ไชยา มิตรชัย.....โพธิสัตว์แห่งบ้านป่่่าโมก อ่างทอง.

ไชยา มิตรชัย
เป็นความภูมิใจ
ของชาวฟ้าดาวดึงส์
อีกดวงธรรมธาตุหนึ่ง
เอ ไชยา มิตรชัย เป็นดวงจิตแบ่งภาค
ของสักกะเทวราชมาเกิด
เอ ไชยา ต้องลงมาทำหน้าที่ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้




ในแถบ จังหวัดอ่างทอง อยุทธยา
เป็นพื้นที่อีกที่หนึ่ง
ที่ชาวดาวดึงส์กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง
ได้ลงมาจุติในยุคกึ่งพุทธกาล
นอกเหนือจาก จังหวัดพิจิตร สมุทรปราการ
และทางปักษ์ใต้ คือ จังหวัดกระบี่



เอ ไชยา มิตรชัย
เป็นความภูมิใจ ของสักกะเทวราช
ที่เอ ไชยา ได้ลงมาเกิดที่บ้านป่าโมก
และได้ทำหน้าที่แห่งโพธิสัตว์น้อย อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรับจ้างแสดงลิเกหาเงินเข้าวัดสระแก้ว เพื่อเลี้ยงเด็กกำพร้า หลายร้อยหลายพันชีวิต
เขาทำหน้าที่ตรงนี้ตั้งแต่ เอ ไชยา ยังเป็นเด็กอยู่



ความดีครั้งนี้
สักกะเทวราช.....ได้รับรู้
และพร้อมที่จะช่วย เอ ไชยา ต่อไป
ทุกภพทุกชาติในการที่เขาต้องไปเวียนว่ายตายเกิด





สาธุครับ
เขาคือ คนดี

 

ไชยา มิตรชัย เป็นพระเอกลิเกชื่อดังแห่งยุค ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากเหล่าบรรดาผู้นิยมลิเกเนื่องมาจากใบหน้าที่ อ่อนหวานปานผู้หญิง น้ำเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้ง การร่ายรำที่สวยงาม และการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ ทำให้ในการแสดงบางคืน เขาเคยได้รับรางวัลจากผู้ชมมากกว่าล้านบาท เคยได้รถยนต์ราคากว่าล้านบาท และรถบัสติดแอร์ นอกจากนั้น ไชยา มิตรชัย ก็ยังมีผลงานการแสดงละครและภาพยนตร์ออกมาหลายเรื่อง รวมทั้งยังผลิตผลงานเพลงลูกทุ่งออกมาหลายชุด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากเหล่าบรรดาผู้ชมผู้ฟังเป็นอย่างสูง ไม่แพ้เมื่ออยู่บนเวทีลิเก


ไชยา มิตรชัย มีชื่อจริงว่า เสมา สมบูรณ์ มีชื่อเล่นว่า เอ เกิดเมื่อ 5 เมษายน 2517 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีบ้านเกิดอยู่หลังสถานีรถไฟอยุธยา เป็นบุตรนายสมศักดิ์ นางวงเดือน สมบูรณ์ มีน้องสาวน้องชายฝ่ายละ 1 คน โดยน้องสาว จริยา หรือ แอน มิตรชัย ก็เป็นนางเอกลิเกในวงของไชยา มิตรชัย น้องชาย คามิตร หรือ มิตร มิตรชัย เป็นพระเอกลิเกเด็กคณะน้องมิตร มิตรชัย ทั้งยังเคยออกผลงานเพลงลูกทุ่งมาด้วยเช่นกัน


ไชยา มิตรชัยจบการศึกษาระดับอนุบาลจากโรงเรียนอรุณประเสริฐ ที่บ้านเกิด ก่อนจะมาต่อชั้นประถมที่โรงเรียนวัดรัตนชัย มาเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดไชยมงคล จ.อ่างทอง มาต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 ที่วัดสระแก้ว ก่อนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนบางเสด็จวิทยาคม ซึ่งก็อยู่ในวัดสระแก้วเช่นกัน จากนั้นย้ายมาเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก็ลาออกมาเรียนต่อหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนจนได้วุฒิมัธยมปลาย ไชยา มิตรชัย จบการศึกษาสูงสุดที่ระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต






