7 พืชผักที่ดีต่อ สุภาพสตรีโดยตรง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 2 สิงหาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    7 พืชผักที่ดีต่อ สุภาพสตรีโดยตรง


    <!-- Main -->[​IMG]


    คนส่วนใหญ่ต่างรู้ประโยชน์ของผลไม้หรือผักว่ามีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย แต่เชื่อไหมว่า ผลไม้บางชนิด มีแร่วิตามินและแร่ธาตุ

    ที่พิเศษแตกต่างกันออกไป มีพืชผักผลไม้อยู่ 7 ชนิด ที่มีผล "โดยตรง" กับสุขภาพของ "ผู้หญิง"


    ลูกพรุน : เป็นแหล่งโปแตสเซียม เหล็ก และไฟเบอร์ ที่สำคัญลูกพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว

    คนเรานั้นเมื่อผ่านช่วงสดใสของชีวิตคือวัย 25 ปี ร่างกายจะเริ่มเสื่อมโทรม ไขมันเริ่มเข้าสะสมตามที่ต่างๆ ใบหน้าที่เคยเอิบอิ่มด้วยเลือดฝาด

    ก็เริ่มหมองคล้ำ ผิวพรรณจากสีชมพูระเรื่อก็เริ่มซีดโทรม ธาตุเหล็กที่มีมากในลูกพรุน จะช่วยดูแลเรื่องนี้ ควบคู่กับภาวะที่สตรีต้องสูญเสียเลือด

    และธาตุเหล็กไปกับประจำเดือนอีกด้วย

    ถั่ว : อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก และวิตามินบี นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (ซึ่งมีในถั่วมาก)

    ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ความอยากอาหารจะลดลง แต่ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากด้วย

    จึงไม่เหมือนไฟเบอร์อื่นๆ ที่ไม่ให้สารอาหารที่มีคุณค่ากับร่างกาย นั่นทำให้ผู้หญิงรูปร่างดีโดยที่ไม่ขาดสารอาหารด้วย

    บรอคโคลี : เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนนุ่มมีน้ำมีนวล

    เหมือนหนุ่มสาว แถมยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้

    กล้วย : ในกล้วยไข่มีสารเบต้าแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเราอายุเลย 22 ปีไปแล้ว ความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก

    ความเสื่อมของร่างกายเริ่มมาเยือนช้าๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อร่างกายเสื่อมสภาพ

    ความสามารถในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะลดลงเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นความสามารถในการจำกัดอนุมูลอิสระก็ลดลงอย่างตกใจ

    ดังนั้นสาวๆ ควรสนใจรับประทานกล้วย โดยเฉพาะกล้วยไข่ให้มากขึ้นก็จะยอดมาก!

    ฝรั่ง : เชื่อหรือไม่ว่าฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินซีสูงถึง 180 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีนี้มีบทบาทในการสร้าง "คอลลาเจน"ที่ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง

    ยืดหยุ่น ไม่หย่อนยานก่อนวัย

    แอปเปิ้ล : มีสารอาหารที่สำคัญคือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ "เพคติน" ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร

    ลดน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล ยามใดก็ตามที่หิวจนกินช้างหมดตัวได้ กินแอปเปิ้ลสักลูกจะดีกว่ามากๆ เลย (จริงๆ นะ)

    ส้ม : แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติอันอุดม รู้ไหมว่า การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกทางหนึ่ง เพราะ

    จะทำให้อิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว




    ที่มา ... First Magazine




    [​IMG]
     
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สมุนไพร,ผัก,ผลไม้ที่ช่วยขับพยาธิ

    ขับพยาธิ

    - กระเจี๊ยบเขียว กินแก้พยาธิตัวจี๊ด

    - ยอดมะรุม
    มีเบต้า แครอลทีน ทำให้ผิวดี แก้ตกกระ มีสารเพ็กติน นิ่มๆ ฆ่าพยาธิได้ มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ใบต้านเบาหวาน ทำให้ขับถ่ายดี ป้องกันไมเกรน

    - เนื้อลูกยอ
    กินหน้าหนาว เช่นส้มตำลูกยอดิบ ล้างพิษได้ กินฤดูอื่น ช่วยขับพยาธิ ควรได้กินปีละครั้ง

    - กะทิสด
    ละลายในน้ำได้ดี (ไม่เหมือนไขมัน) ช่วยล้างหลอดเลือด ขับพยาธิ ฆ่าฤทธิ์ ช่วยระบาย

