อ้างอิงจาก http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=90287 ควรปล่อยเค้าไป หรือช่วยเค้าให้ได้สติ โดยวิธีไหน?
แล้วคุณมาแนะนำให้ข้าพเจ้าไปอ่านพระไตรปิฏก อ่านทำไมกันละคุณ ตัวพระไตรปิฏก เอง ก็ถูกบิดเบือนไปไม่รู้กี่มากน้อยแล้ว ศาสนาถึงได้เสื่อมโทรมลงไป แล้ว...
ยังไม่มีใครมาช่วยเลย ... ผมมีความรุ้สึกว่า รัชกาล1-7 นี่ มีองค์หลวงพ่ออย่างน้อย 1 พระองค์ ไม่รุ้ว่ามีใครคิดเหมือนกันไหม ผู้ที่รู้แล้ว...
คนที่ได้สมาบัติ ๘แล้ว ถ้าเจริญวิปัสสนาญาณพระโบราณาจารย์สมัยโบราณท่านบอกว่าเพียงแค่เคี้ยวหมากแหลกเดียวก็เป็นพระอรหันต์ หากว่าเราได้สมาบัติ ๘...
นี้ก็มาพิจารณาฌานที่ ๗ สมาบัตที่ ๗ คือ อากิญจัญญายตนะฌาน พิจารณาว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรเหลือเลยนี่มันพังหมดมันสลายตัวหมด...
ว่างมากโลกนี้หาอะไรไม่ได้ หานิมิตเครื่องหมายอะไรไม่ได้เลย หาจุดจบไม่ได้ จนกระทั่งจิตทรงอารมณ์ทรงตัวดีแล้ว อย่างนี้จัดเป็นรูปฌานที่ ๑...
จางลงไปจางลงไป แต่เรารู้สึกอารมณ์จิตนึกเห็นชัด นึกเห็นนะ ไม่ใช่ภาพลอยมา อารมณ์จิตนึกเห็นชัดจนกระทั่งปรากฏเป็นแก้วใส...
นี่เป็นอาการของฌาน ๔ ตามปกติ เมื่อถึงฌาน ๔ แล้วก็ต้องพยายามทรงฌานทรงสมาธิจะเป็นอันดับไหนก็ตาม ให้มันมีการคล่องตัวที่เรียกว่า วสี จะเป็นฌาน ๑ ฌาน ๒...
ไม่อยากเคลื่อน ใจสบาย แนบนิ่ง นิ่งสนิท คำภาวนานั้นมีแค่ตั้งแต่แต่ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิหรือปฐมฌานเท่านั้น ต่อไปเริ่มต้นเราจับคำภาวนา...
เมื่อเราพิจารณาความดีใคร่ควรความดีของพระองค์แล้ว เมื่อใจสบายก็จับอารมณ์เป็นสมาธิพิเศษ คือใช้อานาปานสติกับพุทธานุสสติควบกันไป โดยใช้คำภาวนาว่าพุทโธ...
ที่มา http://suknirun.buddhi.sm/ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เริ่มต้น พุทธานุสสติถึงสมาบัติ วันนี้จะได้พูดถึงพุทธานุสสติกรรมฐานต่อ...
คิดได้ไงนี่? ไม่ขอวิจารณ์คนข้างบนเพราะทุกคนคงคิดเหมือนกันหมด ป.ล.สถิติ ไม่เคยอนุโมทนาใครเลย ... เยี่ยม
เห็นว่าในห้องนี้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก และเป็นผู้ที่ทรงวิชชาสามก็มาก สงสัยมานานแล้วที่หลวงพ่อเคยบอกว่าเคยเกิดมาในกรุงรัตนโกสินทร์...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา