คุณพัน

จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค

ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์

"จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย

เทวทูต 4...หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ

ธรรมะที่หลวงพ่อยกมาสั่งสอนศิษย์เป็นประจำ มีอยู่เรื่องหนึ่ง คือ เทวทูต ๔ ที่เจ้าชายสิทธัตถะพบก่อนบรรพชา คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ

ความหมายของคำว่าเทวทูต ๔ หลวงพ่อท่านหมายถึง ผู้มาเตือน เพื่อให้ระลึกถึงความไม่ประมาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรคิด แต่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม

หลวงพ่อปรารภอยู่เสมอว่า แก่ เจ็บ ตาย เน้อ..หมั่นทำเข้าไว้ มีความหมายโดยนัยว่า เมื่อเราเกิดมาแล้ว เราก็ย่อมก้าวเข้าสู่ความชราความแก่เฒ่าอยู่ตลอดเวลา มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดาและเราจักต้องตายเหมือนกันทุกคน

การเห็นสมณะหรือนักบวช จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะชักจูงให้เราก้าวล่วงความพ้นทุกข์ได้ในที่สุด โดย "ผู้มาเตือน" ทั้ง ๔ นี่เอง


สวัสดีจ้าพี่พัน มีธรรมะจากหลวงปู่ดู่ มาฝากนะครับ ^___^

อุ้ยทะมายถึงบ้านเร็วจังเยย แย้วกิงข้าวยังจ้ะ

[IMG]

[IMG]

ไม่ได้ว่าใครค่ะ ว่าให้ตัวเอง

ข้อความแรกที่คุณพันส่งมา (ขออนุญาตเรียกชื่อนะคะ)

คุณพันบอกว่า อย่าไปมองคนอื่น ให้พากเพียรอยู่กับลมหายใจของตนเอง

ก็เลยตอบว่า ตนรู้ตนเองดีว่ายังเลวอยู่มาก บางอย่างไม่น่าให้อภัยด้วยซ้ำ
(แม้แต่ตัวเอง ก็ยังอภัยให้ตัวเองไม่ได้)

ถ้าล่วงเกินสิ่งใดไป ขอโทษละกันนะคะ

มาแย้วจ้ะ แหะ..แหะ...แวบหายไปแป๊บนุง

[IMG]

[IMG]

[IMG]

เอาแคทรียามาฝากค่ะ..

ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร

หลังจากที่ได้ทำทาน รักษาศีล ๕ (ครบ ๑ วัน) เจริญภาวนา นั่งสมาธิกรรมฐาน
เราควรจะอธิษฐาน ๕ อย่างนอกเหนือจากกรวดน้ำและแผ่เมตตาจิต โดยมีใจความดังนี้
๑.ขอให้เกิดมาในประเทศที่สมควร
๒.ขอให้เกิดมาแล้วเจอพระพุทธศาสนา
๓.ขอให้เกิดมาแล้วขอให้ตั้งอยู่ในศีลในธรรมได้
๔.ขอให้เกิดมาแล้วได้เป็นผู้ทำบุญมาก
๕.ขอให้เกิดมาแล้วได้สดับตับฟังธรรมมาก

[IMG]

คุณพัน เก็บเอาไว้นะครับ ทำบุญแล้วต้อง อธิษฐานตามนี้นะครับ

ได้เจอ พระศรีอาริย์เมตตไตรย แน่นอน

[IMG]

เอาลิลลี่สีส้มาฝากค่ะ..หอม..สดชื่น..

[IMG]

ถ้ารู้ว่าท่านห่วง ยังงัยก็อย่าดื้ออย่าซนนะจ๊ะ อิอิ

ห่วงเหมือนเดิม อิอิ

ได้ซิ... งั้น

ขอ วันเดือนปีเด เวลาที่เกิด จังหวัดที่เกิด ชื่อและ นามสกุล ตามบัตรประชาชน

ส่งทาง PM มาก็ได้ครับ

บอกเลยนะ เราเป็นเเม่บ้านมีลูกชาย1คน11ขวบจ้า

เอามาฝากก่องกลับบ้านจ้ะ ^_^

ธรรมะแท้อยู่ที่ใจ มิใช่ที่วัด พระสงฆ์ หรือคัมภีร์ใบลานที่ล้วนเป็นศาสนสถาน ศาสนบุคคล หรือศาสนวัตถุ เท่านั้น หากเราเข้าใจได้อย่างนี้ ศาสนธรรมอันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก็จะเกิดขึ้นที่ตัวเรา เมื่อนั้น เราก็จะเข้าใจคำว่า พระที่คล้องใจ มิใช่ พระที่คล้องคอ

อืม...ไม่ได้ทำงานจ๊่า