เรื่องจริงของตุ๊กตาทองวัดสามง่าม ที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ (รู้ไม่จริง)

ในบรรดากุมารทองของหลวงพ่อต่าง ๆ ในอดีตและปัจจุบัน ไม่มีใครดังเกินตุ๊กตาทอง ของหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม และปัจจุบันคือและหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ส่วนใหญ่ ๆ ทุก ๆ คนทราบมาจากหนังสือพระเครื่องต่าง ๆ ที่นั่งเทียนเขียนกันออกมาหลาย ๆ ฉบับ ว่า การปลุกเสก กุมารทอง หรือตุ๊กตาทอง ของหลวงพ่อเต๋ นั้น หลวงพ่อจะวางตุ๊กตาทอง ไว้ในท่านอน เวลาปลุกเสกจะต้องปลุกเสกจนตุ๊กตาทองลุกขึ้นนั่งได้เอง และส่วนชื่อนั้น วิญญาณที่มาสถิตในตุ๊กตาทองที่หลวงพ่อเต๋ ปลุกเสกจะเป็นผู้บอกชื่อของตัวเอง และหลวงพ่อเต๋ จะเขียนชื่อแปะไว้ที่ฐานของตุ๊กตาทอง แต่ละองค์ ในสมัยก่อนประมาณ ปี พ.ศ.2533 ผมได้ย้ายไปรับราชการที่อำเภอดอนตูม จ.นครปฐม และได้มีความสนิทสนม กับพี่คนหนึ่งที่เคยเป็นลูกศิษย์วัด สมัยหลวงพ่อเต๋ คงทอง ยังมีชีวิตอยู่ ตัวพี่คนนนี้ในบ้านของพี่คนนี้ มีตุ๊กตาทองรุ่น 1 ของหลวงพ่อเต๋ อยู่หลายองค์ ซึ่งแท้ดูง่าย แน่นอน และหัวหน้าคนใหม่ของผมได้ย้ายมาประจำการที่ผมทำงานอยู่ หัวหน้าผมคนนี้ ก็เคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋ โดยเป็นเด็กวัดคอยรับใช้หลวงพ่อเต๋ อย่างใกล้ชิดมาก่อน แต่จะรุ่นเป็นรุ่นหลังพี่คนแรก แต่ก็รู้จักสนิทกันดี ผมได้สอบถามทั้ง 2 ท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้คำตอบมาตรงกัน ดังนี้ครับ <O</O
1. เรื่องที่หลวงพ่อเต๋ ปลุกเสกแล้วตุ๊กตาทองลุกขึ้นนั่งได้เอง นั้น ไม่จริง คนที่ลุกไปจากที่ปลุกเสกก็คือหลวงพ่อเต๋ เอง ส่วนตุ๊กตาทอง ก็ยังนอนอยู่ในท่านั้น พวกลูกศิษย์วัด ก็เป็นคนจับลุกขึ้นนั่ง<O</O
2. เรื่องที่วิญญาณเด็กที่มาสถิตในตุ๊กตาทองบอกชื่อตนเองกับหลวงพ่อเต๋ แล้วหลวงพ่อเต๋ เป็นคนจดแปะไว้ที่ใต้ฐาน นั้น ไม่จริง พวกเด็กวัด จะเปิดพจนานุกรม หรือหนังสือตั้งชื่อ เห็นชื่อไหนดี ไพเราะ ก็จะเป็นคนจดแปะไว้ที่ฐานของตุ๊กตาทอง เอง<O</O
ครับเรื่องจริง มันเป็นอย่างนี้ จนทุกวันนี้ก็ยังมีคนที่หลงเชื่อกันอย่างงมงายเหมือนในหนังสือพระเครื่องบางฉบับ และนักเขียนบางคนประเภทนั่งเทียนเขียนให้ได้อ่านกัน <O</O

 

ไม่ใส่อภินิหารเดี๋ยวเล่าไม่มันส์ครับผม

 