ครอบครัวไชยา มิตรชัย ทั้งพ่อแม่ปู่ย่าและตายาย ต่างก็เกี่ยวข้องกับวงการลิเกทั้งสิ้น โดยทั้งพ่อและแม่เป็นถึงพระเอกนางเอกลิเก แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนอย่างยิ่งในระดับอดมื้อกินมื้อ เมื่ออายุได้ 4 – 5 ขวบก็ตามพ่อแม่ไปโรงลิเกบ้างแล้ว แต่เพราะความยากจน พ่อแม่จึงได้นำลูกชายไปฝากไว้กับหลวงพ่อฉบับ ขันติโก เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ด้วยความหวังที่ว่าลูกจะได้พอมีอาหารกินแบบไม่อด โดยในช่วงนั้น วัดแห่งนี้ดูแลเด็กกำพร้าและเด็กยากจนมากถึงราว 2 พันคน ขณะที่ตัวพ่อเองก็สมัครเป็นครูฝึกลิเกให้กับเด็กที่อยู่ที่นี่ ซึ่งตอนนั้นก็มีคณะลิเกเด็กอยู่หลายคณะ โดยทุกคณะต่างก็ใช้ชื่อเดียวกันหมดว่า “ ลิเกเด็กกำพร้า วัดสระแก้ว “ เมื่อโด่งดังขึ้นมาในภายหลัง หลายคนก็เลยคิดว่า ไชยา มิตรชัย เป็นกำพร้า ขณะที่ในความเป็นจริงโครงการรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาสของทางวัด มีชื่อเต็มว่า “ เด็กกำพร้าและเด็กยากจนวัดสระแก้ว “ แต่เมื่อจะขึ้นป้ายคณะลิเก มีการตัดทอนชื่อให้สั้นลงเพื่อการสะดวกในการเขียนป้าย
นายสมศักดิ์ ใช้เวลารวบรวมและฝึกลิเกให้เด็กที่วัดแห่งนี้อยู่ 3 เดือน ก็นำไปแสดงให้หลวงพ่อพิจารณาว่าสมควรออกงานในฐานะลิเกของทางวัดได้หรือไม่ ซึ่งก็ปรากฏว่าผ่านได้ไม่ยาก และหนึ่งในสมาชิกคณะลิเกเด็กนี้ก็มีไชยา มิตรชัย ซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และอายุแค่ 10 ขวบรวมอยู่ด้วย โดยตอนแรกพ่อยังไม่ได้วางตัวให้เป็นพระเอก แต่ปรากฏว่าพระเอกตัวจริงเกิดเกเร หนีเที่ยว ไชยา มิตรชัยจึงถูกดันขึ้นมาแทน ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อลูกกันน่าจะดูแลได้ง่ายกว่า พร้อมกันนั้นก็ได้ตั้งชื่อลูกชายสำหรับใช้ในการแสดงว่า ไชยา มิตรชัย ซึ่งเป็นการเอาชื่อของ มิตร ชัยบัญชา กับ ไชยา สุริยัน สองพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังของฟ้าเมืองไทยมาผสมกัน






ไชยา มิตรชัย ออกแสดงครั้งแรกที่ตลาดพระโขนง และก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ คณะถูกจองมาเล่น 9 คืน แต่มีเรื่องที่เตรียมไว้เล่นแค่ 2 เรื่อง และถึงแม้จะเล่นซ้ำในงานเดียวกัน คณะลิเกเด็กของไชยา มิตรชัยก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากเช่นเดิม ทั้งยังได้รับการติดต่อให้คณะวิ่งรอกไปเล่นที่พระประแดงด้วยในช่วงนั้น ทำให้ครั้งนั้น คณะลิเกได้เงินที่ประชาชนบริจาคกลับวัดเกือบล้านบาท ไม่นับข้าวสารอาหารแห้งอีกเป็นร้อยกระสอบ เพื่อให้วัดเอาไว้ใช้เลี้ยงเด็ก โดยส่วนตัว ไชยา มิตรชัย ก็ได้รับรางวัลจากผู้ชมมาเกือบแสนบาท และนับตั้งแต่นั้นคณะลิเกเด็กของวัดสระแก้วที่มีพระเอกตัวเล็กๆชื่อไชยา มิตรชัย ก็เป็นลิเกชูโรง และหารายได้ และสิ่งของบริจาคเข้าวัดเป็นกอบเป็นกำมาอีกหลายปี
ช่วงที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ดาราในละครแนวจักรๆวงศ์ๆคนหนึ่งมาถ่ายละครแถวๆวัดสระแก้ว และเห็นว่าวัดมีเด็กมาก จึงแนะนำสุริยา ชินพันธุ์ ให้ลองมาคัดเอาเด็กที่วัดไปเล่นละคร และไชยา มิตรชัยก็เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกไปเล่นเป็นพระเอกในละครเรื่องแรกในชีวิตชื่อ “ เจ้าชายน้อย “ ตามด้วย” พยัคฆ์สองแผ่นดิน “ ก่อนที่จะหยุดงานละครไป 5 ปี เนื่องจากหลวงพ่อฉบับเห็นว่าไชยา มิตรชัย ทำงานมากเกินไป
ในช่วงที่ถ่ายละครเรื่องแรกที่ จ.ชลบุรี คณะลิเกของไชยา มิตรชัย ไปเปิดการแสดงที่พัทยา และที่นี่เองที่สุริยา ชินพันธุ์ ได้มาดูไชยา มิตรชัย เปิดการแสดงลิเก และได้ยินน้ำเสียงของเขา จึงพาเข้าห้องบันทึกเสียง โดยผลงานเพลงชุดแรกที่ชื่อ “ เด็กกำพร้า “ ของไชยา มิตรชัย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว และเทปคาสเส็ตที่ผลิตออกมาไม่ได้ถูกนำออกจำหน่าย แต่นำมาแจกญาติโยมที่มาบริจาคช่วยวัด แต่เพลงชุดนี้ก็โด่งดังมากในหมู่บรรดาญาติโยมทั่วสารทิศ และบางคนก็ควักเงินบริจาคเพิ่มให้กับวัดถึงหมื่นบาทเมื่อได้รับเทปชุดนี้ ดังนั้นจึงมีการทำเทปตามออกมาอีกหลายชุด แต่ไชยา มิตรชัย มาโด่งดังอย่างเป็นเรื่องเป็นราว หลังจากที่ออกผลงานเพลงชุด “ กระทงหลงทาง “ ที่มีการโปรโมตในหมู่ประชาชนทั่วไป





หลังหลวงพ่อฉบับมรณภาพในปี 2531 ไชยา มิตรชัย ที่รักและเคารพหลวงพ่ออย่างมาก ประกอบกับการมีงานล้นพ้นตัว และการที่ได้ย้ายมาพักที่บ้านพักของพ่อและแม่ ก็จึงห่างๆจากวัดมาเล็กน้อย แต่ก็ยังช่วยงานทางวัดตามปกติ แต่หลังจากที่เขาถูกใส่ร้ายต่างๆนาๆจากผู้ไม่หวังดีภายในวัดอย่างหนัก ประกอบกับตัวเขาเองก็โตแล้ว ไม่เหมาะที่จะใช้ชื่อคณะเด็กกำพร้าทำมาหากิน ก็จึงตัดสินใจแยกคณะลิเกออกมา และไม่ได้ใช้ชื่อวัดอีกต่อไป และเขาได้ก่อตั้ง บริษัท เอ มิตรชัย(ไทยแลนด์) จำกัด สำหรับบันทึกการแสดงสดวงของไชยา มิตรชัย

 

