การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลาคือ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 3 กันยายน 2021.

  1. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ความเป็นเช่นนั้นเอง ไม่ต้องรอไปถึงจิตพุทธะหรอก ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ พอจิตมันเห็นรูปนามเป็นมายาขึ้นมาบ้าง มันจะรู้ว่าเราอยู่ท่ามกลางความสูญเสีย ไม่ใช่สูญเสียแบบรอแก่ รอตาย แต่สูญเสียในทุกขณะเลย

    แถมยังอยู่ท่ามกลางความหลง ของโลภ ของโกรธ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นอีก คือเจอศึกหนักมาก ..ถ้าไม่ฝึกจะไม่เห็นความน่ากลัวตรงนี้เลย มันจะเป็นแต่ธรรมพยักหน้าตามเขาว่าไปเรื่อย

    เมื่อจิตรู้ว่าเราอยู่ท่ามกลางความสูญเสีย และต้องเสียของรักในครอบครัวไป จิตมันจะยอมรับ ไม่อาลัยอาวรณ์ (ไม่ใช่ใจดำ) ไม่ใช่ร่างกายน้ำตาไหลแต่ใจยิ้มสวนทางกัน แต่มันจะมองเป็นธรรมดาเช่นนั้นเอง เพราะไตรลักษณ์เขาทำงานเสถียรแบบนั้นแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่จิตเรามันหลงไม่เคยรู้ < ความรู้สึกนี้จะเข้มแข็งขึ้น ถ้าฝึกไปเรื่อยๆ
     
  2. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    สรุป.........

    ถ้าแค่ประเด็น.....รู้กายใจ
    ไม่ถกกันยาวขนาดนี้จริงไหมครับ
    พูดให้มันดูดีเกิ๊น.....
    อย่าทำเป็นนางเอก...นักเลย....
    รอให้ใครโอ๋อยู่หรือเปล่า...
    ทั้งที่....ประเด็นมันเยอะแยะ

    มรรคที่ผมอธิบาย...
    ของพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น
    เห็นผมอธิบายไม่ได้.....
    แจ๋นๆรีบมาค้าน....
    ....แต่สุดท้าย
    ทำได้แค่....วิจารณ์ว่า...ผมยึดติดมรรค

    พอลงไปในเนื้อธรรม...วิจารณ์ไม่ออก
    ....ว่าผิดตรงไหน
    แต่ใจมันอยากจะค้าน...
    ......มันเลยรีบแจ๋นๆ
    กระโดดเข้ามางับเองทั้งนั้น....

    .....กระทู้นี้..ก็บอกให้ดูแล้ว...
    ว่ายืนกันตรงไหน...
    ไอ้ที่ทำอยู่.....มันแค่เริ่ม
    สร้างผู้รู้....แล้วมาทำลายผู้รู้

    พอบอก....มรรคของพระพุทธเจ้า...
    ...ผู้รู้ไม่สามารถตั้งขึ้นได้...ตั้งแต่แรก
    ก็รีบแจ๋นๆ....."อย่ายึดมรรคค๊าาา"

    พอบอกว่า...ที่พวกคุณทำกันอยู่
    ถ้าไม่มีวิหารธรรม...
    ระหว่างเดินทางจะเผลอสร้างอุปทานในรู้นะ
    ชี้ให้ระวัง...
    ....ก็ยังแจ๋นๆ
    "ไม่หรอกค๊าาา...
    เดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวถึงปลายทางเอง"

    ....โลกสวย
    ทำยังกะว่าไม่ต้องแก้อารมณ์
    เก่งกว่าลป. ลพ.ทั้งหลาย

    ทั้งที่ไม่นานนี้ยังเล่าๆ....
    เที่ยวถามคนโน้นคนนี้....ยังไงต่อค๊าาา
    อุ๊ยหายไป...ทำไงดีค๊าาา...

    วันนี้มาบอก
    รู้เรื่อยๆ.....เรื่อยๆๆๆๆ
    เดี๋ยวถึงปลายทางเองค๊าาา
    ......ทำเหมือนรู้มรรค....

