ

 

"..ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งล่วงไปแล้วมาตาม
ไม่ควรหวังสิ่งซึ่งยังมาไม่ถึง เพราะว่าสิ่งใดล่วงพ้นไปแล้ว สิ่งนั้นเราควรละเสียแล้ว
อนึ่ง สิ่งใดซึ่งไม่มาถึงเล่า สิ่งนั้นก็ยังมาไม่ถึง 

เพราะฉะนั้นผู้มีปัญญา จึงไม่ควรให้สิ่งซึ่งล่วงไปแล้วมาตาม
ไม่ควรหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ก็ผู้มีปัญญา ได้เห็นธรรมเป็นปัจจุบันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าแจ้งชัดอยู่ในที่นั้นๆ

ใครจะพึงรู้ว่าความตายจักไม่มีในพรุ่งนี้
เพราะว่าสู้ความหน่วงเหนี่ยว ความผูกพันด้วยมฤตยูความตาย ซึ่งมีเสนาใหญ่นั้นมิได้เลย

ฉะนั้น ความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน อันผู้มีปัญญาควรทำเสียในวันนี้เลยทีเดียว
ไม่มีความเกียจคร้าน ขยันหมั่นเพียรทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างนี้
ผู้นั้นแลเป็นผู้มีราตรีเดียวเจริญดังนี้.."


หลวงพ่ออุตตมะ
(พระครูอุดมสิทธาจารย์)​

​

 

หลวงพ่อ คูณ ปริสุทฺโธ.

กูก็อยู่ของกูอยู่ดีดี
คนนั้นทีคนนี้ทีรี่มาหา

มากันจนล้นวัดเปี่ยมศรัทธา
ราวกับว่าทั้งจังหวัดมีวัดเดียว

มาให้กูโขกเขกมะเหงกงุ้ม
กูสุดกลุ้มเปลี่ยนไม้ให้หวาดเสียว

มันกลับดังขลังกว่าแห่มาเกรียว
กระทั่งเยี่ยวยังแห่จองเป็นของดี

จะพร่ำบอกอย่างไรไม่รับรู้
ว่าตัวกูมิได้เลิศประเสริฐศรี

มันกลับมองตัวกูปูชนีย์
ใช้เป็นที่ดับร้อนผ่อนลำเค็ญ

ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเป็นใบ้หวย
สิบคนรวยล้านคนจนคนไม่เห็น

ไอ้สิบคนก่นเล่าเช้ายันเย็น
กูเลยเป็นเซียนใบ้หวยด้วยอีกคน

ท่านั่งยองของกูก็หรูเฟื่อง
เป็นพระเครื่องคณารุ่นวุ่นสับสน

บ้านจัดสรรกอล์ฟคลับยังสัปดน
ย่องนิมนต์กูโปรโมทโฆษณา

บ้างเอากูเลี่ยมทองผุดผ่องใส
หวังให้ใจคุ้มกันผองปัญหา

แล้วเกิดกูเคราะห์กระหน่ำพา
ใครจะมาช่วยดึงมึงคิดดู

ขนาดเก๋งเยอรมันคันเป็นล้าน
ชนสะท้านท้ายยุบก้นบุบบู้

ตัวกูจริงเสียงจริงยังกลิ้งรู
นอนคุดคู้รอมึงช่วยด้วยเหมือนกัน​

 

please do not expert in mind:z16

 

กรับบองบานเตย เนียงบานโอ่ยโฮ่งบาย

 

หากไม่รู้จริง ก็มั่วแบบนี้ไปเรื่อย จิตนะ ไม่ใช่แมว จะได้อะไรก็ได้
อะไรก็ได้ และ รู้อะไรก็ได้ รู้แบบแมวๆ หรือไง

 

จะอยาก จะต้องการ ให้รู้อะไรล่ะครับ

ในเมื่อความอยาก ความต้องการให้ผู้อื่นเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างที่คิด ยังเพลาไม่ได้ ^^

 

ความอยาก ใช้เป็นปัจจัย ไม่อยากก็ไม่มีแรงขับดัน จรวดทะยานขึ้นไม่ได้แระ

 

พี่เสขะ.. มานี่เลย มาให้ความรู้น้องเล็กด้วยคน .."บริกรรมนิมิตรให้จิตสงบ แล้วออกพิจราณาจากสัญญามีอสุภเป็นต้น.."
อีตรง..จิตสงบแล้วนี่นะ ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวกันซะมาก.. "หลับ" หรือไม่ก็ "ติดนิมิตร".. บางคนแผล็บเดียว "สังขาร"ลากไปกินซะอีก
พี่เสขะ รูปหล่อ ช่วยน้องเล็กรูปหล่อกว่าด้วย..:'''(

 

(แปลด่วน) แปลล่วงหน้าให้ก่อนนะ

เอะอะก็ "เปิดใจ" เปิดใจ..เด็ก HDD 4 kik ,aua,afs cannon..จะรู้เรื่องไหม
ทีตัวเองละก็ "เปิดฟันซะดำเมี่ยมเชียว"..ไปเอาขี้เถ้าผสมซีอิ๋วขัดฟันซะนะ ..เอ๊ย เอ๊ย..จะดูขาวกว่านีิ:'''( (แปลด่วน)

 

แปลว่า ไม่ควรทำตัวเป็นคนฉลาด หรือเป็นผู้ตัดสิน ถูกผิด

เข้าใจไหม๊

 

อ้าว..แล้วฮุนเซ็นเตะบอล กับเสื้อแดง..ใครจะตัดสิน กรรมการไม่มีนี่..พูดไม่คิด:'''(

 

ก็ปล่อยพวกเขาไป ไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการ
ปล่อยให้งัด กันให้เข็ด ชิ ไม่สน
เวลาลำบาก แล้วมาคิดถึง เรา :'(

 

แบบนั้นจิตเริ่มจะสงบครับ แต่ขาดความตั้งใจ ขาดสติ ใช่รึเปล่าครับ !?

ทำเหตุไงดีครับพี่เกิดรูปหล่อ ให้จิตมีกำลัง มีสติไม่หลง ไม่ไหล ไม่เลื่อนลอย ควรค่าแก่การงาน แนะนำต่อครับ รอฟัง.. ?

 

ผมก็รู้มาบ้างตามที่ศึกษาจากครูจากอาจารย์

เท่าที่คุณเสขะถามก็ถามแบบกว้าง ๆ
ครั้นจะตอบก็คงเป็นน้ำท่วมทุ่งไปอย่างนั้น

แต่โดยหลักที่คุณเสขะตอบ
ก็ตรงตามแนวที่หลวงตามหาบัวเคยสอนเป็นหลักอย่างนั้นอยู่แล้วครับ