กรณี Sriaraya5 VS iofeast โต้แย้งกัน... ขอลบออกทุกโพสต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

?
  1. 1.ลบออกก่อน

    0 vote(s)
    0.0%
  2. 2.ไม่ต้องลบ

    0 vote(s)
    0.0%
  3. 3.ความเห็นอื่นๆ เชิญลงที่กระทู้นี้

    0 vote(s)
    0.0%
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ข้าพเจ้าสอนผิดตรงไหน iofeast อย่าเอาข้าพเจ้าไปเปรียบท่านสัญญชัย


    จักรวาลย้อนหนึ่ง
    บรรพชิต และ ฆารวาสบุคคลใดยึดพระบริยัติ เป็นครูเป็นอาจารย์จะไม่มีบรรพชิตอุบาสกอุบาสิกาสำเร็จเป็นพระอรหันต์
    บรรพชิต อุบาสก อุบาสิกา ถือตนเป็นครูเป็นอาจารย์วางพระปริยัตให้เบาบางจนหมดจากสัญญาให้มากที่สุด บรรพชิต และ ฆารวาสก็จะบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์
    ออกบวชได้ 7 วัน ในวันสำคัญทางพระศาสนาเป็นวันมาฆบูชาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่วัดวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์ ถือเอาหมายสำคัญในอดีต พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโตและหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้เดินธุดงค์มาบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำพระฤาษีในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางวัดจึงได้นิมนต์พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นมาเมตตาชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหลวงตามหาบัววัดป่าบ้านตาดหลวงปู่ท่อนวัดป่าศรีอภัยวัน หลวงปู่บุญเพ็งวัดถ้ำกลองเพลหลวงปู่จันทาวัดป่าเขาน้อยหลวงปู่เหรียญวัดอรัญญบรรพตมาแสดงธรรมอบรมกรรมฐานตลอดถึงการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน รุ่งขึ้นวันใหม่ ภายในโบสถ์โดยมีหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ มาร่วมในการแสดงพระปาฎิโมกข์พระกฤษฎาได้แสดงอาบัติและระลึกถึงนิมิตก่อนรุ่งอรุณ ที่เทวดาเต็มท้องฟ้ามาร้องรำดีดสีตีเป่าเครื่องดนตรี โปรยข้าวตอกดอกไม้ทิพย์ แสดงความดีใจ ก็ยิ่งทำให้พระกฤษฎาสุขใจ นึกอยู่ในใจว่าเราควรทำจิตให้ผ่องใสและเจริญพระกรรมฐาน วิปัสสนาดูลมหายใจเข้าออกอันธรรมดา คนที่ยังไม่เคยมองดูจิตของตัวเอง ไม่เคยฝึกฝน ขัดเกลารูปลักษณ์ เปรียบเหมือนกลุ่มดวงดาวที่กระจายอยู่ในห้วงจักรวาลนักปฏิบัติธรรมจะต้องรวบรวม จิตที่แตกกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวของเรา ให้รวมเป็นจิตหนึ่งพระกฤษฎาก็เป็นนักปฏิบัติธรรมตามทฤษฎีธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยการกำหนดรู้ดูเวทนาทางกายต่อเนื่องด้วยเวทนาในจิตพระกฤษฎาจับดูอาการที่เวทนาในกายแสดงตัวเดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวปวดเดี๋ยวปวดแสบปวดร้อนและก็เฉย ๆ ผู้รู้พูดจาโต้ตอบในความคิดกับพระกฤษฎา ว่ากำหนดรู้ดูเวทนาในจิตยิ่งกำหนดรู้ทุกข์ก็ยิ่งแสดงตัวความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณ เวทนาเพิ่มขึ้น ยิ่งอยากให้หายเจ็บหายปวดหายเมื่อยเท่าไรกับกายเป็นความร้อนที่ร้อนสูงขึ้น จนร่างที่นั่งพับเพียบของพระกฤษฎา สั่นสะท้านไปด้วยทุกข์ เวทนา ราวกับกระดูกจะแยกชีกออกจากเนื้อ กระดูกถูกบด ร่างนั่งอยู่ในกองไฟ พระกฤษฎายังคงนั่งลืมตาดูทุกข์หูฟังเสียงพระสงฆ์แสดงพระปาฏิโมกข์ ใกล้จะจบลง มารในจิตท้าทายด่าว่าพระรูปนี้ชั่งโง่น่าสงสารมานั่งดูสิ่งไม่มีสาระ มารในจิตพยายามอ้อนวอน ให้เลิกปฏิบัติวิปัสสนาและขู่ด้วยกริยาของคนถ่อยว่านั่งให้ตายนั่งทั้งวันท่านก็ไมทางตรัสรู้หรอก พระกฤษฎายอมหักไม่ยอมงอ ตามมารจิตกลับดุด่ามารว่าเจ้าซิตัวไร้สาระ และพระกฤษฎาก็รวบรวมความกล้าอธิษฐานเอาบารมีความเพียรแบบสู้ตาย หากแม้ว่าพระปาฏิโมกข์ยังไม่แสดงจบลง เราพระกฤษฎาจะไม่สับเปลี่ยนอริยาบถถ้าเปลี่ยนอริยบถขอให้ตกนรกหมกไหม้อย่าได้ผุดอย่าได้เกิดกันเลย 1 ช.ม. กว่า พระยังคงส่งกระแสจิตไปตามทำนองพระปาฏิโมกข์ ในอาการสำรวม แต่กำหนดรู้ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวตนบุคลเขาเราเกิดขึ้นอยู่ตั้งอยู่ดับไป อนุโลมกลับไปกลับมา อยู่ ๆ จิตที่แสดงตัวว่าร้อนรุ่มวุ่นวายก็สงบตัวลงความร้อนในจิตใจ กลับกลายเป็นความเย็นที่ลดลง น้ำตาไหลรินอาบแก้มพระกฤษฎา เกิดสงสารคนไปทั้งโลกอยากให้เค้ามาเห็นทางพ้นทุกข์อย่างเรา บริเวณปริมณฑลนั้นมีละอองธรรมที่ตกกระทบกายแต่ไม่เปียกและเกิดพลังจากภายนอก พลังมหาศาลดึงจิตให้หลุดออกจากร่างเปลือกสมมติ พ้นจากแรงดึงดูดของโลกเกิดรัศมีแสงทิพย์สีขาว สว่างทลุขึ้นไปทุกชั้นฟ้า ที่สุดถึงพรหม และพระนิพพาน จิตพูดว่าจิตวิมุตติแล้ว จิตวิมุตติแล้ว จิตวิมุตติแล้ว (จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว ) รูปลักษณ์ภาพที่ปรากฏ ฉายอยู่ตรงหน้าพระกฤษฎา ก็คือพระพุทธะสมณะโคดมผู้ไปดีแล้วนั่งอยู่บนอาสนะดอกบัวทิพย์ พร้อมกับทรงยิ้ม และทรงตรัสธรรมจิตที่บริสุทธิ์ว่าพระพุทธเจ้า....พระธรรม...พระสงฆ์เกิดขึ้นมานานแล้ว...... อีกคุณบิดามารดา.....ถ้าใครให้เราสึกเรายอมตาย พระกฤษฎาเข้าใจในเวลานี้เองว่าในสมัยพุทธกาล พระอริยะเจ้า อยู่ด้วยกันมากรูปก็เท่ากับอยู่รูปเดียว อาคารสิ่งก่อสร้างไม่ปรากฏรูปลักษณ์ รูปเรารูปเค้าไม่มีตัวตนอยู่จริง ดวงจิตบริสุทธิ์ลอยเด่นกลางจักรวาล สมจริงที่ว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา เมื่อธรรมได้เกิดขึ้นแล้วกับพระกฤษฎาก็บรรลุพระโพธิญาณ มีศีลอันสงบแล้วมีพุทธคุณอันแผ่ซ่าน พบตัวตนที่แท้จริงในเปลือกร่างสมมติ นับแต่ออกก้าวเดินก็ล้มลุกมาตลอด ค้นคว้าหาแนวทางตรัสรู้ใหม่ เดิมทีเกิดในสกุลฆราวาสธรรมดาตระกูล กองทรง รู้เห็นเรื่องราวพระพุทธประวัติ เกิดเลื่อมใสคิดตามเรียนแบบพระองค์ ทิ้งการเรียน ทิ้งครอบครัวพ่อแม่ ออกบวชหวังสำเร็จโพธิญาณ เมื่อรู้แจ้งแล้วก็รู้ว่าประเพณีวัฒนธรรม ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งก็ใช้ได้ในยุคนั้นจะนำมาใช้หรือลอกเลียนแบบทั้งหมดไม่เกิดประโยชน์เสียเวลาตายทิ้งเสียเปล่า คำว่าพระไม่ได้มีแค่ผู้นุ่งห่มผ้าเหลืองเท่านั้นสกุลชาวบ้านธรรมดา ก็เป็นพระได้ พระเป็นที่จิต จิตที่เป็นหนึ่งเท่านั้น ผ้าเหลืองป็นเพียงแค่สัญลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นนักบวชลัทธินั้น คณะนี้ สาวกพระศาสดาองค์นี้เท่านั้น เรื่องของจิตของใจคนทุกคนต้องปฏิบัติเองเป็นเรื่องรีบด่วนก่อนที่จะตาย จะให้พระศาสดาทำแทนกันไม่ได้ เมื่อรู้ความจริงที่เปิดออกก็ไม่ต้องแบกร่างและโครงกระดูก หัวสมองก็โปร่งใส ร่างกายก็มีสภาพไร้น้ำหนัก ด้วยสัญญา ตัณหาอุปปทาน ก็เท่ากับได้ลาจากความโง่ ออกเที่ยวไป ในสกุลชาวบ้านธรรมดาไม่คิดสะสมพรรษา คำว่าตรัสรู้ก็คือการที่มารู้แจ้งเรื่องที่พ้นสมัยของ พระศาสดาในอดีตหรือพูดง่าย ๆ ก็คือมารู้เรื่องที่พญามารซ่อนมรรคผลนิพพานเอาไว้ หลังพุทธปรินิพพาน