ส่วนในปัจจุบัน ที่วัดสามง่าม ก็มีหลวงพ่อแย้ม เป็นผู้สืบทอดวิชาสร้างตุ๊กตาทอง สืบต่อจากหลวงพ่อเต๋ และสด ๆ ร้อน ๆ ที่หน้าบ้านผมมีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่ง ประเภทเป็นร้านอาหารป่า ก็มีคนมานั่งดื่มกิน และคุยกัน บังเอิญ วันนั้นผมอยู่ด้วย ก็ได้ยินชายคนหนึ่งบอกว่า ถ้าใครจะไปเช่ากุมารทอง หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม แล้วนำไปให้หลวงพ่อแย้ม เจิม ก่อนนำกลับมาบูชาที่บ้าน จะต้องให้หลวงพ่อเจิม จนตัวกุมารสั่น ถึงจะใช้ได้ ผมจึงบอกว่าไม่จริง ผมไปวัดสามง่าม ทั้งเช่าเอง และนำกุมารทอง ไปให้หลวงพ่อแย้ม เจิม ก็ไม่เคยเห็นกุมารสั่นซักครั้ง เห็นนั่งอยู่แต่ในพานเฉย ๆ มีแต่หลวงพ่อแย้มเองที่สั่น โดยเฉพาะที่มือครับ ไม่เชื่อไปดูได้ที่วัดสามง่าม ได้ทุกวันที่หลวงพ่อแย้มอยู่ครับ<O</O
แต่แม้ความจริงจะเป็นอย่างนี้ก็ตาม ตุ๊กตาทองของหลวงพ่อเต๋ ในอดีต ก็เฮี้ยน และดังที่สุดในประเทศไทยครับ หัวหน้าผมได้เล่าว่า เคยเห็นมีผู้นำตุ๊กตาทองมาคืนให้หลวงพ่อเต๋ แล้วบอกว่าเลี้ยงไม่ได้ มีหลายราย เยอะจนถึงขนาดว่าเป็นห้องครับ แต่หลังจากหลวงพ่อเต๋ มรณภาพแล้ว ไม่ทราบว่าได้หายไปไหนหมด

 

ผมมีตุ๊กตาทองของหลวงพ่อแย้มอยู่องค์หนึ่ง (ร่ำรวย) ไม่เคยเห็นออกมาเล่นเลยครับ ผมเลยอยากรู้ว่ายังอยู่หรือป่าว ก็อธิฐานว่ามาเข้าฝันหน่อยจะได้รู้ว่ายังอยู่กับผมสบายดีหรือป่าว

ปรากฎว่ามาครับ แต่เป็นกุมารทองของหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมแทนครับ 2 องค์พี่น้อง

 

ผมอยากรู้ว่าตุ๊กตาทองของหลวงพ่อแย้มท่านอยู่หรือป่าว จะมีวิธีอะไรบ้างครับ ผมสวดคาถากุมารทองของหลวงพ่อทุกวัน ก็ไม่เคยเห็นออกมา หรือมาเข้าฝันผมเลยสักครั้งครับ

 

ผมบูชาตุ๊กตาทอง หลวงปู่แย้มมา 3 ตน จนป่านนี้ยังไม่เคยเจออะไรเลยครับ

 

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 3952940" vAlign=top><TD class=alt1>
ผมเองเลี้ยตุ๊กตาทองหลวงพ่อเต๋ หลวงพ่อแย้ม กุมารทองของ หลวงพ่อพูล พี่จุกกุมาร และกุมารทองของหลวงพ่ออื่น ๆ ก็ไม่เคยเห็นตัว เลยสักครั้งเหมือนกัน แต่ถ้าของหายในบ้าน จุดธูปบน จะเจอทุกครั้ง ครับ ผมคิดว่าไม่ต้องเห็นหรอกครับ ให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้นแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าเห็นแล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไปครับ บางคนที่เลี้ยงกุมาร เขาก็ขอกว่าให้หมั่นพูด หมั่นคุย ทุก ๆ วัน และบ่อย ๆ ตรงกับคำพูดของหลวงพ่อขวัญ วัดสามง่าม (หลวงตาที่รับแขกแทนหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม ในเวลานี้ ครับ)


</TD></TR><TR><TD class=thead colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 3952940" vAlign=top><TD class=alt1></TD></TR><TR><TD class=thead colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อยากได้สักองค์ แต่เห็นว่าปลอมเยอะ ช่วงกุมารกำลังดัง เลยไม่กล้าเช่า ว่าจะไปวัดก็ไม่ได้ไปสักที

 

ขอบคุณครับ ที่ไม่เห็นคือไม่เ็ห็นก็ไม่เป็นไร กลับดีเสียอีก

แต่ที่เลี้ยงอยู่ เงียบๆ ครับ

หรืออีกประการหนึ่ง

คือ เค้าช่วยแบบเงียบๆ ครับ

บางอย่างอาจเหนือกรรมเราก็ได้

แต่ผมก็คิดว่าเค้ามีอยู่จริงนะครับ

 

ต้องรีบแล้วละครับ

 

