ไม่มีคนคบ ต้องชวนทำบุญ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย MonYP, 20 กันยายน 2020.

  1. MonYP

    MonYP เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,369
    กระทู้เรื่องเด่น:
    32
    ค่าพลัง:
    +766
    เคยไหมเวลาที่ทุกข์ใจหรือว่าเดือดร้อน เราไม่สามารถพึ่งพาใครได้เลย เวลาเขาอยู่กันเป็นกลุ่ม เรากับอยู่คนเดียว ขาดเพื่อนคิด ขาดเพื่อนกิน ตัวคนเดียว ไม่มีพ่อแม่ พี่น้อง ลูกเมีย และเพื่อนฝูง ซ้ำร้ายเห็นคนที่ด้อยกว่าเราทุกอย่างทั้งทางฐานะและการเงินกลับมีแต่คนลุมล้อมคอยช่วยเหลือตลอด เห็นแล้วได้แต่อิจฉา เหตุการณ์แบบนี้พระพุทธศาสนาเรียกว่า “ขาดบริวาร”

    ยามที่เราตกงานก็มีคนมาชวนไปทำงานด้วย จะซื้อหวยแค่ใบแต่คนขายยัดให้แปดใบแล้วถูกรางวัลที่หนึ่งหมดเลย แบบนี้พระพุทธศาสนาเรียกว่า “บริวาร” บริหาร คือ ผู้แวดล้อม, ผู้ห้อมล้อม, ผู้ติดตาม อยู่แล้วมีความสุข อยู่แล้วรวย แต่ถ้าอยู่แล้วมีแต่จนลง ๆ มีแต่เรื่องแต่ราวไม่เว้นแต่ละวันเขาไม่ได้เรียกบริวาร เขาเรียกว่า “มารผจญ”

    “ชักชวนคนทำบุญ” คือทางออกของเรื่องนี้ ในทางพุทธศาสนา การชักชวนผู้อื่นทำความดีนั้น ผู้ชักชวนก็ได้บุญ และทำให้เป็นผู้มีบริวารมาก หากทำด้วยตัวเองด้วยก็ยิ่งจะได้ทั้งทรัพย์สมบัติและบริวาร ดังพุทธพจน์ว่า

    “ดูก่อนอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย บุคคลใดถวายทานด้วยตัวเองแต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ถวายทานด้วย…บุคคลนั้นเมื่อตายไปแล้วไม่ว่าจะเกิดในที่ใด ย่อมได้ซึ่งโภคสมบัติ (ความร่ำรวย) แต่จักไม่มี..บริวารสมบัติ (มิตรสหาย)

    บุคคลใดชักชวนผู้อื่นให้ถวายทานแต่ตนเองกลับไม่ถวายบุคคลนั้นเมื่อตายไปแล้วไม่ว่าจะเกิดในที่ใด ย่อมได้ซึ่งบริวารสมบัติ (มากด้วยมิตร สหายบริวาร) แต่จักไม่ได้ซึ่งโภคสมบัติ (มีความยากจน )

    บุคคลใดตนเองก็ไม่ถวายทานด้วยแม้ผู้อื่นก็ไม่ชักชวนด้วยบุคคลนั้นเมื่อตายไปเกิดในที่ใดๆ ย่อมไม่ได้แม้สักว่าข้าวปลายเกรียน (ข้าวสารหัก) พออิ่มท้อง เขาย่อมเป็นคนอนาถา หาที่พึ่งไม่ได้

    บุคคลใดถวายทานด้วยตัวเองด้วยชักชวนผู้อื่นด้วยบุคคลนั้นเมื่อตายไปเกิดในที่ใดๆ ย่อมได้ทั้งโภคทรัพย์ (ความร่ำรวย) ทั้งบริวารสมบัติ (มิตรสหาย บริวาร) สิ้นร้อยชาติบ้างพันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง”

    สันตติมหาอำมาตย์ผู้บรรลุพระอรหันต์ด้วยการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าแค่นิดเดียวก่อนจะปรินิพพานได้เปิดเผยเคล็ดลับว่า ตนได้บังเกิดในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี คิดอยู่ว่า การป่าวร้องบอกบุญ ชักชวนคนทำบุญ เป็นสิ่งที่ดี จึงชักชวนชาวบ้านทำบุญ เที่ยวเชิญชวนชาวบ้านทำบุญสมาทาน อุโบสถศีลในวันอุโบสถ ถวายทาน และฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัย ผลของการชักชวนชาวบ้านบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศลนั้นมีมากมายยิ่งนัก สันตติมหาอำมาตย์เกิดชาติไหน ๆ ไม่เคยตกระกำลำบากเลย แถมยังกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกาย กลิ่นอุบล ฟุ้งออกจากปากตลอดกาล แต่การชักชวนให้ทำบุญทำความดีต้องมีศิลปะในการชักชวน มิฉะนั้นจะเป็นการเอาความดีไปทำร้ายผู้อื่น กลายเป็นอริที่ต้องผจญกันทุกชาติ เฉกเช่น พระเทวทัตกับพระพุทธเจ้า ที่ต้องมาเป็นคู่ปรับกันทุกชาติ

    แล้วถ้าจะแก้มารผจญให้เป็นบริวารที่ดีละ ก็ต้องแก้ด้วยการ “ชวนทำบุญทำความดี” ชวนบ่อย ๆ เหมือนหลวงปู่ดู่ชวนคนขี้เหล้านั่งสมาธิวันละ 5 นาที ชวนบ่อย ๆ ทำบ่อย ๆ จากคนขี้เหล้ากลายมาเป็นพระบวชตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้




     

แชร์หน้านี้

Loading...