    ถ้าข้าพเจ้าให้ความสำคัญกับพระสุรศักดิ์(จือ) ในถานะครูอาจารย์ ไปมาลาก็ต้องบอก ไปมาลาก็ต้องไหว้

    แต่นี้เค้าไม่ได้อยู่ในสายตาข้าพเจ้าเลย
    สึกหาลาเพศ ข้าพเจ้าก็ยังไม่บอกเขายังไม่รู้เลย

    และ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ไปสึกหาลาเพศกับต้นโพธิ์ ต้นไทร
    ใบสุทธิข้าพจ้าก็ไม่ได้เก็บไว้ เพื่อจะเอาไว้บวชต่อเอง

    สึกเราก็สึกกับ หลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม หรือพระครูเวฬุคณารักษ์ ใบสุทธิข้าพเจ้าก็คืนให้กับ หลวงปู่เวิน
    พระกัมมัฏฐานที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม จนเป็นที่รู้จักของชาวเพชรบูรณ์
     
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ข้าพเจ้าสอนผิดตรงไหน iofeast อย่าเอาข้าพเจ้าไปเปรียบท่านสัญญชัย

    จักรวาลย้อนหนึ่ง
    บรรพชิต และ ฆารวาสบุคคลใดยึดพระบริยัติ เป็นครูเป็นอาจารย์จะไม่มีบรรพชิตอุบาสกอุบาสิกาสำเร็จเป็นพระอรหันต์
    บรรพชิต อุบาสก อุบาสิกา ถือตนเป็นครูเป็นอาจารย์วางพระปริยัตให้เบาบางจนหมดจากสัญญาให้มากที่สุด บรรพชิต และ ฆารวาสก็จะบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์
    ออกบวชได้ 7 วัน ในวันสำคัญทางพระศาสนาเป็นวันมาฆบูชาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่วัดวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์ ถือเอาหมายสำคัญในอดีต พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโตและหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้เดินธุดงค์มาบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำพระฤาษีในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางวัดจึงได้นิมนต์พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นมาเมตตาชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหลวงตามหาบัววัดป่าบ้านตาดหลวงปู่ท่อนวัดป่าศรีอภัยวัน หลวงปู่บุญเพ็งวัดถ้ำกลองเพลหลวงปู่จันทาวัดป่าเขาน้อยหลวงปู่เหรียญวัดอรัญญบรรพตมาแสดงธรรมอบรมกรรมฐานตลอดถึงการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน รุ่งขึ้นวันใหม่ ภายในโบสถ์โดยมีหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ มาร่วมในการแสดงพระปาฎิโมกข์พระกฤษฎาได้แสดงอาบัติและระลึกถึงนิมิตก่อนรุ่งอรุณ ที่เทวดาเต็มท้องฟ้ามาร้องรำดีดสีตีเป่าเครื่องดนตรี โปรยข้าวตอกดอกไม้ทิพย์ แสดงความดีใจ ก็ยิ่งทำให้พระกฤษฎาสุขใจ นึกอยู่ในใจว่าเราควรทำจิตให้ผ่องใสและเจริญพระกรรมฐาน วิปัสสนาดูลมหายใจเข้าออกอันธรรมดา คนที่ยังไม่เคยมองดูจิตของตัวเอง ไม่เคยฝึกฝน ขัดเกลารูปลักษณ์ เปรียบเหมือนกลุ่มดวงดาวที่กระจายอยู่ในห้วงจักรวาลนักปฏิบัติธรรมจะต้องรวบรวม จิตที่แตกกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวของเรา ให้รวมเป็นจิตหนึ่งพระกฤษฎาก็เป็นนักปฏิบัติธรรมตามทฤษฎีธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยการกำหนดรู้ดูเวทนาทางกายต่อเนื่องด้วยเวทนาในจิตพระกฤษฎาจับดูอาการที่เวทนาในกายแสดงตัวเดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวปวดเดี๋ยวปวดแสบปวดร้อนและก็เฉย ๆ ผู้รู้พูดจาโต้ตอบในความคิดกับพระกฤษฎา ว่ากำหนดรู้ดูเวทนาในจิตยิ่งกำหนดรู้ทุกข์ก็ยิ่งแสดงตัวความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณ เวทนาเพิ่มขึ้น ยิ่งอยากให้หายเจ็บหายปวดหายเมื่อยเท่าไรกับกายเป็นความร้อนที่ร้อนสูงขึ้น จนร่างที่นั่งพับเพียบของพระกฤษฎา สั่นสะท้านไปด้วยทุกข์ เวทนา ราวกับกระดูกจะแยกชีกออกจากเนื้อ กระดูกถูกบด ร่างนั่งอยู่ในกองไฟ พระกฤษฎายังคงนั่งลืมตาดูทุกข์หูฟังเสียงพระสงฆ์แสดงพระปาฏิโมกข์ ใกล้จะจบลง มารในจิตท้าทายด่าว่าพระรูปนี้ชั่งโง่น่าสงสารมานั่งดูสิ่งไม่มีสาระ มารในจิตพยายามอ้อนวอน ให้เลิกปฏิบัติวิปัสสนาและขู่ด้วยกริยาของคนถ่อยว่านั่งให้ตายนั่งทั้งวันท่านก็ไมทางตรัสรู้หรอก พระกฤษฎายอมหักไม่ยอมงอ ตามมารจิตกลับดุด่ามารว่าเจ้าซิตัวไร้สาระ และพระกฤษฎาก็รวบรวมความกล้าอธิษฐานเอาบารมีความเพียรแบบสู้ตาย หากแม้ว่าพระปาฏิโมกข์ยังไม่แสดงจบลง เราพระกฤษฎาจะไม่สับเปลี่ยนอริยาบถถ้าเปลี่ยนอริยบถขอให้ตกนรกหมกไหม้อย่าได้ผุดอย่าได้เกิดกันเลย 1 ช.ม. กว่า พระยังคงส่งกระแสจิตไปตามทำนองพระปาฏิโมกข์ ในอาการสำรวม แต่กำหนดรู้ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวตนบุคลเขาเราเกิดขึ้นอยู่ตั้งอยู่ดับไป อนุโลมกลับไปกลับมา อยู่ ๆ จิตที่แสดงตัวว่าร้อนรุ่มวุ่นวายก็สงบตัวลงความร้อนในจิตใจ กลับกลายเป็นความเย็นที่ลดลง น้ำตาไหลรินอาบแก้มพระกฤษฎา เกิดสงสารคนไปทั้งโลกอยากให้เค้ามาเห็นทางพ้นทุกข์อย่างเรา บริเวณปริมณฑลนั้นมีละอองธรรมที่ตกกระทบกายแต่ไม่เปียกและเกิดพลังจากภายนอก พลังมหาศาลดึงจิตให้หลุดออกจากร่างเปลือกสมมติ พ้นจากแรงดึงดูดของโลกเกิดรัศมีแสงทิพย์สีขาว สว่างทลุขึ้นไปทุกชั้นฟ้า ที่สุดถึงพรหม และพระนิพพาน จิตพูดว่าจิตวิมุตติแล้ว จิตวิมุตติแล้ว จิตวิมุตติแล้ว (จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว ) รูปลักษณ์ภาพที่ปรากฏ ฉายอยู่ตรงหน้าพระกฤษฎา ก็คือพระพุทธะสมณะโคดมผู้ไปดีแล้วนั่งอยู่บนอาสนะดอกบัวทิพย์ พร้อมกับทรงยิ้ม และทรงตรัสธรรมจิตที่บริสุทธิ์ว่าพระพุทธเจ้า....พระธรรม...พระสงฆ์เกิดขึ้นมานานแล้ว...... อีกคุณบิดามารดา.....ถ้าใครให้เราสึกเรายอมตาย พระกฤษฎาเข้าใจในเวลานี้เองว่าในสมัยพุทธกาล พระอริยะเจ้า อยู่ด้วยกันมากรูปก็เท่ากับอยู่รูปเดียว อาคารสิ่งก่อสร้างไม่ปรากฏรูปลักษณ์ รูปเรารูปเค้าไม่มีตัวตนอยู่จริง ดวงจิตบริสุทธิ์ลอยเด่นกลางจักรวาล สมจริงที่ว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา เมื่อธรรมได้เกิดขึ้นแล้วกับพระกฤษฎาก็บรรลุพระโพธิญาณ มีศีลอันสงบแล้วมีพุทธคุณอันแผ่ซ่าน พบตัวตนที่แท้จริงในเปลือกร่างสมมติ นับแต่ออกก้าวเดินก็ล้มลุกมาตลอด ค้นคว้าหาแนวทางตรัสรู้ใหม่ เดิมทีเกิดในสกุลฆราวาสธรรมดาตระกูล กองทรง รู้เห็นเรื่องราวพระพุทธประวัติ เกิดเลื่อมใสคิดตามเรียนแบบพระองค์ ทิ้งการเรียน ทิ้งครอบครัวพ่อแม่ ออกบวชหวังสำเร็จโพธิญาณ เมื่อรู้แจ้งแล้วก็รู้ว่าประเพณีวัฒนธรรม ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งก็ใช้ได้ในยุคนั้นจะนำมาใช้หรือลอกเลียนแบบทั้งหมดไม่เกิดประโยชน์เสียเวลาตายทิ้งเสียเปล่า คำว่าพระไม่ได้มีแค่ผู้นุ่งห่มผ้าเหลืองเท่านั้นสกุลชาวบ้านธรรมดา ก็เป็นพระได้ พระเป็นที่จิต จิตที่เป็นหนึ่งเท่านั้น ผ้าเหลืองป็นเพียงแค่สัญลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นนักบวชลัทธินั้น คณะนี้ สาวกพระศาสดาองค์นี้เท่านั้น เรื่องของจิตของใจคนทุกคนต้องปฏิบัติเองเป็นเรื่องรีบด่วนก่อนที่จะตาย จะให้พระศาสดาทำแทนกันไม่ได้ เมื่อรู้ความจริงที่เปิดออกก็ไม่ต้องแบกร่างและโครงกระดูก หัวสมองก็โปร่งใส ร่างกายก็มีสภาพไร้น้ำหนัก ด้วยสัญญา ตัณหาอุปปทาน ก็เท่ากับได้ลาจากความโง่ ออกเที่ยวไป ในสกุลชาวบ้านธรรมดาไม่คิดสะสมพรรษา คำว่าตรัสรู้ก็คือการที่มารู้แจ้งเรื่องที่พ้นสมัยของ พระศาสดาในอดีตหรือพูดง่าย ๆก็คือมารู้เรื่องที่พญามารซ่อนมรรคผลนิพพานเอาไว้ หลังพุทธปรินิพพาน