เพื่อน เลี้ยงตุ๊กตาทองของหลวงพ่อแย้ม เล่าว่าเพื่อนมานอนบ้านโดนมาจับขา ดึงขาเล่น ของหลวงพ่อแย้ม ผมเคยเลี้ยงแบบทองเหลือง ขนาดพกพา แต่เงียบไม่มีอะไร เลยจำหน่ายต่อรุ่นพี่ไป

 

เหตุที่กุมารทองไม่ปรากฏตัวให้เห็นนั้นเป็นเรื่องธรรมดาครับ มีอยู่ แต่ไม่ให้เห็นง่ายๆถ้าไม่จำเป็นจริงๆครับ อย่าคิดมาก ถ้ารับมาเลี้ยงแล้ว ก็ต้องอยู่นั่นแหละครับ ไม่ได้หายไปง่ายๆถ้ามาจากวัดสามง่าม และหลวงพ่อปลุกเสกไว้แล้วแบบแท้ๆ

 

แล้วที่เขาบอกกันว่ากุมารทองที่เราเลี้ยงจะโตตามเวลาที่เราได้มาจริงหรือป่าวครับ คือเลี้ยงมา 14 ปี จะโตเป็นเด็กอายุ 14 หรือป่าวครับ

 

กุมารทองอาจจะไม่โตหรือถ้าโตก็ต้องโตช้ากว่าเราสิ ไม่งั้น กุมารทองหลวงพ่อเต๋ ก็เป็นปู่หมดแล้ว 555

ถ้าอ้างตามประวัติพี่จุกวัดสวนหลวง หลวงพ่อองค์ที่นิมิตรเห็นพี่จุกก็ยังเห็นเป็นเด็กอยู่เลยนะครับ

 

ตุ๊กตาทองของคุณ tong 5959 แพงมั้ยครับ มีประสบการณ์มั้ยครับ

 

ผมเอากุมารทองหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมมาเลี้ยง 2 องค์ ประมาณปี 2540 แล้วเอาเข้ากรุงเทพปี 2544 อยู่ที่กรุงเทพเปิดเป็นร้านอาหาร รปภ.เฝ้าร้านเห็นเป็นเด็กอายุ 14 กับ 10 ขวบ จูงมือกันลงมาจากชั้นลอยลงมาเล่นกันชั้นล่าง มาปลุกรปภ.ให้ตื่นเมื่อมีคนมาขโมยของ

แต่ตอนนี้เลิกร้านไปแล้ว มีแต่คนที่ office อยู่ชั้น 2 ได้ยินเสียงเด็กเล่นกันชั้นลอยบ่อยครั้ง (ปิดร้านอาหารไปแล้ว) แต่ไม่เห็นตัว

 

<!-- google_ad_section_end -->

คุณ tong 5959 มีของแปลกอีกเยอะครับ

 

นำมาโพสต์ให้ชมเป็นวิทยาทาน อีกสิครับ

 

อีกอย่างหนึ่ง ศาลาที่เก็บสังขารของหลวงพ่อเต๋ น่าจะทำให้ดีกว่านี้ซักหน่อย เงินก็ได้จากการจำหน่ายตุ๊กตาทอง ในตอนหลัง ซึ่งคนข้างวัดบอกว่า น่าจะได้ไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท แต่ผมคะเนว่า ถ้าไม่ถึงก็คงได้หลายสิบล้านบาท หลังจากที่ออกรายการตีสิบ ประชาชนก็มาแห่แหนบูชาตุ๊กตาทองกันจนหมดวัด และก็ยังมีออกมาอีกไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น ยังนึกในใจว่า ดินเจ็ดป่าช้า ทำไมมันหาง่ายอย่างนี้วะ เดี๋ยวก็ออกมารุ่น ๆ ฟันเงินเข้าวัดทีไม่รู้เท่าไหร่ สภาพของวัดถ้าเทียบตอนผมไปรับราชการอยู่อำเภอดอนตูมประมาณ ปี 2533-2540(7 ปี) ก็ยังเหมือนเดิม แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากต่อกุฏิหลวงพ่อแย้ม ออกมาที่ศาลาเก็บสรีระหลวงพ่อเต๋ ไม่รู้เงินไปไหนหมด ผมยังจำคำของเจ็กโอ๊ว เศรษฐีติดอันดับในอำเภอดอนตูม ได้ว่า "เชื่ออะไรก็เชื่อได้ แต่อย่างมงาย" ครับถ้าเรางมงาย ก็จะตกเป็นเหยื่อของผู้ที่หากินกับความเชื่อและศรัทธาของคน ที่หากินทางด้านนี้