    - ฟักข้าว
    ช่วยขับพยาธิ บำรุงธาตุ ขับไรฝุ่น เอาเปลือกออกกินทั้งเนื้อทั้งเม็ด

    -น้ำมะพร้าว
    มีฤทธิ์ในการลดความร้อน ดับกระหาย ลดอาการอ่อนเพลีย และใช้ในการขับพยาธิชนิด ต่างๆ ได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพยาธิใบไม้ พยาธิตัวกลม พยาธิตัวตืด เป็นต้น กินครั้งละ ครึ่งลูก ถึง 1 ลูก ช่วยขับพยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด โดยกินน้ำมะพร้าวเสียให้หมดก่อนจากนั้นจึงกินเนื้อ ให้กินตอนเช้าขณะท้องว่าง กินครั้งเดียวให้หมด ( กินเช่นนี้แล้วไม่จำเป็นต้องกินยาถ่ายร่วมด้วยก็มีฤทธิ์ถ่ายพยาธิออกได้เลย ) หลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมง จึงรับประทานอาหารได้ตามปกติ ฤทธิ์การขับพยาธิของมะพร้าวนั้นใกล้เคียงกับหมากแต่ไม่มีผลข้างเคียง และใช้ได้ปลอดภัยกว่ามาก

    -เม็ดมะขาม
    นำเม็ดมะขามเปียกมาคั่วไฟให้เปลือกไหม้ คะเนว่าเนื้อในสุกดีแล้วให้นำไปแช่กับน้ำเกลือแกง ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน กะเทาะเปลือกสีน้ำตาลแดงออก เม็ดมะขามที่แข็งก็จะอ่อนนุ่มเคี้ยวได้ง่าย แถมได้ประโยชน์มากมาย เช่น ขับพยาธิเส้นด้าย พยาธิไส้เดือน และ ไขมันในเส้นเลือดได้อย่างดี ให้เด็กรับประทานครั้งละ 20-30 เมล็ด

    -ทุเรียน
    ราวๆ ประมาณ 05.00 น. หลังจากล้างหน้า แปรงฟัน เรียบร้อย เริ่มกินทุเรียนได้ทันที กินพอประมาณ ไม่ใช่กินเพื่ออิ่มแต่กินเป็นยา แล้วดื่มน้ำอุ่นตามไปมากๆควรกินสองวันติดต่อกันและงดอาหารในทั้งสองเช้านั้น ความร้อนในสารกำมะถันธรรมชาติ จะออกฤทธิ์ชำระล้างขยะในลำไส้ออกได้อย่างเกลี้ยงเกลา รวมทั้งเป็นยาถ่ายพยาธิต่างๆ

    -เปลือกผลทับทิม
    รสฝาด ต้มดื่ม สมานแผล แก้บิด แก้ท้องร่วง ถ่ายพยาธิลำไส้ เป็นยาคุมธาตุ ผล บำรุงกำลัง แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องร่วง แก้ปวดมวนในท้อง แก้ผมหงอกผมขาว เป็นยาระบาย แก้ตกขาว (การกินขนาดสูงอาจเป็นอันตรายได้ )

    -เมล็ดทับทิม
    เป็นยาขับพยาธิตัวตืด แก้ท้องร่วง เป็นยาบำรุงหัวใจ ไม่ระบุส่วน แก้ปวดมวน ขับเสมหะเน่า เลือดเน่า แก้บิด แก้ลงแดง แก้ลงท้อง ท้องเดิน แก้ตานซาง แก้ลม แก้ปวด แก้ไข้ แก้อาเจียน แก้กระหายน้ำ แก้โรคเกี่ยวกับปัสสาวะ แก้ไข้ผอมเหลือง ไม่มีแรง แก้ตกมูกเลือด แก้ไข้หัดเป็นพิษ

    -ใบแก้ว
    ขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย ใช้ภายใน รับประทานขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย ใช้ก้านและใบสด 10-15 กรัม ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น

    -เล็บมือนาง
    เนื้อในเมล็ดแห้ง - ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน สำหรับเด็ก กินครั้งละ 2 - 3 เมล็ด และผู้ใหญ่ครั้งละ 4 - 5 เมล็ด โดยนำมาป่นเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน หรือต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าเป็นผู้ ใหญ่ให้ใช้ 5 - 7 เม็ด ทุบให้แตกแล้วต้ม เอาน้ำดื่ม หรือทอดกับไข่กินก็ได้ กินแล้วทำให้สะอึก สารที่มีฤทธิ์ขับพยาธิ เป็นกรดอะมิโน ชื่อกรด quisqualic


    -กระเทียม
    สรรพคุณ: ฆ่าพยาธิ ลดอาการอักเสบบวมแดง บำรุงกระเพาะอาหาร ขับลม รักษาโรคบิด ท้องร่วง ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ไอกรน ปอดบวม วัณโรคปอด แก้หวัด มาเลเรีย ช่องคลอดอักเสบเนื่องจากเชื้อรา ขี้กลากที่หัว แผลเป็นหนอง แก้อาการปวดฟัน ป้องกันโรคเส้นเลือดห้วใจตีบตัน ความดันโลหิตสูง ขับพยาธิเข็มหยุด ขับพยาธิเส้นด้าย

