การมีคู่คือการมีทุกข์ จริงหรือ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย จิตปรุง, 13 สิงหาคม 2010.

  1. Pongroch

    Pongroch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,479
    ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ถ้าคู่เราที่อยู่ด้วยกันช่วยเหลือ เกื้อกูลกันดีก็เป็นคู่แท้ของเราน่ะค่ะ
     
  2. ตรีเพชร์

    ตรีเพชร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +528
    การมีคู่เป็นทุกข์แน่นอน เหตุผลก็เช่นเดียวกับกัลยาณมิตรทุกท่านที่ให้ธรรมทานชี้ทางสว่างมา ผมเห็นทุกข์นี้มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ก่อนคิดว่าการมีคู่การมีครอบครัวเป็นของดี กระทั่งได้ศึกษาพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงยืนยันว่าการมีคู่นั้นเป็นทุกข์ เช่นพุทธพจน์ที่ว่า "อ-ภริยา ปรมา ลาภา ความไม่มีภรรยาเป็นลาภอันประเสริฐ"

    ขอให้เจริญในธรรมครับ :d

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    การมีคู่ครอง ย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ครับ เป็นเรื่องปกติของการใช้ชีวิต แต่หากทั้งคู่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ย่อมมีความเข้าใจกัน ช่วยเหลือกัน และสามารถประคับประคองชีวิตคู่ไปได้อย่างสบาย
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]
    การมีคู่ ย่อมมีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป
    เป็นไปไม่ได้ ที่จะทุกข์อย่างเดียว หรือสุขอย่างเดียว
    วิธีการทำให้ความทุกข์จากการมีคู่เบาบางหรือมีน้อยที่สุด
    ย่อมต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายค่ะ
    รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
    มีความเอื้ออาทร
    เข้าใจธรรมชาติของเขา และให้อภัย
    ...
    สารพัด
    การมีชีวิตคู่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
    ไม่มีทฤษฎีตายตัว
    หากจะมีคู่
    ต้องเลือกคู่ชีวิตโดยใช้เหตุผล และปัญญานะคะ
    เพราะความรัก อาจจืดจางได้ เมื่อเวลาผ่านไป
     
  5. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ไอ้ที่คำว่ามีสุขนั่นแหละ มันไม่จีรัง ถ้ามีสุขจริง พระท่านก็คงไม่ออกบวชหรอก อยู่ครองเรือนไปนั่นแหละ.... เฮ้อ
     
  6. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    จริงจ้า .............

    เราน่ะ อยากลาออกทุกตำแหน่งเลย

    ตำแหน่งเมีย ก็อยากลาออก
    ตำแหน่งแม่ของลูก ก็อยากลาออกวันละหลายรอบ
    ตำแหน่งลูกของแม่ ก็เบื่อๆๆๆแบบว่าต้องรับตำแหน่งนี้ไปจนกว่าใครจะตายกันไปข้าง

    ตำแหน่งหน้าที่การงาน ก็ ต้องทนทำไปเพื่อปากท้องของคนอื่นและ ตนเอง

    กรรมที่ต้องเกิดมาเป็นคน
     
  7. eMuay2010

    eMuay2010 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +60
    ตอนนี้ดิฉันเป็นอย่างข้างบนว่าแล้วค่ะ ^^
    ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละบุคคลค่ะ ถึงอย่างไร หากเรามีความเข้าใจในสัทจธรรมแล้ว....การจะมีคู่หรือไม่มีคู่ ก้ไม่สำัคัญเท่าการ ปฎิบัติตน เพื่อให้ถึงการหลุดพ้น จากวัฏฏสงสาร ค่ะ

    เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้ค่ะ
     
  8. onekisswithlove

    onekisswithlove Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +57
    เห็นด้วยค่ะ และตั้งใจจะไม่ขอเจอคู่ หรือสร้างครอบครัวกับใคร เพราะเห็นตัวอย่างจากพ่อแม่ตัวเอง ที่อยู่กันมาสิบกว่าปีก็ยังเลิกกันได้เลย หรือจากคำบ่นของคนรอบข้างก็แล้วแต่ ทำให้เรานึกเบื่อหน่าย และเข้าใจจริงๆแล้วว่าทำไมการมีคู่ถึงเป็นทุกข์ ตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กแล้วตอนนี้ก็ 25 แล้วค่ะ คิดไว้ว่าจะทำให้ได้ตลอดไป:cool:
     
  9. supinya_love

    supinya_love สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +14
    จริงค่ะ คนๆเดียวก็แบกขันธ์5 สองคนก็แบก10ขันธ์ค่ะ เพราะห่วงกัน
     
  10. samaice

    samaice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ไม่ลองไม่รู้ ทุกอย่างมีทั้งสุขและทุกข์ ไม่มีก็ทุกข์ มีก็ทุกข์ มีก็ สุข ไม่มีก็สุข จากคนลองแล้ว
     
  11. Canetion

    Canetion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +2,026
    ขอเลือก สุขอย่างโสดดีกว่า ไม่ต้องเป็นทุกข์


    รักใครไม่ได้หรือไม่มีใครรัก ก็รักตัวเองดีกว่า ^^

    :VO
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2010
  12. simmie

    simmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +820
    อยู่คนเดียวมี 5 ขันธ์...เพิ่มอีกคนก็เป็น 10 ขันธ์
     
  13. วัดชรา

    วัดชรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +2,669
    :cool:การมีคู่คือ การนำสิ่งที่เราไม่ชอบออกมาตีแผ่ให้เราเห็นและสัมผัสด้วยกาย วาจา ใจ เป็นเนื้อนาบุญอย่างหนึ่งที่ทำให้เราจะต้องมีความอดทน อดกลั้น คนที่มีคู่(อย่างเรา) จงภูมิใจเถิดว่า "โชคชะตากำหนดให้เรามาบำเพ็ญบารมีอันสูงสุดดดดด..." ถ้าเราผ่านขั้นตอนนี้ไปได้อย่างราบรื่น ชาติหน้าก็ปราถนาพระนิพพานได้เลย "อันนี้ให้กำลังใจกันเองครับ:':)':)'(
     
  14. foundman

    foundman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +734
    คุณธรรมต่างกันอยู่ด้วยกันก็เป็นทุกข์
    ศีลต่างกันอยู่ด้วยกันก็เป็นทุกข์
    จุดมุ่งหมายต่างกันอยู๋ด้วยกันก็เป็นทุกข์
    >.<
     
  15. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    อนุโมทนาครับ

    เสริมหน่อยนะครับ การมีคู่ไม่ไช่ ทุกข์อย่างเดียวนะ

    เหม็นอีกตั้งหาก อุจาระกองเดียว ก็เหม็นอยู่แล้ว

    เอาอุจาระสองกองมาผสมกัน

    ถามนะ? ว่ามันเหม็นน้อยลง หรือเหม็นเพิ่มขึ้น?

    แล้วคนที่สำผัสความเหม็น ถามว่า ชอบใจ หรือไม่ชอบใจ

    อาการที่ไม่ชอบใจ มันเป็นอาการ ของความสุข

    หรือความทุกข์.................................
     
