การดูจิตโดยปฏิบัติสัมมาสมาธิ ย่อมไม่คิดไปเองว่าจิตเป็นอนัตตา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 12 มิถุนายน 2010.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้า สติ คือการบังคับ

    แล้วมึงบังคับได้ทุกครั้งหรือเปล่า

    เวลาที่เผลอไป นี่คือ บังคับไม่สำเร็จใช่ไหม แล้วรวมเรียกว่าอะไร ไม่มีสติ ถูกไหม

    แล้วการที่ต้องทำบ่อยๆ นี่คืออะไร ใช่การทำให้มันเสถียรหรือเปล่า หากใช่ก็นี่ไง
    "ถิระ"

    ตกลง หากการทำอะไรแล้วได้ทุกครั้ง คือมัน เสถียร แล้วรวมกล่าวว่าไง มีสติ ใช่ไหม

    ก็นี่ไง สติ มีขึ้นก็เพราะอาศัย ความเสถียรเป็นคุณลักษณะ เป็นปัจจัยใช้ยกกล่าวว่ามีสติ

    หากยังลูกผีลูกคน เดี๋ยวได้ เดี๋ยวไม่ได้บ้านคุณเรียกว่า มีสติ หรือไง
     
  2. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    พระอาจารย์ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง

    เพราะจิตใจของเรานี้สำคัญมาก เป็นผู้ที่จะรับรู้ดี ชั่ว ผิด ถูก ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่ใจทั้งนั้น ถ้าหากว่าจิตใจของเราปราศจากสติแม้นาทีเดียวก็ต้องเป็น บ้านาทีหนึ่ง ปราศจากสติครึ่งชั่วโมงก็เป็นบ้าครึ่งชั่วโมง จิตของเราปราศจากสติน้อยหรือมากเท่าใดก็เป็นบ้าเท่านั้น อันนี้เป็นของสำคัญ ฉะนั้นท่านจึงให้พากันตั้งใจฟังธรรม</PRE>
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p>
    ท่านจึงตรัสว่า สังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยปรุง อสังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยมิได้ปรุง ธรรมอันปัจจัยปรุงทุกอย่าง จะเป็นรูปเป็นนามเป็นวัตถุน้อยใหญ่ทั้งหลายทั้งปวงในสกลโลกนี้ เมื่อจิตใจเกิดโมหะแล้ว ต้องเข้าไปปรุงไปแต่ง อันนั้นดี อันนั้นร้าย อันนั้นสั้นอันนั้นยาว อันนั้นเลิศ อันนั้นประเสริฐ ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปปรุงไปแต่งทั้งนั้น จิตใจเข้าไปปรุงแต่งเพราะเหตุไร เพราะไม่รู้สมมติ ไม่รู้สังขารนั่นเอง เมื่อไม่รู้สังขารก็ไม่รู้สมมติ เมื่อไม่รู้สมมติก็ไม่รู้สังขาร การไม่รู้สมมติ ไม่รู้สังขาร คือไม่รู้ธรรมนั่นเอง เมื่อไม่รู้ธรรมก็ติดอยู่ในอุปาทาน เมื่อติดอยู่ก็ไม่มีความหลุดพ้น เมื่อไม่หลุดพ้นก็วุ่นวายอยู่อย่างนั้นก่อ ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ให้เกิดขึ้นมา ถึงความนึกคิดเป็นต้น ก็สร้างชาติชรา พยาธิ มรณะใส่ตัวเจ้าของอยู่เรื่อยๆไป เมื่อจิตใจเป็นอยู่อย่างนี้ มันก็เป็นสังขตธรรม<o:p></o:p></PRE>
    อสังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยไม่ได้ปรุงนั้น เกี่ยวแก่จิตใจของมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อเข้าไปเห็นธรรมคือขันธ์ห้าตามเป็นจริง ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มิใช่ตัว มิใช่เรา มิใช่เขา ที่เรียกว่าตัวเรา ตัวเขา ของเรา ของเขานี้ เป็นของสมมติและก็เป็นสังขารเมื่อเรามารู้สังขารมารู้เท่าสมมติ ก็เหมือนกับเรามารู้ธรรม มารู้สังขารเหล่านี้ว่ามิใช่เรา มิใช่ของๆเราแล้ว มันก็ปล่อยสมมติเหล่านี้ปล่อยสังขารเหล่านี้ เมื่อปล่อยสังขารปล่อยสมมติคือ บรรลุธรรมเข้าไปรู้ไปเห็นธรรม ล่วงรู้ซึ่งธรรม บรรลุซึ่งธรรม เมื่อบรรลุธรรมก็รู้แจ้ง แจ้งอะไร แจ้งว่านี้เป็นสังขาร นี้เป็นสมมติ นี้ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ความรู้แจ้ง ความรู้เท่าตามเป็นจริง ว่าความจริงมีอยู่อย่างนั้น มันก็เป็นสมมติอย่างนั้น </PRE>
