“ อย่าเอาตัวเองไปวัดหัวใจพระโพธิสัตว์ ท่านทุ่มสร้างบารมีด้วยชีวิต ”

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 31 มีนาคม 2016.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,472
    [​IMG]




    การทำความดี สั่งสมบุญบารมีนั้น มีความเข้มข้นหลายระดับ ดังนี้



    1. ทำบุญ คือ การทำความดีของบุคคลโดยทั่ว
    <WBR style="TEXT-ALIGN: left; WIDOWS: 1; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 16px/18px helvetica, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(20,24,35); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px">
    ไป

    2. สร้างบารมี คือ การทำบุญแบบเข้มข้น


    3. อุปบารมี คือ การสร้างบารมีที่เข้มข้นมาก<WBR>ขึ้น ระดับยอมสละอวัยวะได้

    4. ปรมัตถบารมี คือ การสร้างบารมีที่เข้มข้นสูง<WBR>สุด ระดับยอมสละชีวิตได้

    นักสร้างบารมีผู้มุ่งหวังผล<WBR>ที่สูง เช่น พระโพธิสัตว์ ท่านจะมีใจที่ใหญ่มาก กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ในสิ่งดีๆอย่างอุทิศชีวิต และทำอย่างต่อเนื่องไม่ใช่น<WBR>านๆทำที ทำชนิดคนธรรมดาคาดฝันไม่ถึง<WBR>เลย

    ตัวอย่างการสร้างบารมีของพร<WBR>ะพุทธเจ้า

    @ ชาติหนึ่ง พระพุทธเจ้าของเราขณะสร้างบ<WBR>ารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ บวชเป็นดาบส ยืนอยู่บนหน้าผามองลงไปเห็น<WBR>แม่เสือหิวโซกำลังจะกินลูกตั<WBR>วเอง พระองค์ยอมกระโดดลงไปให้เสื<WBR>อกิน เพื่อช่วยชีวิตลูกเสือ โดยอธิษฐานจิตว่า ขอบุญนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้าตรั<WBR>สรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาค<WBR>

    @ สมัยพระองค์เกิดเป็นพระเวสสั<WBR>นดร ยอมยกพระโอรสพระธิดา คือ กัณหา กับ ชาลี ให้กับพราหมณ์ชูชก แต่ก็วางแผนการไว้จนชูชกนำกั<WBR>ณหากับชาลี ไปถวายพระเจ้าตา เพื่อรับเงินแทน

    @ แม้พระชาติสุดท้าย เจ้าชายสิทธัตถะก็เสด็จออกบ<WBR>วชในวันที่พระโอรส คือ เจ้าชายราหุลประสูตินั่นเอง<WBR> เมื่อบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้ธ<WBR>รรมแล้วก็กลับมาโปรดพระญาติ<WBR> พระเจ้าสุทโธทนะ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระนางพิมพาสุดท้ายก็ได้บวช<WBR>บรรลุธรรมเป็นพระอรหันตเถรี<WBR> เจ้าชายราหุลก็บวชเป็นสามเณ<WBR>รรูปแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นสามเณรอรหันต์ แม้พระราชมารดาจะสวรรคตแล้ว<WBR> พระองค์ยังเสด็จตามไปโปรดถึ<WBR>งบนสวรรค์จนบรรลุธรรมเป็นพร<WBR>ะโสดาบัน

    > หากใครไม่เข้าใจ ใช้ความรู้สึกของตัวเองไปวั<WBR>ดการสร้างบุญบารมีของพระโพธ<WBR>ิสัตว์ แล้วหลงไปตำหนิท่านว่าทำมาก<WBR>เกินไป โง่ หลงบุญ บ้าบุญ ทิ้งลูกทิ้งเมียออกบวช เราลองคิดดูว่า คนๆนั้นจะมีวจีกรรมแบกบาปหนั<WBR>กขนาดไหน มีนรกเป็นที่ไป ไม่คุ้มเลย >

    ใจของเราหากยังอยู่ที่ระดับ<WBR>การทำบุญขั้นแรก ทำแบบเล็กๆน้อยๆทั่วไป เมื่อเห็นคนอื่นเขาทำความดี<WBR>อย่างอุกฤษฏ์ ไม่ใช่ไปตำหนิเขา แต่ควรอนุโมทนา เราจะได้บุญด้วย