    ถ้าข้าพเจ้าให้ความสำคัญกับพระสุรศักดิ์(จือ) ในถานะครูอาจารย์ ไปมาลาก็ต้องบอก ไปมาลาก็ต้องไหว้

    แต่นี้เค้าไม่ได้อยู่ในสายตาข้าพเจ้าเลย
    สึกหาลาเพศ ข้าพเจ้าก็ยังไม่บอกเขายังไม่รู้เลย

    และ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ไปสึกหาลาเพศกับต้นโพธิ์ ต้นไทร
    ใบสุทธิข้าพจ้าก็ไม่ได้เก็บไว้ เพื่อจะเอาไว้บวชต่อเอง

    สึกข้าพเจ้าก็สึกกับ หลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม หรือพระครูเวฬุคณารักษ์ ใบสุทธิข้าพเจ้าก็คืนให้กับหลวงปู่เวิน
    พระกัมมัฏฐานที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม จนเป็นที่รู้จักของชาวเพชรบูรณ์
     
  3. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    โทษทีจ๊ะ ดาเปรียบกับท่านสัญชัยฯไม่ได้จริงๆ เพระดาโง่กว่าเยอะเลยอ่ะจ๊ะ

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    <!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Sriaraya5 [​IMG]
    ช่วงหักเหของการปฏิบัติ

    อาจไม่ตรงกัน เพราะมีหลายตำรา

    ตามดูช่วงที่ตรงกับเราที่สุด

    นะจ๊ะ แต่ละตำราไม่เหมือนกัน

    อิอิ

    หาก ไอโอเฟส จะถามว่า ทำไมผมถึงต้องอ่อนโน้มถ่อมตน
    ทั้งๆที่ผมรู้ถานะตนเองว่าเป็นญาณของพระศาสดาจารย์

    เพราะผมมาระลึกถึงหลวงปู่ใหญ่กัสสปะเถระเจ้า จึงแสดงอาการลิงโลดที่ได้พบพระธรรมบรมครูเทพโลกอุดร

    การที่ผมได้โน้มตนเข้าไปหาหลวงปู่เฌรนิรนาม ก็เสมือนว่าผมได้พบพระธรรมเทพโลกอุดร







    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ฮ่าฮ่าฮ่า เอาอีกแล้วเพ้ออีกแล้ว ญาณท่านไม่มีหรอก เท่าที่เห็นท่านมันมีแต่ยานโตงเตงเท่านนั้นแหละ และหากจะแอบอ้างหลวงปู่ให้ได้ จะเป็นพระศรีฯให้ได้ ก็เอ๊า

    1.หลวงปู่ท่านบอกว่า อะไรคือหนึ่ง ?

    2.ถึงปัจจุบันพระศรีฯท่านบำเพ็ญบารมีมากี่อสงไขยแล้ว ?