    พอผมบอกทางไปต่อให้....
    ค่อยๆไปดูที่เหตุมัน....
    อะไรทำให้เกิดอารมณ์จิต...
    แล้วจะขมวดไปเห็น...ผู้รู้,วิญญาน

    "ไม่หรอกค๊าา....รู้ไปเรื่อยๆก็พอ....
    เดี๋ยวมันมาเห็นจิตเอง....รู้กายรู้ใจไปเรื่อยๆ
    เรื่อยๆ....เรื่อยๆ

    ถ้าจะให้ผมขิง...แบบไม่เกรงใจ
    คุณไม่ต่างจากคนปิดตา....เดินออกจากป่า
    จูงก็แล้ว...ลากก็แล้ว..
    ......ไม่ๆฉันจะคลานไป

    คลานไปเฉยๆไม่ว่า....ยังชวนผมที่ถือแผนที่
    ....."มาคลานด้วยกันไหมค๊าาา"
     
  3. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ข้าพเจ้าตอบมรรคคุณได้ ....แต่คุณไม่เข้าใจทางของกายคตาสติ

    แต่ข้าพเจ้าเข้าใจอานาปานสติของคุณ เพราะฝึกผสม มีอานาฯอยู่ตลอดตั้งแต่เริ่มแรกด้วย

    ผู้รู้คือขั้นสุดท้าย ที่จะสำเร็จอรหันต์ ...ตัวปํญญาต้องกล้ามาก ถึงเจอกันได้แบบไม่เพ่งกดความคิดแบบเพ่งเข้าชานไปเห็น

    ไม่มีใครสร้างมันขึ้นมาหรอก มันอยู่กับจิตมาแต่เริ่มเลย แค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจการมีของผู้รู้เลย
     
  4. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    มันเป็นธรรมดา...ที่ใครจะตอบมรรคผมได้
    แจกแจงมาซะขนาดนี้...
    อธิบายแทบจะทุกแง่มุม...
    ....ที่จะปัญญาผมนี้มันจะอธิบายได้

    แต่อ่านดูให้ดีเถอะ
    https://pantip.com/topic/32030228

    นี่ล่ะคืออานาปนสติ....ตามคำพระพุทธเจ้า
    กล้าพูดได้เต็มปากครับ
     
  5. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    อันนี้เจตนาคือเหน็บแนมอย่างเดียวเนาะ
    คุณคงไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร

    อีกแล้วแนนบอกตรงไหนว่าคุณยึดติดมรรค…
    บอกแต่ว่า คุณน่ะ …ยึดติดรูปแบบ
    แล้วพยายามบังคับให้ให้อื่นมาทำตามวิธีที่คุณพอใจ
    ซึ่งวิธีมันหลากหลายตามความถนัดนะคุณ
    วนๆแบบเดิม แปลงข้อมูลคนอื่นแบบเดิมๆ
    ย้ำนะคะ ว่าแนนค้านคุณ
    เพราะคุณบอกห้ามไปดูนามธรรม
    ต้องดูลม แบบคุณ บลาๆ

    ไม่เคยค้านสิ่งที่คุณทำ คุณทำแล้วจิตมันดี แยกรูปแยกนาม เห็นกายใจชัดเจน ทำไปเลย อนุโมทนาด้วย

    แต่ส่วนที่ แย้ง เพราะคุณบอกไม่ให้ดูนามธรรมตรงๆ…
    ทั้งเรื่องสติ เอย อุเบกขาเอย ฌานพุทธ เอย…มีเรื่องชวนสับสนหลายเรื่องค่ะ บอกตรง
    คุณกำลังจะบอกว่า คุณทำลายผู้รู้เรียบร้อยแล้ว?

