[COLOR="Teal"][B]รอบ 2 ก่อนจะเดินลงเขา ถามพี่ๆ ที่แต่งตัวทหาร มารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ที่คอยดูแลท่านครูบาเจ้าบุญชุ่มอยู่ด้วย เจนถามพวกพี่ๆ ว่า ไปอีกไหมค่ะ พวกพี่บอกให้ไปก่อน เจนจึงเดินลงไปถึงปลายเขา ไปช่วยยกอีก คราวนี้เห็นมะพร้าวยังวางอยู่ แล้วมีกล่องหนังสือ เห็นน้องพลาธิป มากับเป่าเหล๋ยน เรียกเจ๊นุชมายกด้วย พวกน้องๆ ยกจำได้ว่ามะพร้าว น้องๆ ยกไปหมดแล้ว เหลือแต่ของหนัก นั่นคือกล่องหนังสือ เจนก็เลยยกกล่องหนังสือไป แม่เจ้าประคุณ เพิ่งรู้ว่าคุณหนังสือนี่หนักมากกกก มากกกกกกกกกก ไหล่แทบ[/B][/COLOR]
[B][COLOR=green]หากใครเคยมีบุญสัมพันธ์กับองค์ท่านมาก่อน[/COLOR] [/B][B][COLOR=darkorange]เขาจะรับรู้ได้เมื่อถึงเวลา และองค์ท่านจะมาเตือนหรือส่งนิมิตมาให้รับรู้โดยวิธีการต่างๆ [/COLOR][COLOR=magenta]เช่นการดลใจ หรือการติดต่อผ่านผู้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้คนกับองค์ท่าน[/COLOR][/B]
[B][COLOR=green]ขอให้บูชาด้วยจิตที่ศรัทธา[/COLOR] [COLOR=magenta]เพราะท่านรับรู้รับทราบวาระจิตของผู้คนได้[/COLOR] [COLOR=darkorange]โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาท่านอย่างแรงกล้า[/COLOR] [COLOR=red]ท่านสามาถช่วยเหลือผู้นั้น ให้พบความสุข ความเจริญได้[/COLOR][/B][COLOR=red] [/COLOR]
[B][COLOR=darkgreen]การบูชาท่านนั้น ไม่จำเป็นต้องบูชาด้วยสิ่งมีค่ามากมายหรือ บูชาที่เคร่งครัดพิธีกรรมอะไรมาก [COLOR=red]เช่นไม่จำเป็นต้องซื้อรูปปั้น ท่านราคาแพงๆเพื่อมาบูชา เพียงมีรูปท่านไว้ หรือ [/COLOR][/COLOR][COLOR=green]สัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนองค์ท่านก็พอแล้ว[/COLOR][/B]
[COLOR=magenta][B]พระพิฆเณศ เป็นชื่อตำแหน่งหนึ่งบนสวรรค์ [/B][/COLOR][B][COLOR=darkorange]อันที่จริงท่านไม่ได้มีหัวเป็นช้าง ท่านเป็นชายหนุ่มรูปงามมาก [/COLOR][COLOR=purple]วิมาณของท่านสวยงามตระการตา มีดาวระยิบระยับ และมีดอกดาวเรืองสีเหลืองรอบๆวิมาณ[/COLOR][/B]
[B][COLOR=magenta]พระพิฆเณศ เป็นมหาเทพชั้นผู้ใหญ่ที่สถิตย์อยู่บนสวรรค์ชั้นที่ 2 คือดาวดึงส์ การที่ท่านอยู่ชั้นที่ 2 ไม่ใช่ท่านมีบารมีน้อยกว่าเทพอื่นๆที่อยู่สวรรค์ชั้น 3 4 5 หรือ 6 [/COLOR][COLOR=green]แต่เพราะท่านมาทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ จึงมาอยู่ชั้นนี้ เพราะสวรรค์ชั้นที่ 1 และ 2 จะสามารถ รับรู้ความเป็นไปของมนุษย์ได้สะดวกกว่า[/COLOR][/B][COLOR=green] [/COLOR]
[B][COLOR=darkorange]....ขอทุกท่านพึงระลึกไว้เสมอว่า.....[/COLOR] [COLOR=magenta]พระพิฆเนศและทวยเทพจะสถิตอยู่ที่ใจของท่าน[/COLOR] [COLOR=green]จะคุ้มครองท่านทุกเมื่อที่ท่านระลึกถึงพระพิฆเนศแม้ปราศจากพิธีกรรมต่างๆ [/COLOR][COLOR=darkorchid]พระองค์จะคุ้มครองทุกเมื่อที่ท่านกระทำความดี[/COLOR] [COLOR=darkorange]ทุกเมื่อที่ท่านได้สวดมนต์และปฏิบัติการภาวนาอย่างมีสติ [/COLOR][COLOR=darkorchid]ทุกเมื่อที่ท่านถวายของตามฐานะและสถานการณ์จะเอื้ออำนวยโดยไม่หวังผลตอบแทน...[/COLOR][/B]
