การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

อยากให้ถึงเวลาที่คนเห็นความดี มีค่ามากกว่าเงินทอง

 

มีเรื่องเล่าที่สนับสนุนข้อความนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้วิเศษเหนือใครหรืออยากโอ้อวดใดๆ นะ
เรื่องการออกมาให้เห็นของยานอวกาศทั้งหลาย เราเริ่มได้เห็นชัดๆ ตั้งแต่ปลาย 52 จนถึง ม.ค 53 เพียงแค่จิตเราส่งออกไปที่ท้องฟ้าว่าต้องการเห็น สักพักเขาจะปรากฎให้เห็น
มีบ้าง ที่เขาจูงใจเราให้ออกจากบ้านมาเห็นชัดๆ เลย

ก็แปลกใจว่าเมื่อก่อนนั่งมองฟ้า ส่งกระแสจิตไปยังไงก็ไม่มา อยากเห็นมากๆ ก็ไม่ได้เห็น คิดว่าที่ได้เห็นตอนนี้เป็นเพราะส่วนนึงโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ทางพลังงาน ดังที่คุณชยุต ได้นำข้อมูลมาโพสต์เรื่อยๆ นี่แหละ และมนุษย์ด้วยที่กำลังเปลี่ยนแปลงที่เราเรียกว่า “ตื่น”
เมื่อมาประจวบเหมาะกัน การได้เห็นจึงสำเร็จ

ยิ่งตอนนี้ พวกเขาประกาศออกมาอย่างนี้
ต่อจากนี้ไป คิดว่าผู้ที่ติดตามกระทู้คุณชยุต น่าจะได้เห็นกันหลายคน
ฉะนั้น..ใครที่ยังไม่เคยเห็น ลองส่งจิตถึงพวกเขา เช่น แหม..วันนี้ท้องฟ้าโปร่งดีนะ เหมาะแก่การออกมาให้เห็นนะ(ในความรู้สึกที่พูดกับเพื่อน-ตอนนั้น) แลัวทำจิตสบายๆ ไม่ได้เคร่งเครียดกับคำที่ขอไป พอเราเผลอๆ ลืมไปแล้ว เขาก็แว็บออกมา เร็วมากๆ แต่สติก็จับทันว่าใช่แล้ว

คนที่สนในเรื่อง UFO จักรวาล และชาวต่างพิภพ ที่จดจ่อคุ้นคิด
เรื่องนี้ตลอดวัน น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ง่ายขึ้นด้วย

ยังไง..ฝากแฟนๆ กระทู้คุณชยุต ไปลองทำดูใครเจออะไร ก็มาเล่าสู่กันฟังนะ
แต่ข้อความที่ส่งออกก็แล้วแต่จะว่าละกัน:d

 

น่าแปลกนะคะ ดิฉันมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องต่างดาวและชีวิตนอกพิภพมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ชอบอ่านชอบดูเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และความลึกลับต่างๆ และยังจำความฝันได้แม่นยำเมื่อประมาณ อายุได้ 10 ขวบกว่าๆ ว่า เห็นยานอวกาศลำหนึ่งทรงจานควำ มาลอยอยู่บนเหนือหลังคาบ้านจากนั้นก็ปล่อยแสงสาดลงมายังตัวบ้านของดิฉันเหมือนในหนังเลยค่ะ จากนั้นดิฉันก็วิ่งออกมาแหงนหน้าดูไม่รู้สึกกลัวแต่กลับโบกมือให้เค๊า จากนั้นจานบินลำนั้นก็บินหายวับไป แล้วความคิดและความรู้สึกของดิฉันก็วนเวียนเกี่ยวกับสิ่งพวกนี้อยู่ตลอด ดิฉันบ้าไปหรือเปล่าคะ

 

ขอบคุณมากๆสำหรับความกรุณาของคุณชยุต ที่ช่วยแปลข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่งครับ...ข้อมูลที่ท่านแปลนั้นช่วยในการยืนยันข้อมูลบางอย่างที่เราได้รับรู้มา...ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงตนเองได้...ดีขึ้น...เรากำลังจะเดินหน้าไปสู่ความเป็นอริยะ...มหัศจรรย์มีจริงเสมอ...การรู้ตื่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเรา...ขอบคุณมากครับ

 