    ดีใจด้วยค่ะ คุณถ้าคุณไม่อรหันต์ ก็ เสียสติ แล้วค่ะ

    มั่ว
    แค่กำหนดรู้ ไม่มีอะไรต้องไปแก้
    ยกเว้นว่าแค่กำหนดรู้ก็ยังไม่เป็น
    กี่เดือนแล้วคะที่แนนถามเรื่องนั้น
    ไม่คิดว่าคนอื่นจะได้ปัญญาเพิ่มขึ้นหลังจากนั้นบ้างหรอ
    รู้สึกจะติดใจแต่เรื่องเก่าๆ ขุดมาพูดจิงจัง
    มิน่าถึงติดใจสภาวะเก่าตัวเองไม่เลิก
    ฉายซ้ำเป็น 10 ปี

    อย่าคิดว่าคนอื่นจะปัญญาค้างโดนดองเหมือนกันกับคุณสิคะ

    จะพูดอะไรก็พูดได้
    แต่ก็ไม่สู้ ทำเองรู้เอง เห็นเอง

    คุณภาวนาให้ถึงจุดนั้นก่อนแล้วค่อยมาถกกันใหม่
     
  6. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    หมูบอกว่า

    การเตรียมกำลังใจ และการวางจิต
    1. ผู้ปฏิบัติพึงสำรวจตนเอง ถึงอินทรีย์ 5 และ พละ 5 ของตน คือ ดูกำลังใจของตน ที่จะเพียรเพื่อความ
    ความหลุดพ้นมีมากแค่ไหน ผู้ปฏิบัติพึงหวังว่า "เราปฏิบัติเพื่อละวาง เพื่อความพ้นทุกข์" ไม่ใช่เพื่อ สะสมบุญ
    บารมี เพื่อไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม โดยตั้งกำลังใจว่า "อานาปาสติที่เราเพียรนี้ เพื่อมรรคผลนิพพาน
    " และทำกำลังใจว่า "ไม่มีทางใดแม้ซักทางอย่างเช่นการวอนขอสิ่งศักดิ์จะทำให้พ้นทุกข์ได้จริง นอกจากหนทางนี้
    คือ มรรคมีองค์ 8 ที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว" ถ้ากำลังใจของนักปฏิบัติเป็นอย่างนี้ สังโยชน์ในข้อ "สีลัพพตปรามาส"
    นั้นได้ถูกละลงได้ชั่วคราว


    ................................................



    ศีลพตปรามาส มันมีอยู่แล้ว ไม่ได้เรียกว่าละได้ชั่วคราวหรอก
    จะไปกลัวทำม๊าย ผลงาน ฟังดีดี ผลงานที่มันเป็นมันถึงจะทำการละไปเองอยุ่แล้ว

    คนเราทุกคนก็มีความอยาก ทะยานอยากเป้นเบื้องต้นอยู่แล้ว

    แต่ ความทะยานอยากเป็นความทะยานอยากเพื่อให้พ้นทุกข์ ท่านจึงเรียกว่า ดำริออก

    นี่เบื้องต้น

    พุทวจนะ ก็สอน อยู่ชัดเจน ธรรมทั้งปวง มีฉันทะเป้นรากเหง้า
    มันก้คือการใฝ่ดี การอยากดี แต่พวกกลบคำพระศาสดา มันก้จะไปบอกว่า อย่าไปอยาก

    อย่าไปหวัง พวกนี้ กลบคำตถาคต

    อีกอย่าง การหวังการอยากเพื่อพ้นทุกข์ มันคือ ความอยากที่เป็นมรรค

    มันคือการตั้งเป้าหมาย เป้นอธิฐานบารมี
    .............................................................................................
    หมูบอกว่า
    2. ผู้เริ่มปฏิบัติ ตั้งกำลังใจมั่นไว้ว่า
    "จะปฏิบติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยการทำอานาปนสตินี้" และมั่นใจเลยว่า
    "การหมั่นเอาสติมารู้ที่ลมนี้" (อานาปานสติ) จะทำให้ถึงพระนิพพานได้จริง... ปักความเชื่อใจลงในคำสอนของ
    "พระพุทธเจ้า"ทิ้งความสงสัยไปก่อน " ถ้ากำลังใจของนักปฏิบัติเป็นอย่างนี้ สังโยชน์ในข้อ "วิจิกิจฉา"
    นั้นได้ถูกละลงได้ชั่วคราว