[B][COLOR=green]พระพิฆเนศไม่ได้เลือกประทับลงบนวัตถุทองคำ หรือ[COLOR=magenta]มวลสารที่มีค่าและหายาก [/COLOR]แต่[/COLOR][COLOR=darkorange]ท่านจะประทับลงในใจของผู้ที่ศรัทธาท่านด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์เท่านั้น!!![/COLOR][/B]
[B][COLOR=darkorange]พระพิฆเนศไม่ได้เลือกประทับลงบนวัตถุทองคำ [/COLOR][COLOR=green]หรือมวลสารที่มีค่าและหายาก [/COLOR][COLOR=magenta]แต่ท่านจะประทับลงในใจของผู้ที่ศรัทธาท่านด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์เท่านั้น!!![/COLOR][/B]
[B][COLOR=darkgreen]เฮียกลับบ้านเหรอคะ อยู่บ้านนะอย่าไปไหนอันตราย [/COLOR][/B] [B][COLOR=#006400][/COLOR][/B]
[U][B]ข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับพระมงคลมหาลาภ[/B][/U] เป็นพระนาคปรกสี่เหลี่ยม เนื้อผงขาว (และส่วนผสมดังกล่าวแล้ว) ด้านหลังเป็นยันต์เฑาะดอกบัว อะอุมะ พิมพ์ใหญ่กลางเล็ก จำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ซึ่ง “พระรัชชมงคลมุนี” (พระมหารัชชมังคลาจารย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้มอบให้ “พระชอบ สัมมาจารี” วัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพ ฯ สร้าง เพื่อนำมาแจกในงานสมโภชพระประธาน โดยส่ง “ผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณต่าง ๆ เป็นแท่ง ๆ ประทับตรา “วัดสัมพันธวงศ์” ให้นำมาผสม โดยเรียก “พระนาคปรก” นี้ว่า “พระมงคลมหาลาภ” ซึ่งมีชื่อของท่านคื
ขออนุญาตินำบทความที่พี่หนุ่มเมืองแกลง ได้เขียนไว้มาลงเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา และขอขอบพระคุณพี่หนุ่มมากๆ ที่มีสิ่งดีๆมาแน๊ะนำ พี่น้องเพื่อนฝูงในวงการนักนิยมพระมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม [U][B]บทความที่ทรงคุณค่าบางส่วน โดยพี่หนุ่มเมืองแกลง[/B][/U] พระเครื่องโดยทั่วไปย่อมดีเด่นด้วยกันบนพื้นฐานของความคงกะพัน แคล้วคลาด เมตตา หรือมหาอุดซึ่งเป็นอำนาจจิตพื้นฐานของ ผู้ได้ฌานหรือได้อภิญญาระดับพื้นฐาน พระที่หาได้ยากมากคือพระที่มีพลังอำนาจของการเกื้อหนุนชีวิตให้รุ่งเรืองก้าวหน้า และพระที่อำนวยผลตามการอธิ
[U][B]ผงโยคีฮาเล็บ…ผงสำคัญใน”พระผงมงคลมหาลาภ”…ตอนที่ ๒[/B][/U] ส่วนอีกเนื้อความหนึ่งเป็นการเขียนในกระทู้หนึ่งของคุณโต้ง บุรีรัมย์ซึ่งมีเนื้อความใกล้เคียงกับที่ผมนำมาให้อ่าน การปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์ คุณประถมได้กล่าวถึงการปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์ไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกซึ่งมาจากบันทึกของอาจารย์คุณประถมคือพระอริยคุณาธาร เป็นลักษณะที่พิสูจน์ยากเพราะเป็นเรื่องของการพิจารณาด้วยตาทิพย์ คนธรรมดามองไม่เห็น นำมาลงให้พิจารณาไตร่ตรองกันเอง ในพิธีที่วัดสัมพันธวงศ์มีผู้เก่งกาจอยู่มากมายอาทิ โยคีโยฮาเล็