    ไม่ต้องเสียเวลาเข้ากูเกิ้ลหรอกนะ หากจะตอบก็กรุณาใช้สมองก่อน ใช้ทั้งสองซีกเลยนะจ๊ะ และอย่าตอบแบบคนเพ้อเจ้อนะจ๊ะ ฮ่าฮ๋าฮ่า

    ป.ล. เห็นมั้ยท่านทมั้งหลาย พอดาแต่งเองเขียนอง ก็มีสะกดผิดให้เห็นอีกแล้วเจ้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า




    ฮ่าฮ่าฮ่า เอาอีกแล้วเพ้ออีกแล้ว ญาณท่านไม่มีหรอก เท่าที่เห็นท่านมันมีแต่ยานโตงเตงเท่านนั้นแหละ และหากจะแอบอ้างหลวงปู่ให้ได้ จะเป็นพระศรีฯให้ได้ ก็เอ๊า

    1.หลวงปู่ท่านบอกว่า อะไรคือหนึ่ง ?

    2.ถึงปัจจุบันพระศรีฯท่านบำเพ็ญบารมีมากี่อสงไขยแล้ว ?

    ไม่ต้องเสียเวลาเข้ากูเกิ้ลหรอกนะ หากจะตอบก็กรุณาใช้สมองก่อน ใช้ทั้งสองซีกเลยนะจ๊ะ และอย่าตอบแบบคนเพ้อเจ้อนะจ๊ะ ฮ่าฮ๋าฮ่า

    ป.ล. เห็นมั้ยท่านทมั้งหลาย พอดาแต่งเองเขียนอง ก็มีสะกดผิดให้เห็นอีกแล้วเจ้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า



    ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องอื่นช่างก่อนเถิด ที่เราถามไปหากตอบไม้ได้ก็ขอความกรุณาอย่าแถไปเรื่อยเปื่อยเลย .................. ผู้เที่ยวประกาศตนว่า เป็นญาณพระศาสดา ตรัสรู้แล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้ทันพุทธวิสัย เป็นพระศรีฯอีกตะหาก หากไม่รู้ตอบไม่ได้ เพราะไม่มีในกูเกิ้ล ก็ขอความกรุณาอย่าแถแบบน่าเกลียดขนาดนี้เลยนะ มันสุดจะบรรยายเลยนะท่าน เพราะนอกจากจะเป็นตัวตลกให้ชาวเว็ปขบขันแล้ว ยังเป็นการปล่อยไก่ทางหน้าเว็ปไม่เว้นแต่ละวัน แถมเป็นไก่ประเภทป่วยเป็นไข้หวัดนกอีกตะหาก ฮ่าฮ่าฮ๋า









    <CENTER>วาทะของศาสดาสญชัย เวลัฏฐบุตร</CENTER>[​IMG] [๗] อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เข้าไปหาท่านสญชัย เวลัฏฐบุตร และถามปัญหานั้นกับท่าน ท่านได้ตอบว่า
    ถ้าถามปัญหาว่า ข้อนั้นเป็นอย่างนั้นหรือ หากหม่อมฉันเห็นว่าเป็นอย่างนั้น ก็จะตอบว่าเป็นอย่างนั้น แต่หม่อมฉันไม่มีความเห็นตายตัวเช่นนั้น หม่อมฉันมีความเห็นว่า อย่างนี้ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ไช่ก็มิใช่
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันถามถึงสามัญผลที่เห็นประจักษ์ ท่านกลับตอบ ส่ายไปไม่ตายตัว เป็นการตอบคนละเรื่องกับที่ถาม หม่อมฉันเห็นว่า ในบรรดาสมณพราหมณ์เหล่านี้ ท่านสญชัย เวลัฏฐบุตร นี้โง่กว่าเขาทั้งหมด แม้หม่อมฉันจะไม่พอใจ ไม่เชื่อถือ ก็มิได้คัดค้าน เพราะเห็นว่าไม่ควรหักหาญสมณพราหมณ์ผู้อยู่ในราชอาณาเขต หม่อมฉันจึงกลับ และไม่ใส่ใจในคำตอบนั้น
    ที่มา: สามัญญผลสูตร ๙[๙๙]๕๔-๕๖[​IMG]

    ๖.ครูสัญชัยเวลัฎฐบุตร
    บางทีเรียกสัญชัยปริพาชก ท่านผู้นี้คืออาจารย์เดิมของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ คำสอนต่างๆในลัทธินี้ล้วน ไม่แน่นอน ซัดส่าย ลื่นไหลเพราะเหตุผลหลายอย่าง เช่น
    ๑)เพราะเกรงจะพูดปด จึงต้องปฏิเสธว่า อย่างนี้ก็ไม่ใช่ อย่างนั้นก็ไม่ใช่
    ๒)เพราะเกรงจะเป็นการยึดถือ จึงต้องปฏิเสธแบบข้อ (๑)
    ๓)เพราะเกรงจะถูกซักถาม จึงต้องปฏิเสธแบบข้อ (๑)
    ๔)เพราะโง่เขลา จึงต้องปฏิเสธแบบข้อ (๑)คือไม่ยอมรับอะไรและไม่ยืนยันอะไรทั้งสิ้น
    พระพุทธศาสนาเรียกคำสอนของท่านผู้นี้ว่าอมราวิกเขปิกาทิฏฐิ
    เพราะเหตุนี้ พระเจ้าอชาตศัตรูจึงทรงมีความเห็นว่า ในบรรดาครูทั้ง ๖ นั้น ครูสัญชัยเวลัฎฐบุตรโง่เขลาเบาปัญญาที่สุด
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงจัดทิฏฐิหรือความเห็นของครูทั้ง ๖ นี้ว่าเป็น มิจฉาทิฏฐิทั้งสิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  4. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ฮ่าฮ่าฮ่า ก่อนจะบอกว่าตรัสรู้ บรรลุธรรมแล้ว เป็นญาณพระศาสดา รู้ทันพุทธวิสัย เป็นพระศรีฯอีกตะหากเนี่ย ดาไปหัดเขียนหนังสือใหม่ก่อนดีกว่ามั้ย ฮ่าฮ่าฮ่า


