ใคร..เอ่ย..มาอินเดียบ้าง

หลวงปู่ทิม อายุ 95 นำลูกศิษย์ไหว้พระ

หลวงปู่ทิม หรือพระครูสงวรสมณกิจ วัดปะขาว จ.พระนครศรีอยุธยา แม้ท่านจะมีอายุถึง 95 ปีแล้วก็ตาม ยังศรัทธาเป็นต้นศรัทธา นำศานุศิษย์ผู้ติดตามสู่แดนพุทธองค์...ถึงการนั่งรถจากพาราณสี ถึงกุสินารา จะใช้เวลาถึงเจ็ดชั่วโมงก็ตาม..แต่หลวงปู่ก็ใจสู้ด้วยแรงศรัทธาที่มุ่งมั่นสู่แดนพุทธองค์.........โดยเฉพาะที่กุสินารา หลวงปู่ได้พักบำเพ็ญภาวนา ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รวมถึงสองคืนและนำลูกศิษย์บำเพ็ญมหาทาน ณ มกุฏพันธนเจดีย์ แจกทานแก่เด็กนักเรียนพุทธศาสนาวันอาทิย์ และนำลูกศิษย์ร่วมอฐิษฐานจิต เททราย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สร้างสถานพยาบาล ณ กุสินารา แดนปรินิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย ทุกท่านเดินทางกลับมาด้วยความสุขอิ่มบุญ อิ่มใจ...ประทับใจเป็นอันมาก จึงนำข่าวมาประกาศเพื่อลูกศิษย์ผู้เคารพและศรัทธาในท่านหลวงปู่ได้ทราบและ อนุโมทนาโดยทั่วกัน...ฯ


​

 

แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์..กับทัวร์แสวงบุญสู่พุทธภูมิ



[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]คุณสิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ นับว่าเป็นดารานักแสดงที่ถือเป็นแบบอย่างของดารานักแสดงทั้งหลาย ในการดำรงตนในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี...ผู้แสดงตนว่าเป็นที่ตั้งแห่ง ศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาและสนใจใฝ่รู้หมั่นปฏิบัติธรรมและนำผู้ที่เธอเคารพ นับถือให้ฝึกเจริญภาวนา สวดมนต์ไหว้พระยึดหลักพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง...หลายต่อหลายคนได้หักเหชีวิต จากที่ห่างวัด..ห่างธรรม..กลับมีพระธรรมเป็นที่พึ่ง เพราะการแนะนำและการปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างดาราทางธรรมของคุณแอน..สิ เรียม ตัวอย่างเช่น คุณโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ที่ได้เดินทางมาพร้อมคณะนี้ บอกว่า ชีวิตของตนเปลี่ยนจากคนละคนเพราะคุณแอนแนะนำให้ฝึกสวดมนต์และปฏิบัติธรรม เป็นกัลยาณมิตรทางธรรม เมื่อแอนได้มีโอกาสได้มาไหว้พระแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย..หลายต่อหลายครั้ง และทุกครั้งที่มา..เธอมักสัมผัสกับความปีติ เอิบอิ่มและซาบซึ้งต่อการที่ได้มาไหว้พุทธสถาน...ณแดนพุทธภูมิจึงอยากนำพา ผู้ที่เคารพนับถือ ตลอดทั้งเพื่อนๆรวมถึงท่านที่ศรัทธา..ได้มาพบและสัมผัสความสุขที่ตนเองได้ ประสบบ้าง..ซึ่งแอนถือว่า..การพาคนมาไหว้พระถึงแดนพุทธองค์ เหมือนกับการได้ทำหน้าที่พาพุทธบริษัทมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้พาคนมาขึ้นสวรรค์ จึงได้ตั้งบริษัททัวร์แสวงบุญสู่แดนพุทธภูมิขึ้น..ครั้งนี้เป็นคณะแรกของ บริษัท Indian-Thai Travels ระหว้างวันที่ ๙-๑๓ ต.ค.๒๕๕๑ ได้นำพาคณะสู่แดนพุทธภูมิรวม ๑๖ ชีวิต..กับโปรแกรม ๕ วัน ไหว้ครบสังเวชนียสถาน โดยสายการบินไทย ที่บินตรงจากกรุงเทพ ฯ คยา เส้นทางพุทธคยา-ไวศาลี-กุสินารา-ลุมพินี-พาราณสี...แม้จะเป็นโปรแกรมที่ กระชั้นชิด เพียงแค่ ๕ วัน เท่านั้น ซึ่งไม่เคยมีบริษัทไหนจัดทำโปรแกรมเช่นนี้มาก่อน แต่ก็นำมาซึ่งความปราบปลื้ม และประทับใจเกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้มาทัวร์แสวงบุญ..กับคุณแอน สิเรียมครั้งนี้..เป็นอย่างยิ่ง..เพราะทุกคนได้ไหว้พระ ปฏิบัติธรรม ณ พุทธสถานครบ ๔ ตำบล ได้ทำบุญทอดผ้าป่าถึง ๕ วัด พร้อมยังได้สวดบทพระธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร เต็ม ๆ ณ ป่าอิสิปตนมฤค ทายวัน เมืองพาราณสีฉลองวันเกิดคุณแอนเป็นกรณีพิเศษด้วยฯ