*** คัดมาจาก บล็อก..พระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ *** [U][B]ผงโยคีฮาเล็บ…ผงสำคัญใน”พระผงมงคลมหาลาภ”…ตอนที่ ๑[/B][/U] ถ้าผมเอ่ยถึงพระผงมงคลมหาลาภของวัดสัมพันธวงศ์ เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน และจากการข้อมูลจากวัดสัมพันธวงศ์ที่มีแจกจ่ายให้ ต่างก็ยอมรับว่ามวลสารนั้นมีหลากหลายเยอะแยะมากมาย ลองเข้ากูเกิลแล้วพิมพ์คำว่า”พระผงมงคลมหาลาภ”จะพบข้อมูลดังกล่าวที่ลอกกันไปแปะวางประกอบการซื้อขายพระ ผมก็ไม่ได้บอกว่าข้อมูลจากวัดนั้นไม่จริง แต่ม
เกร็ดพิเศษ พระมงคลมหาลาภ(เพิ่มเติม) 1.สร้างจากผง"โสฬสมหาพรหม" ล้วนๆ (ผง"กูโบ๊ส" หรือที่บางคนเรียกว่า"ผงโสฬสมหาพรหม" ได้ทำขึ้นเพื่อพระชุดนี้เป็นการเฉพาะ ที่แม้แต่ท่านพ่อลี วัดอโศการามสัมผัสดูถึงกับสะดุ้ง ร้องว่า"เฮ็ดหยังแรงจั่งซี่" และขอผงพระหัก 1 บาตรไปผสมสร้างพระใบโพธิ์ วัดอโศการาม ,อาจารย์ปถม อาจสาคร เอาพระหักรุ่นนี้ไปสร้างชุด"บินเดี่ยว" หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิด) 2.ผงวิเศษ รวมจากสุดยอดพระคณาจารย์ในยุค 2500 มากมาย 3.พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่วัดสัมพันธวงศ์ นอกจากจะทำพิธีเสกแบบ"พร
ขออนุญาตินำข้อมูลทั้งหมดที่ผมเสิร์ซเจอมาลงไว้ เพื่อสะดวกในการศึกษาและประหยัดเวลาในการสืบค้น ขอบพระคุณเจ้าของบทความมา ณ ที่นี้ครับ [U][B]สมเด็จพระมงคลมหาลาภ [/B][/U] สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ พระนครแล้วเชิญไปประดิษฐานเป็นพระธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ ๕-๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙ นั้น บางท่านยังไปทราบประวัติที่ควรทราบ ซึ่งเป็นเหตุจะจงใให้เกิดความเลื่อมใสสัทธา เพื่อได้เคารพบูชาให้แน่บแน่นสมกับเ
แน๊ะนะพระดีราคาเยาชนกันอีกแล้วครับ (ถึงคาดว่าคงเยาวชนแค่ช่วงนี้ เพราะทราบข่าววงในมาว่า เซียนท่าพระจันทร์กำลังดันรุ่นนี้) พระดีที่ถูกลืม พระดีที่กำลังดัง หรือพระดีที่คนมองข้าม ขอบอกไว้เลยครับว่าถ้าใครได้มาอ่านบทความที่ผมขออนุญาติคัดลอกมาลงนี้แล้ว สมควรจะหามาติดตัวสักองค์นะครับ ,, เพราะนอกจากเนื้อหามวลสารที่สุดยอดแล้ว พระเกจิอาจารย์ที่ปลุกเสกยังมากมายมหาศาล เรียกได้ว่า พิธียิ่งใหญ่ไม่แพ้การปุกเสกพระ 25 ศตวรรษซะอีก
สวัสดีเพื่อนๆที่หลงผ่านเข้ามาในนี้ทุกท่านน๊ะครับ หลังจากลงลูกอมกันผีครูบาสิงห์แก้วคราวก่อนที่กล่าวถึง รุ่นอัฐิ วันนี้ผมได้มาครอบครอง 1 ลูกจึงนำมาลงไว้เป็นตัวอย่างจะได้เล่นหาแยกรุ่นแยกเนื้อได้ไม่สับสน ซึ่งประวัติการสร้างมีดังนี้ ลูกอมเกศาผสมอัฐิ๑ ครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกอง สร้างเมื่อวันอาทิตย์ที่28 ก.พ ถึง 1 มีนา 2542 ปลุกเสกที่วัดช่างเคิ่ง วันพฤหัสบดีที่ 3 ก.พ. 2543 แรม14 ค่ำ เดือน2 มีส่วนผสมผงเก่า+เกศา+อัฐิ ครูบาปากกอง //ลูกอมรุ่นนี้เรียกว่าลูกอมเกศาผสมอัฐิ๑ ถือว่าใช้กันผี ไล่ผี แทนลูกอมรุ่น1 ไ
ความคิดเห็นใหม่