    <o:p>
    เหล่านั้น อสังขตธรรมก็เกิดขึ้นมา เมื่อมันหลุดพ้นแล้วอสังขตธรรมก็เป็นจิต ธรรมหมดเหตุหมดปัจจัย เหตุปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ปรุงแต่งอีก มิได้มีสังขารไปเจือปนอีกแล้ว มันจะเกิดความดีใจเรา มันจะเกิดความเสียใจมาก็ปรุงไม่ได้ จะมีอะไรมาทุกสิ่งทุกอย่างก็ปรุงไม่ได้ เพราะจิตมันแน่นอนแล้วจิตใจพ้นจากความปรุง มันเห็นสมมติมันเห็นบัญญัติแล้ว มันเห็นสังขารรู้เท่าตามเป็น จริงแล้ว จิตนั้นเลยเป็นเสรี <o:p></o:p></PRE>
    อันนี้จิตพ้นอย่างนั้นเรียกว่าอสังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยไม่ได้ปรุง ถ้าจิตไม่รู้เท่าสมมติ ไม่รู้เท่าบัญญัติ ไม่รู้เท่าสังขารมันก็ปรุงได้ดีมา ได้ร้ายมา ได้สุขมา ก็ปรุง ทำไมมันจึงปรุงเพราะมันมีปัจจัย อะไรเป็นปัจจัย คือความเข้าใจว่ารูปนี้เป็นของเราเวทนานี้เป็นของเรา สัญญานี้เป็นของเรา สังขารนี้เป็นของเราสิ่งทั้งปวงนี้เป็นของเรา อาการที่เข้าใจว่ามันเป็นของเราเป็นเขานี่แหละเป็นปัจจัยให้ก่อสุข ก่อทุกข์ ก่อเกิด ก่อแก่ ก่อเจ็บมาให้จึงได้เป็นชาติ ชรา มรณะอยู่ในเวลาปัจจุบันนี้ จิตเหล่านี้เป็นโลกีย์ หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างนั้นทีเดียว ถ้าจิตเป็นอย่างนี้ก็เรียกว่า สังขตธรรม <o:p></o:p></PRE>ป่าพง<o:p></o:p>
    </o:p>
    </PRE>เมื่อเห็นอย่างนี้จิตก็หลุดพ้น มิใช่สิ่งอื่นหลุดพ้น มีความรู้ตามเป็นจริงแล้วก็หลุดพ้น ร่างกายนี้ก็แก่เฒ่า ชำรุดทรุดโทรมไปเป็นธรรมดา แต่จิตมันหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านั้น เมื่อจิตหลุดพ้นจากสิ่ง</o:p>
    </PRE>
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    เนียะ ดูเอา พระสอนอย่างไร แล้วมึงสอนอย่างไร "สติมีหน้า มีกลาง" ขาดสติหละไม่ว่า
    มึงเอา สติไปไว้ตรงกลาง โทษนะ ขอพูดตามพระหละว่า มึงบ้าเท่านั้น

    หัดลด ละยำ กันเสียบ้าง

    ไม่ใช่นึกอยากจะเอาไอ้นู้ไอ้นี้ มาคลุกๆ ใส่ๆ คละๆ ไว้หน้า ไว้หลัง กร่น กร่อน กัด
    ด้วยความเปรี้ยวซ่าทำรู้ ปรุงคำตนกัดกร่อนบาลี อย่างกะทำ ยำ อยู่

    หัดลด ละยำ บ้างเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    "เนื้อวัวออร์แกนิค" เทรนด์ใหม่ ของผู้นิยมเนื้อ

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัวออร์แกนิคเลี้ยงในแปลงหญ้าอินทรีย์ ไร้สารเคมี </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปัจจุบันนี้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการบริโภคอาหารที่คำนึงถึงเรื่องของสารพิษและสิ่งที่จะตกค้างจากอาหารที่เกิดเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้เดี๋ยวนี้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย เริ่มหันมาให้ความสนใจกับ "ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค" เพิ่มมากขึ้น

    ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค (Organic Products) เป็นผลิตภัณฑ์ปลอดจากสารเคมีและการปรุงแต่งโดยสารสังเคราะห์ ตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ในทุกๆขั้นตอนการผลิต การแปรรูป และการเก็บรักษา กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรดาพืชผัก ผลไม้ต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึงอย่างเนื้อสัตว์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันแนวทางการกินเนื้อ(วัว)ของนักนิยมเนื้อในบ้านเรา มีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักการกินเนื้อที่รักในสุขภาพ นั่นก็คือ “เนื้อวัวออร์แกนิค” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งความล้ำหน้าของวงการเนื้อบ้านเรา

    :cool:
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อาหารข้นที่เลี้ยงวัวออร์แกนิค</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    เน็ตช่วงนี้ไม่ดี ไม่ทราบจะโพสต์หรือไม่


    ฝึกได้ กับ บังคับได้ คนละความหมาย
    (ซึ่ิงเกี่ยวกับจิต สติก็เป็นจิตที่มีสติ(เจตสิก) ย่อมบังคับไม่ได้)

    ที่นี้ ถ้าจะเอาความหมายว่าบังคับได้ หมายถึง ฝึก ได้ล่ะก็
    ก็เท่ากับลดทอนความหมายของคำว่าบังคับลงมา
    เพราะบังคับได้อย่างนี้ ก็ไม่ได้ตลอดอยู่แล้ว (อย่างที่เล่าปังบอก)

    ว่าแต่เฮียเล่าปัง พักนี้เป็นอะไรไป
    สติมาเร็วๆ นะ

    :boo:
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ้า อย่าไปปรักปรำ ภาษาพูดที่พวกเขานิยมสิ เขาเห็นภาษาแบบนั้นเป็นของธรรมดานะ

    นี่เราปรับตัวเอง ให้ใช้คำในแบบที่เขาถนัดไง เป็นการปรับภาษาให้เข้ากับเขา เอาภาษา
    ที่พวกเขาใช้เป็นนิจมาใช้เพื่อให้สื่อสารเข้าใจง่าย

    สติมีหรือไม่มีไม่รู้นะ แต่เราว่า เรายังเลือกใช้คำได้อยู่
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ว่าไงเต้าเจี้ยว ยังสวดมนต์สำนักเมืองนะอยู่รึเปล่า
     
  9. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    ไม่ทราบจะโพสต์ได้หรือไม่
    พิมพ์ตก

    ไม่เข้าไปแก้นะ เพราะกลัวโพสต์ไม่ได้
    นานมากๆ

    สวัสสหายเก่า และใหม่ทุกท่าน อนุโมทนาค่ะ

    *
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ท่าทางพจนานุกรม ศัพท์ธรรมเต็มโต๊ะน้าเล่าปังไปหมด

    ฝุ่นไม่ได้ช่องเกาะเลย หุหุ

    :cool:
     
  11. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    หวัดดี อาหลง คงคุยไม่ได้ เน็ตแย่ install ใหม่ไปหลายยกแล้ว
    ต้องไปก่อน..
    เล่าปัง ไปก่อนนะ

    *
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อาทิตย์ที่แล้ว ไปแอ่วเชียงดาว เลยเลยไปเมืองนะมา

    แล้วเต้าเจี้ยวก็โผล่มา ทุกอย่างไม่คงไม่บังเอิญเนอะ
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นี่ๆ เคยอ่านกระทู้นี้ยัง

    http://palungjit.org/threads/อ่านมาก-รู้มาก-สุดท้ายก็เบื่อ-เเล้วไงต่อ.243938/
     
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    :cool:
    ก็ที่หายๆไป เพราะเบื่อหน่ายหนอ วุ่นวายหนอ มากความหนอ จิตออกนอกหนอ

    สุดท้าย ดีก็รู้ ไม่ดีก็รู้ ทำใจให้เบิกบาน รู้แต่สิ่งที่เข้ามากระทบ

    ว่างๆก็เข้ามาแซวเพื่อนแล้วจากไป หุหุ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ไง ท่านเหล้่า

    ไม่มีใครไปสร้างศัพท์ใหม่ กลบพุทธพจน์ อย่าพูดให้มันโอเว่อร์เกินไป

    เถียงข้างๆ คูๆ

    คุณไปเปิด พระไตรปิฎก มีส่วนไหน ที่พระธรรมท่านสอนให้เจริญ ถิรสัญญา

    มีแ่ต่ ท่านสอนให้เจริญสติ นี่อุตริ จะไปเชียงใหม่แต่ขึ้นโคราช แล้วจะมาตำหนิคนไปทาง นครสวรรค์
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จะใช้ภาษาอะไรก็ใช้ไปเถิด แต่ให้ดู เหตุใกล้ บ้าง
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    พวก ติดบัญญัติแต่เพียงนัยยะสองสามนัยยะ ก็ทำเป็นพูด ไม่หัดรอบครอบ