    ฮ่าฮ่าฮ่า เราบอกแล้วไงท่านทั้งหลาย ข้อความไหนที่ดายาน แต่งเอง มันต้องเขียนผิดอยู่เป็นประจำแม้คำง่ายๆก็เป็นเช่นนี้ แต่ข้อความที่เที่ยวลอกจากทางหน้าเว็ปมาตัดต่อสอดไส้ เซฟไว้ในเครื่อง แล้วมาโพสต์ตอบ โพสต์สอนชาวบ้านน่ะ ไม่มีเขียนผิด สะกดผิแม้ตัวเดียวอย่างนี้เป็นต้น

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Sriaraya5 [​IMG]
    หน่อพุทธภูมิ
    การบำเพ็ญบารมี 30 ทัศยังไม่ครบถ้วนก็ไม่สามารถสำเร็จได้
    ต้องได้รับพุทธทำนายจากพุทธะในอดีตเสียก่อนจึงจะเที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้
    การพระมหาสัตว์ที่จะสำเร็จเป็นพุทธะได้ จะต้องตรัสรู้ด้วยตัวเอง วิปัสนาตัวแท้ๆไม่เสื่อม จะไม่มีอันตกต่ำไปเป็นธรรมดา มีแต่จะสูงขึ้นไปถึงพระอรหันต์ พ้นโลก
    (ข้อความนี้มาจากแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ในเครื่อง)

    ต่อให้คุณ กระทบกับโลกธรรมแปดแรงแค่ไหน
    ตัววิปัสนาแท้ๆ จิตจะไม่มีตกครับ
    (นี่มาจากอีกแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ในเครื่อง)

    เมื่อเราพ้นทุกข์แล้วจะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อเราพบสัจจะธรรมแล้วจะให้ผู้อื่นรู้ด้วย เราจักรื้อขนหมู่สัตว์ทั้งหลายข้ามทะเลแห่งการเวียนว่ายตายเกิด นั่นเองครับ
    (นี่มาจากอีกแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ก่อน)

    ขอให้พระโพธิสัตว์ทั้งหลายตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท อย่าขาดสติ จงไปให้ถึงซึ่งการบรรลุพุทธภูมิ
    (นี่มาจากอีกแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ก่อน)


    เรามีนิสัยชอบสอนคนอื่นและการฝึกตนอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นกับอภิญญา เพราะผมมีญาณอาสวักขยญาณ ปัญญาที่ขจัดอาสวกิเลสตัณหาให้หมดสิ้นไป อภิญญาข้อนี้เองจะเป็นหนทางให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ และเป็นญาณที่คุมจิตตานุภาพอีกทีหนึ่ง จึงไม่หลงกับฤทธิ์ ใช้ฤทธิ์ก็ไม่ติดในฤทธิ์ ฤทธิ์จึงเป็นบุญญฤทธิ์ เป็นของเล่นของพระอริยเจ้า และเป็นเครื่องอยู่เครื่องอาศัย จากผลของวิมุติสุข และ มิใช่ว่าสอนเพียงวันสองวันแต่หากตลอดชีวิตของเราเลยทีเดียว
    (นี่ก็มาจากอีกแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ในเครื่องก่อน)


    ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นมาในโลกหรือไม่ก็ตาม ธรรมทั้งหลายก็มีอยู่ก่อนแล้วพระพุทธเจ้าทั้งหลายแค่ทรงค้นพบ และนำออกตีแผ่ให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ

    (นี่มาจากอีกแหล่งหนึงที่ตัดต่อเซฟไว้ในเครื่อง)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ฮ่าฮ่าฮ่า ญาณของดา ปัญญาของดาล้วนอยู่ในกูเกิ้ลทั้งสิ้นนี่เอง ................... ดามีแต่ยานโตงเตงเท่านั้นแหละจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    iofeastเมื่อไหร่มันจะเลิกบ้าหนอปัญญาอ่อนสมอง
    กวงมีแต่ขี้เรื้อยอย่ามาเที่ยวสอนผิดๆ
    เอาตัวของแกให้รอดก่อนเถิด
    มีแต่คนเค้าหลุดพ้นแล้วเค้าถึงมีเมตตาเพราะเขามีแต้มมากกว่า

    แต่นี่อะไรธรรมะต่ำกว่าเด็กอนุบาล
    เที่ยวทำโอหังพองขนไปทั่วเห่าอยู่ได้

    เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันบ้างเด็กเสเพ
    นอกจากวันๆ ลอยไปก็ลอยมาทำเป็นผีไม่มีศาล

    คิดเสียบ้างโตจนมาเลียตูดไม่ถึงแล้วคิดเป็นไหม
    ถ้าคิดไม่เป็น คิดมากๆ สมองจะได้โตไม่ได้โตแต่ตัว

    อ่านอีกครั้ง
    วันนี้ 02:45 PM
    ภัทรอังคาร
    ผีบ้า อย่ามาพูดจากวนประสาทนะ ยะโส โอหังเหลือเกินนะ ใครๆจะหลงไหลได้ปลื้มนาย ปากก็แบบนี้ หน้าตาก็อย่างงั้น ใครจะทนได้ ฮะ นึกว่าตัวเองหล่อเท่ห์สุดๆละสิ โธ่เ๊อ๊ย ต่อให้โลกใบนี้เหลือผีเน่าอย่างนายตนเดียว ก็ไม่เอามาทำยาหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  6. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    [​IMG] Showing Visitor Messages 1 to 10 of 1726

    <FORM id=visitor_message_inlinemod_form action=http://palungjit.org/member_inlinemod.php?u=133613 method=post>
    1. [​IMG]
      <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_875686 title="" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[875686] inlineModID="inlineMod_comment"> วันนี้ 04:11 PM
      Sriaraya5