    *** การทำความดีจริงๆแล้วไม่มีคำ<WBR>ว่าทำมากเกินไป อยู่ที่หัวใจของคนๆนั้นมีเป้<WBR>าหมายชีวิตที่สูงส่งเพียงใ<WBR>ด ***

    จะวัดว่าดีหรือไม่ดี ไม่ได้ดูที่ว่าทำมากไปไหม แต่ดูที่สาระของการกระทำ ถ้าเป็นเรื่องดี ก็คือดี ยิ่งทำมากยิ่งดี
    ___ การให้ทาน อย่างอุทิศได้แม้ชีวิต เป็นสิ่งควรอนุโมทนา
    ___ การรักษาศีล โดยยอมตายไม่ยอมละเมิดศีล เป็นสิ่งควรอนุโมทนา
    ___ การเจริญภาวนา โดยทำสมาธิอย่างเอาชีวิตเป็<WBR>นเดิมพัน เป็นสิ่งควรอนุโมทนา

    ตัวอย่างนักสร้างบารมียุคปั<WBR>จจุบัน

    >> แม้ในยุคใกล้ๆของเรานี้ ก็มีพระเถระผู้บวชอุทิศตนสร้<WBR>างบารมีอย่างชนิดเอาชีวิตเ<WBR>ป็นเดิมพันหลายรูป ซึ่งในช่วงแรกทุกท่านจะมีลั<WBR>กษณะคล้ายกัน คือ ถูกเข้าใจผิด ถูกโจมตีด่าว่านานาชนิด

    เพราะการสร้างบารมีอย่างเอา<WBR>จริงเอาจัง ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันที่<WBR>ทำนั้น เป็นสิ่งที่สังคมไม่คุ้นเคย<WBR> จึงถูกระแวงสงสัย จับผิด โจมตี แต่ด้วยความหนักแน่น อดทน ไม่หวั่นไหวทำความดีอย่างต่<WBR>อเนื่อง สุดท้ายสังคมก็ยอมรับ สิ่งที่ท่านเหล่านี้ได้ทำ สร้างคุณูปการแก่พระพุทธศาส<WBR>นามากมาย อาทิ

    1. พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    2. หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริ<WBR>

    3. ครูบาศรีวิชัย

    4. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ)

    5. ท่านพุทธทาส

    6. พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว)
    ฯลฯ

    >>> ผู้มีปัญญาเพียงพินิจดู ก็จะรู้ว่า สิ่งที่ท่านเหล่านั้นทำ ต้องทำด้วยชีวิต ผู้มีเจตนาทุจริต ทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ศาสนสถานและศาสนบุคคลที่ท่า<WBR>นสร้าง ก็จะเป็นสมบัติของแผ่นดินแล<WBR>ะพระพุทธศาสนาสืบไป

    ผู้มีเจตนาไม่สุจริต มักจะอยู่ไม่ได้นาน ก็จะมีเหตุให้ต้องออกไป ยากที่จะยืนหยัดทำความดี โดยไม่หวั่นไหวต่อคำติฉิน นินทาใดๆ

    คนในโลกนี้ส่วนมากคิดถึงตนเ<WBR>องก่อน ถ้าเป็นเรื่องส่วนรวมก็ทำเล็<WBR>กๆน้อยๆ เหยาะแหยะ ผู้ที่มีใจใหญ่เอาชีวิตเป็น<WBR>เดิมพันในการทำความดี ใหม่ๆจึงมักถูกมองว่าทำอะไร<WBR>ใหญ่โต เว่อร์! เพี้ยน มีวัตถุประสงค์แอบแฝง

    เราชาวพุทธเมื่อเห็นพระภิกษ<WBR>รูปใดตั้งใจทำงานเผยแผ่พระ<WBR>พุทธศาสนาอย่างเข้มแข็ง แม้เริ่มต้นเราอาจจะไม่เห็น<WBR>ด้วยในวิธีการ เพราะความไม่คุ้นเคย เป็นเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่<WBR> เราอย่าเพิ่งไปตำหนิด่าว่าท่<WBR>าน จะกลายเป็นวิบากกรรม คนที่ไปด่าพระภิกษุที่ทำควา<WBR>มดีอย่างอุทิศชีวิตเหมือนพร<WBR>ะโพธิสัตว์ ว่าบ้า ผลกรรมนั้นน่ากลัวมาก <<<

    " ใครชอบการเผยแผ่พระพุทธศาสน<WBR>าแบบไหน ก็ไปชวนคนให้มาปฏิบัติแบบที่<WBR>ตัวเองชอบ อย่าเอาเวลา สติปัญญา ความสามารถของเราไปใช้ในทาง<WBR>ทำลาย ก่อบาป แต่ให้เอามาใช้ในทางสร้างสร<WBR>รค์กันดีกว่า จะส่งผลให้พระพุทธศาสนาเจริ<WBR>ญก้าวหน้า ตัวเราก็จะได้ไม่มีกรรมหนัก<WBR>ติดตัวด้วย "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2016
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +70,472
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...