    .................................................................
    คนที่มุ่งหน้าภาวนาที่จะเล่าเรียนวิธีของศาสนาพุทธ
    ย่อมต้อง มีจิตที่จะมุ่งเพื่อหลุดพ้นอยู่แล้ว จึงมีดำริเพื่อการมาเล่าเรียนวิธีการ

    พระพุทธองค์ มีแต่ สอน อย่าเพิ่งเชื่อ และอย่างเพิ่งปฏิเสธ ลองดูก่อน พิศูจน์ได้
    นี่หลักคำสอน การให้ไปปักใจเชื่อ โดยที่ยังไม่ได้ลอง ก้เรียกง่า งมงาย

    ไอ้ นี่ บังคับให้เขาเชื่อ ไม่ต่างอะไรจากการงมงาย

    พระพุทธองค์มีแต่ ลองดูก่อน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย


    ตามไปอ่านแล้ว ยิ่งเละเทะ
    ฝึกไปนั่งไล่นับมรรคไป โอ้ยยย ตายตายตาย
     
  7. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    อ่านแล้วเหมือนธรรมวิจัยมาก
    ....

    ถ้าจะเอาธรรมตามพระพุทธเจ้า ง่ายๆ เลย จิตเกิดตรงไหน ระลึกรู้ตรงนั้น วงจรปฎิจจสมุทปบาทหยุดทั้งวงล้อ ทำยังไงก้อได้ให้ผู้รู้วิชชาตั้งอยู่นานๆ ให้ได้ แทนจิตอวิชชา เอาแค่ "รู้" เท่านั้น

    ง่ายเว่อร์แค่นี้แหล่ะ ความตั้งมั่นกับอุเบกขา เป็นผลงานที่ตามมาติดๆ เอง พอตามมา ความหลงในรูปและนามจะถูกถอนออกเรื่อยๆ เอง

    อานาปานสติของหมูไหม้เป็นวิปัสสนาจริงรึ นึกว่าได้แต่กำลังจิต.. แต่จิตไปได้ไตรลักษณ์จาก อ.ประเสริฐที่พูดเรื่องอนัตตาอยู่... ถ้าจิตไม่ได้ อ.ประเสริฐ ไม่มีทางได้ไตรลักษณ์

    ...อ.ประเสริฐก้อคือตัวที่จิตของหมูไหม้ ยกอานาปานสติขึ้น แล้วพินาคำพูด อ ประเสริฐ ให้มีค่าความเป็นกลาง คือไตรลักษณ์เข้าจิตอีกทีนั่นแหล่ะ
     
  8. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    252
    ค่าพลัง:
    +23,820
    ก.PNG

    ผมขออนุญาตโพสต์แบบเกรงใจเน้นย้ำถึงอันตรายจากการรับประทาน ส้มตำปูเค็ม เท่านั้นนะครับ _/\_ ส่วนประเด็นเรื่อง “ขิง ที่พี่ @หมูไม้ละ5 ระบุไว้นั้น… หากว่าพี่ @หมูไม้ละ5 คุณบีม บางกอกใหญ่ และ คุณณุ เชียงใหม่ลองมีโอกาสได้ทาน “ขิง กับส้มตำไทย หรือส้มตำปลาร้าที่ปรุงสุกถูกหลักอนามัยแล้วนะ… รสชาติมันเข้ากันดีมากครับและยังขับลมและระบายท้องได้ดีมากด้วยครับ… ส่วนในประเด็นอื่นๆผมขอสงวนท่าที ไม่ขอก้าวล่วงวิจารณ์และออกความเห็นใดๆทั้งสิ้นครับ _/|\_

    1.PNG
     
  9. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    อ่านแล้วตลกดีนะ ปกติหมูไหม้จะมาแบบนิ่มๆ แต่พอตอบคุณแนนปุ๊บ เปลี่ยนโหมด.. มีความจิกกัดตลอด แต่ก็ยังตอบกันแบบมุ้งมิ้ง ..ฮาดี
     
  10. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    เบื้อง ต้นพระศาสดาก้สอนแค่นี้

    อานาปานบรรพ
    [๑๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกายอยู่อย่างไรเล่า?
    ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี นั่งคู้บัลลังก์

    ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า.