      เมื่อไหร่มันจะเลิกบ้าหนอปัญญาอ่อนสมอง
      กวงมีแต่ขี้เรื้อยอย่ามาเที่ยวสอนผิดๆ
      เอาตัวของแกให้รอดก่อนเถิด
    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านทั้งหลายดูคนบ้า มีคนรู้ทันพูดแทงใจดำ ตอบไม่ได้ไปไม่เป็น ไม่รู้ในคำตอบ ไม่กล้าตอบโต้ทางหน้าเว็ป ก็ดอดเข้ามาโพสต์ไว้ที่ vm ของข้าพเจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า......ญาณของพระศาสดา ฮ่าฮ่าฮ่า ตรัสรู้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า บรรลุธรรมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า รู้ทันพุทธวิสัย ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นพระศรีฯอีกตะหาก ฮ่าฮ่าฮ่า ..................ขำอ่ะ.............ดายานโตงเตง ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ้กกกกกกกกก ฮ่าฮ่าฮ่า </FORM>
     
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    iofeastเมื่อไหร่มันจะเลิกบ้าหนอปัญญาอ่อนสมอง
    กวงมีแต่ขี้เรื้อยอย่ามาเที่ยวสอนผิดๆ

    เอาตัวของแกให้รอดก่อนเถิด
    มีแต่คนเค้าหลุดพ้นแล้วเค้าถึงมีเมตตาเพราะเขามีแต้มมากกว่า

    แต่นี่อะไรธรรมะต่ำกว่าเด็กอนุบาล
    เที่ยวทำโอหังพองขนไปทั่วเห่าอยู่ได้

    เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันบ้างเด็กเสเพ
    นอกจากวันๆ ลอยไปก็ลอยมาทำเป็นผีไม่มีศาล

    คิดเสียบ้างโตจนมาเลียตูดไม่ถึงแล้วคิดเป็นไหม
    ถ้าคิดไม่เป็น คิดมากๆ สมองจะได้โตไม่ได้โตแต่ตัว

    อ่านอีกครั้ง
    วันนี้ 02:45 PM
    ภัทรอังคาร
    ผีบ้า อย่ามาพูดจากวนประสาทนะ ยะโส โอหังเหลือเกินนะ ใครๆจะหลงไหลได้ปลื้มนาย ปากก็แบบนี้ หน้าตาก็อย่างงั้น ใครจะทนได้ ฮะ นึกว่าตัวเองหล่อเท่ห์สุดๆละสิ โธ่เ๊อ๊ย ต่อให้โลกใบนี้เหลือผีเน่าอย่างนายตนเดียว ก็ไม่เอามาทำยาหรอก <!-- google_ad_section_end -->
     
  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า เอ่อ......คือ.........ไม่ได้ลอก ไม่ได้ก๊อปจากทางหน้าเว็ปมา ตัดต่อสอดไส้ ดาก็เขียนผิด สะกดผิดอีกแล้วอ่ะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    ที่ข้าพเจ้าถามไป

    1.หลวงปู่ท่านบอกว่า อะไรคือหนึ่ง ?

    2.ถึงปัจจุบันพระศรีฯท่านบำเพ็ญบารมีมากี่อสงไขยแล้ว ?


    สรุปแล้ว ก็คือ ไม่รู้ ตอบไม่ได้ แล้วจะเบี่ยงเบน แถอีกแล้วครับท่าน ..................
    ฮ่าฮ่าฮ่า...........ญาณของพระศาสดา........อ่าฮ่าฮ่า บรรลุธรรมแล้ว ..........ฮ่าฮ่าฮ่า รู้ทันพุทธวิสัย...........ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นพระศรีฯอีกตะหาก...........แต่เสริจกูเกิ้ลแล้วไม่มี หาไม่เจอ ก็ตอบไม่ได้ขอรับท่านทั้งหลาย ฮ่าฮ่าฮ่า


    ป.ล. ส่วนคุณภัทรอังคารนะท่าน เราหยอกล้อกันเช่นนี้เป็ประจำอยู่แล้ว หากท่านใช้สมองที่มีอยู่น้อยนิดของท่านพินิจพิเคราะห์ให้ดี ก็จะรู้อ่ะนะ ด้วยปัญญาของเด็กประถมทั่วประเทศเขาก็รู้กัน ...........เราก็แปลกใจว่า ท่านโตจนสุนัขเลียก้นไม่ถึงแล้ว ทำไมถึงไม่รู้ไม่เข้าใจ..................อ๋อ ก็สมองท่านหยุดเจริญเติบโตมาตั้งแต่5ขวบแล้วซินะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  9. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตัวของตัวยังไม่รู้อะไรเป็นกุศล อกุศล

    ทำเป็นอุตริว่ารู้ใจคนอื่น โกหกคำโตเลยนะแก มีนักปฏิบัติเค้าบอกเราว่าiofeast นี่มันบ้าขนานแท้ ท่านก็สงสารมันหน่อย มันจะแย่นะท่าน

    ดีให้iofeastตกนรกให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง ว่าคิดตรงข้ามสวนทาง
    กับผู้รู้แล้วจะเป็นอย่างไง แตกกายทำลายขันธ์เมื่อไหร่มีทุกขติเป็นที่ไปอย่างแน่นอน ติเตียนผู้ทรงศีลบริสุทธิ์
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    [​IMG]
    <INPUT class=inlinemod_checkbox id=vmessagelist_875696 title="" type=checkbox value=0 name=vmessagelist[875696] inlineModID="inlineMod_comment"> วันนี้ 04:25 PM
    iofeast