วัดสระแก้ว

อยู่ที่ตำบลบางเสด็จ อยู่ห่างจากวัดท่าสุทธาวาส ประมาณ 200 เมตร ตามถนนเลียบคลองชลประทาน หากเดินทางมาจากอยุธยาตามเส้นทาง อยุธยา-อ่างทอง (ทางหลวงหมายเลข 309) กิโลเมตรที่ 39–40 ทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือ วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2242 เดิมชื่อวัดสระแก เป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีเด็กอยู่ในความดูแลมากจึงได้จัดตั้งคณะลิเกเด็กกำพร้าวัดสระแก้วเพื่อหารายได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กกำพร้า จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับวัดแห่งนี้ ภายในวัดสระแก้วยังมีอาคาร “สามัคคีสมาคาร” ซึ่งเป็นอาคารศูนย์โครงการทอผ้าตามพระราชประสงค์ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2524 อยู่ในความรับผิดชอบของ กองอุตสาหกรรมในครอบครัว กระทรวงอุตสาหกรรม ภายในอาคารมีสินค้าผ้าทอคุณภาพดีเช่น ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า ฯลฯ นอกจากนี้ด้านหน้าวัดยังจัดตั้ง ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอป่าโมก ภายในมีสาธิตการทอผ้ากี่กระตุก การทำเครื่องประดับเงิน การปั้นตุ๊กตาชาววังและผลิตผลทางการเกษตรของกลุ่มแม่บ้าน เช่น กล้วยเบรคแตก เป็นการเผยแพร่งานฝีมือของชาวอำเภอป่าโมก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายและมีจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจ ทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่วัดสระแก้ว โทร. 0 3566 1169, 0 3566 1273 หรือที่โรงเรียนวัดสระแก้วโทร. 0 3566 1950-1




















​

 

เพลง คอยนางที่อ่างทอง - ไชยา มิตรชัย


คอยนางที่อ่างทอง






อ่างทอง น้องเอ๋ยถึงมองไม่กว้าง
ถึงไม่มีทองดังอ้าง
มีน้ำไหลหลั่งอยู่ทุกเวลา
ตะวันสีทอง
สาดท้องแม่เจ้าพระยา
สาดแสงลงแหล่งคงคา
เหมือนชวนหาน้องมาอ่างทอง




อ่างทอง เห็นฟองน้ำไหลลอยล่อง
ถ้าไหลไปถึงน้อง
เมื่อเห็นฟองน้ำเจ้าพระยา
ให้เห็นหัวใจ ว่าใครยังรอคอยท่า
แล้วให้สาวกลับมา
พี่จะพาว่ายน้ำข้ามคลอง.




เห่.เฮ.เฮ.
เรือโยงโยงเรือลอยล่อง
จะพาว่ายน้ำข้ามคลอง
แล้วอุ้มน้องนั่งท้ายเรือโยง
พี่เกาะท้ายเรือ
อีกมือเกาะเสื้อคิ้วโก่ง
บอกรักกับแม่โฉมยง
ให้พวกเรือโยงร่วมเป็นพยาน



อ่างทอง สำคัญที่น้องของพี่
เจ้าจะมาถึงนี่ หรือมีที่อื่นสำคัญ
ตะวันสาดคลอง
เหมือนพี่คอยน้องทุกวัน
มาเล่นน้ำคลองด้วยกัน
จะคอยจอมขวัญ ที่บ้านอ่างทอง

 

เอ่ออ ถ้าจำไม่ผิดเค้ากับน้องสาวเคยโกหกว่าเป็น เด็กกำพร้าในวัดสระแก้ว จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสที่นั่นต้องออกมาขอร้องว่าอย่าใช้วัดเป็นที่หากินไม่ใช่หรอครับ เห็นเคยเป็นข่าวครึกโครมมาหลายปี แตพอเขาดังขึ้นมาข่าวนี้ก็เงียบหายไป แล้วอีกอย้างนะครับ คนเราจะเป็นโพธิสัตว์ได้เนี่ย ไม่ใช่มีแค่นี้เค้าต้องมีคุณธรรม มีศีลมีธรรมกัน ผมไม่ได้ออกมาโจมตีอะไรใครนะครับอันนี้พูดเป็นกลาง เพราะคำว่าโพธิสัตว์เนี่ย มันหมายถึงคนที่ปราถนาในอนาคตจะเป็นพระพุทธเจ้า และเจ้าตัวเค้าก็ต้องปรพกาศออกมาเอง เราเป็นใครไปบอกเค้าไม่ได้หรอกครับว่า ใครเป็นใครไม่เป็น