  16. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    เป็นคนหนึ่งที่มีคู่แล้วนะคะ ..เลยขอออกความเห็นตามประสบการณ์ที่ตนเองได้สัมผัสมา
    คู่ครองจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องเวรกรรมของแต่ละคน คงไม่มีใครอยากได้คู่ที่ไม่ดี ตอนหาก็คิดแล้วคิดอีกเลือกแล้วเลือกอีก แต่ผลลัพธ์ก็ไม่เป็นดังใจเสมอไป แล้วแต่เวรกรรมที่เคยสร้างสมกันมา เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ว่าคู่ของเราจะมีคุณธรรมเสมอกันหรือไม่ นั่นเอง
    คู่ที่มีคุณธรรมเสมอกัน และไปในทางที่ดี ที่สูงขึ้น จะอยู่กันอย่างมีความสุขกว่าคู่อื่น เพราะจะพากันไปสู่ชีวิต ที่ดีขึ้น ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เรียกว่า เกิดมาสร้างบุญร่วมกัน ชีวิตมีการพัฒนาไปในทางที่ดีย่อมเป็นประโยชน์
    ไม่ว่าใครก็อยากมีคู่ที่ดี คิดว่า ถ้าใครคิดมีคู่ ควรสร้างกรรมดีเอาไว้ เป็นต้นว่า ไม่หลอกลวงคนอื่นให้เจ็บช้ำ ไม่หลอกให้รัก (เดี๋ยวเขาจะตามมาเอาคืนทีหลัง) ดูแลคู่ของตนให้ดี ให้เขามีความสุขเท่าที่จะทำได้ ซื่อสัตย์ต่อกัน
    ไม่ว่าจะมีคู่ หรือไม่มีก็ดี ชีวิตย่อมมีทั้งสุขทุกข์ เกิดมาชีวิตก็ทุกข์แล้ว เรียกว่า เกิดมาใช้เวรกรรม หากคิดได้ว่าจะไม่มีคู่ เป็นการตัดเวรกรรมไปอีกทางหนึ่ง (ดูแลตัวเองให้ดี ก็พอ) และมีความสุขได้แบบตัวคนเดียว สันโดษ สงบจริง หากปฏิบัติได้ ก็จะก้าวพ้นธรรมชาติของมนุษย์ ที่กำหนดให้เราต้องใฝ่หาคู่ ด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ แต่มนุษย์เรามีความสามารถ ที่ฝ่าฝืนกฏแห่งธรรมชาตินี้ไปได้ เพราะเรามีความคิด และมีพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ชี้นำทางค่ะ

    ขอให้มีความสุขทั้งคนมีคู่ และไม่มีคู่ค่ะ ดีทั้งสองแบบ พอใจในสิ่งที่ตนมีค่ะ
     
  17. สังสารวัฏ

    สังสารวัฏ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +5,382
    เป็นไปตามวิบากกรรมเวร หรือบุญวาสนาบารมี ของแต่ละคนละมั่งคะ
    บางคู่ก็มาเสริมบารมีกัน...พากันทำบุญมีความสุขกันไป
    บางคู่ก็เป็นคู่เวรคู่กรรม...ห่ำหั่นให้เจ็บปวดกันไป

    แต่ไม่ว่าจะยังไง การเกิดมาบนโลกนี้ก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น
    ทุกข์มากทุกข์น้อยก็ว่ากันไปตามกรรม
    คิดเสียว่าทุกสิ่งที่ต้องประสบพบเจอ เป็นธรรมดาของโลก..เป็นธรรมชาติ
    ทำจิตทำใจไม่ต้องให้เกิดกันดีกว่าค่ะ .. นิพพานัง ปรมัง สุขัง (^_^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2010
  18. tumsokpho

    tumsokpho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +469
    ความโศกเกิดจากความรักครับ
     
  19. wattanadist

    wattanadist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ทำกิจให้จบ...กระแสกรรมนำพาให้มาทุกข์หรือสุขด้วยกัน...ก็ต้องเป็นเช่นนั้น หาก...ชะตาหรือบุญนำพาให้มาสู่ ความปรีกวิเวกกับธรรมมะ...โดยปราศจากทุกข์เพราะไร้คู่ได้นั้น เป็นสิ่งประเสริฐ...แต่หากคนเรายิ่งเดินห่างออกจากความรักเมื่อไหร่ มันจะรีบวิ่งเข้าเราหรือตามเราไปเหมือนเงา...สิ่งเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นปัจจัตตัง ถ้าใครเห็นแล้วรู้แล้ว(ถึงจะยังตัดไม่ได้ก็ตาม)ก็จะเข้าใจ