    เธอมีสติ หายใจออก
    มีสติ หายใจเข้า
    เมื่อหายใจออกยาวก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว
    เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว.
    เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น
    เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น.
    ..........................................
    เบื้อง ต้น คุณหมู รู้อย่างที่พระศาสดาสอนหรือยัง
    ไม่ต้องไปไหนไกลหรอก

    รู้ลมออก สั้น ยาว เอาแค่นี้ให้มันได้เถอะ

    แต่หมูไหม้ เหมารวมเลยเว้ยเฮ้ย

    แถม ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเรื่อง จิตอีกเว้ยเห้ย

    กาย(บางส่วน)
    ***การพิจารณาลมหายใจเข้า-ออก ว่า สั้นหรือยาว นั้นคือการเจริญ "สติปัฏฐานหมวดกาย" "เป็นผู้มีปกติพิจารณา
    เห็นกายในกายอยู่"

    เวทนา(บางส่วน)
    ***ในบางขณะที่ พิจารณาว่า ลมหายใจ "สั้นหรือยาว" อยู่นั้น "เกิดมีความสุข" ขึ้นในจิต ระหว่างนั้น ผู้ปฏิบัติมีสติ
    รู้ว่ามี "สุข"เกิดขึ้น นั่นคือการเจริญ "สติปัฏฐานหมวดเวทนา" "เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข หายใจเข้า หายใจออก"

    จิต(บางส่วน)
    ***ในบางขณะที่ พิจารณาว่า ลมหายใจ "สั้นหรือยาว" อยู่นั้น "เกิดความตั้งมั่นใน" ในจิต ระหว่างนั้น ผู้ปฏิบัติม
    ีสติรู้ว่า "เราเป็นผู้ทำให้จิตเกิดความตั้งมั่น" ขึ้น นั่นคือการเจริญ "สติปัฏฐานหมวดจิต" "เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็น
    จิตในจิตอยู่"


    ทั้งๆ ที่ในพระสูตร ของอานาปานะสติ ท่านไม่ได้ยกเอา เวทนา
    และจิต เข้ามาแจมเล๊ย
    ท่านแยก เวทนา แยก จิต ไว้ตะหาก

    แต่ให้ผู้ที่เจริญอานาปานะสติ เห็นชัดถึงกองลมซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกาย

    อานาปานสติ จึงจัดอยู่ในหมวดกายา

    ภาวนาแบบนี้ ไปหลอก ลุงแมว อะได้อยู่

    อะโย่วๆ หมูปิ้ง หมูปิ้ง
     
  11. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68

    โอ้ยยยย
    บีม บางกอกใหญ่ ยังคิด ว่าเขาเห็นไตรลักษณ์อีกเหรอ
    โอยยยยยยยยตายตายตาย
     
  12. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    อานาปานสติ ยกจิตขึ้นพินาเวทนาได้ รู้ที่ลมหายใจก็ได้ หรือรู้ที่เวทนาตรงที่ปวดก็ได้ จิตมันจะได้สมถะวิปัสสนาในตัว แต่ต้องทำให้เป็น
     
  13. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    เห็น.. ดูจากส่วนของการปฎิบัติ คือสภาวะที่เขาเคยได้ คำพูดจะแตกต่างจากตำรา
     
  14. ๑๓อักษร

    ๑๓อักษร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2021
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +68
    สติยังไม่รู้จัก มันจะเอาอะไรไปเห้นไตรลักษณ์