 

ร้องเพลงให้คนติดในเสียง พาคนไปอบายมากกว่าละมั้ง

 

จากข้อความนี้ ก็เป็นเท็จครับ ถ้ามีบางท่านเคยดูรายการ วันวานยังหวานอยู่ ที่คุณไชยยาและครอบครัว ไปออกรายการมาเมื่อเร็วๆนี้ จะรู้เลยครับว่าครอบครัวเขาในตอนนั้นไม่ได้ยากจน ไม่สามารถทำมาหากินได้ น้องคุณไชยยายังสารภาพเลยครับ ว่านำเงินที่แม่เล่นลิเกได้ มาหว่านเล่น เอามาเล่นขายของหม้อข้าวหม้อแกง จนลูกคุณแม่ตี ครอบครัวของคุณไชยยาเป็น ครอบครัวลิเกมาตั้งนานแล้วครับ ไม่ได้มาเป็นคณะลิเกในสมัยของคุณชัยยา และคุณไชยยาเองก้พูดในรายการเหมือนกันว่า น้องสาวชอบไปหาข้าวกินที่วัดทั้งๆที่ที่บ้านก็มีข้าวกิน อันนี้ไปหารายการย้อนหลังดูได้ครับ ที่เราพูดมานี่ไม่ได้มาจับผิดหรือมีอคติใดๆต่อคุณไชยยาและครอบครัวเลย แต่เราเห็นว่า ข้อความที่โพสต์ขึ้นมาจากคุณเจ้าของกระทู้มันบิดเบือนจากที่รายการที่เราดูมา เลยรู้สึกแม่งๆชอบกลนะครับ

 

ก่อนอื่นก็ขอชื่นชมในความสามารถและการทำกุศลของคุณไชยา มิตรชัย
ผมไม่รุ้ว่า เจ้าของกระทู้มีเจตนาอย่างไร แต่คุณเอาส่วนไหนมากำหนดว่า คุณ ไชยา มิตรชัย เป็นโพธิสัตว์ แห่งบ้านป่าโมก

 

เอ ไชยา
เป็นโพธิสัตว์กลุ่มดาวดึงส์สวรรค์
ที่ถูกแจกธรรมธาตุตอนที่ท้าวสักกะลงมาช่วย
โฆษกะกุมารตอนที่ถูกนำไปทิ้ง ถึง 7 ครั้ง 7ครา

ดวงจิตแห่งความเมตตาสงสารของสักกะเทวราช
ที่มีต่อโฆษกะกุมาร
ได้แบ่งภาคออกมา
แล้วเวียนว่ายตายเกิด
จนดวงจิตดวงหนึ่งนั้นกลายมาเป็น เอ ไชยา


เพราะฉะนั้น
เมื่อ เอ ไชยา ถูกแบ่งภาคและมาจุติแล้วบนโลกใบนี้แล้ว เขาจึงมีหน้าที่ช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง




เรื่องผลประโยชน์ หรือ เรื่องขุ่นข้องหมองใจต่างๆ
ผมไม่อยากรับรู้


แต่ที่รู้ๆ เอ ไชยา ก็ตระเวนเล่นลิเก
เพื่อหาเงินมาซื้อข้าวสารเลี้ยงเด็กกำพร้าที่วัดสระแก้วอยู่หลายปี ตั้งแต่ เอ ไชยา อายุยังน้อยๆ
ครอบครัวเอ จะจนหรือรวย ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ


แต่สำคัญอยู่ที่
เค้าได้ทำความดีต่อส่วนรวม


ทุกวันนี้ หาก จังหวัดอ่างทอง มีงานกุศลประจำจังหวัด เอ ไชยา ก็จะเอาลิเก ไปเล่นให้ดูฟรี ถือว่าช่วยบ้านเกิดตัวเองตลอดมา



ไม่เอาน่า
ผู้เขียนไม่ได้มองอะไรในแง่ลบ ขนาดนั้น
เขามีส่วนดี ก็ต้องชมเขา
คนทำดี น่ะ