ขอคิดด้วยคนค่ะ

ความเข้าใจของดิฉันนะคะ ทางคริสต์ เรียกว่า พระเจ้าหรือพระผู้สร้าง ทางพุทธเราพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบสัจธรรม นั่นหมายถึง ธรรมชาติที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทางอิสลามก็เรียกว่าพระอัลลาห์ ทั้งหมดทั้งปวงดิฉันคิดว่า ก็คือพระเจ้าองค์เดียวกันที่ทรงดำรงอยู่ก่อนที่จะเกิดสรรพสิ่งทั้งปวง พระศาสดาของศาสนาที่กล่าวมาอาจจะเป็นนักรบจากระบบสุญญตาลงมาเกิดเพื่อบรรลุภารกิจกู้โลกใบนี้ก็ได้นะคะ แต่มนุษย์เราที่เหลือส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการเปิดตาที่สามอันจะนำพาตัวเองไปสู่ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมแท้ก็ได้นะคะ นี่ก็อีกความคิดหนึ่งของดิฉันคือ ศาสดาทั้งสามพระองค์ทรงค้นพบความลับของจักรวาลและท่านจึงได้นำเอาสัจจธรรมที่ได้มาเปิดเผยเป็นคำสั่งสอนเพื่อมุ่งสู่จุดหมายอันเดียวกันใช่ไหมคะ นั่นคือ ความรักความเมตตาต่อกัน โลกจึงจะเกิดสันติงัย
ท่านใดขัดแย้งกับความคิดดิฉันไม่เป็นไรนะคะ ถือว่าเราเคารพความคิดของกันและกัน แต่ดิฉันคิดว่าความคิดของดิฉันเป็นบวกต่อโลกนะคะ อิอิ :d

 

เพิ่งนึกออกว่า ตอนมัธยมปลาย เคยฝันว่ามี UFO มาบินอยู่เหนือศีรษะตั้งนาน...

(แต่ตอนนั้นเอาไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟังเค้าให้ไปแทงหวยค่ะ)

^___^

 

ขอขอบมากที่สุด ที่คุณชยุตเผยแพร่เรื่องนี้ aqua-ma-rine เป็นคนราศี Aquarius



ขอแสดงความเห็น อ้างอิงจากความเชื่อบวกจินตนาการส่วนตัว ที่เชื่อมโยงมาจากกระทู้นี้

http://palungjit.org/threads/มนุษย์ถูกสร้างโดยผู้มาจากอวกาศ.233232/

คิดว่า มนุษย์โลกที่จะถูกพาไปจากสถานการณ์คับขัน ด้านภัยธรรมชาติร้ายแรงในอนาคต น่าจะเป็นมนุษย์ที่อยู่ในโครงการทดลองของมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืด

แต่มนุษย์โลกในโปรเจ็ค ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในโครงการ และถูกทำอะไร ยังไงบ้าง ตอนไหน?

เพราะว่าถูกทำให้ลืม (บางทีคนรอบข้างที่บังเอิญรู้เห็นเหตุการณ์ ก็อาจจะถูกทำให้ลืมด้วย)

อยากให้คนที่สนใจ ดูหนังเรื่อง fourth kind เพราะถูกสร้างมาจากเรื่องจริง

 

ดิฉันอ่านไปก็รู้สึกถึงภัยพิบัติเริ่มเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที และเมื่อเร็วๆ นี้ ภูเขาไฟใต้ภูเขาน้ำแข็งที่ประเทศ Iceland เกิดระเบิดขึ้นในรอบ 200 ปี นั่นหมายถึงสัญญาณเตือนอีกสัญญาณหนึ่งใช่ไหมคะ ดิฉันได้ลองทำจิตให้สงบและสวดวิงวอนพระเจ้าที่คุณชยุต ได้ให้ไว้ ทำไมดิฉันมีความรู้สึกว่าขนหัวลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ ขอพระเจ้าและสิ่งศักดิ์ทั้งหลายได้โปรดเมมตตาประทานอภัยแก่ลูกและชาวโลกผู้โง่เขลาด้วยเถิด;aa51

 

อุ้ยยยยยยยยยย โดน เจอบ่อยมาก 1:11 11:11 22:22 21:12 12:12

บางวันเจอ 11 ตั้ง สอง สามครั้ง ยังคิดในใจเลย เอาไปซื้อหวยดีไหมหนอ

 

เบื่อจังมีเเต่ตีตัวเลข เฮ้อ

 

เดี๋ยว เรามาอ่านเรื่องแปลกๆกันต่ออีกนะครับ

ซึ่งพออ่านดูแล้ว ก็ลองเปรียบเทียบกับทางพุทธเราดูนะครับ
มันน่าทึ่งมากๆ...

แต่ก่อนอื่น ขอโพสต์ข้อความเกริ่นให้ทราบก่อนนะครับ
เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันจึงจะมี 2 ตอนครับ

..........................................
​

<!-- google_ad_section_end --> __________________

 

ถ้าใช้ IE เข้าไม่ได้เหมือนกันจ้า error จ้า
แต่ ถ้าเปิดหน้า net จาก Firefox โพสต์ได้ อ่านได้ ปกติจ้า

 

ที่มา : หนังสือชื่อ The Divine Cosmos
โดย : นาย David Wilcock

จากเวปไซท์ : http://divinecosmos.com/
...................................................................