    เห็นคำว่า สัญญา ก็ตกอกตกใจคิดว่า เป็นการ ท่องอาขยาน เสียตะพึด

    พอเข้าใจแบบนั้น ด้วยความไม่รอบครอบ ก็เลยตกใจ พอเจอคำว่า ถิระ
    ปะเข้าไปอีก ก็คิดว่า เขาให้เจริญการท่องจำ นั้นมึงโง่ของมึงเอง ดึงคำว่า
    สัญญาจากความไม่รอบครอบของตัวเอง ทั้งๆที่ สภาวะธรรมที่พ้นบัญญัติมึง
    เคยเอามาท่องจำได้สักตัวไหม ในเมื่อมันเอามาท่องจำเป็นภาษาบัญญัติไม่ได้
    ก็แล้วทำไมฝึกระลึกได้ ก็เพราะมันมีสัญญาอีกชนิดที่พ้นบัญญัติ นั้นตรงนั้น
    หากเอามาฝึกระลึกมันก็ถีระขึ้นมา แต่ความโง่ติดบัญญัติ ติดอวดรู้อวดภูมิ
    แค่ที่ตนนึกอยากปรักปรำ ก็เลยไม่รอบครอบ คิดว่า เขาสอนให้ฝึกนกแก้ว
    นกขุนทอง นั้นมึงบ้าของมึงเอง

    ถึงอย่างไรก็เถอะนะ จะมาพูดว่า การฝึกท่องจำไม่มีในพระพุทธศาสนานี่ก็
    เป็นความบ้าของมึงอีกเช่นกัน

    มึงเอาฝ่าย คันนธุระ ไปทิ้งไว้ไหน หน้าที่ของคนในศาสนาพุทธมีอยู่สอง
    หน้าที่คือ คันธุระ และ วิปัสสนาธุระ นี่ด้วยความไม่รอบครอบ เลยมอง
    ไม่ออกไปแล้วว่า ฝ่ายคันธุระเขาต้องฝึกอะไร ใช้อะไร ใช่ท่องจำให้ขึ้น
    ใจหรือเปล่า

    ตกลง ถิระสัญญา ไม่ว่าจะในแง่ ภาษาบัญญัติ หรือ พ้นภาษาบัญญัติ
    การดำรงศาสนาก็ต้องใช้ทั้งคู่ ไหนหละ อยู่ดีๆมาประกาศอย่างโง่ๆว่า ไม่มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณเหล้าปัง

    ประเด็นมันอยู่ที่ คำสอน ที่ผิด มันไม่ได้อยู่ในศัพท์
    คำสอน คือ สติฝึกไม่ได้ ต้องทำเหตุใกล้ให้เกิด คือ ถีรสัญญา
    นั่นแหละ คือ ประเด็นที่ ต้องบอกว่า อ้อม
    ยิ่ง คุณมาเถียงด้วยแล้วยิ่งพาอ้อมกลับไป สุไหงโกลก
    ผมไม่อยากจะเถียง กับ คนพูดจาหยาบคาย
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมเกรงว่า คุณจะเอาธรรม ชนะ ความรู้สึก ของคุณไม่ได้

    ธรรมคือความจริง แต่บังเิิอิญว่า คุณศรัทธามากเกินกว่าจะยอมรับธรรมเข้าสู่ใจ

    มันก็ต้อง โต้แย้ง ไปข้างๆ คูๆ นั่นแหละ
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อาสวะ ที่ดองอยู่ บางที อาจจะไม่ใช่ศรัทธาก็ได้

    มันอาจจะเป็น มานะ ทิฎฐิ ที่เคยปักใจลงไป ครั้นพอ ไม่ตรงกับสิ่งที่ปักใจ เคยเชื่อตนเองมาก ครั้นพอตัดสินใจผิดไป มันหวนคืนไม่ได้สิ มันก็ต้องแถไป
    แล้วก็ เอาศรัทธามาบังหน้า ทำทีว่า ที่เราทำอยู่นี่เป็นผลจากศรัทธา

    กิเลสมันร้ายลึกนะ เหล้าปัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...