    บางคนก็อาจจะเข้าใจเหมือนที่ผมกำลังเข้าใจ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ใช้คำว่าหนี(กรรม) เพราะหลวงพ่อท่านหนึ่งบอกว่าอย่าหนี ให้ก้มหน้ารับและชดใช้มันให้หมด หากเรารู้แล้วว่าสิ่งที่เราเผชิญอยู่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราแต่เป็นแรงงของกรรมเหวี่ยงมาให้ได้พบเจอ...ก็ปล่อยให้มันเป็นไป อย่าไปหนี...รอให้ใจเราขาดจากมันได้จริง ๆ หรือทุกข์ทรมานจนหมดสิ้น(ถึงที่สุดแห่งทุกข์นั้น)...แล้วเราค่อยจากไปเพื่อทำกิจหรือบำเพ็ญเพียรอื่น ๆ ต่อ...เธอหรือเขาคนนั้นก็คงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปต้องมาพบเจอเราเพื่อก่อให้เกิดเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ (ทั้งสุขหรือทุกข์หรือแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง)ร่วมกันต่อไป...แต่ธรรมมะจากการปฏิบัติที่เข้าถึงแล้วในระดับที่สามารถข่มกิเลสหรือความทุกข์ได้เบื้องต้น คือสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องมือช่วยให้ผ่านอุปสรรคตรงนี้ไปได้(อาจจะลำบากแสนเข็ญหรือโดยง่ายดาย)...แต่หากบุคคลใด ๆ ที่มีธรรมอันสูงส่งและกรรมเหล่านี้ได้หมดแล้วหรือเจือจางไปแล้ว ก็สามารถตัดได้สิ้น ไม่มีแม้เศษใด ๆ แห่งอกุศลหรือความทุกข์เกี่ยวกับความรักนี้หลงเหลืออยู่เลย

    ผู้ที่ละแล้วซึ่งความรักและการครองเรือนได้อย่างแท้จริง(ต้องไม่มีทุกข์หรือความคิดน้อยเนื้อต่ำใจใด ๆ เลยจากการไร้คู่) โดยเกิดสุขหรือความรักในรสพระธรรมเข้ามาแทนที่...ผมขออนุโมทนาและสรรเสริญท่านเหล่านี้ด้วยครับ...นิพพานก็จะใกล้เข้ามาอีก
     
  20. ศรีธาตุ

    ศรีธาตุ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +52
    มีคู่ หรือ อยู่คนเดียว(ไร้คู่) มันก็ทุกข์ ทั้งนั้น ไม่แตกต่าง เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว..ต้องพบพานกับทุกข์ ทุกคน
    ...แต่เราสามารถเลือกปฏิบัติ หนทางดับแห่งทุกข์ได้ ไม่ว่าจะมีคู่หรือไม่มี ..ถ้าสามารถกำจัด..กิเลส..อาสวะ หรือ ความไม่รู้(อวิชชา)ออกไป..หรือ ถ้าเรามีปัญญาแล้ว ก็จะอยู่ได้ โดยทุกข์ เบาบางลงๆ ๆ
    ...การมีคู่ จะมีความสุข..หรือ อยู่ต่อไปอย่างไม่มีทุกข์ หรือ ทุกข์น้อย อยู่กันไปยาวนาน
    ท่านว่า..ธรรมต้องถึงกัน..เท่าเทียมกัน..บุญกุศล วาสนาเทียมกัน
    นั่นจัดว่า เป็นเนื้อคู่ คู่แท้
    ...แล้วยิ่ง ทั้งคู่ ใฝ่ธรรม ยินดีในธรรม ตั้งใจปฏิบัติธรรมแล้ว...
    ทุกอย่างก็หมดปัญหา เพราะทุกคน ต่างรู้ ปล่อยวาง ได้แล้ว
    ขอเจริญในธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...