ตอนที่ 1 :งานวิจัยชิ้นนี้ได้ใช้การหยั่งรู้เข้ามาร่วมด้วย


เนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือเล่มนี้ จะไม่ถูกนำมาลงไว้ หากว่ามันยังไม่ได้ถูก “ไปดูให้เห็นกับตามาก่อนแล้ว”

เพราะว่าถ้าแค่พิจารณาข้อมูลใดๆ ด้วยเหตุผลแบบด้นๆเดาๆเหมือนทั่วๆไปหละก็
มันก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลขึ้นมาได้ในภายหลัง จนนับไม่ถ้วน...

(นักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ ก็รู้อยู่เต็มอกว่า เหตุการณ์แบบนี้มันได้เกิดขึ้นกับทฤษฎี
หรือแบบจำลองเรื่องต่างๆที่พวกเขาพากันตั้งขึ้นอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยที่จะหันมาให้การยอมรับ
วิธีการที่ใหม่กว่าแบบนี้เลย แม้ว่าวิธีการใหม่ที่ว่านี้จะสามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาได้ดีกว่าก็ตาม

แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่นำสิ่งที่มันไม่สามารถจะอธิบายหรือเข้าใจได้โยนทิ้งไป
เช่น เรื่องพลังจิตเป็นต้น แบบจำลองนั้นๆก็นับว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่)


ในงานวิจัยของพวกเรา หากว่าจะต้องแก้ไขปัญหาใดๆแล้วหละก็ พวกเราก็จะเริ่มต้นด้วย
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วก่อน จากนั้น ก็จะไปดูมันให้เห็นกับตาในมิติที่สูงกว่า
ด้วยการ “ฝัน” และ “การเข้าฌาน” เพื่อจะได้รู้ว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เหล่านั้น มันเป็นอย่างที่ว่านั้น
ในมิติที่สูงๆกว่าด้วยหรือเปล่า

ตัวอย่างเช่น การศึกษาเรื่อง “แรงโน้มถ่วง” แทนที่เราจะมานั่งคิดเดาเอาเองว่า
มันน่าจะเกิดจาก แรงดึงดูดจากใจกลางโลกเพียงสาเหตุเดียว แต่มันก็ยังสามารถเกิดจากพลังงานจากภายนอกโลก
ที่หลั่งไหลลงมาสู่โลกจากทุกทิศทุกทางได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น ในช่วงต่อไป คุณจะได้เห็นว่าแรงโน้มถ่วงมันมีพฤติกรรมเช่นนั้นจริงหรือไม่


เมื่อเราได้คำตอบของแต่ละปัญหามาแล้ว มันก็มักจะมีการค้นพบเรื่องที่น่าทึ่งและไม่เคยรู้มาก่อนตามมาด้วยเสมอ

เช่น ในกรณีของการศึกษาเรื่องแรงโน้มถ่วง ยังนำมาซึ่งบทเรียนใหม่ที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
แท้ที่จริงแล้ว “โลกกำลังหายใจอยู่” ดาวเคราะห์โลกกำลัง “หายใจเข้า” เอาพลังงานใหม่
จากทุกสรรพชีวิตบนโลกเข้าไป แล้วแปรเปลี่ยนพลังงานเหล่านี้ไปเป็นสสาร หรืออะตอมและโมเลกุลของมัน
จากนั้นก็ “หายใจออก” ปลดปล่อยพลังงานออกไปสู่อวกาศ

เรื่องนี้ทำให้เรามีทางที่จะแก้ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับควอนตัมพิสิกส์ได้ด้วย เพราะว่าเมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว
เราก็จะเข้าใจด้วยว่า ทุกๆอะตอม และโมเลกุล ก็ใช้วิธีดูดเอาพลังงานจากสรรพชีวิตเข้าไป ด้วยวิธีเดียวกันนี้นั่นเอง


ความรู้นี้ ได้มาจากระดับจิตวิญญาณของหลายคน เช่น John Keely, Edward Leedskalnin,
Dr. Walter Russell และ Dr. Nikolai Kozyrev ซึ่งพวกเขาแต่ละคน ได้แก้ปัญหา
ในเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ให้สำเร็จลงได้

(ยังมีต่อครับ)
.....................................

<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

จากข้อความข้างบนนี้ ถ้าให้ผมสรุป จากข้อมูลที่ผมรู้มา
บวกกับข้อความข้างบนนี้หละก็ ผมก็จะบอกว่า...