    มีอาจารย์โง่ๆผลิตศิษย์โง่ๆ
    ช่วยพยุงค้ำชูไม่ขึ้น เรียนแต่สิ่งโง่ๆ
     
  11. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ฮ่าฮ่าฮ่า คงจะยากอ่ะนะ ด้วยที่เราติเตียนเนี่ย เป็นความจริงๆล้วนๆ และที่เรากำลังสั่งสอนเนี่ย เป็นคนบ้า สัญญาวิปลาสแต่ไม่รู้ตัว เราติเตียน สั่งสอนด้วยความจริงล้วนๆเลยอ่ะจ๊ะ และคนบ้าตนนี้ จากโลกนี้ไปแล้วก็ โน้นเลย นรกนิเวศน์เจ้าค่ะ
    ส่วนคนที่บ้าขนานแท้เนี่ย มีแต่คน PM มาหาเรา ให้สงสารท่านให้มากหน่อย เพราะดาเนี่ยบ้าจริง บ้าแท้ บ้า แน่ บ้านอน แต่ไม่มีใครเขาอยากแสดงตัว มาเกลือกกลั้วกับคนบ้าอย่างดาหรอกนะ และที่สำคัญ คนบ้า ที่มี แต่ลอก แต่ก๊อปปี้ จากทางหน้าเว็ปมาสอนชาวบ้านอย่างท่านเนี่ย แค่เราคนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว ...... ไม่ซิ อีก10ดา 100ดา ให้บ้ากว่านี้ เราคนเดียวก็สั่งสอนได้เจ้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไปสร้างห้องใหม่ไป๊ iofeast อย่ามาก่อกวนเพื่อนๆนักปฏิบัติ

    ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่ได้ ก็อย่ามาทำเป็น "มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ"

    [​IMG]
     
  13. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    [​IMG]

    มีโรงบาลบ้า รักษาแต่คนบ้าๆ อย่างท่าน แต่ช่วยพยุงค้ำชู
    รักษาไม่หายจริงๆ เก่งแต่เรื่องโง่ๆ นะท่าน ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  14. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถ้าว่าเราลวงโลกกล้าเจอตัวเป็นๆเราไม๊

    <TABLE class=tborder id=post3141771 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 04:45 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1441 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->iofeast<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3141771", true); </SCRIPT>

    สมาชิก ​


    [​IMG]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​





    จัดโต้วาทีทำเพื่อการกุศล กล้าไหมระหว่าง Sriaraya5vsiofeast

    แกกล้ารับคำท้าไหม ถ้าว่าเราไม่มีคุณธรรมพอที่จะสอนคนได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  15. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า บ้าก็ไปอยู่ไปอยู่โรงบาลบ้าไป๊ อย่ามาสอนชาวบ้านแบบมั่วๆ เพ้อเจ้อเป็นพระศรีฯบ้างหล่ะ ตรัสรู้แล้วบ้างหล่ะ บรรลุธรรมแล้วบ้างหล่ะ รู้ทันพุทธวิสัย เป็นญาณของพระศาสดาบ้างหล่ะ ...........แต่ลอก ก๊อปปี้ จากทางหน้าเว็ปมาตัดต่อสอดไส้ โพสต์ตอบ สอนชาวบ้านจนมั่วไปหมดเลย กระทำด้วยอาการแห่งขโมย มีคนรู้ทันก็แต๋วแตกอย่างที่เห็น.........ไปให้จิตแพทย์ใช้ไฟช็อตสมองสักทีเถิดนะนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  16. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    อย่างดาที่ศรีธัญญามีเยอะแยะเลยอ่ะจ๊ะ




    ฮ่าฮ่าฮ่า กร๊ากกกกกกกกกกก .......นี่ท่านกินยาคุมย้อนศรมาเร้อ โอ้ยยยยยยยยยยยยย ที่เห็นทางหน้าเว็ปนี้ก็ขำจนกระจายไม่ไหวแล้ว ที่เห็นอยู่นี่ก็ชัดเจนซะจนเห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว ฆ่าตัวตายทางหน้าเว็ปยังไม่พอเร้อ เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย ........นี่ยังจะให้เราไปนั่งฟังท่านเพ้อเจ้ออีกเหรอเนี่ย.........โรคจิตชัดๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="97%" align=left border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 14px">ว่าไงกล้าโต้วาทีกันไหมiofeast สมัยพุทธกาลก็มีการโต้วาทีกับเดียรถีย์ </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="FONT-SIZE: 14px; WHITE-SPACE: nowrap" width="1%">[​IMG] </TD><TD style="FONT-SIZE: 14px">ถ้าไม่กล้าก็ไปนุ่งผ้าถุงไป๊ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า
    เรากำลังโต้วาทีกับเดียรถีย์ อลัชชีตัวแม่ อยู่นี่ไง

    ว่าไง
    ที่ข้าพเจ้าถามไป

    1.หลวงปู่ท่านบอกว่า อะไรคือหนึ่ง ?

    2.ถึงปัจจุบันพระศรีฯท่านบำเพ็ญบารมีมากี่อสงไขยแล้ว ?

    ตอบไม่ได้ก็อย่าแถไปเรื่อยเปื่อยเลย ถามอะไรตอบไม่เคยได้ บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยเปื่อย ตอบเรามาก่อนดีกว่ามั้ย ตอบไม่ได้ก็ไปโรงบาลบ้าไป๊ อลัชชี ตัวแม่เอ๋ย ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไม่มีพยานการรับรู้ ต้องมีมากกว่าสองขึ้นไป

    พยานจะได้รู้ว่าใครปั้นน้ำเป็นตัว
     
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    อิสระภาพทางจิตจะเป็นของยาย ถ้ากล้าออกจากกรอบ
    ที่ปฏิบัติแล้วเกิดเป็นวิปลาสคลาดเคลื่อนจาก หลักธรรมความเป็นจริง ส่วนมากเกิดจากผู้ปฏิบัติที่ฝึกเองตามตำราแต่ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ศึกษาจากผู้ไม่รู้แจ้งแทงตลอดในธรรม


    เพราะทุกสำนักต่างก็อ้างว่าเป็นสำนักวิปัสนา จนคนเชื่อถือ แต่จิตภายในของแต่ละคนกลับไม่ยอมรับ

    แต่ว่าใครจะผิดใครจะถูกอย่าพึ่งไปพูด ส่วนใหญ่ที่มันมีปัญหาปฏิบัติไปแล้วพากันเป็นบ้าติดนิมิต
    มันเกิดจากผู้ปฏิบัติที่ออกไปสร้างสำนัก ยังไม่ได้หลักของใจ

    ส่วนมากไปได้แค่สมถกรรมฐาน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...