ส่วนการร้องเพลงให้คนอื่นฟังแล้ว
จำทำให้ตกนรก เอาตรงใหนมาพูด
การฟังเพลง เป็นสุขเวทนาชนิดหนึ่ง
ใจเราเมื่อฟังเพลง เหมือนใจเรานั้นขึ้นสวรรค์ต่างหาก



ส่วนเขาจะเป็นโพธิสัตว์หรือไม่
ต้องรอให้เขาออกมาบอกเอง
ผมว่า มันจะซีเรียสมากไปหรือเปล่า
โพธิสัตว์ส่วนใหญ่
ชาติแรกๆในการทำความดี
ก็ยังแทบไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำไปว่า
ลักษณะธรรมธาตุแห่งดวงจิตตนเองนั้นเป็นโพธิสัตว์
เขาเป็นคนดีครับ
หรืออย่างน้อย
เขาเคยทำดีครับ

ความดีตรงนี้
โดนใจสักกะเทวราช.....เขาครับ



เอ ไชยา
ถือเป็น อดีตเทวาในฝ่ายสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เทวาในสวรรค์ชั้นนี้ส่วนใหญ่เป็นบัณฑิตกันทั้งนั้น
มีส่วนร่วมในความสำเร็จแห่งศาสนาพุทธโคดม
มาในอดีตกาลก่อนด้วยซ้ำ



ผมเอง
ก็สงสารเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้ง

ผมเอาที่อยู่และเบอร์โทร ของวัดสระแก้ว ป่าโมก
ผู้มีจิตเมตตา ก็สามารถติดต่อได้ตามนั้น



ใครเห็นด้วย
ก็สาธุเอานะครับ
เอาบุญร่วมกัน
กับบรรดาเด็กกำพร้าที่วัดสระแก้วนี้
ที่พวกเขาต้องเผชิญกับกรรมวิบากในชาตินี้
ช่วยบอกต่อๆกันไปนะครับ

 