[/FONT]

 

นำ..แพทย์หญิงพรทิพย์..ถอดระหัสที่ นาลันทา สู่การแก้ปัญหาภาคใต้

​

ลุย..และมีเอกลักษณ์ที่เป็นเอกสตรีในตัว..ภาพที่โดนตา โดดเด่น..หน้าสื่อทุกแขนง..จนหลาย ๆคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องคิดว่า ทำไมไม่เป็นเราในช่วงนั้น ณที่นั่น..ก็ช่วงเหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้วนั่นเอง..แต่ในมุมศาสนาใครจะไปรู้ว่าคุณหมอมีต้นศรัทธา..ที่มั่นคงอยู่ที่แดนพุทธองค์ประเทศอินเดีย..พระผู้จุดประกายแห่งศรัทธา ก็คือ เจ้าคุณพระราชรัตนรังษี ประธานสงฆ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินีโดยการแนะนำสู่แดนพุทธองค์ โดยคุณอัมรา พวงชมพูกรรมการอุปถัมภ์วัดไทยกุสินารา ฯได้นำพาคุณหมอไปไหว้พระ ณ ประเทศอินเดีย เนปาล ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๗คุณหมอเล่าว่าเมื่อมาพบท่านเจ้าคุณ ฯ ที่อินเดียท่านได้ให้แสงสว่างแห่งปัญญา..เมื่อคราวชีวิตที่กำลังตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา..และได้มาสัมผัสแผ่นดินพระพุทธองค์โดยเฉพาะที่กุสินารา แดนเสด็จปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วยิ่งทำให้ได้สัมผัส ปีติ ความซาบซึ้ง อย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่นั้นมาเมื่อคุณหมอมีจังหวะก็จะไปกราบพระพุทธองค์ทุกปีปีนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว...แต่คราวนี้คุณหมอได้เดินทางเพิ่มจากที่เคยลุมพินีวันแดนประสูติ และกุสินาราแดนเสด็จปรินิพพานของพระพุทธองค์..คือ สารนาถสถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา,ไพศาลี,นาลันทา,ราชคฤห์ และพุทธคยาแดนตรัสรู้ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...มาคราวนี้ ผู้เขียนได้นำคุณหมอไปยังนาลันทา..เป็นกรณีพิเศษ ตามความประสงค์ของท่านเจ้าคุณนา ลันทาอดีตคือบ้านเกิดของพระสารีบุตรและมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งแรก ของพระพุทธศาสนาแต่ก็มาถูกทำลายจนสิ้น..โดยน้ำมือของมุสลิม...คุณหมอได้ถวาย ความรู้แด่พระสงฆ์ณ วัดไทยกุสินารา ฯ ว่าถึงเรื่องเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ณ วัดพรหมประสิทธ์ที่ภาคใต้เมื่อ ได้ไปถึงที่นาลันทาและได้บรรยายให้ทราบถึงเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง...ซึ่งคุณ หมอเองก็ได้อธิบายตรงกันไว้ก่อนที่จะทราบเหตุที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดณ วัดพรหมประสิทธิ์ที่ภาคใต้..ขณะที่พระสงฆ์ถูกฆ่าทำร้ายและเผาทั้งยังมีลมหายใจ..ท่านร้องขอความช่วยเหลือ..แต่ชาวบ้านชาวพุทธที่นั่นกลับเงียบเฉย ต่างคนก็ต่างหาทางหลบเพื่อเอาตัวรอด เหตุผลว่า ทำไม..กองทัพมุสลิม แค่สองร้อยนาย บุกเข้าเข่นฆ่าพระสงฆ์ พระนักศึกษา ซึ่ง มีจำนวนนับหมื่น..และชาวบ้านชาวพุทธก็มีมากมายแต่ทำไม..ไม่มีใครเลยคิดที่จะ ช่วยป้องกันพระสงฆ์..ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันอันเคารพสูงสุดของชาวพุทธ ได้เจริญพรบอกคุณหมอว่า..เรากำลังจะมาถอดระหัสลับ..ที่เกิดขึ้นในอดีตกับทิศทางการแก้ปัญหาภาคใต้ของเมืองไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนา.. หากมีทางเป็นไปได้จะได้ถอดระหัส DNA ของผู้ที่ทำลายนาลันทาในครั้งนั้น กับ DNA ของผู้ทำลายพระสงฆ์ที่ภาคใต้นั้นเป็นเผ่าพันธุ์อันเดียวกันหรือเปล่า...คง ต้องติดตามว่าคุณหมอจะได้นำเสนอมุมมอง..แนวคิดขยายผลเรื่องนี้ ในฐานะผู้ที่ลงพื้นที่และอยู่ในพื้นที่ พบเห็นปัญหาที่แท้จริง ไม่เพียงแค่รอฟังข้อมูลจากผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลงพื้นที่แต่เพียงฉาบฉวยอย่างเดียว แล้วก็ตัดสินใจสั่งการที่ผิดพลาดลงไป แล้วก่อให้เกิดความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ตามมาอย่างที่เกิดขึ้นแล้วที่ผ่านมา นั้น..ฯ

............. เป็นที่น่าอัศจรรย์ ว่า ณ แดนพุทธภูมิ ขณะที่คุณหมอ..สวดมนต์ไหว้พระ ตั้งจิตอฐิษฐาน อยู่นั่น ความมหัศจรรย์ทางจิตได้เกิดขึ้นหลายครั้ง..ยกตัวอย่าง..คุณหมอเล่าให้ฟังว่า ..ได้ตั้งจิตอฐิษฐาน ขณะจุดเทียนเวียนประทักษิณ ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์นั้น กำหนดจิตว่า หากแม้นว่า จะได้มีส่วนในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ของไทยให้สงบและถูกทางแล้ว..ขออย่าให้ เทียนที่จุดนี้จงอย่าดับ..เมื่อทักษิณาวัตรครบสามรอบ เทียนของผู้เขียน และของคุณนาง (น้องสาว) ดับหมด แต่...เทียนของคุณหมอยังไม่ดับ..กลับลุกโชติช่วง ท่ามกลางแรงลม..ซึ่งนับเป็นนิมิต ที่สุดปลื้มของคุณหมอ..ในเดินทางมาไหว้พระรับพลังพุทธบารมี..ครั้งนี้..ฯ

บางส่วนจาก http://www.oknation.net/blog/mylifeandwork/category/Pilgrimes






​