1). สวรรค์ชั้นต่างๆ และรวมถึงพรหมโลกด้วย ตามนัยยะของพุทธ
ทั้งหมดนี้ เป็นระนาบๆหนึ่ง หรือเป็นเปลือกหุ้มหัวหอม ชั้นหนึ่ง
ที่ยังอยู่ภายในขอบเขตของดาวเคราะห์โลกนี้เองเท่านั้น

2). ส่วนพวกต่างดาว หรือ ต่างมิตินั้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
เพราะพวกนั้นจะอยู่นอกขอบเขตของดาวเคราะห์โลกของเรา




.........................................<!-- google_ad_section_end -->

 

พอดีกว่า แก้ไปแก้มาเดี๋ยวยุ่งไปกันใหญ่ครับ

ตอนนี้ IE ก็ดูได้แล้ว มีรูปใหญ่ๆด้วย
ส่วน Firefox เห็นแต่รูปขนาดเล็กครับ

........................................

 

เมื่อวานเข้ามากก็งงว่าทำไมถึงค้างเหลือแต่ตอนที่ 2

วันนี้ก็ได้อ่านบทความทั้ง 2 ตอนได้แล้ว

 

สุดยอด
ไม่เคยนึกเลยว่าจะมีขอมูลแบบ #927, #928อยู่

น่าสนใจมั่ก ๆ มันช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นอีกมากโข

ขอบคุณ ทั้งผู้ค้นคว้าทดลอง และ ผู้แปล/นำมาแบ่งปัน ครับ

 

ทำไมผู้บัญชาการหน้าเหมือนทางฝรั่งทุกคนเลย ไม่เห็นเหมือนคนเอเชียสักคน แต่อ่านไปอ่านมาเหมือนคริสต์ยังไงก็ไม่รู้ งง

 

“- ชาวโลกที่ได้รับ “แสงสว่างนั้น” (The light) จะมีการยกระดับทางกายเนื้อไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลก
ซึ่งจะก้าวหน้าไปสู่ระดับการสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 และ <O</O
<O</O
การตัดสินว่าใครจะได้ยกระดับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้นเองไม่ใช่จะมีใครไปตัดสินโดยพละการให้ได้
เพราะมันขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแต่ละบุคคลซึ่งได้สมัครใจเลือกที่จะเป็นแสงสว่างหรือความมืดเอง
ผู้ใดที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่างก็จะได้ยกระดับขึ้น<O</O
- การยกระดับขึ้นของแต่ละบุคคลคือการรวมจิตสำนึกและวิญญาณของคนๆนั้นให้เป็นหนึ่งเดียว

- ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ จิตสำนึกโดยรวม (The Collective Consciousness)
จะยังคงได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งความมืดที่ยังหลบซ่อนและแอบซุ่มโจมตีอยู่
<O</O
- ชาวโลกคนไหนที่จมปรักอยู่แต่ในโลกมืดมีความโหดเหี้ยมไร้จิตสำนึก กระหายอำนาจ จะต้องตายไปจากโลกนี้
และเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นปราศจากพลังงานแห่งแสงสว่างที่เป็นพลังชีวิตของวิญญาณที่สำคัญ
ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจะตายส่วนวิญญาณของพวกเขาจะดิ่งลงไปสู่ระนาบต่างๆที่มีระดับพลังงานหนาทึบมากๆ
ที่เหมาะเจาะกับรูปแบบพลังงานที่ถูกบันทึกไว้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา
<O</O
- พลังงานความคิดและความรู้สึกของพวกคุณมันไปส่งผลเสียต่อจิตสำนึกมวลรวมของจักรวาล
นี่จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาลมากมาย
จึงพากันปรารถนาดีและกระตือรือร้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกคุณให้โลกของพวกคุณมีสันติสุข
รักใคร่กลมเกลียวกันอย่างที่พวกคุณปรารถนา
<O</O
- ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆและกำลังเข้าสู่ระนาบ
ที่มีระดับการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง<O></O
<O</O
- การสื่อสารทางโทรจิตระหว่างมนุษย์โลกบางคนกับอารยะชนเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมานานแล้วกำลังเกิดขึ้นอยู่
อ้างอิงจากบทความแปลของคุณชยุต<O
หากสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ... ครั้งหนึ่งเคยไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่สามารถไปได้ค้วยกายเนื้อในปัจจุบัน หากแต่มิติที่ซ่อนอยู่ได้นำพาไป มี3สิ่งที่ได้นำกลับมา ดอกไม้ที่มีความหอมอย่างพิเศษ... เมตตา และอภัย ... ท่านว่าจงเก็บไว้กับตัวเจ้าตลอดไป...........................เรามอบให้เจ้าแล้ว เราเองก็มีเช่นกัน .........<O</O<!-- google_ad_section_end -->