กุ้ง สุธิราช และไชยา มิตรชัย เป็นทูตพระพุทธศาสนา

นานๆครั้งจะได้เจอกันแบบ ยืนประกบกันสักที สองพระเอกลิเก แห่งยุค กุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ กับ เอ ไชยา มิตรชัย เพราะทั้งคู่ได้รับคัดเลือกจาก โครงการรวมใจศิลปินเพื่อพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เนื่องในวันวิสาขบูชา ให้เป็นทูตพระพุทธศาสนาเพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางพระพุทธศาสนาที่นับวันเด็กรุ่นใหม่จะรู้จักแต่เทศกาลฝรั่งโดยลืมนึกถึงวันสำคัญของไทย กุ้ง สุธิราช นักร้องลูกทุ่งค่ายอาร์สยามและพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยก เผยถึงความรู้สึกที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการโครงการรวมใจศิลปินเพื่อพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยให้เป็นทูตกิจกรรมพร้อมหน้าที่ว่า รู้สึกดีใจและปลื้มใจที่กรรมการคัดเลือกให้มีหน้าที่ในการช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาเชิญชวนให้คนไปทำบุญกันเยอะๆ และให้ตระหนักถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาซึ่งถือเป็นวันสำคัญของโลก ผมจะเริ่มจากชักชวนคนใกล้ๆ ตัวก่อน และชักชวนผ่านสื่อต่างๆ รวมไปถึงแฟนเพลงที่เวลาเราไปแสดงตามงานก็จะชวนคนไปทำบุญกัน จริงๆ แล้วเราทำได้ทุกโอกาส แต่วันวิสาขบูขานี้สำคัญมากเพราะเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าพระเอกลิเกหนุ่มกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าปัจจุบันวัยรุ่นบอกว่าการเข้าวัดเป็นเรื่องน่าเบื่อ ทำให้จิตใจคนตํ่า คิดแต่เรื่องไม่ดี ผมว่าวัยรุ่นก็ยังเข้าวัดกันน้อยส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ คงคิดว่ายังไม่ถึงเวลา หรือน่าเบื่อ ผมอยากให้ทุกคนได้เข้าวัดสร้างบุญให้ตัวเอง จรรโลงวัฒนธรรมด้วย ตอนนี้เทคโนโลยีเข้ามามาก บ้านเมืองเจริญ แต่ใจคนต่ำลง สังคมยิ่งโทรมถ้าเราไม่ทำจิตใจให้ดี เข้าวัดปลูกฝังความคิดดีๆ กัน ชีวิตเราผูกพันกับวัดตั้งแต่เกิดจนตายอยู่แล้ว ถ้าวัยรุ่นเข้าวัด อย่างน้อยทำให้มีสติฉุกคิด ปกติผมจะทำบุญบ่อยครับ เพราะงานลิเกก็เล่นกันในวัดอยู่แล้ว ถ้าไปถึงเร็วก็จะพาครอบครัวไปทำบุญกัน ตั้งแต่เด็กพ่อแม่ก็ปลูกฝังทำมาตลอด มีวัดวิหารทองอยู่ที่ อ.สรรคบุรี ครอบครัวผมและแฟนเพลงก็ได้ทอดกฐินสร้างสะพาน เมื่อก่อนเป็นสะพานแขวนเก่าแล้ว เวลาเดินข้ามน่าหวาดเสียว ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วรถผ่านไปมาได้ ใช้งบประมาณ 3-4 ล้านบาท และตอนนี้กำลังซ่อมแซมโบสถ์ สร้างศาลาประกอบพิธีเผาศพ ส่วนวันวิสาขบูชาปีนี้ ผมทำบุญอยู่ที่วัดหนองขุ่นหรือวัดศรีชัยวัฒนาราม อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เพราะปู่ของผม คือ ผู้ใหญ่สำรวย อุสุภะ เสียชีวิต และจะฌาปนกิจในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้เช่นกัน เราก็จะได้ไปทำบุญในวัดด้วย


ด้าน"เอ" ไชยา เป็นพระเอกลิเกหนุ่มขวัญใจแม่ยกที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนอีกคนบอกว่า เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วและปีนี้วัยรุ่นเข้าวัดกันน้อยลงจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้มากและอยากให้สื่อมวลชนช่วยกันกระตุ้น คิดว่าจะทำให้คนหันมาทำบุญมากขึ้น "ผมได้ปีนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ผมใช้วิธีไปออกสื่อ เชิญชวนกลุ่มแฟนลิเกให้ไปทำบุญกันมากๆ ปกติแฟนลิเกของเอจะมากันเป็นครอบครัว ซึ่งการทำบุญก็เหมือนกิจกรรมหนึ่งที่คนในครอบครัวทำร่วมกันได้ ผมสังเกตว่าวัยรุ่นทุกวันนี้จะรับกับสื่อได้เร็ว พอมีดารานักร้องมาเป็นตัวช่วยประชาสัมพันธ์ เด็กๆ เขาก็จะทำตามอย่าง จริงๆ แล้วสื่อมวลชนก็จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นที่ดีอันหนึ่ง ถ้าเราทำร่วมกันผมว่าน่าจะได้ผล"

 

พบคณะลิเกเด็ก “น้องมิตร มิตรชัย” ฝีมือการปลุกปั้นของลิเกชื่อดัง ไชยา มิตรชัย ที่หวังส่งเสริม และปลูกฝังสิ่งดีงาม คุณค่าทางวัฒนธรรมไทยให้แก่เด็กๆ มิให้เลือนหายไป... พบการฝึกซ้อมลิเกของเด็กๆ ในวัดในกลาง เพชรบุรี ด้วยฝีมือการสอนของพี่เอ และพี่แอน ที่ช่วยสอนน้องๆ เด็กด้อยโอกาส กว่า 100 ชีวิต ให้ได้เรียนรู้ และสืบสานวัฒนธรรมไทย และสามารถนำไปประกอบวิชาชีพในอนาคต พลาดไม่ได้กับการเปิดบ้านไชยา อ่างทอง สถานที่ฝึกสอนน้องๆ คณะลิเก เป็นครั้งแรก และ แรงบันดาลใจในการอนุรักษ์การแสดงพื้นบ้านอันเก่าแก่ของไทยให้คงอยู่สืบต่อไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน

 

อนุโมทนาสาธุบุญกับกุ้ง สุทธิราช และคุญไชยา มิตรชัยนะครับและทุกๆท่านนะครับ

 

วัดสระแก้ว

อยู่ที่ตำบลบางเสด็จ อยู่ห่างจากวัดท่าสุทธาวาส ประมาณ 200 เมตร ตามถนนเลียบคลองชลประทาน หากเดินทางมาจากอยุธยาตามเส้นทาง อยุธยา-อ่างทอง (ทางหลวงหมายเลข 309) กิโลเมตรที่ 39–40 ทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือ วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2242 เดิมชื่อวัดสระแก เป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีเด็กอยู่ในความดูแลมากจึงได้จัดตั้งคณะลิเกเด็กกำพร้าวัดสระแก้วเพื่อหารายได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กกำพร้า จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับวัดแห่งนี้ ภายในวัดสระแก้วยังมีอาคาร “สามัคคีสมาคาร” ซึ่งเป็นอาคารศูนย์โครงการทอผ้าตามพระราชประสงค์ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2524 อยู่ในความรับผิดชอบของ กองอุตสาหกรรมในครอบครัว กระทรวงอุตสาหกรรม ภายในอาคารมีสินค้าผ้าทอคุณภาพดีเช่น ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า ฯลฯ นอกจากนี้ด้านหน้าวัดยังจัดตั้ง ศูนย์วัฒนธรรมอำเภอป่าโมก ภายในมีสาธิตการทอผ้ากี่กระตุก การทำเครื่องประดับเงิน การปั้นตุ๊กตาชาววังและผลิตผลทางการเกษตรของกลุ่มแม่บ้าน เช่น กล้วยเบรคแตก เป็นการเผยแพร่งานฝีมือของชาวอำเภอป่าโมก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายและมีจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจ ทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่วัดสระแก้ว โทร. 0 3566 1169, 0 3566 1273 หรือที่โรงเรียนวัดสระแก้วโทร. 0 3566 1950-1

​

 

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ ขอบคุณที่นําความดีมาลง

อัตตะนา โจทยัตตานัง

 

" ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย
ชีวิตไม่เที่ยง
ความตายเป็นของเที่ยง
นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง "
สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้บุญและความดี ของกุ้ง สุทธิราช และไชยา มิตรชัย ที่ก่อไว้ดีแล้วนั้นคืนกลับให้ทั้งสอง เจริญด้วยธรรมและหลุดพ้นด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

การอุทิศตัวเพื่อช่วยเหลือสังคมนั้นเป็นสิ่งที่น่ายกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง

 

อนุโทนา ด้วยครับ
กับทุกท่านมีใจบุญครับ
คนรวยทั้งหลาย จงเอาเป็นเเบบอย่าง
ผมก็จะทำเท่าที่มีความสามารถครับ

 

งานหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน อ่างทอง มีประวัติของท่านเกี่ยวข้องกับไชยาเหมือนกัน มีหลวงพี่ทานนึงที่วัดไร่เล่าให้ฟังว่า ลิเกไชยางานพระราชทานเพลิงหลวงพ่อคิดตั้งแสนกว่าแนะ
ขออนุโมทนาด้วยครับเพิ่งทราบว่าหาเงินส่วนนึงไปช่วยวัดสระแก้วครับ

 

ง่ะ? เก่งจังรู้ด้วยว่าใครเป็นพระโพธิ์สัตว์

 

อ่านแล้วชื่นชมในความดีของทั้ง2คนนะครับ แต่ที่เกริ่นมาต้นๆน่ะ เรื่องเป็นพระโพธิสัตว์ จิตแบ่งภาคมาจากท้าวสักกะ ผมคนธรรมดาไม่มีญาณวิเศษอะไรอ่านแล้วดูเกินจริงไปหน่อยครับ เพ้อๆไงชอบกล