เสียงธรรม กับดักของผู้ที่จะไปนิพพาน / พระอาจารย์จรัญ ทักขญาโณ

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
5 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
6 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 - 10.30 น.

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
7 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณตอบคำถามการประพฤติ-ปฏิบัติธรรมวันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
8 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
9 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2564 .. 09.00 - 10.30 น.

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
10 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
11 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
12 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณตอบคำถามการประพฤติ-ปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
13 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
14 มิถุนายน 2564

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณแสดงธรรมเช้าวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
15 มิถุนายน 2564

 

20 มิถุนายน วันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ ท่านผู้ฝึกตนดีแล้ว จึงสอนผู้อื่น วันคล้ายวันเกิดปีนี้ของหลวงพ่อแปลกกว่าทุกปี ที่ท่านจะอยู่นนทบุรี ด้วยสถานการณ์โรคโควิด เกรงว่าคนจะมามาก ท่านจึงกลับขึ้นวัดหลวงขุนวินเสีย อีกประการคือท่านได้ห่างวัดมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งคราวนี้ท่านอยู่ธรรมสถานฯถึง 2 เดือนครึ่ง ถ้าไม่นับที่ท่านป่วยมีอาการไอมากช่วง 10 วันแรกที่ลงมา ท่านได้แสดงธรรมติดต่อกันในช่วงเช้า ถึง 60 วันทีเดียว แสดงออกถึงความตั้งใจที่จะเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระศาสดา ที่ท่านได้ค้นคว้าปฏิบัติตาม รู้เห็นอย่างไร ได้นำมาบอกสอนสาธุชน ทั้งเหตุคือการปฏิบัติว่าทำอย่างไร ทั้งผลว่าเมื่อทำแล้วจะเป็นเช่นไร อย่างชัดเจน นำธรรมะที่ยาก ลึกซึ้ง ลี้ลับ ยากแก่การแจกแจง และอาจเป็นที่ไม่แน่ใจในบางท่านว่า ของประเภทนี้ มีอยู่ในโลกจริงๆ หรือเป็นของแต่งขึ้น ก็เป็นได้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด ฉะนั้น ธรรมที่ท่านแสดง ท่านไม่ได้กำหนดว่าวันนี้ จะพูดอะไร จะสอนอะไร ไม่มีการนัดแนะกับใคร จะรู้ต่อเมื่อท่านขึ้นสู่ธรรมาสน์ แสดงธรรมเป็นปัจจุบัน ธรรมในใจของท่านพรั่งพรูออกจากจิต เพราะเป็นของที่ท่านมีอยู่แล้วเต็มเปี่ยม ถ้าภาษาโลกก็เรียกว่า ด้นสดเอาเลย ท่านแสดงด้วยความรื่นเริงในธรรม อาจหาญแกล้วกล้า ไม่ติดขัดที่จะพูด ไม่ต้องอ้างอิงใครเพราะความไม่แน่ใจของตน เหมือนแม่ทัพเอกผู้ชาญยุทธ ขี่คอคชสารออกทำศึก ท่านแสดงธรรมจี้ในเรื่องเดียว เพื่อให้เป็นที่มั่นใจแก่สาธุชน พูดกี่ครั้ง กี่หน หรือจะเริ่มต้นแบบไหน ก็จะลงเอยแบบเดียวกัน เมตตาธรรมของท่าน ยังเปิดโอกาสให้ซักถามในข้อสงสัย หรือทำแล้วเป็นเช่นไร ก็ให้บอกมมา ดังที่ปรากฎในการถามตอบปัญหา เราศิษย์ทั้งหลาย จึงขอกราบมุทิตาหลวงพ่อ ผ่านหน้าสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ท่านใช้แสดงธรรม ขอคุณพระรัตนตรัยและบารมีธรรมที่หลวงพ่อได้สั่งสมมา ให้ท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรง เป็นร่มโพธิ์แก่ศาสนิกชนผู้ใฝ่ธรรมไปตราบนานเท่านาน.
:- https://www.youtube.com/c/หลวงพ่อจรัญทักขญาโณ/community

 

หลวงพ่อจรัญ แสดงธรรมคืนวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563 ณ วัดหลวงขุนวิน

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
Premiere in progress. Started 67 minutes ago

 

หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ 3 days ago (edited)
วันพระแรม ๘ ค่ำ เดือน ๙ อังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
ธรรมดาของปุถุชน ผู้หนาแน่นด้วยกิเลส ย่อมเก็บงำความไม่ดีของตนไว้ เปรียบเหมือนซุกขยะไว้ใต้พรม แลต้องการให้ผู้อื่นชื่นชม หรือมองตนว่าดี
จริงอยู่ผู้ที่ฝึกตน ย่อมต้องมีการควบคุมกายวาจา ไม่ให้สิ่งไม่ดี ออกไปกระทบกระเทือนผู้อื่น นั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ
แต่นัยยะของสิ่งไม่ดีที่กล่าวนี้ หมายเอากิริยาหน้าอย่างหลังอย่าง หรือที่เรียกว่าต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก อันเป็นลักษณะมารยา ที่ตนบางทีก็รู้ทั้งรู้
จึงไม่สงสัยว่าบุคคลบางคนที่สังคมยกย่องว่าเป็นคนดี ไฉน บางครั้งจึงแปลกลับเป็นอื่น ด้วยการมองโดยไม่แยบคาย หรือด่วนตัดสินโดยระยะเวลาที่สั้นเกินไป และเป็นการวัดด้วยสายตาฉากหน้าเท่านั้น ดังที่พระศาสดาได้ตรัสเปรียบบุคคลในโลกไว้ ดังนี้
พระพุทธเจ้าเปรียบบุคคลกับห้วงน้ำ เป็น ๔ ประเภท
๑. ห้วงน้ำตื้นเงาลึก
๒. ห้วงน้ำลึกเงาตื้น
๓. ห้วงน้ำตื้นเงาตื้น
๔. ห้วงน้ำลึกเงาลึก
*บุคคลเป็นดุจห้วงน้ำตื้นเงาลึกอย่างไร คือกิริยาอาการล้วนสงบเสงี่ยม ถ้าเป็นพระภิกษุก็น่าเลื่อมใส แต่เขาไม่ทราบไม่รู้อริยสัจ (คือยังขาดคุณธรรมอันยังให้ถึงความเป็นพระอริยบุคคล)
*ส่วนประเภท ๒ นั้นตรงข้ามกับประเภทแรก คือกิริยาอาการไม่น่าเลื่อมใส ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อย แต่บุคคลนั้นรู้ชัดอริยสัจ(มีคุณธรรม)
*ห้วงน้ำตื้นเงาตื้น คืออากัปกิริยาก็ไม่เรียบร้อย ดูไม่น่าเลื่อมใส และคุณธรรมคือความรู้แจ้งอริยสัจ ก็ไม่มี
*ห้วงน้ำลึกเงาลึก เป็นผู้งามทั้งภายนอกภายใน การแสดงออกภายนอกก็เป็นด้วยความเรียบร้อย งดงาม น่าเลื่อมใส ทั้งยังทรงคุณธรรมคือรู้แจ้งอริยสัจ
:- https://www.youtube.com/c/หลวงพ่อจรัญทักขญาโณ/community