    -ต้นหอม
    สรรพคุณ:ขับเหงื่อ แก้อักเสบบวมแดง ป้องกันโรคหวัดเย็น ปวดศีรษะ คัดจมูก ฝีหนองบวมปวด รักษาอาการฟกซ้ำเนื่องจากถูกตี รักษาอาการปวดท้องเนื่องจากความเย็น ปัสสาวะ อุจจาระขัด บิด เป็นยาบำรุงไต บำรุงสายตา เสริมสมรรถภาพทางเพศ กระจายเลือดคั่ง ขับพยาธิ รักษาอาการเลือดกำเดาไหล ทำให้ร่างกายอบอุ่น เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย บำรุงสมอง ขับพยาธิเข็มหมุด เด็กท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย กระตุ้นให้หลั่งน้ำนม เพิ่มน้ำนม จมูกอักเสบ พยาธิตัวกลมในเด็ก

    -แตงกวา
    สรรพคุณ:เพิ่มวิตามินซีซึ่งช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทช่วยความจำ ลดอาการนอนไม่หลับ แก้หระหายน้ำ ต้านมะเร็ง ขับปัสสาวะ ทำให้ผิวหน้าแจ่มใส ลดอาการเ่่ยวย่นของใบหน้า เด็กพุงโลเนื่องจากขาดอาหารหรือมีพยาธิ

    -เมล็ดฟักทอง
    ใช้เมล็ดแห้งประมาณ 60 กรัม ตำให้ละเอียด ผสมน้ำตาลให้มีรสหวาน เติมนมและน้ำให้มีปริมาณครึ่งลิตร แบ่งรับประทานเป็น 3 ครั้ง ห่างกันทุกๆ 2 ชั่วโมง หลังดื่มยาครั้งสุดท้าย 2 ชั่วโมง ให้รับประทานน้ำมันละหุ่ง 15 ซีซี เพื่อให้ถ่ายออก ใช้ถ่ายพยาธิลำไส้โดยเฉพาะพยาธิตัวตืดได้ดี ได้มีผู้ทดลองให้คนไข้ซึ่งป่วยด้วยโรคพยาธิ Schistosoma รับประทานเมล็ดฟักทองคนละ 80.0 กรัม พบว่าฆ่าพยาธิได้ทันที

    -มะละกอ
    ใช้ยางมะละกอสดจากผลดิบประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับไข่ 1 ฟอง ตีให้เข้ากัน ทอดให้เด็กรับประทานให้หมดในช่วงเช้าขณะท้องว่าง หรืออาจใช้ยางสด 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน และน้ำร้อนประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ รับประทานครั้งเดียวในเด็กอายุมากกว่า 10 ขวบ ถ้าอายุ 7-10 ขวบ ให้ลดลงครึ่งหนึ่ง หลังจากใช้ยา 2 ชั่วโมง ให้รับประทานน้ำมันละหุ่ง 2-3 ช้อนชา เพื่อช่วยให้ถ่ายออก

    ยางและเมล็ดมะละกอ ใช้เป็นยาขับพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิเส้นด้ายในเด็ก
    ใบมะละกอ ต้มดื่มบำรุงหัวใจ ขับพยาธิ แก้ไข้ แก้บิด แก้ปอดบวม ขับปัสสาวะ

    -หญ้าเจ้าชู้
    ลักษณะใบยาวเรียวหุ้มลำต้น กว้าง 2-5 มิลลิเมตร ยาว 1-9 เซนติเมตร ปลายใบสอบ ลิ้นใบเป็นเยื่อ มีสีเขียวเข้ม บริเวณโคนใบสีน้ำตาลแดง เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นเป็นข้อ เมล็ดใช้ขับพยาธิตัวกลมได้ชะงัดนัก

    -ขิง
    ต้น
    ขับผายลม บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ บำรุงธาตุไฟ รักษานิ่ว ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ

    ใบ
    ใบสดใช้คั้น เอาแต่น้ำกิน บรรเทาอาการฟกช้ำ ช่วยย่อยอาหาร ขับผายลม รักษาโรคกำเดา นิ่ว เบาขัด ฆ่าพยาธิ ขับลมในลำไส้

    ดอก
    ทำให้ชุ่มชื่น ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ บำรุงไฟธาตุ รักษานิ่ว ขัดเบา

    ราก
    ทำให้ผิวหนังสดชื่น ขับลม ช่วยให้หลอดคอโปร่ง ทำให้เสียงไพเราะ ฆ่าพยาธิ ช่วยเจริญอาหาร รักษาบิดตกเป็นโรหิต นิ่ว ไอ

    -โหระพา (Common basil)
    ขับลม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ท้องอืด เป็นยาระบาย แก้เลือดออกตามไรฟัน

    -มะระขี้นก
    ใบ
    แก้ไข้ ดับพิษร้อน แก้ปากเปื่อยเป็นขุย ขับพยาธิ ขับระดู บีบมดลูก ขับลม แก้ธาตุไม่ปกติ ทำให้นอนหลับ แก้ปวดศีรษะ แก้พิษ แก้ไอเรื้อรัง ยาระบายอ่อน ๆ แก้เสียดท้อง บำรุงธาตุ ขับพยาธิเส้นด้าย ดับพิษฝีที่ร้อน รักษาแผล บำรุงน้ำดี แก้ไข้หวัด ไข้ตัวร้อน ยาฟอกเลือด แก้ร้อนใน แก้ม้าม แก้ตับพิการ แก้ฟกบวมอักเสบ แก้ปวดเนื่องจากลมคั่งในข้อ ทำให้อาเจียน แก้โรคกระเพาะ แก้บิด แผลฝีบวมอักเสบ เจริญอาหาร ฟอกโลหิต รัดถานและถอนไส้ฝี

    ผล
    แก้พิษฝี แก้ฟกบวม แก้อักเสบ แก้โรคลมเข้าข้อ บำรุงน้ำดี ขับพยาธิ แก้ปากเปื่อย ปากเป็นขุ ย บำรุงระดู ดับพิษร้อน ถ่ายท้อง แก้พิษ ขับลม แก้คัน แก้ธาตุไม่ปกติ แก้เสียดท้อง แก้เจ็บปวดอักเสบ ระบายอ่อนๆ แก้บวม แก้โรคผิวหนัง บำบัดโรคเบาหวาน ยาบำรุง ทาหิด ฝาดสมาน แก้โรคเม็ดผดผื่น คันในตัวเด็ก แก้พิษไข้ แก้หัวเข่าบวม แก้ปวดตามข้อ แก้ม้าม แก้ตับพิการ เจริญอาหาร ใช้มากๆ เป็นยาถ่ายอย่างแรง รักษาโรคเรื้อน บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้ปวดเจ็บอักเสบจากพิษต่างๆ ดับร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง แก้บิด ตาบวมแดง แผลบวม เป็นหนอง ต้านมะเร็ง

    เมล็ด
    แก้พิษ เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เพิ่มพูนลมปราณ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ต้านมะเร็ง

    -น้ำบ๊วย
    นอกจากจะมีรสเปรี้ยว เค็ม ชุ่มคอชื่นใจแล้ว ยังช่วยขับพยาธิบางชนิดในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยรักษาอาการท้องร่วงเรื้อรัง แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

    มะขามป้อม
    บำรุงเนื้อหนังให้บริบูรณ์ กัดเสมหะในคอ ทำให้เสียงเพราะ แก้มังสังให้บริบูรณ์ แก้พรรดึก แก้พยาธิ



    Thank You

    Bloggang .com

     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ขอยืนยันว่า

    ยอดกระเจียบแดง + เกลือตัวผู้ แก้พยาธิตัวจี๋ด (ไหง่กลายเป็นกระเจี๋ยบเขียวหว่า)
    ฝักกระเจี้ยบเขียว แก้โรคกระเพาะ
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ข้อมูลที่ ผมได้ มา..อาจจะแตกต่างไปบ้าง

    คนที่ ตัวเย็น แพ้ ลม..อย่ากินของเย็น พวก แตงกวา แตงโม..เพราะ ไฟธาต ต่ำอยู่แล้ว
    พบว่า คนส่วนใหญ่ แพ้ ผักคะน้า..ถ้า ยิ่งคะน้าปลาเค็ม เลิกเลย
    ผลไม้ที่คนแพ้มาก และเป็นพิษ คือ ทุเรียนสุกมากๆๆ..ส้มโอ
    ยิ่งคนเป็นโรคกะเพาะ กินส้ม เขียวหวานไม่ได้ ลมจะยิ่งขึ้น

    ถ้าอยากจะเพิ่มพลังจิต ..เพิ่มกำลังภายใน
    ให้ กิน ใบคึ่นช่ายดิบ อย่า ทำสุก ดอกแค ยาเขียวตราใบห่อ..
    ทั้งสามชนิด แค่เอามือจับ..ตัวก็ ซ่า แล้ว
    คุณ สันโดษ ลองเอามือ จับดู..แล้วจะรู้ว่า เป็นจขริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...