    การบัญญัติลงตำรา ก็มาจากการปฏิบัติ พูดไปขัดขาตัวเองตลอด
     
  15. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    เรื่องอานาปานสติ เวลาฝึกลมสั้น ลมยาวอะไรเนี่ยะ ลมต้องสมูทมาก ๆ หายใจสะอึกไม่ได้ อั้นลมไม่ได้ ลมมันต้องเป็นปกติมากๆ ถึงจะเป็นวิปัสสนา คาบลมพวกนี้อีชั้นฝึกอยู่ จิตมันจะออกไปกับลมได้ ...ก้อเป็นเรื่องของสภาวะบางอย่าง

    ของหมูไหม้ ไม่รู้ฝึกลมสั้นยาวยังไง
    เรื่องไตรลักษณ์ตอนนั้น เขาได้จาก อ ประเสริฐ น่าจะพูดธรรมในระดับเดียวกับจิตตั้งมั่นของเขาที่มีอยู่แล้ว เลยทะลุมา 1 ชั้น
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    อันนี้บางทีตัวเองก็เป็น คือเพ่งมาก ข่มจิตมากไป มันจะเผลอไปฝืนลมบังคับลมไปด้วย สุดท้ายต้องทำตัวเป็นผู้รู้ลม เห็นจังหวะของลมไปเฉยๆ เห็นจังหวะพุงกระเพื่อมอยู่แบบนั้น สักพักมันจะรู้ทั้งตัว เห็นตัวเองทั้งตัวไม่ใช่เห็นแค่ลม
    แล้วทุกอย่างมันจะสมูธเป็นธรรมชาติ
     
  17. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    ผู้ใดถือศีล๕ ผู้นั้นย่อมพึงจำแสงนี้ได้ ไม่ทำตนให้สุขสบายในกามราคะ ไม่ทำตนให้ลำบากในอรูปราคะ ทางเข้าถึงรูปราคะและดับรูปราคะ คือทางสายกลาง ปัญญาชอบ คิดชอบ พูดชอบ...ตั้งจิตชอบ

    "ธรรมิกราช"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2021
  18. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    มหาสติฐาน๔ ผู้ใดพึงทำได้มาก เจริญได้มาก ย่อมเข้าถึงทางแห่งบิดาตน มารจักไม่เห็น ไม่ถูกฆ่าด้วยมาร

    "ธรรมิกราช"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2021
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อินทรีย์ 5 เป็นหลักธรรมที่คู่กับ พละ 5

    • สัทธินทรีย์ เปรียบเสมือน การหาภาชนะดีๆมาใส่น้ำ
    • วิริยินทรีย์ เปรียบเสมือน การเติมน้ำสะอาดแทนน้ำสกปรกเสมอ
    • สตินทรีย์ เปรียบเสมือน การระวังไม่ให้สิ่งใดหล่นใส่ในน้ำ
    • สมาธินทรีย์ เปรียบเสมือน การถือภาชนะใส่น้ำไว้นิ่งๆและไม่ให้สิ่งใดมากระทบกระเทือนให้หวั่นไหว
    • ปัญญินทรีย์ เปรียบเสมือน การเห็นนำสิ่งสกปรกออกจากน้ำ
    เมื่อสติ คือความระลึกได้
    มีความกำลังความว่องไว หากมีสิ่งใดจะหล่นใส่น้ำก็ปกป้องได้ทันท่วงที
    ท่านใดมีอะไรหล่นใส่น้ำกันบ้างหรือเปล่าฮับ
     
  20. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    หากสิ่งสกปรกเหล่านั้นเป็นอารมณ์ราคะ (ราคะมีตั้งสาม) กำลังปัญญาเห็นด้วยตาเนื้อก็ช่วยไม่ได้ แม้แต่ปัญญาเห็นด้วยตาใจก็เอาไม่อยู่ เหลือปัญญาตาสุดท้ายเท่านั้น เป็นแสงสุดท้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2021
  21. นาฬิเกร์

    นาฬิเกร์ อดทนชนะใจตน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2020
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +408
    ผู้ใดเล่นตาสุดท้ายได้ ผู้นั้นเห็นความจริง ชนะแล้วในธรรมทั้งปวง ราชาแห่งธรรม

    "ธรรมิกราช"
     

แชร์หน้านี้

Loading...